ความคิดเห็นที่ 1 อาการเสียที่ว่าเกิดจากตัว Capacitor ที่ทำงานร่วมกับ Motor ของพัดลมครับ    Capacitor หรือที่เรียกว่า  ตัว C   หรือบางคนเรียกตัว CAP ครับ   จริงๆ อาการพัดลมหมุนช้า ไม่หมุน    โดยมากเกิดได้จาก 2 สาเหตุ  ก็คือ Motor เสีย  และตัว Capacitor ค่ามันเสื่อมหรือเสียนั่นแหละครับ    ซึ่งโอกาสที่จะเสียมากที่สุดก็เป็นเจ้าตัว C นี่แหละครับ ส่วนอาการอื่นๆ ที่อาจจะเกิดตัว C เสียได้อีกก็คือ  พัดลมไม่หมุน   หรือ ต้อง Start ด้วยมือก่อนถึงจะทำงาน หรือ ทำงานไปซักพักก็ค่อยๆ หยุด  จับตัว C เปลี่ยนได้เลยเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรจะตรวจเช็คดูก่อนนะครับว่าแกนหมุนไม่ได้ฝืดมาก   อันนั้นเกิดจากไม่ค่อยได้ถอดมาล้างทำความสะอาด เป่า ปัด ฝุ่นบริเวณมอเตอร์เลย  ซึ่งควรทำเป็นประจำครับ 2-3 เดือนซักครั้งนึงหากเราใช้งานทุกวัน จากคุณ : Control.A - [ 19 เม.ย. 52 23:25:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เครื่องมือที่ใช้ก็มี 1. ไขควงแฉก 2. คีมตัดหรือ Cutter ก็ได้ 3. หัวแร้ง 4. ตะกั่วบัดกลี 5. ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือตัว C หรือตัว CAP นั่นแหละครับ 6. ส่วน Meter วัดไฟจะมีหรือไม่มีก็ได้ครับ  ไม่ค่อยจำเป็นผมเอามาเช็คเพื่อให้เห็นว่าตัวที่เสียเกิดจากตัว C  ครับ จากคุณ : Control.A - [ 19 เม.ย. 52 23:29:22 ]

ความคิดเห็นที่ 3 นี่ครับตัว C  ราคา 20 บาท  ซื้อได้ที่ร้านอมร  หากใครมีโอกาสไปเดินบ้านหม้อก็อาจจะหาได้ในราคา 10-15 บาท   หรือร้านที่ขายอะหลั่ยเครื่องใช้ไฟฟ้า      แล้วแต่สะดวกครับ ส่วนจะรู้ได้อย่างไรว่าใช้ค่าแบบไหนสำหรับตัวที่เราจะซ่อม ก็ต้องถอดร์อพัดลมมาดูก่อนครับ  ซึ่งโดยทั่วๆ ไป (เกือบทุกยี่ห้อทุกรุ่น)  ก็จะใช้ค่า  1.5uF(Micro Farad)  400V   แต่เพื่อชัวร์ก็ควรจะถอดรื้อดูก่อนครับ  หรือเอาตัวอย่างไปถามที่ร้านขายได้เลย  บอกคนขายว่า C พัดลมครับ จากคุณ : Control.A - [ 19 เม.ย. 52 23:34:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขั้นตอนแรกก็ถอด ๆๆ ครับ ก่อนที่จะถอดอย่าลืมดึงปลั๊กก่อนนะครับ  อันนี้สำคัญมากๆ ทุกยี่ห้อของพัดลมเจ้าตัว C จะอยู่ติดกับ Motor ครับ  เพราะหากลากสายยาวไป  สายที่เพิ่มขึ้นก็อาจจะทำให้ค่า C เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้  เพราะฉะนั้นบริษัทผู้ผลิตก็จะเอาไว้ติดกับ Motor ครับ โดยจะมีน๊อต 2 ตัว   ต้องถอดน๊อตตัวบนก่อน  จากนั้นก็ถอดตัวที่ท้ายครับ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 52 23:41:52 จากคุณ : Control.A - [ 19 เม.ย. 52 23:38:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หลังจากนั้นก็จะได้หน้าตาแบบนี้ครับ ตัว C ก็คือที่ลูกศรชี้ไว้นั่นแหละครับ   ขันน๊อตตัดสายออกมาได้เลย  ไม่มีขั้วครับ  ตอนต่อกลับต่อยังไงก็ได้ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 52 23:42:28 จากคุณ : Control.A - [ 19 เม.ย. 52 23:41:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เอามาตรวจวัดให้ดูครับ  ค่าที่ได้ของตัวนี้คือ 0.444 uF    ซึ่งค่าปกติจะเป็น  1.5 uF   เสียแน่นอน     ซึ่งถ้าค่าน้อยกว่านี้อาจจะทำให้พัดลมไม่หมุนเลยก็ได้ *** ค่าที่โชว์ในรูปคือ  444.2 nF  (Nano Farad)  ซึ่งก็เท่ากับ   0.4442 uF  (Micro Farad)   ซึ่งก็คล้ายๆ กับ  1000 มิลลิกรัม  เท่ากับ 1 ครับ  1000 เท่ากับ 1 กิโลกรัม นั่นแหละครับ ซึ่งจริงๆ ค่าพวกนี้มันแบ่งย่อยได้ลงไปอีก        มิลลิ ---> ไมโคร ---> นาโน ---> พิโก้   ใครเรียนมาทางสายวิทย์อาจจะคุ้นเคย **** แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 52 13:01:04 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 52 23:48:18 จากคุณ : Control.A - [ 19 เม.ย. 52 23:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มาดูพระเอกของเราครับ   ค่าที่วัดได้คือ .... 1.543 uF  ครับ จากคุณ : Control.A - [ 19 เม.ย. 52 23:49:26 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จากนั้นก็ปอกสายไฟตรงปลายเพื่อพัดกลีครับ  ต้องระมัดระวังไม่ไปทำให้ส่วนอื่นๆ ของพัดลมเสียหายนะครับ  เพราะขดลวด motor จะเล็กมากๆ ขายเอาได้ง่าย จริงๆ ขั้นตอนนี้ใครไม่มี หัวแร้ง ตะกั่ว ก็สามารถใช้วิธีการพันสายไฟได้ครับ  เพียงแต่ต้องพันเข้ากันให้แน่นหนาที่สุด  และหลังจากนั้นต้องพันด้วยเทปพันสายไฟอีกครั้ง อันนี้จำเป็นมากๆ นะครับไม่งั้นไฟช๊ดตเอาได้ จากคุณ : Control.A - [ 19 เม.ย. 52 23:53:59 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เสร็จแล้วก็จัดเก็บตำแหน่งครับ  ขัดน๊อตยึดตัว C  หรือหากตัวใหม่ที่ซื้อมาไม่มีขาสำหรับยึดน๊อต เหมือนที่ผมซื้อมาก็ใช้กาวสองหน้าได้ครับ จากนั้นก็ใส่ฝาครอบคืนตำแหน่ง  ใส่ขาที่สำหรับดึงให้พัดลมส่าย  คืนตำแหน่งครับ จากคุณ : Control.A - [ 19 เม.ย. 52 23:57:29 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จากนั้นเป็นอันเรียบร้อยครับ   ซ่อมพัดลมด้วยงบประมาณ 20 บาท  หากยกไปหาช่างก็ประมาณ 100-150 บาท สำหรับใครที่เปลี่ยนตัว C ไปแล้วพัดลมยังไม่หมุน  (ส่วนคนที่หมุนช้านี่กลับมาปกติแน่นอน)   อาการเสียเป็นที่ Motor ค่อนข้างแน่ (ควรแกะฝาล่างดูว่าสายไฟขาดหรือเปล่าก่อนนะ  ต้องระมัดระวังหน่อยนะครับ) อาการ Motor เสียค่าซ่อมประมาณ 200-300 บาท  ซึ่งดูเหมือนจะไม่ค่อยคุ้มสำหรับคนที่มีพัดลมตัวเล็ก ๆ ราคา 300-500 บาท ลองซ่อมดูได้ครับ สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องพัดลม   อากาศร้อนๆ  ได้รับลมเย็นๆ  จะได้ใจเย็นๆ  อารมณ์ดีๆ กันครับ จากคุณ : Control.A - [ 20 เม.ย. 52 00:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณมากๆครับ ได้ความรู้ใหม่ๆ จากคุณ : porche08 - [ 20 เม.ย. 52 00:10:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สุดยอดมากค่ะจขกท. ที่บ้านก็พึ่งเป็น แต่ใช้มือหมุนแล้วหาย จากคุณ : chaosy - [ 20 เม.ย. 52 03:03:23 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณมากค่ะ แจ๋วจริง ตัวที่บ้าน หน้าร้อนทีไร ไปทุกที จากคุณ : พรุ่งนี้...ที่รัก - [ 20 เม.ย. 52 05:00:23 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ลดขยะไปได้แยอะเลยนะครับ จขกท. ซาเล้งรายได้ลดไปอีกแยอะเลยนะครับ จากคุณ : PATCHAYAS - [ 20 เม.ย. 52 08:03:28 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เป็นความรู้มากเลย หากไม่ช้าจนอืดแล้วเครื่องมีแต่ฝุ่น ลองเปิดตามรูปแล้วทำความจะเร็วขึ้น เพราะพัดลมของผม 3 ปีไม่ได้ปัดฝุ่นเลย อาทิต์ก่อนแกะทำความสะอาด ฝุ่นเป็นกองเลย พอประกอบใหม่เปิดดูแรงขึ้นมากๆเลย จากคุณ : dib2000 - [ 20 เม.ย. 52 08:10:48 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สาธุ ได้ความรู้มากมาย เสียดายพึ่งทิ้งพัดลมเก่าไปด้วยอาการเดียวกัน เพราะใช้มาเกิน 10 ปีแล้ว ตัวเครื่องเดิมสีขาวเริ่มกลายเป็นสีเหลือง  เริ่มหมุนช้า คิดว่าคงไม่คุ้มที่จะซ่อม ก็เลยซื้อใหม่ซะเลย เป็นกระทู้ที่ดีมากครับ โหวตให้เลยครับ จะได้เป็นประโยชน์กับชาวบ้านเยอะเลย ขอบพระคุณจขกท.ที่นำวิชาความรู้มาเผื่อแผ่กันนะครับ ถือเป็นวิทยาทานเลยหละ จากคุณ : คอบอล - [ 20 เม.ย. 52 08:33:25 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณครับ พัดลมที่บ้านกำลังเจอปัญหานี้เลย ตอนนี้กดเบอร์ 1 มันไม่หมุนแล้ว ต้องสตาร์ทที่เบอร์ 2 ซึ่งก็ออกตัวช้าเหลือเกินกว่าจะได้แรงลม ไอ้เราก็บอกที่บ้านว่า ใช้ให้มันเสียทีละเบอร์ จากคุณ : จิงนะ - [ 20 เม.ย. 52 09:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 18 โอ๊ว แจ่มเลย ครับ ที่บ้าน มี พัดลมมิตซุ 10 ก่าปี ละ เริ่มไม่หมุน ละต้องหมุนๆๆ มันก่อน ถึงจะหมุน เดียวกลับไปซ่อมดีก่า ^^ จากคุณ : vn, man - [ 20 เม.ย. 52 09:55:06 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เยี่ยมครับ ไปลองทำมาแล้ว ตัว C เสียจริง ๆ ด้วย วันนี้ว่าจะไปซื้อ ขอบคุณมาก ๆ ครับ เยี่ยม เยี่ยม ครับ จากคุณ : Bigblocktackle - [ 20 เม.ย. 52 09:57:56 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้ามีเครื่องมือจะลองดูครับ จากคุณ : pro_aj - [ 20 เม.ย. 52 10:02:23 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณครับ จากคุณ : หลวงสรเดช - [ 20 เม.ย. 52 11:17:05 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ของผมเป็นที่สวิทครับ ประมาณเบอร์1-2 หมุนแล้วหยุด ต้องกดเบอร์3 ถึงหมุน ใช่อาการตัว C เสียมั้ยครับ จากคุณ : toodtu's อาย - [ 20 เม.ย. 52 11:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เก็บกระทู้เข้าคลังเรียบร้อยแล้ว จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 20 เม.ย. 52 11:49:30 ]

ความคิดเห็นที่ 24 โห ... ใช่เลย กำลังคิดอยู่ว่า พัดลมผมมันต้องเติมน้ำมันหล่อลื่น หรือจารบี หรือเปล่า  Start ช้า กว่าจะเข้ารอบของมันได้  แต่พอเข้ารอบได้ก็หมุนดีอยู่ ไม่น่าจะใช่ เดี๋ยวจะกลับไปทำดู  ขอยืมอุปกรณ์วัดไฟ บัดกรี ที่ออฟฟิศ กลับบ้านสัก 1-2 วัน 555   เจ้านายคงไม่ว่า ... เพราะเราเป็นคนดูแลอยู่  หุ..หุ.. จากคุณ : เ ห็ ด ห อ ม - [ 20 เม.ย. 52 11:59:34 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เยี่ยม มากๆ ไม่ นึกว่า แค่ แคป ตัวเดียว ทำให้พัดลมไม่หมุนได้ จากคุณ : ก้นกบ - [ 20 เม.ย. 52 12:13:10 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ถาม จขกท. เราสามารถเอามิเตอร์วัดตัว C ของเดิมในขณะที่ติดอยู่กับพัดลมเลยเพื่อตรวจสอบว่ามันเสียหรือเปล่าได้ไหม หรือว่าต้องวัดขณะที่ไม่ต่ออยู่ได้เท่านั้นจึงจะทราบค่าที่แน่นอน เพราะหากวัดได้ แล้วมันไม่เสีย จะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งบัดกรีกลับคืนไป จากคุณ : Tum : nnoppon@hotmail.com - [ 20 เม.ย. 52 13:18:58 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อาการเสียของคุณ toodtu's อาย ที่ว่า เบอร์ 1-2 หมุนแล้วหยุด  เบอร์ 3 ถึงจะหมุน   หากเบอร์ 3 หมุนแบบปกติ    ลองกดเบอร์ 3 อย่างเดียวโดยไม่กดเบอร์อื่นๆ ก่อน หากหมุนเหมือนปกติ  แสดงว่าตัว C ไม่น่าจะเสียครับ    น่าจะเป็นที่ contact switch แล้วหล่ะครับ         สำหรับคุณตั้ม การวัดตัว C ต้องวัดโดยตัดสายเท่านั้นครับ    เพราะมันต่อร่วมกับตัวอื่น    จริงๆ ก็ใช้การตัดสายฝั่งเดียวแล้วปอกสายอีกฝั่งก็ได้  ไม่ต้องตัด 2 ฝั่ง      จริง ๆ ผมก็ไม่เคยซ่อมพวกพัดลมอะไรอย่างนี้หรอกครับ  ครั้งแรกเหมือนกัน  เพราะรำคาญมันที่หมุนช้ามากๆ ก็ลองถอดๆ ดู  รื้อทั้งด้านบนด้านล่าง  พบว่าพัดลมไม่ได้มีส่วนประกอบอะไรเยอะเลย  (แต่ทำไมขายแพงจังหว่าเดี๋ยวนี้ตัวนึง 16" เกือบพัน)  ง่ายๆ   โดยเฉพาะพัดลมที่เป็น Switch contact นี่ง่ายเลย ไม่มีวงจรอะไรเพิ่ม  กดสวิทซ์ก็จ่ายไฟเลย      อาการเสียก็ไม่น่ามีอะไรมาก     ก็เลยมาเขียนเล่าให้เพื่อนๆ  ทำกันดู จากคุณ : Control.A - [ 20 เม.ย. 52 13:47:26 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมก็เคยเจออาการไม่หมุนนะครับ แต่ไม่น่าใช่กรณีของเจ้าของกระทู้อ่ะ เพราะลองเอามือไปหมุนใบพัด มันฝืดๆอ่ะ เคยเอาไปให้ช่างซ่อม เขาบอกว่าตัวบูต (อยู่ตรงแกนกลางของใบพัดลมเป็นเหล็กกลมๆ แท่งๆ มีรูให้เสียบแกนใบพัดตรงกลาง) มันเสีย เคยจะซื้อเปลี่ยนเองแต่เปลี่ยนยาก เลยไม่ทำดีกว่า เอาน้ำมันหยอด ก็ใช้ได้แป๊บเดียว ก็ฝืดอีก จากคุณ : khachen - [ 20 เม.ย. 52 15:53:26 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ของผม ฮาตาริ ติดผนัง เปิดเบอร์3 เหมือน เบอร์ 1 ครับ แต่ เปลี่ยน ตะแกรงกับ ใบพัดไปใส่อีกตัว  ตัวที่จับไปเปลี่ยนก็ หมุนช้า แต่ ตัวที่เอาออกเอาอันใหม่มาใส่ หมุนเร็ว  งง ครับ เป็ฯที่อะไรครับ จากคุณ : Mu Mu MUay - [ 20 เม.ย. 52 16:19:23 ]

ความคิดเห็นที่ 30 โอ้ แจ่มมาก ๆ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Dare2Dream - [ 20 เม.ย. 52 16:41:19 ]

ความคิดเห็นที่ 31 พัดลมที่ห้องยี่ห้ออะไรจำไม่ได้ รู้แต่ว่า พึ่งใช้มา 2-3 ปีเอง เมื่อ 4-5 วันก่อน อยู่ดีๆ ก้อเสียงดัง ซักพัก ก้อเบาลง เป็นระยะๆ จากนั้น มันก้อไม่หมุนอีกเลย กะลังคิดว่าจะซ่อมหรือซื้อใหม่ดีอะค่ะ แฟนบอกว่า มอเตอร์มันไหม้ ไม่รุจิงรึป่าว แต่ก้อขอบคุณสำหรับกระทู้ดีดี นะคะ จากคุณ : เปิดแอร์ทุกวันมันเปลือง (cwn_design) - [ 20 เม.ย. 52 16:45:55 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เจ๋งมาก ครับ จากคุณ : เม็กนีโต้ - [ 20 เม.ย. 52 17:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ถามจขกทดูว่า ถ้าบูทฝืดทำให้พัดลมหมุนช้าหรือมีเสียงดังแบบโลหะสีกัน อย่างนี้จะซ่อมยังไง และถอดบูทมาเปลี่ยนเองได้ใหม ขอบคุณมาก๊มาก จากคุณ : tuntun - [ 20 เม.ย. 52 17:44:56 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ใจมากจ้า จากคุณ : หัวแฉะ - [ 20 เม.ย. 52 20:10:15 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เยี่ยมมากๆครับ เดี๋ยวจะไปลองดู พอดีมีอยู่ตัวนึง อาการเข้าข่ายเลย จากคุณ : sawatcafe - [ 20 เม.ย. 52 20:57:08 ]

ความคิดเห็นที่ 36 มี Mira เหมือนกันค่ะ คอหักอ่ะ คือหมุนได้แค่ 90 องศา เวลายกพัดลมตอนเปิดอยู่ ได้ยินเสียงเหมือนใบพัดขูดกับเหล็ก ที่เป็นฝาพัดลม(เป็นตั้งแต่ซื้อมาเลย) ไม่รู้จะแก้อาการนี้ยังงัย ท่านใด ทราบวิธีแก้ ขอความกรุณาหน่อยนะคะ ปล...พัดลมยี่ห้อนี้ มันห่วยจริงๆ ยี่ห้ออื่น ใช้ดีไม่มีปัญหา-*- จากคุณ : Miracles in my life - [ 20 เม.ย. 52 21:23:54 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ความคิดเห็นที่ 27   อาการเสียของคุณ toodtu's อาย ที่ว่า เบอร์ 1-2 หมุนแล้วหยุด  เบอร์ 3 ถึงจะหมุน   หากเบอร์ 3 หมุนแบบปกติ    ลองกดเบอร์ 3 อย่างเดียวโดยไม่กดเบอร์อื่นๆ ก่อน หากหมุนเหมือนปกติ  แสดงว่าตัว C ไม่น่าจะเสียครับ    น่าจะเป็นที่ contact switch แล้วหล่ะครับ *************** น่าจะเป็น ที่ บุช เสื่อมสภาพครับ ถ้าเคาะแล้วถอดเปลี่ยนเองได้ไม่ยากครับราคาไม่แพงครับ หรือลองเอา สเปรย์อนเกประสงค์ฉีดดู ส่วนมากเป็นเส้นผม สาวๆไปพัน เยอะมากๆ จากคุณ : ขวัญใจสิบล้อ - [ 20 เม.ย. 52 21:46:50 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อืม..พัดลมที่บ้านเพิ่งมีอาการนี้พอดี ขอบคุณมาก..จะลองซ่อมดูครับ.. จากคุณ : มารหัวบุบ - [ 20 เม.ย. 52 22:16:59 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ฮาตาริที่บ้านเป็นเหมือนกัน  ซื้อมาไม่ถึงปี(รุ่นมีแผงวงจร) เช็คแผงวงจรแล้วไม่เสียลองต่อเข้ากับมอเตอร์ตัวอื่นก็หมุน พอกลับมาต่อที่ตัวพัดลมไม่หมุน  ก็เลยปล่อยทิ้งไว้เป็นเดือนแล้ว มาเจอกระทู้นี้จะลองซ่อมอีกที่ค่ะ จากคุณ : แม่น้องโอทู (DOOKDIG&O2) - [ 20 เม.ย. 52 22:48:43 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 เม.ย. 52 00:29:13 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณครับ จากคุณ : ... - [ 21 เม.ย. 52 03:44:47 A:202.149.24.129 X: TicketID:163756 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ใครไม่มีความชำนาญ ให้ช่างทำดีกว่าครับผมปลอดภัยกว่า ผมเคยโดยไฟที่ค้าง ใน C ดู มือชาเลยนะครับ ขนาดถอดปลั๊กไว้นานเหมือนกันนะเนี่ย จากคุณ : Narchai - [ 21 เม.ย. 52 05:56:25 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ความรู้ดีมากๆ จากคุณ : motokolf - [ 21 เม.ย. 52 08:55:04 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เรื่องไฟที่คุณ Narchai บอกว่าโดนไฟดูดจากไฟที่ค้างไว้ใน C คิดว่า C ค่าประมาณ 1.5 uF คงไม่ได้เก็บไฟนาน  และเยอะ ขนาดนั้นหรอกครับ  และคงไม่โดนดูดแน่ๆ หากถอดปลั๊กออกไปแล้ว  เพราะ C ตัวนี้ทำหน้าที่ในการ Start Motor และ run ความเร็ว motor เท่านั้นครับ ที่โดนน่าจะเป็นวงจรที่มีตัว C ขนาดใหญ่อย่าง 6800uF ขึ้นไป จากคุณ : Control.A - [ 21 เม.ย. 52 10:49:05 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณมากค่ะ สำหรับความรู้ที่มาแนะนำ จากคุณ : เกิดมาใจดำ - [ 21 เม.ย. 52 10:50:36 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เคยไปซ่อมแล้วช่างเก็บสามร้อยแน่ะ T  T จากคุณ : ความฝัน = รักษายิ่งชีวิต - [ 21 เม.ย. 52 11:11:06 ]

ความคิดเห็นที่ 47 พัดลมเพดานไม่หมุน เวลากดปุ่มมีเสียงเหมือนไฟเข้า ทำไงครับ จากคุณ : !!!! (kampanat.K) - [ 21 เม.ย. 52 12:03:01 ]

ความคิดเห็นที่ 48 คุณ kampanat.K  อาการดังกล่าวก็น่าจะมาจาก C นี่แหละครับ   C ค่ามันเสียไปแล้วเลยไม่ Start Motor ให้ทำงาน   มีไฟจ่ายเข้าขดลวด Motor แล้วจึงได้ยินเสียงฮัมจากมอเตอร์ แต่พัดลมเพดานนี่ผมไม่รู้ว่า C มันจะอยู่ตรงไหน  ต้องตัดไฟ Main ของบ้านที่จะจ่ายเข้าพัดลมก่อนนะครับถึงจะไปแกะมัน คือ C ตัวนี้มีการทำงานก็คือ Start Motor และหลังจาก Start ไปแล้วก็จะทำหน้าที่ Run  Motor โดยทำงานสัมพันธ์กับขดลวดใน Motor นั่นแหละครับ จากคุณ : Control.A - [ 21 เม.ย. 52 13:29:01 ]

ความคิดเห็นที่ 49 แล้วพัดลมมันไม่ส่ายทำไงครับ  คือมันเปิดได้ตามปรกติ  แต่มันไม่ส่ายซ้ายขวาน่ะครับ  มันจะติดแล้วก็ส่งเสียงดัง แก๊กๆๆๆๆ...  เคยเห็นเพื่อนซ่อมไม่ถึงหนึ่งนาที แค่ใช้ไขควงตัวเดียว  พอจะรู้ไหมครับ.. ขอบคุณมากครับ จากคุณ : nai_aoum - [ 21 เม.ย. 52 14:18:03 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ถ้าใช้ Hatari เอาไปซ่อมได้เลยที่ศูนย์ตรงถนนพระราม 2 ซ่อมฟรีเลยครับ ของผมเคยเอาไปซ่อมหลายตัวแล้ว รอรับกลับได้ ไม่เสียเงินเลยสักตัว ถ้าเป็น Mitsubishi ส่วนมากอาการฝืดจะมากจากบุ๊ช ต้องเปลี่ยนใหม่ครับ คห.49 ถ้าไม่ส่ายแล้วดังแกร๊ก เป็นที่เฟืองอาจหลวมครับ จากคุณ : BadmintonMan - [ 21 เม.ย. 52 16:03:47 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ จากคุณ : Ivy Neo - [ 21 เม.ย. 52 16:31:10 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ที่บ้านพัดลมเป็นแบบนี้พอดี ยังดีที่ยังไม่ได้ยกไปทิ้ง ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ นะคะ จากคุณ : UltraCocoa - [ 21 เม.ย. 52 17:09:05 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ความคิดเห็นที่ 48 ถ้าไม่อยากบักกรีเปลี่ยน C ซื้อเฉพาะหัวใหม่ใส่ได้ครับ มีแยกขาย ไอ้ตัวครอนโทรลทั้งชุดไม่ว่าแบบบิดหรือกด 0-1-2-3-4 จากคุณ : ขวัญใจสิบล้อ - [ 21 เม.ย. 52 20:25:18 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณ ครับ จากคุณ : i_nam - [ 22 เม.ย. 52 08:54:31 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณครับ จากคุณ : thaiMBA - [ 22 เม.ย. 52 11:45:58 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เข้ามาดูอีกครั้ง .. ดีใจกับกระทู้ที่มีคนมาร่วมให้ความรู้ ถาม-ตอบ ในเรื่องพัดลมหลายๆ คน จากคุณ : Control.A - [ 22 เม.ย. 52 12:48:29 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณครับ จากคุณ : pinhead - [ 22 เม.ย. 52 18:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอถามเพิ่มน่ะครับ พอดีที่บ้านมีอยู่ตัวนึงที่หมุนปกติ แต่พอเปิดไปได้สัก 5 นาที ก็หยุดแถมตรงด้านหลังร้อนมากด้วยครับ ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร มอเตอร์หรือเปล่า และขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆน่ะครับผม จากคุณ : -อุ่นอารี- - [ 22 เม.ย. 52 21:10:33 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ของผมไปซื้อพัดลมตัวเล็กๆมาอะครับ มันจะมีให้เปิดสองเบอร์ ถ้าเปิดเบอร์แรก เปิดทั้งวันก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเบอร์เบอร์ที่สอง ที่เป็นเบอร์แรงสุด เปิดไม่นานจะมีกลิ่น ออกมาจากมอเตอร์อะครับ เหม็นคลุ้งทั้งห้องเลยครับ มันอันตรายมากรึเปล่าครับ ถ้าเปิดเบอร์สองนี้ทิ้งไว้นานๆ จากคุณ : TonTpd - [ 22 เม.ย. 52 23:19:36 ]

ความคิดเห็นที่ 60 สำหรับคุณ -อุ่นอารี-  น่าจะเกิดจาก Motor ซ๊อตครับ   จะซ่อมมอเตอร์ก็ได้แต่ไม่แน่ใจจะคุ้มหรือเปล่า ส่วนหากเปิดเบอร์ 1 ได้แล้วเปิดเบอร์ 2 มีกลิ่นมาจากมอเตอร์ของคุณ TopTpd  ก็เกิดจากมอเตอร์ช๊อตเช่นกันแต่ช๊อตเฉพาะเบอร์ 2 อย่างนั้นห้ามไปเปิดเบอร  2 นะครับ  เดี๋ยวไปทำงานอย่างอื่นจนลืมไฟไฟม้ขึ้นมาได้  แต่ก็ใช้เบอร์ 1 ได้ปกติ (หมั่นสั่งเกตหน่อยก็แล้วกัน)  เพราะขดลวดของแต่ละเบอร์จะแยกกัน  ก็ยังใช้งานได้ จากคุณ : Control.A - [ 22 เม.ย. 52 23:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณที่ให้ความรู้เพิ่ม... จากคุณ : เม่นแคระ - [ 23 เม.ย. 52 00:34:19 ]

ความคิดเห็นที่ 62 มาขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่นำความรู้ดีๆมาฝากครับ จากคุณ : mayteec - [ 23 เม.ย. 52 08:03:22 ]

ความคิดเห็นที่ 63 มาอ่านช้าไป ยกให้แม่บ้านคอนโดไปแล้ว T_T จากคุณ : Gazz - [ 23 เม.ย. 52 11:19:57 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะครับ จากคุณ : TonTpd - [ 23 เม.ย. 52 16:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณค่ะ  ขอถามคุณ  Control.A หน่อยนะคะว่า พัดลมที่บ้านยี่ห้อมิตซูบิชิ ไม่มีน็อตตามหมายเลข 1 เราจะมีวิธีเอาตัวล็อค มันออกได้อย่างไรคะ  ลองดึงเบาๆแล้ว แต่ไม่ออกค่ะ ส่วนหมายเลข 2 ไขน็อตเอาออกได้ค่ะ จากคุณ : ย่าอ้วนแพน - [ 23 เม.ย. 52 16:38:15 ]

ความคิดเห็นที่ 66 พัดลมที่พังๆบ้านผมเป็นสิบๆตัว ผมเคยเจออยู่ตัวเดียวที่ C มันเสื่อม  นอกนั้นมันจะพังที่บุชแกนมอเตอร์ เมื่อเปิดมากๆบุชมันจะร้อนจัดจนมันโก่ง ทำให้แกนมันหมุนได้ฝืด จากคุณ : ton99 - [ 23 เม.ย. 52 16:49:10 ]

ความคิดเห็นที่ 67 คคห 65    บ้านผมก็มีพัดลมยี่ห้อมิตซูบิชิ  ลองเปลี่ยนจากดึงเบาๆ มาเป็นดึงแรงๆครับ จากคุณ : ซิมสัน - [ 23 เม.ย. 52 17:27:50 ]

ความคิดเห็นที่ 68 อยากให้มีกระทู้ดีๆ อย่างนี้เยอะๆ เป็นประโยชน์มากค่ะ.... จากคุณ : พินธุวดี - [ 23 เม.ย. 52 20:33:20 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เผาพัดลมไปแล้วครับ ซ่อมผิดวิธีไปหน่อย ฉีดคลีนเนอร์สเปย์ไปตอนกำลังหมุนเลย -_-" มอดไหม้เป็นจุณครับ.... ซื้อใหม่ ใสกิ๊ง ^^ จากคุณ : I am Keng - [ 24 เม.ย. 52 02:53:36 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ มีพัดลมอาการแบบนี้อยู่ประมาณ 4-5 ตัวบนห้อง... สามีจะซ่อมได้หรือเปล่าเนี่ย เฮ้อ..ซื้อใหม่ตลอดเลยค่ะ จากคุณ : ลูกไหม - [ 24 เม.ย. 52 10:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เคยเล่าอาการให้ช่างที่รู้จักฟัง เค้าก็ว่าเป็นที่ Cap เนี่ยค่ะ อ่านจากทู้นี้ ลังเล...หรือของเราอาจจะเป็นที่บูช รึเปล่าไม่รู้ แต่ยังไงป่านนี้ก็ยังไม่ได้ซ่อมเลยค่า... เวลาจะใช้งานจะเปิดหน้ากากเอามือหมุนก่อน แล้วปิดหน้ากาก เปิดเบอร์ 2 ต้องเบอร์ 2 เท่านั้น พอหมุนแล้วปิดจะเปิดเบอร์อะไรก็ได้ แต่อย่าปิดนาน ไม่งั้นต้องเปิดหน้ากากหมุนใบพัดใหม่ พัดลมของเรายี่ห้อ Distar Twister น่าจะเกือบๆ 10 ปีแล้ว เพิ่งเกิดอาการ จะว่าไปเบอร์ 1 เคยแรงกว่านี้มากๆ จากคุณ : intoxicated - [ 24 เม.ย. 52 17:21:22 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ของคุณ  intoxicated  คาดว่าน่าจะเป็นที่บู๊ชครับ   แต่ก็น่าจะคุ้มแล้วนะครับพัดลม 1 ตัวใช้งานได้ถึง 10 ปี สำหรับคุณ ย่าอ้วนแพน  ผมก็ไม่เคยแกะพัดลมยี่ห้อนั้นด้วยสิครับ ลองทำตามคุณ ซิมสัน  อาจจะได้ผลก็ได้ จริงๆ หากไม่มีน๊อตก็น่าจะเป็นพวกคลิปล๊อคนะครับ  อาจจะหมุนทวนนิดนึงแล้วมันก็ปลดล๊อคดึงขึ้นมาได้เลย  ไม่แน่ใจนะครับ ลองดูก่อน จากคุณ : Control.A - [ 24 เม.ย. 52 22:52:20 ]

ความคิดเห็นที่ 73 แล้วถ้าเป็นพัดลมเพดานที่เปิดเบอร์ 1 แล้วก้อหมุนช้า พอเปิดไปเบอร์ 3 ยิ่งช้ามากกว่าอีกจะแก้ไขได้ยังไงบ้างค่ะ จากคุณ : ms_silig - [ 25 เม.ย. 52 11:18:31 A:203.144.220.243 X: ]

ความคิดเห็นที่ 74 ( พัดลมยี่ห้อมิตซูบิชิ) ตามที่เคยถามไว้  ได้ไปลองดูปุ่มตามหมายเลข 1 ใหม่อีกครั้ง มันเป็นรูลงไปแต่ไม่มีน็อต ลองดึงอีกครั้ง ก็ดึงไม่ออกค่ะ (กลัวเสียด้วย) ใครมีพัดลมยี่ห้อนี้บ้างคะ จะเปิดยังไงดีคะ พัดลมตัวอื่นๆ เปิดได้หมดเลยค่ะ ฝุ่นเยอะมากกกกกกก เลยอยากจะเปิดมาเอาฝุ่นออก เพราะพัดลมตัวนี้ยังใช้ได้อยู่เพียงแต่ เบอร์ 1 เบอร์2 มันจะหมุนช้า (ผิดปกติจากที่เคยใช้ในตอนซื้อมาใหม่ๆ) ถ้าเป็นเบอร์ 3 จะหมุนเร็ว เป็นปกติ ค่ะ ช่วยแนะวิธีเปิดให้หน่อยนะคะ ขอบคุณ แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 52 09:14:28 จากคุณ : ย่าอ้วนแพน - [ 26 เม.ย. 52 09:11:42 ]

ความคิดเห็นที่ 75 hatari รุ่นปุ่มดิจิตอลครับ ใช้งานฟังก์ชันต่างๆไม่ได้เลย เปิดได้แค่เบอร์1 กดไปเบอร์อื่นก็กลับมาเบอร์1เอง เปิดทิ้งไว้สักพัก ก็ดับเองและร้อนมาก ที่ฝาครอบด้านหลัง ลองเปลี่ยนCแล้ว ไม่หายครับ ท่านใดทราบวิธีแก้ไขช่วยแนะนำด้วยครับ หรือถ้าส่งช่างจะคุ้มค่าซ่อมไหมหนอ จากคุณ : suicidemachine - [ 29 เม.ย. 52 14:38:38 ]