ความคิดเห็นที่ 1 จำเป็น เป็นอย่างยิ่ง ถ้าของใช้เกินจริง เราก็ไม่อยากจ่ายเกิน ถ้าของราคาแพงเกินไป เราไม่อยากจ่าย ทำนองเดียวกัน ถ้าของใช้น้อยเกินจริง หรือ ราคาถูกเกินจริง ผู้รับเหมาอาจคิดตก งานขาดทุน อาจหนีงานได้ โดยรวม ก็ดูให้ปริมาณถูกต้อง ราคามีกำไรสมเหตุสมผล จากคุณ : หมูทอง (Goldenpig) - [ 12 ก.พ. 52 20:44:31 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ยืนยันว่าต้องมีสิ่งที่เรียกว่า BOQ แต่องค์ประกอบในสัญญางานก่อนสร้าง   - Premilimary Drawing  เป็นแบบเบื้องต้นสำหรับประเมินราคาก่อน - Material Specification & Vendor list พวกสเปควัสดุทั้งหลาย อย่างน้อยๆ ก็กำหนดแบบพื้นฐานไว้ก่อน พร้อมกำหนดยี่ห้อที่จะใช้  ผู้รับเหมาจะได้หมกเม็ดไม่ได้ - BOQ บอกให้แยกค่าแรง กับ ค่าของ ออกจากกันเลย เรียกว่า Direct Cost แล้วกัน  แต่ส่วนใหญ่ผู้รับเหมาไม่ค่อยนิยมทำให้ เพราะ .... และให้แยก Indirect cost  คือ ออกจาก BOQ และให้แยก Overhead & Profit เป็นอีกหัวข้อหนึ่งครับ     - Scope of work  ขอบเขตงานที่ผู้รับเหมาจะทำ เช่น การขออนุญาตต่างๆ, ประกันระหว่างงานก่อสร้าง, Foreman etc. ไว้วันหลังมาต่อแล้วกันครับ จากคุณ : Daimon in the rough - [ 12 ก.พ. 52 20:48:18 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มี BOQ ค่าวัสดุ ผู้ว่าจ้างก็สามารถตรวจสอบราคาจากร้านค้าทั่วไปได้ ว่าที่เสนอมาถูกหรือแพง ค่าแรง มีรายเดียวก็อาจต้องยอมเพราะไม่มีอะไรเทียบ แต่ถ้าสองรายเปรียบเทียบได้ ก็เลือกเอาสิครับ หากละเอียดพอ มันจะแบ่งงวดงาน รวมถึงวางแผนงานก่อสร้างได้ ผมก็ใช้เจ้านี่แหละ ควบคุมและบริหารงานก่อสร้าง ปัญหาน้อย เมื่อต้องเพิ่มหรือลดงาน เพราะ อัตราราคางานต่อหน่วย (Unit Cost) มันระบุชัดเจน และสุดท้าย เจ้าของเงินจะจ้างมั๊ยครับ ที่ช่างคุยว่าทำงานมาเยอะ แต่ถอดแบบไม่ได้ คำนวณปริมาณไม่ถูกแบบกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R7512714/R7512714.html ผมไม่เรียกคนงานพวกนี้ว่าช่างหรอก มันแค่คนงานพื้นๆ เอาไว้เทปูนกะขุดดิน จากคุณ : Waterman (LN106) - [ 12 ก.พ. 52 21:25:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จำเป็นมากก ครับ ควรระบุให้ละเอียด สเปค ของเหล็ก โรงเล็กโรงใหญ่ มีมาตราฐาน มอก จะได้ไม่ต้องเถียงกัน งานเพิ่ม งานลด จากคุณ : เคยทำ (homeman) - [ 13 ก.พ. 52 12:30:51 ]