ความคิดเห็นที่ 1 ลองตรวจสอบสัญญาก่อนค่ะ ตอนโอนบ้านคุณเซ็นต์สัญญากับแบงค์ด้วยหรือเปล่าค่ะ กู้ร่วม บางแบงค์เค้าระบุเลยว่า ถ้าสมรสไม่จดทะเบียนต้องถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน แต่บางแบงค์ก็ไม่ซีเรียส แล้วแต่ลูกค้าต้องการ จากคุณ : ROSEWOOD - [ 10 มิ.ย. 52 06:23:02 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พูดถึงขั้นกฎหมาย ถึงคุณจะไม่มีสิทธิ์แต่ลูกมีสิทธิ์อยู่แล้วคะ ขอเล่าเรื่องให้ฟังย่อๆค่ะ ได้ขายบ้านเก่าไป บ้านเป็นชื่อแฟน แฟนไปโอนที่ที่ดิน เจ้าหน้าที่บอกว่าคุณสมรสหรือยัง แฟนบอกว่า สมรสมีบุตรด้วยกันแต่ไม่ได้จดทะเบียน เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้ามีลูกด้วยกันถึงไม่ได้เป็นเจ้าบ้าน แต่ภรรยายินยอมให้ขายบ้านแน่นะ จะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง แสดงว่าถ้ามีลูกด้วยกันก็มีผลทางกฎหมายแน่นอนคะ รอผู้รู้จริงมาตอบอีกทีนะค่ะ อันนี้เป็นจากประสบการณ์เฉยๆค่ะ อ้อ.ลืมบอกไปค่ะ อย่าเครียดค่ะ จะส่งผลทำให้เจ้าตัวเล็กเลี้ยงยากคะ...ใจเย็นๆค่ะ.เป็นกำลังใจให้ แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 52 09:21:49 จากคุณ : bitoeiyan - [ 10 มิ.ย. 52 07:27:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 น่าจะเป็นเจ้าของร่วมจะดีกว่านะครับ บอกแฟนไปเลยครับ ว่าเราอยากเป็นเจ้าของร่วมด้วยเพราะกู้เงินด้วยกัน ^_^ จากคุณ : apiwatt - [ 10 มิ.ย. 52 07:34:35 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คิดว่าตอนนี้อย่าพึ่งไปพูดเรื่องกฎหมายอะไรเลยดีกว่ามั๊ยค่ะ คิดว่าปัญหาน่าจะมาจากความไม่เข้าใจหรือไม่พอใจกันระหว่างคุณกับคุณแม่สามี พูดกับคุณสามีให้รู้เรื่องเข้าใจตรงกันก่อยดีกว่ามั๊ย บางทีในขณะนี้คุณสามียังไม่ได้คิดอะไรถึงขั้นต้องพึ่งกฎหมายอะไรหรอกค่ะ แต่ว่าก็เข้าใจนะคะ คือว่ามีลูกก็อยากจะได้ความมั่นคงเป็นธรรมดา แล้วตอนนี้ก็ท้องใกล้คลอดด้วยก็อาจจะเป็นเรื่องโฮโมนด้วยรึเปล่าค่ะ ที่ทำให้เครียดมาก แล้วก็คิดมากหนะคะ ใจเย็น ๆ นะคะ ค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ จากันค่ะ อะไรที่ยังไม่ได้พูดออกไปก็อยู่กันตัวเรา แต่ถ้าพูดออกไปแล้วโดยไม่มีสติอาจจะต้องมานั่นเสียใจภายหลังได้นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : ok เจอกัน - [ 10 มิ.ย. 52 07:42:47 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ตามกฎหมาย ผู้กู้ร่วมเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และจะมีชื่อผู้กู้ร่วมเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินด้วย จากคุณ : sangkomd2003 - [ 10 มิ.ย. 52 07:43:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับผม แต่งงานมาแล้ว ประมาณ 8-9 ปี พอจะคลอดลูกคนแรก ก็ไปจดทะเบียน ก่อนหน้านั้น ทรัพย์สินก็เป็นชื่อของแฟนหมด (เพื่อความสบายใจของ แฟน) อีกอย่างเธอจะเป็นแม่ของลูกผม แม่ของลูกผม เปลี่ยนไม่ได้ แต่แฟนเปลี่ยนได้ตลอด ตอนนี้คุณอาจมีปัญหาเรื่องฮอโมน เลยคิดมาก จนฟุ้งซ่าน แต่ผมว่าแฟนคนเป็นคนมองการไกล และเขารักคุณ คุณคิดดู ก่อนหน้า 1 อาทิตย์ ที่คุณจะคลอดลูก และหลังจากนั้น ผมถามว่า ใครจะเป็นคนรับใช้คุณ? รับรองไม่ใช่สามีคุณแน่ คนที่จะมาอยู่ในบ้านหลังนี้ นั่นแหละครับ คุณต้องนอนให้นมลูก เพราะลูกจะตื่นตลอดทุกๆ 2 ชม. คุณอ่อนเพลีย ต้องนอนตลอด อ้อ ลืมไป ยกเว้นต้องกิน กับเข้าสวม ใครจะทำกับข้าว หุงข้าว ดูความเรียบร้อยภายในบ้าน ซักเสื้อผ้า และก็ ของเจ้าตัวเล็กที่เพิ่งคลอดด้วย แล้วก็ตอนคุณหลับ (เพลียมากจนหลับ) แต่เจ้าตัวเล็กตื่น ใครจะมาอุ้ม หรือใช้คำปรึกษาเรื่องการอุ้ม อาบน้ำ หรือกิจกรรมต่างๆ ของเจ้าตัวเล็ก ก็แม่ของสามี  ขี้เกียจบรรยาย ที่ผมเล่าให้ฟังเพราะตอนลูกคนแรก ผมต้องหอบภรรยาผมมาอยู่กรุงเทพฯ อยู่กับแม่ผม แรกๆ เธอก็ว่าแปลกๆ แต่พอผ่านไป 1 อาทิตย์ เธอบอกผมว่า พอครบ 3 เดือนตามกำหนดลา แล้วต้องไปอยูชลบุรี ขอเอาแม่ของผมไปอยู่ด้วยได้ไหม? ผมก็ได้แต่ขำในใจ จากคุณ : som13579 - [ 10 มิ.ย. 52 08:14:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผม่วาอย่าเพิ่งไปคิดฟุ้งซ่านเลยครับ มันไม่ดีต่อลูกในท้อง ถ้าเปลี่ยนทัศนะคติเข้าหากันนิดหน่อยจะเป็นผลดีกว่านะ จากคุณ : @Momotaro@ - [ 10 มิ.ย. 52 08:40:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ใส่ชื่อเป็นผู้กู้ร่วม แล้วออกค่าผ่อนด้วยรึเปล่าคะ ถ้าช่วยผ่อนด้วย ก็ต้องมีสิทธิ์ครึ่งนึง ในความรู้สึกอยู่แล้วไม่ได้แค่ขอยืมชื่อเฉย ๆ บอกเค้าไปตรง ๆ ละค่ะ ว่าจะพาแม่หรือพ่อ หรือน้อง ของเรามาอยู่ด้วยอีกคน  ...เสมอภาค จากคุณ : ยูซ่า@ยากูซ่า - [ 10 มิ.ย. 52 09:20:48 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อย่าเพิ่งไปคิดมากนะ ทุกอย่างต้องคุยกันนะ ต้องคุยกันให้เข้าใจให้ได้ อย่าเพิ่งคิดไปล่วงหน้า ว่าจะเลิก จะร้างกัน ที่สำคัญอย่าเครียดค่ะ แต่ดีแล้วนะคะ ที่เอามาระบายในนี้ ไม่มีใครก็มาระบายได้ กำลังท้องนะคะ อย่าไปซีเรียส มีไรก็มาเล่าสู่กันฟังอีกนะคะ เราเข้าใจนะ ตอนท้อง อารมณ์แปรปรวนสุดๆ จากคุณ : PaoTMTF - [ 10 มิ.ย. 52 09:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 @6 เห้นภาพเลยฮะ ^^ จากคุณ : vn, man - [ 10 มิ.ย. 52 09:43:38 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คนที่รัก แม่ เป็น คนที่ควรวางใจได้เลยว่า เขาจะรัก คุณและลูก จริงๆ แม่ เขายังดูแลได้ ขนาดนั้น น่าจะ ดีใจมากกว่านะ เรื่อง สิทธิ์ คนที่ลงชื่กู้ร่วมมีสิทธิ์ อยู่แล้ว จากคุณ : ก้นกบ - [ 10 มิ.ย. 52 09:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 12 #5 ไม่ใช่ครับ ผู้กู้ร่วม เป็นแค่ลูกหนี้ร่วม ไม่ใช่เจ้าของร่วม ....... คือมีแต่หน้าที่ ไม่มีสิทธิ เพียงแต่บาง ธ. บังคับให้ผู้กู้ร่วมต้องมีชื่อในกรรมสิทธิ์ร่วมด้วย อันนี้ก็จะได้เป็นเจ้าของร่วมด้วย ....สำคัญอยู่ที่ตอนรับโอนบ้าน ได้เอาชื่อคุณใส่ในโฉนดเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมด้วยหรือปล่าว เท่านั้นเอง ......ตอบเฉพาะในแง่มุม กม.นะ เรื่องความสัมพันธ์ ไปว่ากันเอาเอง จากคุณ : จินหยง - [ 10 มิ.ย. 52 09:54:56 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุยกันครับ  แอบซีเรียสเรื่องแมว น่ะ จะปล่อยเขาไว้ได้ไง เรารักเราก็เลี้ยงของเราไปสิครับ จากคุณ : ฉันมันตัวเปล่า - [ 10 มิ.ย. 52 09:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เอ่อ คือจะบอกว่า ดิฉันกับแฟน กู้ร่วมกันตั้งแต่ก่อนแต่ง ตัวเองไม่เคยคิด แบบที่ จขกท คิด เพราะว่า  ยังงัย ตอนทำสัญญา เราก็ต้องเซ็นต์ เป็นหนี้ด้วย ตอน ครบ กำหนด  โอนกลับมา ยังงัย เราก้อต้องเซ็นต์ ด้วย ว่าบ้านจะชื่อใคร แม้ว่าจะกู้ร่วม แต่ก็ เป็นหนี้ร่วมกันตามกฎหมายนะคะ ไม่เกี่ยว ว่าคุณจะ จดทะเบียนหรือไม่   แต่เราว่า  ทางที่ดี คุณอย่าคิดเผื่อที่จะเลิก ดีไม๊คะ เคยได้ยิน ไม๊คะ  ใจเป็นนาย  กายเป็นบ่าว คุณยิ่งคิดถึงสิ่งที่ไม่ดี  มานก็จะมีแต่เรื่องไม่ดี เรื่องแม่สามี  ดิฉัน ก็เข้าใจ  จขกท นะคะ แต่เราสลับกัน ตรงที่  แม่ดิฉัน มาอยู่กับ ดิฉัน  บางที ก็เกรงใจแฟน แต่ ยังงัย เค้าก็ต้องยอมรับ  ว่านี่แม่เรา ดิฉัน อยากให้คุณทำใจยอมรับ ว่า นี่ก็แม่ของ คนที่คุณรัก นะคะ ถ้าคุณ ทำใจให้รัก เค้าไม่ได้  จะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร เรื่อง บ้าน เรื่อง ห้อง  ลองคุยกับแฟน ก่อนดีไม๊คะ   เรา คงไม่ได้มีกำลังซื้อบ้านบ่อยนัก  อยากแต่งบ้านให้สวย ขอแฟนด้วยสักครั้งนะคะ เป็นกำลังให้ไม่เครียด เพื่อเจ้าตัวเล็กในท้องนะคะ จากคุณ : Many Name - [ 10 มิ.ย. 52 10:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ชื่อกรรมสิทธิ์เป็นของใครละคะ ม๋าฟ้าก็กู้ร่วมกันกับแฟน แต่ม๋าฟ้าถือกรรมสิทธิ์คนเดียว เราแต่งกันปีหน้าคะ จากคุณ : djangel - [ 10 มิ.ย. 52 10:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ใจเย็นๆน่ะครับ อย่าคิดมากครับ เดี๋ยวจะมีผลกับเจ้าตัวเล็กในท้องได้ น่ะครับ เรื่อง ร้ายๆจะกลายเป็นดีครับ จากคุณ : travelinglife (travelinglife) - [ 10 มิ.ย. 52 10:17:21 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่าคุณอึดอัดมานาน แล้วอาจจะหลายเรื่องกับแม่สามี ซึ่งไงๆก็เปลี่ยนไม่ได้ถ้ายังต้องอยู่กับสามี ผมมีความเห็นว่า เราคิดว่าแกเป็นแม่เราเลย เดี่ยวพอหลานออกมา แกก็คงเห่อหลานแล้วก็อาจจะจู้จี๋กับคุณเพิ่มขึ้น ซึ่งถ้าคุณคิดว่าแกเป็นแม่คุณ คุณก็จะแปลงความหมายสิ่งที่แกทำเป็นเพราะรักนะ ส่วนที่นอนข้างล่างก็ดีแล้ว ท้องอยู่ก็ไม่ควรขึ้นลงบันได นึกเสียว่าแกเป็นห่วง จากคุณ : kaka (หนุ่มใหญ่2009) - [ 10 มิ.ย. 52 11:14:07 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คิดถึงลูก จขกท. ที่จะคลอดออกมา แล้วอีก 20 กว่าปี เขาจะคอยถาม จขกท. ว่า  แม่จะนอนห้องไหน จะไปเที่ยวไหน อยากทานอะไร? จะได้สบายใจ จากคุณ : EDM_MAN - [ 10 มิ.ย. 52 11:30:37 ]

ความคิดเห็นที่ 19 น่าสงสารแมว จากคุณ : Minie Mouse - [ 10 มิ.ย. 52 11:50:25 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าเอาไปโพสต์ต่อที่่ห้องชานเรือน หรือพวกก.ม.นะครับ จากคุณ : Double07 - [ 10 มิ.ย. 52 14:02:06 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คล้ายๆกับเราเมื่อ 14 ปีก่อน แต่งงานมาปุ๊ปแต่จดทะเบียนกัน ทางฝ่ายสามีเป็นคนจัดการเรื่องบ้าน เมื่อย้ายมาอยู่ สามีก็สั่งว่าห้ามเราไปวุ่นวายเกินอาณาเขตคือห้องนอนเรา เราเสียความรู้สึกมาก แต่ก็ทนอยู่กันมาแบบมีอะไรในใจตลอดมา จนเมื่อปีที่แล้วเราตัดสินในเองซื้อบ้านใหม่เป็นบ้านเดี่ยวใช้เงินเราเองทั้งหมด คราวนี้ทุกอย่างในบ้านต้องให้เราตัดสินใจ ตอนนี้ย้ายมาอยู่บ้านใหม่แล้ว มีความสุขดี บ้านเก่าก็ยังไม่ได้ขายเป็นบ้านส่วนกลางของครอบครัวสามี แต่เป็นชื่อเราร่วมกับสามี จากคุณ : nitnutty - [ 10 มิ.ย. 52 14:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ชอบ คห.6 ครับ จากคุณ : Mr.Artemis - [ 10 มิ.ย. 52 14:49:19 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มาให้กำลังใจครับ ผมก็กู้กับแฟน ครึ่งหนึ่งใช้สวัสดิการของแฟนครับ อีกครึ่งเป็นการกู้ร่วมกับผม แต่ชื่อการเป็นเจ้าของคือของแฟนคนเดียวครับ เรื่องนั้นไม่ซีเรียสครับ แม่ยายผม เขาก็มาอยู่กับลูกสาวของผมครับ ต้องใช้เวลาปรับตัวกันมากเหมือนกัน มุมมองของคนมีอายุ กับ คนวัย 30กว่าๆ อย่างผม ต่างกันมากครับ ต้องใจเย็น มากๆ แล้วก็ มีอะไรก็ต้องพุดกับแฟนนะครับ อย่างนิ่งเงียบคิดคนเดียว เดี๊ยว จะเครียดส่งผลต่อลูกในท้องครับ เอาใจช่วยครับ จากคุณ : เอ็ม - [ 10 มิ.ย. 52 14:51:13 A:10.1.8.105 X:203.121.164.210 TicketID:008284 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอแก้ครับ "แม่ยายผม เขาก็มาอยู่กับลุกสาวของเขาครับ" จากคุณ : เอ็ม - [ 10 มิ.ย. 52 14:51:55 A:10.1.8.105 X:203.121.164.210 TicketID:008284 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ชอบคุณ 18 ที่สุดเลย พอคิดตามอย่างนั้น สบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ จากคุณ : PaoTMTF - [ 10 มิ.ย. 52 14:56:28 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผู้กู้ร่วม คือ มีหน้าที่ร่วมในการรับผิดชอบหนี้ที่เกิดขึ้นร่วมกันเท่านั้นค่ะ ผู้กู้ร่วม ไม่จำเป็น ต้องเป็นเจ้าของ หรือ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ แต่อย่างใด ยกเว้น ผู้กู้ร่วม คนนั้น มีชื่อระบุอยู่ในผู้ถือกรรมสิทธิ์ด้วย จึงจะถือว่า ผู้กู้ร่วมคนนั้น มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินด้วยเช่นกัน กรณีนี้ แล้วแต่ว่า คุณเป็นผู้กู้ร่วมแบบไหนค่ะ ถ้ามีชื่อในกรรมสิทธิ์ คือ โฉนดที่ดินด้วย ก็เท่ากับว่า คุณถือกรรมสิทธิ์ในบ้านและที่ดินนั้นด้วยเช่นกัน แต่ถ้าไม่มีชื่อ ก็เป็นเพียงผู้รับผิดชอบหนี้ร่วมเฉยๆค่ะ แต่นั่น...มันคงไม่ใช่สาระสำคัญสำหรับเรื่องนี้มั้งคะ เพราะ...สาระสำคัญของคุณ เราว่าน่าจะอยู่ที่...ความไม่เข้าใจกันมากกว่าค่ะ เพราะ...อย่างที่คุณบอก สามีคุณเป็นคนไม่ค่อยพูด บางครั้ง คนเรา อยู่ด้วยกัน เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ไม่ได้เข้าใจหรือถูกใจกันไปซะทุกเรื่องโดยไม่ต้องพูดหรอกค่ะ ประเภทที่ว่า...มองตาก็เข้าใจนั้น...มันหายากนะคะ การพูดกันด้วยเหตุผลและความเข้าใจในเหตุและผล....เป็นวิธีการที่ช่วยคลี่คลายความคลุมเครือได้ดีค่ะ ตอนนี้...คุณอาจจะอารมณ์ไม่ดี น้อยใจ คิดมาก ไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม ประกอบกับคุณสามีก็เป็นคนไม่พูด เลยยิ่งทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันมากไปใหญ่ ส่วนคุณแม่ของสามีคุณนั้น...อยากให้คุณคิดว่า...เป็นธรรมชาติของคนแก่ค่ะที่ต้องจู้จี้ จุกจิก เพราะเค้าต้องการให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกหลานของเค้าซึ่งบางครั้ง เค้าก็ลืมคิดไปน่ะค่ะว่า ความต้องการของคนเราไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะทำใจให้เข้าใจยาก...ก็พยายามดีกว่าค่ะ การเปลี่ยนแปลงคนอื่นนั้นยาก...แต่เปลี่ยนแปลงตัวเองง่ายกว่าค่ะ แล้วค่อยพูดคุยกับสามีคุณอีกครั้ง...บางทีเค้าอาจไม่เข้าใจก็ได้ว่า...แท้จริงแล้วคุณต้องการทำอะไรบ้างกับบ้านหลังนี้และด้วยเหตุผลอะไร ทำใจให้สบายเพื่อเจ้าตัวเล็กดีกว่านะคะ... บางครั้งปัญหาบางปัญหาดูเหมือนหนักหน่วง...นั่นก็เพราะเราแบกรับไว้มากเกินไปอ่ะค่ะ ปล...สงสารน้องแมวอ่ะค่ะ...แต่คุณแม่ท่านอาจคิดว่า มีเด็กอ่อนไม่ควรมีแมวอยู่ใกล้ก็ได้นะคะ ลองคุยกันอีกทีดีมั้ยคะ เรื่องนี้ จากคุณ : พะยูนอ้วน - [ 10 มิ.ย. 52 15:24:39 ]

ความคิดเห็นที่ 27 กู้ร่วม มีภาระให้รับผิดชอบ โดยไม่ได้อะไรขึ้นมา เหมือนกับ ค้ำประกันผ่อนรถครับ จากคุณ : Oh-deh - [ 10 มิ.ย. 52 16:18:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แนะนำครับ ควรจะปรองดองกับแม่สามีมากๆดีกว่า ทำใจนิดนึง ว่าเค้าเป็นแม่สามี (ผมเป็นว่าทีสามี ก็เจอสถานการณ์เดียวกัน นั่นก็แม่ นี่ก็เมีย เฮ้อ) สาเหตุที่แม่สามี กับลูกสะไภ้ บางคู่เข้ากันไม่ได้เพราะว่า "คุณรักผู้ชายคนเดียวกัน" หรือเปล่า ??? จากคุณ : gototon - [ 10 มิ.ย. 52 18:10:46 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สงสารแมวด้วยคน จากคุณ : ไฮเปอร์แคท - [ 10 มิ.ย. 52 19:26:54 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เลี้ยงแมวในบ้านจะทำให้ เด็กเล็กเป็นโรคหอบหืดได้ค่ะ แม่สามี ท่านคงหวังดีนะค่ะ เห็นด้วยกับกระทู้ที่6 ค่ะ แล้วคุณจะซึ้งที่มีแม่สามีมาช่วยเลี้ยงนะค่ะ ควรชื่นชมสามีที่รักแม่และกตัญญูต่อแม่ นะค่ะ อย่าคิดมากนะค่ะ เป็นห่วงเจ้าตัวเล็กค่ะ จากคุณ : แค่คนผ่านมาหน้าบ้าน (@pttทีม) - [ 10 มิ.ย. 52 21:21:24 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เข้ามายืนยันตาม 30 ค่ะ จริงๆดูเหมือนจะแอบขัดใจกับคุณแม่สามีของ จขกท นะคะ แต่ถ้ามองกันถึงเหตุผลจริงๆ เราว่าเค้าเป็นห่วงคุณมากเลยนะ จากคุณ : คิน * คาเนะ - [ 11 มิ.ย. 52 11:54:53 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แยกที่กินที่ขับถ่ายของแมวให้ชัดเจนก็น่าจะเลี้ยงได้นะ ถ้าแมวมันมาป้วนเปี้ยนก็ดุมันแรง ๆ สักพักมันก็จะรู้ จากคุณ : weirdbird - [ 11 มิ.ย. 52 14:02:39 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอเรื่องสิทธิก่อนครับ ผู้กู้ร่วมมีสิทธิในกรรมสิทธิร่วมครับ ผมกู้ร่วมกับแฟนพอชำระหนี้หมดกรรมสิทธิในโฉนดเป็นชื่อ 2 คนครับ แต่ถ้าเป็นผู้ค้ำไม่มีสิทธิครับ ส่วนเรื่องปัญหาเรื่องความรู้สึกว่าเหมือนไม่ใช่บ้านนั้น คุณยังไม่รักแฟนมากพอ ที่จะรู้สึกรักแม่ของสามีเหมือนแม่ของตัวเอง ถ้าคุณรักเขาและคิดได้อย่างนั้น ความรู้สึกนี้ก็จะค่อย ๆ หายไปครับ เพราะลูกของเราก็คือหลานของท่าน สามีคุณรักแม่ของเขา เขาก็คงรักแม่ของลูกเขาเหมือนกันครับ จากคุณ : kiatte - [ 11 มิ.ย. 52 23:14:35 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อ่านแล้วพอจะเข้าใจเลยค่ะ อยากบอกว่าหัวอกเดียวกัน มีสามีรักแม่มากมาย สุดยอดลูกกตัญญู แต่ก่อนจะมีลูกก็เจอปัญหาแบบนี้ประจำจนแอบน้อยใจบ่อยๆ เก็บมาคิดมากจนทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องก็หลายรอบ ยิ่งก่อนคลอดลูกยิ่งหนัก เพราะเถียงกันเรื่องห้องและข้าวของๆลูกกันไม่ลงตัว เราอยากได้แบบนี้แต่แม่สามีบอกว่าใช้แบบนั้น แล้วสามีก็ดันเชื่อแม่ไปซื้อแบบนั้นมาใช้ เป็นแบบนี้หลายทีเลยค่ะ จนสุดท้ายเราก็ทำใจปล่อยวางเพื่อลูกไม่อยากคิดอะไรมาก ถือซะว่ามีอะไรก็ใช้อย่างงั้น แม่สามีเขาก็ต้องรักหลานแหละคงไม่เอาสิ่งไม่ดีมาให้หลานกินใช้หรอกค่ะ(พยามมองหาจุดดี) อีกอย่างมีสามีที่กตัญญูต่อพ่อ-แม่แบบนี้ต่อไปเขาก็จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ลูกของเราค่ะ เราคิดแบบนี้จนถึงเดี๋ยวนี้ก็สะบายใจในครอบครัวก็ไม่มีปัญหา แม่สามีก็ช่วยเลี้ยงหลานดีค่ะ ช่วงไหนที่เราต้องการเวลาส่วนตัวก็ฝากแกได้บ้าง ทุกอย่างอยู่ที่ใจค่ะ จากคุณ : hut_reptile - [ 12 มิ.ย. 52 00:06:08 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอปรึกษาพี่ๆๆ เรื่องมีอยู่ว่า พ่อเป็นเจ้าของที่ดิน (พ่ออายุ 87 ปี) พี่ชายขอแบ่งที่ดินกับพ่อเพื่อลงทุนปลูกสร้างตึกห้องแถวร่วมกัน(โอนเป็นชื่อพี่คนเดียว) โดยมีผมกับพี่เป็นผู้กู้ร่วมกันกับทางธนาคารตามสัญญาอนุมัติเงินกู้เพื่อธุรกิจ ปัญหาคือ พี่ผมได้เสียชีวิตและมีภรรยาและลูก 2 คน (จดทะเบียน)และตอนนี้มีสามีใหม่แล้ว(เลว)ตายยังไม่ถึง 2เดือนเลย) จะเอามรดกทุกอย่างเลยโดยอ้างว่าเขาได้ลงทุนปลูกสร้างมากับพี่ผม ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เลยทั้งที่ผมกับพี่ก็เป็นผู้กู้ และที่ดินก็พ่อร่วมลงทุนด้วยเนื่องจากพ่ออายุมากแล้ว(ขอกู้ไม่ได้) ภรรยาพี่ไม่มีส่วนร่วมเลยมีอย่างเดียวคือเก็บค่าเช่าคนเดียวเลย ดีนะที่ยังส่งธนาคารให้ผมเพราะตอนนี้มีผมเป็นลูกหนี้คนเดียวเพราะพี่ตาย เงินค่าเช่าที่เหลือจากส่งธนาคารก็ไม่แบ่งให้พ่อผมใช่เลย ตอนนี้ผมคิดว่าจะรอให้ส่งธนาคารใกล้จะหมดแล้ว(4ปี)จะร้องต่อศาลว่า ผมและพ่อกับพี่ชายได้ลงทุนร่วมกันปลูกสร้างตึกแถวนี้และขอให้ศาลแบ่งแยกสิ่งปลูกสร้างนี้กับผู้รวมลงทุนตามสัญญาเงินกู้ที่ได้ระบุไว้ว่าเงินกู้เพื่อธุรกิจรวมถึงสิทธิในการเก็บค่าเช่าด้วยจะได้หรือไม่ครับ ทรัพย์สินนี้เป็นสินสมรสหรือสินเดิมกันแน่ครับ จะทำให้ถูกจะทำอย่างไรดีครับ พี่ๆคิดว่าผมกับพ่อมีสิทธิในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแค่ไหนครับ รายละเอียดยาวไปหน่อยต้องขอโทษทีครับ ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้ามากครับ จากคุณ : หาทางออกที่กับทุกฝ่าย - [ 20 มิ.ย. 52 10:15:30 A:58.9.246.64 X: TicketID:220917 ]