ความคิดเห็นที่ 1 ก็เพราะว่า จขกท. ไม่ได้เปิดหนังสือทำเองไงครับ :-) จากคุณ : MiniFoxi - [ 20 เม.ย. 52 16:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 งั้นก็เปิดหนังสือ ทำเองแล้วกันคับ จะได้ไม่ต้องจ่ายตั้ง จ้างคนทำงานเขาจะคิดงานอย่างงั้ย หาจากไหน แล้วจะก๊อปใครมา ก็เพื่อบ้านท่าน ที่พักอาศัยท่าน ไม่ก๊อปก็ได้คับ แต่ขอค่าสมองคิดแบบบ้านท่าน ท่านจะให้ได้ไหมคับ หรือว่าก็ไม่ได้อีก ใช้สมองคิดแบบบ้านแล้วพี่ก็ว่าก๊อปออกมาจากสมองนี้ จ่ายทำไหม ขอโทษที่ทำให้อารมณ์เสียกัน จากคุณ : เหงาใจคับ (Chaisri) - [ 20 เม.ย. 52 16:12:18 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จขกท ถามได้ชวนให้เข้าใจผิดมาก เข้าใจว่า จขกท เป็นหรือสนิทกับสถาปนิก และต้องการทราบว่าทำไมคนอื่นส่วนใหญ่ถึงไม่อยากจ่ายเงินให้สถาปนิก แต่ดันยกตัวอย่างมาเยอะเกิน เลยทำให้คนอื่นเขาเข้าใจผิดว่า จขกท เป็นพวกไม่อยากจ่ายตังค์นะ เหตุผลที่ทำไมคนทั่วไปไม่อยากจ่าย จขกท ก็ตอบเองไปหมดแล้ว ถ้าจะให้ตอบว่าทำไมถึงคุ้มค่าที่จะจ่าย  ก็ขอตอบว่าด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ ออกแบบให้บ้าน Unique ไม่ซ้ำใคร สวยแถมสร้างได้จริง เป็นพวกเดียวกับเจ้าของบ้าน ที่ช่วยเจ้าของบ้านที่ไม่มีความรู้เรื่องก่อสร้างจ้องจับผิดผู้รับเหมา หรือ ค่าจ้างของสถาปนิก รวมแล้วถูกกว่า เงินที่จะหายไปจากการถูกผู้รับเหมาโกงลดสเป็ก คุ้มกับค่าไฟที่จ่ายลดลงเมื่ออาศัยอยู่ในบ้านไปนาน ๆ ได้พื้นที่ขายเพิ่มขึ้น จนได้กำไรจากการเช่ามากขึ้นกว่าเดิมยิ่งกว่าจำนวนเงินที่ใช้ว่าจ้างสถาปนิก(สำหรับอาคารให้เช่า) จากคุณ : ซ่อนนาม - [ 20 เม.ย. 52 16:18:48 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อยากจ่ายคะ  แต่เงินไม่มี  ถ้าเรามีเงินซัก5ล้านบาท  เราก็อยากเดินไปหาสถาปนิก  แล้วบอกความต้องการของเราทั้งหมด  ชอบไม่ชอบอะไร  แล้วก็เป็นคุณนายให้สถาปนิกเสนอแบบมาเราชอบหรือไม่ก็แค่ชี้นิ้วบอกเขาง่ายจะตาย  แต่นี่มีเงิน5แสนสร้างในที่ดินตัวเอง  หาช่างพื้นบ้าน  หาแบบที่ชอบ  เปิดไปเหอะหนังสือ  หาแบบมันทุกวัน  อยากได้สบายหน่อย  ก็ไปขอแบบฟรีของกทม.  แล้วยิ่งมี10ล้านบาท  อุ๊ย  ออกแบบเลยคะ  ทั้งภายนอก  ภายในเดี๊ยนจ่ายไม่อั้น  เข้าใจไหมคะ  แล้วมีใครมีเงิน5ล้าน  หรือ10ล้าน  เปิดหนังสือ  สร้างบ้านหรือเปล่าคะ  อยากทราบเหมือนกัน จากคุณ : SOFIALA (sofiala) - [ 20 เม.ย. 52 16:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ้าว กรรม โดนว่าเลยแฮะ สงสัยตั้งคำถามชวนตีซะแล้ว ขอโทษนะค่ะ อาจตั้งคำถามช่วยโอ๊ยไปหน่อย พอดีเห็นกระทู้เรื่องของงานขอแบบบ้านฟรีกันเยอะ ก็เลยสงสัยว่า จริงๆแล้ว มันควรจะจ่ายรึเปล่าในแง่ของคนที่กำลังจะสร้างบ้าน ทำบ้าน ต่อเติม และตกแต่งบ้าน บางบ้านเค้าดูหนังสือเเล้วมาปรับใช้ให้เขากับตัวเองได้ และออกมาสวยงาม อย่างที่เห็นในหลายๆหลังในชายคา แต่ถ้าถามวิชาชีพยังไงมันต้องจ่ายเพราะมันคือวิชาชีพน่ะ แล้วคนที่ทำอาชีพนี้ถ้าเห้นคำถามนี้คงปรี๊ดขึ้นอยู่แล้วละค่ะ เป็นธรรมดา แต่อยากรู้ในมุมของลูกค้าว่า ทำไมมันไม่น่าจะจ่ายน่ะค่ะ ไม่ได้เจตนาให้อารมณ์เสียค่ะ ต้องขอโทษคห. 1-2 นะค่ะ ที่ทำให้หงุดหงิด จากคุณ : นนนี่มาแล้ว - [ 20 เม.ย. 52 16:30:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่าหัวกระทู้ กับ คห.ที่5 มันต่างกันนะครับ ถ้าคห.ที่5 ขอแบบฟรีโดยมีผู้เต็มใจทำให้แบบนี้ไม่ผิดอะไรนะครับ แต่ถ้าหัวกระทู้  เจ้าของบ้านติดต่อสถาปนิกแต่เกี่ยงงอนเรื่องราคา  บ่ายเบี่ยงการนัดชำระเงิน หรืออ้างแค่กระดาษไม่กี่แผ่นจะราคาสักเท่าไหร่กัน แบบนี้ก็คบไม่ได้ครับ  พวกนี้โง่แล้วคิดว่าตัวเองฉลาด (ไม่มีวิชาดันคิดอีกว่าตัวเองทำได้) แถมโกงเก่งแล้วดันคิดว่าการเอาเปรียบคนอื่นได้เป็นความสามารถพิเศษอีก ทั้งๆที่จริงก็แค่เป็นมนุษย์ที่มีความหนามากกว่าปกติเท่านั้นเอง จากคุณ : mute - [ 20 เม.ย. 52 16:38:51 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอโทษค่ะ แฮะๆ  สงสัยว่าจะตั้งหัวข้อกระทู้ไม่ถูกต้องกับที่คิด เลยโดนว่าเลย ประเด็นแบบ คห. 5 ง่ะค่ะ ขอบคุณ คุณ mute ค่ะที่ให้ความเห็น จากคุณ : นนนี่มาแล้ว - [ 20 เม.ย. 52 16:47:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ้าว ...เปล่าหงุดหงิดนะ .. :-) คือผมว่ามันไม่มีมุมไหนที่ไม่สมควรจ่ายนะ แต่ต้องจ่ายแบบสมเหตุสมผลหน่อย ให้ออกแบบบ้านราคา 2 แสน คิดค่าออกแบบ 7 ล้านก็ใช่่ที่ อย่างน้อยก็ที่คุณว่ามามันเป็นวิชาชีพ แน่นอนว่าไม่ได้มาฟรีๆ เอาเถอะถึงจะเปิดหนังสือ copy มา ก็ยังต้องซื้อหนังสือมาอยู่ดี มันก็เป็นต้นทุนทั้งนั้น นี่เรายังไม่ไม่ได้พูดไปถึง สิ่งที่จับต้องไม่ได้เป็น เช่น Creativity ความคิดสร้างสรรค์ที่คนออกแบบดัดแปลง ปรับปรุงจากงานที่บอกว่า Copy มาใช้ ... ของแบบนี้บางครั้งมันเป็น gift บางคนมีหนังสือล้านแปดเล่ม ดีๆ ทั้งนั้น แต่ก็ไม่สามารถนำเอามาใช้ได้ หรือแม้แต่จะ copy มาทั้งดุน ก็ยังหาของที่ตรงตามที่ลงในหนังสือไม่ได้ มันก็ต้องอาศัยการดัดแปลง นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องสี องค์ประกอบโดยรวม จากการที่เลือกของจากที่ต่างๆ มาใช้ ก็ต้องดูรวมๆ ทั้งหมดว่ามันไปกันได้หรือเปล่า ในมุมมองผม ... คิดว่ายังไงก็ต้องจ่ายนะ แต่ต้องดูให้เหมาะสมอย่างที่บอก จากคุณ : MiniFoxi - [ 20 เม.ย. 52 16:47:37 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อืม ขอบคุณค่ะ คุณ MiniFoxi ที่เข้าใจ นนนี่ นึกว่าคุณหงุดหงิดซะอีก จากคุณ : นนนี่มาแล้ว - [ 20 เม.ย. 52 16:54:40 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณงามๆ คุณ chai_e ค่ะ ที่เข้าใจประเด็น เฮ้อ จริงๆตั้งมาเสร็จ ยังนึกเลยว่า นี่หาเรื่องให้เค้าว่ารึงัยเนี่ยะ แต่อยากรู้จริงๆค่ะ ลูกค้าที่มีกระตังค์ มีนะค่ะ แต่ไม่อยากจ่ายค่าออกแบบ แต่น้ำท่วมปาก ถามก็ไม่ได้ เลยอยากจะรู้ว่าทำไมเน้อ จากคุณ : นนนี่มาแล้ว - [ 20 เม.ย. 52 17:07:30 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นความสำคัญของค่าความคิดไงครับ เพราะส่วนนึงขาดความรู้และความเข้าใจด้วย คิดว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรจะเสีย... ทั้งที่หัวใจสำคัญที่สุดของการมีบ้านที่สวยและลงตัวที่สุดคือการออกแบบ นอกจากเรื่องการออกแบบแล้ว เขาลืมคิดว่า สถาปนิกที่ทำงานตามวิชาชีพจริงๆ นอกจากจะออกแบบให้สวยและลงตัวกับสภาพภูมิอากาศและที่ดิน รวมถึงออกมาจากตัวเจ้าของบ้านแล้ว สถาปนิกยังช่วยบริหารงบ จัดระบบ ดูวัสดุและให้คำปรึกษาระหว่างก่อสร้างให้เจ้าของบ้านอีกด้วย การใช้วัสดุของบางอย่างถูกๆแต่ใช้การออกแบบก็ทำให้สวยได้! แต่ของแพงๆถ้าดีไซน์ห่วยๆมันก็ทำให้ดูทุเรศได้เช่นกัน! ซึงข้อหลังๆนี่แหละช่วยลดค่าใช้จ่ายไปแทนค่าออกแบบได้แล้ว สร้างบ้านก็ลดความปวดหัวไปตั้งเยอะ อยุ่ๆไปก็ไม่มีปัญหาให้ปวดหัวช้ำระกำใจอีก ค่าออกแบบแค่นี้ ถามว่าทำไมจะคุ้ม!! ก็เหมือน เวลาคุณจะมีแฟนหรือเนื้อคู่ที่จะใช้ชีวิตร่วมกันไปทั้งชีวิต จะดีแค่ไหน ถ้าคุณสามารถกำหนดออกแบบเนื้อคู่ของคุณ ให้มีหน้าตาดีสวยงาม ตลอดจนนิสัยที่ถูกสเปค และเข้ากับความเป็นตัวคูณได้ดีที่สุด นั่นคือเนื้อคู่ในฝัน! กับเนื้อคู่ที่ อาจพบด้วยบุบเพ หรืออะไรก็ตาม แต่กลายเป็นว่าคุณต้องฝืนตัวเองปรับตัวทั้งนิสัยเพื่อให้เข้ากันประคองชีวิตคู่ให้อยุ่ด้วยกันไปได้ ซึ่งที่กล่าวมามันก็คือความสุขทั้งชีวิตเลยนะครับ ! ถ้าเสียเงินแล้วซื้อความสุขได้คุณยอมเสียไหม ? ซึ่งในความเป็นจริงเนื้อคู่หรือความรัก มันอาจออกแบบกันไม่ได้... แต่บ้านที่ชีวิตคุณคงมีได้ไม่กี่หลัง และต้องอาศัยกันทั้งชีวิต คุณสามารถออกแบบมันได้!! ก็เลือกเอาครับ! จากคุณ : tm. - [ 20 เม.ย. 52 17:08:50 A:58.9.92.244 X: TicketID:203364 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จขกท. เค้าก็เป็นผู้ออกแบบนิ่ จากคุณ : มูชิ มูชิ - [ 20 เม.ย. 52 17:34:58 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อึ๊ย เครื่องหมายคำถามนี่แปลว่าอะไรค้า แค่ถามไถ่เอาเหตุเอาผลเท่านั้นค่า ไม่มีเจตนาอื่น จากคุณ : นนนี่มาแล้ว - [ 20 เม.ย. 52 18:44:19 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้า เอาไว้ให้ คนหลายๆคนดู อันนี้ น่าจ่ายน่ะ อย่าง ออฟฟิศ บ้านหรู แต่ถ้าเอาไว้ ดู +อยู่เองไม่กี่คน ราคา ไม่เกิน 3 ล้าน เลยไม่ได้คิดอะไรมาก ขอออกแบบเอง เอาอย่างที่ชอบเป็นพอ จากคุณ : ก้นกบ - [ 20 เม.ย. 52 19:45:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 1. บางส่วนยินดีจ่ายนะคะ  แต่ไม่มีกำลังทรัพย์พอ 2. บางส่วนก็สนุกกับการแต่งบ้านด้วยตัวเอง  ถูกหลักการมั๊ย  ไม่รู้    แต่อยากแต่งเอง  เหมือนคนที่ชอบ DIY  บางทีไปซื้อยังถูกกว่า    แต่อยากทำเองอ่ะ 3. บางส่วนก็เหมือนที่ จขกท.ว่า ส่วนตัวเรานะ เราจะคิดถึงวิศวกรทุกครั้ง  ที่เห็นบ้านร้าว  ผนังไม่เรียบ เราจะคิดถึงสถาปนิกที่สุด  เมื่อบ้านเรามันร้อนๆๆๆๆ   ทำไมไม่ทำช่องระบายลมใต้หลังคานะ  /  เจาะช่องแสงในห้องน้ำให้หน่อยก็ไม่ได้   เราจะคิดถึงมัณฑนากร  เมื่อเราจับคู่สีไม่เป็น  เรียงภาพไม่ถูก  ทำไมโต๊ะทีวีไม่ได้ระดับ  ดูแล้วปวดคอ   แต่เราไม่มีตังค์จ้างเค้าเหล่านั้น  ต้องซื้อบ้านจัดสรร  ไม่มีปัญญาสร้างเอง จากคุณ : Makit - [ 20 เม.ย. 52 20:07:06 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตอนแรกไม่คิดว่าจะต้องจ่ายหรอกนะคะ แต่...... พอโอนบ้านผ่านไป 3 เดือน  ตัดสินใจไม่ลงว่าจะซื้ออะไรยังงัย เดินเข้าออกห้างทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ก็ไม่ลงตัวซะที คิดมันร้อยแปดพันอย่าง สุดท้ายต้องพึ่งอินทีเรียค่ะ ตอนนี้ได้กระดาษมาไม่กี่แผ่นแต่จ่ายตังไปแล้วบางส่วน แต่เราคิดว่ามันคือทางออกของเราค่ะ ไอ้ร้อยแปดพันอย่างที่อยู่ในหัวแค่พูดออกมาอินทีเรียจับใส่ลงในกระดาษมองเห็นภาพ เลยคิดว่ายอมจ่ายดีกว่าค่ะ คราวนี้ถ้าถามว่าทำไมถึงยอมจ่าย มันก็แล้วแต่คนค่ะ บังเอิญเราไม่มีหัวในการเรียบเรียงความต้องการให้ออกมาเป็นสิ่งที่จับต้องได้ เลยยอมจ่าย แล้วก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณค่ะ เราไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็ยอมจ่ายไม่งั้นก็คงไม่ได้เข้าอยู่ซักทีค่ะ และอีกอย่าง ตัดปัญหาสองความคิดค่ะ อินทีเรียอยู่ตรงกลาง ช่วยให้ 2 ความคิดรวมเป็น 1 ได้ค่ะ อิอิ จากคุณ : TruLy - [ 20 เม.ย. 52 21:29:20 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ทำไมไม่จ้างสถาปนิก    ก็เพราะไม่รู้ ว่าการสร้างบ้านมีรายละเอียดมากมายที่เกี่ยวเนื่องกันตลอด ทำไมถึงไม่รู้     ก็เพราะไม่มีประสบการณ์ คนหนึ่งคนจะมีโอกาสสร้างบ้านของตนเองได้สักกี่ครั้ง ทำไมถึงไม่จ่าย      ก็เพราะรู้สึกว่าสถาปนิกเรียกค่าออกแบบแพงเกินไป จะต่อรองราคาก็ไม่กล้า แล้วทำไมสถาปนิกคิดแพง     ไม่เข้าใจเหมือนกัน และก็ไม่แน่ใจว่าจ้างสถาปนิกแล้วจะได้งานที่ถูกใจ หรือเปล่า งานที่ออกแบบในกระดาษ กับของจริงจะไม่เหมือนกัน ยังไงก็ต้องแก้ไขอยู่ดี ตัวอย่างเช่นเวลาไปที่ไหน โรงแรม รีสอร์ท คอนโด ห้างสรรพสินค้า ระดับ สี่ดาว ห้าดาว ออกแบบโดยสถาปนิก มัณฑนากร ระดับชาติ ระดับโลก ก็ยังมีทั้งข้อติ ข้อชม ครั้นพอบ้านเสร็จ ถ้าซื้อเฟอร์นิเจอร์ ขาดหรือเกินเพียงชิ้นเดียว การจัดห้องก็ไม่ลงตัวแล้ว สรุป ทั้งคนที่จ้าง และคนที่ไม่จ้าง ก็อยู่ไป แต่งไป จัดไป ซ่อมไป แก้ไขไป จากคุณ : แสนสุขสม - [ 20 เม.ย. 52 21:50:08 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อืม ขอบคุณคุณลูกค้าในทุกความเห็นค่ะ จากคุณ : นนนี่มาแล้ว - [ 20 เม.ย. 52 22:08:33 ]

ความคิดเห็นที่ 20 กระทู้นี้ดีครับ ผมก็กำลังหาสถาปนิกมาปรับปรุงบ้านใหม่ ยอมจ่ายค่าความคิดครับ เพราะถ้าทำเองคิดเองก็ได้ แต่ผมต้องทำมาหากินของผมเอง ให้คนที่เค้ามีอาชีพนี้เค้าทำดีกว่า ถ้าคิดว่าอาชีพสถาปนิกไม่สำคัญ ก็คงไม่ต้องมีการเรียนการสอนวิชานี้แล้ว เหมือนเราทำงาน เราใช้สมองใช้แรงงาน เราก็อยากให้นายจ้างจ่ายค่าแรงค่าความคิดเราให้คุ้มกับที่นายจ้างได้ประโยชน์จากเรา ในทางกลับกันสถาปนิกหรืออาชีพอื่น ๆ ก็คงเหมือนกัน จุดสำคัญมันอยู่ที่ว่า สถาปนิกกับเราตกลงเรื่องค่าออกแบบแล้ว เค้าทำงานให้เราสมกับเงินที่เราจ่ายหรือเปล่า อันนี้อยู่ที่จรรยาบรรณของทั้งสองฝ่าย จากคุณ : Incognito - [ 20 เม.ย. 52 23:39:54 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ที่คนไทยไม่เข้าคำว่าคุณค่าทางความคิด ผมว่าไม่จริงหรอก ปัญหาที่เจ้าของกระทู้ถาม ผมว่าตอบง่ายๆเลยครับ คุณไม่มีการตลาดไงครับ ทำไมลูกค้าถึงบอกว่าไม่สมควรจ่าย ตอบง่ายๆ เพราะมูลค่าสินค้าในใจลูกค้าน้อยกว่าราคาสินค้าไงครับ (แพง) ลูกค้าที่ไม่ต้องการจ้างสถาปนิก เขาไม่มาให้เปลืองเวลาหรอกครับ ส่วนลูกค้าที่ตั้งใจมาหาคุณเขาเต็มใจจ่ายอยู่แล้วครับและเขาก็มาพร้อมไอเดียเบื้องต้นไม่มีเถียงเรื่องก๊อปหนังสือมาหรอก กลุ่มปัญหาคือกลุ่มที่ไม่รู้ความต้องการตัวเอง กลุ่มนี้แหละที่เจ้าของกระทู้ถามถึง เขาไม่เข้าใจในคุณค่าของสินค้าคุณ(ไอเดีย) เขาก็ต้องถามอยู่แล้วคุณก๊อปหนังสือมาทำให้เขาทำไมต้องจ่ายเงิน แน่นอนถ้าคุณอยากบริการลูกค้าพวกนี้คุณเองมีหน้าที่ ที่จะอธิบายและคุณค่าของงานของคุณและสร้างความต้องการ ถ้าทำสำเร็จมันไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่จ่ายเงินคุณค่าออกแบบ เพราะนั้นคือสินค้าที่เขาพอใจ ส่วนตัว การออกแบบเป็นเรื่องของจิตนาการไม่แปลกหรอกที่คนบางกลุ่มจะคิดแบบนี้เพราะมันเป็นสิ่งของที่จับต้องไม่ได้ คนเขาต้องมีข้อสงสัยเป็นเรื่องธรรมดา นั้นคือหน้าที่คุณที่ต้องจัดการเรื่องแบบนี้ ถ้าคุณวาดฝันถูกใจคนจ้างจะฟันเละขนาดไหนเขาก็ไม่เกี่ยงหรอก (มูลค่าสินค้าในใจลูกค้ามากกว่าราคาสินค้า) ผมหวังว่าจะเป็นคำตอบที่ใช้ได้นะครับ ถ้าผิดยังไงก็ขออภัย จากคุณ : กิมจิ - [ 21 เม.ย. 52 00:05:57 A:58.64.75.132 X: TicketID:178464 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณคุณกิมจิค่ะ ที่ให้ข้อมูลในอีกแง่มุมนึง ที่แตกต่างออกมา รับฟังทุกประเด็นค่ะ จากคุณ : นนนี่มาแล้ว - [ 21 เม.ย. 52 00:11:37 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เพราะคนทั่วๆไปที่คุณเจอ  อาจจะคิดว่างานออกแบบไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างครับ การออกแบบเป็นแค่ส่วนประกอบหนึ่งของบ้านเท่านั้น  คือ เค้าอาจจะมองที่ esthetic หรือความงาม น้อยกว่าที่คุณจขกท คิดครับ บางคนอาจจะต้องการแค่ function ซึ่ง แค่fuction การใช้งาน ไม่ต้องการความงาม หรือสวยแบบที่เค้าต้องการ ไม่จำเป็นต้องให้สถาปนิกออกแบบครับ  ให้ผู้รับเหมา หรือวิศวกร หรือเจ้าของบ้านก็ทำเองได้ครับ แต่ได้ดีหรือเปล่าอันนี้ผมไม่ทราบครับ แต่สุดท้ายเจ้าของบ้านเค้าพอใจ ก็ตอบความต้องการและความพอใจของเจ้าของบ้านได้ครับ อันนี้ต้องเข้าใจเค้าครับ ไม่ใช่เรื่องผิดครับ อย่าลืมว่ารสนิยมของคนเรามันไม่เหมือนกันครับ สถาปนิกหรือผู้ออกแบบส่วนใหญ่ ถ้าเข้าไปคุยกับลูกค่าที่มีแนวความคิดแบบนี้ ส่วนใหญ่เค้าจะไม่รับงานครับ เพราะรู้ว่าต่อไปจะต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้าง  แต่ผมอยากบอกว่ายังมีคนที่เห็นความสำคัญของสถาปนิกและผู้ออกแบบอีกมากครับ  ที่คุณเจอเป็นแค่ส่วนหนึ่งครับ ยังมีคนที่ให้ความสำคัญกับผู้ออกแบบอีกมากๆๆๆ ครับ  เจ้าของบ้านบางคนสร้างบ้านใหม่ จัดประกวดแบบ ของบริษัทสถาปนิกหลายๆเจ้ายังมีเลยครับ จากคุณ : landon - [ 21 เม.ย. 52 00:58:44 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คนเฮงซวยเห็นแก่ตัวคิดครับ จากคุณ : วี - [ 21 เม.ย. 52 03:12:17 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ให้วิชาชีพผมเถอะ... จากคุณ : Muyan - [ 21 เม.ย. 52 03:44:52 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 เม.ย. 52 07:12:26 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คำถามแบบจขกท จะไม่เกิดขึ้นกับ สถาปนิกที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะแน่นอน สถาปนิก อินทีเรีย ทำงานบนกระดาษที่ถ่ายทอดความคิดลงบนแผ่นกระดาษ ถ้าผมเป็นลูกค้าที่จะสร้างอะไรซักอย่าง แล้วต้องจ่ายเงินเพื่อที่จะได้มาซึ่งแผ่นกระดาษเหล่านี้ ในราคาหลักแสน ผมคงจะต้องคิดหนักแล้วล่ะ ในเรื่องแบบนี้ หากว่าคุณเป็นสถาปนิกมีชื่อเสียง ผ่านประสบการณ์มามาก มีผลงานให้เห็นชัดเจน ลูกค้าโดยส่วนใหญ่ที่เขาจะสร้างอะไรซักอย่าง และเขาต้องการหาสถาปนิกซักคนมาออกแบบให้ และบังเอิญว่าชอบผลงานของสถาปนิกคนนี้ เรื่องนี้ ผมว่าเขายินดีจ่ายครับ เพราะลูกค้ามีความเชื่อมั่นกับตัวสถาปนิก    ซึ่งสถาปนิกเหล่านี้ ส่วนใหญ่อีโก้แรงพอสมควรนะครับ คุณอยากได้งานสไตล์ที่เขาออกแบบ คุณลูกค้าก็ต้องยอมรับไว้เลยตรงนั้นว่า คุณจะไม่ได้งานที่คุณต้องการ 100% หรอก 85% มาจากสไตล์ของตัวสถาปนิกเอง อีก 15% มาจากที่คุณออกความเห็น    การสั่งสมประสบการณ์จนสังคมยอมรับไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายเลย แม้คุณจะมีฝีมือแค่ไหน แต่ถ้าคุณไม่มีเวทีโอกาสแสดงฝีมือ มันก็ไม่มีใครเห็น และจะอยู่แต่ตัวคุณต่อไป           สถาปนิกบางคนยอมลงทุนกระทั่ง ทำแบบฟรีๆ เพื่อที่จะให้ตัวเองมีผลงานออกมาสู่สาธารณะ การมีผลงานที่ได้สร้างจริงๆออกมา มันทำให้กลุ่มลูกค้า หรือคนที่สนใจที่จะสร้างอาคารได้เห็น และเป็นผลงานว่า เออ สถาปนิกคนนี้สร้างได้จริงๆ สวยด้วย ไม่ใช่ว่าอยู่แต่ในกระดาษเท่านั้น        แต่ด้วยสังคมแบบปัจจุบัน ถ้าคุณพื้นฐานรวย มีเงินเหลือเฟือไปทั้งชาติ คงไม่ต้องมานั่งง้อค่าแบบ อยากมีผลงาน ก็ออกแบบให้ฟรีๆไปเลย เพื่อสร้างผลงาน แต่นี่ สถาปนิกแทบจะร้อยละ 80 คือคนที่หากินกันเป็นเดือนๆ จะให้มาออกแบบให้ฟรีกันทุกคน สงสัยคงต้องไปขายประกันหรือทำอย่างอื่นเสริมแน่ๆ       หากว่าคุณเป็นสถาปนิกโนเนม ....... คุณก็ต้องเริ่มจาก 0 จนก้าวขึ้นไปเป็นสถาปนิกที่มีผลงานมาแล้วมากมาย และสังคมยอมรับ ทุกคนเขาก็เริ่มจากตรงนี้ทั้งนั้นล่ะครับ      ผมเคยออกแบบบ้านไว้ที่หนึ่ง ตอนนั้นเจ้าของบ้านตกลงค่าแบบกับผมไม่ได้ เพราะเขามองว่าผมคิดแพง อิอิ และเขาก็เคยบอกว่า งานบนแผ่นกระดาษจริงๆไม่ต้องใช้สถาปนิกหรอก แค่อยากจะลองมาดูเท่านั้นเองว่าเป็นยังไง เรื่องบ้านเขาคิดเองก็ได้ เค้าพูดหลังจากที่เขาเอางานออกแบบของผม ไปอยู่ในอีเมลล์เรียบร้อยแล้ว .... ผมไม่รู้ว่าเขาเอาแบบของผมไปสร้าง หรือว่าเขาเอาไปดัดแปลงแล้วไปจ้างใครเขียนอีก แต่วงการนี้มันแคบ ผมได้ข่าวมาว่า ลูกค้าคนนี้โดนผู้รับเหมาฟันไปบานเหมือนกัน ด้วยความที่แบบและความไม่เข้าใจแบบของตัวลูกค้า สร้างออกมาไม่ตรงตามที่เข้าใจ รื้อ รื้อ .... จนสุดท้าย ผมคิดว่าไอ้ที่รื้อไป มันแพงกว่าค่าจ้างที่ให้ผมออกแบบซะอีก มันเป็นเรื่องแปลกของมนุษย์น่ะ บางเรื่อง เรื่องง่ายๆมักไม่ทำ ชอบทำเป็นเรื่องยากๆ หรือบางทีเจอเรื่องยากๆแล้วท้าทาย อะไรทำนองนั้น บอกตรงๆนะครับ อาชีพสถาปนิก ถ้าทำเต็มตัวจนกระทั่งงานเสร็จสมบูรณ์ทุกอย่าง มันเหนื่อยมากนะครับ ไม่ใช่อาชีพสบายเลย ไหนจะรับผิดชอบ ทำแบบ คุมงานให้ตรงตามแบบ ติดต่อวิศวกร คุยกับเจ้าของบ้าน รองรับอารมณ์เจ้าของบ้าน ทะเลาะกับช่างผู้รับเหมา ต้องไปเคลียร์ให้หากผู้รับเหมาทำแบบผิด งวดงานเบิกเงินทะเลาะกัน ก็สถาปนิกนี่แหละเป็นคนกลาง แต่เวลาจะจ่ายค่าแบบนี่คิดแล้วคิดอีก กดแล้วกดอีก หากคุณไม่มีฐานะมาก่อน บอกตรงๆ อาชีพนี้ รวยยากมากๆ หากคุณอยากให้ลูกค้าให้ความสำคัญกับสถาปนิก หรือ อินทีเรีย ดีไซน์ คุณคงจะต้องทำให้ตัวเองมีความน่าเชื่อถือก่อนล่ะครับ การสร้างประสบการณ์และผลงานนี่แหละสำคัญที่สุด ส่วนคุณ จขกท สู้ สู้ ครับ เศรษฐกิจแบบนี้ ภาวะแบบนี้ ค่อยๆประคองไป มันไม่ใช่แค่คุณ ทุกคนก็เป็นครับ ส่วนคุณลูกค้า  เศรษฐกิจแบบนี้ ภาวะแบบนี้ จะจ่ายอะไรทั้งที เขาก็ต้องคิดหนักเช่นกันครับ จากคุณ : Be the best - [ 21 เม.ย. 52 09:31:00 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ต้องถามคนที่มีความคิดแบบนี้ว่า.... ...ตอนเด็กๆ เคยโดนลอกการบ้านหรือเปล่า(หรือเคยแต่ขอกลอกอย่างเดียว) ...ตอนสอบ เคยอ่านหนังสือแทบเป็นแทบตาย แต่เพื่อนมาขอลอก แล้วได้คะแนนเท่าเราหรือเปล่า(หรือเคยแต่ลอกเค้า) ...ตอนทำงานกลุ่ม เคยหัวฟูทำอยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อนช่วย แต่สุดท้ายได้คะแนนเท่ากันทั้งกลุ่มหรือเปล่า(หรือคุณอยู่ฝั่งที่กินแรงเพื่อน) เรื่องแบบนี้มันเป็นต้นทุนทางความคิด มันจับต้องไม่ได้...แต่ถ้าไม่เจอกับตัวก่อน ก็ไม่เห็นค่าของมันหรอกครับ จากคุณ : จิงนะ - [ 21 เม.ย. 52 09:32:42 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คุณ นนนี่ ครับ     ผมคนหนึ่งนะที่พอเข้าใจในคำถามคุณ วิชาชีพ ก็ คือวิชาชีพ ครับ อดทนเรียนมาตั้ง 4-5 ปี ยังไม่รวมต่อโทอีก  (ผมให้ความสำคัญของแต่ละวิชาชีพครับ) ปล่อยวางเถอะครับ เพราะถ้าเขาอยู่ในวิชาชีพนั้นๆ เขาถึงจะรู้ความสำคัญ   แต่ถ้าเขาไม่ได้อยู่ เขาก็คงไม่รู้รายละเอียดหรอก และคิดว่าการลงทุนเพียงเพื่อให้ได้แบบ(กระดาษ) แพงไปบ้าง ถ้าใครคิดว่าเปิดหนังสือก็ทำได้ ก็ปล่อยเขาไปเถอะครับ ก็คงได้แค่แบบ ไม่ได้รายละเอียดปลีกย่อย (เยอะครับ ขอบอกเลยว่าเข้าใจเพื่อนๆเลยที่อยู่วงการสถาปนิก ไม่ว่าจะเป็นขนาดประตู หน้าต่าง บันได ความลาดชัน ความกว้าง ฯลฯ นี่ไม่รวมถึงไปทะเลาะกับผู้รับเหมาให้อีกในกรณีทำไม่ตรงสเปก แอบใช้วัสดุที่ไม่ตรงกับที่บอก ) ผมมองว่าถ้าเขารู้ว่า ว่าการสร้างบ้านเป็นอย่างไร เขาคงไม่ตะขิดตะขวงในการใช้บริการสถาปนิกหรอกครับ  (มันมากกว่าแค่กระดาษครับ) การเย็บแผลใครๆก็เย็บได้ แต่จะเย็บแผลให้ดีและสวย ต้องไปหาพยาบาลนะครับ  อิอิ จากคุณ : kuntucky - [ 21 เม.ย. 52 09:36:08 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ทุกๆความคิดเห็นนะค่ะ จะเอามาเป็นกำลังใจเเละปรับปรุงให้ดีขึ้นค่ะ จากคุณ : นนนี่มาแล้ว - [ 21 เม.ย. 52 09:54:56 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ทำอาชีพสถาปนิก..หรือมัณฑนากรต้องอดทน เป็นปกติที่จะต้องเจอลูกค้าแบบนี้บ้าง คงต้องอธิบายให้เข้าใจ อ่านความคิดเห็นข้างบน หลายอันเราก็เห็นด้วยนะ หลายอันเราก็ไม่เห็นด้วย แต่เดี๋ยวนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เข้าใจมากขึ้นนะ มันคงค่อยๆปรับกันไป ทั้งสองฝ่าย ...แปลกเนอะ เวลาไปหาหมอ ไม่เห็นมีใครต่อค่ายา ค่าผ่าตัดบ้างเลย บอกหมอ ว่ารู้อาการ รู้โรค แต่ DIY เองไม่ถนัด หมอคิดครึ่งราคาได้มั้ยคับ... ( ขำๆนะ ) จากคุณ : maikeedstudio 1 - [ 21 เม.ย. 52 10:48:11 A:202.183.211.197 X: TicketID:201188 ]

ความคิดเห็นที่ 32 มองว่า ขึ้นอยู่กับการมองคุณค่าของวิชาชีพค่ะ สำหรับคนที่มีสตางค์เยอะๆ ใครๆ ก็คงอยากจ้างสถาปนิก มันฑนากรมาช่วยเนรมิตให้ได้บ้านสวยสมใจ คนที่ไม่ได้จบทางนี้แล้วแต่งบ้านสวย ไม่ต้องใช้มัณฑนากร สถาปนิกมีค่ะ แต่น้อยหน่อย..... อยู่ที่รสนิยม  การทำการบ้าน ประสบการณ์ และการรู้จักคำว่าพอดี (ซึ่งการได้มา ก็ต้องมีต้นทุน เช่น ต้องซื้อหนังสือมาอ่าน  ต้องเสียเวลาไปเดินดูไอเดียใหม่ๆ  ต้องลองผิดลองถูก เป็นต้น) ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้....แค่มีบ้าน หลายๆ คนก็เหนื่อยแล้ว....ถ้าจะจ่ายเงินให้คนมาช่วยออกแบบ  คงต้องคิดมากๆ อาจจะต้องขอเก็บไว้ก่อน...เพราะบ้านไม่สวยก็ยังอยู่ได้ค่ะ ภาวะแบบนี้....เห็นใจนักขายไอเดียค่ะ....สู้ๆ นะคะ.... แต่ยังไงก็ฝากถึงคนที่ คิดว่า การออกแบบ คือการก็อปปี้มาเพสท์นะคะ...เพราะโดยส่วนตัว  ถึงจะก็อปปี้แต่นำมาใช้ผิดที่ผิดทาง มันก็ทำให้ภาพรวมออกมาผิดรูปผิดรอยค่ะ ดังนั้น...จึงเป็นเหตุผลที่โดยมากคนที่มีไอเดีย และเรียนมาทางด้านนี้โดยตรง มีประสบการณ์มากกว่า ทำการออกแบบได้ดีกว่าพวกเราๆ ที่ไม่มีประสบการณ์ค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 52 11:49:07 แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 52 11:47:27 จากคุณ : kwiswis - [ 21 เม.ย. 52 11:40:28 ]

ความคิดเห็นที่ 33 จ่ายไม่จ่าย ผมว่าอยู่ที่เจ้าของบ้านนะครับ ถ้าไม่อยากจ่ายก็อาจไปหาดูหรือขอที่ เขตดู หรือตามหนังสือ internet  แล้วนำมาประกอบเป็นบ้านที่เราต้องการ แต่ส่วนมากเวลาไปขอเขตหรือกู้แบงค์ ก็ต้องมีการเขียนแบบไปให้ดูเพื่อขออนุญาตอนุมัตินะครับถ้าขอเขต ก็สำเนาแบบขอได้เลย ก็ยังต้องเสียนะครับ แล้วสำหรับ บ้านที่จ้างออกแบบ ไม่เหมือนใคร แบบของเราเองเราก็ต้องจ้างเค้าเขียนให้นอกจากเราจบด้านนี้มานะครับ ลองสลับกันสิครับ ถ้าเป็นคนเขียนแบบ เองไปรับงานจากลูกค้ามา ว่าต้องการแบบนี้นะแบบนั้นนะ เรากลับมาเขียนเอาไปให้ดู ก็อาจมีการแก้บ้างไม่แก้บ้าง เราก็ต้องทำออกมาอีก ก็เหมือนอาชีพหนึ่งนะครับ ต้องกินต้องใช้ ขนาดผมไม่จบทางเขียนแบบ มามาลองศึกษาเขียนเอง เอาแค่ต่อเติมบ้านเล็กๆๆน้อยบางทีก็เหนื่อยนะครับ จ่ายไม่จ่ายผมว่าอยู่ว่าสมเหตุสมผลหรือเปล่าครับ จากคุณ : peengineer19/68 - [ 21 เม.ย. 52 11:47:44 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คงจะอีกนาน กว่าคนในสังคมไทยเรา จะเข้าใจอะไรๆในวิชาชีพนี้นะ - -" จากคุณ : nattabe - [ 21 เม.ย. 52 11:50:52 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สังเกตุหลายคนยังคิดว่า เข้ามาขอแบบในห้องชายคานี้ก็ได้ ไม่เปลือง หรือเห็นรูปบ้านในnetรูปเดียว ก็เอาไปให้ช่างสร้างได้แล้ว ซึ่งเข้าใจผิดอย่างมาก จากคุณ : เอ - [ 21 เม.ย. 52 12:47:35 A:124.121.238.76 X:203.144.143.2 TicketID:211659 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คห. 1 คำตอบสะท้อนอะไรเยอะครับ ขาดความเข้าใจด้วยครับ การเลียนแบบกับประสบการณ์ตรง หรืออ้อมต่างกันอย่างไรครับ ในโลกนี้ อะไรที่เป็นออริจินัลคงหายาก ส่วนใหญ่เป็นการ ต่อยอด ต่อประสบการณ์ แบ่งปันประสบการณ์ หรือการคิดนอกกรอบไปโน่น สมควรจ่ายเมื่อเห็นว่า มันมีมูลค่าเพิ่ม ิ่ คำตอบของผม คือ หนึ่่ง เราเติบโตในสังคมสมัยใหม่ที่เน้นการรับ ไม่ส่งเสริมการคิด เราชอบของเลียนแบบทุกชนิด ของก็อปทุกประเภท เราคิดแต่ว่าจะเอามาได้อย่างไร ง่ายที่สุด ถูกที่สุด สอง บ้านเราคนยังไม่คุ้นเคยเรื่องค่าความคิด เตรียมงบ เตรียมแต่ค่าแรงกับวัสดุ คนที่ทำงานเป็นที่ปรึกษา หรือใช้ที่ปรึกษาจะคุ้นเคยกับค่าธรรมเนียม หรือค่าฟี กระทู้ที่จะตามมา คือ ทำไมคิดแพงขนาดไหน คิดจากอะไร โฮ๋ๆ จากคุณ : Double07 - [ 21 เม.ย. 52 12:48:45 ]

ความคิดเห็นที่ 37 นั่นสินะ ตำแหน่งเช่น ที่ปรึกษาคือขายประสบการณ์เหมือนกัน กำหนดด้วยอะไร แม้กระทั่งทนายความแค่ปรึกษาด้วยวาจาต้องจ่ายแล้ว แต่งานออกแบบกลับคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรจ่าย ขอบคุณในทุกความเห็นค่ะ จากคุณ : นนนี่มาแล้ว - [ 21 เม.ย. 52 13:09:10 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมขอแสดงความคิดเห็น แบบคนที่จ้างทำ ตกแต่งภายในครับ ก่อนที่ตกแต่งภายใน ซึ่งตอนนั้นผมอยู่ต่างประเทศไม่ได้เข้ามาคุมงานด้วยตัวเอง คุณพ่อก็จ้างสถาปนิกครับ ด้วยความไม่ค่อยรู้เรื่องก็ตามๆสถาปนิกไป ตอนหลังก็มาบ่นว่า ทำไมต้องคิดค่าออกแบบด้วย ทั้งๆที่คิดเงินค่าดูแลงานอยู่แล้ว (ทางสถาปนิกคิดค่าดูแลตาม % มูลค่าก่อสร้าง) ผมว่านี่แหละคือปัญหา ผมไม่รู้หรอกนะว่าสถาปนิกคนอื่นๆเขาคิดเงินกันอย่างนี้เปล่า คุณพ่อว่าเป็นการคิดเงินซ้ำซ้อน ซึ่งผมเข้าใจนะถ้าเอาแบบไปแล้วไม่ทำกับสถาปนิกคนนั้น สถาปนิกก็ซวย แต่ถ้าทำด้วย เงินที่ถูกเก็บก็ดูเหมือนซ้ำซ้อนกัน ผมว่าจุดนี้เป็นจุดที่ทำให้คนไม่รู้สึกพอใจด้วยจุดหนึ่ง (ขอไม่บอกว่าใครถูกผิดนะ เพราะมันไม่มีครับ พอใจก็ทำ ไม่พอใจก็ไม่ทำ) ----------------------------------------------------------------------- ที่อ่านมาสงสัยคนที่บอกว่าไม่เข้าใจวิชาชีพนี้ ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผมจะจ้างคนตกแต่งบ้านแล้วต้องเข้าใจคนจบวิชาชีพนี้ ถ้าผมจ้างสถาปนิกผมต้องประเคนเงินให้เลยเหรอครับ มันไม่มีในโลกหรอกครับ คุณลองมาขายของซิครับ มันเลวร้ายกว่านี้อีก ผมว่าทางสถาปนิกเองก็ต้องเจรจาผลประโยชน์ตัวเองถ้าไม่พอใจก็ทางใครทางมัน ผมมองมันเป็นธุรกิจครับ ไม่ได้จ้างสถาปานิกมาเป็นเพื่อนคู่คิด สร้างบ้าน จากคุณ : กิมจิ - [ 21 เม.ย. 52 15:00:07 A:58.64.74.4 X: TicketID:178464 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อืม งานขายฝัน นั่นสิน๊ะ ขอบคุณทุกความเห็นค่า ต้องขอโทษคุณกิมจินะค่ะ  ถ้าทำให้รู้สึกไม่ดี จขกท. ไม่ได้มุ่งหวังว่าต้องเข้าใจหรือทำตามที่เรียกร้องใดๆค่ะ จุดมุ่งหมายแค่อยากรับรู้ความเห็นของลูกค้าในวิชาชีพนี้เท่านั้นค่ะ จริงๆก็เข้าใจน่ะค่ะ บางทีอะไรมันเซฟได้ก็เซฟ  แต่ก็คิดว่าลองตั้งกระทูดูเผื่อได้เหตุผลที่แตกต่างจากที่เจอมาน่ะค่ะ ใจเย็นๆนะค่ะ จากคุณ : นนนี่มาแล้ว - [ 21 เม.ย. 52 15:24:41 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ถามผิดหรือเปล่าครับ.. ระหว่างสถาปนิกกับมัณฑนากร..  ผมให้ความสำคัญต่างกัน ระดับ0กับ100.. อย่างสถาปนิกเนี่ย  บ้านผมต้องใช้สถาปนิกออกแบบแน่นอนอยู่แล้ว  เวลาคุณสร้างต้องมีคนเซ็นแบบ มีวิศวกรเซ็น อะไรต่อมิอะไรเยอะแยะไปหมด  ไม่มีทางที่คนธรรมดาๆ จะมาออกแบบบ้านกันแน่นอนอยู่แล้ว  และทุกคนต้องจ่ายส่วนนี้แน่นอนเหมือนกันหมด คิดว่าคำถามของคุณ  น่าจะเป็นส่วนของพวกเด็กเด็คมากกว่ามั๊ง..  ส่วนนี้น่าจะเป็นส่วนที่คนส่วนใหญ่  ไม่ให้ความสนใจกัน  ในความหมายคือ  ถ้าจะจ้างคนมาทำบิวท์ครัว บิวท์ห้องนั่งเล่น  ส่วนใหญ่ก็จะไปเรียกช่างบิวท์มาคุยเลย  ว่าจะทำอะไรตรงนั้นตรงนี้  หรือบางรายที่ออกแบบ ก็ตีราคามาเลยว่า งานนี้ทำห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ทั้งหมดราคาเท่าไหร่  งานเสร็จภายในกี่วัน..  ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใคร จ้างคนมาออกแบบตกแต่งภายในหนึ่งคน  แล้วก็ผู้รับเหมาอีกหลายๆรายหรอกครับ  มันยุ่งยาก..  คือชาวบ้านชาวช่องทั่วไป  ก็คงคิดประมาณว่า  เรียกอินทีเรียมาดูบ้านสิ  ทำห้องทั้งหมดกี่ห้องว่ากันไป  ทำประมาณไหนบ้าง  คุยกันให้เรียบร้อย แล้วก็ตีราคามา..  แล้วก็ไปทำให้มันเรียบร้อยแค่นั้นแหละ  ไม่มีเวลาจะมาคุมช่างเอง ทำอะไรเองหมดหรอก.. ผมคิดว่าพวกออกแบบตกแต่งภายใน  มันหากินยากกว่าสถาปนิกนะครับ  ส่วนใหญ่ตอนนี้เลยออกมาเป็นผู้รับเหมาซะหมด  ถ้าออกแบบอย่างเดียวผมว่ากินยากน่ะครับ... ปล.ทั้งหมดนี้ผมเขียนตามที่ผมคิดน่ะครับ  อาจจะไม่ได้เหมือนที่ทุกๆคนคิดก็ได้  ต้องขออภัยหากไม่ถูกใจใครนะครับ จากคุณ : nai_aoum - [ 21 เม.ย. 52 15:42:49 ]

ความคิดเห็นที่ 41 จากคุณ : นนนี่มาแล้ว - [ 21 เม.ย. 52 15:49:14 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อืมอ่านแล้ว ส่วนตัวคิดว่า ถ้ามีเงินก็อยากจะจ้างเขาเหมือนกันค่ะ เพราะรู้สึกว่าบางทีมันอาจจะมีอะไรใหม่ๆ เก๋ๆ อีกเยอะที่เราไม่รู้ เท่าที่เคยเห็นมา แม่ไม่เคยจ้างมัณฑนกรเลยค่ะ มีแต่จ้างสถาปนิกเขียนแบบบ้านตอนสร้างบ้านครั้งแรก แต่ตอนนี้ต่อเติมมาเรื่อยๆ เจ๊แกก็คิดเองทุกอย่าง เลยลองถามแม่...ผู้ออกเงินสร้างตัวจริงดู ได้คำตอบว่า มีเงินก็ทำไปเรื่อยๆ ไม่ได้ทำเป็นเงินก้อนใหญ่ๆ แบบต่อเติม ตกแต่งไปเรื่อยๆ และคิดว่าตัวเองหัวศิลป์เหมือนกัน...เลยยึดไอเดียตน(เป็นใหญ่ - อันนี้แอบเติมเองค่ะ) จากคุณ : SoDaYeN - [ 21 เม.ย. 52 17:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ที่ผมแสดงความคิดเห็นเป็นส่วนของ มัณฑนากร นะครับ แบบขี้เกียจพิมพ์ เลยพิมพ์สถาปนิกไป ส่วนเจ้าของกระทู้ผมไม่ได้ มีเจตนาว่าอะไรนะครับ แค่อยากบอกว่าเรื่องการสื่อสาร เป็นเรื่องสำคัญ เพราะคนเราเกิดมาต่อพ่อต่างแม่ มีความเข้าใจไม่เหมือนกัน เท่านั้นเอง จากคุณ : กิมจิ - [ 21 เม.ย. 52 21:06:43 A:58.64.74.4 X: TicketID:178464 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ของทุกอย่างมันก็ต้องมีราคาของมันนะครับ ไม่ว่าจะหยาดเหงื่อ หรือรอยหยักสมอง ถ้าไม่คิดอย่างงี้ เวลาร้องไห้ มันจะไม่ซึ้งนะครับ เพราะน้ำตามันก็มีราคาเหมือนกัน (เกี่ยวมั้ย เกี่ยวมะ เกี่ยวปะ) จากคุณ : แฟรงก์ รอย ไรท์ (pp_ping) - [ 21 เม.ย. 52 23:17:14 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คริ คริ เกี่ยวค่ะเกี่ยว จากคุณ : นนนี่มาแล้ว - [ 21 เม.ย. 52 23:44:38 ]

ความคิดเห็นที่ 46 สำหรับเรา...จ้างสถาปนิกเพื่อมาทำเอกสารให้ผู้รับเหมาสร้างตาม แต่แบบบ้านเราคิดเอง หามาเอง สถาปนิกมีหน้าที่ดูว่าจะเอาไปเรียงยังไงให้ fit กับที่ดิน และให้ออกมาแล้วผู้รับเหมาเข้าใจ  เราเต็มใจจ่ายค่าออกแบบ คิดมาเป็นเปอร์เซนต์เท่าไหร่ก็จ่ายให้เท่านั้น แต่ไม่ประทับใจเลย ในสัญญาบอกว่า ราคานี้นอกจากออกแบบแล้ว ยังมีแค่แก้แบบหน้างานให้อีกหากมีปัญหา และยังติดตามดูงานให้จนจบ โดยเข้ามาหน้างานเดือนละ 2 ครั้ง แต่หากจะให้เข้ามาถี่กว่านั้น คิดเพิ่มเป็นรายเดือน เดือนละ 6 พันบาท เราก็ด้วยความกลัว เลยยอมจ่ายเพิ่มให้ดูแลอย่าง priviledge แต่จ่ายไป 12 เดือน เดือนละ 6 พันนี่ ไม่คุ้มเลย เพราะ 4 เดือนแรก ยังไม่ได้เริ่มงานจริง แต่เราจ่ายไปก่อนแล้ว เนื่องจากมันต่อเนื่องจากการจ่ายค่าแบบมา ก็เลยไม่ซีเรียส คิดว่าเค้าจะดูแลต่อให้อย่างดี พอครบ 12 เดือน เราประเมินว่า เค้าก็เข้ามาเดือนละ 2 ครั้งเท่ากับที่ต้องทำตามสัญญา ไม่เกี่ยวกะ 6 พันหลังนี่ แถมหลังๆ มีปัญหา เรียกเข้ามายังไม่ค่อยจะมาด้วย หน้างานสร้างไม่ได้เพราะแบบไม่เคลียร์ อีก็ไม่แก้ให้ด้วย กับเถียงว่าทำไมเจ้าอื่นสร้างได้ (แต่เราดูแล้ว มันก็สร้างไม่ได้จริงๆแหละ เพราะแบบขยายไม่มี) สรุป เราต้องไปจ้างสถาปนิกคนใหม่มาออกแบบเพิ่ม แล้วพอเข้าเดือนที่ 13 เราหยุดจ่าย จากนั้นเค้าก็หายไปไม่โผล่มาอีกเลย ทั้งๆที่หน้างานที่กำหนดไว้ 14 เดือนก็ยังไม่เสร็จ ตามสัญญาต้องเข้ามาดูเดือนละ 2 ครั้ง ก็เป็นอันหายจ้อย ส่วนที่บอกว่า...สถาปนิกจะช่วยคุมงบประมาณ ช่วยเลือกซื้อของ จากประสบการณ์ของเราก็ไม่ประทับใจอีก เพราะ 1. เค้าจะช่วยให้เราใช้แต่ของแพง...เพราะเค้ารู้จักแต่ sales ยี่ห้อแพงๆ หากใช้ของไม่แพง เค้าจะออกแนวดูถูกทันที 2. เค้าไม่ช่วยเราซื้อของ อย่างเราจะหาหน้าต่างแบบนี้ อีก็ไปจัดอะไรมาก็ไม่รู้ พอเราไปหามาได้ อีก็ว่า...เออ เจ้านี้อีก็รู้จัก (แต่ทำไมไม่แนะนำแต่แรกวะ) 3. เค้าไม่เข้าใจ style การแต่งบ้านที่เราต้องการ ทั้งๆที่ brief แล้ว หนังสือตัวอย่าง ภาพจากเน็ตต่างๆ ก็หามาให้ดูตลอด จัดมาแต่ละอย่าง...ไม่เข้าท่าเลย 4. หลายอย่างก็ไม่ practical เช่น แบบที่ทำมีกันสาดยื่นออกมาราว 1.5 ม. มีผลให้ชั้นบนมีระเบียงกว้างมาก แต่อีดันจะกั้นกำแพงตรงนั้นซะ ไม่ให้เปิดออกได้ ดีที่ไหวตัวทัน ให้ผู้รับเหมาแก้เป็นประตูเลื่อนซะก่อน ทุกวันนี้เลยออกไปชิวๆที่ระเบียงใหญ่นี้ได้ เป็นทิศลมเข้าอีกต่างหาก ขืนออกระเบียงไม่ได้ อึดอัดตายโหง... แล้วด้วยความที่เค้าคงอ่อนประสบการณ์ แต่ ego จัดเหลือหลาย แทบจะต่อยกับผู้รับเหมาทุกครั้งที่คุยงานกัน ทั้งๆที่ผู้รับเหมาเก๋ากว่ามาก แรกๆเราก็เข้าข้างสถาปนิกเพราะเหมือนจะคุยกันมาก่อน แต่หลังๆ พอมาอ่านๆกระทู้เรื่องรายละเอียดการสร้างบ้านในชายคานี่ ก็รู้เลยว่า ผู้รับเหมาแนะนำถูก และสถาปนิกมั่วถั่ว สรุปแล้วคือ ใครจะเห็นยังไงก็ช่าง แต่อิฉันไม่ประทับใจการจ้างสถาปนิกเลยค่ะ แต่อย่างไรก็ดี หากถามว่ายินดีจ่ายเงินไม๊  ...ยินดีค่ะ เพราะเป็นค่างานวิชาชีพ อันนี้ใครไม่จ่ายก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถือเป็นหน้าที่และมารยาท เพียงแต่เราคงซวย ได้คนที่ไม่ค่อย work แค่นั้นเอง ..จบไป จากคุณ : นิ่นของจี๊ด - [ 22 เม.ย. 52 14:18:31 ]

ความคิดเห็นที่ 47 คิดว่าที่คนไม่อยากจ่ายเพราะคิดว่า เปิดหนังสือเอา เเล้วก้อปมาเอาไปคุยกับผู้รับเหมาได้เลยว่า เอาแบบนี้ แต่ลืมไปว่าภาพที่เราเห็นในหัวกับภาพที่ผุ้รับเหมาเข้าใจอาจไม่ตรงกัน บางคนคิดว่าไม่เห้นจะยากแค่สร้างตึกสี่เหลี่ยมเจาะหน้าต่าง ใส่ประตูเข้าไป ก้เป็นบ้านเเล้ว ไม่ต้องเสียเงิน ตั้งหลายตังค์ ส่วนดิฉัน ดิฉันยอมจ่ายสถาปนิกให้มาออกแบบ เพราะดิซื้อบ้านทาวน์เฮ้าส์ โทรมมากมาสองหลังติดกัน ลำพังแค่ทะลุกำเเพงต่อกัน บ้านนี้จะต้องดูน่าเกลียด ไม่น่าอยู่อย่างที่มันเป็นมา ดิฉันว่าสถาปนิกช่วยได้มาก เปลี่ยนประตุหน้าต่าง วางผังห้องใหม่ จัดเนื้อที่ประโยชน์ใช้สอยให้ดีขึ้น เวลาห้าปีที่เขาเรียนมา มันจะต้องช่วยดิฉันได้ อย่างน้อยดีกว่าดิฉันมานั่งคิดเอง อย่าคิดนะคะว่าดิฉันมีเงินถุงเงินถัง งบต่อเติมเเปลงโฉมของดิฉัน มีเเค่ แปดแสน สิบเปอรืเว้นตืนั้นดิฉันจ่ายสถาปนิกมาให้เขียนแบบ ออกไอเดีย จากคุณ : mrs.night owl - [ 22 เม.ย. 52 15:09:55 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขำๆแล้วกัน ตอนเด็กๆ พ่อแม่ นิยมให้ลูกเรียน เปียโน ว่ายน้ำ ------ศิลปะ เอาไว้ทีหลัง โตมาหน่อย มัธยม เลือกเรียน สายวิทย์ ดีมั้ยค่ะลูก-----ศิลปะ เอาไว้ทีหลัง เอ็นทรานส์ เลือกเรียน วิศวะ หมอ ก่อน------------ศิลปะ เอาไว้ทีหลัง ข้างบนนี่เขียนเอาขำๆนะ ไม่ใช่ประเด็น จขกข ตั้งคำถามว่า ทำไมคนถึงคิดกันว่างานออกแบบ เป็นราคาที่ไม่ควรจะจ่าย ตามความเป็นจริง บ้านเราไม่ได้ถูกฝึกฝนมาให้เข้าใจกระบวนการการคิดแบบมีเหตุผลและจินตนาการ คือ ถนัดอยู่กับความเป็นจริง เล่นจริง เจ็บจริง ทำแบบนี้ ต้องได้แบบนี้ ไอ้ประเภท เข้า กาลารี่ ดูภาพเขียน อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ ฟังเพลงหลายๆแนว มันไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ เรื่องพวกนี้คือเรื่องไกลตัวทั้งสิน ไอ้อาคารก่ออิฐถือปูนในบ้านเราก็มาพัฒนาได้ไม่กี่สิบปี ในความคิดผม "บ้านเรามีปัญหาเรื่องรสนิยม" ขับ benz แปลว่ารวย บ้านหินอ่อน แปลว่าแพง หรู คือมันข้างนอกสุขใสแจ่ข้างในเป็นโพรง บ้านราคาหลังนึงมันแพง หาเงินมาก็ยาก อะไรที่ตัดค่าใช้จ่ายได้หลายคนก็เลือกจะตัด ต้องคอยแบงค์ ต้องห่วงเรื่องดอกเบี้ย ราคาวัสดุ สารพัด คนที่คิดคล้ายๆแบบนี้ ส่วนมาก เป้าประสงค์ คือ ต้องการบ้านซักหลัง ที่โอเค อยู่ได้มีความสุข โดยมากจะเลือกบ้านโครงการ ที่พอเหมาะกับตัวเอง ดังนั้นกลุมนี้จะไม่ค่อยเรียกใช้สถาปนิกมากนัก บางคนหาเงินมาได้มากหน่อย อยากจ่ายเพื่อกำไรชีวิต ต้องการบ้านที่ดี ออกแบบดี วัสดุที่ดี รู้ค่าของเงิน รู้ว่าจะใช้เงินยังไง จ่ายเพื่ออะไร คนส่วนนี้ จะเรียกหาสถาปนิก อินทีเรีย สองกลุ่มบนไม่ค่อยมีปัญหาหรอก โดยมากก็ได้บ้านอย่างที่ต้องการแหละ จะมีปัญหาก็คนกลุ่มที่ ไม่รู้ความต้องการที่แท้จริงของตนเองมากกว่า ว่าควรจะจ่ายอะไร ให้ใคร เท่าไหร่ สงสัย แต่ไม่ค้นคว้า ศึกษา แต่ไม่เข้าใจ  บวกกับ ไลฟ์สไตล์เซฟๆ ซื้อเปียโนฟอร์เต้ ราคาหลักครึ่งแสนได้ แต่จ่ายค่าแบบเป็นงวด นักออกแบบต้องลุ้นเอา ปล  ขอชมนิดนึง สถาปนิกในเมืองไทยเนี่ยนะครับ โครตอยู่กับความเป็นจริงที่สุดแล้ว จากคุณ : ปล่อยเธออยู่คู่โลก - [ 22 เม.ย. 52 20:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อืม หลากหลายความคิดดีค่ะ ขอบคุณทุกประเด็นเลยค่ะ จากคุณ : นนนี่มาแล้ว - [ 22 เม.ย. 52 21:44:16 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เราก็เป็นมัณฑนากรคนนึงค่ะ แม้จะเป็นรุ่นเล็กไม่ได้รับงานมากมายอะไรก็เถอะ ว่ากันด้วยเรื่องค่าแบบลูกค้าบางท่านก็แสนดีจริงๆพอแบบเสร็จก็ให้ค่าจ้างค่าดำเนินการ ถึงแม้จะช้าหรือว่าไม่มากมายอะไร(เราก็ดีใจที่เค้าเห็นความสำคัญของวิชาชีพเรา) แต่การที่ลูกค้าบางท่านไม่อยากจ่ายค่าแบบ เค้าอาจจะคิดว่างานแบบมันไม่เป็นรูปธรรมอะไรก็เป็นแค่กระดาษ ขีดๆเขียนๆหรืออาจจะเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทำแปปๆก็คงเสร็จและ แต่ถ้าท่านผู้เป็นเจ้าของบ้านหรือกำลังคิดจะเรียกใช้บริการนักออกแบบได้ผ่านเข้ามาอ่าน เราอยากจะชี้แจงให้เห้นว่า 1.วิชาชีพนี้ใช้เวลาเรียนกันมาหลายปี หรือบางคนมาจากสายอาชีพหรือต่อปริญญาโท บางทีระยะเวลาอาจจะมากกว่าหรือพอๆกับเรียนแพทย์ด้วยซ้ำไป ครอบครัวหมดค่าใช้จ่ายค่าอุปกรณ์ ค่าหน่วยกิจ ค่าทัศนะศึกษา ค่าหนังสือตามหลักสูตร ค่าเรียนโปรแกรมในการทำงานต่างๆและอื่นๆอีกมากมาย.....หรือมากไปกว่านั้นบางคนรับจ็อบเขียนแบบส่งตัวเองเรียน(หรือเรียกว่ามีประสปการณ์ทำงานตั้งแต่ยังเรียนอยู่) ดูแล้วค่อนข้างเหนื่อยนักหนา 2.แต่ถ้าคิดว่าเราสักแต่ว่าลอกๆมาจากหนังสือ แล้วมันใช้ความคิดตรงไหน..........??? เราเชื่อว่านักออกแบบชื่อดังอย่างฟิลลิป สตัทหรือบาบาร่า แบรี่ ก็คงต้องอ่านหนังสือมาก่อนเหมือนกัน อ่านเพื่อหาdetail อ่านเพื่อหาแนวทาง อ่านเพื่อความสุขในการเสพย์งานทางสายตาชิ้นนั้นๆ คงไม่มีใครยกงานทั้งหมดจากหนังสือไปใช้หรอกค่ะ แปลนบ้านคุณกะบ้านในหนังสือมันก็ต่างกันแล้ว การเชื่อมต่อพื้นที่และการจัดวางจะเหมือนกันหมดได้อย่างไร อีกทั้งอุปนิสัยความพอใจของคุณและครอบครัวกะเจ้าของบ้านในหนังสือมันก็คนละคนกันด้วย 3.กรุณาอย่ามองงานเราเป็นแค่กระดาษเลย อันนี้มาจากเหตุผลข้อ1และ2 แม้ยุคสมัยวิวัฒนาการงานเขียนแบบออกแบบจะล่ำหน้าขึ้นแต่มันก็นำมาวึ่งรายจ่ายในการนำเสนองานที่ เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน นักออกแบบรุ่นใหญ่บางท่าน ทั้งในรูปแบบบริษัทและรูปแบบอิสระก็มักจะจ้างงาน นักเขียนโปรแกรม 3d,auto cad เพื่อให้ได้งานที่ออกมาเป็นรูปลักษณ์ที่ชัดเจนขึ้น ...นักออกแบบพรีเซนต์ง่ายขึ้น เจ้าของบ้านก็ดูง่ายขึ้น มีประโยชน์แม้กระทั้งกับผู้รับเหมาเวลาประกอบชิ้นงานเลยทีเดียว ซึ่งการจ้างงานประเภทนี้ล้วนเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้อง support ของผู้ออกแบบทั้งสิ้น ที่อธิบายมานี้ไม่ได้จะต่อว่าหรือยุยงให้เกิดการไม่พอใจกันนะคะ แค่อยากให้เข้าใจเท่านั้นเอง ก่อนที่หลายๆคนในวิชาชีพนี้จะหมดกำลังใจหมดไฟในการทำงานไปซะก่อน ยิ่งถ้าพื้นฐานครอบครัวไม่ได้ร่ำรวยด้วยต้องกินต้องใช้ทั้งกับส่วนตัวและงานต่อๆไป เราว่านักออกแบบที่ดีก็อยากดูแลให้งานออกมาดีๆ ลูกค้าพอใจอยู่แล้วค่ะ จากคุณ : ชั้นมาทำอะไรที่นี่ - [ 23 เม.ย. 52 11:54:59 A:124.121.75.217 X: TicketID:213285 ]

ความคิดเห็นที่ 51 โอ้ มีน้องๆมาแสดงความเห็นด้วย ขอบคุณค้า จากคุณ : นนนี่มาแล้ว - [ 23 เม.ย. 52 15:56:04 ]

ความคิดเห็นที่ 52 จำได้ว่าตอนจะสร้างบ้านหลังแรก 50 ตรว. พ่อเราไปให้เพื่อนสถาปนิกดูให้ค่ะ แต่เค้าว่าพื้นที่น้อย ไม่ต้องจ้างหรอก เค้ามีแบบในบ้าน เลือกไปได้เลยฟรี พอสร้างเสร็จ จะไปจ้างอินทีเรีย เค้าก็บอกเปิดหนังสือเองดีกว่าพื้นที่นิดเดียว (สารภาพว่าฟังตอนรก โค-ดโกรธ 2 คนนี้เลย) ..... เราว่าส่วนนึง สถาปนิก-อินทีเรียไม่ค่อยสนใจบ้านหลังเล็กๆด้วยมั้งคะ หวังจะรับงานใหญ่ๆ ไม่ก็เป็นบ้านโครงการเลยน่ะค่ะ จะไปจ้างก็ไม่รับ แต่ช่วงนี้ เราหาข้อมูลสร้างบ้านเอง เราว่าเราจะหาสถาปนิกล่ะค่ะ เพราะฝังใจว่าบ้านเดิมไม่สวย >,< แล้วเท่าที่เห็นๆ บ้านที่ไม่มีสถาปนิก อินทีเรีย มันไม่ใช่บบที่เราต้องการอ่ะค่ะ (พ่อว่าหัวสูง 555) + พอคนในบ้านรู้ คือ เราจะสร้าง 2 ชั้น 1,000 ตรม.นะคะ ค่าสถาปนิกก็ซื้อรถได้อีกคันเลยมั้ง เค้าเลยบอกว่าจะมีไปทำไม คิดเองก็ได้ เหอๆๆ บ้านหลังเดิม 50 ตรว. คิดจนหัวจะหลุดกว่าจะได้แบบมาแต่ละห้อง แถมสร้างมายังจำแบบห้องน้ำผิด ปลั๊กอยู่ทาง อ่างอยู่ทาง ยังเสียใจอยู่ถึงตอนนี้เลยค่ะ แก้ก็ไม่ได้ จากคุณ : Pam - [ 24 เม.ย. 52 21:22:29 A:124.121.224.43 X: TicketID:201107 ]