ความคิดเห็นที่ 1 ของ เบเยอร์  ก็มีครับ  สีทาพวกนี้จะเป็นสีสำเร็จ  แต่จำชื่อรุ่นไม่ได้  ลองหาโบว์ชั่วมาดูแล้วกันนะครับ  เวลาเลือกก็ดูที่เขาเขียนว่าใช้สำหรับพื้นไม้  ที่จำได้นะครับถ้าใช้กับพื้นไม้จะมีแต่เป็นสีด้านครับ   ส่วนของ TOA  ก็มีครับ  แต่ต้องดูในโบว์ชั่วเหมือนกัน  ว่ารุ่นไหนที่ใช้กับพื้นไม้โดยเฉพาะครับ  จะมีแต่สีด้านเหมือนกันกับของเบเยอร์ครับ สีย้อมพื้นพวกนี้จะเป็นสีสำเร็จ  เขาจะแบ่งออกเป็นการทาในแนวตั้ง  คือทาพวกที่ติดกับผนัง  ทาพวกที่ไม่ต้องโดนเหยียบ  โดนสิ่งของลาก  และแนวราบ  คือทาพวกพื้น  ซึ่งจะต้องทนต่อการเขียดขวน  โดนเหยียบ  โดนสิ่งของลากผ่าน แต่ถ้าจะใช้เป็นตัวยูนิเทนก็ได้นะครับ  แต่ถ้าทำเองจะยากหน่อย  แต่ถ้าจ้างช่างมาทำก็หมดปัญหา  ถ้าตัวไม้เป็นไม้มะค่า  น่าจะทำเป็นสีธรรมชาติของตัวไม้เองแล้วใช้ยูนิเทนเคลือบผมว่าสวยดีนะ  เสียดายเนื้อไม้  แต่ก็อยู่ที่ความชอบของเจ้าของนะ  แต่ส่วนตัวว่าสีของไม้มะค่าสวยอยู่แล้ว  ไม้ก็ราคาแพงอีกต่างหาก  ถ้าทำสีเป็นสีอื่นคงเสียดายแย่เลย แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 51 08:19:38 แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 51 08:18:40 จากคุณ : ch_thakron - [ 27 ธ.ค. 51 08:16:49 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สำหรับพื้น คงต้องใช้ยูริเทนครับ ไม่งั้นจะไม่ทน จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม - [ 27 ธ.ค. 51 08:50:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สำหรับพื้นไม้ภายใน ส่วนใหญ่ก็นิยมใช้พวกโพลียูรีเทนกันนะครับ คุณสมบัติหลักๆของยูรีเทนคือ ฟิล์มเคลือบที่เงา และมีความหนา ช่วยลดรอยขีดข่วน ตัว wood stain ที่คุณถามถึง คือสีย้อมไม้ ซึ่งข้อดีคือมีสีในตัว แต่ฟิล์มสีจะบาง ไม่ค่อยแนะนำให้นำมาทาพื้น มันเหมาะกับงานผนัง หรือชิ้นไม้ทั่วๆไปมากกว่า สะดวกกับการทาเอง เพราะไม่ต้องผสมอะไรให้ยุ่งยาก ย้อนไปที่ยูรีเทน ถ้าเป็นของ TOA ก็มีหลายตัว หลายระดับเกรด ที่ช่างใช้กันบ่อยๆ คือ TOA T-3000 สำหรับงานพื้นภายใน TOA T-4000 สำหรับงานพื้นภายในที่โดนแดดส่องถึงประจำ เกรดรองจากตัวนี้คือ 4 seasons เห็นช่างที่รับงานราคาถูกหน่อยเอามาใช้เหมือนกัน ส่วนยูรีเทนเกรดสูงของ TOA คือ SuperShield ครับ สำหรับเบเยอร์ ตัวที่นิยมใช้กันคือ บี52 U-202 สำหรับงานพื้นภายใน และ บี52 U-404 สำหรับงานพื้นภายในที่โดนแดดส่องถึงประจำ เกรดรองจากตัวนี้ ก็เช่น เบเยอร์ดีไลท์, นีโอเทน ส่วนเกรดสูงของเบเยอร์ คือ Diamond extra polyurethane นะครับ หาซื้อยากหน่อย ยูรีเทน ปกติจะเป็นแบบเงานะครับ ถ้าต้องการด้าน ก็เติมหัวเชื้อด้านลงไป เช่นของเบเยอร์จะเป็น U-505 ทั้งตัว บี52 U-404 และ toa T-4000 สองตัวนี้ ในโบรชัวร์หรือตามร้าน อาจระบุว่าเป็นสำหรับใช้ภายนอกนะครับ ซึ่งในการใช้งานจริง ควรเป็นภายนอกที่โดนแสงรำไรเท่านั้น ไม้ส่วนนั้นไม่ควรโดนน้ำฝนหรือแดดจัดๆ อันนี้มีเหตุผลนะครับ ด้วยความที่ไม้มีการหดขยายตัวสูงในระดับหนึ่ง แต่ฟิล์มของยูรีเทนจะขยายหรือหดตัวไม่ได้ขนาดนั้น หากนำไปใช้กับพื้นไม้ที่โดนแดดจัดๆ โดนน้ำฝน จะเห็นการแตกลอกของเนื้อฟิล์มได้ ต้องระวัง ที่พูดถึงข้างบนนี้คือยูรีเทนระบบ 1 ส่วน ใช้ผสมกับทินเนอร์เบอร์เฉพาะของเขา หากต้องการให้แข็งกว่านี้จะมียูรีเทนที่เรียกว่า 2K หรือยูรีเทนระบบ 2 ส่วน จะใช้ part A+part B+ทินเนอร์เฉพาะ จะได้ฟิล์มที่แข็งมากขึ้น ทนทานมากขึ้น แห้งเร็วกว่า และแพงกว่า :) กรณีพื้นไม้อยู่ภายนอก เช่นระเบียง มีสีย้อมไม้พื้นอีกตัวที่น่าใช้คือ deckingstain หรือ deck stain ก็มีขายหลายยี่ห้อเลย ฟิล์มที่ได้จะไม่หนา มีทั้งเงาและด้าน ยาวสักหน่อย แต่ลองอ่านดูน่าจะพอให้ความเข้าใจในการเลือกซื้อเบื้องต้นได้นะครับ อ้อ ขออภัยสำหรับยี่ห้ออื่นๆด้วยที่ไม่ได้กล่าวถึง เพราะไม่มีข้อมูลครับ รอท่านอื่นมาเพิ่มเติม จากคุณ : kmin - [ 27 ธ.ค. 51 09:18:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 น้ำมันเคลือบแข็งพื้นไม้โพลียูรีเทน เป็นน้ำมันใช้เคลือบพื้นผิวไม้ (ใช้ได้ทั้งงานพื้นและเฟอร์) มีลักษระเป็นฟิล์มสีเงามัน เคลือบลอยอยู่บนผิวไม้ ให้ความแกร่งของฟิล์มสีดี มีให้เลือกใช้ตาม คคห.ที่3 ที่ค่อนข้างละเอียดดีครับ ส่วนใหญ่จะมีขายเป็น ชนิดเงามัน/ใส มีบางยี่ห้อที่ทำ ชนิด เงา/กึ่งเงา/ด้าน (Beger B-5000/2K, TOA Urethane 2K) บางยี่ห้อทำชนิดสี/ใส (Beger Unithane Colour), บางยี่ห้อทำชนิดสูตรน้ำ (Beger AquaPU, Rothenburg) อยากแนะนำ ชนิดสูตรน้ำ (โดยเฉพาะบ้านเก่า หรือไม้ใหม่ที่ต้องการไร้กลิ่น/ทาง่าย/แห้งเร็วทำงานเสร็จเร็ว) เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ รักษาสภาพแวดล้อม ทำงานง่าย,งานเสร็จเร็ว ไม่มีกลิ่นตกค้าง จากคุณ : siriwatch@beger.co.th - [ 27 ธ.ค. 51 10:34:15 A:125.24.142.20 X: TicketID:153350 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณทุกคห. กระจ่างแล้ว ขอเก็บกระทู้เข้าคลังครับ จากคุณ : neodream - [ 27 ธ.ค. 51 10:35:15 ]

ความคิดเห็นที่ 6 งาน Polyurethane แนะนำให้ใช้ภายในเป็นหลัก หากเป็นพื้นไม้ภายนอก ซึ่งไม้จะถูกแดดฝน/ความชื้นสูง ไม้จะมีการยืดหดตัว หากใช้ Polyurethane มีโอกาสที่ฟิล์มสีจะแตกร้าวได้ (เพราะฟิล์มสีแข็ง ไม่ยืดหดตัวตามไม้) กรณีอยู่ภายนอก พื้นไม้ควรทาด้วย สีย้อมไม้ประเภท WoodStain ซึ่งหากเป็นไม้แนวตั้ง ก็เรียก WoodStain หากเป็นพื้นก็อีกตัวเรียก DeckStain สีย้อมไม้ประเภทนี้ เนื้อสี/น้ำสี ส่วนใหญ่จะซึมซับเข้าไปในเนื้อไม้ลึก เป็นหนึ่งเดียวกับเนื้อไม้ (ต่างกับ Polyurethane ที่เนื้อสี/น้ำสี จะเคลือบลอยอยู่บนผิวไม้) WoodStain มีให้เลือกทั้งชนิด ใส/สี(ใส) และแบบ เงา/กึ่งเงาให้เลือกใช้ (DeckStain มีเฉพาะด้าน) ควรทาทุกด้านของชิ้นงานไม้, ด้วยเป็นสี(ใส) สีที่ได้ขึ้นอยู่กับสีของเนื้อไม้ และจำนวนเที่ยวที่ทาด้วย, ภายนอกแนะนำทา 3 เที่ยว แนะนำดู http://beger.co.th/detail.php?id=60&type=Wood%20Coating ปัจจุบันมีบางยีห้อ ออกเป็นสูตรน้ำ (Water Base) ทำให้ใช้งานง่าย/รักษาสภาพแวดล้อมและสุขภาพ,ไม่มีกลิ่น (Beger/Rothenburg) เป็นเทคโนโลยีใหม่ แนะนำดู http://beger.co.th/detail.php?id=88&type=Wood%20Coating จากคุณ : siriwatch@beger.co.th - [ 27 ธ.ค. 51 10:46:15 A:125.24.142.20 X: TicketID:153350 ]