PANTIP.COM : R7482936 ปั๊มน้ำกรุนฟอส ซื้อมาแล้วครับ [เครื่องเสียง-เครื่องใช้ไฟฟ้า]

ความคิดเห็นที่ 18

1. วาล์วกันกลับ (Check Valve) ที่ต้องใส่ทางดูดมีความจำเป็นอยู่ครับ แม้ว่าระดับน้ำในถังจะสูงกว่าตัวปั๊มก็ตาม ทั้งนี้เพราะว่า ปั๊มอัตโนมัติแบบถังแรงดัน หรือ ปั๊มแบบแรงดันคงที่ ต่างก็ต้องมีสวิทช์แรงดัน (Pressure Switch) ซึ่งจะต่อวงจรให้ปั๊มทำงานเมื่อมีแรงดันต่ำกว่าที่ตั้งไว้ (เรียกว่า Cut In) แรงดันน้ำที่ว่านี้ประมาณ 1.4 Bars เทียบเป็นความสูงน้ำโดยประมาณก็ 14 ม. โดยแรงดันนี้จะทำให้อากาศในถังแรงดัน (Pressure Tank) หรือไนโตรเจนในกระป๋องแรงดันของปั๊มแรงดันคงที่ มีปริมาตรลดลง ซึ่งหากไม่มีวาล์วกันกลับ อากาศหรือแก๊สก็จะดันน้ำให้ย้อนกลับไปเข้าถังและแรงดันในถังแรงดันจะตกจน Cut In ครับ ปั๊มก็จะทำงานติดๆ ดับๆ โดยหาทางส่งแทบตายก็ไม่เจอรอยรั่ว (ก็ไม่รู้ว่าปัญหารุนแรงของ คคห.14 คืออันนี้หรือเปล่า)

สำหรับในกรณีที่ระดับน้ำทางส่งต่ำกว่าปั๊ม หรือการสูบจากบ่อ Foot Valve ปลายท่อดูดก็คือ วาล์วกันกลับอย่างหนึ่ง ซึ่งหากรั่วมากๆ อาจดูดน้ำไม่ขึ้น ปั๊มก็จะหมุนแต่สูบน้ำไม่ได้ ที่เรียกว่า Run Dry ซึ่งหากให้ปั๊มทำงานในสภาพนี้นานๆ ตัวใบพัด และห้องปั๊มอาจสึกหรอได้ แต่ให้ผลช้ากว่าแบบขลุกขลิก (มีน้ำเลี้ยง แต่ความดันในห้องสูบเท่ากับความดันไอ ที่จะดังแก๊กๆ ด้วย)

2. แต่ในกรณีที่ติด วาล์วกันกลับหลังปั๊มหรือในท่อทางส่งเนี่ยต่างหากที่อาจมีปัญหา เพราะว่า ในการเดินท่อแบบช่างชาวบ้านทั่วไปนั้น จะเดินท่อค่อนข้างเล็ก และไม่มีท่ออากาศ (Air Chamber) ที่จะดูดซับแรงดันกระตุกที่เกิดจากผลของ Water Hammer ซึ่งหากไม่ติดตั้งวาล์วกันกลับ อากาศที่ถูกอัดในถังแรงดันจะค่อยๆดูดซับแรงดันนี้ได้บ้าง (หากไม่เชื่อก็ลองต่อวาล์ว Bypass ตรงวาล์วกันกลับนี้และเปิดปิดวาล์วนี้ระหว่างที่ปั๊มทำงานและหยุด และสังเกตท่อให้ดี) แต่วาล์วกันกลับหลังปั๊มนี้ จะมีประโยชน์และจำเป็นต้องติดสำหรับปั๊มที่ไม่มี ถังรับแรงดัน (Surge Tank ซึ่งมันก็เหมือนถังแรงดัน แต่ขนาดใหญ่กว่า) เพื่อไม่ให้แรงดันเข้าไปกระแทกใบพัดปัมที่กำลังจะหยุดให้หมุนกลับทาง

สำหรับการเดินท่อที่เล้กนั้น แม้จะทำให้แรงดันลดลงมากแต่จะเป็นช่วงกลางและปลายท่อ แต่ความเร็วที่สูงเนื่องจากท่อเล็กจะมีผลต่อ Water Hammer เพราะขนาดของแรงดันนี้เป็นผลมาจากความเร็วน้ำกำลังไหลที่ถูกทำให้หยุดในช่วงเวลาสั้นมากๆ

3. สำหรับการตั้งความดันในถังแรงดันนั้น ถังแรงดันรุ่นนี้เรียกว่า Diaphram Tank โดยจะมีแผ่นยางคั่นระหว่างน้ำกับอากาศ เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศละลายไปกับน้ำ (แต่โมเลกุลของก๊าซบางชนิดก็อาจซึมผ่านแผ่นกั้นนี้ไปได้ รวมถึงรั่วอออกด้านบน) แต่ก็อาจเกิดเหตุการณ์บางอย่างทำให้อากาศในถังรั่วออกไปได้ ซึ่งตามที่เขียนข้างถังก็ให้อัดอากาศให้มีแรงดัน 1.9 Bars โดยปิดสวิทช์ให้ปั๊มหยุดทำงาน ปิดวาล์วทางท่อดูด เปิดก๊อกน้ำในทางส่งซักตัวนึง ดูจนความดันที่ เกจ์วัดแรงดัน (Pressure Guage) ตกลงเป็น 0 เติมลมที่ถังวัดแรงดันให้ได้ 1.9 Bars (19.4 Ksc หรือ 27.6 Psi) จากนั้นก็เปิดวาล์วทางดูด ปิดก๊อก และเปิดสวิทช์ให้ปั๊มทำงาน

4. สำหรับอาการที่อากาศเริ่มเหลือน้อย ก็คือ ปั๊มอาจจะทำงานติดๆ ดับๆ ถี่ขึ้นกว่าที่เคยเป็น เมื่อมีการใช้น้ำน้อยๆ หรือน้ำรั่วแค่ไม่กี่สิบหยดก็ทำงานช่วงสั้นๆ ทั้งนี้เพราะอากาศมีปริมาณน้อยจึงหดตัวน้อย น้ำจะเข้าไปอยู่ในถังแรงดันเกือบเต็ม ข้อสังเกตสำหรับ Diaphram Tank อีกอย่างก็คือ ไม่ต้องถามว่าตัวเติมอากาศ (Air Charger ) อยู่ไหน เพราะมันไม่มีครับ

จากคุณ : Waterman (LN106) - [ 2 ก.พ. 52 23:55:38 ]