ความคิดเห็นที่ 1 ไม่น่าพอ คุณต้องดูว่า ระบบที่คุณจะทำ ต้องการสปริงเกอร์แบบไหน กี่ตัว ต้องการระบบน้ำหยดกี่ตัว สปริงเกอร์และหัวน้ำหยดแต่ละตัว ต้องการน้ำกี่ลิตรต่อนาที รวมแล้วกี่ลิตรต่อนาที บวกเผื่อไปสัก ๑๐% แล้วนำตัวเลขนี้ ไปเทียบกับอัตราไหลของปั๊มน้ำ และระบบต้องมี ตัวตั้งเวลา และวาวล์ไฟฟ้าด้วย ดูที่นี่เป็นตัวอย่างครับ http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2008/10/R7097720/R7097720.html http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2008/10/R7101882/R7101882.html จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 11 ม.ค. 52 21:21:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ง่ายที่สุดไม่ต้องไปคิดอะไรมาก ก็วางท่อและหัวไปตามคู่มือ ซึ่งก็จะบอกว่าแต่ละหัวต้องการน้ำเท่าไหร่ แรงดันแค่ไหน ก็เอาปริมาณแต่ละหัวมารวมกัน ส่วนแรงดันก็เผื่อการสูญเสียในท่อไปประมาณ 5 ม. จากนั้นก็ไปที่ร้านถามหาปั๊มหอยโข่งที่ให้อัตราสูบที่รวมไว้กับแรงดันที่คิดได้ ซึ่งเจ้าสองค่านี้มันก็จะต้องการมอเตอร์ค่านึง ระวังไว้อย่างว่าอย่าเลือกวัตต์ก่อน จากนั้นก็เอา Timer คุมที่ปั๊มเลย ง่ายและปลอดภัยกว่าส่งไฟ 220 V. ไปคุมที่วาล์วไฟฟ้า ครับ และถ้าหัว Sprinkler สูงกว่าถังน้ำก็ใช้ได้เลย แต่ถ้าระดับน้ำในถังสูงกว่าหัว ก็ต้องตั้งปั๊มให้สูงกว่าระดับน้ำ และทำท่อจ่ายให้โค้งขึ้นและติดวาล์วระบายอากาศเพื่อกันการเกิดกาลักน้ำครับ จากคุณ : Waterman (LN106) - [ 11 ม.ค. 52 22:41:44 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โอ่ววว  ยาวเ ป็นซีรี่เ กาหลี่ เลย อ่านจบ ตื่นเต้น+สนุก+ได้ความรู้ มากๆ ฮะ ขอบคุณที่ตั้งใจถ่ายรูป+คำอธิบายมาแบ่งปันกัน จากคุณ : smile_mod (PRAYAYOM) - [ 11 ม.ค. 52 23:17:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คําเเนะนํา 1. ซื้อตู้ควบคุมระบบรดน้ำอัตโนมัติ ติดตั้งง่ายและสะดวกมากๆ มีข้อดีตรงเราสามารถเซ็ทโปรเเกรมได้หลากหลายตามการใช้งานจริง เเละมีลูกเล่นเยอะเช่น วันนี้ฝนตกหนัก ตู้ควบคุมระบบรดน้ำจะไม่สั่งทําการรดน้ำเพราะ ตัวเซ็นเซอร์ที่เราฝังไว้ในดินจะตรวจจับความชื้นในดิน( อุปกรณ์นี้เป็นออฟชั่นเพิ่มเติม ) ทําให้คุรไม่ต้องมาวุ่นวายปิดเครื่องชั่วคราวเวลาฝนตกหนักติดต่อหลายวัน    ตู้ควบคุมสามารถเเบ่งซอยย่อยการจ่ายน้ำเป็น6-9 สถานี( คอลโทรลผ่านไปยังวาล์วไฟฟ้า 24VDC )วันหนึ่งเซ็ทได้ 4 ครั้งๆละ0-99 นาที/สถานี ทําให้คุณไม่จําเป็นต้องใช้ปั้มน้ำขนาดที่ใหญ่มากมาย( เเต่ก็มีข้อเสียตรงค่าไฟฟ้าที่เปิดปั้มน้ำขนาดเล็กลงนานขึ้น ต้องคํานวณค่าใช้จ่ายอย่างละเอียดอีกที ) ยี่ห้อที่เเนะนําคือ HUNTER เซ็ทง่ายที่สุดครับ ทั้งยี่ห้อ RACO, NELSONZ ( ยี่ห้อนี้กลัวฟ้าผ่ามากๆ ),Weathermatic ยี่ห้อนี้ดีตรงสามารถซื้อโมดูลมาขยายโซนเพิ่มได้เช่นจาก 4 โซนเป็น 8 โซฯได้เเต่เซ็ทยาก พวกเครื่องเหล่านี้เล่นมานานกว่า 10 ปีเเล้ว 2. วาลว์ไฟฟ้า/โซลินอล์ย ขนาดต่ำสุดที่ใช้คือขนาด 1 นิ้วต่ำกว่านี้ไม่เเนะนําครับ ควรซื้อรุ่นที่สามารถปรับลด-เพิ่มน้ำที่วาล์วได้ด้วยครับ 3. หัวสปริงเกอร์ ถ้าเน้นความสวบงามก็ต้องเป็นเเบบ ป๊อปอัพ รองลงมาก็เป็นเเบบหัวมินิสปริงเกลอร์ 4. ปั้มน้ำเเนะนําเป็น ปั้มน้ำขนาด 0.8-1 เเรงม้า( 0.8-1HP ) การควบคุมผ่านตู้ควบคุมอีกที โดยจะมีชุดเเมกเนติกคอยควบคุมปิดเปิดจากตู้ควบคุมระบบรดน้ำอัตโนมัติครับ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 03:38:47 แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 03:36:03 จากคุณ : pinhead2000 - [ 12 ม.ค. 52 03:34:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 รูปแบบ ปั้มน้ำที่ใช้เป็นเเบบในรูปครับ ( เเบบ ใบพัดชั้นเดียว) ควรเน้นตัวปั๊มและฝาชนติดมอเตอร์ทำด้วยเหล็กหล่อ เพลาทำด้วยเหล็กเกรดไร้สนิม (STAINLESS STEEL) รวมทั้งตัวลิ่มล๊อคด้วย ใบพัดมีให้เลือกทั้งแบบทองเหลืองและวัสดุสังเคราะห์ (NORYL) ตัวมอเตอร์เป็นเเบบกระรอกหุ้มมิด จากคุณ : pinhead2000 - [ 12 ม.ค. 52 03:43:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ลองดูในคลังกระทู้เก่าครับ http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2007/09/R5859114/R5859114.html http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2006/07/R4552335/R4552335.html จากคุณ : Eddy_DT_545 - [ 12 ม.ค. 52 08:41:43 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ข้อมูลล้นหลาม จากคุณ : Jantarang - [ 12 ม.ค. 52 09:22:54 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตามมาดูครับ เริ่มขี้เกียจรดน้ำเองละ จากคุณ : bundity - [ 12 ม.ค. 52 10:30:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อืม... สงสัยจะงานช้างสำหรับเราแล้วล่ะ เพราะเราไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับที่เพื่อน ๆ  แนะนำเลย ถ้าอย่างนั้นเราจะเริ่มจะวางท่อและหัวสปริงเกอร์ที่คิดว่าจะใช้รอบบ้านให้ครบก่อน  แล้วลองเปิดรดน้ำแบบ manual ก่อน ถ้าน้ำไม่แรงพอ ก็ไปซื้อปั๊มน้ำมาเพิ่มได้ไหมคะ และตามที่คุณ pinhead2000 แนะนำเครื่องควบคุมอัตโนมัตินี้มันใช่เครื่องตั้งเวลาไหมคะ แล้วถ้าต้องซื้อของทั้งหมดนี่ เพื่อน ๆว่างบประมาณควรเป็นเท่าไหร่คะ จากคุณ : แม่น้องแมม - [ 12 ม.ค. 52 11:15:39 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มีอีกวิธีครับ ถ้าสายยาวทั้งหมด 55 เมตร เปิดรดน้ำต้นไม้พร้อมกันอาจจะไม่แรงพอ ก็แยกออกเป็นโซนครับ ผมซื้อเครื่องตั้งเวลาแบบ 2 โซน 2200 ซื้อที่สนามหลวง 2 นะ น้ำจะแรงพอ แต่ที่บ้านใช้ปั้ม 250w ครับ โซนของผมก็แยกง่ายๆ ด้านซ้ายโซนนึง ด้านขวาโซนนึง จะให้ดีคำนวณจุดที่จะติดให้ดีครับ โซนนึงประมาณ 10 ตัวไม่เกิน 20 ตัวพอไหว ของที่บ้านรวมแล้วประมาณ 35 จุดจ้า ติดตั้งประมาณ 2 อาทิตย์ กว่าจะลองโน่นลองนี่จนลงตัว เพิ่งจะเสร็จเมื่อวานเนี้ย จากคุณ : ซาตาน - [ 12 ม.ค. 52 11:58:23 ]

ความคิดเห็นที่ 11 Controller ตัวนึงไม่น่าต่ำกว่าห้พัน ของผมเคยซื้อเมื่อสิบกว่าปีก่อนของ TORO ยังหกพันกว่า Solinoid Valve ขนาด 1" ก็พันกว่าบาทเหมือนกัน แต่ว่า Controller คุมอย่างน้อย 6 Station และใช้ Solinoid Valve ตั้ง 1" ในขณะที่หัว Pop Up ต้องการแรงดันอย่างน้อย 20 ม. ซึ่งวาล์วขนาด 1" อัตราการไหล 1 ม./วินาที HeadLoss มีค่าน้อยมากๆ ยังให้อัตราการไหลที่ 5 ลิตร/วินาที เมื่อปั๊มต้องยกนำไม่น้อยกว่า 20 ม. ประสิทธิภาพ 80% มอเตอร์ต้นกำลังยังต้องไม่น้อยกว่า 1.25 Kw. หรือเกือบๆ 2 HP. อันนี้แค่คิดในใจคร่าวๆ นะครับ แต่ผมว่า พื้นที่ที่ต้องให้น้ำของ จขกท. คงซักร้อยสองร้อยตารางเมตร คงไม่อยากลงเงินเป็นหมื่นหรอกนะครับ ป.ล. ดูปั๊มให้ดูที่ Discharge (Q) กับ Head (H) ครับ อย่าดูที่ Watt หรือแรงม้า จากคุณ : Waterman (LN106) - [ 12 ม.ค. 52 19:57:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 พี่ waterman ครับ solenoid 1 นิ้ว flow ที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 4-6 ลบ.ม./ชม.ครับ loss ที่วาล์วจะไม่มาก ถ้าใช้แบบ pop-up รัศมี 5 ม.เปิดเต็มวงได้ 5-6 หัวอย่างมากครับ ถ้ามากกว่านี้น้ำจะเบาอย่างเห็นได้ชัด 6 คิว head 30 เมตร ปั๊มอย่างต่ำก็ 2 แรงม้าเหมือนที่พี่ว่านั่นแหละครับ ขออีกนิด ถ้าบ้านขนาดเล็กไม่ถึง 1 ไร่ การลงทุนต่อขนาดของพื้นที่จะสูงเพราะต้องมี ปั๊ม controller ตู้ switchboard soleniod  เหมือนกันกับบ้านใหญ่ ส่วนบ้านใหญ่จำนวนโซนมากขึ้นหน่อยแต่ราคาต่อพื้นที่จะถูกลงเยอะครับ จากคุณ : Eddy_DT_545 - [ 12 ม.ค. 52 22:34:49 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พื้นที่ไร่นึง ลงทุนติด Controller กับ Solinoid Valve เป็นหมื่น ผมไม่แนะนำให้ใครหรอกครับ พื้นที่ขนาดนี้เดินท่อสองสามสาย กับปั๊มเล็กๆ ตัวละสาย แล้วใช้ Timer ถูกกว่าเยอะครับ ดูแลก็ง่ายไม่ยุ่งยาก Controller เหมาะกับคนที่มีความรู้ด้านช่างพอควร เหมาะกับพวกบริษัทที่รับวางระบบเอาไว้หลอกลูกค้า เพราะมันแพงดี (ค่าส่วนต่างก็พอๆ กับพวกแอมเวรละครับ) ซึ่งหากอยากใช้จริงๆ เอา Timer มาดัดแปลงโดยให้มันจ่ายไฟเข้าหม้อแปลง 24 V. แล้วค่อยส่งไปที่ Solinoid Valve ราคา Station นึงไม่ถึง 500 (Timer แบบ Digital ผมซื้อที่ห้างอมร ของจีนเอามาปิดเปิดไฟบ้านตัวละสองร้อยกว่าๆ ใช้มันทุกวันสามเดือนกว่าแล้วครับ Burn In มันอยู่ 2 ตัว นอกบ้านกับในบ้าน ครับ) ระบบรดน้ำพวกนี้ ก็เหมือน Option คือ ไม่ค่อยจำเป็น ติดเพื่อความโก้เก๋ นานๆ บริษัทจะหาเหยื่อได้ซักรายนึง ผมเพิ่งวางระบบ Sprinkler ให้กับสนามไดร์ว ที่น้องดูแลอยู่ เป็นแบบ Manual เปิดปิดวาล์วเป็นโซนๆ ไป ค่าหัว Sprinkler ค่าท่อ กับปั๊มเก่าขนาด 7.5 Kw ก็ราวๆ หกหมื่นกว่าๆ ค่าแรงอีกสี่หมื่น (มั๊ง เพราะผมไม่ได้ยุ่งออกแบบให้อย่างเดียว ) งานขนาดนี้คนงาน 10 คนขุดถมห้าหกวันก็เสร็จ แต่มันมีเวลาทำหลังสี่ทุ่มถึงหกโมงเช้า ก็เลยยุ่งหน่อย เชื่อหรือไม่ครับว่า มีบริษัทมาเสนอราคาทำระบบอัตโนมัติ เฉพาะค่าแรงอย่างเดียว ไม่รวมค่าของ สองแสน ครับ จากคุณ : Waterman (LN106) - [ 13 ม.ค. 52 00:49:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14 บางครั้งการที่มีคนเสนอความคิดเห็นชองบางคนก็ควรที่จะไตร่ตรองว่า  เค้ามั่ว มั้ย??? คนพวกนี้ไม่เคยจับ ตู้ควบคุมระบบรดน้ำอัตโนมัติ เลยมั่วนั่งเทียนว่ามันมีเอาไว้หลอกลวงลูกค้า??? ผมก็เพิ่งรู้ว่าบริษัทยักษ์ใหญ่จากอเมริกา,อังกฤษ ผลิตสินค้าพวกนี้กว่า 30-50 ปี คนพวกนี้ทํามาขายมันหลอกคนทั่วโลกกันทุกประเทศเลยครับ เเถมหลอกได้เป็นสิบๆปี???? ก็เชิญ......มั่วมันไปเข้าไป จริงๆสิ่งที่คุณจะได้จากตู้ควบคุมระบบรดน้ำอัตโนมัติ คือความง่ายในการตั้ง-ปรับ(มันง่ายกว่าการใช้มือถือพวกระบบ ซิมเบี้ยน ภาษาไทยเสียอีกครับ) อย่าเอาพวกของ DIY ที่ทํามาใช้เองง่ายๆมาอ้างอิง ตู้ควบคุมระบบรดน้ำอัตโนมัติมีลูกเล่นที่ผมชอบเช่น คุณสามารถสั่งเป็นโปรเเกรมไว้เลยว่าหยุดทํางานไม่จ่ายน้ำทุกวันอาทิตย์( ผมต้องการให้ลูกสาวนั่งเล่นกับเพื่อนๆโดยสนามหญ้าที่ไม่เปียกชื้น ) วันนี้ฝนตกหนักเครื่องก็ไม่ต้องจ่ายรดน้ำให้มันเปลืองไฟเปลืองน้ำ ผมไม่มีเวลามาถอด-หยุดตัว Timerแบบ Digital จีน  วันหนึ่งคุณเซ็ทตั้งรดน้ำเเต่ละโซนได้ 4 ครั้งในเเต่ละครั้งจะเซ็ทกี่นาทีก็ได้ พวกDIY เซ็ทได้มั้ย? สมมุติ 4-6 โซน คุณเจอTimer แบบ Digital มาดัดแปลง 4-6 ตัว,หม้อเเปลงอีก 4 -6ตัว,ตู้พสากติกกันน้ำอีก .........ผมว่าใครความคิดใครหลอกใครกันเเน่???? ราคาตู้ควบคุมระบบรดน้ำอัตโนมัติถามว่า เเพงมั้ย มันไม่เเพงหรอกครับ เมื่อเทียบกับคุณต้องจ้างคนงานมาทํางานสวน,งานบ้านอีก 1 คน จะซื้อเเนะนํางานบ้านซื้อยี่ห้อ HUNTER  ผมว่ามันใช้งานง่ายกว่ามือถือ Nokia N73 เสียอีกครับ จากคุณ : pinhead2000 - [ 14 ม.ค. 52 02:16:58 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ว่างๆก็หาความรู้ในเรื่องเหล่านี้ เทคโนโลยี่พวกนี้พัฒนาไปถึงไหน ไม่ใช่อะไรๆก็ เเมนนวลลูกเดียว ว่างๆจะไปถ่ายรูปสวนมังคุด เเละ สวนองุ่นไวน์ http://nanotech.sc.mahidol.ac.th/i-sense/precision_farming.html จากคุณ : pinhead2000 - [ 14 ม.ค. 52 02:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 16 พี่ waterman ครับ จริงๆ อุปกรณ์ระบบน้ำมันก็มีหลากหลายเหมือนที่ว่านั่นแหละครับ บางทีความต้องการของลูกค้าก็มีส่วน เพราะลูกค้าบางคนต้องการไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะเอาแค่พอใช้ได้ รดน้ำแค่พอเปียก บางคนจะเอาแบบหรูสุด แยกโซนสนามหญ้า โซนไม้พุ่ม โซนโคนต้นไม้ โซนกล้วยไม้ จนคนออกแบบยังงง ทำให้พื้นที่เล็กนิดเดียว(จริงๆ)ใช้วาล์วถึง 4 ตัวก็มี บางคนก็ ไฮเทคโพดๆ  ถึงขนาดจะทำบ้านอัจฉริยะเปิดปิดสปริงเกอร์ด้วย software รวมของบ้านอัจฉริยะเลย ส่วนเรื่องใครหลอกใครอยู่ที่ว่าจะชี้แจงความจำเป็น ความคุ้มค่าในการใช้อุปกรณ์แต่ละอย่างได้ยังงัย ใช้อุปกรณ์ดีหน่อย ติดตั้งดีๆระยะยาวก็คุ้มครับ ไม่อย่างนั้นตอนซ่อมช่างก็ร้องโอ๊กเหมือนกันครับ (โดยเฉพาะงานที่คนอื่นทำไว้แล้วไม่มีแบบ as built เลย) แต่บางที่ก็สักแต่จะขายของอย่างเดียวก็มีเหมือนกันครับ จากคุณ : Eddy_DT_545 - [ 14 ม.ค. 52 07:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 17 พอดีผมเรียนมาทางด้านนี้ แม้จะจบแบบคาบเส้นก็ตามก็เลยต้องศึกษามามากหน่อย เพราะพ่อแม่ผมไม่ได้มีบริษัทที่เปิดเอาไว้ฟันกำไรชาวบ้าน(เยอะๆ) น่ะครับ การที่เรียนรู้มามันก็เลยทำให้มีข้อคิดว่า การลอกเอาเทคโนโลยีเขามาทั้งดุ้นโดยที่ตัวเองก็ไม่ได้รู้อะไรมาก ฟังเขาพูดแล้วก็เอามาถ่ายทอด (อย่างงูๆ ปลาๆ) ต่อน่ะ มันอาจดูดี น่าเชื่อถือ แต่ถึงเวลาลงมือ แล้วมีปัญหา ก็หมดปัญญาต้องเรียกหาคนช่วย บางท่านอาจสเปคยังไม่เป็น ก็ออกมาอวดภูมิว่ามันเชื่อถือไม่ได้ก็มี สำหรับตัวผมเองนั้น ผมชอบที่จะทำอะไรแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน คนอื่นสามารถเรียนรู้ต่อได้ เพราะผมชอบที่จะทำเสร็จแล้วทิ้งให้คนอื่นดูแล โดยที่คนดูแลไม่ต้องมาก่นบรรพบุรุษผมให้นอนสดุ้ง หรืออีกนัยหนึ่งคือผมไม่ชอบสร้างอนุสาวรีย์ น่ะครับ ไอ้ประเภทที่ไปรับเหมาทำให้เขาพอหมดประกันปีนึงก้เปิดหนีหมดแล้ว ผมต้องตามไปแกะก็ปวดหัวพอแล้ว ผมก็แปลกใจ ว่าของพื้นฐานทำง่ายๆ ถูกๆ แล้วค่อยต่อยอดความรู้หลังจากที่พอมีบ้างนี่มันไม่ดีตรงไหน Sprinkler ที่เรานำเข้ามาใช้จากอิสราเอล แรกๆ เขาก็ทำใช้ในชุมชนเขาต่อยอดความรู้จนมีชื่อเสียงเช่น ของ NAAN ซึ่งในเมืองไทยก็เริ่มพัฒนาจากการคลานเป็นการเดินได้บ้างแล้ว เช่นของ SuperProduct ซึ่งหากเราไม่พัฒนาเอง เกษตรกรเราก็คงต้องขุดเหมืองเอาน้ำเข้าแปลงอยู่ เพราะไม่มีเงินทุนทำ พอดีผมไม่ค่อยชอบทำรายงาน โดยเฉพาะรายงานที่มีรูปสวยๆ โดยการไป Search หามาตัดแปะ ให้ดูน่าเชื่อถือน่ะครับ ผมชอบแบบลูกทุ่งมากกว่า ก็เลยมีแค่รูปใน Catalog ล่าสุดมาให้ดูเล่น อยากได้ก็บอกนะครับ แต่ขนาดมัน หมื่นกว่า KB หน่อยๆ จากคุณ : Waterman (LN106) - [ 14 ม.ค. 52 20:08:07 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อีกรูป จากคุณ : Waterman (LN106) - [ 14 ม.ค. 52 20:08:48 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สิ่งที่ผมกลัวคือว่า เรียนมาในเรื่องน้ำ กลัวจะเป็นประเภทวิชา ปั้นน้ำเป็นคัวมากกว่าซิครับ ปัญหามันอยู่ที่วิธีคิดมากกว่า การที่ทําอุปกรณ์ DIY ขึ้นมาใช้ว่าดีหนักหนา ไอ้อุปกรณ์ที่ขายกันสําหรับงานพวกนี้นั้นมันมีไว้หลอกลูกค้า(=ลุกค้าโง่??? ) ผมไม่รู้ว่านะเเต่เเปลกใจว่าเเต่ถ้ามันดีจริง ป่านนี้คงเป็นที่นิยมใช้กันเเพร่หลายเเล้วครับ ย้อนไปถามตัวเองก่อนว่า ข้อดี-ข้อเสีย,ข้อเด่น-ข้อด้อย เเบบไหนมันมันมีกว่ากัน พวกDIY พวกคิดทําขึ้นเองถ้าคุณไม่มีทักษะด้านช่างเลิกคิดเวลามันเสียมัปัญหาจะทําอย่างไร? การซื้อตู้ควบคุมระบบรดน้ำอัตโนมัติ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า สําหรับพ่อบ้าน-เเม่บ้าน ที่พอจะเซ็ทโปรเเกรมเองได้( อย่างที่บอก วิธีเซ็ทมันง่ายการใช้ระบบ ซิมเบี้ยน มือถืออย่าง Nokia N73 ) มีปัญหาไม่รู้อะไรก็เปลี่ยนเป็นระบบ เเมนนวล ได้จะเลือกเปิดเป็นโซนหรือ ทุกโซนก็ได้  เเล้วเรียกช่างบริการมาดูเเลเเก้ไข เเต่ถ้าเป็น DIY คิดทําขึ้นเองสินค้าสุดเด่นใช้เเล้วไม่โดนหลอก มีปัญหาพ่อบ้าน-เเม่บ้านทั่วไปจะเเก้ไขปัญหาเฉพาะอย่างไร? จะเรียกใครมาซ่อม? ใครจะมาช่วยดูเเลซ่อมเเก้ไขให้? เเค่วิธีคิดเลือกใช้สินค้าให้เหมาะสมกับคนที่ใช้ก็สอบตกเเล้ว.....จะไปเชื่อถืออะไรได้อีกในเรื่องอื่น???ผมละเกลียดจริงๆพวกปั้นน้ำเป็นตัว เเต่ถ้าพวกอาบน้ำลงอ่างฯเนี่ยคอเดียวกันนะอิ อิ อิ ผมละเบื่อที่ชอบอวดภูมิสไตท์เด็กเรียน คุณต้องยึด,คุณต้องดูDischarge (Q) กับ Head (H)  นั้นมันทฎษฎีเเถมโกรธเป็นฟืนเป็นไฟพอบอกว่า อย่าเชื่อถือสเปคจนเกินไป ประสบการณ์ผมเจอของจริงที่ปั้มมียี่ห้อชื่อดัง บอกเฮดสูงเท่านี้เเต่เวลาต่อใช้งานจริงมันไม่ได้? ตามสเปคผมเจอประจําๆ ส่าสุดวันนี้เจอปั้มไดร์โว่ 3 สาย/2นิ้ว/เเบรนด์ ญี่ปุ่นชื่อดัง  สเปคบอกไว้เลยว่า H=16 เมตร เเค่ใช้งานจริงต่อตรงเเนวดิ่งสูบน้ำจริงได้ Head ขึ้นได้เเค่ 8 เมตรก็ไม่ขึ้นเเล้ว.......จึงอยากบอกว่า ทฎษฎี กับ ปฎิบัติ มันเเตกต่างกันนะเด็กเรียนเเต่ ทฎษฎ๊ คุยเขื่องว่าออกแบบให้ ไอ้คนออกแบบเนี่ยว่างๆมามีประสบการณ์ติดตั้งงานระบบของจริงบ้างนะครับ จะรู้การคํานวณบนตัวเลขในกระดาษ,บ้าสเปค ก็อย่ายึดถือจนเกินไป ผมเห็นงานที่ล่าช้า-ขาดทุนเพราะการยึดถือสเปคเครื่องจนเกินไป คุยอวดเก่งเรื่องน้ำ ยึดDischarge (Q) กับ Head ไม่ลืมหูลืมตาเนี่ยของจริง วันนี้เพิ่งขุดบ่อลึกไปที่ 4.50 เมตร เอาปั้มไดร์โว่สูบน้ำที่ซึมขังในตอนกลางคืน(ที่ลูกศรสีน้ำเงิน) ตัวไดร์โว่ซื้อใหม่ๆจมมิดมีเข่งกั้นพวกหิน น้ำจมท่วมมิดปั้มไดร์โว่ เเถมไดร์โว่เป็นเเบบสูบน้ำโคลนได้ มี Head สูงสุดที่ 16 เมตร อัตราการสูบบน้ำที่ 0 เมตรได้ที่ 6 คิว/ชั่วโมง เเต่ในการใช้งานจริงเเค่ 4.50-5 เมตร น้ำที่สูบขึ้นมาไหลอ่อนมากๆ ในรูปเห็นๆว่าสูบขึ้นท่อตรงๆไม่มีหักงอไม่มีลดข้อลดขนาดท่อ .....คุยเขื่องว่าเก่งเรื่องน้ำ อธิบายหน่อยซิว่าทําไมเป็นเเบบนี้ อย่างนี้ควรยึดถือสเปคจนเกินไปมั้ย???? ( ไม่ใช่สอนคนที่ว่ารู้เรื่องน้ำนะครับ ) ป.ล.     อีกอย่างปัญหานี้ช่วยดูวันที่ที่รูปถ่ายนะครับ คุณจะรุ้ว่าผมนะอยู่กับปัญหาจากการทํางานจริงๆ ไม่ใช่บนทฎษฎ๊อย่างคุณเเล้วก็นั่งเทียนตอบตามเเต่อยู่ในตําราอย่างคุณนะ อันนี้รูปจริง-ของจริง ไม่กี่สิบ KB ครับ ส่วนตัวผมไม่ชอบเอาเเคตตาลีอคมาตัดเเปะเเบบคุณ( ยังมีมาคุยข่มว่าหมื่นกว่า KB หน่อยๆ ) อิ อิ อิ             ครั้งก่อนโดนผมสอนเรื่อง การคํานวณต้นทุนทําถนนที่ตกหล่นบานตะไท? คุณยังไม่เข็ดอีกเหรอครับ อิ อิ อิ แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 52 22:51:44 จากคุณ : pinhead2000 - [ 14 ม.ค. 52 22:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมขุดบ่อลึกขนาดนี้ เป้าหมายตามเเบบคือลึก 6 เมตรเเต่ในสภาพความเป็นจริงขุดได้ลึกเเค่ 5.00 เมตร ( รถเเม็คโคร CAT M320 ขุดไม่ลงเเล้วข้างล่างเป็นหินล้วนๆ ) หน้าที่ผมรับผิดชอบคือ เอาน้ำออกในบ่อนี้ออกให้หมด ที่นี้โชคดีตรงที่เราทําการขุดบ่อในหน้าเเล้งน้ำในดินมีน้อยมากๆ เเต่ถ้าเป้นหน้าฝนไม่อยากคิดครับ( ฝันร้ายครับ ) ลึกขนาดไหนก็เปรียบเทียบความสูงคนงานในรูปเอาเอง.....ไม่มาทฎษฎีอ้างโน่นอ้างนี่ให้วุ่นวาย ที่นี้ไม่มีอะไรทําก็ไปนั่งขับรถเเบ็คโฮ ขุดเอง เล่นๆเเก้เซ็งมันส์ดี จากคุณ : pinhead2000 - [ 14 ม.ค. 52 23:07:50 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อย่างนี้เรียกว่าฉลาดน้อยครับ โชคดีที่เป็นดินค่อนข้างแข็งไม่งั้นก็อาจเจอดินเลื่อนไหลเอาน่ะซี้ อุตส่าห์มีเครื่องมือแต่ไม่รู้จักการควบคุมระดับน้ำใต้ดินโดยการทำบ่อสูบ (เอคำว่า Sump เนี่ยจะรู้จักหรือเปล่า) ขุดแค่นี้เด็กๆ ครับ ผมอาจจะทำงานก่อสร้างไม่มาก แต่ออกแบบเรื่องอาคารเกี่ยวกับน้ำก็ไม่เป็นรองใครแน่ๆ ก็แค่เป็นที่ปรึกษาให้กับพวกก่อสร้าง ระบบป้องกันน้ำท่วมให้กับจังหวัดก็วางมาแล้ว จนน้ำมันไม่ท่วมมาสามสี่ปีแล้ว ไอ้ที่เอาไดรโว่มาสูบน้ำโคลนน่ะ รู้จักคำว่าความหนือของของเหลว กับ ความหนาแน่นของสารละลายกับคอลลอยด์หรือเปล่า Break Horse Power ล่ะรู้จักไหม ลองไปหาหนังสือมาอ่านดูนะครับอย่าอยู่แต่ในกะลา ขุดดินแค่สี่ห้าเมตร เจอน้ำแค่นี้ทำตื่นเต้น แถมไปกวนให้มันเป็นโคลนอีกเฮ้อ อยากรู้จังครับว่าหากมาขุดร่องแกนเขื่อนลึกซักสิมเมตรแล้วเจอชั้นทรายที่เป็นทางน้ำเก่าเนี่ยสงสัยร้องไห้โฮแหงๆ เสียดายว่า ปตร. คลองลัดโพธิ์ เสร็จแล้ว ไม่งั้นจะแนะนำให้ไปดูซะหน่อย ออกแบบน่ะไม่ใช่ขีดเส้นเล่นๆนะครับ มันต้องดู Site และตอบปัญหาว่าจะวางอาคารยังไง พร้อมประเมินราคาตั้งแต่เห็นแค่ Site แล้วถึงมานั่งขีดๆ เขียนๆ  ได้แบบออกมาก็ต้องมานั่งคำนวณวัสดุที่ใช้ ทำราคากลางออกมา ให้ผู้รับเหมาเอาไปฮั้วกัน พอฮั้วไม่ได้ก็ฟันกันซักครึ่ง แปลกดีนะว่าทียังงั้นทำไมทำกันได้ หรือว่ามัวแต่นั่งเล่นในเครื่องจักรให้มันเสียค่าใช้จ่ายแล้วก็เอามา Charge กับเจ้าของงานแพงๆ ส่วนตัวผมคงไม่ได้มีโอกาสไปนั่งขับเล่นอย่างนั้นหรอก เพราะพ่อแม่ผมไม่ได้มีเครื่องจักรให้เล่นอย่างคนรวยๆ หรอกครับ ผมก็เพียงแค่สามารถสั่งการให้คนขับทำงานตามที่ผมต้องการ   เท่านั้นเอง อ้อ อย่าลืมหาหนังสือพวก Hydraulic มาอ่านบ้างนะครับ แล้วจะรู้ว่า ไอ้ที่ Q คูรกับ H น่ะมันถูกแปลงเป็นน้ำหนัก ซึ่งน้ำโคลนค่ามันมากกว่า 1 แถมมีความหนือมากกว่าน้ำเน้อ จากคุณ : Waterman (LN106) - [ 17 ม.ค. 52 02:13:56 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมละเบื่อ...มนุษย์น้ำ ที่ชอบปั้นน้ำเป็นตัวจริงๆ ยังเเถ่ไหลไปเรื่อย เป็นผมคงไปคุยเเบบ วนเวียนอยู่กับตัวเลข,ทฎษฎี ก็อย่างที่บอกคนที่ทํางานอยู่บนเเผ่นกระดาษ กับ คนที่ทํางานอยู่บนของจริงมันไม่เหมือนกันนะครับ อย่างในรูปข้างบนมันเป็นเเค่น้ำที่ไม่ได้ข้นอะไรเลย( เป็นมนุษย์น้ำเเต่ลืมไปสังเกตดูสภาพดินว่าเป็นดินภูเขาหินกาบเต็มไปหมด มันจะเป็นน้ำโคลนได้อย่างไร ) มันเป็นน้ำที่สีเหมือนน้ำกาเเฟ,โอเลี่ยง ก็เท่านั้นเอง.........ก็มั่วนั่งเทียนตอบอีกเเล้ว อีกอย่างไม่ต้องยกตัวอย่างมาเบ่งทับ เอาเป็นว่าประสบการณ์ผมมีมากกว่าคุณเเล้วกัน อย่าเบี่ยงประเด็นที่ผมเเสดงความคิดเห็นว่า ที่เตือนไว้ว่าอย่าบ้าสเปคจนเกินไป  ติงว่าอย่ามั่วตอบเเนะนําว่า สิ่งที่ตัวเองDIY ทํานั้นมันดีเลิศสุดๆเเล้วไปกล่าวหาว่า สินค้าที่เค้าทํามาขายไปทั่วโลก โดยเฉพาะประเด็นว่ามันมีไว้หลอกลวงขายให้ลูกค้า( เท่ากับ=ลูกค้าโง่ๆ ) ......................อย่างเบี่ยงประเด็นนะครับมนุษย์น้ำเเข็ง( ปั้นน้ำเป็นตัว ) ผมไม่รู้นะ เเต่ถ้าคุณทํางานในที่เป็นมืออาชีพจริงๆคุณโดน Reject ออกไปแล้วครับ งานที่ผมทํามีผู้ร่วมงานที่มาบ้าสเปค เเต่กลับสอบตก-ตกหล่นในเรื่องรายละเอียด ก็ร่วมทํางานเป็นทีมไม่ได้( เป็นจุดอ่อน-ตัวถ่วงเป็นปัญหาของงาน ) ผมเเละเพื่อนในทีมก็คงให้คุณกลับไปบ้าสเปค เเบกหนังสือให้ไปอยู่ที่อื่นเเทนครับ ( บางทีต้องเเก้เคล็ดด้วยการจุดประทัดไล่ด้วยครับ.....เเบบว่า ซวย ครับที่เจอที่ดันต้องมาเจอ,มาร่วมงานกัน ) ความคิดเห็นผมมาจากประสบการณ์ เเละ ความรู้ที่เรียนมา  ไม่มั่วตอบไม่นั่งเทียน-ไม่ปั้นน้ำเป็นตัว ผมทํางานในภาคสนาม,งานปฎิบัติเป็นหลัก มืออาชีพมันไม่ต้องมาโอ่อวดว่า งานที่คุณทําจะบอกตัวคุณเองว่าเก่งในระดับไหน เดี่ยวเพื่อนร่วมงานก็ยอมรับฝีมือเองละครับ......ของอย่างนี้มันหลอกไม่ได้ไม่ต้องมาคุยอวดว่า เป็นที่ปรึกษาที่โน่นที่นี้เคยคุมงานใหญ่ที่โน่นที่นี้??? มันราคาคุยครับ.....คนทํางานเค้าไม่มาสนใจตรงจุดโม้ตรงนี้หรอกครับ เค้าเน้นกันที่ผลงานของคุณที่ทําออกมาครับ....... ดังนั้นอย่ามาอวดภูมิว่า ว่าเป็นที่ปรึกษาบริษัทก่อสร้างออกแบบ  สําหรับผมเฉยๆนะ ฝีมือเค้าวัดกันที่การเเก้ปัญหาเพราะมันบอกฝีมือคุณว่า มืออาชีพหรือไม่ มากกว่าครับ ผมเป็นเจ้าของบริษัทก่อสร้างก็ไม่จ้างคุณในตําเเหน่งที่ปรึกษาหรอกครับ.....เปลืองเงินเหมือนโดนหลอก  เพราะเเค่ คํานวณต้นทุนทําถนนคอนกรีตยาว 70 เมตรยังตกหล่นลืมคิดค่าท่อ คสล.,บ่อพัก,เครื่องมือจักรกล  เเค่ให้คิดเสนอราคาก็เสนอราคาในราคาที่ขาดทุนเเล้ว ยังมีหน้ามาคุยโอ่ว่า เป็นที่ปรึกษา??? อิ อิ อิ ขอบคุณที่เเนะนํา หนังสือที่ให้ความรู้ครับ เเต่ก็อยากเเนะนําว่าคุณก็เลิกนั่งจุดเทียน เเละ อย่าวนเวียนบ้าสเปคพวกๆ Q เเละ H จนเกินไป อย่าดูหมิ่นสินค้าที่เค้าทํามาขายกันทั่วโลก ว่าหลอกลวง สิ่งที่ตัวเองทํา DIY ดีที่สุด???? (อย่างที่บอกผมจะอยู่ในประเด็นที่เเลกความคิดตรงนี้เท่านั้น ) ผมรู้ก็บอกว่ารู้ ไม่รู้ไม่ทราบก็บอกว่าไม่ทราบ เเต่ผมไม่มีนั่งเทียนตอบมั่วๆเเบบคุณนะ ตอบตรงปัญหาที่คนเค้าถามมาให้ช่วยเหลือ( ผมชอบพูดตรงเเบบนี้นะ ) จากคุณ : pinhead2000 - [ 17 ม.ค. 52 14:21:00 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เอ่อ .... ระบบน้ำอัตโนมัติ ..... จบข่าว จากคุณ : piakpiak - [ 22 ม.ค. 52 16:20:04 ]