ความคิดเห็นที่ 1 -จะซื้อเงินสดหรือไม่ ถ้ามีกำลังก็จะเป็นการดีที่สุด -ถ้าเงินสดไม่ถึงต้องกู้ ก็ต้องดูว่า จะกู้เท่าไร มีความสามารถจะกู้ได้หรือไม่ อันนี้อยู่ที่เงินเดือน/รายได้ประจำ ถ้ามีเงินเดือนประจำ ก็กู้ได้เยอะหน่อย แต่ถ้าทำธุรกิจส่วนตัว ต้องมีเงินเข้าแต่ละเดือนเยอะพอสมควร ถึงจะกู้ผ่านได้เยอะน่ะครับ -ควรมีเงินเก็บ/เงินสดในมือ ก่อนจะกู้อย่างน้อย 15-20% ของราคาบ้าน เพราะถึงกู้ได้ 100% ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆในการซื้อ เช่น ค่าโอน(บางโครงการก็ไม่ได้ออกให้หมด) ค่าส่วนกลาง และค่าตกแต่งต่างๆ มุ้งลวด เหล็กดัด กันขโมย ผ้าม่าน เฟอร์ ..) -ในการกู้ซื้อบ้าน การเลือกธนาคารก็สำคัญ ต้องหาข้อมูลให้ดีๆ และ update เพราะดอกเบี้ยเงินกู้ เป็นปัจจัยหลัก ในภาระการผ่อนบ้านระยะยาวของเรา(เกือบครึ่งชีวิตเลยก็ว่าได้) -เมื่อได้งบประมาณแล้วว่าจะสามารถซื้อบ้านราคาเท่าไร เช่น 3 ล้าน เป็นต้น ก็เลือกทำเลที่ต้องการนะครับ -เลือกทำเลแล้วก็มาดูต่อว่างบประมาณที่เรามี จะซื้อบ้านขนาดเท่าไร ในทำเลที่เราต้องการ ถ้าทำเลใกล้เมือง แต่งบประมาณน้อยก็อาจจะได้ คอนโด ทาวน์เฮ้าส์ ถ้าต้องการบ้านแฝด หรือบ้านเดี่ยว ก็จะต้องซื้อบ้านไกลออกไปมากขึ้น หรืออาจต้องดูทำเลอื่นแทน -เลือกทำเล + ขนาดบ้านได้แล้ว ก็มาดูโครงการ ว่าโครงการใดบ้างที่ตอบความต้องการเราได้ ทั้งที่ตั้ง ว่าเข้าออกสะดวกไหม คุณภาพบ้านของโครงการเป็นอย่างไร สังคมในโครงการเหมาะกับเราหรือไม่ ความรับผิดชอบของโครงการเป็นเช่นไร เป็นต้น -เลือกโครงการได้แล้วก็เลือกบ้าน หลังที่ต้องการ ว่าชอบอยู่โซนไหน หน้าโครงการ ติดถนนเมน ริมสระ ริมสโมสร หรือในซอย เอาเป็นคร่าวๆก่อนนะครับ ที่เหลือ ต้องคุยกันอีกยาว เพราะกว่าจะผ่านแต่ละขั้นตอน ต้องอาศัยข้อมูล และการวิเคราะห์ในอีกหลายๆจุด รอท่านต่อไปมา Share กันดีกว่าครับ ^_^ จากคุณ : Kong - [ 22 ม.ค. 52 11:14:21 A:58.136.127.61 X: TicketID:149728 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ทำเล การเดินทางไปทำงาน สิ่งแวดล้อม แบบบ้าน พื้นที่ใช้สอย ความเป็นมาเจ้าของโครงการ ราคา วัสดุที่ใช้ (คุณภาพบ้านเหมาะสมกับราคา และผู้ซื้อยอมรับได้) นิติบุคคลหลังซื้อบ้าน จากคุณ : กลัวเลขสี่ - [ 22 ม.ค. 52 11:14:59 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าหลักๆก็ 1. การเดินทาง : สะดวกมั๊ย กลางคืนเปลี่ยวหรือเปล่าเพราะจะอันตรายถ้าแฟนคุณเดินทางคนเดียว เพราะเราคงไม่สามารถเดินทางด้วยกันได้ตลอดเวลาใชมั๊ยครับ 2.สภาพแวดล้อม : มีโรงงาน, สถานที่สาธารณะเช่น วัด,...หรือแหล่งเสื่อมโทรมอยู่โดยรอบหรือเปล่า เพราะจะมีเรื่องฝุ่น ควัน การจราจร, โจร หรือการรบกวนต่างๆครับ 3. ความสะดวกสบาย : มีรถสาธารณะผ่านหรือเปล่า ใกล้รถๆไฟฟ้ามั๊ย มีตลาด,ห้างสะดวก, 7/11, ห้างใหญ่ หรือ โรงหนังซื้ออยู่ใกล้มั๊ย 4. สำคัญมากๆครับ ชื่อเสียงของโครงการ ว่ามีปัญหากับลูกบ้านบ่อยมั๊ย ลองหาทาง internet ดูครับ 5. กำลังทรัพย์ครับ ผมนกน้อยสร้างรังแต่พอตัว ซื้อบ้านแล้วอย่าลืมคำนวณค่าแต่งบ้าน หรืออุปกรณ์ต่างๆที่ต้องติดตั้งเพิ่มเติมอีกมากมายครับ ยังงัยลองดู life style ของตัวเราแล้วตัดสินใจดูนะครับ จากคุณ : billmade - [ 22 ม.ค. 52 11:21:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 การซื้อบ้านเนี่ยะทำเลสำคัญมากเลยนะครับ ทุกคนแสดงความคิดเห็นได้ถูกต้องมากเลยครับ มันมีปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ที่ประกอบครับ และยังมีอีกครับ หลังจากตัดสินใจได้บ้านและได้ทำเล สภาพแวดล้อมที่คิดว่าดีแล้วสิ่งที่จะลืมเสียมิได้คือถ้าได้เพื่อนบ้านดีก็ดี (อันนี้เลือกไม่ได้ครับ) แล้วแต่ดวง มีบางครอบครัวเจอเพื่อนบ้านไม่ดีถึงขนาดต้องย้ายขายหนีไปเลยก็มีครับ เพราะฉนั้นต้องดูด้วยครับ จากคุณ : lumjeig - [ 22 ม.ค. 52 12:45:56 ]

ความคิดเห็นที่ 5 -มองถึงอนาคตด้วยว่า ถิ่นย่านที่เราจะซื้อนั้น ต่อไปจะมีการพัฒนาด้านใหนบ้าง เรื่องอื่นๆ หลาย คห ก็บอกได้ครอบคุมแล้ว แต่..ผมขอเตือนเพิ่มเติมอีกนิด และต้องท่องไว้ในใจเสมอ อย่าให้ความอยากได้ มาบดบังใจเป็นอันขาด แล้วจะเสียใจภายหลัง -พยายามดูโครงการที่สร้างเสร็จแล้วและพร้อมอยู่ เพราะอนาคตอันใกล้นี้ จะมีหลายโครงการต้องหยุดการก่อสร้าง เพราะขาดเงินหมุนเวียน อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจตกเสก็ด ซึ่งถ้าติดตามข่าวจะได้ยินบ้างแล้วว่า บางโครงการต้องหยุดดำเนินงานชั่วคราว คนที่จองและผ่อนดาวน์ไปแล้ว กำลังกลุ้ม เงินก็จ่ายไปแล้ว แต่บ้านยังเข้าอยู่ไม่ได้ -อย่าวางเงินจอง อย่าทำสัญญา ไม่ว่าเซลจะพูดยังไง ก็อย่าใจอ่อน ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะกู้ธนาคารผ่านหรือเปล่า และถ้าผ่าน จะได้จำนวนตามที่คุณต้องการกู้หรือเปล่า เพราะถ้าเป็นปัญหา คุณจะยกเลิกสัญญาลำบาก ถ้าไม่ซื้อ อาจถูกยึดเงินจองหรือเงินทำสัญญา โครงการใหนที่คุณสนใจ ควรให้เขาทำ pre-approve ให้ก่อน บางโครงการมีธนาคารสินเชื่อของตัวเอง จะทำปรี-แอ๊ฟปรู๊ฟได้ทันที สิ่งที่ควรเตรียม สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือน ทั้งของคุณและของผู้กู้ร่วม การทำpre-approve ถ้าเป็นโครงการที่ดีจริงๆ ใช้เวลาเพียงอาทิตย์เดียวก็จะทราบผลแล้ว แต่ถ้านานกว่านั้น นั่นหมายถึงทางโครงการเขาไม่สนใจจะขายคุณ หาที่อื่นต่อไป เพราะนั่นอาจเป็นการหลอกให้คุณวางเงินจอง เพื่อจะยึดเมื่อคุณกู้ไม่ผ่าน จากคุณ : La coeur - [ 22 ม.ค. 52 14:22:27 ]

ความคิดเห็นที่ 6 นอกจากเรื่องทำเล กับงบที่มีอยู่ในใจแล้ว ในมุมของรี่เลือกซื้อบ้านโครงการที่เชื่อถือได้แบบเห็นๆ เป็นๆ คือสร้างเสร็จแล้วค่ะ  เพราะ 1. เราเองไม่ได้ชำนาญเรื่องการสร้างบ้าน จะปลูกก็กลัวมีปัญหากับช่าง ยิ่งเป็นญ. หญิงจะลำบากทีเดียว จึงเลือกบ้านจัดสรรเรียกว่าใช้ระบบเชื่อใจครึ่งนึง+ตรวจสอบเองอีกครึ่งนึง(เชื่อตัวเอง) 2. ลดความเสียงของตัวเอง ยิ่งสภาวะเศษฐกิจแบบนี้ด้วย กลัวซื้อบ้าน แล้วไม่ได้บ้านอะค่ะ 3. เราไม่ต้องจินตนาการ แต่เลือกในสิ่งที่เห็น ทั้งตัวบ้าน+ สภาพแวดล้อมในโครงการ 4. ถ้าซื้อปีนี้ ก็ได้ลุ้นมาตรการลดหย่อนภาษีอีกด้วย :) จากคุณ : เชอรี่ (เชอร์รี่สีแดงสด) - [ 22 ม.ค. 52 14:36:45 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณครับ คุณKong-ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนมีรายได้ประจำ ต้องกู้ครับ (แถมกู้ร่วมด้วย)            -เงินเก็บ ตอนนี้กำลังรัดเข็มขัดจนพุงกิ่วคับ คุณกลัวเลขสี่,คุณbillmade, คุณlumjeig, คุณLa coeur, คุณเชอรี่ ขอบคุณมากครับผมคงซื้อเป็นหมู่บ้านจัดสรร บอกตรงๆผมก็ไม่มีความรู้เรื่องก่อสร้างเท่าไหร่ ดูไม่เป็นคงต้องใช้ชื่อเสียงของโครงการเป็นหลัก และที่สำคัญช่วงนี้กลัวเรื่องวางจองแล้วถูกเบี้ยวไม่ได้บ้านด้วย เพราะกว่าจะเก็บเงินได้สักก้อนก็เหนื่อยเอาการอยู่ครับ จากคุณ : ผู้ชายมีพุง - [ 22 ม.ค. 52 15:13:27 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เอาใจช่วยครับ จากคุณ : sunman - [ 22 ม.ค. 52 17:29:02 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เอาใจช่วยด้วยค่ะ แต่เตือนเรื่องกู้ร่วมกับแฟน เพราะหลายๆ คู่ รวมทั้งเพื่อนเรา ก็ระวังเรื่องนี้เหมือนกัน ส่วนใหญ่อยู่กันก่อน ผู้ชายกู้คนเดียวค่ะ เพราะเค้ายังไม่แต่ง จากคุณ : amuro4ever - [ 22 ม.ค. 52 17:40:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ต้องขอดูใบอนุญาตจัดสรรด้วยครับ เป็นสิ่งแรกที่ต้องทำ เคยขอดูจากบางโครงการย่านกัลปพฤษ์ แต่ทางโครงการไม่สามารถเอามาให้ดูเลย อีกโครงการอยู่ฝั่งตรงข้ามก็เลี่ยงกฏหมายจัดสรรโดยให้ผู้ซื้อบ้านเซ็นย์รับภาวะจำยอม แล้วขยายโครงการแบบไม่รู้จบ โดยสร้างไม่เกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด เพื่อเลี่ยงกฏหมายจัดสรร กรณีดังกล่าวทำให้ผู้ซื้อ zone แรกเสียเปรียบมากที่สุด zone ต่อๆมาก็จะกลายเป็นที่ตาบอด เพราะหลังโฉนดไม่มีตราประทับคำว่าจัดสรร เพราะไม่ได้อยู่ในผังที่ขอ   อณุญาติจัดสรร จากคุณ : kk (pchaiy) - [ 22 ม.ค. 52 18:23:45 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แอบมาอ่าน ขอแจมกระทู้คุณผู้ชายมีพุงด้วยนะค่ะ (กำลังหาบ้านอยู่เหมือนกัน) แอบถามคุณ La coeur ด้วยได้มั้ยค่ะ พอดีเราพึ่งเคยเสียค่าโง่ เงินจองไป ปีที่แล้วเหมือนกันค่ะ หลังจากที่วงเงินที่ได้มันน้อยไป โปะไม่ไหว เลยตัดใจไม่เอาค่ะ ก็เลยจะรบกวนถามว่า ถ้าเซลล์บอกเรา ต้องจ่ายเงินจองก่อน ยื่นpre-approve แล้วเราจะไม่จ่ายตามที่คุณ La coeur แนะนำ เราจะบอกเค้ายังงัย (เพราะครั้งที่แล้วที่เราเสียค่าโง่ไป เค้าก็ให้เราทำสัญญาก่อนจะยื่น pre ให้เรา คือต้องจ่ายเงินจองก่อน และเซ็นต์สัญญาด้วย แต่ตอนที่เราไม่เอาเค้าก็คืนเงินผ่อนดาวน์งวดแรกให้เรา แต่ไม่คืนเงินจองเพราะสัญญาระบุไว้ ทุกวันนี้ยังเสียดายอยู่เลย ฮือๆ ) ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ จากคุณ : แหะๆ ผู้หญิงก็มีพุงเหมือนกัน (หมูน้อยหัวใจดุ๊กดิ๊ก) - [ 23 ม.ค. 52 10:06:07 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ปัญหาเรื่องการจองแล้วกู้ไม่ผ่าน + โครงการไม่คืนเงินจองมีวิธีการจัดการไม่ยากครับ - ข้อแรก การจองบ้านทุกโครงการ ต้องระบุในสัญญาจองว่า ถ้ากู้ไม่ผ่าน โครงการต้องยินดีคืนเงินจองทั้งหมด (ถ้าไม่ระบุ อันนี้ถือว่าขอคืนในภายหลังยากมากครับ) - แม้จะยังไม่ได้ทำการจองบ้านก็สามารถทำ Pre-Approve ได้ครับ คือ สามารถโทรติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพื่อคุยเบื้องต้น เช่น ต้องการบ้านราคาเท่านี้ เงินเดือนเท่านี้/รายได้จากธุรกิจหมุนเวียนเดือนละเท่านี้ อายุเท่านี้ อายุงานเท่านี้ รายได้อื่นๆต่อเดือนเท่านี้ + มีผู้กู้ร่วมหรือไม่อย่างไร เจ้าหน้าที่ก็จะประเมินคร่าวๆ ให้ว่า 'น่าจะ' ผ่านหรือไม่ แต่ตรงจุดนี้ จะอยู่ที่จรรายาบรรณ + น้ำใจของพนักงานแต่ละท่านด้วย บางท่านอาจจะตอบแบบขอไปที หรือตอบแบบประมาณว่า ผ่านๆ ไปก่อน เพื่อให้เรามีความหวัง ถ้ามีคนรู้จัก เพื่อนๆ ญาติๆที่ทำหน้าที่ส่วนนี้ อาจจะได้รับความช่วยเหลือได้รวดเร็วและแม่นยำกว่านะครับ - ถ้าเผลอจองไปเรียบร้อยแล้ว ควรยื่นกู้ประมาณ 2-3 ธนาคารเป็นอย่างน้อย เพราะแต่ละแห่งมีหลักเกณฑ์ในการอนุมัติต่างกัน + ให้ยอดกู้ไม่เท่ากัน + ดอกเบี้ยก็ต่างกัน น้อยคนนะครับ ที่จะกู้ผ่านโดยยื่นกู้เพียงแห่งเดียว หรือ ต่อให้กู้ผ่านทุก ธนาคาร เราก็จะได้สามารถเลือกธนาคารที่ให้เงื่อนไขโดนใจเรามากที่สุด (ให้กู้เยอะสุด หรือ ดอกเบี้ยน้อยสุด หรือ ผ่อนระยะแรกน้อยที่สุด) - ถ้ายื่นกู้แล้วไม่ผ่านสักที่ หรือผ่าน แต่ยอดเงินขาดไปเป็นจำนวนมาก(ไม่สามารถหามาโปะได้ทัน) อย่าเพิ่งตัดใจนะครับ สามารถแก้ได้ด้วยการ โทรไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ธนาคารคนเดิม บอกว่า เราไม่สามารถรับยอดกู้จะนวนเท่านี้ได้ หากไม่สามารถให้ยอดตามที่เราต้องการ รบกวนช่วยส่งเป็น Case Reject มาให้ทางโครงการด้วย คือ ให้ทางธนาคารแจ้งว่า ไม่สามารถอนุมัติให้เราได้ เพราะอะไรก็แล้วแต่ ทีนี้ทางโครงการก็จะไม่มีข้อโต้แย้งในการคืนเงินจองให้เรา (กรณีนี้ ก่อนวางเงินจอง สัญญาจองต้องระบุว่า ถ้ากู้ไม่ผ่าน โครงการจะคืนเงิน ด้วยนะครับ ถ้าสัญญาไม่ระบุ โครงการอาจจะไม่คืนอยู่ดี) - วิธีสุดท้ายไม่ค่อยแนะนำ แต่ก็เป็นที่รู้กันว่า หลายท่านจำเป็นต้องนำไปปฏิบัติ คือ ถ้าต้องการกู้ให้ได้ยอดที่ต้องการจริงๆ บางครั้งเจ้าหน้าที่ธนาคารบางท่าน จะโทรมาขอให้จ่ายเงินค่าดำเนินการบางอย่าง(ประมาณว่าใต้โต๊ะล่ะครับ) ถ้าคิดว่าจำเป็นจริงๆ ก็สามารถทำได้ เพื่อแลกกับการได้บ้านที่ต้องการ (แต่สำหรับตัวเองไม่เคยทำ และไม่ค่อยชอบวิธีการนี้เท่าไร เพียงแค่ เขียนถึงทางเลือก ที่พอเป็นไปได้ เท่านั้นเองครับ) ยังไงลองคุยกับเพื่อนๆในชายคานี้ได้นะครับ สามารถค้นหาข้อมูลจากระบบ Search ของ Pantip หรือตั้งกระทู้ถามตรงๆได้เลย เพื่อนๆยินดีให้คำปรึกษาครับ เพราะเข้าใจหัวอกของ 'คนอยากมีบ้าน' ทุกคน ก็เจ้าบ้านทุกคน ต้องผ่านอารมณ์นั้นมาเหมือนกันนี่ครับ เอาใจช่วยครับ ^_^ จากคุณ : Kong - [ 23 ม.ค. 52 10:34:01 A:58.136.127.61 X: TicketID:149728 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถึง คห 11 แหะๆ ผู้หญิงก็มีพุงเหมือนกัน (หมูน้อยหัวใจดุ๊กดิ๊ก) - ที่ผมแนะนำนั้น ก็มาจากประสบการณ์ที่ผมพบเจอมาเอง และจากคนอื่นๆที่เล่าให้ฟัง เกริ่นให้ฟังสักหน่อยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคุณ ผู้หญิงก็มีพุงฯ ประมาณกันยายน 2551 ผมตระเวณหาที่พักอาศัยย่าน อ่อนนุช-ลาดกรบัง-สุวรรณภูมิ-ศรีนครินทร์-เฉลิมพระเกียรติ(ซอยอุดมสุข) ดูทุกระดับ ทาวน์เฮ๊าซ์ ทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยว แทบทุกโครงการในย่านนั้น ใช้เวลาตระเวณอยู่เดือนกว่าๆ มีถูกใจอยู่สามที่ เป็นโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว บรรดาเซลทั้งหลายก็จะบอกว่า ต้องรีบจองนะ เพราะว่าเหลือน้อยแล้ว หรือว่าบ้านหลังที่คุณชอบ ก็มีคนกำลังจะวางเงินจอง ถ้าคุณไม่วาง คุณอาจไม่ได้บ้านหลังนั้นนะ ถ้าไม่จองตอนนี้ เดือนหน้าหรืออาทิตย์หน้าราคาจะปรับขึ้น เหตุผลร้อยแปดพันเก้า เพื่อจะให้เราวางเงินจอง พอเธอเหล่านั้นเหนื่อยแล้ว เราก็บอกเธอว่า "ผมสนใจโครงการของคุณ ถ้าคุณทำเรื่องให้ผมกู้ได้เท่าจำนวนนี้ ผมจองกับคุณและทำสัญญากับคุณแน่นอน แต่ต้องรู้ผลเร็วๆหน่อยนะ เพราะผมได้ทำ Pre-approve ไว้กับโครงการอื่นเหมือนกัน ถ้าได้ทางโน้นก่อน ผมอาจตัดสินใจซื้อกับทางโน้นก็ได้" พร้อมยื่นเอกสารทั้งหมดให้เซล ไปยื่นกู้กับธนาคาร และบอกว่า "ถ้าที่ใหนได้ก่อนเอาที่นั่น และดอกเบี้ยต่ำ ก็จะใช้ที่นั่นเช่นกัน" ภายในหนึ่งอาทิตย์ธนาคารติดต่อมาที่ผม มี2ที่ ต่ำกว่าที่เราต้องการมาก อีก 1ที่ ถึงไม่ได้ตามที่เราบอก แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่เราต้องการ ผมติดต่อกลับไปที่โครงการว่า เราได้รับอนุมัติเงินกู้แล้ว แต่ไม่ได้เท่าที่เราต้องการ จึงขอเวลาคิดอีก 1 อาทิตย์ สำหรับโครงการแลนด์แอนด์เฮ๊าซ์ เขาจะมีแบ๊งค์ของเขาเอง ถ้าคุณเอกสารพร้อม เขาสามารถคำนวณให้คุณไม่เกินครึ่งชั่วโมงว่าผ่านหรือไม่ผ่าน และในช่วงนั้น ผมแวะไปชมโครงการอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งผมไม่เคยแวะเข้าไปดูเลย ได้แต่ขับรถผ่านไปผ่านมา พอได้ดูบ้านตัวอย่างแล้ว ถูกใจมาก เพราะบ้านใหญ่โตกว่าที่ผมคิดจะซื้อ แต่ราคาถูกกว่า ผมบอกเซลว่า ขอทำปรีฯและขอกู้เต็ม และต้องรู้ผลภายในอาทิตย์นี้ เพราะผมรับปากกับอีกที่หนึ่งไว้ว่าจะไปวางเงินจองอาทิตย์หน้า เพราะกู้ผ่านแล้ว แต่ถ้าคุณทำให้ผมกู้เต็มจำนวนได้ ผมซื้อที่คุณแน่ๆ ผมยื่นเอกสารให้เขาวันอาทิตย์ วันอังคาร ทางแบ็งก์โทรมาแจ้งว่าผมกู้ได้ แถมยังเกินเป้าที่ผมต้องการซะอีก ผมวางเงินจองทำสัญญาและโอนภายในสิบวัน ผมได้บ้านถูกใจมากๆ และยังเหลือเงินแต่งบ้านอีก สำหรับที่อื่นๆที่เรากู้ได้ต่ำกว่าเป้ามากเกินไปนั้น ไม่ต้องบอกอะไร เพราะผมได้ปฏิเสธทางธนาคารไปแล้วว่า ได้น้อยเกินไป ผมไม่กู้ แต่.. โครงการที่เราคุยกับเขาไว้ว่าจะซื้อที่เขา ผมก็พูดกับเขาว่า "แบ๊งค์อนุมัติให้ ไม่ได้เท่าจำนวนที่ผมต้องการ และมาตรองดูแล้ว เราต้องวางเงินจองเงินทำสัญญาและผ่อนดาวน์ เราก็คงไม่มีเงินแต่งบ้าน จึงต้องขออภัยด้วย" หวังว่าเคลียร์นะครับ จากคุณ : La coeur - [ 23 ม.ค. 52 12:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เหมือนทุกคนข้างบน แต่มีนิดนึงอย่าเชื่อเซลส์ขายบ้านมากนะคะ ตัวเองเชื่อเซลส์เลยซื้อที่ติดริมรั้วโครงการ อันนี้ไม่ควรซื้ออย่างยิ่ง และอีกเรื่อง ควรศึกษาเรื่องการทำประกันชีวิตค้ำประกันเงินกู้ให้ดีๆ ขอให้ได้บ้านที่ถูกใจ ถูกเงิน ถูกทำเล ไม่มีปัญหา กู้ได้เกินร้อยค่ะ จากคุณ : ผ่อนบ้านจนผอม (แต้มดาว) - [ 23 ม.ค. 52 15:50:52 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณผู้ชายมีพุง(กิ่ว) ลองยื่น pre-approve จากในเว็บก่อนก็ได้นะคะ เพื่อให้รู้ว่าตัวเราเองจะมีกำลังซื้อบ้านได้เท่าไหร่ ลองที่ลิงค์นี้ค่ะ รวดเร็วทันใจ 1 วันก็รู้ผล ที่สำคัญไม่ต้องเตรียมเอกสารให้ยุ่งยากด้วยค่ะ http://www.homedd.com/HomeddWeb/servlet/homedd.A_home_financing.frontweb.FwFinancingIndexServ อ้อ อีกอย่างถ้ากะว่าจะซื้อบ้านจากหมู่บ้านจัดสรร อย่าลืมเรื่องใบอนุญาตจัดสรรที่ดินด้วยนะคะ อันนี้สำคัญยิ่งสำหรับมือใหม่หัดซื้อ โชคดีนะคะ เอาใจช่วย จากคุณ : tutaclub - [ 23 ม.ค. 52 16:42:33 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอแจมอีกรอบนะค่ะ คุณผู้ชายมีพุง ขอบคุณ คุณLa coeur และคุณ kong มากนะคะ จะเอาคำแนะนำดังกล่าวไปใช้บ้างค่ะ คาดว่าอีกไม่นานไม่น่าเกินเม.ย.ต้องได้เป็นหนี้แน่นอนค่ะ ^_^ ว่าแต่คุณผู้ชายมีพุงไปดูบ้านแถวไหนไว้ค่ะ ส่วนเรากำลังหาแถวบางบัวทองค่ะ ยังหาไม่ได้เลย นี่ก็กะว่า วันหยุดจะไปตระเวณดูเหมือนกันค่ะ (มีใครพอทราบ ช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ บ้านที่ว่าคงได้แค่ ทาวเฮ้าส์หรือไม่ก็บ้านแฝดธรรมดาค่ะ เนื่องจากงบประมาณของเรามันมีจำกัด คือว่ารายได้น้อย ต้องใช้สอยประหยัดค่ะ ซัก ไม่เกิน 1.6 ก็คงจะกัดฟันไหว เดี๋ยวไม่มีตังค์ซื้อของเข้าบ้าน) ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ทุกท่าน จากคุณ : แหะๆ ผู้หญิงก็มีพุงเหมือนกัน (หมูน้อยหัวใจดุ๊กดิ๊ก) - [ 23 ม.ค. 52 18:18:56 ]