ความคิดเห็นที่ 1 หากคุณ FOXTROT เข้ามาแจมด้วยจะดีมากๆ ครับ จากคุณ : NPM - [ 7 มี.ค. 52 08:36:11 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กำแพงสองชั้น ที่ผมเคยทำ จะเจาะรูโดยฝังท่อ PVC 3 หุน ที่ด้านล่างสุด กับ ด้านบนสุด ของผนังด้านหนึ่ง ระยะห่างกัน 50 ซม. ตลอดแนว เรื่องกันความร้อน ติดเป็นพวกแผงกันแดดดีกว่า เนื่องจากแผงจะกันแดดส่องผนังบ้าน หลังแผงจะมีอากาศช่วยระบายความร้อน ทั้งนี้ ขึ้นกับสถาปนิก จากคุณ : KittySP - [ 7 มี.ค. 52 09:16:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนตัวนะครับ การที่จะทำแบบสองชั้นนั้นผมว่าถ้างบถึงและพื้นที่บ้านมาก ก็น่าจะทำ แต่ในความคิดผมที่เคยลองและไปซ่อมงานมานะครับ ถ้าการฉาบภายนอกหรือมีทางเข้าของน้ำมันจะเป็นตัวเก็บความชื้นอย่างดี แต่ถ้าไม่อยากไม่ให้ร้อนมาก ผมแนะนำก่ออิฐฉาบปูนตามปกติ แล้วด้านในหาพวกแผ่นยิบซั่มมาปิดทับกับผนังเดิม แล้วโบ้วฉาบรอยต่อแผ่นจากนั้นขัดแล้วทาสี ข้อดี กันความร้อนและเก็บเสียงได้ระดับหนึ่ง ทาสีแล้วทำให้ผนังดูเรียบอุณหภูมิที่เคยลองวัดก่อนติดและหลังติดลดประมาณ 3-5องศา จากคุณ : peengineer19/68 - [ 7 มี.ค. 52 10:37:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ในทางปฎิบัติการก่อกําเพง 2 ชั้น เมื่อถึงด้านบนสุด ส่วนมากเมื่อถึงการก่อกําเเพงบนสุด ผมมักให้ช่างทํารูขนาด 2 ซ.ม. (เอามือช่างก่อฯคนนี่เเหละเเหย่ปูนที่ก่ออิฐเป็นรูไว้ทุกๆ 1 เมตรในส่วนผนังด้านใน เพื่อระบายอากาศ อย่าลืมในการก่อสร้างบ้านพักอาคารสมัยนี้จะมีการทําฝ้าเพดาน การฉาบปูนก็จะฉาบเฉพาะในส่วนใช้งานจริงเท่านั้น การก่อปูนอิฐเป็นกําเเพงด้านบนเหนือฝ้า ในทางปฎิบัติมันจะมีรูเล็กๆระหว่างก้อนเต็มไปทั่ว ดังนั้นความชื้นในกําเเพง 2 ชั้นจะไม่ถูกสะสมทําให้กลายทําให้แอร์จะยิ่งทำงานหนักขึ้นหรอกครับ ................. เเต่ผมมองในมุมจากการผ่านงานก่อสร้างจริงๆเพียงเเต่บางครั้งการตอบเเสดงความคิดเห็นของผมไม่สามารถที่จะบอกรายละเอียดได้หมดครับ( พิมพ์ไม่เก่งครับ ) ส่วนที่บอกเรื่องนานวันความชื้นเข้าจะมาสะสมกลายเป็นน้ำท่วมขังอยู่ในช่องว่างระหว่างผนัง บอกตามตรงผมไม่เคยพบนะครับ ถ้าเป็นความชื้นจากใต้ดินผ่านขึ้นมาที่ผนังเเบบ 2 ชั้น เคยพบครับ เเต่นั้นมันควรไปโทษที่การป้องกันการรั่วซึมของพื้นอาคารนั้นทําไม่ดีมากกว่าครับ เเต่ขอออกตัวไว้ก่อนว่า ผมไม่เคยเเนะนําการก่อผนัง 2 ชั้นด้วยอิฐมวลเบานะครับ( ผมเเนะนําให้ใช้เเต่อิฐมอญประหยัดปูน หรือ อิฐซีเมนต์บล๊อก เท่านั้น ) ที่คอลัมท์ ไทยรัฐ เขียนวิจารณ์ตรงที่บ้านประหยัดพลังงานใช้การก่อผนัง 2 ชั้นด้วยอิฐมวลเบานะครับ วัสดุที่ใช้คนละประเภทกันครับ อิฐมวลเบามีคุณสมบัติกันความชื้นได้ดี ดังนั้นคุณต้องทําการบ้านควบคุมผนัง 2 ชั้นที่ก่อด้วยอิฐมวลเบา ทําตามคําเเนะนําความคิดเห็นที่ 2 หรือ ส่วนเเรกของผมครับ  ปันจุบันอิฐมวลเบาถูดลดต้นทุนกันมากเกินไป( ลดคุณภาพ ) เร่งขยายฟองอากาศของเนื้อปูนจนโพรงอากาศทะลุถึงกัน ทําให้การป้องกันเป็นฉนวนกันความร้อนด้อยลงไป( สมัยนี้ผมเเทบจะเรียกว่า อิฐโฟมปูนมูลเบา เเล้วครับ แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 12:57:19 จากคุณ : pinhead2000 - [ 7 มี.ค. 52 12:55:22 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทำไมต้องก่อสองชั้นด้วยล่ะครับ  อิฐมวลเบา 20 ซม.ก็สิ้นเรื่องสิ้นราวกันไป เมื่อก่อนมันไม่มีอิฐมวลเบาเค้าก็ใช้วิธีเบิ้ลผนังสองชั้น  เดี๋ยวนี้มีแล้วดันกลับไปใช้วิธีดั้งเดิมอีก คุณสมบัตของอิฐมวลเบาโครงสร้างมันมีโพรงอากาศอยู่แล้ว  จะไปทำแอร์แก๊บสร้างโพรงอากาศอีกทำไมครับ พวกผมทำห้องอัดต้องทำผนังสองชั้นทุกห้อง  แล้วผมก็จะแนะนำให้ลูกค้าทุกคนใช้เครื่องดูดความชื้น(ห้องพวกนี้ปิดทึบระบายความชื้นออกยาก) ผมว่าคุณใช้แผงกันแดด  ไม่ว่าจะเป็นระแนงไม้ หรือ กระเบื้องกันแสงแดด แบบที่คุณKittySP  แนะนำดีกว่านะครับ  ไม่ปวดหัวดี จากคุณ : mute - [ 7 มี.ค. 52 13:38:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณหลายๆ ความเห็นครับ ผมรบกวน คุณ Pinhead อีกสักนิดครับ ว่ามี รูปถ่าย การเจาะรูป ขนาด 2 cm หรือเปล่า ครับ เราใช้นิ้วเปล่าๆ เจาะเท่านั้นเอง หรือ ต้องใช้ ท่อ PVC อย่างที่คุณ Kitty แนะนำ ต้องมีอะไรมา ปิด หรือ บังรู เพื่อป้องกัน เเมลง, สัตว์ หรือ แม้แต่้น้ำฝน(สาด) เข้าไปในรูนั้น ครับ ระแนงไม้ ก็น่าสนใจครับ   จากคุณ : NPM - [ 7 มี.ค. 52 13:38:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ mute ครับ เพราะว่า ราคา อิฐมวลเบา หนา 20 cm ราคาสูงกว่ามากครับ เพราะ ขนาด ผมเปลี่ยน spec จาก อิฐมอญ เป็น อิฐมวลเบา หนา 12 cm ยังต้องเพิ่มเงินประมาณ 2-3 หมื่นบาทเลยครับ จากคุณ : NPM - [ 7 มี.ค. 52 14:40:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 4 ปีแล้ว ปกติดีครับ เคยเอาผลมาโพสท์ไว้นานแล้วครับ อุณหภูมินอก/ในต่างกันประมาณ 5-6 องศา ทุกวันนี้ก้อยังเหมือนเดิมครับ ของผมไม่ได้เจาะรู (ตอนแรกคิดจะเจาะ แต่กลัวจะกลายเปนที่อยู่ของสัตว์) เรื่องความชื้นภายในช่องว่าง ไม่ทราบครับ แต่ภายในห้อง หน้าร้อนก้อประมาณ 70% หน้าหนาวก้อ 30% ปกติตามฤดู เรื่องเสียงรบกวนจากภายนอกนี่เยี่ยมมากครับ คนมาตะโกนเรียกหน้าบ้านยังไม่ได้ยินเลย (ตัวห้องห่างจากรั้ว 12 ม.) จากคุณ : FOXTROT - [ 7 มี.ค. 52 16:47:42 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ดับเบิ้ลวอลล์ ผนังของผมหนาทั้งหมด 38 ซม. ช่องว่าง 11 ซม. เว้นไว้ให้พอดีรางหน้าต่างมาตราฐาน (10 ซม.) บานกระจก/มุ่งลวด จะเลื่อนเก็บภายในช่องนี้ครับ จากคุณ : FOXTROT - [ 7 มี.ค. 52 17:12:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าปูหินทรายด้วยก้อเปน ทริเบิ้ลวอลล์ไปเลย อิอิ จากคุณ : FOXTROT - [ 7 มี.ค. 52 17:20:51 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผนังอิฐสองชั้นยังไงก็ราคาสูงกว่าอิฐมวลเบา 20 ซม.  ชั้นเดียวครับ ที่ผมแนะนำนี่หมายถึงก่ออิฐมวลเบา 20 ซม.ชั้นเดียวนะครับ  คุณจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องแอร์แก๊บ --------------------------------------------------------------------------- ผมเคยทำห้องอัดให้รุ่นน้องโดยทำผนังปูนสองชั้นตรงกลางใส่โฟม  แล้วเว้นแอร์แก๊บ 5 ซม. ตามด้วยผนังเบาอีกหนึ่งชั้น  เผอิญรุ่นน้องไม่ค่อยได้ใช้ห้องผ่านไปสองเดือน  ราขึ้นตามผนังและฝ้าครับ   ตอนหลังเลยต้องให้ใช้เครื่องดูดความชื้นมาตลอด ----------------------------------------------------------------------------- เรื่องความชื้นถ้าห้องไม่ปิดทึบ  เปิดให้ผนังได้ระบายความชื้นออกไปบ้างก็ไม่มีปัญหา ซึ่งมันขึ้นอยู่กับคนใช้งานนะครับ ผมคิดว่าถ้ากังวลแล้วก็อย่าทำดีกว่า  แนะนำให้ใช้อิฐมวเบา 20 ซม.ไปเลยก็หมดเรื่องกันไป จากคุณ : mute - [ 7 มี.ค. 52 19:08:53 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถึงคุณ NPM ที่ถามมาหลังไมค์  ผมตอบช้าเพราะว่ามันแต่อ่าน คห คุณหัวเข็ม(pinhead2000) ได้ความรู้ดีปกติถ้าว่างๆก็แอบมาอ่าน คหคุณหัวเข็มเสมอๆ เรียกว่าเป็นแฟนประจำเลยครับ เข้าเรื่องเสียทีนะครับเรื่องที่ถามว่า ที่บ้านผมทำผนังสองชั้นแล้วเป็นอย่างไรบ้าง    บ้านปลูกปี 2538 ตอนนี้ก็14ปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหาเรื่องความชื้นเข้ามาในผนังครับ ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง  การป้องกันความร้อนก็ดีครับ  ด้านที่ถูกแดดเต็มๆกลางวันเอามือแตะผนังไม่รู้สึกว่าร้อน   และไม่ได้เจาะรูเพราะช่างไม่ได้แนะนำใว้(สงสัยไม่อยากทำ)  อีกอย่างเคยเห็นเขาเอาโฟมหรือยิมซั่มใส่ช่องว่างเพื่อกันเสียงและเพื่มประสิทธิภาพในการกันความร้อนด้วยครับ ปล.  ผนังสองชั้นถ้าจะทำต้องดูดีๆนะครับไม่ให้มีรอยแยก เพราะอาจจะนำภัยมาสู่บ้านได้ คือเป็นที่อยู่อาศัยของปลวกได้ครับ   (ที่บ้านยังไม่เจอ แต่ขึ้นทางท่อน้ำทิ้ง) ไม่รู้ตอบได้หมดหรือเปล่า จากคุณ : ไทไท - [ 7 มี.ค. 52 20:00:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 20:18:29 จากคุณ : ไทไท - [ 7 มี.ค. 52 20:11:53 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นบล็อกของคุณสำเริง ฤทธิ์พริ้ง http://www.oknation.net/blog/civil ลองเข้าไปอ่านดูครับ  ในบล็อคจะพูดถึงปัญหาในการก่อสร้างต่างและวิธีแก้ไข จากคุณ : ไทไท - [ 7 มี.ค. 52 20:17:00 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าจะเจาะรูก็ทําเฉพาะผนังด้านในเท่านั้นครับ ผนังด้านนอกฉาบเรียบทั้งหมดครับ ส่วนตัวคุณจะเจาะรู หรือ เอานิ้วเเหย่ปูนที่ก่อยังไม่เเห้ง ก็เเล้วเเต่สภาพหน้างานครับ  ผมมักจะทําเฉพาะผนังที่โดนฝนสาด หรือ ห้องนั้นมีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ มากกว่าครับ ส่วนที่ในคอลัมท์ ไทยรัฐ บอกว่า ผนังเเบบ 2 ชั้นไม่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นเเบบประเทศไทย  ผมว่าเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนนะครับ เเต่ถ้าในกรณีบ้านพักอาศัยหลังนั้นมีการทําฝ้าเพดาน ผมก็ไม่ทําการเจาะรูครับ เพราะผนังอิฐมอญ หรือ อิฐซีเมนต์บล๊อค ที่เหนือระดับฝ้าเพดานเราจะไม่มีการฉาบ ช่องว่างระหว่างการก่ออิฐเเต่ละชั้นเเบบหยาบ มันจะมีรูอากาศที่ความชื้นสามารถระบายออกได้อยู่เเล้วครับ รวมทั้งการก่อผนัง 2 ชั้นผู้ออกแบบก็มักจะเอาช่องว่างระหว่างผนังมาเป็นประโยชน์ในการเดินท่อสายไฟที่จะติดตั้งปลั๊ก,สวิทช์ที่กําเเพงไว้ภายในช่องว่างของผนัง ทําให้ผนัง 2 ชั้นในทางปฎิบัติย่อมจะมีรูระบายอากาศ-ความชื้น ออกมาได้ครับเช่นจุด เดินท่อสายไฟ,ตําเเหน่งปลัก-สวิทช์..........การกังวลว่าคิดว่าผนังด้านในที่ก่อเเบบ 2 ชั้นจะไม่มีรูระบายอากาศเพื่อระบายความชื้นจึงเป็นไปได้ยากครับ การวิจารณ์เทตนิคงานก่อสร้างเป็นเรื่องปกติ อยู่ที่ใครเเจกเเจงข้อมูลที่มีเหตุผลประกอบได้ดีกว่ากันมากกว่าครับ ส่วนตัวผมไม่เเนะนําให้คุณใช้ อิฐมวลเบาความหนา 20 ซ.ม. หากจะใช้ก็ควรเป็นขนาด 10 ซ.ม. ก็พอเเล้วครับ( เเต่ในเงื่อนไขอิฐมวลเบาที่มีคุณภาพนะครับ ) หรือ ใช้เป็นพวกอิฐ COOL BLOCKS จะดีกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 11:33:17 จากคุณ : pinhead2000 - [ 8 มี.ค. 52 00:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบพระคุณทุกๆ ท่านมาก เลยครับ ข้อมูลปึ้กจริงๆ จะได้ หมดห่วงสักที จากคุณ : NPM - [ 8 มี.ค. 52 07:56:24 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ในความคิดเห็นที่ 11 ที่เเนะนําอิฐมวลเบาความหนา 2 ซ.ม. นั้นผมขอเตือนว่า โดยทั่วๆไปเสา เเละ คาน คสล. ตามบ้านพักอยู่อาศัยทั่วๆไปมักจะมีขนาดที่ 20 ซ.ม. การที่คุณบ้าจี้เชื่อคําเเนะนําไปใช้อิฐมวลเบาหนา 20 ซ.ม. บ้านคุณก็ไม่มีขอบมุมเสา-ไม่มีขอบมุมคานให้เห็นเลยนะครับ..........ซึ่งมันคงจะเเปลกมากๆครับเพราะไม่มีใตรเต้าทํากันครับ อิ อิ อิ หากคุณจะเน้นเรื่องการประหยัดพลังงานผมเเนะนําผนังอิฐที่มีฉนวนโฟมสอดไส้กลาง อย่างอิฐ COOL BLOCKS จะดีกว่าครับ ( ถ้าคุณมีงบประมาณสูง ) เพราะความหนาของ โฟม ที่ 1 นิ้ว มีค่าสามารถค่าความต้านทานความร้อนเทียบเท่าผนังคอนกรีตที่หนา 12 นิ้ว?( ค่า K - ค่าสัมประสิทธิ์ในการนำความร้อน(มีหน่วยเป็น W/m.K)  โดยค่ายิ่งน้อยเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น  น้อยชนิดเป็นจุดทศนิยมยิ่งดี  หากเมื่อพิจารณาในข้อนี้ดูเหมือนวัสดุกันความร้อนในตระกูลโฟมจะดีที่สุดครับ ดีกว่าพวกไฟเบอร์กลาส หรือ เยื่อไม้ )  เเน่นอนค่าค่าความต้านทานความร้อน จะแปรผันตามอุณหภูมิของวัสดุที่เพิ่มขึ้น เช่นค่าที่ผู้ผลิตเขาบอกเรานั้นเป็นค่าที่วัดที่อุณหภูมิ 28 องศาเซลเซียส  เมื่อวัสดุกันความร้อนกักหน่วงความร้อนไปสักพักอุณหภูมิของมันก็จะสูงขึ้น และค่า K ก็เพิ่มตามไปด้วย  นั้นหมายความว่าความสามารถในการกันความร้อนลดลงตาม รูปที่เเนบเป็น กราฟเเสดงค่าประสิทธิภาพของวัสดุกันความร้อนต่างๆ จากคุณ : pinhead2000 - [ 8 มี.ค. 52 12:01:24 ]

ความคิดเห็นที่ 18 2 จากคุณ : pinhead2000 - [ 8 มี.ค. 52 12:01:55 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รูปที่เเนบ เป็นงานก่อผนัง 2 ชั้นที่ติดตั้งฉนวนกันความร้อนไว้ตรงกลาง เมื่อ กว่า 6 ปีที่เเล้ว ยุคยังไม่มีพวก P.U.โฟม เเบบสมัยนี้ครับ .............เล่นฉนวนไฟเบอร์เเบบม้วนมาดัดเเปลงใช้ครับ ยุคนั้นทางบ. สยามไฟเบอร์กลาสยังไม่มีเเผ่นไฟเบอร์กลาสเเบบความหนาเเน่นสูงที่มีเป็นเเผ่นๆผลิตออกมาขายเเบบสมัยนี้ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 12:10:56 จากคุณ : pinhead2000 - [ 8 มี.ค. 52 12:08:29 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผนังเเบบ 2 ชั้นเเบบตรงกลางมีเเผ่นฉนวนกันความร้อนเเบบไฟเบอร์กลาสความหนาเเน่นสูงอยู่ตรงกลาง ของต่างประเทศที่มีใช้ในปัจจุบัน จากคุณ : pinhead2000 - [ 8 มี.ค. 52 12:14:50 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ทำกำแพง 2ชั้นทำเพื่อกันความร้อนใช่ไหมครับ ถ้าผนังด้านนั้นไม่โดนแดดเลย (มีชายคาบังไว้) ก็ไม่ต้องทำ 2ชั้นได้สิครับ ผมว่านั่นคือการแก้ปัญหาที่ตรงจุดมากกว่า ต่อให้คุณใช้ผนัง2ชั้น ถ้าผนังด้านนั้นไม่โดนแดดมันจะไปมีประโยชน์อะไร หรือถ้าผนังด้านที่โดนแดดแต่มีกระจกผืนใหญ่ที่ทำให้ความร้อนจากแดดเข้าได้เต็มๆ ต่อให้ใช้คุณสัก3ชั้น ความร้อนก็เข้ามาในบ้านได้อยู่ดีครับ ส่วนเรื่องความชื้นไว้ค่อยว่ากันครับ จริงเรื่องพวกนี้น่าจะแก้ที่การออกแบบอาคารเพื่อประหยัดพลังงานเลยซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุจริงๆ ที่ต้องเริ่มจากพื้นฐานที่ต้องดูทิศทางแดดลม เวลาการใช้งาน เรื่องพวกนี้สามารถคำนวณได้เลย ว่าผนังที่อยู่ทิศนี้ชายคายื่นเท่านี้จะโดนแดด วันไหน เดือนไหนบ้าง เวลากี่โมงถึงกี่โมง ได้เลย ส่วนเรื่องค่าความร้อนที่เข้าไปในตัวอาคาร ค่า ottv มันก็มีการคำนวณบอกได้เช่นกัน ว่าใช้ผนังชนิดนี้ หนาเท่านี้ อยู่ทิศนี้ ความร้อนเข้ามาได้เท่าไหร่ๆ มันสามารถคำนวณบอกได้หมดครับ แล้วคุณทราบไหมครับว่า ในบ้านพักอาศัยส่วนใหญ่ ความร้อนเข้ามาจากทางหลังคามากกว่าทางผนังนะครับ ดังนั้นอย่างลืมเรื่องการป้องกันความร้อนจากหลังคาซึ่งเป็นหัวใจหลักจริงๆด้วยล่ะครับ เคสของการออกแบบผนังให้กันความร้อนและประหยัดพลังงานมีมากมายหลายเคส หลายวิธี ตั้งแต่การใช้ร่มเงา จากชายคาหรือแผงบังแดด การวัสดุต่างๆมาทำเป็นผนังกันความร้อน ซึ่งไม่ใช่ต้องใช้ผนังสองชั้น ใส่ฉนวนอย่างเดียวหรอกครับ มันขึ้นกับความเหมาะสมของผนังแต่ล่ะด้าน แล้วการใช้งานของอาคารครับ ถ้าเราใช้ไอ้โน่นไอ้นี่มากบางครั้งมันก็มากเกินความจำเป็นไป ทำให้ยิ่งเปลืองขึ้นเปล่าๆ ตรงนี้ถ้าได้สถาปนิกที่มีความรู้และเชี่ยวชาญเรื่องพลังงานนี้ ให้คำแนะนำเรื่องวัสดุต่างๆได้ มันจะไปลดค่าใช้จ่ายพวกนี้ได้เยอะครับ แต่คุณอาจต้องจ่ายค่าความรู้ให้เขาเพิ่มครับ จากคุณ : tm. - [ 8 มี.ค. 52 13:43:45 A:192.168.0.17 X:58.9.91.168 TicketID:203364 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ Pinhead ครับ แต่ละวิธีที่แนะนำมา น่าสนมากๆ ครับ แต่ ติดอยู่สองข้อครับ คือ เงิน และ การไปคุยกับ บริษัทรับสร้างบ้านครับ (เพราะหากพิศดารมาเค้าอาจจะไม่ทำ) -__-" คุณ tm ครับ จากรูป หน้าบ้านผมจะหันหน้า ทางทิศเหนือ และ หลังบ้าน กับทาง ขวามือของตัวบ้าน จะติดกับ ทิศ ใต้ และ ทิศตะวันตก เต็ม แม้ว่าผมจะวางผัง ให้ ห้องน้ำ และ ห้องแต่งตัว รับไป บานส่วนแล้ว แต่ห้องนอนใหญ่ (ห้องนอน 1) และ ห้องนอน 3 ก็ยังรับแดดในช่วงกลางวันอยู่ดี ผมจึงมีความคิดว่าจะทำกำแพง สองชั้น เฉพาะทางทิศใต้และ ทิศตะวันตกเท่านั้น ส่วนชายคานั้น มีครับ หากดูจา่กเส้นปะ จะเห็นได้ว่า ชายคายื่นมาในระยะปกติครับ ส่วนกรณี เคส แผงบังแดด อันนี้ น่าสนครับ (ทำไมตอนนั้นผมลืมสนิท เครียดอยู่ตั้งนาน   ) แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 15:58:51 จากคุณ : NPM - [ 8 มี.ค. 52 15:51:48 ]

ความคิดเห็นที่ 23 โดยทั่วๆไปเสา เเละ คาน คสล. ตามบ้านพักอยู่อาศัยทั่วๆไปมักจะมีขนาดที่ 20 ซ.ม. การที่คุณบ้าจี้เชื่อคําเเนะนําไปใช้อิฐมวลเบาหนา 20 ซ.ม. บ้านคุณก็ไม่มีขอบมุมเสา-ไม่มีขอบมุมคานให้เห็นเลยนะครับ..........ซึ่งมันคงจะเเปลกมากๆครับเพราะไม่มีใตรเต้าทํากันครับ อิ อิ อิ ---------------------------------------------------------- ผมว่าคุณpinhead2000  ไม่บ้าก็เมานะ  รูปคห.19 ของคุณก็ก่อเต็มเสาเหมือนกัน  เมื่อคุณทำผนังสองชั้นมันก็ได้ที่ความหนาประมาณ 20ซม. เท่ากันกับผนังอิฐมวลเบาชั้นเดียวนั่นล่ะครับ  ผมชักสงสัยแล้วว่าคุณเคยทำผนังสองชั้นจริงๆหรือเปล่า   ดูจากแปลน  คุณNPM  แล้วบางผนังก็บ้าจี้เหมือนผมนะ  ผนังเต็มเสาเหมือนกันเลย   ที่ผมแนะนำให้ใช้แบบนั้นเพราะมันประหยัดเงินกว่า  และช่างจะเข้าใจได้มากกว่า   อาชีพผมต้องทำผนัง2ชั้นทุกห้องครับ  ลองมาหมอทั้งอิฐมอญสองชั้น  อิฐมวลเบาสองชั้น   ผนังหนัก 1 ชั้น ผนังเบา 1 ชั้น  ลองทำมาหมด อย่าว่าแต่สองชั้นเลยครับ  ผนังสี่ชั้นผมทำเป็นปกติเลย  ทำทุกงาน มันมีข้อดีข้อเสีย  ที่แนะนำไปไม่ได้อยากมาบลัฟใคร  เพียงแต่การทำผนังสองชั้นมายุ่งยาก   เพราะมันฉาบสามด้านซึงจะมีด้านนึงเก็บความชื้นมากกว่าผนังปกติ...........มันมีแอร์แก๊บที่เราต้องระวังเรื่องสัตว์แมลงไปทำรัง  เราต้องระวังเรื่องการแตกร้าวของผนังมากกว่าปกติ เราต้องเสีย คชจ.เพิ่ม  สำหรับวงกบเพราะเราต้องซีลช่องแอร์แก๊บเพื่อวางวงกบ  ซึ่งบางทีจะแก้ไขด้วยการทำวงกบหนาเท่าความหนาของผนัง  ก็เสียคชจ.เพิ่มอีก ผมเสนอทางเลือกเพื่อให้ จขกท.ไปคุยกับ ผรม.ครับว่าเค้าจะสะดวกกับวิธีไหนมากกว่า  โดยที่ยังคุมความต้องการเรื่องการป้องกันความร้อนตามที่ จขกท.ต้องการ จากคุณ : mute - [ 9 มี.ค. 52 00:12:39 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ใจเย็นๆๆกันดีกว่านะครับ ผมว่านะคำนวณและดูทิศทางลม แสงแดด และการทำระบายอากาศเข้าออก การจัดหน้าต่าง หรือไม่ก็ติดกระจกเทมเปอร์ก็สวยดี ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา มีน้ำพุสักหน่อย ผมว่าบ้านก็เย็นแล้วครับ การก่อแบบ2ชั้นผมก็เคยเห็นนะครับ แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรมากถ้าลดอุณหภูมิลง ได้เกือบสัก 10องศาเป็นผมก็ทำถ้ามีทุน แต่ในวงการรับเหมามันน้อยมากที่จะมีใครทำได้มาตรฐานละเอียดรอบคอบ บ้านแม่ผมอยู่ต่างจังหวัดโดนแดดตลอดก่ออิฐแบบธรรมดา แต่ดูเรื่องของแดดและลม และปลูกต้นไม้ให้ร่ม ผนังก็ใช้พวกยิบซั่มบอร์ดประกบเข้าไปฉีดโพมที่หลังคา ก็เย็นดีครับ ไม่ร้อนจนเกินไปผนังก็เรียบดี กลางวันเหมือนอยู่ในโบชญ์วัด แต่ข้อมูลแต่ละท่านแน่นๆๆทั้งนั้น ผมไม่ได้จบสถาปัต ยังได้ความรู้เพิ่มขึ้น ผมว่าเทคนิคใครเทคนิคท่านนะครับ จากคุณ : peengineer19/68 - [ 9 มี.ค. 52 13:35:27 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เป็นบ้านจัดสรรใช่ไม๊ครับ ตามแปลนชายคาสั้นนิดเดียวแทบไม่ช่วยกันแดดที่ผนังได้ คงต้องทำแผงกันแดดยื่นต่ำลงมามากเลย จากคุณ : หนุ่ม - [ 9 มี.ค. 52 13:56:29 A:124.121.196.57 X:203.144.143.2 TicketID:090948 ]

ความคิดเห็นที่ 26 รูปในความคิดเห็นที่ 19 เป็นเสาขนาด 40X40 ซ.ม. คุณ mute  กรุณาอย่าคิดเองเออเองนะครับ หากสังเกตดูให้ดีๆคุณก็น่าพอจะประมาณขนาดเสา กับความหนาอิฐบล๊อคที่ช่างปูนกําลังก่ออิฐบล๊อคด้านในออกนะครับ???? ผมไม่รู้หรอกว่าคุณจะคุยว่าอาชีพคุณทำผนัง2ชั้น,ผนังสี่ชั้น,การมากลัวเรื่องวงกบเพราะต้องมาซีล??? เเต่บ้านเป็นเเสนๆหลังในประเทศไทย นิยมใช้การก่ออิฐมอญ-อิฐบล๊อค 2 ชั้น เพราะในเเง่ต้นทุนเเละการจัดหาวัสดุเเละปัญหาช่างปูน มันเหมาะสมที่สุดในค่าใช้จ่ายทําผนังกันความร้อนในบ้านเรา สําหรับผมเเค่การเเก้ปัญหาเรื่องวงกบประตู-หน้าต่างที่ใช้งานในกําเเพง 2 ชั้น ถ้าไม่รู้ก็ถามมาเพราะมันไม่ได้ยากเย็นยุ่งยากอะไรมากมาย ช่างฝีมือในที่ทํางานผมค่าเเรง 250 บาท/วันก็ทําเป็นเเละไม่เห็นมันจะมาบ่นว่ายากอะไร.....งานพวกนี้พวกหมูทําอะไรก็อร่อยครับ การเเตกร้าวของกําเเพงก็ไม่เกี่ยวกับผนัง 2 ชั้นมันอยู่อยู่ที่ฝีมือช่างก่อฉาบมากกว่านะ ผนังชั้นเดียวก้ร้าวได้ถ้าช่างก่อฉาบฝีมือช่างไม่ดี ช่องว่างระหว่างกําเเพง 2 ชั้นต้องระวังเรื่องสัตว์แมลงไปทำรัง....ผมว่าคุณไปทําการบ้านเรื่องการดักเเมลง,นก,หนูพุก ที่ช่องหลังคามากกว่านะครับ ถึงบ้านนี้เป็นกําเเพงชั้นเดียว ถ้าคุณไม่ทําการบ้านเรื่องช่องว่างต่างๆในหลังคา พวกสัตว์เเมลงก็เข้ามาทํารังได้ครับ..........เเต่ในทางปฎิบัติห้องใต้หลังคาที่ร้อนๆเเละมีเเต่ฝุ่น ผมเห็นมีเเต่ปลวกนะเเต่ในยุคโครงหลังคาเป็นเหล็ก เดินปีนซ่อมหลังคา,เดินสายไฟ,สายอากาศดาวเทียม เพิ่มหรือเดินผ่านในห้องใต้หลังคา ผมก็ไม่เคยเห็นจะมีสัตว์เเมลงอะไรไปทํารัง เพราะส่วนใหญ่เห็นมีเเต่ ฝุ่น???? ไม่ได้บลัฟ เเต่เล่าเเบบตรงไปตรงมาจากประสบการณ์การทํางานจริงๆ   อิฐมวลเบาหนา 20 ซ.ม. ก่อฉาบทั้ง 2 ด้านโดยฝีมือช่างทั่วๆไปสมัยนี้ก็มีความหนา 2--3 ซ.ม.=20+3+3 ซ.ม.=26ซ.ม. เสาคอนกรีตบ้านพักทั่วๆไปขนาด 20X20ซ.ม. ช่างปูนที่ก่อจับเซี๊ยมเสากับฉาบเรียบผนังเสา ต้องมากกว่า หรือ เท่ากับผนัง ปัญหาการก่อฉาบมีเเน่ๆครับ (  คุณเคยเห็นเสาจับเซี๊ยมหนามากกว่า 3 ซ.ม.รู้มัยถ้าช่างฝีมือไม่เเน่จริงงานออกมาดูไม่จืด???เห็นคุยว่าทํามาเยอะก็อธิบายเเย้งเเก้ต่างมา.....อยากรู้จัง ) ในรูปที่เเนบ งานผนังเเบบนี้ซิครับที่เรียกว่า ยุ่งยากตัวจริงครับ แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 01:44:46 แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 01:41:17 จากคุณ : pinhead2000 - [ 10 มี.ค. 52 01:33:55 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ผมว่าคุณpinhead2000  ข้อดีเยอะแยะนะครับ  ทั้งที่เป็นวิศวกรไม่ใช่สถาปนิก  ก็ยังสนใจงานในส่วนพวกนี้ แต่ข้อเสียคุณคือไม่ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างอยู่เป็นประจำ   จริงๆเมื่อวันอาทิตย์ผมเข้ามากระทู้นี้ประมาณสิบโมงเช้าและเห็นจขกท.ที่คห.16  ผมก็นึกว่ากระทู้นี้ปิดแล้วซะอีก ----------------------------------------------------------------------------- บางทีผมก็งงกับคุณนะ  เพื่อการเยาะเย้ยถากถางคนอื่น  คุณมักจะชอบสร้างศัตรูมากกว่าสร้างมิตร ผมคงไม่กล้าเตือนคุณหรอกว่าอยากให้คุณเลิกนิสัยพวกนี้  คุณก็มีความสามารถเยอะแยะถ้าคุณข้ามเรื่องพวกนี้ไปได้  คุณก็มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ผมว่าใครมาอ่านคห.ผมก็เข้าใจนะว่า  ข้อความที่คุณบลัฟผมมันไร้สาระมากๆ เวลาเราก่ออิฐมวลเบาสองชั้น  7.5+5+7.5 คือตัวเลขมาตรฐาน  ซึ่งมันเท่ากับ 20 ซม.พอดี   แบบโครงสร้างให้เราทำเสา 20ซม.  ช่างก็มักจะทำไม้แบบภายใน 20ซม. รวมฉาบเสร็จก็มากกว่า 20ซม.แน่นอน นี่ผมพูดถึงเฉพาะงานสถาปัตนะครับ  ถ้าพูดถึงงานอินทีเรีย  ผู้ออกแบบตกแต่งภายในทุกคน  ไม่มีใครอยากให้เห็นเสาเห็นคานเป็นเรื่องปกติ ไม่งั้นลูกค้าหลายคนจะแสวงหาช่างบิ้วอิน  หาอินทีเรียไปทำอะไรกัน ----------------------------------------------------------------------------- ถ้าคุณคิดว่าผมไม่ชอบหน้าคุณ  ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ  ผมอาจจะไม่พอใจในการกระทำบางอย่างของคุณในบางกระทู้   แต่ผมก็ยอมรับในความสารถของคุณนะครับ ถ้าคุณสังเกตุว่ามีกระทู้ที่เกี่ยวกับผนังสองชั้นตั้งมากมายผมก็ไม่ร่วมตอบเพราะผมก็สนับสนุนให้ใช้ด้วย(ทั้งเรื่องกันความร้อนและเรื่องเสียง) แต่เมื่อจขกท. เป็นกังวลเรื่องความชื้นซึ่งมันมีอยู่จริงถ้าห้องปิดทึบ  ผมก็เสนอแนะอิฐมวลเบา20ซม.เป็นอีกทางเลือกนึง  อยู่ที่จขกท.จะเลือกใช้หรือไม่ ---------------------------------------------------------------------------- ผมต้องขอโทษด้วย  ถ้าข้อความผมทำให้ใครต้องขุ่นข้องหมอง  และ ขอโทษจขกท.ด้วยถ้าความเห็นผม  นอกจากจะไม่ได้ประโยชน์กับจขกท.แล้ว ยังทำให้กระทู้คุณเปลี่ยนประเด็นอีกต่างหาก  สำหรับกระทู้นี้คงจบแล้วสำหรับผม  คงไม่แสดงความเห็นอีก  ถ้ามีโอกาสคงได้ถกกันที่กระทู้อื่นนะครับ จากคุณ : mute - [ 10 มี.ค. 52 07:31:07 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ใจเย็นๆ ครับ แค่นี้ ผมก็ได้ ประโยชน์ จาก ทุกท่านที่มาตอบ และนำไปประมวลผลตัดสินใจได้แล้วครับ ทั้งคุณ mute  คุณ Pinhead  และทุกๆท่านที่เข้ามาให้ idea ขอบพระคุณงามๆ จริงๆ ครับ ความเห็นแตกต่างแต่อย่าให้แตกแยกกันเลยครับ อยากให้ ครอบครัว ชายคา อบอุ่นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ขออนุญาตปิดกระทู้ครับผม จากคุณ : จขกท (NPM) - [ 10 มี.ค. 52 16:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อิอิ จากคุณ : FOXTROT - [ 10 มี.ค. 52 16:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอโทษนะการเเสดงความคิดเห็นเเบบนี้มันเป็นเอกลักษณ์นิสัยของผมนะ ก่ารที่เเสดงความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมา มีทั้งข้อดี เเละ ก็มีข้อเสีย มันอยู่ที่มุมมองของเเต่ละคน....ขนาดลูกพี่ผม,ผจก. ผมก็ขวานผ่าซากเเบบนี้ครับ การที่คุณเน้นใช้อิฐมวลเบาหนาถึง 20 ซ.ม.มากันความร้อนที่กันความร้อนด้วยมวลสาร(Mass Insulation) คุณเน้นเรื่องการป้องกันความร้อนโดยใช้ความหนา+คุณสมบัติของอิฐมวลเบา เเต่สิ่งที่คุณควรรู้คือ จากค่าสัมประสิทธิการในการถ่ายเทความร้อนของวัสดุนั้น คุณยิ่งใช้ฉนวนหนาเท่าไรยิ่งสะสมความร้อนในตัวมันเอง+การคายความร้อนที่ใช้เวลานานกว่าวัสดุอื่น???( เพราะเมื่อพระอาทิตย์ตกดินเข้าเวลากลางคืนเเทนทีบ้านจะเย็นเร็วขึ้นกลับช้าลงกว่าวัสดุอื่น? ) บ้านเราเป็นเมืองร้อน และชื้น  การที่เน้นจะใช้วัสดุกันความร้อนเพียงอย่างเดียวไม่ได้ครับต้องเน้นการระบายอากาศออกจากตัวบ้านด้วยครับ ( ทําเป็นระบบ )ซึ่งตรงนี้อิฐมวลเบาที่หนา 20 ซ.ม. ผมมองว่าเป็นจุดอ่อนมากๆ เคยติดเเบบย้อนกลับไปว่าทําไม งานก่อสร้างที่ผ่านๆมาสถาปนิก,วิศวกร จึงมักกําหนดให้เป็นผนังอิฐมอญ หรือ อิฐบล๊อคเป็นเเบบผนัง 2 ชั้น???? เพราะมันเป็นการทําฉนวนกันความร้อนที่มันจ่ายเงินไปแล้วคุมเงินที่ลงไปมากที่สุด,วัสดุก็ไม่ต้องไปหาจัดซื้อให้วุ่นวาย( ลองไปหาซื้ออิฐมวลเบาหนา 20ซ.ม. ตามร้านขายวัสดุก่อสร้างทั่วๆไป คุณจะรู้ซึ้งเจตนาดีของผม เเถมยิ่งซื้อปริมาณน้อยๆ....ยิ่งย้ำเตือนเจตนาที่ดีของผมครับ อิ อิ อิ ) เเละ ช่างปูนทั่วๆไปคุณสามารถจ่ายงานให้ทํางานได้ตามที่กําหนด การทําผนัง 2 ชั้นจุดประสงค์คือการป้องกันการคายความร้อนจากผนังก่ออิฐด้านนอกที่รับแดดผ่าน air gap ตรงกลางซึ่งทำหน้าที่เป็นฉนวนลดปริมาณความร้อนก่อนที่จะผ่านไปสู่ผนังด้านใน ทำให้ผนังด้านในรับความร้อนน้อยลงก็เท่ากับว่าคายความร้อนสู่ภายในบ้านน้อยลงเท่านั้น พร้อมหน่วงความร้อนที่มายังผนัง ให้เข้าไปในตัวบ้านได้ช้าลง ช่องว่างระหว่าผนัง หรือ AIR GAP มีเพื่อไว้ให้บีบ Gap อากาศให้จำกัดก็เพราะทางปฏิบัติมวลอากาศร้อนที่กักเก็บใน Air Gapจะมีการถ่ายเทออกไปสู่ภายนอกจะลอยตัวสูงขึ้นระบายออกไปเช่นที่ตรงบริเวณสันหลังคาผ่านทางครอบระบายอากาศ และเกิดการเหนี่ยวนำให้อากาศที่เย็นกว่าไหลเข้ามาแทนที่ สรุประบบนี้ก็คือการนำความร้อนมาสร้างความเย็นไหลมาเเทนที่ ทําให้การระบายความร้อนในตอนพระอาทิตย์ตกไปเเล้วการก่ออิฐเเบบ 2 ชั้นสามารยคายความร้อนที่ผนังได้ดีกว่าอิฐมวลเบาที่หนา 20 ซ.ม. เเน่นอนครับ ปัญหาเรื่องความชื้นในช่องว่างผนัง 2 ชั้น มันอยู่ที่ผู้สร้างจะควบคุมปัญหาความชื้นในระหว่างช่องผนัง( เพราะอากาศเย็นมาแทนที่อากาสร้อน ) ได้ถูกหลักวิชาช่างหรือไม่??? ส่วนการฉาบด้านในของการทำผนังสองชั้นเพื่อกันความร้อนไม่ค่อยจำเป็นต้องทำ และช่างส่วนใหญ่เขาจะทำงานก่ออิฐให้เสร็จทั้งหมดทีเดียวแล้วก็ค่อยเริ่มงานฉาบไม่นิยมทำงานสลับไปมาครับ ดังนั้นการที่จะฉาบ 2 ด้านในผนังด้านแรกนั้น จึงไม่มีประโยชน์ครับ ไม่ต้องฉาบหรอกครับ( เปลืองเงิน )   อิฐมวลเบา ผมไม่เถียงนะว่ามีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อนได้ดีประเภทหนึ่ง จากการที่มวลวัสดุเป็นโพรง( Bubble ) เเต่การใช้ที่ความหนาถึง 20 ซ.ม. มันคายความร้อนช้ากว่า เเละ มีราคาเเพง ต้นทุนการก่อฉาบก็เเพงกว่า มันถึงไม่ได้รับความนิยมใช้กันในบ้านเราครับ การที่คุณเสนอ การใช้อิฐมวลเบาเป็นตัวเลือกให้เจ้าของกระทู้ มันเป็นสิทธ์ของคุณ เเต่การเตือนเจ้าของกระทู้ในเรื่องข้อจํากัดเรื่องข้อด้อย เเละ ปัญหาการก่อฉาบที่อาจตามมาจากคุณภาพช่างก่อฉาบที่คุณภาพเเย่ลง อาจจะกลายเป็นการสร้างปัญหาตามหลังมาได้ครับ ป.ล. ผมไม่ใช่ วิศวกร, ผมไม่ใช่สถาปนิก เเต่ผมจบช่างยนต์ นะครับ อิ อิ อิ แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 52 01:31:36 จากคุณ : pinhead2000 - [ 11 มี.ค. 52 01:25:00 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ยิ่งเราก่ออิฐหนาเท่าไรบ้านหลังนั้นก็จะยิ่งร้อนในเวลาที่ไม่ควรร้อนยิ่งใช้เครื่องปรับอากาศเพื่อปรับอากาศเพราะแทนที่เครื่องปรับอากาศที่เราต้องเสียเสียค่าไฟแพงๆจะมาใช้ทำให้อากาศรอบๆตัวของเราเย็นกลับทำมาคอยลดอุณหภูมิของอิฐหนาๆแทน??? ( อย่าบอกว่า อิฐมวลเบาไม่เก็บความร้อนะครับ เอามาตากเเดดกับอิฐมอญ ก็ร้อนพอๆกัน ) จริงๆการเลือกใช้วัสดุเเละการใช้ผนังเพื่อเป็นผนังฉนวนกันความร้อน ควรทําเป็นระบบฯ วัสดุทุกอย่างต่างย่อมมีข้อเด่น-ข้อด้อย อยู่ที่คุณเลือกใช้ให้เหมาะสม........ จากคุณ : pinhead2000 - [ 11 มี.ค. 52 04:17:11 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ..ยิ่งเราก่ออิฐหนาเท่าไรบ้านหลังนั้นก็จะยิ่งร้อน.. ผนังโบสถ์เก่าๆหนาเปนครึ่งเมตร อากาศร้อนจัดๆเคยเข้าไปนั่งพับเพียบมั่งมั๊ยครับ เฮฮาครับ อย่าซีเรียส ถือว่าแรกเปลี่ยนความรู้กัน 5 5 5 จากคุณ : FOXTROT - [ 11 มี.ค. 52 07:35:07 ]

ความคิดเห็นที่ 33 กำ  "แลกเปลี่ยน" ม่ะแก้แระ ฮ่า จากคุณ : FOXTROT - [ 11 มี.ค. 52 07:36:38 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมออกแบบและใช้งานบ้านหลังนี้มา 4 ปีกว่า พิสูจน์ได้ว่าการคาดเดาของผมเปนจริง (ผนัง 38 ซม.วางอยู่บนคาน คสล. 0.30 x 0.40 ม.) ไม่ได้เสแสร้ง ตี 4 ผมลุกมาเปิดหน้าต่างประตูทุกบานให้อากาศเย็นเข้าห้องนอน (ดับเบิ้ลวอลล์เฉพาะห้องนอนเท่านั้นครับ 6.00x8.00 ม.) พอแดดออกก้อปิดทุกบาน เที่ยงๆอุณหภูมิภายนอก 34 องศา ในห้องนอนอย่างเก่งก้อ 27 องศา ไม่ต้องเปิดแอร์เลย (อย่าเข้า-ออกบ่อยละ) ในทางกลับกันหน้าหนาว (ผมอยู่ชนบท) ต่ำสุด 12 องศา  ม่ะใช่คุย เที่ยงคืนในห้องยังอยู่ที่ 18 องศา แค่ใส่เสื้อหนาๆก้อหลับได้ครับ เหอ จากคุณ : FOXTROT - [ 11 มี.ค. 52 08:02:37 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เปนคอนเซพท์ครับ ต้องจ้างเขาคำนวณ/เขียนแบบ ผมทิ้งไปนานแล้ว (จบโยธา แต่อยากเปนอาชิเทก 5 5 5) จากคุณ : FOXTROT - [ 11 มี.ค. 52 08:07:25 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คอนเซพท์ คือ ถูกที่สุด ดีที่สุด สบายที่สุด ใช้ได้คุ้มค่าทุกตารางเซนต์ จากคุณ : FOXTROT - [ 11 มี.ค. 52 08:10:22 ]

ความคิดเห็นที่ 37 หน้าตาเลยออกมาเปนอย่างงี้ครับ 5 5 5 จากคุณ : FOXTROT - [ 11 มี.ค. 52 08:13:35 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 11 มี.ค. 52 08:53:08 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เวลาเลือกใช้ผนัง ต้องดูภาพรวมด้วย กรณีที่คุณ : FOXTROT พูดถึงผนังโบสถ์ ต้องเอาโบสถ์ทั้งหลัง รวมถึงหลังคามาพิจารณา หลังคาโบสถ์บังแดดไม่ให้โดนผนังเลย เพดานภายในที่สูง ช่วยให้อากาศร้อนลอยขึ้นไปด้านบน ผนังที่หนา จะช่วยดูดความร้อนเอาไว้ กว่าจะทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นได้ ต้องใช้เวลา กว่าจะร้อนก็พระอาทิตย์ตกไปแล้ว ผนังก็สะสมความเย็นในตอนกลางคืนต่อ คงไม่มีใครสร้างบ้านแบบโบสถ์ แต่ปัจจุบันมีโปรแกรมออกแบบที่ช่วยได้มาก ถ้าไม่มีข้อจำกัดด้านกายภาพ โปรแกรมสามารถออกแบบป้องกันแสงแดดกระทบผนังได้ และถ้าหลังคาและหน้าต่าง สามารถระบายอากาศได้ดี ก็ไม่ต้องไปลงทุนทำผนังให้แพง ดังนั้น ผมจึงเสนอว่า แผงบังแดด เป็นทางออกอย่างหนึ่ง หมู่บ้านหนึ่ง ออกแบบระเบียงเป็นพื้นไม้ตีเว้นร่อง ติดแผงบังแดดเต็มผนังด้านโดนแดดทั้งหมด เป็นบานเกร็ดไม้ปรับด้วยมือ หน้าต่างห้องติดแค่มุ้งลวดเท่านั้น หากจะไม่ให้คนนอกมองเห็นก็ปรับมุมเกร็ดเอา ลมพัดระบายอากาศผ่านพื้นระเบียงขึ้นมาดีมาก ปลูกต้นไม้ไว้ ก็ได้อากาศเย็น บ้านปรมาจารย์ทางสถาปัตย์ ท่านก็ใช้แผงบังแดดช่วย แต่ท่านใช้แบบวิลิศมาหลา ปรับมุมด้วยไฟฟ้า สนใจไปหาซื้อหนังสือของท่านมาดูได้ (ช่วยค่าแผงบังแดดท่าน) จากคุณ : KittySP - [ 11 มี.ค. 52 10:21:16 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อย่างเรื่องวงกบหน้าต่าง หรือ ประตู ที่จะใช้กับผนัง 2 ชั้นก็ไม่ได้วุ่นวายตรงไหนเลยครับ เพียงเเค่เปลี่ยนความหนาวงกบจากหนาที่ 10 ซ.ม.มาเป็นขนาด 12,12,17 ซ.ม. ให้เลือกใช้เเละก็มีขายกันทั่วไป หากไม่เข้าใจเรื่องเทคนิคการติดตั้งก็ถามมาได้นะครับ......จะสอนให้ครับ แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 52 01:18:37 จากคุณ : pinhead2000 - [ 12 มี.ค. 52 01:16:25 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อีกอย่างหนึ่ง สิ่งที่คุณควรพึงรู้ไว้ อิฐมวลเบา ที่ขายในบ้านเรามันกันความร้อนดีครับเเต่มันซึมน้ำผ่านได้ง่าย( ความจริงกับอุดมคติ มักสวนทางกัน บ้านเราลดต้นทุนจนโพรงอากาศที่ควรเป้นเเบบปิดในเนื้ออิฐมวลเบา  ขยายซะจนโพรงอากาศทะลุถึงกันหมด เพราะเร่งการขยายตัวของเนื้อปูนให้มากที่สุด ) นอกจากนี้ยังไม่ทนต่อความชื้น ทำให้เกิดเชื้อราได้ง่าย หลายโครงการของบ้าน เเลนด์ เเอนด์ เฮาส์ หรือ โนเบิล มีปัญหาเรื่องเชื้อราเกิดขึ้นที่ผนังด้านในห้องบุวอลล์เปเปอร์ เมื่อตรวจสอบพบว่าเกิดจากความชื้นจากน้ำฝนที่สาดที่ผนังอิฐมวลเบา ที่ซึมเข้าในเนื้ออิฐมวลเบา+และห้องที่เป็นเชื้อรานั้นเปิดแอร์ไว้ค่อนวัน ดังนั้นต่อให้คุณใช้อิฐมวลเบาหนา 20 ซ.ม.ก็มีโอกาสจะเป็นเชื้อราครับเเต่อาจจะช้ากว่าขนาดหนาที่ 7.5 เเละ 10 ซ.ม.เท่านั้นเองครับ..............เเทนที่จะมากลัวผนังอิฐมอญ 2 ชั้นเรื่องความชื้นคุณควรที่จะกลัวการเกิดเชื้อราที่ผนังอิฐมวลเบามากกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 52 01:56:32 จากคุณ : pinhead2000 - [ 12 มี.ค. 52 01:46:57 ]