ความคิดเห็นที่ 1 มาเพิ่มเติมข้อมูลครับ ลองตามไปดูทีละประเด็น แต่คงต้องอ่านเป็นภาษาอังกฤษจากจดหมายคำตอบที่ผมได้รับจากนายหน้านะครับ ลองดูในประเด็นแรกมีกลิ่นแปลกๆ จากคุณ : Sleepless in Sam Yan - [ 15 มิ.ย. 52 08:40:31 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ประเด็นที่สอง เป็นเรื่องของการเรียกเงินอย่างเห็นๆ จากคุณ : Sleepless in Sam Yan - [ 15 มิ.ย. 52 08:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ครั้งต่อมา ยังพยายามไม่เลิกในการเรียกเงินค่าธรรมเนียมจากผม ซึ่งผมยืนยันไปหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอม จากคุณ : Sleepless in Sam Yan - [ 15 มิ.ย. 52 08:42:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมจับผิดการกระทำของนายหน้ารายนี้ได้ พยายามแจ้งกลับไป และก็ยังพบว่ายังดื้อแพ่งและให้ข้อมูลผิดๆ เหมือนเดิม สาเหตุเป็นอื่นไม่ได้นอกจากความต้องการเอาเงินนั่นเอง  หรือถ้าไม่ใช่เพราะความงกเงิน เป็นเพราะการทำงานที่ขาดความเป็นอาชีพหรือไม่ จึงให้ข้อมูลผิดๆ หลายๆ ครั้งแบบนี้ จากคุณ : Sleepless in Sam Yan - [ 15 มิ.ย. 52 08:43:50 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พอถูกจับผิดได้บ่อยๆ และถูกยืนยันจากผมว่าผมไม่รับผิดชอบส่วนเหล่านี้เพราะไม่ใช่หน้าที่ของผู้ซื้อ นายหน้ารายนี้จึงเลี่ยงปัญหาโดยการไม่แก้ปัญหา และปล่อยให้ผู้ซื้อผู้ขายไปจัดการกันเอง อันนี้เหรอความเป็นมืออาชีพ? จากคุณ : Sleepless in Sam Yan - [ 15 มิ.ย. 52 08:46:32 ]

ความคิดเห็นที่ 6 วันนี้ขอแค่นี้ก่อน เพื่อนๆ ระวังอย่าตกเป็นเหยื่อนะครับ ผมสูญเงินแค่ 50,000 บาท ดีกว่าจะไปเจออย่างอื่นที่ไม่คาดฝันอีกเยอะ ระวังไว้ครับ หรือใครจะเป็นแนวร่วม เคยเจอปัญหากับนายหน้ารายนี้มาแล้ว มาร่วมมือกันจัดการคืนครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Sleepless in Sam Yan - [ 15 มิ.ย. 52 08:47:32 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เข้ามาให้กำลังใจจขกทค่ะ จากคุณ : lamerdejoy - [ 15 มิ.ย. 52 09:17:55 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นส่งหลังไมมา เลยเข้ามาดูคะ แต่ภาษาอังกฤษเราก็ไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก เอาที่อ่านเข้าใจแล้วกันนะคะ เรื่องไม่ส่งโฉนดหรือรายละเอียดห้องให้นั้น อาจเกิดจากกลัวผู้ซื้อทราบชื่อเจ้าของแล้วก็จะไปติดต่อเองโดยไม่ผ่านนายหน้า เพราะเดี๋ยวนี้ลูกค้าก็ไม่ซื่อตรงก็เยอะ (อันนี้มองในแง่ดีนะคะ) 2.ที่คุณบอกว่าค่าคอมมิชชั่นนี่เป็นหน้าที่ของผู้ซื้อด้วยเหรอ ในความเป็นจริงผู้ซื้อก็เป็นคนจ่ายอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าจะรวมอยู่ในค่าห้องเลยหรือเปล่า ในกรณีนี้เท่าที่อ่านเกิดจากการต่อรองราคา แล้วราคายังต่างกันอยู่ 50,000 เลยเกิดการต่อรองว่างั้นคุณก็ช่วยจ่ายบางส่วนแล้วกัน ถึงคุณจะไม่ได้ราคาอย่างที่คุณต้องการ แต่ก็ลดราคามาซัก 14,000 ตอนหลังพอจบไม่ลงเค้าเลยเสนอลดค่าคอม เป็นคุณจ่าย 2.465 3.เรื่องคืนค่า sinking fund หรือส่วนกลางให้คนขายหรือไม่นั้น ไม่มีกฎตายตัว ขึ้นอยู่กับข้อตกลง ซึ่งจริงๆควรจะคุยกันตั้งแต่ก่อนจบราคา ไม่ใช่จบราคาแล้งถึงมาพูด ส่วนแผ่นก่อนสุดท้าย เรายังอ่านไม่ค่อยเข้าใจ ขอไปหาคนแปลให้ก่อนนะคะ กลัวตอบผิด เท่าที่อ่าน เราว่าไม่น่าเกิดจากนายหน้าโกง แต่เกิดจากความเป็นมือใหม่ของนายหน้ามากกว่าที่คุยกับคนขายไม่ละเอียด (อาจเพราะไม่เคยขาย) ทำให้เกิดความผิดพลาดมากทำให้เสียอารมณ์ ปล.ความคิดเห็นนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะ ไม่แน่ใจว่าถูกหรือผิด จากคุณ : tarntarn - [ 15 มิ.ย. 52 13:09:12 ]

ความคิดเห็นที่ 9 Sadly Hampton... จากคุณ : กระโหลกมะพร้าว - [ 15 มิ.ย. 52 14:24:28 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ราคา 2.45 ล้านบาทเป็นราคาสุดท้ายที่ไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก (ยกเว้นค่าโอนกับค่าอากรต่างๆ) ครับ แต่พอสรุปราคาแล้ว ตานายหน้านี่ก็มาบอกเพิ่มว่ามีอย่างโน้นอย่างนี้เพิ่มขึ้น เช่นค่า sinking fund นี่แหล่ะครับ และจะผลักภาระว่าเป็นของผู้ซื้อ มิเช่นนั้นทางนิติบุคคลของคอนโดจะออกใบปลอดหนี้ไม่ได้ พอผมได้ยินก็เห็นได้ชัดว่าเข้าข่ายหลอกลวงครับ เลยบอกยกเลิกสัญญาและให้เขาคืนเงินมาให้หมดถือว่าปกปิดข้อมูล แต่ทางเขาทำเงียบครับ ไม่ยอมติดต่อกลับ เลยต้องอาศัยช่องทางนี้มานำเสนอข้อมูลให้เพื่อนๆ ระวังตัวห่างๆ จากนายหน้าบริษัทนี้ครับ จากคุณ : Sleepless in Sam Yan - [ 15 มิ.ย. 52 14:31:23 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ปรับข้อมูลล่าสุด บริษัทนายหน้า คงอับอาย ถอดรายการคอนโดนั้นออกแล้ว .... ถ้าไม่ทำผิด ถอดทำไม? ถ้าผมให้ข้อมูลมั่ว ก็มาฟ้องได้เลย รออยู่ ข้อมูลชื่อบุคคล เปิดเผยหมด แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 16:24:06 จากคุณ : Sleepless in Sam Yan - [ 15 มิ.ย. 52 16:16:03 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 27 มิ.ย. 52 19:43:21 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เข้ามาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ครับ จากคุณ : bank09 - [ วันเข้าพรรษา 22:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เข้ามาอ่านด้วยคนค่ะ และเชื่อว่าไอ้นายหน้าคนนี้กล้าทำจริงๆ เพราะมันโกงมาเยอะแล้ว สุ้เลยนะคะ จขกท. อย่าไปยอมมัน จากคุณ : แฮมตันจงเจริญญญญญญญญ (Eifern) - [ 9 ก.ค. 52 20:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สู้ สู้ สู้ ขอเป็นกำลังใจให้ ช่างกล้ามากที่ทำแบบนี้ซ้ำซาก และไม่คิดว่าจะกล้าทำแบบนี้กะใครอีก เนื่องจากขึ้นโรงขึ้นศาลบ่อยและโดนฟ้องก็เยอะ หมายศาลคงเต็มออฟฟิศแล้วมั้งเนี้ยะ ต้องเสนอบทเรียนราคาแพงให้แล้วล่ะ เนื่องจากเป็นพฤติกรรมซ้ำซาก ในกรณีของคุณโดนห้าหมื่น แต่ส่วนตัวแล้วโดนแสนกว่าๆเอง โดยส่วนตัวแล้วขอตั้งข้อสังเกตุ ดังนี้ 1. ทำไมใช้อีเมล์ ของ @gmail ทำไมไม่ใช่ @hamptons ล่ะ แปลก 2. โดยทั่วไปหากลูกค้าตัดสินใจซื้อคอนโด และทำ offer to buy ระหว่างผู้ซื้อ ผู้ขาย และบริษัทฯนายหน้า เพื่อจะได้แน่ใจว่ามีสินค้าอยู่จริงและแสดงเจตนารมย์ว่าต้องการซื้อจริงๆ และป้องกันหากเจ้าของคอนโดเปลี่ยนใจหากมีผู้เสนอราคาสูงกว่า และเพื่อตกลงค่าคอมมิชชั่นว่าเจ้าของห้องจะต้องจ่ายกี่เปอร์เซ็นต์ และเพื่อแสดงให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายแน่ใจว่ามีผู้ซื้อและผู้ขายจริง และก็จะระบุชื่อและที่อยู่ชัดเจน แต่จะไม่ระบุหมายเลขโทรศัพท์เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ซื้อและผู้ขายติดต่อกันเอง (ต้องยอมรับว่าในสังคมก็มีทั้งผู้ซื้อแ่่ละผู้ขายที่ดีและไม่ดี) ทั้งนี้ทั้งนั้นราคาสุดท้ายที่ตกลงทำการซื้อขายนั้น ก็ต้องตกลงกันให้เรียบร้อยว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบค่าโอน (โดยทั่วไปผู้ขายจะรับผิดชอบเสียค่าโอนเอง) แต่ก็อาจจะมีการตกลงกันว่าจะร่วมกันจ่ายคนละครึ่งหรือแล้วแต่ตกลงกัน เงินกองทุน (sinking fund) ส่วนมากแล้วผู้ขายไม่ค่อยจะเรียกคืนจากผู้ซื้อ เพราะต้องการขายคอนโดฯ แต่ก็อาจจะมีการตกลงกันว่าขอให้ผู้ซื้อชำระคืนเงินกองทุนให้กับผู้ขายในกรณีที่ผู้ขายขายในราคาขาดทุน (บริษัทฯมืออาชีพเขาทำกัน) ส่่วนในกรณีของคุณนั้นนายหน้าตอบผิดอย่างชัดเจน เนื่องจากการขอใบปลอดหนี้เพื่อใช้ในการโอนในวันที่โอนกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ ณ กรมที่ดินนั้น ผู้ขายจะต้องขอใบปลอดหนี้จากนิติบุคคลด้วยตนเอง หรืออาจจะมอบหมายให้บริษัทฯนายหน้าขอก็ได้ แต่เจ้าของ (landlord) ต้องแจ้งขอเป็นลายลักษณ์อักษรกับทางนิติบุคคลล่วงหน้า 7 วัน และใบปลอดหนี้จะมีอายุแค่ 7 วัน ดังนั้นหากในสัญญาซื้อขายระบุไว้ว่าจะทำการโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 30 วันนับจากวันทำสัญญา (โดยทั่วไป) ก็ค่อยขอตอนวันใกล้ๆโอน แต่อย่าลืมว่าต้องแจ้งนิติบุคคล่วงหน้า 7 วัน ยังงัยผู้ขายก็ต้องขอใบปลอดหนี้อยู่แล้ว เพราะเป็นเอกสารสำคัญที่ต้องใช้ในการโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน แต่มันประหลาดตรงที่บริษัทฯ นายหน้าแจ้งคุณว่า ถ้าคุณไม่จ่าย แล้วจะโอนไม่ได้ ซึ่งไม่จริง เพราะมันไม่ใช่คอนโดมือหนึ่ง ที่คุณต้องซื่อจากเจ้่าของโครงการซะหน่อย ในกรณีของคุณขอวิเคราะห์ว่า ผู้ขายคงแจ้งว่าขอให้ผู้ซื้อเป็นผู้รับผิดชอบชำระเงินกองทุนคืนให้ แต่ทางบริษัทฯ นายหน้าไม่แจ้งคุณ (ผู้ซื้อ) เพราะกลัวว่าคุณจะไม่ตกลง เพราะโดยทั่วไปแล้วผู้ขายจะไม่เรียกคืน ด้วยความที่อยากได้ค่าคอมฯ เลยไม่แจ้ง คิดว่าค่อยมาแจ้งหลังจากวางมัดจำแล้ว คุณก็คงยอมยอม (แบบตกกะไดพลอยโจนน่ะ) ซึ่งถือได้ว่าไม่มีจรรยาบรรณในการเป็นนายหน้าอย่างมาก ค่าส่่วนกลาง ผู้ซื้อชำระเอง หลังจากที่ได้ถืิอกรรมสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ โดยส่วนมากแล้วผู้ขายไม่ค่อยขอจากผู้ซื้อในกรณีที่ขายในระหว่างปี เช่น ขายเดือนสิงหาคม แต่ได้ชำระค่าส่วนกลางไปแล้วเป็นรายปี เห็นว่าเหลืออีกไม่กี่เดือนก็จะสิ้นปีแล้ว แต่ก็อาจจะมีบางกรณีที่ผู้ขายขอคืน ยกตัวอย่างเช่น ขายคอนโดได้เืดือนมีนาคม ยังเหลืออีกหลายเดือนกว่าจะสิ้นปี ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่จะตกลง แต่บริษัทฯนายหน้าต้องแจ้งผู้ซื้อหรือลูกค้าให้ทราบทางอีเมล์ห้ามหมกเม็ด ตัวสุดท้ายค่าคอมมิชชั่น ในเมืองไทย ส่วนมากแล้วผู้ขายจะเป็นผู้รับผิดชอบ (แต่ก็มีบางกรณีที่ผู้ซื้อยินยอมจ่ายค่าคอมฯ แต่จะไม่ใช่คนละครึ่งแน่นอน ส่วนมากจะยอมจ่ายแค่ 1% ในกรณีที่ผู้ขายขายในราคาที่ต่ำมาก แต่จำเป็นต้องขาย อาจจะด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม และไม่มีความสามารถพอในการจ่ายทั้งหมด 3% เนื่องจากราคาขายคอนโดต่ำมากๆแล้ว แต่กรณีนี้เกิดขึ้นน้อยยยยยมาากกกก) สัญญาซื้อขาย โดยทั่วไปแล้วจะมัดจำ 10% หรือ 15% ของราคาขาย แต่ก็แล้วแต่ตกลง สรุป ทั้งหมดต้องแจ้งลูกค้าหรือผู้ซื้อให้ทราบข้อเท็จจริงทั้้งหมด และต้องตกลงกันให้เรีียบร้อยและชัดเจน ห้ามหมกเม็ดเด็ดขาดเพราะจะเกิดปัญหาได้ รวมทั้งอาจจะทำให้เสียชื่อเสียง แสดงถึงความไม่เป็นมืออาชีพ และส่อเจตนาในการหลอกลวง จากคุณ : Flying high - [ 13 ก.ค. 52 10:48:15 A:125.25.42.94 X: TicketID:223897 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณคุณ flying high ครับ ที่คุณเข้าใจนั้นถูกต้องและตรงกับที่ผมเข้าใจครับ ผมสรุปรวบรัดว่านายหน้า Edwin Liew นี้ไม่เป็นมืออาชีพครับ และทำงานหมดเม็ดหลอกลวง ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการเงินแบบหน้าเลือด ไร้ซึ่งจรรยาบรรณในการทำธุรกิจครับ ที่สำคัญผมพบว่าเจ้าของคอนโดเลือกขายคนอื่นที่ให้ราคาสูงกว่า และเจ้าของบอกว่าไม่เคยตอบรับราคาที่ผมเสนอซื้อเลย แสดงว่าเรื่องทั้งหมดนี้นาย Edwin ทำคนเดียว จงใจปกปิดข้อมูล และหวังหลอกเอาเงินมัดจำฟรีๆ จากผมก็ราวๆ สองแสนละครับ ดีที่ไหวตัวทันก่อน ยังไงใครอยากร่วมกันประจานและโทรไปด่าตาคนนี้ก็ค้นเบอร์จากเว็บของนายหน้าห่วยๆ รายนี้ หรือหลังไมค์มาขอเบอร์ได้ครับ จำไว้นาย Edwin Liew นี่อย่าไปคบทำธุรกิจด้วยเด็ดขาด เป็นมาเลย์ สำเนียงแคนาดาครับ จากคุณ : Sleepless in Sam Yan - [ 16 ก.ค. 52 11:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ที่ทำงานผมต้องติดต่อกับพวกมาเลย์ (จีน)  3-4 คน ทั้งเป็น พนักงานและลูกค้า แต่ละคน... โห  ขอบอกว่า ยากส์มาก ครับ คนไทยใสซื่ออย่างผมมักตามพวกนี้ไม่ค่อยทัน จากคุณ : สไรินนื - [ 17 ก.ค. 52 07:49:39 ]