ความคิดเห็นที่ 1 ค่าไฟเท่าไรเนี่ย - -" จากคุณ : RyanUtd - [ 18 เม.ย. 52 23:40:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ปูฉนวนกันความร้อนใต้หลังคาไงครับ  มันไม่หนักมากหรอกครับ จากคุณ : TonTpd - [ 18 เม.ย. 52 23:48:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าจะแก้ปัญหาระยะยาว ก็รื้อหลังคา ทำใหม่เลยครับ โดยวางโครงหลังคา แล้วก็ต้องมีช่องระบายลม แล้วก็ปิดมุ้งลวดกันแมลงตรงช่องระบายลมตรงนั้นด้วย อากาศใต้หลังคา จะได้ถ่ายเท อีกอย่าง อาจจะวางโครงหลังคาให้สูงหน่อย เพื่อให้มีระยะห่างระหว่างหลังคากับฝ้าเพดาน แล้วก็ติดฉนวนกันความร้อนอีกชั้นนึง รับรอง เย็นสบาย ส่วนถ้าจะเปลี่ยนแอร์ให้ใหญ่ขึ้น ผมว่ามันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุครับ ค่าไฟแพงเปล่าๆ ระยะยาวอาจจะไม่คุ้ม อีกอย่าง อาจจะติดสปริงเกอร์ที่บนหลังคาด้วยก็ได้ วันไหนร้อนจัดๆ ก็เปิดสปริงเกอร์ให้หลังคาได้รับน้ำ จะได้เย็นสบายยยยย จากคุณ : 91int.com (kkitti91) - [ 19 เม.ย. 52 00:53:20 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นด้วยกับ คห2 และ3 ครับ (ตอนโพสต์ มีถึงแค่ 3 ) จากคุณ : ทับทิมมาแล้ว - [ 19 เม.ย. 52 08:01:49 A:58.9.125.238 X: TicketID:162169 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ฝ้าเพดาน ยิบซั่ม เป็นวัสดุที่กันความร้อนได้ระดับหนึ่ง เริ่มจากความร้อนภายนอก เข้ามาใต้หลังคา คล้าย ๆ กับอากาศภายนอกต้มอากาศภายใต้พื้นที่ใต้หลังคา แล้วความร้อนนั้นก็จะแผ่ลงมาในห้อง แต่เนื่องจากฝ้าเพดานกันความร้อนได้ระดับหนึ่ง ถ้าเราไม่เปิดแอร์ ผมว่า อุณหภูมิน่าจะต่างกันสัก 2-3 องศาได้ แต่พอเปิดแอร์ ก็ทำความเย็นขึ้นมาได้อีกระดับหนึ่ง แต่เนื่องจากความร้อนข้างบนมีมากแผ่ลงมาไม่หยุด จึงทำให้อุณหภูมิห้องเย็นไม่ได้มาก ถ้าถามวิธีแก้ปัญหา ผมว่า ก็ต้องกั้นความร้อนไม่ให้ลงมาอยู่ใต้หลังคาได้มากที่สุด โดยใช้ฟอยล์สะท้อนความร้อนที่จะเข้ามาให้ออกไปได้มากที่สุด ก็จะทำให้ พื้นที่ใต้หลังคา ความร้อนลดลง ก็จะทำให้ในห้องอุณหภูมิต่ำลง เมื่อเปิดแอร์ ก็น่าจะเย็นเร็วขึ้นด้วย จากคุณ : Lpg_Horse - [ 19 เม.ย. 52 09:42:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 การทำห้องให้เย็น ไม่ใช่แค่เอาแอร์มาใส่แล้วมันจะเย็นหรอกนะครับ มันมีปัจจัยอื่นๆด้วยที่ต้องทำร่วมกัน ปกติเวลาแก้ปัญหา จะมองในหลายๆส่วนร่วมกัน แล้วดูว่าพอจะทำอะไรได้บ้าง ขึ้นอยู่กับงบประมาณ และความยุ่งยากของหน้างาน มาดูทีละจุดนะครับ เร่ิมจาก แสงแดดที่ส่องมาโดยตรง ผ่านหน้าต่าง อันนี้ความร้อนมาในรูป การแผ่รังสีความร้อน จริงๆห้องที่ได้รับแดด มันดีตรงที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ดีในระดับหนึ่ง แต่หากมีปัญหาความร้อนในส่วนนี้ การติดม่านก็ช่วยได้ครับ ความร้อนจากผนัง วัสดุแต่ละชนิด มีความสามารถในการป้องกัน และสะสมความร้อนต่างกัน ผนังปูนจะสะสมความร้อนได้ดีกว่าผนังไม้ เวลาแดดส่องผนัง ปูนมันก็แผ่ความร้อนต่อมาในห้องได้อีกทอดหนึ่ง การปลูกต้นไม้ หรือการติดฉนวนที่ผนังก็ช่วยได้ครับในส่วนนี้ ความร้อนจากเพดาน ปกติ พื้นที่เหนือเพดานถึงหลังคา มันทำหน้าที่เป็นเหมือนฉนวนอากาศ แต่มันก็มีการสะสมความร้อนได้เช่นกัน ทางแก้ในจุดนี้ หากเป็นบ้านสร้างใหม่ ก็คือสร้างช่องว่างดังกล่าวให้ใหญ่หน่อย แต่ที่สำคัญกว่าคือ ต้องมีการระบายอากาศด้วย บ้านสมัยก่อน เราจึงมักติดช่องลม หรือจั่วช่องลม ไว้บริเวณหน้าจั่วบ้าน ซึ่งเจ้าช่องลมนี่แหล่ะครับ เป็นทางระบายอากาศใต้หลังคา อากาศที่ร้อน จะขยายตัว ลอยตัวสูงขึ้น มันก็หาช่องดันออกมาผ่านช่องลม เวลาลมพัด มันก็ช่วยลดความร้อนใต้หลังคาได้บ้าง ส่วนการติดฉนวนกันความร้อนเหนือฝ้า เป็นการลดการแผ่ความร้อนจากใต้หลังคาลงมาในห้องได้ครับ เรื่องที่คุณวัดอุณหภูมิใต้หลังคา แล้ววัดได้ 46 องศา ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เพราะมันเป็นความร้อนสะสม หากลองจิ้มเทอร์โมมิเตอร์ที่ผนังบ้าน ก็จะได้ทำนองเดียวกัน แม้ว่าอุณหภูมิภายนอกจะวัดได้แค่ 30-34 องศาก็ตาม ต่อให้รื้อหลังคา ก็ไม่สามารถทำให้อุณหภูมิลงมาเหลือ 3x กว่าๆอย่างที่ช่างบอกหรอกครับ กรณีของคุณ อาจต้องทยอยทำไปทีละส่วนนะครับ ก็ลองดูว่าสะดวกแบบไหนก่อน แต่คิดว่าการรืื้อหลังคายังไม่ใช่ทางออกที่เหมาะสมนะครับ เพราะยุ่งยากและสิ้นเปลืองมาก เร่ิมจาก - เจาะช่องที่หน้าจั่ว เพื่อติดตั้งช่องลมระบายอากาศใต้หลังคา หากเลือกทิศทางที่ลมพัดผ่านได้จะดีมาก โดยต้องเจาะทั้งทางเข้าและทางออกนะครับ - ติดตั้งฉนวนกันความร้อนใต้ฝ้าเพดาน ซึ่งทำได้ง่าย โดยการปูตามปกติ - ติดพัดลมดูดอากาศในห้อง ติดให้สูงหน่อยนะครับ เปิดในช่วงแรกก่อนเปิดแอร์ จนอุณหภูมิเร่ิมคงที่จึงปิดพัดลมดูดอากาศได้ คงเหลือแต่แอร์ - ติดม่านกันแดดสองชั้น ในช่องหน้าต่างที่แดดส่องแรงๆ - ติดกันสาด และปลูกต้นไม้ หรือแขวนไม้ประดับนอกชายคา ด้านที่แดดส่อง อาจใช้การทำระแนงไม้บังแดดแทนก็ได้ เพื่อความสวยงามด้วย - ขนาดของแอร์ที่ว่า 13000BTU นั้น เล็กไปสำหรับห้องขนาด 6x3 ซึ่งโดนแดด แต่ก็ยังไม่ถึงกับต้องเปลี่ยนนะครับ เพียงแต่ทักไว้ก่อนว่า กำลังมันไม่พอสำหรับห้องดังกล่าว ปกติห้อง 6x3 นี้ ถ้าโดนแดดด้วย คงต้องใช้ 18000BTU ล่ะครับ แต่ละไว้ก่อน เพราะต้องเสียเงินก้อน จากคุณ : kmin - [ 19 เม.ย. 52 10:09:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ง่ายที่สุดคือวางฉนวนเหนือฝ้า ใช้ staycool 6 นิ้ว มันไม่หนักอะไรหรอกครับ แค่ผ้าห่มผืนใหญ่เท่านั้นเอง เวลาวางน้ำหนักก็ระจายออกไป บนชั้นสองของบ้าน แม้จะไม่ใช่ห้องที่เปิดแอร์ ก็ควเปิดหน้าต่างระบายลมร้อนให้มากที่สุด เพราะถ้าภายในบ้านอบร้อน ความร้อนก็แพร่เข้าห้องนอนได้เหมือนกัน จากคุณ : MirrorLake - [ 19 เม.ย. 52 10:40:42 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ทำฝ้าโครง T bar แล้ววางฉนวน stau cool 6 นิ้ว รับรองฝ้าเย็นสนิม ลืมเรื่องความร้อนไปได้เลย  ทำมาแล้วกับมือ จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 19 เม.ย. 52 10:52:55 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมกำลังทำspringle โดยใช้ท่อพีวีซีสองท่อนต่อกัน ติดสปริงเกิ้ล9ตัว ยังไม่ได้เอาขึ้นหลังคา ไม่รู้จะได้ผลหรือไม่ แต่ลงทุนน้อยมาก จากคุณ : ทองปลิว - [ 19 เม.ย. 52 13:13:51 ]

ความคิดเห็นที่ 10 บ้านเก่าเหมือนกันค่ะ ปูฉนวนกันความร้อน ช่วยได้เยอะค่ะ ติดตั้งง่ายค่ะ จากคุณ : Chicklet - [ 19 เม.ย. 52 15:44:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่รู้จะมีใครผ่านมาอ่านอีกหรือไม่ คือเคยอ่านกระทู้เก่า ๆ มีบอกว่า ฉนวนกันความร้อน อาจมีทั้งข้อดีและข้อเสีย คือ อาจจะมีสารบางอย่างแผ่ลงมา ทำให้เราที่อยู่ใต้หลังคาเกิดอาการไม่สบาย ภูมิแพ้ หรืออื่น ๆ เนื่องจากสารที่ใช้ทำแนวนกันความร้อนนั้นกระจายลงมาจากฝ้าเพดาน ไม่ทราบว่า ต้องใช้ฉนวนแบบไหน เพื่อเลี่ยงการเกิดการแผ่กระจายของสารเหล่านั้นค่ะ จากคุณ : แม่น้องเอเอ - [ 19 เม.ย. 52 17:01:40 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ฉนวนมันโดนหุ้มอยู่ในอลูมิเนียมฟอลืยหนา เวลาปูต้องมีเทปอลูมิเนียมปิดรอยฉีดขาดทั้งหมด จะไม่มีอะไรหลุดรอดมาได้  แถมมันปูอยู่เหนือฝ้า ไม่มีอะไรทะลุฝ้าลงมาได้ครับ  ลองไปศึกษาให้ดีๆ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 19 เม.ย. 52 22:12:56 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมว่าเป็นที่แอร์มากกว่ามั้ง 1. แอร์ตัวเล็กเกิน 2. แอร์มีปัญหา หรือแอร์ไม่ดีเอง เพราะถ้าให้แอร์ทำงานเต็มกำลัง เปิดนาน ๆ แล้วไม่ติดปัญหา 2 ข้อข้างบน มันควรจะเย็น อาจจะไม่ถึงกับหนาว แต่ก็น่าจะอยู่ได้สบาย ๆ เลย ส่วนเรื่องอุณหภูมิ ไม่ต้องไปสนใจมากนัก เพราะมันไม่ได้เป็นตัวบอกว่าเราจะอยู่ได้ที่อุณหภูมินั้น ๆ ได้สบายหรือไม่ มีปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายตัว จากคุณ : Tum : nnoppon@hotmail.com - [ 20 เม.ย. 52 13:57:42 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ใช้ฉนวนกันความร้อนแบบโฟมติดใต้ฝ้าก็ได้ครับ ฉนวนเป็นโฟม หนา 5-10 มม. มีฟอยล์อลูมิเนียม 1-2 ชั้น น้ำหนักเบามาก ราคาตารางเมตรละไม่ถึง 100 บาท ใช้วิืธีติดใต้ฝ้าด้วยแม็กยิง ติดเองได้ง่าย ไม่ต้องขึ้นหลังคา แต่จะเสียความสวยงามไปพอควร จากคุณ : จั๊กกะจี๋ - [ 20 เม.ย. 52 14:03:51 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตามมาเก็บความรู้ด้วยคนค่ะ พอดีที่บ้านเป็นทาวเฮ้าท์สองชั้นอยู่มา 20 กว่าปีแล้ว หน้าร้อนตอนนี้ร้อนมาก ข้างล่างก็จะอยู่ไม่ได้แล้วค่ะ แต่ถ้าติดแอร์ก็กลัวว่าอุณหภูมิภายในบ้านจะทำให้แอร์ต้องทำงานหนักเปลืองไฟมาก เลยอยากลดอุณหภูมิก่อน เรื่องติดตั้งฉนวนกันความร้อนก็สนใจค่ะ รบกวนผู้รู้แนะนำด้วยนะคะว่าใช้แบบไหนดี แล้วถ้าจะทำสปริงเกิ้ลบนหลังคาด้วยนี้ทำยากมั้ยคะ เห็นภาพของความคิดเห็นที่ 9 แล้วอยากรู้ว่าเราจะเอาไปไว้บนหลังคายังไงเหรอคะ พอดีที่บ้านเป็นทาวเฮ้าท์ด้วยค่ะ รบกวนด้วยนะคะตอนนี้สงสารคุณพ่อคุณแม่มากอายุเยอะแล้วอยู่บ้านร้อนมาก เห็นท่านดมยาดมกันทุกวันเลยค่ะแต่พอดีมีงบจำกัดเลยไม่รู้จะเริ่มต้นทำอะไรก่อนดีเลยค่ะ T-T จากคุณ : inooau - [ 20 เม.ย. 52 15:22:24 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าบ้านเป็นฝ้าทีบาร์ แผ่นสี่เหลี่ยมเปิดได้เลย จะง่ายหน่อย เห็นเดี๋ยวนี้มีฉนวนกันความร้อนขาดเท่าแ่ผ่น 60 ซม X 60 ซม ขายแล้ว ก็นับเอาเลยครับ ในห้องใช้กี่แผ่น ก็ไปซื้อมาถอดเปลี่ยนเองเลย ห้อง 18 ตรม ใช้ประมาณ 50 แผ่นแค่นั้นเอง ไม่กี่พัน แต่ถ้าเป็นฝ้าฉาบเรียบ ละก็ยุ่งยากแน่นอน เชื่อได้ว่ายิบซั่ม ที่ใช้เป็นยิบซั่มธรรมดา ไม่ได้มีฟอล์ยแน่นอน ถ้าอยากแก้ปัญหาระยะยาว ก็รื้อเลยครับ เพราะโครงเก่าก็ยังใช้ได้  ก็ซื้อสเตย์คูล 6 นิ้วมาใส่ด้านบน แล้วยิงแผ่นกลับไปใหม่ ฉาบทาสี  ค่าใช้จ่ายเยอะหน่อยแต่จำเป็น อันนั้นเป็นปัญหาเรื่องฝ้า ที่อาจไ้ด้รับความร้อนจากหลังคาโดยตรง อันดับต่อไปก็ดูเรื่องหน้าต่างรับแดดบ่าย  ก็หาผ้าม่านที่มีผ้าสะท้อนความร้อน มาใช้อีกชั้นหนึ่ง  ก็ช่วยได้อีกนิดนึง จากคุณ : thiefcat - [ 20 เม.ย. 52 16:24:31 ]