ความคิดเห็นที่ 1 update!! 16/01/52 วันนี้ทางคณะกรรมการหมู่บ้าน ได้ทำหนังสือเวียน ล่ารายชื่อ และ ขอข้อเสนอแนวทางแก้ปัญหา แล้วครับ คาดว่าอีก 2-3 วัน จะเรียกประชุม ภายในหมู่บ้านครับ แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 52 23:32:35 จากคุณ : k.seng - [ 16 ม.ค. 52 00:42:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 การเข้ามาเช่า เพื่อ ทำ "บ้านพักเด็กและครอบครัว" ในครั้งนี้ ไม่ได้มีการ สอบถาม หรือ ทำ ประชาพิจาร์ณ จากคนในหมู่บ้านเลย จากคุณ : k.seng - [ 16 ม.ค. 52 00:44:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เเจ้งลบกระทู้ครับ..............เป็นการเเสดงความคิดเห็นของผม ในหมวด เสนอข้อความอันมีเจตนาใส่ความบุคคลอื่น ให้ได้รับการดูหมิ่นเกลียดชังจากบุคคลอื่น โดยไม่มีแหล่งที่มาของข้อมูลอ้างอิงที่ชัดเจน จากคุณ : pinhead2000 - [ 16 ม.ค. 52 01:03:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แว่บแรก ก็อาจจะมีคิดว่า ความเป็นส่วนตัวอาจจะหายไป ผู้คนอาจจะพลุกพล่านเข้าออกมากขึ้น อาจมีเด็กที่หลุดรอดออกมา ลักเล็ก ขโมยน้อย ในหมู่บ้าน อาจมีเสียงดังรบกวนจากการดูแลหรือกิจกรรมต่างๆ ถ้าการดูแลรักษาความสะอาด หรือความเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่ดี อาจจะส่งผลถึงทัศนียภาพบ้านใกล้เคียงหรือหมู่บ้านโดยรวม ฯลฯ แต่.. ถ้าเราไม่สามารถเลือกหรือเลี่ยงได้ ก็ต้องพิจารณารายละเอียดข้อเท็จจริงของการดำเนินการโครงการก่อน เช่น สอบถามรายละเอียดจากทางหมู่บ้านหรือจากทางมูลนิธิเอง หรือขอความมั่นใจ จากทางหน่วยงานว่าได้วางแนวทางป้องกันหรือแก้ไขอย่างไรหากเกิดปัญหาข้างต้นขึ้นมา(ซึ่งข้อมูลดังกล่าวควรเผยแพร่ให้ชุมชนรับรู้ทั่วกัน) ประการที่สอง ลองหาข้อมูลจากชุมชนอื่น ซึ่งเคยมีมูลนิธิลักษณะเดียวกันเข้ามาอยู่อาศัย ว่ามีผลกระทบอย่างไหรือไม่ร มีผลเสียมากน้อยเพียงใด จริงๆแล้ว มีสิทธิกังวลแต่ก็ไม่ควรกังกลมาก เพราะทุกอย่างยังไม่เกิด ยังไม่รู้ข้อมูลการบริหารงานหรือนโยบายที่ชัดเจน   มองในแง่ดี มูลนิธิที่ดูแลคนหรือเด็กก็ยังดีกว่า มูลนิธิดูแลสัตว์ ที่เคยมีข่าวมีปัญหาจากการอยู่ในชุมชน จนได้รับการร้องเรียนและต้องย้ายออกไปอยู่นอกชุมชน หรือลองมองอีกแง่ คงเหมือนสมัยที่วัดพระบาทน้ำพุระยะแรก ที่ชุมชนต่อต้าน เพราะรู้ข่าวว่าทางวัดดูแลผู้ป่วยเอดส์ จนแสดงอาการรังเกียจหรือผลักไสให้ออกไปอยู่ไกลจากชุมชนมากๆ ท้ายที่สุด ผู้นำชุมชนที่ต่อต้านก็กลับมาช่วยดูแลภายในวัดเองเสียด้วยซ้ำ ซึ่งหากในวันนั้น สังคมรอบข้างไม่เข้าใจ คงไม่มีวัดพระบาทน้ำพุในวันนี้ ที่ผู้คนหลั่งไหลเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์จำนวนมาก และเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงทางการเกื้อกูลสังคมที่ผู้คนยกย่องกันไปทั่วโลก สถานที่ที่จุดมุ่งหมายเพื่อให้คนที่ทำความดีมาอยู่ใกล้ คงจะดีกว่า มีบ้านคนร่ำรวยใหญ่โตเข้ามาอยู่อาศัย แต่ทำการค้าผิดกฎหมายหรือขายยา  หรือเปิดสถานบริการ สถานบันเทิง ซึ่งจะนำพาปัญหาทั้งไฟไหม้ ทะเลาะวิวาท เสียงดังรบกวน เปิดเกินเวลา นำพาคนไม่ดี เข้ามาในชุมชนมากกว่า มูลนิธิช่วยเหลือคนมาอยู่ใกล้เคียง น่าจะนำพาคนดีๆเข้ามาทำงานอุทิศตนช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ส่วนผู้เดือดร้อนก็ได้รับการบรรเทา น่าจะดีกว่า มีสถานที่อโคจรมาอยู่ใกล้เป็นแน่แท้ ทำจิตใจให้สบาย และถือซะว่า โอกาสทำบุญมาถึงแล้ว การที่ให้เราให้โอกาสผู้เดือดร้อนขาดโอกาสได้มีที่อยู่ที่อาศัย ไม่ขับไล่ เบียดเบียน ก็ถือว่าเราได้รับอานิสงส์ผลบุญแล้ว ในอนาคต หากมีปัญหาตามมา ระบบราชการก็สามารถร้องเรียนสภาพปัญหาได้ และหากเราไมได้รับความเดือดร้อนเพียงคนเดียว พลังชุมชน  ก็สามารถทำให้หน่วยงานดังกล่าวได้พิจารณาตนเองและย้ายออกไปยังสถานที่ที่เหมาะสมขึ้นได้ อย่าลืมว่า.. นี่คือ ชุมชน ซึ่งมีความหลากหลายและเราไม่สามารถกำหนดทุกอย่างได้ดังใจ ลองคำนึงถึงองค์ประกอบและเหตุผลทั้งหมดแล้วลองคิดดูอีกทีนะคะ แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 52 01:46:11 จากคุณ : GarfiledPingPong - [ 16 ม.ค. 52 01:29:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คูณ pinhead2000 1.เดี๋ยวผมจะนำรูปถ่าย มาให้ดูเป็นระยะๆ ครับ 2.ตอนนี้ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวครับ และ กรรมการในหมู่บ้านกำลัง ปรึกษา กันอยู่ครับ ขอขอบคุณในการแสดงความคิดเห็นครับ จากคุณ : k.seng - [ 16 ม.ค. 52 01:45:33 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คำแนะนำจากคุณ GarfiledPingPong ช่วยให้ผมได้ คิด ได้ ไตร่ตรอง ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับ ข้อคิดเห็น ครับ จากคุณ : k.seng - [ 16 ม.ค. 52 01:47:55 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมให้คุณไปเข้าใจหลัก พรหมวิหาร 4 ที่กล่าวถึง  เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา หลักพรหมวิหาร 4 เป็นหลักปฏิบัติของพรหมหรือของท่านผู้เป็นใหญ่ พรหมวิหารเป็นหลักธรรมสำหรับทุกคน เป็นหลักธรรมประจำใจที่จะช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างประเสริฐ ถ้าถามว่าพรหมวิหาร 4 ประกอบด้วยข้อธรรมใดบ้าง ผู้อ่านส่วนใหญ่คงจะพอบอกได้ว่า ประกอบด้วย เมตตา ความต้องการให้ผู้อื่นเป็นสุข กรุณา ความต้องการให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ มุทิตา การยินดีเมื่อผู้อื่นมีความสุข อุเบกขา การไม่ทุกข์ใจเมื่อผู้อื่นมีทุกข์ อย่าใช้เหตุผลที่อยู่บนพื้นฐานของความกลัว มีสติใช้ปัญญาคิดซะนิด การที่กลัว เเละ เหยียดๆกับเด็กเเละครอบครัวที่มาจากสภาพสังคมไทยที่พิการ ดูจะเป็นการเห็นเเก่ตัวนะครับ จากคุณ : pinhead2000 - [ 16 ม.ค. 52 03:25:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณต้องการให้สังคมมีแต่คนดี ๆ แต่คุณกลับไม่ต้องการสถานที่สำหรับอบรมคนที่หลงผิดให้เป็นคนดีของสังคม ลักษณะที่ชอบเอาประโยชน์แต่ส่วนตนหรือพวกพ้องของตนเข้าว่านี่....(คิดเอาครับเค้าเรียกว่าอะไร) จากคุณ : Marine Red - [ 16 ม.ค. 52 06:59:07 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จขกท.ครับ ผมเองก็อยู่ อยุธยา ครับ  ขอทราบชื่อหมู่บ้านหน่อยได้หรือไม่ครับ หลังไมค์นะครับ... ขณะเดียวกัน ก็ทำงานที่ต้องประสานกับ พม. (พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) อยู่ด้วย  และที่ทราบมาก่อนล่วงหน้านี้ เคยไปหาที่ทางจากหมู่บ้านและชุมชนอื่นมาก่อนแล้ว  แต่ถูกปฏิเสธเสียเกือบหมด  เนื่องจากไม่ผ่านประชาพิจารณ์ของคนในหมู่บ้าน/ชุมชนนั้น ๆ จากคุณ : ยอดกระบี่ซิลลี่ - [ 16 ม.ค. 52 07:46:46 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องการทำบุญอย่างที่ทุกคนพูดกันผมเห็นด้วยนะ แต่ คือผมสงสัยว่า ทำไม กรมพัฒนาสังคมถึง ไม่ไปหาที่ที่แปลงใหญ่ ๆ แล้วทำบ้านพัก ทำไมถึงมาเช่าในหมู่บ้าน ทำไมไม่ทำเหมือน บ้านเด้กชายบ้านบางละมุง บ้านพักคนชราบางละมุง เป็นต้น ล่ะครับ หรือว่าเจ้าของหมู่บ้านคุณรู้จักกับเจ้าหน้าที่ ของ กรมฯ จากคุณ : Noo_Lek@TheKop - [ 16 ม.ค. 52 08:32:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แปลกมากๆ ที่ใช้การเช่า ผมว่าลองตรวจสอบข้อมูลให้มากกว่านี้อีกหน่อยก็ดีครับ จากคุณ : falsi - [ 16 ม.ค. 52 09:29:14 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คนเราก็ชอบและรับสิ่งต่างๆได้ไม่เหมือนกัน เห็นใจน๊ะครับ หากเขาเช่าอยู่ก่อน แล้วเรามาซื้อทีหลังก็ว่าไปอย่าง เป็นกำลังใจให้เขามาแบบสงบแล้วกันครับ จากคุณ : dib2000 - [ 16 ม.ค. 52 09:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สงสัยเหมือนกับ คห 10 หรือการที่มีที่อยุ่แยกออกมาชัดเจนมันให้ความรู้สึกที่เหมือนถูกกักขังสำหรับเด็ก ๆ ถ้าได้อยู่ร่วมกับชุมชนอาจให้ความรู้สักไม่แปลกแยก ไม่รู้ว่าผมคิดถูกหรือป่าวนะ จากคุณ : กก - [ 16 ม.ค. 52 09:43:11 A:202.57.180.23 X: TicketID:153762 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เราเข้าใจคุณ จขกท นะ เป็นเรา เราก็กังวล มิใช่ว่าเราจะไม่ให้โอกาสคนที่เคยทำผิด แต่เป็นเพราะการดำเนินการที่ไม่โปร่งใสมากกว่าที่ทำให้เรากังวล ถ้าหากจะมีการเช่าพื้นที่หมู่บ้านจัดตั้งขึ้น "บ้านพักเด็กและครอบครัว" ในฐานะที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน ก็น่าจะมีการแจ้งให้ทราบกันก่อน เพราะการเข้ามาเช่าพื้นที่นี้มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างออกไปมิใช่เพียงการมาซื้อเพื่อเป็นที่พักอาศัย ทางโครงการควรมีการแจ้งให้ทราบว่าจะมีรูปแบบของการดำเนินการเป็นอย่างไร เพราะอย่าลืมนะคะว่านี่แตกต่างจากการซื้อบ้านของบุคคลทั่ว ๆ ไป อีกอย่างข่าวที่ออกมาจากบ้านพักเหล่านี้ ในฐานะคนในสังคมก็มีสิทธิ์ที่จะกังวลใจเป็นธรรมดา อย่างไรก็ตามก็ขอให้การเจรจาได้ข้อยุตินะคะ แล้วก็ขอให้หมู่บ้านคุณเป็นหมู่บ้านที่น่าอยู่ดังเดิมค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : หลานตานี - [ 16 ม.ค. 52 09:56:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คิดในแง่ดีคือ คุณได้อยู่ในสังคมที่ดีกว่ามาตรฐานมากว่า 10 ปีค่ะ ต่อไปอาจจะดีเหมือนเดิม หรือไม่ดีตามที่คุณคาดเดาไว้ แต่ก็ขอให้ถือว่าคือการเป็นไปตามธรรมดาโลก ทุกที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ปรับที่ใจเรา ให้โอกาสเขาบ้างค่ะ จากคุณ : แม่น้องเอเอ - [ 16 ม.ค. 52 10:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมเข้าใจเจ้าของกระทู้ครับ ไม่ใช่ว่าเป็นการตั้งแง่รังเกียจเดียดฉันท์ใดๆ แต่ผมลองคิดว่าถ้าเป็นหมู่บ้านของตัวเองที่เพิ่งซื้อใหม่ๆ แล้วมีมูลนิธิลักษณะนี้มาอยู่ในหมู่บ้าน ก็คงต้องรู้สึกแปลกๆ และกังวลแน่นอนอยู่แล้ว ลองให้คนที่กำลังมีบ้านที่สงบๆ ที่น่าอยู่ทุกคนลองจินตนาการดู มันต้องมีความกังวลกันทุกคนแน่นอน ที่อยู่ๆ จะมีสังคมเล็กๆ อีกสังคมเข้ามาอยู่ร่วมกัน.. อย่าไปว่าเจ้าของกระทู้เห็นแก่ตัวเลยครับ ไม่เป็นตัวเองไม่รู้หรอก... สำหรับเจ้าของกระทู้ ลองตรวจสอบทุกอย่างให้ชัดเจนอีกทีนึงดีกว่าครับ ทั้งเรื่องรายละเอียดของสถานที่ จำนวนเด็กที่จะเข้ามาอยู่ และมาตรการต่างๆ ที่จะควบคุมดูแล ความสงบในหมู่บ้านให้ได้เหมือนเดิม หรือใกล้เคียง มองในแง่ของมนุษยธรรม อาจจะต้องลองให้อยู่กันดูซักตั้ง ถ้าทุกอย่างมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก ก็ถือซะว่าทุกคนในหมู่บ้านได้ร่วมกันทำบุญ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็คงต้องร้องเรียนกันต่อไปครับ จากคุณ : Carrick - [ 16 ม.ค. 52 10:46:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เข้าใจและเห็นใจคุณ จขกท นะคะ สังคมบ้านที่มีความส่วนตัว สงบ อบอุ่น อาจต้องอยู่ด้วยความระแวงเพิ่มขึ้น.. และ ........ เข้าใจและเห็นใจ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เช่นกัน... ไปที่ไหนก็คงไม่มีใครยอมรับ... สังคม ต้องการแต่คนดีๆจริงๆค่ะ แต่ไม่มีที่ขัดเกลาให้คนที่เพรี่ยงพล้ำไปบ้าง... แต่ ....... จะวิจารณ์กันก็ ใจเค้าใจเรานิดนึงค่ะ มาตราฐานการรับอะไรได้ของคนไม่เท่ากันเสมอไป... ขอให้เจ้าของกระทู้ เจอทางออก ที่เป็นทาง ที่เสียหายกันทุกด้านน้อยที่สุดนะคะ หากสังคม ต้องการคนดีๆมาอยู่ร่วมกัน เราต้องให้โอกาสคนที่ต้องการพัฒนาตนเองค่ะ :) เห็นด้วยกับคุณ GarfiledPingPong นะคะ :) จากคุณ : แม่น้องเบสท์ - [ 16 ม.ค. 52 10:59:49 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จะเข้ามาบอกว่า เข้าใจความรู้สึก จขกท นะครับ ;-) ผมว่า เราอยากให้คนทำความดี และ เสียสละ แต่เราไม่ค่อยอยากเป็นคนนั้น สักเท่าไหร่ . . จริงป่ะ จากคุณ : อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ - [ 16 ม.ค. 52 12:45:11 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เรื่องแบบนี้ต้องบอกว่า ไม่เจอกับตัวไม่รู้ ประมาณนั้น รึเปล่าครับ จากคุณ : vn, man - [ 16 ม.ค. 52 14:26:21 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถึงจะกังวลในช่วงแรกก็คงเป็นธรรมดาค่ะ คนเรามักกลัวในสิ่งที่ไม่รู้หรือยังมาไม่ถึง แต่การให้โอกาสแก่เพื่อนมนุษย์ ก็ถือเป็นการสร้างกุศลอย่างนึง อยากให้คุณลองให้โอกาสแก่พวกเค้าบ้างค่ะ จากคุณ : ศนิ xxx - [ 16 ม.ค. 52 14:29:21 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นใจ จขกท จริง ๆ ค่ะ เป็นเราก็คงเป็นกังวล คือมาอยู่แล้วดีก็เท่าทุนแต่ถ้าไม่ดีหละคะ? การไม่ให้คิดนะพูดได้ แต่ทำไม่ได้หรอกค่ะ จากคุณ : tugsinat - [ 16 ม.ค. 52 15:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยกับคุณอยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจครับ ตัวอย่างเช่น ทุกคนต้องการความสะดวกในการเดินทาง ต้องการรถไฟฟ้า แต่ ..... ถ้าบอกเพิ่มว่า ในการสร้างนั้น บ้านคุณทั้งหลังต้องถูกเวนคืนด้วย คำตอบคงต่างออกไปแน่นอน จากคุณ : 447 - [ 16 ม.ค. 52 15:17:28 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตอบความเห็นที่ยี่สิบสอง ผมยินดี ให้เวนคืนครับ  จริง ๆ นะครับ ไม่ได้สร้างภาพ แต่ ค่าเวนคืน ก็ควรเหมาะสม เป็นที่พอใจ   ประเภทให้เราย้ายบ้าน แล้วยังต้องมีค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มมาก ๆ ในการหาที่อยู่ใหม่ ผมคงไม่แฮปปี้ จากคุณ : หนอนบุ้ง (หนอนบุ้ง) - [ 16 ม.ค. 52 16:46:58 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เราจะไม่รู้ว่าสีขาวมันขาวอย่างไร ถ้าในโลกนี้ไม่เคยมีสีดำ จากคุณ : Gixz - [ 16 ม.ค. 52 18:00:13 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าสักวันหนึ่งคุณเจ้าของกระทู้  มีปัญหา ไม่มีที่อยู่ ไร้ที่พึ่ง  คุณจะไปอยู่ไหน    เมตตาคนอื่นบ้างเถอะคะ       คนที่เค้าจะไปอยู่ที่นั้นถ้าเค้ามีที่พึ่ง  เค้าก็คงเลือกไม่เข้าไปอยู่ที่นั้นหรอกคะ     ถือว่าทำบุญให้กับพวกเค้าเถอะคะ  เรารู้สึกว่าคุณใจแคบมากๆ   เราเคยเข้าไปบริจาคของให้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว  หลายๆที่  คนพวกนั้นเค้าน่าสงสารนะคะ  ช่วยๆกันเถอะคะ ขอโทษนะคะถ้าแรงไป จากคุณ : cheerful_love - [ 16 ม.ค. 52 18:18:44 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มันอาจจำไม่ได้แย่อย่างที่คิดก็ได้นะคะ แต่เราก็เข้าใจจขกท. จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 16 ม.ค. 52 20:14:24 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่ผิดถ้าจะคิดว่า ความสงบที่เคยทีมา 10 ปีจะหายไป เราต่างก็รู้ว่า การจัดการของหลายๆโครงการ ทำได้ไม่ดีเลย แน่นอนเราต้องให้โอกาสคนที่เค้าจะกลับตัว แต่ก็ต้องดูด้วยว่า เค้าต้องการกลับตัวจริงๆหรือแค่เด็กที่โดนจับมากักขัง ณ ที่หนึ่งเท่านั้น แล้วก็มาสร้างความเดือดร้อนให้คนที่อยู่มาแต่เดิม ถ้าเค้ามีโครงการ ต้องชี้แจงให้ชัดเจน ว่าระบบการจัดการเป็นอย่างไร จะดูแลรักษาให้สภาพแวดล้อมคงเดิมหรือไม่ จากคุณ : แมวสีขาวขนปุย - [ 16 ม.ค. 52 20:46:28 ]

ความคิดเห็นที่ 28 วันก่อน มีสมาชิก ภายในหมู่บ้านคนหนึ่ง ได้ไปสอบถาม เกี่ยวกับการมาตั้งสถานที่ "ราชการ" ในหมู่บ้าน ... แต่ ก็ได้รับคำตอบ ที่ไม่ชัดเจน เกี่ยวกับสำนักงาน วันที่ 15/01/52 มีการประกาศป้ายรับสมัครคนงานแล้วครับ จากคุณ : k.seng - [ 16 ม.ค. 52 23:36:17 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมขอขอบคุณ ทุกๆ ความเห็นนะครับ แต่กระทู้ที่ตรงใจ มากที่สุดคื กระทู้ของคุณ แมวสีขาวขนปุย (คห.27) เพราะเราสอบถามก็ได้คำตอบที่ คลุมเครือ ครับ จากคุณ : k.seng - [ 16 ม.ค. 52 23:38:55 ]

ความคิดเห็นที่ 30 รูปนี้ คือ บ้านที่กำลังเป็น "บ้านพักเด็กและครอบครัว" จ.อยุธยา จากคุณ : k.seng - [ 17 ม.ค. 52 00:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ถนนเส้นหลักในหมู่บ้าน ก่อนถึง สระว่ายน้ำ (บ้านพักเด็กฯ อยู่มุมซ้ายของภาพ) จากคุณ : k.seng - [ 17 ม.ค. 52 00:06:37 ]

ความคิดเห็นที่ 32 มาแชร์ประสบการณ์ที่คล้ายๆ กันให้ฟังค่ะ เราเคยเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนต่างชาติ กับน้องชายเรา เพื่อนเราทำ thesis เกี่ยวกับเด็กเร่ร่อน ก็เลยต้องลงไปคลุกคลีกับมูลนิธิเด็กแห่งหนึ่ง และเธอก็เป็นคนที่มองโลกในแง่ดีมาก พาเด็กๆ ในมูลนิธินั้นมาเที่ยวบ้านทุกวัน วันละสองสามคน บางครั้งยกโขยงกันมา 5-6 คน เด็กตัวเล็กๆ อายุสี่ห้าขวบก็ไม่เป็นไร แต่มีประเภทอายุ 16-17 จนถึง 25 ก็มี เป็นเด็กผู้ชายที่มีประวัติติดยา ค้ายา ขายตัว มาทั้งนั้น เราอึดอัดใจมาก บอกเพื่อนไปว่าขอความเป็นส่วนตัวได้ไหม เพราะบ้านเช่าหลังนี้ เราเช่ากันสามคน เรากับน้องชายเราก็รู้สึกเหมือนกันว่าอึดอัด มันไม่ใช่ว่าจะไม่ให้โอกาสคนที่เคยหลงทาง แต่การที่จะพาเด็กๆ เด็กหนุ่ม เด็กสาวมาบ้านทุกวัน วันละหลายๆ คน ใช้เวลาในบ้านวันละหลายชั่วโมง มันทำให้เราอึดอัด และเพื่อนบ้านเขาก็มองบ้านเราแปลกๆ หวาดระแวง ไม่ไว้ใจ พอเราพูดไป เพื่อนต่างชาติก็โกรธเรา หาว่าเราดูถูกเด็กซึ่งเป็น "น้องๆ" ของเขา จะแดกดันเราอีกว่าจะพามาให้หมดมูลนิธิเลย เวลาผ่านไปไม่นาน "น้องๆ" ของเธอก็ออกลาย เด็กหนุ่มวัย 25 ติดยาบ้าอย่างหนักก็เข้ามาที่บ้านเราตอนสามทุ่ม มาขอเงินไปเที่ยวงานฤดูหนาว มาด้วยสภาพที่เมายาหนัก กลิ่นคลุ้ง เพื่อนต่างชาติเราไม่อยู่บ้าน คนที่จำใจต้องให้เงินก็คือเรา น้องกระเทยอายุ 15 คนหนึ่ง ก็หอบเอาเด็กๆ ในบ้านนั้นมาที่บ้านเราสามสี่คนตอนทุ่มหนึ่ง แต่เพื่อนเราไม่อยู่บ้าน เรากลับบ้านแม่ เหลือแต่น้องชายอยู่บ้านเช่าคนเดียว น้องเราก็ไม่เคยรู้จักเด็กๆ พวกนี้เลย ก็เลยไม่เป็นอันทำงาน ก็ต้องนั่งอยู่หน้าบ้านกับเด็กๆ พวกนั้นมากกว่า 4 ชั่วโมง จนกระทั่งเพื่อนต่างชาติของเรากลับถึงบ้าน อีกครั้งหนึ่งที่หนักหนามาก น้องกระเทยวัย 20 กว่าๆ พาเพื่อนกระเทยอีก 2 คนมาหาเราที่บ้าน ตอนนั้นเพื่อนต่างชาติกลับต่างประเทศ น้องกระเทย 3 คนนั้นมาปั้นเรื่องหลอกเราว่าจะต้องรีบหนีไปพัทยา เพราะตำรวจจะจับเรื่องค้ายา อะไรก็ไม่รู้ บอกว่าเพื่อนเราให้มาเอาเงินที่เราไปก่อน แล้วเพื่อนเราจะจ่ายให้เราเองเมื่อกลับมา เอาเงินเราไป 2 พัน (เมื่อเกือบสิบปีก่อน) ต่อมาเมื่อเพื่อนกลับมา ถึงรู้ว่าเด็กมันแสบ ต่อมาไม่นานก็โดนจับเข้าคุกกันทั้งยวง โทษฐานค้ายา ได้ข่าวว่ามีการส่งจดหมายมาขอให้เพื่อนเราส่งถุงยางเข้าไปให้ด้วย.... จากคุณ : [NostalgiA] - [ 17 ม.ค. 52 02:03:21 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 17 ม.ค. 52 02:48:46 ]

ความคิดเห็นที่ 34 หมู่บ้านมีแต่บ้านสวยๆ ทั้งนั้น เข้าใจว่า ตั้งเป็นสำนักงานแล้วมีคนเข้ามาพลุกพล่าน ความเป็นส่วนตัวมันคงลดลง หมู่บ้านที่อยู่นี้ เป็นหมู่บ้านจัดสรรหรือเปล่าครับ ถ้าเป็น ก็ต้องมีนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจในการที่จะอนุญาตในการทำการต่างๆ นอกเหนือจากทำเป็นที่พักอาศัย การที่พูดคุยกับคนทั้งหมู่บ้านเป็นการดีครับ เพราะหลายคนตั้งใจจะอยู่หมู่บ้านนี้ (แน่นอน บางท่านอาจจะอยู่ตลอดชีวิต) ผมก็ชอบความสงบ ผมก็เลือกคอนโดและหมู่บ้านที่อยู่เป็นแบบที่พักอาศัยจริงๆ ไม่ได้อยากให้มีการทำเป็นโฮมออฟฟิส หรือ สำนักงานในคอนโด หรือมาทำการค้าการขายอะไร ผมเลือกของผมมาเป็นแบบนี้อยู่แล้ว 3 ปีกว่าที่ผ่านมา ทุกอย่างก็ดี จากคุณ : Christian Chang - [ 17 ม.ค. 52 09:07:34 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เข้าใจจขกท.นะคะ... ที่มีเพื่อนบ้านใหม่ที่ไม่เหมือนบ้านอื่น... คณะกรรมการหมู่บ้านพลาด ที่ไม่แจ้งลูกบ้านก่อน ไม่ให้ลูกบ้านเตรียมใจ แต่ถ้าการจัดการในหมู่บ้านดี เพื่อนบ้านดีทุกคนอย่างที่ว่ามา การช่วยเพื่อนบ้านใหม่ให้เค้ามีที่อยู่อาศัย มีสังคมที่ดีเหมือนเราคงไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงนี่คะ   แต่ถ้าเค้าสร้างปัญหา...ก็หาทางป้องกันไว้ (ที่ไม่ใช่การห้ามเข้ามาอยู่นะ) เป็นกำลังใจให้ค่ะ.. คห.32 คะ..ขอให้น้องๆ กลุ่มนั้นเป็นแค่คนกลุ่มน้อยในสังคมเถอะค่ะ จากคุณ : เอลิซาเบ็ธ - [ 17 ม.ค. 52 10:00:50 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อ่าน คห. 32 ของคุณ [NostalgiA]  แล้วน่ากลัวจังเลยค่ะ เป็นเรา เราคงไม่ยอมให้เข้ามาให้บ้านเด็ดขาด ไม่ใช่ว่าจะตั้งแง่รังเกียจเดียดฉันท์นะคะ .. แต่คนบางคน .. นิสัยมันเปลี่ยนกันไม่ได้ เผลอๆจะกลายเป็นสันดานอีก แล้วเราจะไปรู้ได้อย่างไรว่าคนไหนดี คนไหนเลว จากคุณ : 5 u e d * - [ 17 ม.ค. 52 10:41:57 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เห็นใจเจ้าของกระทู้ ผมว่าของแบบนี้ใครไม่เจอกับตัวเองก็คงพูดได้ ยิ่งถ้าบ้านมีเด็กเล็ก เราก็ยิ่งต้องเป็นห่วงความปลอดภัยขึ้นอีกมาก จากคุณ : Bogus.. - [ 17 ม.ค. 52 12:28:40 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ลักษณะดูเป็นหมู่บ้านส่วนบุคคลมากค่ะ ไม่ใช่ลักษณะหมู่บ้านแบบชุมชนเปิด เราว่าไม่ค่อยจะสมควรที่ให้เช่าเพื่อทำสถานที่แบบนี้เท่าไหร่อ่ะค่ะ กลัวว่าไปๆมาๆ จะเป็น เอ็นดูเขา เอ็นเราขาดน่ะสิคะ อย่าว่าใจดำเลยค่ะ หน่วยงานควรจะจัดสรรค์พื้นที่ให้ดีกว่านี้อ่ะค่ะ จากคุณ : remakamkaw - [ 17 ม.ค. 52 20:49:00 ]

ความคิดเห็นที่ 39 หมู่บ้านดูแลรักษาความสะอาดได้ดีจัง ต้นไม้ก็เยอะ ก็เหมือนกับชาวประจวบฯ หรือที่ไหน ๆ ต่อต้านโรงกำจัดขยะไม่ให้อยู่ใกล้บ้านตน แต่ก็ไม่ชอบใจที่ขยะล้นเมือง จากคุณ : วี - [ 17 ม.ค. 52 21:10:38 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ผมจะกลับมา รายงาน ความเคลื่อนไหว อีกครั้ง ในวันที่ 23/1/51 น่ะครับ พร้อมรูป และ รายละเอียด ต่างๆ ครับ ขอขอบพระคุณทุกๆ คน ณ ห้องชายคาครับ จากคุณ : k.seng - [ 17 ม.ค. 52 23:40:52 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นรูปบ้านแล้วอึ้ง ... จะเอาเด็กไปไว้ที่ไหนหมดเนี่ย จากคุณ : - f r a g i l e - - [ 18 ม.ค. 52 08:08:02 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นใจและเข้าใจจขกท.นะคะ เพราะเราอยู่บ้านก็ต้องการพักผ่อนต้องการความเงียบสงบส่วนตัว ถ้ามีบ้านพักเด็กและครอบครัว หรือมูลนิธิมาตั้งในหมู่บ้าน ความเงียบสงบอาจจะหายไปเพราะอย่างน้อยคงมีคนเข้า-ออกกันมากขึ้น ความจริงเค้าน่าจะไปหาที่ๆเป็นแปลงใหญ่เป็นสัดส่วนออกไปมากกว่านะคะ. จากคุณ : ผึ้งน้อยนำโชคชัย - [ 18 ม.ค. 52 09:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อุ๊ย! แล้วบ้านข้างๆบ้านหลังนั้นจะทำยังไงล่ะคะ อีกอย่างลักษณะบ้านแบบนี้ดูไม่เอื้ออำนวยที่จะเป็นบ้านพักเด็กได้เลย เห็นแบบนี้เราเห็นใจจขกท.สุดๆเลยค่ะ ถ้ามาอยู่ข้างบ้านเรา เราก็โวยเหมือนกันนะ ความสงบจะหายไปแน่ๆ เจรจากับเจ้าของหมู่บ้านได้มั้ย หมู่บ้านอาศัยจะเอามาทำที่แบบนี้ได้ยังไง -*- จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 18 ม.ค. 52 12:04:51 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ดูจาก #30 แล้ว.. ดูแล้วไม่เหมาะ่สมเลยเลยนะ..ที่จะทำเป็นที่พักเด็กและครอบครัว ลองรวมรายชื่อคนในหมู่บ้านที่ไม่เห็นด้วยดู เพื่อยื่นกับทางหน่วยงานนี้...ให้พิจารณาหาที่อื่นที่เหมาะสมกว่าค่ะ จากคุณ : เอื้อมดาว - [ 18 ม.ค. 52 13:39:38 ]

ความคิดเห็นที่ 45 รอท่านต่อไป3..................... จากคุณ : panu_01 - [ 18 ม.ค. 52 20:38:34 ]

ความคิดเห็นที่ 46 บ้านพักและครอบครัว ไม่เลวร้ายอย่างที่คิดนะครับ ดังนั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามันคืออะไร  ซึ่งมันไม่ใช่สถานพินิจ หรือเรือนจำนะครับ ผู้ที่เข้ามาพักอาศัย อันดับแรกจะเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ และคนขอทาน(เร่ร่อน) ลักษณะบ้านแบบนี้คนพักจะอยู่แบบชั่วคราวรอการส่งต่อไปยังหน่วยงานอื่นครับ เช่น รอการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด หรือว่า รอย้ายเข้าสถานสงเคราะห์ครับ โดยผู้รับบริการส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงและเด็กครับ  ทั้งนี้ การพักอาศัยในแต่ละครั้ง ไม่เกิน 5-10 คนหรอกครับ และอยู่ไม่นานครับอาจจะ 1-10 วันต่อราย ซึ่งในบางเดือนอาจจะไม่มีผู้พักอาศัยเลยครับ เรื่องการเช่านั้น เนื่องจากเป็นหน่วยงานใหม่ของกระทรวง จึงทำให้มีปัญหาเรื่องสถานที่ในการก่อสร้างและงบประมาณสร้างแบบถาวร    เกือบทุกจังหวัด ตอนนี้เช่าบ้านหรือตึกแถวอยู่ครับ   ผมทำงานร่วมกับบ้านพักเด็กหลายครั้งครับ ทั้งสมุทรสาคร และสงขลา ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ ไปที่ไรเจอคนมาพักแค่ 2-5 คนเท่านั้น เพื่อรอการส่งกลับครับ หน่วยงานนี้เป็นหน่วยงานราชการครับ ไม่ใช่มูลนิธิ ดังนั้นความรับผิดชอบจะเป็นของหน่วยงานรัฐ นอกจากนี้เค้ายังจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยด้วย  ถ้ามองในแง่ดี จะมีคนดูแลบ้านในยามที่เราไม่อยู่เพิ่มขึ้นด้วยนะครับ ถ้ามาตั้งใกล้บ้านผม ผมไม่ปฏิเสธ ครับ ปล.1.ถ้าจะทำบุญ ก็ไม่ต้องไปวัดครับ นำอาหารหรือปัจจัยไปสนับสนุนหน่วยงานเหล่านี้ก็ได้ครับ อิ่มบุญและอิมใจครับ...     2. คนจน ไม่ใช่โจร ครับ... จากคุณ : เด็กหญิงปรางค์ - [ 18 ม.ค. 52 21:17:58 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ทีแรกกะจะว่าคนที่บอกว่าอย่าคิดมาก เอ่อบ้นผมอยู่ใกล้เรือนจําครับโคตรคิดมากเลย สารพัด แต่มาดูภาพของจขกทแล้วบ้านไม่น่าจะใช้รองรับเด็กจํานวนมากแบบสถานพินิจนะ รองถามว่าจะใช้ทําอะไรก่อนดีกว่า จากคุณ : ... - [ 18 ม.ค. 52 21:49:57 A:192.168.0.17 X:125.24.204.153 TicketID:197807 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อ่าน คห.46 แล้ว ก็ยังไม่เห็นด้วยอยู่ดีค่ะ จากคุณ : remakamkaw - [ 19 ม.ค. 52 05:10:03 ]

ความคิดเห็นที่ 50 มาเข้าใจหัวอกเจ้าของกระทู้ค่ะ ขอให้ได้ทางออกที่ดีนะคะ ถึงจะไม่มีปัญหาเรื่องความน่ากลัว แต่คิดว่าความสงบคงลดลงค่ะ จากคุณ : Morka - [ 19 ม.ค. 52 12:55:08 ]

ความคิดเห็นที่ 51 โอ้ว ข้อมูลในกระทู้นี้เริ่มแน่นขึ้นเรื่อยๆ จะเห็นว่าคนไทยไม่ได้ห่างไกลกันเลยนะคะ เราก็เลยงงว่า อ้าว แล้วทำไมคนในชุมชนของ คุณ จขกท ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงมากพอหละ พวกเขาได้รับผลกระทบโดยตรงตั้งแต่ก่อนมีบ้านนี้ด้วยซ้ำ จริงๆ เราชอบมากที่ หน่วยราชการนี้จะทำ "บ้านพักเด็กและครอบครัว" เพราะข้างนอกนั่นมีคนต้องการความช่วยเหลืออีกเยอะ แต่คุณขา โซนนิ่ง หน่อยดีมั๊ยคะ จะบอกว่า โอเคที่นี่ดูดี เรามาเช่าชั่วคราว (นานเท่าไหร่??) คนไทยด้วยกันควรมีเมตตา ช่วยเหลือกัน ทำบุญ ถูกกกกกกก แล้วสถานที่จริงของหน่วยงานนี้อยู่ที่ไหนคะ อ้อ อยู่ในอนาคต ซึ่งต้องค้นหากันต่อไป  ชาวบ้านก็ต้องหวาดระแวงเป็นธรรมดา สมมติแบบโหดๆ ชายคนนึงซ้อมภรรยาและลูก หน่วยงานนี้ช่วยเหลือเหยื่อได้ทัน มาพักผ่อนที่บ้านน่ารักหลังนี้ เกมจบแต่คนไม่จบ ชายคนนั้นเกิดตามมาถูก ลากมีดลากปืน ใครเสี่ยงคะตอนนี้ ถ้ามี รปภ มีกี่คน เฝ้าหน้าบ้าน หรือว่าเฝ้าหน้าหมู่บ้านคะ พอดี๊ตอนนั้นมีเด็กๆ ในหมู่บ้านกำลังปั่นจักรยานจะไปว่ายน้ำ เกิดโชคร้ายโดนลูกหลง ความผิดอยู่ที่ใครคะ....สามีที่ขาดสติ หน่วยงานราชการ หรือว่า.... คนในหมู่บ้านเองหรือเปล่าที่ไม่คิดให้รอบคอบ ยอมให้หน่วยงานนี้เกิดขึ้นในหมู่บ้านของตัวเอง ทั้งๆ ที่หลายหมู่บ้านเขาก็ต่อต้านสำเร็จ เราไม่ได้อยู่หมู่บ้านนี้นะคะ ไม่ได้ไปเที่ยวอยุธยาเป็นปีแล้วด้วย แต่เราเข้าใจ และเห็นใจทุกฝ่าย เห็นด้วยว่าจำเป็นต้องมีบ้านที่ช่วยเหลือคน แต่จะอยู่ที่ไหน?..... ก็ขอให้โชคดีทั้งหน่วยงาน และคุณ จขกท ค่ะ ....ใจล่มๆ เบาๆ กันนะคะ.... นิตยสารเล่มโปรดของเราอุทิศหนึ่งหน้าให้กับหัวข้อ ประมาณ ตามหารอยยิ้มสยาม เรายังหวังนะว่าคนไทยจะกลับมายิ้มอย่างมีความสุขได้บ่อยขึ้นกว่านี้ ทั้งๆ ที่พอเจออะไรหลายๆ อย่าง......เราก็ยิ้มไม่ออกเหมือนกัน . จากคุณ : nurosemary - [ 19 ม.ค. 52 13:26:43 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เข้าใจและเห็นใจ จขกท ครับ เป็นผมก็รับไม่ได้เหมือนกัน เพราะ "บ้าน" สำหรับผมแล้วเป็นที่พักผ่อน ทั้ง"กาย" และ"ใจ" ขอให้ผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้ด้วยดีครับ ======================== *** อยากให้บ้านของพวกมือถือสาก ปากถือศิล มีพวกบ้านของกรมนี้ไปอยู่ติดบ้านจัง ไม่รู้ว่าจะมาปากดีได้รึเปล่า ?????? หรือถ้าใครใจบุญมากๆ ก็ทำเรื่องขอไปอยู่ด้วยที่บ้านซัก คน สองคนมั้ยครับ ======================== จากคุณ : กระเพาไก่ไข่ดาว - [ 19 ม.ค. 52 22:06:24 ]

ความคิดเห็นที่ 53 Well, it "may" or "may not" have any problem.... But, for me, even "possibility" is unacceptable krub............. จากคุณ : pocco - [ 19 ม.ค. 52 22:34:00 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เห็นใจ จขกท มากๆ ค่ะ พยายามเยอะๆนะคะ จากคุณ : พริมภิพัทรา - [ 19 ม.ค. 52 23:30:56 ]

ความคิดเห็นที่ 55 บ้านเป็นที่พักสำหรับ "กาย" และ "ใจ" จริงๆ ครับ   สำหรับบ้านพักเด็กและครอบครัว ก็เป็นที่พัก "กาย" และ "ใจ" ของผู้ที่มีปัญหาเช่นเดียวกันครับ ประเด็นในกรณีนี้ เค้ามาอยู่แบบชั่วคราวนะครับ เพราะว่า กำลังรอการก่อสร้างแบบถาวร ซึ่งทุกจังหวัดประสบปัญหาแบบนี้ครับ ดังนั้น ต้องหาบ้านเช่าเป็นสำนักงานชั่วคราวไปก่อน ดังนั้น เดี๋ยวเค้าก็ไปครับ ประเด็นที่ผมรู้สึกกับเรื่องนี้ คือ ทัศนคติของสังคมที่ไปตั้งแง่รังเกลียด หรือมองในทางลบกับคนกลุ่มนี้...ผมขอย้ำว่าเค้าไม่ใช่โจรหรือผู้ต้องหานะครับ  เค้ามาพักฟื้นชั่วคราวเท่านั้น กรณีที่น่าสนใจ คือ ซอยข้างโรงหนังเมเจอร์ฮอลิวู๊ค ตรงห้าแยกปากเกร็ด ตรงนั้นเป็นซอยสถานสงเคราะห์เลยครับ บ้านเรือนก็เยอะแยะครับ ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ก็อยู่กันอย่างปกติสุข ผมอยากให้ จขกท ใจเย็นๆ ครับ บางครั้งอาจจะคิดมากเกินไป หรือวิตกเกินไปเท่านั้นเองครับ  คุณอาจจะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันก็ได้ ที่สำคัญ เคยลองติดตามข่าวมั้ยล่ะครับว่า ส่วนใหญ่ข่าวเรื่องคนฆ่ากันตาย ทำร้ายกันตายในชุมชนหรือหมู่บ้าน ก็คนในหมู่บ้านที่สุมหัวดื่มเหล้ากัน หรือจอดรถขวางหน้าบ้านกัน แล้วก็อาฆาตแค้นทำร้ายกัน เพราะต่างคนต่างก็ใหญ่โต ยอมกันไม่ลง...ไม่มีคนจากบ้านพักหรือสถานสงเคราะห์มาฆ่าใครหรอกครับ   คนที่เค้ามานอนพักในบ้านพักเด็กและครอบครัว เค้าไม่ทำอันตรายใครหรอกครับ ขอแค่ที่ซุกหัวนอน แล้วก็จากไปครับ.. ประเด็นเรื่องประชดประชัน ผมขอเถอะครับ..ผมไม่ได้ว่าคนคัดค้านใจดำเลย เพราะทุกคนมีสิทธิ์กังวลได้..มันหักล้างกันด้วยข้อเท็จจริงครับ ไม่ใช่อารมณ์... จากคุณ : เด็กหญิงปรางค์ - [ 20 ม.ค. 52 09:08:26 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เรียนคุณข้างบน พอดีเราอ่านเจอ คงเปรียบเทียบลักษณะแวดล้อมบ้านเจ้าของกระทู้ กับ สถานสงเคราะห์ที่ปากเกร็ดไม่ได้ค่ะ สถานสงเคราะห์ที่ปากเกร็ดเนื้อที่ค่อนข้างเยอะ รั้วรอบขอบชิด ไม่มีการรบกวนกัน หรือถ้ามีคงน้อยมาก แต่เมื่อเทียบกับหมู่บ้านจัดสรร มันต่างกันโดยสิ้นเชิง เพื่อนหลาย ๆ คนในพันทิพคงเข้าใจ ตัวบ้านห่างจากรั้วแค่ไม่กี่เมตร บ้านเราพูดดัง ข้างบ้านก็ได้ยินค่ะ เหมือนกัน หากข้างบ้านทะเลาะหรือเถียงอะไรกัน เราก็ได้ยิน ในบรรดาเพื่อนบ้านเราที่มีมรรยาทเค้าก็ไม่พยายามส่งเสียงหรือไม่ทำอะไรที่เป็นการรบกวนกันเอง กลับกันหากเป็นสถานสงเคราะห์ จะบ้านอะไรก็แล้วแต่ จำนวนคนมาก กิจกรรมก็จะมากตามเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ไหนจะแขกที่มาเยี่ยมเยียน บุคคลที่เข้ามาติดต่อ บ้านจัดสรร ไม่เหมาะทำอะไรเลย นอกจากการอยู่อาศัยค่ะ กรมพัฒนาฯเอง ควรจะคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย เราเข้าใจเองว่า ราคาค่าเช่าคงจะไม่แพง ทำให้พิจารณาจะเช่าจากที่หมู่บ้านนี้ สุดท้ายต้องบอกว่าเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ค่ะ และยังไงอยากให้เจ้าของกระทู้เข้ามาอัพเดทข้อมูลนะค่ะ จากคุณ : มนอุ๊งอิ๊ง - [ 20 ม.ค. 52 10:17:26 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ประเด็นของผมคือ พวกที่บอกให้มองแต่ใน "แง่ดี" ถ้าเจอกับ"ตนเอง" จะสบายใจ เหมือนดังที่บอกรึเปล่า??????? ชุมชน หมู่บ้าน ที่เราเลือกจะใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว บางคนอาจจะต้องทุ่มเท เกือบทั้งหมดของชีวิต ถ้าบ้านของกรมฯเข้ามาอยู่แล้ว "ไม่มีอะไร" ก็ถือว่าเสมอตัว แต่ถ้ามาอยู่แล้วมี "ปัญหา" ล่ะ เป็นคุณ จะนอนหลับอย่างสบายใจ  เหรอครับ??????? จากคุณ : กระเพาไก่ไข่ดาว - [ 20 ม.ค. 52 11:50:12 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เห็นด้วยกับคุณกระเพาไก่นะครับ... ไม่ได้บอกว่าจะรังเกียจคนเหล่านี้นะครับ ยินดีด้วยที่จะทำบุญ หรือเอาเงินไปบริจาค แต่นี่มันหมู่บ้านจัดสรรนะครับ คนที่ซื้อบ้านแบบนี้ก็เพราะต้องการสภาพแวดล้อมที่ดี และมีความสงบ จริงอยู่ที่พวกเค้าก็อาจจะอยู่กันอย่างสงบก็ได้ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าเมื่อนานๆ ไป จะเป็นยังไง... ท่านทั้งหลายที่หาว่า จขกท ใจดำ บ้างล่ะ เห็นแก่ตัวบ้างล่ะ บ้านของพวกท่านอยู่ไหนครับ ลองติดต่อให้มูลนิธินี้ เข้าไปตั้งอยู่ข้างๆ บ้านท่านสิครับ จะได้ทำบุญได้สะดวก... บอกแล้วว่า ไม่เจอกับตัว ไม่รู้หรอกครับ.. ทางราชการต่างหาก ที่ต้องจัดการหาสถานที่ที่มันเหมาะสมกว่านี้ ถึงแม้จะเป็นการเช่าก็ตาม ประเภทบ้านเดี่ยวๆ สร้างในที่ดินตัวเอง แล้วปล่อยไว้เฉยๆ ไม่มีคนอยู่น่ะ ออกจะเยอะ ผมว่าหาไม่ยากหรอกครับ จากคุณ : Carrick - [ 20 ม.ค. 52 14:30:12 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ผมเข้าใจ จขกท. นะครับ ว่าซื้อบ้านในหมู่บ้านดีๆ ก็เพื่อความสงบ เป็นส่วนตัว สภาพแวดล้อมดี หมู่บ้านส่วนใหญ่ก็ชูเรื่องนี้มาเป็นจุดขายทั้งนั้น ใครก็อยากได้เพื่อนบ้านในระดับเดียวกัน เป็นทาร์เก็ตของโครงการบ้านที่เค้าตั้งมาไว้แล้ว วันดีคืนดีก็มีมูลนิธิอะไรไม่รู้มาอยู่ใกล้ๆบ้าน ก็ลองให้พวกผู้มีน้ำใจ เอาบ้านพักเด็กติดยา พวกขี้ขโมย มาอยู่ติดบ้านพวกเค้าบ้าง ก็คงจะรู้อ่ะครับนรกมีจริง ผมไม่ใช่คนดีเด่หรอกครับ ผมเป็นคนธรรมดา รายได้ธรรมดา เก็บเงินมาเพื่อซื้อบ้านในสภาพแวดล้อมที่ดี ผมก็มีสิทธิ์ที่จะแสดงอาการยี้กลุ่มคนที่จะมาทำลายความเป็นส่วนตัวของผมและเพื่อนบ้านได้ คนมาจากสลัม ร้อยพ่อพันแม่ ที่ยังไม่ได้ถูกกล่อมเกลา ยังมีสันดานดิบหยาบเต็มตัว เกิดวันไหนน้องสาว ลูกสาวเราเดินกลับบ้านดึกๆคนเดียว แล้วเจอไอ้พวกสันดานดิบที่ยังไม่ได้กล่อมเกลา(เพราะรอส่งตัวอยู่)ฉุดไปล่ะครับ คุณผู้มีน้ำใจทั้งหลายรับผิดชอบได้มั้ยครับ ผมว่าบ้านพักอะไรเนี่ย ก่อนที่จะให้คนอื่นมาเห็นใจ หัดเห็นใจและเกรงใจในสิทธิ์ของคนอื่นก่อนดีมั้ยครับ ผมไม่อยากได้พวกเล่นยาบ้า (ที่ยังไม่ได้ดัดสันดาน เพราะอยู่ระหว่างรอการส่งตัว) มาว่ายน้ำในสระเดียวกันหรอก บอกตามตรง แต่อย่าไปถาม พม. ซะให้ยาก พัฒนาหอกไรไม่รู้ ดูเรื่องปลากระป๋องเป็นตัวอย่าง กระทรวงนี้วันๆไม่ทำไรหรอกครับ รัฐมนตรีลอยไปลอยมา ประชาสัมพันธ์ห่วยแตก ทำงานเหมือนไม่อยากทำงาน เพื่อนนักข่าวประจำสายนี้บ่นให้ฟังประจำ ถ้าคิดจะให้พม.หาที่ดินให้ คงยากเกิน ต้องดูก่อนว่าใครจะได้กินเท่าไหร่ ลงตัวเมื่อไหร่ก็คงได้ที่ป่าช้าเน่าๆมาทำบ้านพักเด็ก งบเยอะ แต่ที่ถูกและเลว เป็นเรื่องธรรมด๊า...ธรรมดาของราชการ แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 52 15:18:28 จากคุณ : ย่ามฝัน - [ 20 ม.ค. 52 15:16:56 ]

ความคิดเห็นที่ 60 1) เท่าที่ผมตามอ่านดู เราถกเถียง บน การคาดการณ์ เอา ซะส่วนใหญ่ อะครับ ไม่ค่อยมีข้อมูล ของบ้านพักเด็กและครอบครัว ไม่รู้ว่า มีเด็กกี่คน อายุช่วงไหน หญิง ชาย กี่คน เด็กมาจากไหน...มีเจ้าหน้าที่อยู่ที่บ้านกี่คน ตารางเวลาในแต่ละวันของเด็กเป็นอย่างไรบ้าง......น่าจะต้องมี ข้อเท็จจริงให้มากกว่านี่ ไหมครับ 2) ในการ ซื้อ หรือ เช่าบ้านจัดสรรใดๆ ผมเข้าใจว่าเป็นสิทธิอันชอบธรรมของปัจเจกเลยครับ ในยุคสมัยนี้ คุณมีเงินก็ทำได้หมดแหละครับ ไม่มีกฎหมายใดๆ ที่บังคับให้ต้องทำประชาพิจารณ์..ไม่เหมือนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่  หากแต่ในทาง สังคมการได้พูดคุยกันก่อนก็เป็นสิ่งจำเป็นครับ จะได้ทำให้เราอยู่ร่วมกันได้ในสังคม จากคุณ : หมูอวบ - [ 20 ม.ค. 52 16:11:15 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ไม่เหมาะ เพราะที่จอดรถน้อย แค่ 1-2 คันเอง จะมาจอดบนถนนหน้าบ้าน ทำให้เกะกะครับ ถ้าคิดว่า ตรงนั้นคือสถานที่ราชการ แล้วที่่จอดรถหละ? จากคุณ : เขมรดำดิน - [ 20 ม.ค. 52 22:24:39 ]

ความคิดเห็นที่ 62 บ้านคือ สิ่งที่สุดๆ ของชีวิตแล้ว ใครมีบ้านที่สงบยิ่งถือว่าโชคดีมากๆ เป็นเรา เราลงชื่อ คัดค้าน ใครจะว่าเห็นแก่ตัวอะไรนั่นมันเป็นเรื่องของคนอื่นพูด แต่เราจะไม่ทำให้ตัวเราเองอึดอัด เดือดร้อน ถ้ามีความเป็นไปได้มากอยู่ จริงอยู่ว่า มันเป็นเพียงการคาดการณ์ จริงอยู่ ว่าเด็กมีทั้งดี ทั้งเลว และที่ดี จริงๆแล้วดีมากกว่าเลวซะด้วย แต่ถ้ารัฐเองไม่มีคำตอบอะไรให้แก่หมู่บ้านได้ รับรองได้ แล้วจะเอาน้ำหน้าที่ไหนมาหวังให้คนเค้าไม่คาดการณ์อย่างสิ่งที่ฟังข่าวอยู่ ในแต่ละวัน ยิ่งบอกว่าอยู่คนละไม่เกิน 10 วันกับพวกก่อนได้รับการดัดนิสัย หวาน สิคะ 10 วันนี้จะก่อปัญหาแค่ไหนก็ได้ แถมเวียนเทียนหน้าใหม่มาเรื่อยๆ ต้องดูนิสัยเด็กกลุ่มใหม่เรื่อยๆ อย่าหวังเลยว่าได้กลุ่มที่เรียบร้อยเสมอ บ้านต่างจังหวัด หนึ่งล้านบาทก็สร้างบ้านดีๆ ได้แล้ว ถึงจะไม่เลิศมีสวนอย่างในรูป ทำไมไม่ทำ จากคุณ : MoonClock~* - [ 21 ม.ค. 52 10:01:49 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ไม่แน่ใจว่ามันเป็นยังไงบ้านพักแบบนี้ ลองให้ทางโน้นเขาอธิบายแล้วมีเงื่อนไขกันไปเลย ถ้ามีคนเดือดร้อนหรือมีข้อร้องเรียนต้องรับฟังและออกไป ไม่งั้นเกิดปัญหาไม่มีใครรับผิดชอบ ทำเป็นลายลักษณ์อักษร หรือถ่ายวีดีโอ ไว้เลยตอนที่เขาชี้แจง เผื่อในอนาคต ไปฟ้องร้องกันได้ จากคุณ : peggo - [ 21 ม.ค. 52 10:58:19 ]

ความคิดเห็นที่ 64 บ้านหลังกะติ๊ดเดียวเอง จะอยู่กันพอเหรอ แปลกใจว่าทำไมไม่หาสถานที่แบบซื้อที่ดินปลูกบ้านให้อยู่กันเป็นเรื่องเป็นราวไปเลย มาเช่าเอาอย่างนี้แปลกๆ แล้วเจ้าของบ้านก็แปลกนึกยังไงให้เค้าเช่า งานนี้มีนอกมีในแหง่มๆ บ้านข้างซ้ายจากในรูปซวยโคตรๆ เตรียมตัวทำรั้วใหม่ได้เลย ปล.ถ้าทำเป็นสนง.เฉยๆผมว่าพอทนนะ ไม่ใช่แบบเอาเด็ก หรือครอบครัวที่ปัญหามาอยู่ แต่ดูจากลักษณะบ้านแล้วผมว่าเค้าอาจทำแค่สนง.หรือเปล่า แต่ก็จะมีปัญหาที่จอดรถแบบที่ข้างบนเค้าว่ากันแหละครับ จากคุณ : Goodty - [ 21 ม.ค. 52 12:21:01 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เห็นใจหน่วยงาน  แต่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำค่ะ   เอาใจช่วย จขกท. ค่ะ จากคุณ : mawantha - [ 21 ม.ค. 52 13:51:12 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ผมอยากให้ประเทศไทยกลับไปอยู่แบบสมัยก่อนจัง เดี๋ยวสิทธิส่วนบุคคลสูงเหลือเกิน ทำอะไรก้อคิดแค่ยกระดับคุณภาพชีวิตตัวเอง หากไม่มีผลประโยชน์ แทบไม่มีใครคิดถึงผู้อื่นเลย จากคุณ : กลุ้ม - [ 21 ม.ค. 52 21:04:36 A:117.47.22.74 X: TicketID:199091 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ตอนแรกไม่เข้าใจว่าบ้านที่ว่านี้มีไว้เพื่ออะไร แต่พออ่านแล้วก็พอเข้าใจคร่าวๆ ค่ะ  แอบงงๆ ว่าบ้านหลังเล็ก จะอยู่ได้กี่คนนะนั่น   โดยส่วนตัวเห็นใจบ้านที่จะต้องติดกับบ้านพักที่ว่านี้มากเลย แล้วก็เข้าใจคุณ จขกท. ด้วยค่ะ  ถ้าเป็นเราก็คงไม่ต้องการ เหมือนกัน แหะๆ จากคุณ : roypimz - [ 21 ม.ค. 52 22:57:33 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับบ้านพักเด็กและครอบครัวมาให้ดูครับ (จาก http://www.banpakdekkorat.go.th/about/about.htm) วัตถุประสงค์    1.เพื่อเป็นศูนย์รับ – แจ้งข่าวสาร และให้คำแนะนำปรึกษาปัญหาตลอด จนการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหา ตลอด 24 ชั่วโมง  (1300)    2.เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานกรณีเด็กหรือครอบครัวที่มีปัญหาให้เป็นที่   พักพิงชั่วคราว เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก่อนส่งกลับภูมิลำเนาเดิม หรือเพื่อหาวิธีการสงเคราะห์ตามความเหมาะสม    3.เพื่อเป็นศูนย์ประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชน    4.เตรียมเป็นสถานแรกรับ  พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ภารกิจ     1.เป็นที่พักพิงแก่เด็ก  สตรี  และผู้ประสบปัญหาทางสังคม     2.เป็นศูนย์รับแจ้งข่าวสาร และให้คำปรึกษา     3.เป็นสถานแรกรับตาม พ.ร.บ คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 โดยให้ การสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก     4.ออกเยี่ยมบ้าน สอบข้อเท็จจริง และติดตามหาญาติ ประสานส่งคืนครอบครัว หรือส่งต่อไปรับการอุปการะ       ในสถานสงเคราะห์ กลุ่มเป้าหมาย   1. เด็กที่มีพฤติตนไม่สมควรแก่วัย  ตามประกาศของคณะปฏิวัติ  ฉบับที่ 294 เด็กที่มีปัญหาความประพฤติ เด็กเร่ร่อน เด็กขอทาน   2. เด็กกำพร้าอนาถาไร้ญาติขาดที่พึ่ง ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนทุกข์ยาก ที่มีอายุแรกเกิด ถึง 18 ปีบริบูรณ์   3. ครอบครัวที่อยู่ในระหว่าง ติดตามสามี ภรรยาหรือบุตรที่พลัดหลงแต่ขาดทุนทรัพย์ในการหาที่พักพิงหรือเดินทางกลับภูมิลำเนา   4. เด็กที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือถูกกระทำทารุณด้วยวิธีต่าง ๆ   5. เด็กและสตรีที่ถูกล่อลวงข่มขืนละเมิดทางเพศไม่ว่าจะถูกบังคับหรือ กระทำไปโดยสมัครใจ   6. สตรีตั้งครรภ์นอกสมรส ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน ไม่มีที่พัก อาศัย   7.  ผู้ด้อยโอกาส และผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนทุกประเภท เห็นด้วยกับ คห. 60 นะครับ ผมว่าเรายังไม่รู้ว่าบ้านพักนี้เค้าจะทำอะไรบ้าง แต่ผมก็เดาว่าคงไม่ได้มีไว้สำหรับกลุ่มเป้าหมายทั้ง 7 กลุ่มข้างบน ถ้าเป็นบ้านสำหรับกลุ่ม 2-7 ผมรับได้นะ แต่ถ้าเป็นกลุ่ม 1 ด้วย (พวกประพฤติตนไม่สมแก่วัย) ก็อาจจะไม่เหมาะ อย่างผมอยู่คนเดียวก็ไม่ค่อยกลัวอะไร แต่มีเพื่อนบ้านบางบ้านที่มีคนแก่อยู่บ้านกลางวันคนเดียวก็เห็นใจเค้านะ จากที่อ่านๆ ดูผมว่าคงไม่ใช่กลุ่มที่น่ากลัวขนาดเป็นพวกรอดัดนิสัย หรือมีคดีร้ายแรงอะไร เข้าใจพวกนั้นต้องไปอยู่สถานสงเคราะห์มากกว่าบ้านพักเด็กฯ (ไม่ค่อยมีความรู้นะครับ เพิ่งไปลองหาจากกูเกิ้ลมา) มีคอมเมนต์นิดนึง อย่าโกรธกันนะครับ ผมว่าเราน่าจะหาข้อมูลซักนิดก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์อะไร ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยนะครับ แล้วก็อย่าโกรธกันเพราะความคิดไม่ตรงกันเลยครับ จากคุณ : The Tao of Pooh - [ 22 ม.ค. 52 08:22:53 ]

ความคิดเห็นที่ 69 อืม..................แล้วในอยุธยา  มันไม่ที่อื่นอีกแล้วเหรอค่ะ  บ้านหลังแค่นั้นมันจะพอเหรอค่ะ ??? กะด้วยตาก็ 3 นอน เองนะ ของราชการก็น่าจะไปหาที่อื่นนะคะ   สร้างเองก็ได้  มาเช่าระยะยาว เพื่ออะไร ไม่เข้าใจ ???    ไปสร้างใหม่ หน้าหมู่บ้านเลยก็ได้ ถามหน่อยว่าบ้านหลังนั้น   เมื่อก่อนเป็นบ้านของใคร  เจ้าของเป็นใคร ทำไมปล่อยให้เช่า หมู่บ้านก็คือหมู่บ้าน   ไม่ใช่สำนักงาน   หรือสถานที่ราชการ  นะค่ะ อิฉันเองก็คงเป็นคนแล้งน้ำใจเหมือนกันมั้งนี่ จากคุณ : PaNok@WanDeRer - [ 22 ม.ค. 52 22:13:12 ]

ความคิดเห็นที่ 70 หมู่บ้าน ..มันจะอยู่ลึกลับเกินไปไหม จะเข้าออกก็ลำบากสำหรับผู้ที่จะมาขอความช่วยเหลือหรือเปล่า ? ทำไมไม่ไปเช่าตึกแถวติดหน้าถนนล่ะ แบบมีสามชั้นสี่ชั้นอย่างนี้น่าจะถูกกว่า และ ไม่มีปัญหาเหมือนมาเช่าบ้านในหมู่บ้านแบบนี้ด้วย เห็นด้วยกับข้างบนค่ะ  คือมันไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง จากคุณ : NATTI นัทตี้ - [ 23 ม.ค. 52 02:57:21 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ไม่ใช่ว่าไม่เห็นใจเรื่องการช่วยเหลือสังคม สำหรับผู้ที่ที่มีปัญหา โดยเฉพาะที่เกิดกับเด็กและสตรี แต่มันอยู่ที่ความเหมาะสมในการเอาไปไว้ในหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งเป็นที่ปิดค่ะ ถ้าดูบ้านพักอื่นๆ จะเห็นว่าอยู่ในที่เปิด อยู่ในย่านที่เป็นชุมชน มีผู้คนมากมาย ลองมาดูกันค่ะว่าลักษณะปัญหาที่ทางบ้านพักจะเข้าไปช่วยเหลือ เป็นอย่างไรบ้าง และคนที่ทางบ้านรับไปดูแล ซึ่งมาจากร้อยพ่อ พันแม่ เราไม่รู้นิสัยหรือคนที่เกี่ยวพันกับเค้า ตัวอย่าง 1 รวบ "สก๊อยเกิร์ล" แม่เล้าเด็ก พา3โจ๋ม.3ขายกาม "เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 12 มี.ค. พ.ต.อ.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผกก. สภ.บางปู อ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีกลุ่มวัยรุ่นหญิงลักษณะเหมือนเด็กสก๊อยเกิร์ลซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์แข่งซิ่ง ลักลอบขายบริการพร้อมกับให้เบอร์โทรศัพท์มือถือมาด้วย จึงสั่งให้ พ.ต.ท.บุญชิน วุฒิกุล รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.วัชระ ชัยเพ็ชร์ สว.สป. พ.ต.ต.ธรรศกร ก้อนทอง สว.สส. ....................................................................................(เนื้อข่าวลงรายละเอียด)......................... ............................................................................................................................................. ด้าน พ.ต.ท.ปภาณ วงศ์ชนเดช สารวัตรเวร สภ.บางปู เจ้าของคดี เผยว่า เจ้าหน้าที่นักพัฒนาสังคมจากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการ มารับเด็กไปเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูสภาพจิตใจ เป็นการให้โอกาสเด็กที่ถูกล่อลวงกระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ให้มีโอกาสปรับตัว และใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อีกครั้ง ส่วนนายสุรชัยจะส่งฝากขังศาลจังหวัดสมุทรปราการในวันรุ่งขึ้น สำหรับ น.ส.โบว์นำตัวส่งสถานพินิจฯ จังหวัดสมุทรปราการระหว่างดำเนินคดี" แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 52 04:45:20 จากคุณ : remakamkaw - [ 23 ม.ค. 52 04:31:51 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ตัวอย่าง 2 บ้านพักเด็ก จ.มุกดาหาร ประกาศหาญาติ (3/12/2008)             ด้วยจังหวัดมุกดาหาร ได้รับรายงานจากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัด มุกดาหาร ว่า ได้รับตัวชาย ไม่ทราบชื่อ ไม่ทราบนามสกุล เข้าคุ้มครองสวัสดิภาพ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2551  จากการสัมภาษณ์เพื่อเก็บข้อเท็จจริง เบื้องต้นบุคคลดังกล่าวไม่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองได้ โดยคาดเกณฑ์อายุราว 30 ปี รูปร่างสันทัด ไว้ผมยาว ผิวคล้ำ มีอาการทางจิต เป็นบุคคลเร่ร่อน พักอาศัยอยู่ศาลาริมทาง   ทางไปบ้านนาโปใหญ่ (เส้นทางไปจวนผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร)   จังหวัดมุกดาหาร จึงขอประกาศให้บิดา มารดา หรือผู้ที่เป็นญาติ นำหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปติดต่อรับบุคคลดังกล่าว ได้ที่ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร โทรศัพท์หมายเลข 0-4266-0553 ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 17 ธันวาคม 2551 หากพ้นกำหนดจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป จากคุณ : remakamkaw - [ 23 ม.ค. 52 04:33:59 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ตัวอย่าง 3 "นางปวีณา กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี โทร. เข้ามาแจ้งว่ามีการบังคับลูกไปเป็นขอทานและขโมยของตามร้านค้า จึงเข้ามาตรวจสอบ โดยพ่อแม่เด็กมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีลูก 6 คนคนโตแยกครอบครัวไปแล้ว ส่วนที่เหลือพักอาศัยอยู่รวมกัน ซึ่งเพื่อนบ้านแจ้งให้ทราบว่า ตอนเช้าแม่เด็กจะพาเด็กๆ ออกจากบ้าน ไปขอทานหรือขโมยของก่อนกลับมาในตอนค่ำ โดยพ่อแม่เด็กจะมีเงินกลับมาซื้อเหล้ากิน ส่วนเด็กๆ ก็มีเงินซื้อขนมกิน บางครั้งไม่ได้เงินกลับมาเด็กก็จะถูกทำร้าย นอกจากนั้นยังทราบว่า เด็กอาจถูกกระทำชำเราด้วย จึงเข้ามาช่วยเหลือโดยประสานศูนย์คุ้มครองชุมชน ให้รับเด็กไปดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัวต่อไป" พ่อแม่ของเด็ก อาจมาสร้างปัญหาต่อได้! จากคุณ : remakamkaw - [ 23 ม.ค. 52 04:36:05 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ตัวอย่าง 4 "เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 มิ.ย. ที่ห้องประชุมสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ขอนแก่น นายเจตน์ ธนวัฒน์ผวจ.ขอนแก่น ร่วมประชุมคณะทำงานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก กรณีศูนย์ลูกรัก ตั้งอยู่เลขที่ 139 หมู่ 5 บ้านหญ้าคา ต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น เป็นศูนย์เลี้ยงเด็กกำพร้าเอกชนที่มีพฤติกรรมทารุณกรรมเด็ก เพื่อหาข้อสรุปและดำเนินการขั้นเด็ดขาด ...... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... นายเจตน์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุเด็กกำพร้า 8 คนถูกทารุณกรรมอยู่ในศูนย์ ทำให้เด็กทนไม่ไหวหลบหนีออกมาจากศูนย์ ซึ่งทางจังหวัดให้การช่วยเหลือ พร้อมสั่งปิดศูนย์ เนื่องจากผิดกฎหมาย พร้อมขนย้ายเด็กทั้งหมดออกมาจากศูนย์ ต่อมานักสังคมสงเคราะห์ย้ายเด็กไปอยู่บ้านพักเด็กและครอบครัว อ.อุบลรัตน์ จนมีกลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนไปข่มขู่เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวมาโดย ตลอด เพื่อชิงเอาเด็กกำพร้าที่ย้ายมาจากศูนย์เลี้ยงเด็กเอกชนกลับคืน ก่อนที่จะมีการวางเพลิงตึกบ้านพักเด็กและครอบครัวเกิดขึ้น ซึ่งจากการสืบสวนของตำรวจระบุชัดว่าเป็นการวางเพลิง และมีพยานเห็นชัดว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ที่บุกเข้าไปวางเพลิง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือไอ้โม่งคนของศูนย์เลี้ยงเด็กเอกชนที่ถูกปิด" จากคุณ : remakamkaw - [ 23 ม.ค. 52 04:40:07 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ความเห็นผมสำหรับ คห. 71-74 ครับ คห. 71 เป็นพวกมีปัญหาด้านความประพฤติ คห. 72-73 เป็นพวกเร่ร่อน ทั้งหมดเป็นพวกกลุ่มเป้าหมาย 1 ของบ้านพักเด็กฯ ผมคิดว่าไม่ควรรับเข้ามาพักในบ้านพักนี้ (ก็ต้องหาที่ที่เหมาะสมกันต่อไป) คห. 74 น่าจะอยู่ในกลุ่ม 4 นะ (พวกถูกกระทำทารุณด้วยวิธีต่างๆ) ความเห็นแรกของผมคิดว่ากลุ่มนี้รับได้ เพราะคิดถึงตัวอย่างประเภทเด็กถูกพ่อเลี้ยง/แม่เลี้ยง หรือคนในครอบครัวทำร้าย มากกว่ากรณีอย่างข้างบนน่ะครับ อันนี้ก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกันที่จะรับมา ถ้าเอาตัวอย่างจากข่าวมาผมว่าก็คงหาพวกมาแล้วไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนในหมู่บ้านยากครับ ตัวอย่างที่ผมคิดว่าพอรับได้ ก็อย่างที่บอกข้างบน หรือพวกเด็กพลัดหลงกับพ่อแม่ จริงๆ ก็คิดเหมือนกันนะว่าเอาเข้าใจคงควบคุมลำบาก แต่คิดว่าเราก็ไม่มีข้อมูลจะไปตัดสินอยู่ดี จขกท. รวมกับเพื่อนบ้านลองติดต่อไปที่เจ้าหน้าที่เค้าดีมั้ยครับ ผมเข้าใจนะครับว่าจริงๆ มันควรเป็นหน้าที่ทางการที่จะมาสื่อสารกับคนในหมู่บ้านหรือทำประชาพิจารณ์ แต่อยากให้ จขกท. กับเพื่อนบ้านรู้ว่าเค้าจะมาทำอะไรบ้างก่อนจะบอกว่าเห็นด้วยหรือคัดค้านน่ะครับ แค่ความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร ปล. ลองหาเบอร์โทรศัพท์จากกูเกิ้ล (อีกแล้ว) เข้าใจเป็นของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการครับ เบอร์  0-2354-7580, 0-2354-7582  น่าจะพอสอบถามอะไรได้ครับ ปล 2. ผมคิดว่าทุกคนมีสิทธิเห็นแก่ตัวนะ ถ้ามันเกิดแถวบ้านเราแล้วเราไม่สบายใจก็ไม่แปลกที่จะคัดค้าน แค่คิดว่ามันคงจะดีถ้าได้คุยกันให้เข้าใจก่อน เหนื่อยนิดนึง แต่น่าจะทำให้สังคมมันน่าอยู่ขึ้นนะ จากคุณ : The Tao of Pooh - [ 23 ม.ค. 52 08:12:01 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ทำไมอ่ะคับ?? "เป็นหมู่บ้านคุณภาพอันดับต้นๆ ในจังหวัดอยุธยา มีการจัดการที่ดีเยี่ยม เพื่อนบ้าน และ สิ่งแวดล้อมที่ดีมากๆ" ก็ในเมื่อมันเป็นสถานที่ที่ดี  มันก็เหมาะที่จะให้เด็กๆอยู่ในสังคมที่ดีๆไม่ใช่เหรอคับ? หรือจะไห้ไปอยู่ไหน  สังคมที่มีแต่สิ่งเสพติด วัยรุ่นเมายา  งั้นเหรอ? ใจแคบไปมั้ยครับ??? จากคุณ : hahawa111 - [ 23 ม.ค. 52 19:42:25 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เห็นใจกับจขกท.นะคะซึ่งก็เข้าใจว่าการที่เราซื้อบ้านที่มีคุณภาพก็เพื่อที่จะหาความสุขความสบายให้กับตัวเอง แล้วยิ่งมีเพื่อนบ้านที่ดีสำหรับสมัยนี้แล้วถือว่าหายากพอสมควรนะคะ และการที่จะมีบ้านพักเด็กและครอบครัว จะย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านของคุณ อย่างน้อยความสงบ ความปลอดภัยก็คงจะน้อยลง แต่ไม่ได้เป็นการกล่าวหาว่าคนที่มาอยู่จะมีพฤติกรรมที่ไม่ดี แต่เราก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าอาจจะมีผู้ที่ไม่หวังดีแฝงตัวเข้ามาได้ จะเป็นการยากมากขึ้นในการที่จะดูแลรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน สำหรับบ้านพักเด็กและครอบครัวดิฉันว่าควรจะมีสถานที่ที่กว้างขวางในระดับหนึ่ง เพื่อเป็นการรองรับผู้ที่ได้เข้ามาพักเพื่อฟื้นฟูทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ อย่างน้อยก็เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพวกเขาจริง ๆ และที่สำคัญควรมีเจ้าหน้าที่ในการดูแลที่มีคุณภาพเพื่อช่วยในการดูแลทางด้านจิตใจด้วย นอกเสียจากจะตั้งเป็นแค่เพียงสำนักงานเท่านั้น ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้เรื่องต่าง ๆ ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะคะ จากคุณ : ผึ้งน้อยนำโชคชัย - [ 23 ม.ค. 52 22:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ลองมาตั้งข้างบ้านตัวเองดูสิ จะรู้สึกยังไง ปากดีกันจัง ตำหนิ - หน่วยงานราชการด้วย ทำไมหาสถานที่ที่เหมาะสมกว่านี้ไม่ได้รึไง จากคุณ : เห็นใจจขกท. (bookiekid) - [ 24 ม.ค. 52 16:30:39 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เห็นรูปหมู่บ้านแล้วอึ้งเหมือนกันค่ะ งงว่าทำไมไม่มีประชาพิจารณ์กันก่อนนะ คนที่ว่าจขกทใจดำ ลองถามตัวเองสิคะว่า หากมีบ้านพักเด็กและครอบครัวจะย้ายมาอยู่ข้างๆบ้านคุณ โดยที่คุณไม่มีโอกาสทำประชาพิจารณ์ โดยมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบด้านอื่นๆตามมา ไม่ว่าด้านความเป็นส่วนตัว หรือความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นคุณ คุณจะกังวลไหมคะ โอเค บางคนอาจจะคิดว่าเราใจดำ เเต่เด็กพวกนี้ที่จะมาอยู่ล่ะ เขาเคยมีปัญหามา การอบรมที่บ้าน ปัญหาชีวิตที่เขาเคยเจอ คุณแน่ใจได้ยังไงว่าพวกเขาจะไม่เป็นอันตรายล่ะคะ ยิ่งถ้าเรามีลูกเล็กๆ หรือวัยรุ่น เราจะยิ่งกังวลมากขึ้น เป็นเรา เราก็จะปกป้องสิทธิของตัวเองไว้ก่อน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต   สิ่งเเวดล้อมในหมู่บ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อนบ้าน เป็นปัจจัยสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของเราค่ะ แนะนำให้จขกทติดต่อกับส่วนราชการ ให้คนในหมู่บ้านรวมตัวกันคุยกันดู เพราะถ้าสมมติเป็นหมู่บ้านที่เราอยู่ หากมีบ้านพักเด็กและครอบครัวมาอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน หรือข้างๆ เราคงไม่เต็มใจ และกังวลใจเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 52 11:59:25 จากคุณ : กอหญ้าพาฝัน - [ 25 ม.ค. 52 11:58:11 ]

ความคิดเห็นที่ 80 update... 1.ตอนนี้ทางคณะกรรมการหมู่บ้าน ได้ติดป้ายประกาศร่วมประชุม ในวันอาทิตย์ที่ 1/2/52 แล้วครับ 2.เนื่องจากมีป้ายประกาศ ทำให้ลูกบ้าน ท่านๆ อื่นๆ ได้ทราบถึง ความเคลื่อนไหวต่างๆ และ ทราบถึง ว่าจะมี "บ้านพักเด็กและครอบครัว จะมาตั้งอยู่ในหมู่บ้าน .. จากคุณ : k.seng - [ 28 ม.ค. 52 21:27:54 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ขอเรียนเพิ่มเติมเพื่อการอภิปรายที่สมบูรณ์เล็กน้อยนะครับว่า บ้านพักเด็กและครอบครัว เป็นหน่วยงานราชการสังกัด สำนักป้องกันและปราบปรามการค้าหญิงและเด็ก กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดิมทีเดียวเรารู้จักกันในชื่อว่า "บ้านพักฉุกเฉิน" นั่นแหละครับ ด้วยตระหนักถึงความจำเป็นและการให้บริการที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น จึงได้มีการจัึดตั้งหน่วยงานนี้ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถ้าจะเปรียบเทียบในภารกิจเพื่อให้มองเห็นภาพเข้าใจกันง่ายๆ แล้ว "บ้านพักเด็กและครอบครัว" ก็น่าจะได้แก่การเป็น "บ้านตั้งสติ" ครัีบผม เป็นหน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือและอุปการะเบื้องต้นในด้านต่างๆ ก่อนดำเนินการให้ "กลับคืน" สู่ครอบครัวและสังคมดังเดิม หรือส่งต่อไปยังหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับสภาพปัญหาเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป "บ้านตั้งสติ" ก็ดำเนินการทำนองการจัดบริการเพื่อให้ กินอิ่ม นอนหลับ สติกลับมา ปัญญาก็อาจเกิด (ด้วยกระบวนการต่างๆ) แล้วค่อยว่ากันต่อ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ในมิติของการเลือกพื้นที่ ผมเข้าใจว่าคงไม่ต่างไปจากหน่วยงานราชการส่วนกลางที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาคอื่นๆ ที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่/งบประมาณ ในระยะแรกจึงมักจะเลือกพื้นที่บ้านพักอาศัย/อาคารพาณิชย์ เป็นที่ตั้งสำนักงานแล้วค่อยขยับขยายกันต่อไป อย่างไรก็ดี กระทู้นี้ของคุณ k.seng เป็นเสียงก้อง เสียงสะท้อนโดยตรงจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ควรที่ผู้รับผิดชอบจะได้ดำเนินการเพื่อทำความกระจ่างให้กับ "ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย" ได้รับทราบและเข้าใจ เพราะถ้าไม่เข้าใจเสียแล้ว "ความแปลกแยก" ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ ผู้รับบริการในบ้านพัก และผู้คนในชุมชนก็อาจเกิดขึ้นได้ แน่นอนครับว่า ความพึงพอใจ อาจเกิดได้ด้วยการตอบสนองความต้องการและความคาดหวัง ขอบคุณ คุณ k.seng อย่างยิ่งที่ได้นำเสนอความกังวลและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อได้รับรู้และอภิปรายร่วมกัน แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 52 10:46:37 จากคุณ : ประกายจันทร์ - [ 29 ม.ค. 52 10:09:35 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เห็นด้วยกับคุณเด็กหญิงปรางค์ และอีกหลายๆความคิดเห็นที่ไม่เห็นแก่ตัวและเห็นใจเพื่อนมนุษย์ ใครๆ   ก็อ้างโน้นอ้างนี้  ชักแม่น้ำทั้ง 5 มาสนับสนุน  เพื่อทำให้ตัวเองดูดี  ดูแล้วไม่เห็นแก่ตัว  แต่คนเราไม่ใช่ควาย..  กระกระทำย่อมแสดงถึงจุดประสงค์  และถึงจะเอาใบบัวมาปิดก็ปิดไม่มิดหรอกคะ พอมีคนมาบอกว่า "ควรเห็นใจเพื่อมนุษย์ด้วยกันบ้าง"  พวกที่เห็นแก่ตัวก็แสดงตัวออกอาการว่า  "รับไม่ได้"  หนำซ้ำยังกลับมาด่าเขาอีก   "ลองเป็นบ้านคุณ  คุณจะยอมไหม"  ยังหน้าหนามาขอเสียงสนับสนุนความเห็นแก่ตัวอีกนะคนเรา "บ้านพักเด็กและครอบครัว"  จะไปตั้งที่ไหน  ส่วนใหญ่มีแต่คนไล่  ก็เข้าใจคะ เพราะคนดียังมีในสังคม.. แต่เป็นส่วนน้อย เมื่อเกิดปัญหาขึ้นกับสังคม  คนส่วนใหญ่กลับนิ่งเฉยได้แต่มองดูปัญหา  แต่ไม่ทำอะไรเพื่อแก้ไขปัญหาสัมคม แม้เพียงการเสียสละเล็กๆ น้อยๆ  เพื่อช่วยลดหรือแก้ไขปัญหา  คนส่วนใหญ่นี้ก็ยังไม่ยอมที่จะต้องเสียกันเลย  แต่เพื่อไม่ให้ตัวเองเสียหน้า  ดูไม่ดีที่เห็นแก่ตัว  คนส่วนใหญ่นี้จึงต้องออกมาประนามคนที่ยอมเสียสละว่า   เป็นพวกมือถือสากปากถือศิล  อะไรประมาณนี้ คนส่วนใหญ่นอกจากจะไม่ยอมเสียอะไร  ยังเอาแต่โยนปัญหาให้คนนั้นดูแล  โยนให้คนนี้แก้ไข  โยนไปให้คนนั้นองค์กรนี้รับผิดชอบ  และบอกกับใครๆว่า  "ผมคิดว่าทุกคนมีสิทธิเห็นแก่ตัวนะ" ถ้าคนในสังคมไม่ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา  แล้วเมื่อไรปัญหาจะหมดสักทีละคะ  ช่วยกันคนละเล็กคนละน้อย  เสียสละมากบ้างน้อยบางตามความสามารถของแต่ละคน  ทำแบบนี้จะดีกว่าไหมคะ มีแต่คนอยากจะได้รับโอกาส..  แต่กลับไม่ยอมให้โอกาสคนอื่น จากคุณ : Cat is little...เหมี๊ยวๆ - [ 30 ม.ค. 52 13:28:54 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ขอแสดงความคิดเห็นด้วยคนนะคะ ในฐานะที่เป็นคนทำงานในบ้านพักเด็กและครอบครัว...ที่จริงก็ไม่ผิดหรอกค่ะที่หลายๆคนจะกลัวและกังวลกับการเข้ามาอยู่ของบ้านพักเด็กฯ...และหากสมาชิกในหมู่บ้านหลายๆคนไม่สบายใจ คิดว่าหัวหน้าบ้านพักเด็กฯอยุธยาเค้าก็คงยินดีที่จะค้นหาสถานที่ที่เหมาะสมต่อไปค่ะ...แต่ให้ข้อมูลเบื้องต้นหน่อยนะคะ...สาเหตุที่บ้านพักเด็กฯต้องเช่าสถานที่อยู่ชั่วคราว ก็อย่างทีหลายๆท่านบอกก็คือ เราเป็นหน่วยงานใหม่ที่ต้องรอการตั้งงบประมาณในการก่อสร้าง เดิมบ้านพักเด็กฯทั่วประเทศทีอยู่เดิม 43 จังหวัด และในปีงบประมาณ 2552 นี้ ได้มีการก่อตั้งเพิ่มเติมรวมเป็น 66 จังหวัด และกำลังจะขยายเป็น 76 จังหวัดในเร็วๆนี้ ตามคำเรียกร้องของหน่วยงานที่ต้องทำงานประสานกันในการให้ความช่วยเหลือและรองรับกับผู้ประสบปัญหาสังคมที่มีอยู่ในทุกๆจังหวัดของประเทศไทย โดยบ้านพักเด็กฯอยุธยาก็เป็นหนึ่งในบ้านพักใหม่นี่เอง และกรมก็กำลังทะยอยจัดสรรงบประมาณก่อสร้างบ้านพักถาวรให้กับบ้านพักฯรุ่นแรกๆก่อนซึ่งก็ยังมีเพียงไม่กี่จังหวัดที่ได้บ้านพักถาวรฯ บ้านพักฯรุ่นแรกๆ 43 จังหวัดนั้น ส่วนมากก็ยังเช่าสถานที่ในหมู่บ้านที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีเหมาะสมและปลอดภัยสำหรับเด็กๆอยู่อาศัย และก็ไม่ค่อยมีบ้านไหนทีประสบปัญหานะคะ...(ตามข่าวที่มีบางกระทู้โพสเข้าไปที่บ้านขอนแก่นนั้นเป็นเพียงเหตุสุดวิสัยซึ่งเพิ่งมีเกิดขึ้นครั้งแรก...)กลุ่มเป้าหมายของเราส่วนใหญ่ที่รับเข้ามาอยู่ในบ้านก็เป็นเด็ก สตรี คนพิการ คนชรา ที่รอการส่งคืนสู่ครอบครัวหรือส่งเข้าสถานสงเคราะห์ซึ่งเป็นบุคคลที่ต้องการการช่วยเหลือและฟื้นฟู ไม่ได้น่ากลัวหรือเป็นอันตรายอย่างใดเลย เพราะหากเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เกินกว่าที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมได้เราจะส่งต่อไปยังสถานที่อื่นๆที่มีศักยภาพมากกว่าและเหมาะสมกว่า เพราะเจ้าหน้าที่เราเองก็ส่วนมากเป็นผู้หญิง เราจึงต้องพิจารณาผู้ที่จะเข้ามาอยู่ในบ้านพักฯซึ่งจะไม่สร้างความเดือดร้อนหรือรบกวนกับผู้รับบริการที่พักอาศัยอยู่ก่อนอยู่แล้วด้วยค่ะ และสาเหตุที่ต้องเช่าบ้านจัดสรรก็เพราะเราต้องการบรรยากาศที่เสมือนเป็นบ้านจริงๆ ให้เด็กและผู้ประสบปัญหาเหล่านั้นรู้สึกว่าเขาอยู่ในบ้านของเขาเอง ไม่ได้อยู่ในสถานสงเคราะห์ค่ะ และเราจะรับตัวผู้ประสบปัญหาเหล่านั้นให้อยู่กับเราได้ในระยะเวลาจำกัด เพียงเท่าที่จำเป็นในระหว่างการจัดการเรื่องเอกสารหรือการเตรียมความพร้อมของผู้ประสบปัญหาและครอบครัว เมื่อจัดการกับปัญหาต่างๆเบื้องต้นเสร็จก็จะต้องส่งคืนสู่ครอบครัว ชุมชน หรือหน่วยงานที่เหมาะสม ทั้งนี้ทั้งนั้นรวมแล้วก็จะต้องไม่เกิน 3 เดือนค่ะ หากรายไหนเคลียร์ปัญหาเสร็จก่อนเราก็ส่งตัวก่อน ดังนั้นแต่ละวันจะมีจำนวนผู้รับบริการอยู่ในบ้านเพียงไม่กี่คนเท่านั้นค่ะ หมุนเวียนกันไป...อาจจะเหมือนกับครอบครัวใหญ่ๆครอบครัวหนึ่งเท่านั้นเอง...เด็กๆเหล่านี้แทบทุกคนก็จะน่ารัก มีน้ำใจ ทั้งนั้นค่ะ...เลยอยากบอกว่า "บ้านพักเด็กและครอบครัว" ไม่ได้น่ากลัวอะไรเลยค่ะ... จากคุณ : หัวหน้าบ้านพักเด็กคนหนึ่งค่ะ.. - [ 30 ม.ค. 52 14:58:02 A:61.7.188.192 X: TicketID:202851 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เรามีน้องทำงานอยู่ที่"สถานแรกรับเด็กชายปากเกร็ด" มีเด็กเป็นจำนวนมากเกือบ 200 คน และก็แรงงานต่างด้าวอีก ก็ไม่เคยมีเคทที่เข้ามาขโมยของในแฟลตจนท. หรือ บ้านชาวบ้านใกล้เคียงเลยน่ะค่ะ ขนาดมีพ่อบ้านแม่บ้าน 1 คน/1 หอ (หอละ เกือบ 40 คน) มีทั้งเด็กเกเร, บ้านจน, มีปัญหาทางพฤกติกรรม ....น่าจะเปิดใจหน่อยน่ะค่ะ เค้าไม่ปล่อยให้เด็กออกมาตามอำเภอใจหรอกค่ะ หรือถ้าทำใจไม่ไหว ก็ร้องเรียนที่กรมพัฒฯ เลยสิค่ะ ปล.บ้านพักเด็กและครอบครัวประจำจังหวัด ไม่เหมือนกับพวกบ้านคนชรา, บ้านปากเกร็ด, บ้านเด็กอ่อน......น่ะค่ะ สถานที่และการจัดการจะเล็กกว่าค่ะ และจะมีให้ทุก จังหวัดเลย จากคุณ : เจเจ - [ 5 ก.พ. 52 18:05:15 A:10.37.1.39 X:10.1.5.21, 58.137.129.220 TicketID:203536 ]