ความคิดเห็นที่ 1 โจทย์ดูเอนเอียงไปทางคำตอบข้อหนึ่ง แล้วถ้าลองเปลี่ยนอันที่สองเป็น .. เลือกใช้ชีวิตแต่งงาน อยู่บ้านหลังเล็กๆกับครอบครัวที่อบอุ่น มีคนช่วยสร้างอนาคต จะพอฟัดพอเหวี่ยงกว่าไหมคะ จากคุณ : ถ้วยกลม - [ 2 มิ.ย. 52 17:35:06 ]

ความคิดเห็นที่ 2 น่าจะหาวิธีที่ นำอย่างที่ 1 และอย่างที่ 2 มารวมกันได้ และอยู่อย่างมีความสุขนะคะ จากคุณ : nu_aorr - [ 2 มิ.ย. 52 17:41:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทำไมแต่งงานแล้วต้องอยู่บ้านเล็กด้วย งงง มีอีกคนมาช่วยสร้างครอบครัวน่าจะได้บ้านใหญ่กว่าเดิม หรืออีกฝ่ายไม่ทำงาน ไม่ช่วยค่าใช้จ่ายเลยเหรอ แปลกก จากคุณ : Talala - [ 2 มิ.ย. 52 17:55:41 A:203.146.41.120 X: TicketID:213041 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมว่าคุณยังอยากอยู่เป็นโสดนะจากที่อ่าน ก็อย่าเพิ่งแต่งงานเลย เดี่ยวไปหาว่าคู่คุณทำให้คุณเสียโอกาส ที่คุณอยากใช้ชีวิตอย่างที่คุณอยากทำ จะบาปเปล่าๆ จากคุณ : kaka (หนุ่มใหญ่2009) - [ 2 มิ.ย. 52 18:00:24 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ใช่ๆ ตั้งคำถามบีบให้ตอบข้อ 1 อ่ะ (มันเอียงๆ ชอบกล) จากคุณ : ป้าอ้วน - [ 2 มิ.ย. 52 18:15:32 A:58.181.143.130 X: TicketID:092733 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นคำถามแล้วทำให้นึกถึงคนที่คุณจะแต่งงานด้วย จากคุณ : นายสันทัด - [ 2 มิ.ย. 52 18:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แฟนน่าสงสารจัง จากคุณ : pbany - [ 2 มิ.ย. 52 19:01:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ของยังงี้มันเลือกได้ด้วยหรอ งงมาก จากคุณ : Tamจัง - [ 2 มิ.ย. 52 19:11:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ก็ให้แฟนมาช่วยผ่อนบ้านหลังใหม่จิ ช่วย ๆ กันสร้างอนาคต ไม่ดีกว่าเหรอ ได้ทั้งข้อ 1 และ 2 จากคุณ : เจ้าหญิงกับปุยเมฆ - [ 2 มิ.ย. 52 19:16:17 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าคิดอย่างนี้เลือกบ้านเลยครับ สงสารคนที่จะแต่งงานกับคุณครับปล่อยเขาไปเถอะ จากคุณ : joekk1 - [ 2 มิ.ย. 52 19:56:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อย่าไปแต่งเล้ย  คิดอย่างนี้ แค่ความคิดที่คุณบรรจงพิมพ์ออกมาบอกให้ผู้คนเค้ารับรู้ว่า  แต่งงานแล้วอยู่บ้านหลังเล็กๆ  ต้องอยู่อย่างประหยัด แค่นี้ก็ไม่ต้องคิดมากแล้วว่า  คุณเป็นคนเห็นแก่ตัวอย่างรุนแรง คุณอย่าแต่งเลย สงสารคนที่มาแต่งกับคุณมากๆ  อยู่บ้านหลังเล็กมันเป็นอย่างไรครับ งง มาก อย่างนี้คนอยู่บ้านหลังเล็ก เป็นคนไม่ประสบความสำเร็จ ต่ำต้อย อย่างนั้นหรือเปล่า   อยู่อย่างประหยัด  ???  อย่างไรล่ะครับ   ผมตีความได้ว่า แฟนคุณที่จะมาอยู่กับคุณเป็นตัวถ่วงคุณหรือ ???   โอ้โห สงสารคุณผู้หญิงคนนั้นจริงๆ  ถ้าเค้ามาอ่านเจอ เค้าคงเสียใจแย่เลยนะ สรุปว่า  คุณไม่พร้อมหรอก  ความคิดแวบหนึ่งของคุณโผล่ออกมาจากจิตใต้สำนึกคุณแล้วอย่างนี้   ไม่เวิร์ค  สงสารผู้หญิง จริงๆ จากคุณ : fillerneck (fillerneck) - [ 2 มิ.ย. 52 20:10:01 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เลือกข้อ 1 ส่วนแฟน  หาเอาใหม่ จากคุณ : airthecorr (airthecorr) - [ 2 มิ.ย. 52 20:17:11 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าเราเป็นแฟนคุณมาอ่านแล้วคงเสียใจแย่เลย จริง ๆ จะซื้อบ้านใหม่ แล้วก็แต่งงานด้วยก็ได้นี่นา แต่งงานจริง ๆ แล้วไม่ได้ต้องใช้เงินมากนะคะ ถ้าไม่ได้ทำอะไรเกินตัว แทนที่จะคิดว่า หาบ้านใหม่ที่น่าอยู่ จะได้อยู่อย่างมีความสุขกับคนที่ตัวเองรัก กลับคิดว่าการแต่งงานทำให้ชีวิตลำบากซะนี่ ถ้าจะเลือกข้อแรก ก็รีบ ๆ เลิกกับแฟนไปค่ะ ให้เค้ามีโอกาสได้เจอคนที่พร้อมจะให้เค้าเป็นส่วนนึงในชีวิต ผู้หญิงแก่ลงทุกวันค่ะ อย่าไปตัดโอกาสเค้า จากคุณ : แบ๊น แบน - [ 2 มิ.ย. 52 20:49:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แสดงว่าคนที่คบอยู่ยังไม่ใช่ซะทีเดียว ถ้าอายุยังไม่มากด้วยกันทั้งคู่ ก็พอจะปล่อยให้เวลาช่วยตัดสินใจได้ อยากทำอะไรก็ทำคะ อย่าฝืน แต่ก็อย่าลืมหาทางออกที่นุ่มนวลที่สุดเอาไว้ อย่าปิดโอกาสใคร และอย่าลืมนึกถึงใจของคนอื่นด้วย จากคุณ : ต้นไผ่สีชมพู - [ 2 มิ.ย. 52 21:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อ่านแล้วแหม่งๆ เนอะ พาลให้คิดว่า หลังแต่ง คุณคงต้องดูแลภรรยาซึ่งไม่มีรายได้ต้องเจียดเงิน ให้เธอใช้จ่ายอะไรแบบนั้นเลย (ถ้าไม่ใช่ก็ต้องขอโทษด้วยค่ะ) ฟังดูแล้ว เหมือนคุณจะยังไม่พร้อมกับการใช้ชีวิตคู่ กับการที่ต้องเสียสละความสุขส่วนตัวบางอย่างไป เพื่อจะรับใครอีกคนเข้ามาร่วมชีวิตนะคะ แบบนี้ แนะนำให้รอไปก่อนดีกว่าค่ะ  รอจนกว่าคุณจะพร้อมจริงๆ หรือ"มีอารมณ์" อยากจะแต่งงานก่อนเถอะค่ะ จะได้ไม่มีปัญหาหนักอกหนักใจเพิ่มขึ้นอีก เราว่า การที่คุณมีความคิดแบบนี้ก็ไม่แปลกหรอกค่ะ ถ้าเรามีแฟน แล้วแฟนคิดแบบนี้ แล้วบอกกับเราตรงๆ แบบนี้ เราจะขอบคุณเค้ามากๆ เลย เพราะจะทำให้เราตัดสินใจได้ว่า เราควรจะเสียเวลาคบกับผู้ชายคนนี้ต่อไปหรือไม่ จริงอย่างคุณแบ๊น แบน ว่านะคะ ผู้หญิงแก่ลงทุกวัน หากคุณรู้ตัวว่าไม่พร้อม ก็ควรปล่อยให้เธอคนนั้นได้มีโอกาส เลือกไปคบคนอื่น ที่อาจจะพร้อมมากกว่าคุณน่ะค่ะ เราเรียกว่า เราเคารพการตัดสินใจของผู้ชายคนนั้นมากกว่า ดีกว่าแต่งไปแล้ว อยู่กันไปแบบเซ็งๆ เพราะในใจลึกๆ คิดอยู่เสมอๆ ว่า ฉันเสียสละ ทำไมฉันต้องทำเพื่อเธอ อะไรแบบนี้น่ะค่ะ ที่พิมพ์มานี่ ไม่ได้ประชดหรือว่าหรอกนะคะ คนเราย่อมมีสิทธิ์เลือกชีวิตเราเองทั้งนั้นแหล่ะค่ะ ดีเสียอีกที่คุณซื่อสัตย์กับตัวเองแบบนี้ จากคุณ : amuro4ever - [ 2 มิ.ย. 52 21:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คุณก็รู้แก่ใจแล้วว่าข้อ 1 อิอิ จากคุณ : dib2000 - [ 2 มิ.ย. 52 21:44:50 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมกว่าจะแต่งงานคงสามสิบห้าครับ จากคุณ : Lunarz_h - [ 2 มิ.ย. 52 21:52:42 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่รู้สิ เรามองเรื่องแต่งงานไม่สำคัญ มีเงินแต่งเมื่อไหร่ก็ได้ มีลูกแล้วหรืออยู่กันจนแก่ค่อยแต่งก็ได้ แต่อย่างว่าสังคมไทยมีเรื่องของครอบครัวมาเกี่ยวก็อาจจะยากหน่อย อย่างที่บอกแต่งงานมันเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ แต่การมีชีวิต สะดวก สบายนี่มัสำคัญนะ มันเป็นพลังให้เราดำเนินชีวิตสร้างอนาคตอ่ะ แต่งงานแล้วลำบากแต่งทำไม ไม่แต่งก็รักกันได้ มีบ้านมีรถมีครอบครัวได้ไม่ดีกว่าเหรอ พร้อมแล้วค่อยแต่ง เงินหายากอย่าเอามาละลายกะงานแต่งเลย เว้นแต่จะมีเหลือพอ จากคุณ : GetCha - [ 2 มิ.ย. 52 22:41:50 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เลือกข้อ1แล้วแต่งไม่ได้เหรอครับ ผมว่ามันไม่จริงหรอกครับ ถ้าคุณขยันมากขึ้น ทำงานให้มากขึ้น ใช้จ่ายประหยัดขึ้น มันทำได้ทั้งคู่แหละครับ คนบางคนจมไม่ลงไม่ยอมลดคุณภาพชีวิตลง แล้วอ้างโน้นอ้างนี่ หากไม่ลองดูจะรู้ได้ไงว่าทำไม่ได้ จากคุณ : Megrim - [ 2 มิ.ย. 52 23:54:44 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตอนนี้ ส่วนตัวเลือกข้อ 2 แต่มีความสุขดีนะ..... ถ้าให้ย้อนเวลากลับไป..... ก็ยังเลือกข้อ 2 เพราะข้อ 1 จะเป็นความสุขระยะสั้นเท่านั้นเองล่ะค่ะ อีก 20 ปี คงไม่อยากได้บ้านที่ใกล้ที่ทำงานมาก (ป่านนั้น ย้ายงานไปไหนแล้วไม่รู้ หรืออาจจะเลิกทำงานแล้ว) ทุกอย่างสะดวก สบาย แต่เหงาๆ ไม่มีคนชวนกินข้าว ไม่มีคนทำสวนเป็นเพื่อน ไม่มีคนนอนข้างๆ จากคุณ : MiniFoxi - [ 3 มิ.ย. 52 01:46:07 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เราว่าแต่งงานดีกว่าค่ะ ช่วยกันทำงานสักพักก็ได้บ้านหลังใหญ่แล้วค่ะ (ยกเว้นแต่งแล้วฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ทำงาน) เราว่าชีวิตคู่เป็นหลักเป็นฐานง่ายกว่าคนโสดนะคะ (กรณีที่ยังไม่ปล่อยให้มีลูก) ยังมีเวลาทำงานเก็บเงินอีกเพียบ ภรรยาเป็นคนออกเงินค่ากินค่าอยู่ ส่วนเงินสามีก็เป็นเงินเก็บ 2คนย่อมจะดีกว่าคนเดียวอยู่แล้วค่ะ จากคุณ : คนที่แต่งงานเกิน 1ครั้ง..อิอิ (noyne) - [ 3 มิ.ย. 52 04:04:10 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คำถามชี้นำมาก คนถามน่าจะรู้อยู่แก่ใจแล้ว จากคุณ : ปริศนาไขกระจ่างแล้ว - [ 3 มิ.ย. 52 08:10:49 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สำหรับผมความสุขไม่ได้อยู่ที่การมีบ้านหลังใหญ่ๆ ใกล้ที่ทำงาน หรือกินอยู่อย่างสบาย เพียงแต่มีคนคอยปรึกษา ให้กำลังใจ และเป็นเพื่อนที่ดีก็มีความสุขแล้ว เมื่อก่อนอยู่คนเดียว ไม่มีรถ ไม่มีบ้าน เพราะไม่จำเป็นอยู่กับพ่อ แม่ได้  แต่เมื่อแต่งงานเราก็ต้องร่วมกันหาสิ่งต่างๆเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอีกหนึ่งชีวิตที่จะมาอยู่กับเรา ปัจจุบันผมแต่งงานมา 3 ปี  มีรถ 1 คัน  บ้าน 1 หลัง ชีวิตหลังแต่งงานเปลียนไปมาก (มีความสุขมากกว่าก่อนแต่งงานมากกกกกก)  ถ้าคุณคิดว่าคนนี้ละใช่ก็แต่งเลย แต่ถ้าไม่ใช่ก็ปล่อยเขาไปและซื้อบ้านอยู่ จากคุณ : yordzy - [ 3 มิ.ย. 52 08:25:26 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ชีวิตแต่งงานต้องคิดเอง ไม่ใช่เอามานั่งถามตัดสินในห้องชายคา จากคุณ : Peair - [ 3 มิ.ย. 52 08:37:07 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่รู้คนอื่นเป็นไงนะครับ แต่สำหรับผม หลังจากแต่งงานแล้ว ชีวิตมีสาระขึ้นครับ มุ่งมั่นมากขึ้น เที่ยวน้อยลง กิน (เหล้า)น้อยลง ยิ่งมีลูก ยิ่งมองอนาคตมากขึ้น ย้อนเวลาได้ก็ยังอยากให้เป็นอย่างนี้อยู่ จากคุณ : Joey_AJ - [ 3 มิ.ย. 52 08:59:19 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ทำไม ไม่เืลือก ข้อหนึ่ง แล้วให้ แฟน คุณมา อยู่บ้าน หลัง ที่ ใหญ่กว่า ใกล้ที่ทำงานกว่าล่ะครับ ส่วนบ้าน หลัง เล็กๆ ไกลๆ ก็ขายทิ้งมา เอาเงินมาช่วย ผมคิดว่า อย่างนั้น นะ แต่ ทั้งนี่้ ผมคิดว่า ในใจ คุณ จขกท คงมีอะไร มากกว่า ที่ไม่สามารถบอกในกระทู้นี้ได้ ไม่ว่ากันครับ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 09:40:15 จากคุณ : NPM - [ 3 มิ.ย. 52 09:25:14 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณทุกความเห็นครับ แต่อยากบอกเพื่อนๆ ชาวชายคา เพิ่มเติมครับ ตอนนี้เล็งบ้านเดี่ยวราคาประมาณ 4.5 ล้าน ซึ่งเป็นบ้านที่ใกล้ที่ทำงาน ไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว ใกล้ตลาด ใกล้แหล่งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และมีการคมนาคมสะดวก ซึ่งผมคำนวนเงินเดือนและเงินออมผม ที่ต้องผ่อนต่อเดือนแล้ว เหลือค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็พอใช้ชีวิตได้อย่างดีพอเพียงตัวคนเดียว แต่ถ้าเราซื้อบ้านที่ใกลหน่อย สิ่งอำนวยความสะดวกต่่างๆ น้อยลง เปลี่ยนจากบ้านเดี่ยวกลายเป็นทาวน์เฮ้าส์หรืออาคารพาณีชย์ แล้วก็แต่งงาน ก็จะมีเงินเหลือเพิ่มมากขึ้น ก็สามารถเลี้ยงดูแฟนได้ดีขึ้น (แฟนผมเงินเดือนไม่มากหรอกครับ เพียงแค่พอเพียงกับค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเค้าก็หมดแล้ว) ถ้าผมตัดสินใจมีครอบครัว ก็จะต้องสร้างอนาคต เก็บเงินเผื่อลูกอนาคตเพื่อที่จะเลี้ยงดูลูกได้ดีขึ้นอีก เด็กๆ สมัยนี้เค้าจะต้องเรียนโรงเรียนดีๆ ต้องติวฯ มีมือถือ และมีค่าใช้จ่ายอืนๆ อีกมาก ผมกังวลใจกับข้อนี้มาก ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากมีครอบครัว แต่ถ้าจะมี เราคงต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เผื่อให้รองรับเข้าไว้ เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตที่ดี ไม่ขัดสน ตอนเป็นเด็กผมลำบากมาก ตอน อนุบาล ถึง ประถมต้น แม่ผมทำข้าวต้มกับซีอิ้วดำให้ทานทุกวัน บางวันดีหน่อย ก็นานๆ จะมีหมูหยอง ไข่เค็มบ้าง พอไปโรงเรียน ช่วงบ่ายจะกลับบ้านร้อนมาก รู้สึกหิวน้ำ คอแห้งมาก ผมก็ไม่มีเงินเหลือซื้อน้ำกินเหมือนเพื่อนผม ต้องอดทนเดินกลับจากโรงเรียนมาบ้าน ไม่มีผู้ปกครองมารับส่ง เหมือนเด็กๆ สมัยนี้ ดังนี้นผมจึงกังวลใจกับเรื่องเหล่านี้มาก ไม่อยากให้เกิดขึ้นซ้ำอีก เห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ แม่ไม่มีเงินก็มาปล้นร้านทอง เห็นแล้วเศร้าแทนครับ.... จากคุณ : wrsp (wrsp) - [ 3 มิ.ย. 52 10:34:40 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คิดมากไปค่ะ คุณอยู่บ้านหลังใหญ่ ราคาหลายล้าน แล้วคุณจะมีความสุขได้อย่างไร...ถ้าต้องอยู่ตัวคนเดียว บ้านจะเป็นบ้านได้อย่างไร ความหรูหรา สะดวกสบาย ล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันเป็นส่วนหนึ่งที่คนเราทุกคนอยากได้ค่ะ แต่มุมมองของคุณ คุณมองไปข้างหน้าอย่างเดียว โดยที่ไม่ย้อนมามองคนข้างหลัง หรือหันมามองคนข้างๆ เลย นานาจิตตังค่ะ จากคุณ : rakdeawjaideaw - [ 3 มิ.ย. 52 10:57:19 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตามความคิดผม - ไม่อยากมีเงินเก็บเหลือน้อยก็กู้ซื้อบ้านได้ครับ   ดาวน์เยอะหน่อย  หักเงินดาวน์แล้วยังเหลือเงินอีกเยอะ     ไม่จำเป็นต้องเอาเงินทั้งก้อนไปซื้อบ้านทีเดียว - แต่งงาน ถ้าไม่จัดหรูมาก 3-4 แสนก็เอาอยู่ ไม่รวมสินสอดนะ - แบ่งเงินสดไปลงทุน ซื้อทอง - ช่วยกันทำมาหากิน มีเงินก็โปะบ่อยๆ จากคุณ : Yippie - [ 3 มิ.ย. 52 11:10:08 ]

ความคิดเห็นที่ 31 บ้านที่ดีก็ทำให้มีชีวิตที่คงมั่นคง (ไม่ใช่มั่งคั่ง) ครอบครัวที่ดี ย้ำนะครับว่า ที่ดี (ยั่งยืน) ก็ทำให้มีชีวิตที่มั่นคง ลองสร้างโจทก์ที่ 3 สิครับ อย่าเอาแค่ 2 ข้อแรกมาตัดสินใจ ตอบตามที่ถามดีทั้ง 2 ข้อ ครับแต่คำตอบสุดท้าย ต้องให้ฝ่ายหญิงร่วมตัดสินด้วยครับ คนรักกันจริงต้องคุยกันได้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นการตัดสินเลือกของชีวิตของทั้งคู่ ดีกว่าอยู่กันไปแบบต่างคน ต่างคิด คิดเอง เออเอง จากคำถาม ยังไม่เห็นตรงไหนที่บอกว่าไม่รักผู้หญิง เพียงแต่ตั้งโจกท์เหมือนเปรียบเทียบ ชี้นำให้เลือกมากไปหน่อย โจกท์ไม่ดี ถามผิดที่หรือเปล่า ก็มีเรื่องบ้าน แต่โดยรวมน่าจะเรื่องครอบครัว ต้องทำใจครับ ตั้งคำถามในสังคมเปิดอาจได้คำตอบที่เกินหวัง จากคุณ : เลือดหมูขาว - [ 3 มิ.ย. 52 11:10:13 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าหากอยากแต่งงานก็แต่ง .. มีครอบครัวแล้ว หากคิดมีลูก ก็ต้องอดออมเพื่อลูกกันทั้งนั้นแหละค่ะ เพราะเราไม่รู้อนาคตและเป็นห่วงอนาคตเค้า แต่ถ้าไม่คิดมีลูกก็ไม่ต่างกันมากนะคะ เพราะเดี๋ยวนี้คู่สามี-ภรรยาที่ใช้เงินกระเป๋าใครกระเป๋ามันและแบ่งการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายกันไป ก็ไม่ต้องวุ่นวายมาก .. ของอย่างนี้เปิดใจคุยกับแฟนคุณไปเลย .. บางทีอาจกลายเป็นเราคิดมากไปก็ได้นะคะ เรื่องบ้านก็หาโครงการอื่นที่สะดวกใจทั้งสองฝ่าย .. ถ้าหากปักใจกับโครงการนี้มากก็วางแผนการเงินใหม่ให้ดีๆ ค่ะ .. แล้วอยากเตือนนิดว่า ที่เราคำนวณเงินผ่อนและเงินออมแล้วกับที่แบงค์จะให้กู้อาจได้ไม่เท่ากัน เพราะเดี๋ยวนี้แบงค์ปล่อยกู้แบบเซฟตัวเองสุดๆ ให้กู้วงเงินไม่มากหรอกค่ะ ลองยื่น pre-approval ของโครงการที่สนใจดูซิคะ ยื่นเอกสารเองยังไม่ต้องจองก็ได้ (ยื่นสำเนานะคะ จะได้ไม่ต้องวุ่นเรื่องธนาคารไม่คืนเอกสาร ถ้าเราอยากยื่นที่อื่นๆ) แค่นี้เราก็รุ้แล้วว่าเรามีความสามารถจะซื้อโครงการระดับไหนได้ค่ะ โชคดีนะคะ จากคุณ : antanoy - [ 3 มิ.ย. 52 11:12:05 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ชีวิตแต่งงานไม่น่ากลัวอย่างที่คุณคิดนะ อยู่ที่ว่า..คุณและคนของคุณพร้อมจะ“ลุย”มั้ย ถ้าคนใดคนหนึ่งไม่พร้อมก็อย่าเลย ส่วนเรื่องงบเนี่ย--งานแต่งแบบประหยัดแล้วดูดีก็มี ที่รพ.สงฆ์ก็ดี เรื่องสินสอดก็ไปประจบผู้ใหญ่เอาซะหน่อย คงไม่มีพ่อแม่ดีๆที่ไหนจะขายลูกสาวกิน จริงมั้ย จะซื้อบ้านแล้วมาประหยัดงานแต่งหรือทุ่มงานแต่งแล้วเอาบ้านเล็กๆ--เราว่าคุณก็หาเหตุผลเองได้ อยู่ที่คุณกล้าคุยกับคนที่เกี่ยวข้องไหมต่างหาก--อย่ากลัว ผู้ชายมักกลัวการแต่งงานนะ ทำไมไม่รู้ แต่พอแต่งแล้วก็นอนสบายเป็นคุณชายกันเชียว จากคุณ : แจ๋วประจำบ้าน (MadApple) - [ 3 มิ.ย. 52 11:24:44 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ก็ไม่ต้องจัดงานแต่งงานให้ใหญ่มากสิคะ หรือแค่จดทะเบียน มีงานเลี้ยงเล็กๆ สำหรับครอบครัวและเพื่อนสนิทก็พอ ไม่ต้องไปตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ คุณก็จะได้มีตังค์เหลือดาวน์บ้าน และสร้างครอบครัวเล็กๆ ที่มีความสุข  เห็นด้วยกับหลายๆ ท่านค่ะว่าชีวิตแต่งงานน่ะมีความสุข มีเพื่อนคุย มีคนคอยปรึกษาและให้กำลังใจซึ่งกันและกันค่ะ ถ้ารักกันจริงนะพิธีแต่งงานน่ะไม่สำคัญหรอก จากคุณ : FawltyTowers - [ 3 มิ.ย. 52 11:29:50 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อย่าแต่งเลย สงสารแฟนคุณ จากคุณ : nulukkade (nulukkade) - [ 3 มิ.ย. 52 11:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ชีวิตในเมืองหลวงมันต่อสู้ ดิ้นรน ไม่แปลกที่คนจะคิดรักตัวเองมากกก มองหาคู่ที่นอกจากถูกนิสัยใจคอหน้าตาแล้ว ต้องดูฐานะด้วย จขกทบอกสมัยเด็กเคยลำบากมาก่อนแต่ทำไมตอนนี้ติดสบายจัง ว่าต้องอยู่บ้านใหญ่ใกล้ๆมีเงินใช้อย่างสบาย บ้านที่ไกลไปหน่อยเดินทางสัก 1 ชม เราว่าไม่เห็นจะลำบากตรงไหน เป็นปรกติของกรุงเทพ ถ้าแฟนคนนี้ยังไม่ใช่สิ่งที่คุณหวังไว้ก้อบอกปล่อยเธอไป ฝืนแต่งกลัวว่าจะไม่รอด... ขอโทษที่พูดตรง จากคุณ : Talala - [ 3 มิ.ย. 52 13:48:19 A:203.146.41.120 X: TicketID:213041 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ตอนนี้ดูจาก กระทู้คำถามของคุณ จขกท. ขอตอบว่า คุณรักตัวเองมากเป็นที่หนึ่ง และยังไม่พร้อมที่จะเสียสละสิ่งใดๆ ให้กับแฟนของคุณ ดังนั้น ผมจึงขอแนะนำให้คุณเลือกข้อที่1 ครับ จนกว่า คุณจะมีความรู้สึกใหม่ว่า พร้อมที่จะเลือกใช้ชีวิตคู่ ที่มีบ้านไกลหน่อย แต่ก็มีความสุขกายสุขใจ เพราะได้อยู่เคียงข้างคนที่เรารัก และพร้อมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน เมื่อตอนนั้นคุณคิดได้แบบนี้ ก็ค่อยเลือกข้อ2 ครับ จากคุณ : เอ็ม - [ 3 มิ.ย. 52 14:14:26 A:10.1.8.105 X:203.121.164.210 TicketID:008284 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ถ้าคนนี้เป็นคนที่ใช่ ก็แต่งเถอะค่า แต่งแล้วเอาเค้ามาอยู่บ้านหลังละ 4.5 ล้านที่คุณเล็งไว้ ในเมื่อตัวคุณคนเดียวก็ผ่อนบ้านได้ ส่วนเค้าก็มีรายได้ของเค้าเลี้ยงตัวเค้าแล้วนี่คะ ส่วนของเงินเก็บ ก็ประหยัดมากขึ้น ใช้ให้น้อยลง หรือไม่ก็หาให้มากขึ้นน มีคนที่เป็นคนที่รักเราอยู่ข้างๆ มันดีน๊า  อย่างเรากับสามี เราสองคนมักขอบคุณกันและกันเสมอ ที่มีอีกฝ่ายอยู่ข้างๆ เราสองคนก็เริ่มจากติดลบค่ะ ไม่ใช๋ศูนย์ พ่อแม่เราเสียตั้งแต่เรายังไม่จบมัธยม เงินเรียนก็ไม่มี ต้องกู้ ขอทุน ทำงานพิเศษไปด้วย หนำซ้ำต้องเลี้ยงน้องชายที่อยู่ปอสี่อีกคน โกงค่ารถเมล์บ่อยๆ เพราะไม่มีตังค์ วันๆ กินแต่มาม่า บางวันก็ไข่  นั่นมันเรื่องเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ตอนพ่อแม่เราเสีย เราเจอแฟนเราพอดี เราสองคนตั้งใจเรียนกัน สอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกัน มีจุดมุ่งหมาย เราสองคนอยากมีบ้านหลังเล็กๆ มีรถเก่าๆ สักคัน มีครอบครัวเล็กๆ เราสองคนเลยตั้งใจเรียน หางานที่ดี ที่มีอนาคตภายหน้า การที่เรามีแฟนมันทำให้เรามีเป้าหมายของชีวิตนะ  ผ่านไปสิบสองปี  ตั้งแต่คบกันตอนมอหก จนตอนนี้ เราสองคนมีบ้านหลังละหลายล้านอยู่ มีคอนโดกลางเมือง มีรถขนาดกลางหนึ่งคัน ที่สำคัญมีเพื่อนที่ดีที่สุดอยู่ข้างๆ กาย แม้เวลาทุกข์ยาก หรือลำบาก ก็มีคนเป็นเพื่อน ถึงแม้วันข้างหน้า อาจเกิดอุบัติเหตุใดๆ ในชีวิต อย่างน้อง เรายังมีคนอยู่ข้างกายที่เราทำอะไรให้เค้า เค้าทำอะไรให้เราก็พอแล้ว เงินมันไม่ใช่ทุกอย่างนะคะ ดีออกนะ  ถ้าได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ดีที่สุดสำหรับเราจริงๆ จากคุณ : sastress - [ 3 มิ.ย. 52 20:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เลือกข้อ 1 ค่ะ อ่านดูแล้ว เหมือนยังห่วงชีวิตโสด อยู่เป็นโสดไปเถอะค่ะ จากคุณ : ~~FrOm NoW oN~~ - [ 3 มิ.ย. 52 23:32:13 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อ่านที่คุณมาตอบเราก็เข้าใจความคิดคุณนะ แต่ว่าคุณก็ยังคงย้ำว่าบ้านที่สะดวกสบายนั้นคุณเพียงพอที่จะอยู่ตัวคนเดียว ซึ่งจริง ๆ แล้วคุณก็เอาแฟนมาอยู่ด้วยกันได้นี่ ยังไม่พร้อมมีลูกก็เก็บเงินไปก่อนได้ ไม่ใช่ว่าแต่งงานแล้วต้องมีลูกเลยซะเมื่อไหร่ หรือหาบ้านที่มาเจอกันตรงกลางได้ ไกลที่ทำงานหน่อย แต่ไม่ลำบากเดินทางจนเกินไปนัก และราคาต่ำลงก็น่าจะมี ถ้าเอาความพร้อมจะมีครอบครัวเป็นที่ตั้ง ก็จะมีทางออกเสมอแหละค่ะ คำถามจะไม่ออกมาอย่างนี้แน่นอน อ่านแล้วก็ยังรู้สึกว่าคุณเลือกข้อ 1 ไว้ในใจแล้วนั่นแหละ เราแต่งงานมา อยู่บ้านแฟน ลำบากกว่าอยู่บ้านตัวเอง บ้านแฟนก็ไกลเมือง เดินทางไปไหนมาไหนก็ไกลต้องใช้รถ ตอนอยู่บ้านตัวเองเราเป็นคุณหนู พ่อแม่เอาอกเอาใจ หน้าที่ในบ้านก็แค่ซักผ้า บ้านไม่ต้องถู ผ้าไม่ต้องรีด กับข้าวทำเมื่ออยากทำ ว่าง ๆ ก็ทำขนม มาบ้านแฟนเราต้องทำทุกอย่าง ยกเว้นทำกับข้าว โชคดีที่พ่อแม่แฟนดีกับเรา ก็อยู่กันอบอุ่นเหมือนเราได้ครอบครัวใหม่ แต่งงานมาก็ช่วยกันทำมาหากิน ตอนนี้ดาวน์บ้านแล้ว (จะผ่อนรอดรึเปล่าไม่รู้ แต่ชีวิตมันก็มีจังหวะของมัน) กลายเป็นว่าแต่งมาแล้วไม่ได้สบายนะ แต่ชีวิตดีกว่าเดิม เงินเก็บยังไม่มี ก็เลยยังไม่มีลูก คิดจะแต่งงานก็ต้องพร้อมสู้ แต่ในเมื่อคุณยังอยากอยู่คนเดียว อันนีก็ต้องพิจารณาเอาเองค่ะ จะรอว่ารวยแล้วค่อยแต่ง รวยแล้วค่อยมีลูก เมื่อไหร่ล่ะถึงจะเรียกว่าพอ? เมื่อไหร่ล่ะถึงจะบอกได้ว่านี่รวยแล้ว? แล้วพอรวยแล้วจริง ๆ มองไปรอบข้าง เหลือตัวคนเดียว แล้วพอใจไหม? จากคุณ : แบ๊น แบน - [ 4 มิ.ย. 52 00:52:28 ]

ความคิดเห็นที่ 41 แฟนเราเลือกข้อที่ 1 รอมีบ้านใกล้ที่ทำงานแล้วค่อยแต่ง ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรนะ  เค้าตัดสินใจแบบนี้  เพราะเราอึงไปนาน ดูเหมือนจะดีนะว่ามีบ้านพร้อมแล้วค่อยแต่ง  แต่มันแย่ตรงที่เงินเก็บมันไปหมดกับบ้าน  แล้วจะได้แต่งกันเมื่อไหร่ก็ไม่รู้  เซ็งมากที่เค้าเลือกแต่งกับบ้านมากกว่าเรา เพราะสำหรับเรานะเลือกที่จะแต่งแล้วค่อยมีบ้านเล็กๆแล้วช่วยๆ กันผ่อน  แต่เค้าไม่ยอม    บางคนอาจจะว่าได้ว่าเราคงอยากแต่งมาก ก็มีบ้างอายุก็ใช่น้อยกันแล้วก็30 ต้น ๆ กันแล้ว จากคุณ : ไข่เจียวแหนม - [ 4 มิ.ย. 52 11:29:20 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คุณไข่เจียวแหนม ชีวิตคุณเหมือนผมเลย แฟนผมประกาศไม่มีบ้านก็ไม่แต่ง พอซื้อบ้านตังก็หมด ไม่มีพอจัดงานแต่ง ผมอยากแต่งงานนนนนน จากคุณ : OUP - [ 5 มิ.ย. 52 00:54:58 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เออ ไม่รู้ว่าคุณ ๆ รู้จักคำว่ารักจริงไหม๊ คือถ้าเราสองคนต่างรักกันจริง ปัญหาอุปสรรคทุกอย่างมันก็แก้ได้หมด แต่นี่เรารักตัวเองมากกว่ารักคนอื่น มันมีความเห็นแก่ตัวแฝงอยู่ อย่างนี้ก้อไม่ควรจะอยู่ด้วยกันหรอกค่ะ เพราะถ้ามีความลำบากขึ้นมาจะโทษกันปล่าว ๆ การแต่งงานคือการเสียสละความสุขส่วนตัวอยู่แล้ว ต่างคนต่างเสียสละเพื่อที่จะได้อยู่ร่วมกันบนพื้นฐานคนละครึ่งทาง ถ้าต้องลำบากหรือมีสุขก็ต้องรับด้วยกันทั้งสองคน จากคุณ : tugsinat - [ 5 มิ.ย. 52 10:16:25 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คห.ที่38 ทำเราซึ้งมากค่ะ โอ้โห..นั่นมัน รักแท้ เลยยยนะนั่น จากคุณ : MaRie_ThE_cAt* - [ 9 มิ.ย. 52 13:20:55 ]