ความคิดเห็นที่ 1 พอดีผมติดตั้งแอร์ใหม่เหมือนกัน เลยถามช่างดู ช่างก็เลยอธิบายว่า มันมีน้ำยาแอร์อยู่ใน CDU ครับ พอประกอบ Fan เข้าไป ก็จะใช้น้ำยาไล่อากาศออกทางท่อ ที่ต่อเข้า CDU พอซักพักจะมีละอองน้ำมันออกมาแสดงว่า น้ำยาได้ไล่อากาศจาก Fan มาครบจนถึง CDU แล้ว ช่างก็จะปิดวาล์ว แล้วค่อยเติมน้ำยาแอร์ เข้าไปอีกครั้ง ให้ครบตามแรงดันที่ต้องการ เลยไม่ต้องแว๊ก ยกเว้นแต่การย้ายแอร์ไปติดตั้งที่ใหม่ครับที่ต้องแว๊ก ไม่รู้จะช่วยให้ จขกท สบายใจหรือเปล่าครับ คือว่า งูงูปลาปลา ^_^ จากคุณ : apiwatt - [ 9 มิ.ย. 52 23:59:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 -คุณ จขกท.คงเข้าใจผิดบางเรื่อง คืออย่างงี้ครับ สำหรับแอร์แบรนด์เนม ที่มีเซอร์วิสวาวล์(ที่ตัวคอนเด็นซิ่งนอกห้อง) ปกติเขามีน้ำยาแอร์อัดอยู่ภายในนั้นแล้วครับ แอร์ติดผนังที่มีสายสำเร็จรูปก็เช่นกัน เขาอัดน้ำยาแอร์ใว้แล้วครับ  อยากให้ จขกท.จดชื่อรุ่นและแบรนด์แล้วโทรถามผู้ผลิต/จำหน่ายเลยผมว่า ดีที่สุด ปกติช่า่งติดตั้ง  จะไม่ต้องแว๊คคั้มหรือทำสูญญากาศ ระบบครับ เพียงเดินท่อน้ำยาแอร์ครบวงจร ก็เปิดวาวล์น้ำยาออกด้านนึงแล้วมาไล่อากาศ ออก นอกจากคุณซื้อแอร์... แบบที่ไม่มีเซอร์วิสวาวล์ หรือแอร์ประกอบทั่วไปที่ราคาต่ำ ต้องทำสูญญากาศก่อนครับ แล้วจึงค่อยเติมน้ำยาแอร์ภายหลัง ** อนึ่ง ปกติหากระบบน้ำยาแอร์สมบูรณ์ไม่รั่ว ไม่ซึม หรือตัวกรองน้ำยาไม่ตันชื้น,ตันน้ำมัน  ปกติไม่ต้องเติมน้ำยาแอร์ เหมือนตู้เย็น เหมือนแอร์รถยนต์ ** จากคุณ : Blue (Blue8822) - [ 10 มิ.ย. 52 00:13:26 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สมัยก่อนแอร์มิตซูบิชิใช้ท่อน้ำยาที่มีข้อต่อที่เรียกว่า Quick Coupling เป็นท่อน้ำยาที่เติมน้ำยาในท่อด้วย เมื่อติดตั้งจะมีเดือยแทงทะลุฝาปิดท่อน้ำยา ใช้ได้เลย ปัจจุบันนี้ท่อน้ำยาที่ให้มากับเครื่องไม่มีน้ำยาให้ เป็นท่อธรรมดาหุ้มฉนวน เมื่อต่อท่อน้ำยาแล้วควรจะ ทำการ Vacuum เพื่อเอาอากาศและ "ความชื้น" ออกจากท่อน้ำยา แล้วจึงปล่อยน้ำยาเข้าท่อ การใช้น้ำยาไล่อากาศอาจจะไล่ได้ไม่หมด โดยเฉพาะความชื้นออกยาก ขึ้นอยู่กับดวงด้วยแล้วละครับ และถ้าในระบบติดตั้ง Dryer ไว้ด้วยก็คงช่วยดูดซับความชื้นได้ครับ จากคุณ : นายสันทัด - [ 10 มิ.ย. 52 00:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าช่างมาตัดท่อเพื่อให้ได้ความยาวตามพื้นที่ และแผงคอยล์เย็นปลายเปิดทั้งสองข้าง ต้องทำการ vacc เสมอ ช่างมักง่ายมักบอกว่าน้ำยาในคอมที่เขาอัดมาแล้วเขาเผื่อไว้ให้ไล่อากาศในท่อและในคอยล์เย็นแล้ว โดยการประกอบแล้วแล้วน้ำยาจากคอมไล่อากาศเข้าไปที่คอยล์ จนกว่าอากศจะออกหมด ช่างบ้านเราเป็นอย่างนี้ ช่างซ่อมรถตามอู่เหมือนกัน ออกจากท้องไร่ท้องนามาเป็นใช้แรงงาน เป็นช่าง จำผิดๆถูกๆ เมื่อไรจะเหมือนเมืองนอกเสียที ไม่ว่าช่างอะไรที่ประกอบอาชีพทำมาหากิน ต้องผ่านการทดสอบ มีใบประกาศ และมีการ refresh ในฝีมือประจำปี การไล่อากาศออกจากคอยล์เย็น เป็นการกระที่ผิดอย่างแรง เพราะว่าหยดน้ำจะเกิดกลั่นตัวในระบบเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากความดันที่ออกจากคอมไปที่ท่อ เกิดความดันอย่างเร็ว อุณหภูมิลดลง จนเย็นในท่อ อากาศที่มีความชื้นจะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำเกาะที่ผิวท่อ การไล่เป็นการทำให้เจือจางต้องระบายช้าๆนานๆ ทำอย่างนั้นไม่ได้เช่นกันเพราะน้ำยามนคอมหมดเสียก่อน จากคุณ : ควนโส - [ 10 มิ.ย. 52 07:25:33 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แอร์รุ่นปัจจุบัน มีการอัดน้ำยาเข้ามาในคอมเพรสเซอร์เรียบร้อยแล้วนะครับ ซึ่งสาเหตุที่ผู้ผลิตได้อัดน้ำยาเข้ามา ปัจจัยหลักๆคือในเรื่องของความสะดวก ในการติดตั้ง ช่วยลดเวลาที่จะต้องเอามาทำสูญญากาศท่อ และช่วยรักษา คอมเพรสเซอร์เอาไว้ ซึ่งน้ำยาที่ถูกอัดมาในคอมเพรสเซอร์ จะถูขันปิดกัน การรั่วไหลด้วยเซอร์วิทวาล์ว ซึ่งชุดแอร์ส่วนใหญ่ก็มักจะมีท่อทองแดงแถม มาความยาวอยู่ที่ประมาณ4-5เมตร ปลายท่อทั้งสองข้างมีการบานท่อ2ชั้น และใส่แฟลร์นัตสำหรับขันต่อเข้ากับ เซอร์วิทวาล์วทั้งหัวและท้ายของท่อ ท่อทองแดงในส่วนที่เชื่อมต่อกับระบบ คอล์ยเย็น จะมีการใส่ยูเนียลเพื่อใช้ขันต่อกับแฟลร์นัต ซึ่งหากไม่มีการตัด-ต่อ ท่อแอร์เพิ่มจากขนาดที่เขาให้มา ช่างแอร์จะสามารถเชื่อมต่อท่อแอร์ในระบบ ได้โดยไม่ต้องมีการเชื่อมท่อ ช่วยให้ประหยัดเวลาในการติดตั้ง และหากไม่ทำน้ำยาที่เขาแถมมาในคอมเพรสเซอร์รั่วหมด ก็ไม่ต้องเติ่มน้ำยา เพิ่มในระบบ เพียงแต่เดินท่อในระบบให้เสร็จ ขันจุดเชื่อมต่อให้แน่น แล้วต่อสาย ของเกจวัดที่เซอร์วิทวาล์ว ทำการวัดระดับน้ำยาในระบบ จากนั้นต่อสายเกจ เข้ากับเซอร์วิทวาล์วทาดูดและทางอัด แล้วทำการหมุนวาล์วที่เกจให้เป็นจังหวะ เพื่อให้น้ำยาไล่อากาศ เมื่อน้ำยาแอร์เดินทางออกมาจากเกจ เป็นอันว่าอากาศ ถูกไล้ออกมาหมดแล้ว เป็นอันเสร็จพิธีครับ ไม่ต้องแว๊กท่อในกรณีนี้ การแว๊กท่อใช้ในกรณีที่ย้ายแอร์เก่ามาติดใหม่ โดยที่ไม่ได้ทำอารเก็บน้ำยาเอาไว้ หรือในกรณีที่ไม่มีการบรรจุน้ำยาในคอมเพรสเซอร์มาให้ ในการจะเติมน้ำยา ใหม่ต้องแว๊กทุกครั้ง หรือกรณีที่เดินท่อเพิ่มเติม และไม่มันใจว่าท่อที่นำมาใช้นอก เหนือจากท่อที่มีการแพคอย่างดีจากโรงงานมีความชื่นหรือสิ่งสกปรกหรือไม่ หากไม่แน่ใจต้องทำการแว๊ก และการแว๊กยังต้องใช้ในกรณีอื่นๆที่ไม่ได้กล่าวมา ตามรูปแบบของงานครับ ในส่วนกรณีที่ไม่แว๊กท่อหรือไม่ไล่น้ำยา มีอากาศอยู่ในระบบ ขอบอกเลยว่าคอมไม่ได้ฟังเร็วหรอกครับ แต่มันพังเลยต่างหาก เนื่องจากใน อากาศมีความชื้น(หรือละอองน้ำที่เรามองไม่เห็น) เมื่อน้ำหรือความชื้นที่ว่านี้ ไปเจอกับน้ำยา จะเกิดการทำปฏิกิริยา และไปทำลายฉนวนของขดลวดใน คอมเพรสเซอร์ ทำให้คอมเพรสเซอร์ลัดวงจรและเสียในที่สุด การไล่น้ำยาในระบบแอร์ปัจจุบันที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ถือว่าเป็นที่ยอมรับนะครับ (ถ้าทำอย่างถูกต้อง) ไปถามช่างแอร์ที่ฝีมือดีๆดูก็ได้ ส่วนตัวผมเป็นช่างไฟ ถนัดในงานติดตั้งระบบไฟฟ้า แต่เรื่องเครื่องปรับอากาศผมก็ทำได้ เพราะ เคยรับงานและออกไปทำกับอาจารย์ที่วิทยาลัยเป็นประจำก็พอจะมีความ ชำนาญด้านเครื่องปรับอากาศในบ้านอยู่ และก็รู้ดีในเรื่องทฤษฎี ถึงเอามา อธิบายได้ ท่อทองแดงของที่แถมมาส่วนใหญ่ จะมีสารดูดความชื้นใสมาในบรรจุภัณฑ์ ของท่อ และมีการปิดปลายทั้ง2ข้างของท่อด้วยจุกพลาสติกป้องกันอากาศ และความชื้น ถ้ามีครบแบบนี้ ไม่ต้องแว๊กก็ได้ครับ และอีกอย่างการไล่น้ำยานะครับ ทำโดยช่วงเวลาสั้นๆมาก เพราะแก๊สที่มี แรงดันสูงจะเคลื่อนที่เร็วมา แป๊บเดียวก็ไล่ออกหมด ที่ผิวท่อยังไม่ทันมัการ กลั่นตั้วเกิดขึ้นเลย อากาศในท่อก็ถูกผลักออกแบบเร็วมาก และอีกอย่าง จำไว้ว่า น้ำยาแอร์ ในสถานะของแก๊ส จะไม่สามารถระเหยตัวรวดเร็วจนเกิด ความเย็นได้ ต้องอยู่ในสถานะของเหลว(กรณีคว่ำถัง)ถึงจะสามารถระเหย อย่างรวดเร็วจนเย็นจัดและควบแน่นกับความชื้นในกากาศได้ ซึ่งน้ำยาใน ระบบคอมเพรสเซอร์ที่เราเติมเข้าไปจะอยู่ในรูปของแก๊ส เป็นของเหลวไม่ได้ เพราะหากการเติมน้ำยาโดยการคว่ำถังให้น้ำยาเหลวไหลเข้าสู่คอมเพรสเซอร์ จะทำให้ลิ้นของคอมเพรสเซอร์เสีย ดังนั้นน้ำยาที่ไล่ออกมาเป็นแก๊สไม่ได้ เป็นของเหลว ทำให้ไม่เกิดการควบแน่กับความชื้นในอากาศ ไม่มีการเกิด ละอองน้ำในท่อและนอกท่อขณะไล่น้ำยา เหมือนที่บางคนที่ไม่รู้แล้วมาว่า ขอความกรุณาบางท่านไม่ควรเหมารวมดูถูกช่าง เพราะในประเทศไทย มิได้ มีช่างเกรดเดียว ช่างบางรายไม่ได้เรียนอาศัยเป็นลูกมือเขาจนทำได้ อันนั้น ไม่รู้เรื่องทฤษฎี กับช่างที่เรียนโดยตรงมา ปวช. ปวส. ปริญญา อันนั้นมีความ แน่นทั้งเรื่องทฤษฎีและการปฏิบัติสามารถอธิบายและปฏิบัติของจริงได้ แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 52 17:23:18 จากคุณ : KanichiKoong - [ 10 มิ.ย. 52 10:57:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 กลับมายืนยันอีกครั้งนะครับ เรื่องการ Vacuum น้ำยาที่อัดมาในคอนเดนซิ่งยูนิตมีมากพอ แต่ในท่อน้ำยา และในคอยล์เย็นไม่มีน้ำยาอัดมาให้ ในท่อน้ำยาและคอยล์เย็นมีแต่อากาศและความชื้นในอากาศ การไล่น้ำยาต้องไล่จาก Service Valve ของคอนเดนซิ่งยูนิตผ่านคอยล์เย็นแล้วกลับมาออกที่คอนเดนซิ่งยูนิต ความชื้นในท่อและในคอยล์เย็น เป็นความชื้น เป็นไอน้ำ ไม่ใช่น้ำ ไม่ได้เกิดจากการควบแน่นครับ ยืนยันว่า ควร Vacuum ช่างที่ไม่ Vacuum แต่ใช้วิธีไล่ด้วยน้ำยา เพราะรับงานมาถูก ไม่อยากเสียเวลาครับ จากคุณ : นายสันทัด - [ 10 มิ.ย. 52 11:36:39 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อันนี้เป็นคำถาม-คำตอบจากมิตซู กันยง  เรื่องการทำสุญญากาศ http://www.mitsubishi-kyw.co.th/service_faq_cat_sub.php?id=5 จากคุณ : สามช่า - [ 10 มิ.ย. 52 14:25:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 i just installed air-con unit from Phromd..... they did not do vacuum for me either. Technician said...'no need, brand new unit'. now it is not cold!!!! จากคุณ : orbkk4555 (orbkk4555) - [ 10 มิ.ย. 52 17:07:00 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ส่วนมากช่างก็รู้เำพราะดูลูกพี่มาอีกทีนั่นแหละครับ   ผมเจอที่บ้านผมนี่ต่อไฟสองเส้นยังงงเลย กลับขั้วซะงั้นแหละ ไว้ใจไม่ค่อยได้หรอกครับ  ยิ่งพวกที่ต่อข้างนอกคนข้างในคน   สื่อสารกันไม่ดีงานก็ออกมามั่วได้ จากคุณ : Scarlet Monastery - [ 10 มิ.ย. 52 19:40:11 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณครับ จากคุณ : สุราลำพอง - [ 11 มิ.ย. 52 20:45:15 ]

ความคิดเห็นที่ 11 นัด บ่ายโมง มา 5 โมงเย็น เป็นผมไล่กลับร้านไปแล้ว ********ร้านรุ่งโรจน์เอนจิเนียริ่ง****************** จะแก้ตัวยังไงครับ จากคุณ : เซ็งแทน - [ 11 มิ.ย. 52 21:18:45 A:124.121.112.45 X: TicketID:195526 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ที่ทุกคนพูดมาจริงครับ เทคนิคช่างแต่ละคนไม่เหมือนกันครับไม่ว่ารุ่นเก่าใหม่ แอร์เย็นเป็นใช้ใด้ จากคุณ : 0h - [ 13 มิ.ย. 52 22:27:15 A:125.24.84.127 X: TicketID:220065 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ดูที่คู่มือการติดตั้งของแอร์ยี่ห้อนั้นๆ เป็นตัวอ้างอิงครับ ผมไม่เคยเห็นคู่มือการติดตั้งแอร์ยี่ห้อไหนที่บอกว่า ไม่จำเป็นต้องทำการ Vac ก่อนการเปิดน้ำยาเข้าระบบ โดยเฉพาะแอร์ที่ใช้น้ำยาตัว R410a ยิ่งมีความจำเป็นมากที่จะต้อง Vac ระบบให้ดี และมีเขียนเตือนในคู่มือการติดตั้งเลยครับว่า ห้ามใช้น้ำยาในการไล่อากาศออกจากระบบ(ของ Toshiba Inverter) เนื่องจากน้ำยาตัวนี้ เป็นน้ำยาที่มีผสมของตัวสารเคมีสองชนิด(ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ถ้าเกิดน้ำยารั่วไปจะทำให้สัดส่วนของส่วนผสมเปลี่ยนแปลงไป จะส่งผลต่อให้คุณสมบัติเพี้ยนไป ตอนเติมน้ำยาตัวนี้ยังต้องเติดในสถานะของเหลวเลย เพื่อป้องกันไม่ให้สัดส่วนของส่วนผสมเพี้ยนไป ยังไงผมก็เห็นว่าต้อง Vac ทุกกรณีครับ(Vac ไปไม่เสียอะไรทำให้ระบบสมบูรณ์ขึ้น เสียอย่างเดียวคือเวลา และความสะดวกสบายของช่าง) จากคุณ : Wit_Aood - [ 14 มิ.ย. 52 01:13:53 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ที่บ้านผมติดของ มิตซูกันยง  ร้านในพันทิบนี่แหละ(ใครสนใจหลังไมค์ได้ครับ) ติดทั้งหมด 4 ตัว  ช่าง VAC ทั้ง 4 ตัวเลย แต่ไม่ถึง 30 นาทีนะ  แค่ประมาณ 15-20 นาทีเอง งานเค้าละเอียดมากๆเลย =================== เพื่อนโทรมาปรึกษาเรื่องติดแอร์เราก็แนะนำบอกให้ช่าง VAC ด้วยนะอย่าลืมนะ เราเห็นว่าช่างเพื่อนมันมาเย็นแล้ว(คือโทรหาเราตอนเที่ยง แล้วมันได้เวลาติดตอน 4 โมงเย็น) ก็กลัวช่างมันลักไก่ ขี้เกียจกลับดึก พอเพื่อนติดตั้งเสร็จเราโทรกลับไปคุยมันบอกว่าช่างไม่ VAC ให้ ช่างบอกอีกว่ารุ่นใหม่ใหม่ไม่ต้องทำ   ทั้งที่รุ่น/ยี่ห้อเดียวกับเรา  เราก็ เหรอๆเออ ไม่รู้ดิเราไม่ใช่ช่าง อุตส่าห์เตือนแล้ว ไม่ยอมเชื่อ แค่มาหาข้อมูลในพันธ์ทิพย์แล้วส่วนใหญ่ก็บอกว่าจำเป็น เมื่อไม่นานมานี้ที่บ้านเราต้องติดแอร์เพิ่มอีกตัว ช่างมาเราก็ถามเค้าเลยพร้อมกับเล่าให้ฟังเรื่องของเพื่อนเรา เค้าก็บอกว่าในคู่มือกับที่ข้างคอยย์ร้อนมีเขียนเอาไว้ชัดเจนว่า "ต้องทำให้ระบบเป็นสุญญากาศและห้ามทำให้น้ำยาแอร์ออกจากระบบโดยเด็ดขาด" ตอนนี้ก็เลยบอกมันว่าเดี๋ยวใช้ไปนานๆถ้ามีอะไรก็เอามาแชร์ความรู้กัน เพราะติดพร้อมกัน จากคุณ : art8new - [ 14 มิ.ย. 52 16:58:56 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ซื้อในเว็ป pantipชื่อร้านรุ่งโรจน์เอนจิเนียริ่ง คุ้นๆหูไม่ทราบว่าเป็นร้านเดียวกัน กับร้านพรหมดวงหรือปล่าว หรือว่าร้านแอร์บ้านดอทคอม เห็นมีชือร้านหลายชื่อ แต่ลงที่อยู่เดียวกันเบอร์โทรเหมือนกัน. ช่างที่ไปติดตั้งแล้วไม่ทำแว็คคั่มให้ เป็นช่างที่มักง่ายที่สุด ฝากถึงคุณ (BLUE8822) ถ้าไม่มีความรู้เกี่ยวกับแอร์หรือพอรู้งูๆปลาหรือว่าไปฟังคนอื่นพูดมา อย่ามาแสดงความคิดเห็น ในกระทู้อีกเลย คนที่ไม่รู้อาจจะหลงผิดเป็นได้ จากคุณ : TA - [ วันอาสาฬหบูชา 19:48:11 A:124.121.110.191 X: TicketID:223140 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ถึงคุณ สุราลำพองเจ้าของกระทู้ ให้โทรตามช่างที่ติดตั้ง ให้มาปล่อยน้ำยาทิ้งแล้วทำแว็คคั่มใหม่ อย่างน้อย 20นาที แล้วให้เติมน้ำยาเข้าไปใหม่ ก่อนปล่อยออกให้ช่างวัดน้ำยาก่อนว่ากี่ปอนด์ เติมใหม่ก็ให้เท่าเดิม หรือไม่ก็ดูตามในคู่มือว่าแอร์รุ่นนี้เติมน้ำยาเท่าไหร่ เอากิโลมาชั่งดูเลย ต่อไปทำให้คนอื่นจะได้ไม่มักง่าย จากคุณ : TA - [ วันอาสาฬหบูชา 20:01:09 A:124.121.110.191 X: TicketID:223140 ]