ความคิดเห็นที่ 1 ดูที่สัญญาครับ มาตรฐานทั่วไปคือ ภายใน 3 ปีแรก ห้ามชำระเกิน 2 เท่า ของค่างวด/เดือน และแต่ละเดือนชำระได้ไม่เกิน 2 ครั้ง (ถ้าชำระเกิน มีค่าปรับ) ของคุณเกิน 3 ปีแล้ว มีเท่าไหร่ก็โปะไปเถอะครับ เสียดายดอกเบี้ย แต่ทั้งนี้ต้องดูเงื่อนไขสัญญาและรอท่านผู้รู้มาชี้แจงอีกทีครับ จากคุณ : ด่วน พิเศษ - [ 2 มิ.ย. 52 10:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าโปะ ก่อนถึงกำหนดวันหักค่างวด เขาก็จะเอาไปหักเงินต้นทั้งหมด ธนาคารหักทุกวันที่ 2 แสดงว่า วันที่ 2 เขาจะคำนวณดอกเบี้ย ในวันนั้น แล้วก็จะแสดงให้เห็นว่า ที่หักไปเป็นเงินต้นเท่าไหร่ เป็นดอกเท่าไหร่ การจ่ายโปะวันไหน ๆ ก็เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าวันนี้แบ็งค์คิดดอก วันอื่นแบ็งค์ไม่คิดดอก ดอกวิ่งทุกวันจากเงินต้นที่เหลืออยู่ล่าสุด เพียงแต่เขาจะคำนวณ เดือนละครั้ง เพื่อความสะดวก ถ้ามีเงินรีบโปะเร็วที่สุดยิ่งลดดอกได้มากที่สุด ไม่ต้องรอถึงวันที่ 3 โปะวันที่ สาม,กลางเดือน,ปลายเดือน มันย่อมไม่เท่ากันเป็นธรรมดา เพราะ โปะวันที่สาม เงินต้นคุณก็จะลดไปเร็วที่สุด ดอกหลังจากวันที่สาม ก็จะคิดจากเงินต้นที่คงค้างอยู่ ถ้าคุณเอาเงินไปโปะนอกเหนือจากค่างวดตามปกติ เขาก็จะแสดงให้เห็นว่าหักเงินต้นเต็ม ๆ เช่น โปะ หนึ่งหมื่น ก็หักหนึ่งหมื่น ส่วนปลายเดือน หักค่างวดหนึ่งหมื่น เป็นดอกซะี่สี่พัน อะไรอย่างงี้ แต่ไม่ได้แปลว่า โปะ แล้วหักเงินต้นเต็ม ๆ  แต่หักค่างวด ต้องหักทั้งต้นทั้งดอก ความจริงมีอยู่แค่ว่า "เขาคำนวณดอกเบี้ยให้เห็นเฉพาะวันหักค่างวด" เขียนมาเยอะ ไม่รู้จะงงไหมเนี่ย จากคุณ : หมูทอง (Goldenpig) - [ 2 มิ.ย. 52 22:30:56 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ก็แบบว่า พอเข้าใจครับ สรุปว่า มีเงินก้อน พร้อมโปะเมื่อไหร่ ก็ให้นำไปเข้าธนาคารเลย ไม่ต้องรอว่าเป็นวันไหน แล้ว เงินที่เราจะนำไปโปะ แม้จะแสดงยอดว่า ถูกหักลบเป็นเงินต้นทั้งหมด แต่จริงๆแล้ว ทางธนาคารได้ทำการคิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน แต่จะคิดคำนวนแค่เดือนละหนึ่งครั้ง ในวันหักตามงวด ประมาณนี้ ใช่ป่ะครับ ขอบคุณนะคราบบบบบ คุณ golden pig จากคุณ : nanomax - [ 3 มิ.ย. 52 07:24:30 ]