ความคิดเห็นที่ 3
มีวิธีแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุหลายวิธีอยู่ (ใน Web ของบริษัทสีก็มักมีข้อแนะนำอยู่) แต่มักจะยุ่งยาก ใช้เงินเยอะ แต่ก็สวยงาม/ถาวร, คิดว่าวิธีเหล่านั้นน่าจะเลือกใช้ตอนก่อสร้างบ้าน (ซึ่งสังเกตุปัญหาดังกล่าวได้จากบ้านข้างเคียง เพราะหากบริเวณนั้นๆมีปัญหาความชื้นใต้ดินมาก ก็จะเป็นกันหลายๆบ้าน) แต่หากแก้ปัญหาจากปลายเหตุ ก็จะง่ายและประหยัด โดยใช้หลักให้ความชื้นที่เป็นปัญหาอยู่นั้นสามารถคายออกมาได้ดดยไม่ทำความเสียหายของสีทาบ้าน(โดยรวม) อยากจะแนะนำซัก 2-3 วิธี
วิธีแรก : ทำแนว/ตีแนว ขนานไปกับพื้นดินตามแนวนอน (ภาษาช่างเรียกตีเต๊า) สูงจากระดับดินมาประมาณ 10 ซม. (รอบบ้าน/บริเวณที่มีปัญหา), แล้วขูด/ขัดสีเดิมออก(ให้หมด) วิธีนี้ก็สามารถให้ความชื้นคายออกมาได้ ดดยไม่ทำความเสียหายของสีช่วงบนครับ หากต้องการปกปิด/พราง ก็ปลูกหญ้า/ไม้พุ่มเตี้ย วิธีนี้ประหยัดสุด แต่อาจจะไม่เหทาะกับบางบริเวณ เช่นหน้าบ้าน หรือเฉลียงที่ต้องการความสวยงาม ก็ใช้วิธีที่ 2 เสริมช่วย
วิธีที่ 2 : ทำแนว/ตีแนวหมือนวิธีแรก และสกัดปูน(เตาะปูน) ให้ผิวหยาบ แล้ว แล้วเลือกบุ/ปูกระเบื้องเซรามิก แนะนำเป็น โมเสกเซรามิก (Mosaic Ceramic) เป็นกระเบื้องชิ้นเล็กๆ ขนาดประมาณ 2-3 ซม. ยาวแนวขนานไปกับพื้น เสมือนเป็นบัวผนังบ้านไปเลย วิธีนี้ ความชื้นที่มีในผนัง สามารถคายออกมาได้ตามแนวรอยต่อระหว่างชิ้นโทเสก (ที่เรายาแนวไว้), ที่สำคัญเลือกสีโมเสกให้เข้ากับตัวบ้านด้วยนะครับ
วิธีที่ 3 : ทำแนว/ตีแนวเหมือนวิธีแรก และขูดขัดสีเดิมออกให้หมดเช่นกัน แล้วเลือกใช้สีชนิดพิเศษ ที่มีคุณสมบัตพิเศษ ที่ความชื้นสามารถซึม/คายออกมาได้ มีขายอยู่ 2-3 ยี่ห้อ เช่น TOA / Duracote Wet, BEGER / Beger Lite 365 สีชนิดนี้หาซื้อยากหน่อย เพราะร้านค้าไม่ค่อยสต๊อกไว้ ต้องไปสั่งซื้อแล้วรอรับภายหลัง (1-3วัน), เป็นสีประเภทน้ำมันชนิดหนึ่ง (Acrylic Solvent Base) ออกมาใช้ทากะบะต้นไม้(ปูน), ผนังชั้นใต้ดิน เป็นต้น
จากคุณ :
siriwatch@beger.co.th
- [
วันสิ้นปี 09:51:24
A:124.120.78.195 X: TicketID:153350
]
|
|
|