PANTIP.COM : R7866942 +++ เรื่องจริงจากประสบการณ์ตรงของลูกบ้านคนนึงของ L&H (Baan Mai) +++ [ที่พักอาศัย]

+++ เรื่องจริงจากประสบการณ์ตรงของลูกบ้านคนนึงของ L&H (Baan Mai) +++

อยากจะเล่าประสบการณ์โดยตรง ใจจริงว่าจะไม่มาโพสเรื่องเหล่านี้แต่เราให้โอกาส L&H เป็นเดือนแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหา ให้หมดได้

ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังแรกในชีวิต และที่เลือกบ้าน L&H เพราะว่าอยากได้สังคมที่ดีให้กับลูกน้อยที่เพิ่งเกิด ถึงได้ยอมเสียเงินแพงๆ (แพงเพราะราคาบ้านเทาวเฮ้าส์ของ L&H แพงกว่าของที่อื่น)

ก่อนจะเซ็นสัญญาก็ศึกษาข้อมูลจากห้องชายคาพอสมควรว่าก่อนจะเซ็นสัญญาต้องให้เค้าเก็บงานให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนค่อยตัดสินใจเซ็น

ซึ่งเป็นปกติของ Sale ทุกคนที่บอกว่าไม่เป็นไรค่ะถึงเราจะเก็บเงินไม่หมดเราก็มีฝ่ายบริการหลังการขายที่จะคอยดูแลต่อ แล้วก็เร่งๆ ให้เราเซ็นก่อน แต่ยังไงๆ เราก็ไม่ยอม

Sale : ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ยังไงๆ เราก็มีฝ่ายบริการหลังการขาย งานของ L&H ยังไงของเป็นงานคุณภาพ

เรา : คือไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะค่ะ แต่จากที่ได้ศึกษาข้อมูลมาบ้าง มีคนเค้าแนะนำว่าให้ทางโครงการเก็บงานให้เสร็จก่อนจะดีกว่า เพื่อความสบายใจ

Sale : (ทำท่าทางไม่ค่อยจะพอใจ แล้วก็หันไปหาวิศวกร) พี่ค่ะ งานตาม list รายการพวกนี้พี่จะเก็บให้เสร็จภายใน 7 วันมั้ยค่ะ

วิศวกร : ได้ครับ น่าจะเก็บทัน

แล้ว Sale ก็หันมานัดวันกับเราอีก 7 วันให้มาเซ็นสัญญา ระหว่างนั้นเราก็เข้าไปดูว่าเก็บไปถึงไหน ต้องบอกว่างานที่เราบอกให้เค้าเก็บเนี้ยมันแค่เล็กๆ น้อยๆ เช่น รอยแตกของปูนตามวงกบประตู, ประตูหน้าบ้านปิดไม่ได้ต้องดันแรงๆ, ก็อกน้ำไม่แน่นมีน้ำซึม, ไม่ได้ปิดฝ้าเพดานตรงช่อง service เป็นต้น

จนกระทั่งวันที่ 6 ซึ่งพรุ่งนี้เป็นวันที่นัดเซ็นสัญญา เราก็เข้าไปดูการเก็บงานของเค้าจริงๆ ที่ไม่ได้เข้าไปดูบ่อยๆ หรือว่าโทรไปเร่งเพราะความเชื่อใจว่ายังไงๆ ก็น่าจะเส็ดทัน แต่แล้วผลที่ได้คือยังเก็บไม่หมด จาก list ที่ให้แก้ สิบกว่ารายการ แก้ไปเพียง 3 รายการ อารมณ์นั้นตัดสินใจแล้วล่ะว่าถ้าพรุ่งนี้ยังเก็บไม่หมดก็จะไม่เซ็นสัญญาแน่นอน แต่บังเอิญว่าวันนั้นผู้จัดการอยู่ที่สำนักงานขายเลยจัดการเรื่องให้ เพราะบอกกับเราว่าเนี้ยจากที่ดูแล้วรายการที่ต้องเก็บมันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เราเลยตอบไปว่า "ก็ใช่สิค่ะ งานเล็กๆ น้อยๆ ให้เวลาตั้ง 7 วัน มันน่าจะเสร็จมากกว่า 3 รายการแล้วนะค่ะ" ผู้จัดการเลยรับปากว่าจะจัดการให้แล้วพรุ่งนี้เช้าให้เข้ามาตรวจงานได้

ถึงเช้าวันที่เซ็นสัญญาเราก็เข้าไปดูงานภายในบ้าน วันที่ 25 มีนาคม 2552

วิศวกร : เนี้ยครับพี่ ผมเร่งทำให้พี่เลยนะ ต้องอยู่ยันดึกทำโอเพื่อแก้งานของบ้านพี่เลยนะ

เรา : ......(คิดดู มันน่าโมโหมั้ยให้เวลาตั้งหลายวันมาเร่งเอาวันสุดท้ายมีน่ามาบอกอีกว่าถึงขั้นต้องทำโอให้เลยนะ)

วันนั้นก็เลยตกลงเซ็นสัญญาเป็นหนี้ก้อนแรกในชีวิต เพราะว่าเท่าที่ดูแล้วงานเก็บหมดแล้ว แต่เรื่องมันไม่จบเพียงแค่นี้

Sale : เราต้องขอกุญแจประตูบ้านพี่ไว้ก่อนนะค่ะ เพราะว่าช่างจะไปติดกันสาดไฟฟ้าให้แล้วต้องต่อกับไฟในบ้านค่ะ

เรา : อืมได้ค่ะ

กันสาดไฟฟ้าเนี้ยเป็นของแถมจากการเป็นหนี้ในครั้งนี้ค่ะ ดังนั้นโครงการจึงได้เก็บกุญแจบ้านไปตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2552 จนบัดนี้เรายังไม่ได้กุญแจบ้านคืนเลยค่ะ สาเหตุมีดังต่อไปนี้

เหตุผล

ข้อแรก โครงการต้องติดกันสาดให้ใหม่เพราะสีของผ้าใบกันสาดไม่เหมือนหลังอื่น

ข้อสอง ตอนที่โครงการติดกันสาดได้เอากันสาดไปกระแทกกับสีที่กำแพงที่จอดรถจนสีกระเทาะออกเป็นวงใหญ่ รวมถึง สีหลังบ้านปูดออกมาเนื่องจากฝนตก เราเลยบอกให้เค้าท่าสีให้ใหม่

ข้อสำคัญ บ้าน L&H ที่ Sale คุยหนักคุยหนาว่ามีคุณภาพ แต่น้ำซึมที่ขอบกำแพงชั้นล่างภายในบ้าน (เดี๋ยวจะมีรูปประกอบ)

จนถึงตอนนี้ วันที่ 15 พฤษภาคม 2552 เรายังไม่ได้กุญแจบ้านคืน และน้ำที่ซึมก็ยังแก้ไม่ได้ ฝ่ายบริการหลังการขายไม่สนใจ ตามตัวได้ยากมากกกกกถึงมากที่สุด ตอนนี้รอยน้ำซึมได้มีการแก้ไขไปแล้วรอบนึง ตอนแก้รอบแรกฝนยังไม่ตกหนักเท่าสองสามวันที่ผ่านมา เราก็คิดว่าคงจะหายแล้วแต่รอยคราบน้ำยังเห็นอยู่เรียกให้ทาสีให้ใหม่ ก็ได้แต่พูดว่าไม่รู้ว่าสียังเหลือรึป่าว แล้วยังไงเราเสียเงินตั้งหลายล้าน (หมายถึงเป็นหนี้) แล้วต้องได้บ้านที่มีคราบน้ำคาไว้เพราะสีของทางโครงการหมดงั้นเหรอ !!!!

ล่าสุดเมื่อวานนี้เราให้แฟนเราเดินไปบอกที่สำนักงานขายว่ารอยรั่วยังเห็นชัดอยู่เลยนะครับแต่ผลที่ได้คือ

แฟน : เอ่อ รอยรั่วที่บ้านอะครับ สีที่ทามันยังเห็นเป็นรอยคราบน้ำอยู่เลยครับ

ผู้จัดการสำนักงานขาย : ทำไมคุณไม่ติดต่อฝ่ายบริการหลังการขายที่เราให้เบอร์ไปล่ะค่ะ

แฟน : คือว่าเคยโทรไปแล้วเค้าไม่รับ แล้วก็ไม่โทรกลับเลยต้องมาแจ้งที่สำนักงานขาย

ผู้จัดการสำนักงานขาย : งั้นรบกวนเอาเบอร์อีกเบอร์ไปติดต่อแล้วกันนะค่ะ

แฟน : ......(ตอนจะซื้อไม่เห็นพูดแบบนี้เลยฟระ)

แฟนก็เดินกลับมาบอกเราว่าเค้าให้โทรไปอีกเบอร์ พูดได้คำเดียวค่ะ ว่าโกรธๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนเราต้องเดินไปพูดเอง แต่ผลที่ได้คือพนักงานทุกคนรวมถึงผู้จัดการหลบหน้าเราหมด เหลือแต่แม่บ้านที่อยู่รับหน้าเราคนเดียว ส่วนผู้จัดการก็รีบไปตามพนักงานหลังการขายมารับหน้าแทน

เรา : เห็นมั้ยค่ะว่ารอยน้ำที่ซึมมันเป็นคราบเหลืองๆ

พนักงานหลังการขาย : ค่ะคือว่าเนี้ยเพิ่งประชุมเสร็จ ทางวิศวกรเพิ่งจะเคาะวิธีการแก้ไขมาว่าจะแก้ยังไง

เรา : .... นี่ไม่ใช่บ้านนี้บ้านเดียวใช่มั้ยค่ะที่มีปัญหาน้ำซึม

พนักงานหลังการขาย : ค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงเราจะรีบแก้ให้นะค่ะ

เรา : แต่นี่ก็แก้ไปแล้วรอบนึงนะค่ะ

พนักงานหลังการขาย : ค่ะแต่มันก็ยังไม่หายนิค่ะ

เรา : อ้าวว ตกลงนี่แก้ครั้งที่แล้วใช้ไม่ได้?

พนักงานหลังการขาย : ค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะค่ะ เราจะรีบแก้ให้ค่ะ

เรา : งั้นช่วยบอกมาเลยดีกว่าค่ะ ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน นี่ผ่านมาเป็นเดือนแล้วนะ จะได้ตามถูก เดี๋ยวจะหาว่ากดดันกันอีก

พนักงานหลังการขาย : อืม ยันนี้ก็บอกไม่ได้ค่ะแต่เราจะรีบแก้ให้นะค่ะ

เรา : แล้วเมื่อไหร่จะได้ย้ายเข้ามาอยู่นี่แก้นู้นแก้นี่ไม่เส็ดสักที สายชำระให้ห้องน้ำก็มีน้ำซึมไหลตลอดเวลา

พนักงานหลังการขาย : เรื่องสายชำระเดี๋ยวพรุ่งนี้แก้ให้เลยค่ะ ส่วนเรื่องที่พี่จะย้ายเข้ามาก็ทำได้เลยนิค่ะ แค่เรื่องน้ำซึมนิดเดียว

เรา .............. (คิดในใจ จะบ้ารึป่าวให้เราขนของทุกอย่างเข้ามาแล้วก็ต้องมาเจอบ้านเลอะเทอะ เพราะแก้เรื่องน้ำซึม แล้วถ้าแก้ไม่หาย จะขอกุญแจบ้านเราไว้อีกรึป่าว แล้วข้าวของของเราที่ขนมาไว้ในบ้านอีกล่ะ)

สรุป
อยากเตือนให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในห้องชายคา หรือใครก็ตามแต่ที่กำลังคิดจะตัดสินใจซื้อบ้านของ L&H ให้ตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะซื้อ หรือ ถ้าใครกำลังจะซื้อโครงการ Baan mai มีปัญหาอะไรปรึกษาเราก่อนก็ได้ ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ

จากคุณ : bloom up your life - [ 15 พ.ค. 52 21:44:27 ]