ความคิดเห็นที่ 7
ไม่เห็นด้วยกับ การจะเปลี่ยนสีเฉพาะวงกบ เป็นสีขาว เพราะตัวบานประตูเดิมก็เป็น Shade สีขาว(เห็นไม่ชัด) หากจะเปลี่ยนสี ควรทาทั้งวงกบและตัวบานประตูด้วย (เพราะจะดูแย้งกัน คือคนละขาว ซึ่งผมว่ายิ่งไม่น่าดู)
ไม่ทราบว่าเข้าอยู่อาศัยหรือยัง? เพราะหากทาสีวงกบใหม่ด้วยสีน้ำมัน(ตาม คคห.ที่ 2 และ 5) คงต้องทาอย่างน้อย 2-3 ครั้ง ซึ่งแต่ละเที่ยวต้องทิ้งไว้อย่างน้อย 6-8 ชม. ซึ่งหมายควมว่าต้องทำงานสีอย่างน้อย 2-3 วัน อีกทั้งระหว่างทาและเมื่อแห้งแล้วก็ตาม จะมีกลิ่นฉุนค้างอยู่หลายๆๆๆวัน หากเป็นห้องนอน/ห้องอยู่อาศัย อาจจะอยู่พัก/อาศัยไม่สดวก(เมา/มึนกับกลิ่นสีและทินเนอร์)
แนะนำว่าเลือกใช้สีประเภทน้ำแทน โดย Apply สีน้ำอะครีลิกคุรภาพสูง ที่มีฟิล์มสีแข็งแร็งกว่าสีน้ำธรรมดา เช้ดล้างได้ง่าย เช่น ICI/Dulux Easy Care,BEGER/Ceramic Clean,TOA/DuraClean แทนเพราะ : - แห้งเร็ว เพียง 2-3 ชม.ต่อเที่ยว หมายถึงวันเดียวเสร็จ - ทาง่าย เพราะเป็นสีน้ำ หากมีทักาะทางช่างบ้าง ทำเอง/ทาเองได้ (DIY) - ไม่มีกลิ่น ทั้งระหว่างทา และกลิ่นตกค้าง - ทนทานดีกว่าสีน้ำมันเสียอีก ฟิล์มสีแข็งแกร่งกว่า มีคุณสมบัติกำจัด/ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา - ราคาใกล้เคียงกับสีน้ำมัน และไม่เหลืองตัว ตามที่ คคหที่ 3 แจ้งไว้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ควรทำตามข้อแนะนำการเตรียมพื้นผิวตามที่ คคห.ที่ 3 และ 5 แนะนำไว้ คือขัด(ลูบ)ด้วยกระดาษทรายละเอียด เพื่อให้ฟิล์มสีเดิมมีความหยาบ แล้วทารองพื้นด้วย "สีรองพื้นไม้กันเชื้อรา" ซึ่งเป็นสีน้ำมันประเภทหนึ่ง(สีขาวด้าน) ทิ้งให้แห้ง 4-6 ชม.(มีกลิ่นเช่นเดียวกับสีน้ำมัน) สีรองพื้นนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพราะจะทำให้สมารถ Apply ใช้สีน้ำอะครีลิกที่แนะนำข้างต้นทาบนบานประตูและวงกบไม้ได้ครับ
อ้อ สีทับหน้า หากทาพอเป็น 2 เที่ยวก็งามแล้วครับ
จากคุณ :
siriwatch@beger.co.th
- [
2 ม.ค. 52 14:10:32
A:124.120.89.46 X: TicketID:153350
]
|
|
|