ความคิดเห็นที่ 1 จากข้อมูลที่ให้มา แนะนำให้เก็บเงินให้มีเงินก้อนสัก 1 ใน 3 ของราคาบ้านที่จะซื้อก่อนดีกว่าครับ (เพราะคุณมีรายจ่ายเยอะ) โดยส่วนหนึ่งของเงินก้อนนี้จะใช้เป็นเงินดาวน์บ้าน และอีกส่วนไว้ใช้ตกแต่งครับ ส่วนที่เหลือ 2 ใน 3 ก็กู้กับธนาคารครับ ส่วนเรื่องชื่อในโฉนด สามารถมีชื่อได้มากกว่า 1 โฉนด ครับ แต่ชื่อในทะเบียนบ้านสามารถมีได้เพียง 1 ที่เท่านั้นครับ ไม่สามารถมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน 2 ที่ได้ครับ (มีผลตอนเลือกตั้ง) ส่วนทำเล คงต้องแล้วแต่บุคคลครับ เพราะแต่ละครอบครัวมีปัจจัยในการดำเนินชีวิตแตกต่างกันครับ บางครอบครัวทำงานในเมือง ก็อยากได้บ้านใกล้เมือง บางครอบครัวทำงานนอกเมืองก็สามารถซื้อบ้านชานเมืองได้ อีกเรื่องที่เป็นคู่กับทำเล ก็คือ ระบบคมนาคมครับ บางทำเลเป็นถนนตัดใหม่ ก็จะไม่มีรถเมล์วิ่งครับ หรือมีวิ่งไม่กี่สาย อันนี้ก็ต้องลองไปสำรวจดูดีๆ หลายๆ รอบว่าเข้ากับการดำเนินชีวิตมากน้อยแค่ไหนครับ จากคุณ : rogthai (rogthai) - [ 26 พ.ค. 52 11:03:50 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คุณ rogthai ครับ รบกวนถามต่อนิดนึงครับ หากผมกู้ร่วมกับภรรยา แล้ว ผมเป็นเจ้าบ้าน เนื่องจากผมไม่ได้เป็นเจ้าบ้านไหนเลย ก็คงไม่มีปัญหา แต่เรื่องชื่อในโฉนด ผมยังงงครับ เพราะโฉนดคงจะอยู่ที่ bank เพราะ ยังผ่อนไม่หมด หมายถึงเป็นเจ้าของ โฉนดหรือครับ ในโฉนดมีได้กี่ชื่อครับ และมีสิทธิอะไร บ้างครับ ทุกชื่อสามารถ ซื้อขายที่ดิน ใน โฉนด หรือไม่ครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : mr.isolated - [ 26 พ.ค. 52 11:28:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 1.  เจ้าบ้านคือผู้มีหน้าที่ติดต่อกับทางราชการและช่วยราชการดูแลลูกบ้าน 2.  เจ้าบ้านไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของบ้าน 3.  ผู้มีชื่อในโฉนดคือเจ้าของบ้าน   4.  กู้ร่วม แล้ว เจ้าของโฉนด คือคุณ หรือภรรยา      แต่จะจดจำนองหลังโฉนดว่า  ติดภาระหนี้และถือเป็นหลักประกันกับ    ธนาคารที่คุณกู้ 5.  เวลาเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับโฉนด ผู้มีชื่อในเป็นเจ้าของในโฉนดมีสิทธิที่    จะกระทำได้ทุกอย่าง  แต่ถ้าคุณจดจำนอง โฉนดจะไปอยู่กับธนาคารเก็บ   ไว้เป็นหลักประกัน 6.  บ้านราคา 3 ล้านกว่า ผมว่า คุณอย่าซื้อเลยครับ    เพราะคุณมีลูก ซึ่งจะเป็นภาระใหญ่มาก คชจ. ก็เยอะตาม      หาสักราคา 1.5 ล้านดีกว่าครับ   7.  เอาใจช่วยครับ อดทน อดกลั้น อดออม จากคุณ : taweesak19 - [ 26 พ.ค. 52 12:33:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เอาใจช่วยเช่นกันจ๊ะ ๆ ๆ จากคุณ : djangel - [ 26 พ.ค. 52 13:39:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เจ้าของโฉนด คือ เจ้าของที่ดิน ถ้าซื้อบ้านก็เป็นชื่อผู้ซื้อ สามี ภรรยา หรือชื่อร่วมกัน ถ้าเป็น ชื่อร่วมกัน ทำธุรกรรมเกี่ยวกับที่ดินนี้ก็ต้องทำร่วมกัน ไปด้วยกันหรือมอบอำนาจไว้ อันนี้โฉนดอยู่กับเรา ถ้าบ้านติดจำนองธนาคาร เจ้าของโฉนดก็เปลี่ยนจากเราเป็นธนาคาร จนกว่าเราจะไถ่ถอนเงินกู้เรียบร้อยถึงจะจดทะเบียนกลับมาเป็นของเรา ระหว่างนั้นธนาคารจะเป็นผู้เก็บโฉนดเอาไว้ค่ะ เพื่อเป็นหลักค้ำประกัน ป้องกันไม่ให้เราแอบเอาไปทำธุรกรรมอื่นๆ (เป็นหนี้เพิ่ม) ลดความเสี่ยงของธนาคาร เจ้าบ้าน คือ คนที่ไปแจ้งจดทะเบียนกับนายทะเบียน ไม่แน่ใจว่าต้องใช้หลักฐานอะไรไปยืนยันความเป็นเจ้าบ้าน สัญญาซื้อขาย/ก่อสร้างละมั้ง เจ้าบ้านจะเป็นคนเดียว แล้วแต่ตกลงว่าจะให้ใครเป็น มีหน้าที่ตามความเห็นสาม คนหนึ่งคนมีชื่อได้ในหนึ่งทะเบียนบ้าน ในฐานะเจ้าบ้านหรือผู้อาศัย แต่บ้านไม่มีเจ้าบ้านก็ได้ ตอนนี้เราอยู่คอนโดหลายปีแล้ว ชื่อก็ยังอยู่ในบ้านพ่อ-แม่ คอนโดก็มีทะเบียนบ้านเปล่า ไม่มีชื่อเจ้าบ้าน เรามีความผิดไรมั้ยหว่า .. เรื่องซื้อบ้าน อยากให้คิดให้ดีๆ ว่า จะผ่อนไหวมั้ย ภาระยาวเป็นสิบๆ ปี เลยนะ ลูกก็โตขึ้นมีเรื่องใช้จ่ายอีกเยอะ แล้วจะมีเพิ่มอีกมั้ย ตอนนี้เงินเก็บรวมกันไม่ถึงหมื่น แต่อยากผ่อนถึงสองหมื่น เงินเก็บนั่นรวมค่าใช้จ่ายฉุกเฉินกรณีเจ็บป่วยของบุพการีและลูกหรือยังคะ หรือว่าทำประกันเอาไว้แล้ว แต่ลองดูก็ไม่เสียหลาย สามารถติดต่อโครงการให้ทำ pre-approve กับธนาคารได้ ก็จะมีธนาคารมาประเมินความสามารถในการจ่ายเงินกู้ของเรา แบบฟรีๆ แต่ไม่ควรวางมัดจำหรือระบุให้ชัดเจนเลยว่าถ้าหากได้เงินกู้ไม่ครบตามจำนวนที่เราต้องการระบุไว้เลย โครงการต้องคืนเงินจองทั้งจำนวน   การส่งเอกสาร pre-approve แนะนำให้ใช้สำเนาแล้วรับรองสำเนาทุกธนาคารเลยนะคะ ตอนนี้เรากู้เสร็จแล้วเอกสารตัวจริงยังอยู่กับเราหมดเลย เผื่อว่าธนาคารนี้ได้ไม่ถึงวงเงินที่ต้องการจะได้สำเนาเอกสารไปยื่นใหม่ หรือยื่นพร้อมกันหลายๆ แห่งก็ได้ เพราะต้องมีระยะเวลารอค่ะ แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 52 16:02:30 จากคุณ : antanoy - [ 26 พ.ค. 52 15:52:40 ]