ความคิดเห็นที่ 1 กู้ผ่าน แล้วก็ต้องทำใจละครับ ทำใจเป็นหนี้ ล้อเล่นง่ะ เอาเป็นว่า เด่วเค้าจะนัดไปโอนกันที่ที่ดิน วันเดียวกันเลย ทั้งโอนบ้าน และ ทำสัญญาเป็นหนี้ เตรียมเงิน ค่าดำเนินการโอนนิดหน่อย (ปรึกษากับทางโครงการว่าวันโอนใช้เงินเท่าไหร่ เค้ารู้ดี) ระหว่างนี้ บ้านมีปัญหาอะไร ให้ทางโครงการแก้ไข ให้เรียบร้อยหน่อย ยิ่งทางโครงการรู้ว่ากู้ผ่านแล้ว เค้าจะรีบซ่อมให้ทันที แต่ถ้าโอนไปแล้ว กว่าจะอันเชิญมาซ่อมได้ อาจจะต้องออกแรงมากกว่าปรกติ จากคุณ : กบ (kabokaboh) - [ 13 มี.ค. 52 09:02:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ยินดีด้วยครับ ที่เป็นหนี้ระยะยาววววววว  ร่วมกัน จากคุณ : กาแฟเริ่มขม (กาแฟดอย) - [ 13 มี.ค. 52 09:12:26 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วยค่ะว่าตอนก่อนโอนบ้าน ต้องตรวจสอบบ้านให้ดีว่าหลังคารั่วมั้ย ห้องน้ำชั้นบนน้ำรั่วลงมาข้างล่างหรือป่าว ชักโครกกดลงหมดมั้ย กระเบื้องเวลาเคาะแล้วเสียงแน่นๆ หรือกลวงๆ ลองเดินเหยียบให้ทั่วทุกแผ่น กลอน บานพับประตูลองปิด/เปิดดูให้หมด ไฟฟ้า ประปา บันได รวมถึงการทำความสะอาดกระเบื้อง ให้ละเอียดรอบคอบก่อนโอน มิฉะนั้นจะเหมือนคำเตือนข้างบน "กว่าจะอันเชิญมาซ่อมได้ อาจจะต้องออกแรงมากกว่าปรกติ" หรือจะต้องเสียตังค์เพิ่มภายหลังค่ะ คอนเฟิร์ม จากคุณ : อาบน้ำร้อนโอนน้ำร้อนลวกมาแล้ว (piggie-aey) - [ 13 มี.ค. 52 09:20:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ก่อนอื่นยินดีด้วยเลยนะคะ ได้เป็นหนี้แห่งความสุขแล้ว (เรายังรออยู่เลย) ปกติ เวลาจ่ายกับโครงการ ก็จะมีค่า จอง+ทำสัญญา น่ะค่ะ แล้วแบงค์จะประเมินแล้วอนุมัติอีกที กู้ผ่านที่ว่านี่... อาจจะเป็น pre-approve ผ่านหรือเปล่าคะ เพราะส่วนใหญ่แบงค์จะ pre มาก่อน ลูกค้าไปทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้าน แล้วก็เอาสัญญาตัวนี้ส่งให้แบงค์อีกที (ประมาณว่าเป็นหลักฐาน ว่าเราจะซื้อบ้านที่นี่จริงๆ ) แล้วแบงค์ถึงจะอนุมัติ final อีกรอบ ของเราเห็นเจ้าหน้าที่บอกว่า จะทำเรื่องคืนเงินให้อีกทีค่ะ   งงๆ เนอะ ซื้อบ้านแต่ละที่ก็ไม่ค่อยเหมือนกัน จากคุณ : amuro4ever - [ 13 มี.ค. 52 09:23:25 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอาจากประสบการณ์ละกันนะครับ 1. จ่ายเงินจอง เพื่อจะได้ล็อคแปลงที่เราชอบไว้เป็นระยะเวลาหนึ่ง เช่น 1 เดือน เพื่อให้เรามีเวลาจัดการเรื่อง Pre-approve ดูว่าจะกู้ผ่านสมใจไหม สมมุติ ราคาบ้าน 3 ล้าน อาจจะจอง 10,000 บาท ตามโครงการกำหนด 2. จ่ายเงินทำสัญญา หลังจากจองไว้แล้ว ไม่เกิน 2 สัปดาห์ ต้องไปทำสัญญา 'จะซื้อจะขาย' (ถ้าเกิน 2 สัปดาห์ อาจจะยื่นกู้ไม่ทัน) เพื่อที่เราจะได้เอาไปยื่นกู้ (ถ้าไม่มีเอากสารตัวนี้ ธนาคารไม่อนุมัตินะครับ) เช่น จองไปแล้ว 10,000 บาท อาจจะทำสัญญาอีก 90,000 บาท รวมเป็นเงินดาวน์ 1 แสนบาท 3. จ่ายโอน โครงการจะรับเงินที่เหลือ คือ 2.9 ล้านบาท (ราคาบ้าน 3 ล้าน - ค่าจองและทำสัญญา 1 แสน) จ่ายเงินเสร็จ บ้านก็จะถูกโอนทันที ถ้าซื้อเงินสด บ้านก็จะโอนเป็นของเรา เราได้โฉนดกลับบ้าน ถ้าซื้อเงินกู้ บ้านจะติดจำนองกับธนาคาร โฉนดจะถูกธนาคารเอาไปเก็บ รอวันที่เราผ่อนหมด(กี่ปีหว่า..) ค่อยโอนกลับมาให้เรา ถ้ากู้ได้ 100% จริงๆ คือ 3 ล้านตามราคาบ้าน ในวันโอน ธนาคารจะมีเชค 2 ใบ - 2.9 ล้าน จ่ายโอนให้โครงการ - 1 แสน จ่ายคืนเรา สรุปว่า แม้จะกู้ได้ 100% เท่าราคาซื้อขายบ้าน เราก็ต้องออกเงินจอง + ทำสัญญา/ดาวน์ ไปก่อน เพราะถ้าไม่ทำสัญญา ก็จะไม่มี 'สัญญาจะซื้อจะขาย' ก็เอาไปยื่นกู้ไม่ได้ แล้วตอนกู้ผ่าน และโอนเสร็จ จะได้เงินกลับมาครับผม! ^_^ จากคุณ : kong - [ 13 มี.ค. 52 10:33:15 A:58.136.127.61 X: TicketID:149728 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สัญญาที่จขกท.ว่า ผมไม่แน่ใจว่าสัญญาอะไรนะครับ แต่ก่อนจะขอกู้แบ็งค์ยังไงเราเองก็ต้องทำสัญญาจะซื้อจะขายกับโครงการก่อนไม่ใช่เหรอครับ ไม่เช่นนั้นแล้ว เราจะเอาหลักฐานไหนไปขอกู้กับแบ็งค์หล่ะครับ ส่วนเรื่องจ่ายเงิน สำหรับกรณีผม ผมไม่เคยได้แตะหรือเห็นเช็คจากธนาคารที่ผมกู้เลย(ธอส.) เพราะเขาจ่ายให้โครงการโดยไม่ผ่านมือผมครับ แล้วนัดไปโอนบ้าน แต่ก็นั่นแหล่ะ ทางโครงการเขาจัดการให้หมดเลย เพราะมีโปรโมชั่น ฟรีค่าโอนครับ จขกท.ลองดูดีๆว่า ที่บอกให้จ่ายเงินทำสัญญาหมายถึงเงินอะไรครับ ถ้าเงินค่าโอนกรรมสิทธิแล้วเขาระบุว่าผู้ซื้อเป็นผู้จ่าย เราก็ต้องจ่ายครับ จากคุณ : Athlons - [ 13 มี.ค. 52 10:50:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แต่ถึงไงเราก็ต้องเซ็นต์เช็คจ่ายเช็คให้โครงการนะคะ เราว่าต้องได้เห็นนะเช็คที่ธนาคารออกมาอ่ะ  เราซื้อขายมาสองครั้งแล้ว ก่อนจะโอนเสร็จ จนท ของแบงค์จะให้เราเซ้นต์เชคให้อ่ะ จากคุณ : หยาดรุ้ง - [ 13 มี.ค. 52 20:45:01 ]