ความคิดเห็นที่ 1 starter ดูง่ายๆ ครับว่าไฟเข้าหลอดแล้ว แต่หลอดไฟไม่ติดซักที  โดยตรงขั้วหลอดจะมีไฟเรืองๆ อยู่   ก่อนหน้านั้นจะแสดงอาการโดยไฟกะพริบหลายครั้งกว่าไฟจะติดปกติ  วิธีทดสอบก็เอา starter ชุดอื่นที่ทำงานปกติอยู่มาทดสอบ ส่วน บัลลาสต์ นี่ไฟจะไม่เข้าขั้วหลอดเลย เหมือนไม่มีไฟจ่าย  ง่ายๆ ก็เอาหลอดและ starter ชุดอื่นที่ทำงานเป็นปกติมาใส่ดู    บัลลาสต์ที่เป็นแบบธรรมดาโอกาสเสียน้อยมากๆ  ทำงานได้เกิน 10ปี  โดยมากจะเป็นอาการขั้วหลอดไม่สนิท หรือ starter หรือ switch ไม่ดีซะมากกว่า จากคุณ : Control.A - [ 30 พ.ค. 52 11:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สตาร์ตเตอร์ เอาไปลองกับชุดหลอดอื่นได้เลย อาการเสียมีสองแบบคือ ถ้าสตาร์ตเตอร์ขาด- ใส่แล้วเหมือนไม่ใส่คือหลอดไม่กระพริบไม่มีอาการใดๆ ถ้าสตาร์ตเตอร์ช็อต- ใส่แล้วหลอดจะติดส้มๆ ที่หัวท้าย และจะค้างอยู่อย่างนั้นตลอด ไม่ติดสว่างตามปกติ ถ้าเป็นกรณีหลังก็อย่างทิ้งไว้นาน เพราะบัลลาสจะร้อนจัดมาก ซึ่งการทดสอบแบบนี้ไม่มีทางที่สตาร์ตเตอร์จะไปทำอะไรอย่างอื่นเสียได้ แต่ถ้าบัลลาสมันเสีย มันก็มีสองแบบอีก คือเสียแบบขดลวดขาด  - ใส่แล้วหลอดไม่ติด ไม่มีไฟเข้า ไม่กระพริบใดๆ เลย ถ้าเป็นแบบนี้ถอดไปลองรางไฟอื่นก็ไม่ทำอะไรเสีย ถ้าเสียแบบขดลวดช็อทรอบ คือจำนวนรอบที่พันไว้รอบหลังๆ มันไปช็อทกับลวดรอบอื่นๆ ที่พันไปก่อน ผลคือจำนวนรอบที่เหลือในวงจรจะน้อยลง หากมันช็อทข้ามรอบมากๆ อาจทำให้มันเผาหลอดไฟดีๆ ทิ้งได้เลย  แต่โอกาสที่จะเป็นแบบนี้มันน้อยมากๆ มักจะเสียแบบแรกมากกว่า ถ้าจะเช็คคร่าวๆ แม้จะไม่ค่อยถูกต้องนัก แต่ก็พอสรุปได้ให้วัดโอห์มเอาครับ ผมจำค่าไม่ได้ และไม่ค่อยได้จำ แต่จะหาบัลลาสรุ่นเดียวกัน(หรือวัดจากตัวข้างๆ เทียบ กรณีหลอดคู่) ถ้าค่ามันต่ำมากผิดปกติก็อาจจะช็อทรอบไปแล้ว   แต่ส่วนใหญ่ผมจะพิจารณาจากหลอดไฟที่เสีย ถ้าหลอดมันเสียแบบไส้หลอดขาดเลยน่าจะเป็นที่บัลลาส   ส่วนหลอดฟลูออเรสเซนที่กระพริบๆ ไม่จบสิ้นแล้วถอดทิ้งไปนั้นไส้หลอดยังไม่ขาดครับ แต่เรามักเรียกหลอดขาดกัน (มันครบวงจรทำให้กระพริบได้อยู่)  หากหลอดเก่าเสียแบบไส้ขาดไปเลย นั่นคือมีโอกาสที่บัลลาสมีปัญหา จากคุณ : Ph - [ 30 พ.ค. 52 12:40:37 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตามคห.2ครับ อธิบายได้ละเอียดมาก เวลาเปลี่ยนหลอดฟลูออเรสเซนผมมักจะใช้มืเตอร์วัดที่ขั้วหลอดของเดิมก่อนถ้าไส้หลอดขาดก็เปลี่ยนบาลาสต์ด้วยเลย มิเตอร์วัดไฟฟ้าเดี๋ยวนี้ถูกมากครับตัวหนึ่งประมาณ200กว่าบาทซี้อติดบ้านไว้ก็ดีครับ ใช้กับงานไฟฟ้าได้หลายอย่าง จากคุณ : เส้นใหญ่ - [ 30 พ.ค. 52 12:54:45 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โอ้    ขอบคุณมากครับ ^^ จากคุณ : ชอบกินไข่หวาน - [ 30 พ.ค. 52 17:45:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 บางทีขั้วสตาร์ทเตอร์มันก็หลวมนะ ลองหมุนไปหมุนมาดู หรือเปลี่ยนทั้งชุดเป็นบาลาสต์อิเล็คทรอนิคส์ดู ใช้ได้เลยล่ะ ผมไปซื้อที่คลองถมวันอาทิตย์ อันละ50-70บาท ใช้ได้ยาวเลย ตอนนี้ก็สามปีแล้ว จากคุณ : azujiro - [ 30 พ.ค. 52 19:38:36 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วชุดที่เป็นระบบ Electronic ล่ะครับ ถ้าเสียเราจะไล่ตรวจตรงใหนได้บ้าง ใช้มาไม่นานก็เสียแล้วไม่รู้จะซ่อมหรือเปลี่ยนอะไรตรงใหน สู้อย่างเดิมดีกว่าเปลี่ยนได้ทุกต้วที่เสีย เคยถอดออกมาดูทั้งสองขั้วแล้วคาดว่าคงจะต้องโยนทิ้งเสียละมั้ง จากคุณ : KT (kiategat) - [ 30 พ.ค. 52 21:21:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แบบอิเล็ค ให้เช็คตัวทรานซิสเตอร์ครับ พังเป็นอันดับหนึ่งเลย ตัวสามขาดำๆ  ใช้มัลติมิเตอร์วัดเอา ใช้โหมดวัดไดโอดเช็คดู ถ้ามันพัง ตัวต้านทานข้างๆ มักจะไหม้/ขาด ก็เปลี่ยนไปด้วย จากคุณ : Ph - [ 30 พ.ค. 52 22:52:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สตาร์ทเตอร์ ระวังของปลอมนะครับ ถ้าของไม่ดี ก็จะพากันพังเร็ว ส่วนบาลาสต์ วัดแล้วจะได้ค่าห้ามต่ำกว่า 4 จากคุณ : ไม่งั้นพากันพังอีก - [ 31 พ.ค. 52 19:35:47 A:110.49.80.164 X: TicketID:038237 ]