 |
นี่ไงส้มบางมดยังมี
ล่องคลองบางมด ชิมส้ม ชมสวน
เมื่อพูดถึงส้มบางมด คนรุ่นแม่ต่างยอมรับในกิตติศัพท์ความฉ่ำหวานกว่าส้มพันธุ์ใดๆ แต่สำหรับคนรุ่นใหม่ๆ น้อยนักที่จะมีโอกาสลิ้มรส ถึงขนาดอาจจะไม่เคยเห็นหน้าค่าตาส้มเขียวหวานชนิดนี้เลยสักครั้ง วันหยุดสุดสัปดาห์คราวนี้เลยตั้งใจพาคุณๆ ไปลงเรือเที่ยวคลองบางมด ชม และชิมส้มสดๆ จากสวนกันดีกว่า แต่ขอบอกก่อนว่าทริปนี้เที่ยวกันแบบสนุกๆ ไม่หรูหราอะไร แต่จะได้สัมผัสของแท้ ที่ไร้การปรุงแต่งใดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าคลองแห่งนี้จะถูกระบุให้อยู่ในส่วนหนึ่งบนแผนที่กรุงเทพมหานครก็ตาม จะไปเที่ยวทั้งทีตื่นกันแต่เช้าหน่อยดีกว่า ขับรถมุ่งตรงสู่สะพานพระราม9 ลงทางด่วนที่ด่านสุขสวัสดิ์ ผ่านมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี วิทยาเขตบางมด เพียงอึดใจก็ถึงซุ้มประตูวัดพุทธบูชาที่งดงามด้วยฝีมือช่างเมืองเพชร เรามีนัดกับรองประธานการท่องเที่ยวบางมด-ทะเลกรุงเทพฯ คุณลุงสมศักดิ์ พลอยจิ๋ว ซึ่งยินดีเป็นไกด์กิตติมศักดิ์พาเที่ยวทั่วคลองบางมด ที่ศูนย์บริการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ล่องเรือชมสวนบางมด-ทะเลกรุงเทพฯ ชุมชนพุทธบูชา ในบริเวณวัดแห่งนี้ ก่อนจะเรือที่ท่าน้ำหลังวัด เราตั้งใจเข้าไปในพระอุโบสถ กราบนมัสการพรจากพระบรมสารีริกธาตุ และองค์พระพุทธชินราชจำลองที่งดงามตามพุทธลักษณะทุกประการ ขนาดเท่าองค์จริงซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ จังหวัดสุโขทัย เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต แล้วจึงก้าวเท้าสู่ท่าน้ำ ซึ่งอดีตเคยขวักไขว่ไปด้วยลำเรือนับร้อย แต่ละลำบรรทุกส้มกว่า 1,800 กิโลกรัมออกจากสวน เพื่อส่งขายให้พ่อค้าที่มาจอดรถบรรทุกรับถึงหน้าท่า แต่ปัจจุบันสวนส้ม เหลือน้อยเต็มที และถนนก็ตัดตรงไปยังสวน บทบาทของท่าน้ำจึงลดลง ส่วนหนึ่งแปรสภาพเป็นวังมัจฉา เราแอบอมยิ้มเมื่อเห็นครอบครัวพ่อแม่ลูกมาให้อาหารปลาและฝูงนกพิราบ ปล่อยกบ ปล่อยหอยกันอย่างสนุกสนาน เรือลำสวยของ ลุงไสว จอดลอยลำรอท่าอยู่แล้ว เมื่อผู้โดยสารลงนั่งประจำที่เรียบร้อย หางเสือเรือก็ถูกบังคับให้มุ่งหน้าเข้าคลองบางมด โดยมีลุงสมศักดิ์คอยบรรยายให้ความรู้ตลอดทาง สายน้ำเล็กๆ ใสสะอาดเส้นนี้กันกลางระหว่างเขตทุ่งครุ และบางขุนเทียน สองฟากฝั่งโอบล้อมด้วยสวนผลไม้ อาทิ ส้ม มะพร้าว มะขามเทศ พุทรา สลับกับบ่อปลา และบ่อกุ้งพัฒนา บ้านหลังย่อมปลูกอยู่ริมน้ำเป็นระยะๆ บ้างเปิดเป็นร้านค้าของชำ ร้านจำหน่ายและซ่อมเครื่องเรือที่สืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า จนถึงรุ่นหลาน อาจจะดูเงียบเหงาไปบ้าง เพราะเมื่อเรียนหนังสือจบแล้วบางส่วนก็ไปทำงานในเมือง ลมเย็นๆ พัดผ่าน พร้อมๆ กับหัวเรือที่กรีดน้ำออกเป็นสาย ต้นเตยหนามอวดลูกน่ารักคล้ายๆ ลูกสาเกอยู่ริมตลิ่ง ชุมชนย่านนี้แม้จะมีทั้งที่นับถือพุทธและอิสลาม แต่ก็อยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียว เราจึงเห้นทั้งวัดและมัสยิดเก่าแก่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากกันนัก นั่งเรือเพลินๆ ผ่านสวนละมุด ร้าน ลุงเบิ้ม ขายโอเลี้ยงขึ้นชื่อ และสวนกล้วยไม้ขนาดใหญ่ ที่เจ้าของกำลังจะตัดดอกงามๆ เตรียมส่งออก ลุงไสวก็เทียบท่าที่สวนส้มบางมด-ทุ่งครุ ของ ลุงสุทินและป้าทองเจือ เอี่ยมศาสตร์ สวนส้มแห่งนี้มีชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่วทั้งคุ้งน้ำ เพราะคว้ารางวัลชนะเลิศในการประกวดส้มเขียวหวานบางมดได้ถึง 3 รางวัลจากปีที่ผ่านมา จนใครที่อยากชิมส้มสวนนี้ต้องโทรจองล่วงหน้ากันเลยทีเดียว เจ้าของสวนทั้งสองต้อนรับเราด้วยน้ำเย็นชื่นใจ แม้พระอาทิตย์จะบอกเวลาสายแล้ว แต่อากาศก็ไม่ร้อนเกินกว่าที่จะเที่ยวชมนกชมไม้ในสวนกันได้อย่างเพลินเพลิน แม้ชาวสวนส้มจะไม่ได้ทำงานในห้องแอร์คอนดิชั่น แต่ก็มีวิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุขและความพอเพียง เราลงเรือลำน้อยๆ พายไปตามท้องร่องสวนขนาด 7 ไร่ของลุงกับป้า เก็บส้มเขียวหวานบางมดสดๆ จากต้น ทันทีที่แกะเปลือกความหอมจากต่อมน้ำมันบนผิวส้มบางๆ ก็ลอยมาแตะจมูก กลีมส้มสีจัดจ้านถูกส่งเข้าปาก รสชาติหวานชุ่มฉ่ำ ชันนิ่มๆ และเม็ดที่มีเพียงเล็กน้อย ชวนให้ติดใจอยากทานลูกต่อๆ ไปจนยากที่จะหยุด ป้าทองเจือเล่าให้ฟังว่า ส้มที่นี่หวานหอมโดยธรรมชาติ ต่างจากส้มที่อื่นๆ เพราะพื้นดินที่บางมดเป็นสุสานหอยเก่า (ทุกวันนี้ยังเห้นเปลือกหอยกระจายอยู่ตามท้องร่อง) มีโปรแตสเซียมมาก เหมาะแก่การปลุกส้มอย่างยิ่ง เมื่อบนหลังร่องปลูกต้นส้ม ในท้องร่องก็ปลูกผักกระเฉด ผักบุ้ง เลี้ยงปลา มีทั้งปลานิล ปลาทับทิม ให้จับกินจับขาย ท้ายสวนก็เตรียมยกแปลงปลูกผัก เพื่อให้มีรายได้หมุนเวียน ระหว่างที่รอส้มออกผล รอบๆบริเวณมะพร้าวให้ร่มเงา แถมยังได้ใช้ได้กิน และเป็นสัญลักษณ์บอกอาณาเขตอีกด้วย เราเห็นจริงตามที่ลุงสุทินว่า อยู่ในสวนไม่มีอด จะมีก็แต่เสียเงินซื้อข้าวสารเท่านั้น
จากคุณ :
สีไม้น้ำ
- [
28 มี.ค. 52 21:10:29
]
|
|
|
|
|