ความคิดเห็นที่ 1   และด้านหลัง เป็นสองขาแบนธรรมดา จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 19:26:59

ความคิดเห็นที่ 2   ทีนี้พอมันไม่ติด สวิทช์กดไม่มีไฟใดๆ อยู่ดีๆ ดับ ลักษณะการใช้งาน เช่นจะเสียบเจ้าปลั๊กเครื่องชาร์จไขควงอันนี้ ก็ต้องพึ่งมัน แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 52 19:31:22 จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 19:28:47

ความคิดเห็นที่ 3   ข้างใน......... สาเหตุที่ดับเดาได้ไม่ยาก แต่สังเกตเห็นอะไรที่น่าจะเป็นอันตรายบ้างหรือเปล่า ? ปัญหาคือมันอันตรายยังไงเดี๋ยวมาต่อ ขอไปกินข้าว+ย่อภาพก่อนใหญ่ไปโพสไม่ได้ จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 19:30:26

ความคิดเห็นที่ 4   """"สังเกตเห็นอะไรที่น่าจะเป็นอันตรายบ้างหรือเปล่า ?""" สายไฟเล็กไปใช่ไหมครับ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 19:50:25

ความคิดเห็นที่ 5   ..........นอกจากสายไฟเล็กแล้ว ยังใช้วิธีการบัดกรีอีก !!! จากคุณ : arm_cc เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 19:57:56

ความคิดเห็นที่ 6   สายไฟมันต้องบัดกรีนี่ครับ ไม่งั้นเชื่อมด้วยอะไรครับ จากคุณ : เสี่ยกล้า เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 20:03:36 A:222.123.42.24 X: TicketID:222074

ความคิดเห็นที่ 7   มันอันตรายตรงรูปเสียบ มันผูกสายไฟติดกับสวิทซ์เปิดปิดครับ ถ้ามือเปียกน้ำก็มีโอกาสช็อตได้ครับ ครบวงจรพอดี เหอๆ สวิทซ์ปิดเปิดน่าจะเซฟกว่านี้นะครับ อาจจะเพิ่มฟิวมาอีกตัวก็ได้ครับ จากคุณ : เสี่ยกล้า เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 20:06:49 A:222.123.42.24 X: TicketID:222074

ความคิดเห็นที่ 8   .........วงจรจ่ายไฟฟ้ากำลัง ไม่มีที่ไหนเขาใช้วิธีบัดกรีหรอกครับ การเชื่อมแบบนี้ไม่เป็นที่ยอมรับครับ    ถ้าอิเล็กทรอนิคที่ใช้ไฟน้อยๆ ก็ว่าไปอย่าง    เพราะสินค้าที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยจึงใช้วิธีนี้ไง พวกปลั๊กพ่วง ราคาถูกทั้งหลายก็แบบนี้            แต่พอปลั๊กและสวิทซ์ต่างๆ ตามผนังยี่ห้อ Pana, Haco และแบรนด์ดีๆ อื่นๆ เวลาติดตั้งทำไมเขาจึงให้วิธีการขันกรูอัดหรือสปริงหนีบล่ะครับ ทำไมเจ้าของสินค้าไม่แนะนำให้บัดกรีไปเลยเพราะไม่ต้องกลัวหลวม ??? จากคุณ : arm_cc เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 20:30:16

ความคิดเห็นที่ 9   พระเจ้า เพิ่งซื้อมาเมื่อวานที่ เซ็นทรัล 90 บาท และ เพิ่งเอาไปเสียบวันนี้ ต่อกับไมโครเวฟ จะต้องเอามาทำอะไรรึป่าวคะ จะเสียรึป่าว จิตตกไปเลย เพราะเหมือนกันเด๊ะ จากคุณ : จะช๊อตมั๊ยเนี่ย เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 20:36:22 A:58.9.23.229 X: TicketID:220807

ความคิดเห็นที่ 10   90บาท ถ้าจะเอาแบบคห.8 ก็ต้องอันละ200ครับ เลือกเอา จากคุณ : เสี่ยกล้า เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 20:44:48 A:222.123.42.24 X: TicketID:222074

ความคิดเห็นที่ 11   การบัดกรี มีผลเสียอย่างไรครับ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 20:55:27

ความคิดเห็นที่ 12   พอเจอโหลดเยอะๆ มันจะร้อน หน่ะครับน้าต้น พอร้อนแล้ว มันก็จะหลอมตั่วกั่วบักรีหลุดออกมาครับ จากคุณ : ขวัญใจสิบล้อ เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 20:59:59

ความคิดเห็นที่ 13   เข้ามานอนรอคำตอบจาก จขกท. zzzzzZZZZZZ จากคุณ : 1001 (พันหนึ่งทิป) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 21:05:15

ความคิดเห็นที่ 14   จุดบัดกรีนาน ๆ ไป มีโอกาสกะเทาะได้ครับ ส่วนการขันสกรูก็ควรมีการบำรุงรักษา ตรวจสอบการคลายตัวของสกรู จากคุณ : ต้นตาลทะเล เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 21:07:56

ความคิดเห็นที่ 15   มาต่อครับ หลายๆ จุดที่ไม่ค่อยประทับใจเลย แต่ก็พวกนี้ล่ะครับขายกันเกลื่อน จนดูเหมือนเรื่องปกติ ตรงสวิทช์ จากภาพคงดูไม่รู้ว่าผมจะสื่ออะไร ต้องลองกดครับ เวลากดรู้สึกได้ถึงแรงสปริงที่น้อยมากๆ แรงกดหน้าสัมผัสด้านในอาจน้อยจนเรียกว่าแค่แตะๆ ให้ไฟครบวงจรเฉยๆ  จุดนี้เท่ากับว่าตัวสวิทช์เองมีโอกาสร้อนจัดเพราะหน้าสัมผัสมันแตะกันหลวมๆ  (เช่นเดียวกับเสียบปลั๊กหลวมๆ แล้วปลั๊กไหม้นั่นล่ะ) ลองสังเกตสายที่ขาดอยู่สิ ตรงทองแดง แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 52 22:58:27 จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 21:50:22

ความคิดเห็นที่ 16   จุดที่ให้สังเกตที่บอกนั้น เรื่องขนาดสายครับ ตามที่คุณต้นโพธิ์ต้นไทร บอกนั่นล่ะถูกต้องเลย สายเล็กแค่ไหน จากภาพอาจจะดูหลอกๆตา เดี๋ยวถ่ายเปรียบเทียบกับสายอื่นให้ดู ขนาดสายรางปลั๊กคอมที่ถูกๆเขาใช้ขนาด 0.75 sq.mm หรือบางตัวก็ใช้ 1.00 sq.mm ส่วนสายขนาด 0.5 sq.mm ก็คือสายที่เล็กกว่าสายสายรางปลั๊กทั่วไปมักพบในตลับม้วนสาย (ปลั๊กพ่วงยุคเก่าๆ) ตามภาพผมตัดสายขนาด 0.5 sq.mm มาให้ดู ชัดเจนไหมครับ หากคุณได้สัมผัสเจ้าสายสีแดงๆ นั่น ต่อให้มองไม่เห็นสาย หรือตาบอดก็บอกได้จากการสัมผัสว่าสายมันเล็กแค่ไหน มันอ่อนมากๆ   ใครเคยแกะของเด็กเล่นใส่ถ่านบ้าง สายแบบที่อยู่ในของเล่นพวกนั้นนั่นล่ะ ไม่รู้ว่าอันอื่นๆเป็นอย่างไร ตอนซื้อมีอยู่สองสามแบบ (ราคาถูกกว่าอันนี้ด้วย !!) แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 52 22:53:32 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 52 21:56:05 จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 21:54:49

ความคิดเห็นที่ 17   ปัญหาที่ผมเจอโชคดียังไม่ร้ายแรงอะไร แค่ไฟมันดับไปเฉยๆ เพราะจุดบัดกรีมันหลุด ที่ผมใช้ตามภาพผมเอาไปเสียบกับตัวชาร์จไฟซึ่งเป็น Adapter มีการใช้กระแสไฟต่ำมาก มีกำลังไฟฟ้าไม่เกิน 10 watt  กระแสจึงยังน้อยจึงไม่เกิดความร้อนใดๆ เจ้าสายแดงๆนั่นรับไหว ยังไม่ลุกไหม้ให้เห็น ผมเลยเจอแค่ปัญหาสายหลุด->ไฟดับ แต่ใครที่เอาไปใช้กับที่หนีบผมไฟฟ้า ไดร์เป่าผม เครื่องอุ่นขวดนม หรืออื่นๆที่กำลังไฟฟ้าเป็นร้อยๆ watt  พวกที่ซื้อมาจากต่างประเทศหรือซื้อในไทยก็ตามแล้วต่อเจ้าปลั๊กอันนี้ สายเล็กๆ นั่นมีโอกาสร้อนจัดจนลุกไหม้ได้เลย หรือโชคดีมันอาจจะขาดไปก่อนจากการรับกระแสไม่ไหว   หรือโชคร้ายฉนวนมันละลาย(มีบางนิดเดียว)ไปลัดวงจรกับอีกเส้น......... เจ้าปลั๊กอันที่ผมลงนี้ไม่ได้ใช้อะไรนอกจากเอาไว้ชาร์จไฟซึ่งกำลังไฟมันต่ำ แต่ไหนๆ แกะแล้วผมก็หาสายมาเปลี่ยนให้มันดีกว่าเดิม  ส่วนสวิทช์ยังไม่มีของใหม่ ตามภาพผมลองเปลี่ยนสายดู พอเปลี่ยนเส้นที่สองเข้าไปปิดฝาไม่ลง สายด้านซ้ายไม่พอดีร่อง  ตอนจัดสายใหม่ไม่ได้ถ่ายภาพไว้และปิดฝาไปแล้ว หลังดัดแปลงผมก็ไม่กล้าเอาไปใช้อย่างอื่นนอกจากเอาไว้ชาร์จไฟแท่นชาร์จอันตามภาพแค่นั้น ที่เปลี่ยนสายเพราะมันเหลือทนจริงๆ แม้ว่าสายเดิมเล็กๆนั่นจะรับกำลังไฟ 10 watt ของตัวชาร์จผมได้ แต่ผมขอเปลี่ยนเป็น 0.5 sq.mm แทนเจ้าสายเดิมนั่นและจะไม่เอาไปใช้กับเครื่องใช้อย่างอื่นที่กินไฟมากๆแน่นอนไม่กล้าเสี่ยง ก็จบแต่เพียงเท่านี้ครับ  ที่ลงเพื่อเตือนให้หลายๆคนที่ซื้อมาใช้ให้ระวังกันสักนิด ผมก็คิดว่ามันคงไม่ดีเท่าไหร่เพราะราคามันไม่แพงแต่มันเลวร้ายกว่าที่ผมคาดไว้เยอะเลย แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 52 22:11:04 จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 22:08:26

ความคิดเห็นที่ 18   สายไฟเส้นแดงนั้น 12V ก็พอดีๆ แล้ว ความคิดเห็นที่ 9 เอาไปต่อไมโครเวฟ โอออ -_-' จากคุณ : putt2000 เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 22:11:03

ความคิดเห็นที่ 19   ที่ผมแก้ไขผมพยายามบัดกรีให้แน่นหนาที่สุด คงทำอะไรได้ไม่มากไปกว่านี้แล้ว โชคดีที่จุดประสงค์ผมใช้กับตัวชาร์จไฟอย่างเดียวจึงไม่มีกระแสมากมายอะไร ใครเอาไปใช้กับโหลดกระแสสูงๆ หากมันร้อนจากเหตุใดก็แล้วแต่ อาจหลอมตะกั่วสายที่บัดกรีจะขาดออกได้เช่นกัน พอตะกั่วหลอมการเชื่อมต่อก็ยิ่งแย่ การเชื่อมต่อแย่/หลวมก็ยิ่งทำให้จุดต่อมันร้อน พอมันร้อนมากขึ้นตะกั่วก็ยิ่งหลอม....เป็นลูกโซ่แบบนี้ สุดท้ายอาจลุกไหม้ได้   เจ้าปลั๊กอันนี้ผมคงจะไปเปลี่ยนสวิทช์ให้ดีกว่านี้ เพราะนี่ก็เปิดไม่ค่อยจะติด หน้าสัมผัสคงแย่มากๆ ด้วย  และคงจะเอาป้ายลาเบลติดเขียนไว้ว่าห้ามนำไปใช้อย่างอื่น (จะประกบติดตัว Adapter สายชาร์จไขควงไว้เลย) และรางปลั๊กคอมถูกๆ ก็ใช้วิธีบัดกรีแบบงดงามมากๆ ไว้มีโอกาส+เวลาว่าง อาจจะมาแกะให้ดูกันอีก แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 52 22:22:24 จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 22:17:40

ความคิดเห็นที่ 20   กลับมาดูภาพที่โพสเอง..... เพิ่งสังเกตอีกอย่าง ว่าสวิตช์ด้าน "0" กับ "1" มันผิดด้านซะด้วย ตามภาพคือเปิดสวิทช์อยู่ ตำแหน่งสวิตช์อยู่ที่ "0" จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 22:38:06

ความคิดเห็นที่ 21   จริงๆของแบบนี้ไม่น่าผ่าน มอก.แต่บ้านเราก้อใช้เกลื่อนแล้วอีกอย่างนะครับปลั๊กพวกนี้ใช้สำหรับ ชาร์จแบตเตอรรี่มือถือนะ แต่ก้อใช้กันเกลื่อนแล้วใช้งานหนักๆด้วย จากคุณ : กาให้เป็น เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 22:39:39

ความคิดเห็นที่ 22   เพื่อนเพิ่งได้ปลั้กพ่วงมาตัวหนึ่ง ได้ของถูก ๒๐ บาทเอง จากตลาดนัด แต่ใช้ไม่ได้ เปิดออกดู ปรากฎว่าสายขาดที่จุดบัดกรีแบบท่านPhเลย มาฝากเราซื้อหัวแร้ง แต่เรามีอยู่เลยให้ไปใช้ตัวหนึ่ง เค้าดีใจใหญ่ ที่ซ่อมได้ด้วยตัวเอง แต่คงไม่รู้ถึงโทษภัยหรอกว่าเป็นอย่างไรบ้าง เดี๋ยวต้องไปบอกต่อ แต่ตอนนี้โหวตก่อนดีกว่า จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 00:02:53

ความคิดเห็นที่ 23   เคยซื้อมาเหมือนกัน 50 บาท เสียบได้สามทีไม่ติดและ เลยทิ้งไปแล้ว จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 00:11:19

ความคิดเห็นที่ 24   ของถูกไม่ค่อยดี แต่ของดีไม่มีถูกครับ จากคุณ : เสี่ยกล้า เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 00:28:28 A:222.123.42.16 X: TicketID:222074

ความคิดเห็นที่ 25   ดูจากราคาที่จ่าย ซื้อปลั๊กรางยี่ห้อดี ๆ เพิ่มเงินอีกนิดหน่อยก็ได้แล้ว อันนึงไม่ถึง 200 บาท มีสายด้วย จากคุณ : THX เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 07:24:03

ความคิดเห็นที่ 26   ซื้อมาอันหนึ่งเอามาเสียบกับพัดลมพอกดสวิทที่ปลัก ได้ยินเสียงดังพรึบพร้อมกับประกายไฟ เรียบร้อยเลย โชคดีที่พัดลมไม่เป็นอะไร ทีหลังบอกตัวเองว่าเวลาซื้ออุปกรณืไฟฟ้า อุปกรณืเชื่อมต่อไฟฟ้าทุกชนิดอย่าเสียตัง เพราะอาจจะต้องจ่ายแพงกว่า หรืออาจจะถึงแกชีวิตได้ จากคุณ : Abarica เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 08:58:20

ความคิดเห็นที่ 27   ปลั๊กรางที่ขายตามห้างดังๆทั้งหลายก็อย่าได้ไว้ใจนักครับ ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่เลย พวกอันละ ร้อย สองร้อย เคยแกะมาดูก็แนวนี้ มีช่องรับขาสายดิน แต่จริงๆแล้วไม่มีไรเลย แค่เป็นรูให้ขามันเข้ามาได้จบ  ตัวสายต่อก็ไม่มีปลั๊กสายดิน มีแค่สายไฟ2เส้นเท่านั้น  ถึงจะใช้งานได้ แต่ก็แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้ใส่ใจถึงความปลอดภัยเลย  เดี๋ยวนี้ ถ้าปลั๊กรางมาแบบไม่มีสายดินมาด้วยนี่ ผมไม่เอาเลย  เพราะกฏหมายให้บ้านสร้างใหม่มีสายดิน ก็ออกมาแล้วแท้ๆ แต่ทำไมไม่ทำ ไม่ใช้กัน  รุ่นดีๆหน่อย เขามีสายดินมาด้วย แล้วถ้าเสียบต่อกับปลั๊กเก่า ก็ถอดขานั้นออกได้  ถ้ามีก็ใส่กลับไปเสียบได้ด้วย    ความปลอดภัยด้านไฟฟ้า มันมองไม่เห็น แต่ถ้าเกิดขึ้นที บ้านทั้งหลัง ยังหายไปได้เลยครับ ไม่คุ้มหรอกครับ จากคุณ : gongzila เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 09:35:16

ความคิดเห็นที่ 28   อันนี้ขอเราเพื่อทิ้งไป ตัวขาทีเสียบไปมันหักเลยพลาสติกเปราะมาก แล้วขาที่เสียบก็หักค้าง ต้องสับคัทเอ้าดึงขาปลั๊กที่ติดออกมาด้วยครีม จากคุณ : ป้าซื่อตรง เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 09:50:46

ความคิดเห็นที่ 29   ที่บ้านใช้แบบที่ไม่มีสวิทช์เปิด-ปิดครับ มันแถมมากับ bluetooth ยี่ห้อ Jabra มอง ๆ ดู (ยังไม่เคยแกะ) เข้าใจว่าไม่น่าจะมีสายไฟอะไรข้างใน เพราะแค่แปลงขาปลั๊ก แต่ยังไงคงต้องกลับไปลองแกะดูอีกที ถ้าไม่มีสายไฟข้างใน มีแต่แผ่นทองเหลือง ผมว่าแบบนี้ก็โอเคนะ น่าจะราคาถูกกว่าแบบของ จขกท. ด้วย สวิทช์เปิด-ปิด จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นเท่าไหร่ จากคุณ : Tum : nnoppon@hotmail.com เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 10:12:09

ความคิดเห็นที่ 30   ขอถามเพิ่มค่ะ จากคนไม่รู้เรื่องระบบไฟ   เคยจะซื้อเหมือนกันเพราะต้องการนำมาใช้กับอุปกรณ์ที่บ้านเพื่อให้มีสวิทซ์เปิดปิด เหมือน power bar ไม่ต้องถอดปลั๊กเข้าออก บ่อย ๆ แต่สงสัยอยู่ว่า อ้างจากรูป คห.1 กับ คห.2 ถ้าหากว่าเรามีอุปกรณ์เช่น โทรทัศน์จอใหญ่ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่มี 3 ขา และปลั๊กไฟที่บ้านก็มีสายดินก็คือมีตัวเสียบ 3 ขา แต่หากเราใช้ปลั๊กของอุปกรณ์ไฟฟ้าเหล่านั้นมาเสียบกับปลั๊กแบบเจ้าของกระทู้ที่ด้านหน้าเป็น 3 ขา แต่ด้านหลังเป็น 2 ขา แล้วเสียบเข้ากับปลั๊กไฟตามผนังบ้าน อย่างนี้ อุปกรณ์ของเราจะถือว่าไม่มีสายดิน ใช่มั้ยคะ จากคุณ : linzernia เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 10:15:30

ความคิดเห็นที่ 31   น่ากลัวจังเลย ขอบคุณนะคะที่เข้ามาแชร์ข้อมูลกัน .. จากคุณ : antanoy เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 10:17:02

ความคิดเห็นที่ 32   รู้สึกเหมือนจะเฉยใช้ตอนเด็กๆ อันตรายมาก แต่โชคดีที่ได้กลิ่นไหม้ก่อน ก็เลยลองถอดปลั๊กออกมาดู ปรากฏว่าไหม้ซะพลาสติกเละ ปล ไม่มีรูปเนื่องจากใช้ตอนเด็กๆคะ จากคุณ : ตุ๊กตาโซล่า เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 10:40:22

ความคิดเห็นที่ 33   น่ากลัวนะ สมัยนี้ เฮ้อ! โหวตให้ครับ.. จากคุณ : pae_get เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 10:56:52

ความคิดเห็นที่ 34   ตะกั่วบัดกรีโดนความร้อนมันก็ละลาย ทำให้สายหลุด โอ้แม่เจ้า ถ้าใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่โหลดไม่สูงก็คงพอถูกไถ แต่ถ้าใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าหนักๆ นี่ คงไม่ไหว จากคุณ : goblue เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 10:59:06

ความคิดเห็นที่ 35   คุณภาพ ตามราคาครับ อันไม่เกินร้อย จะให้ผลิตใช้เกรดเอหมด คงไม่ไหว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น  ต้องเข้าใจถึงภาระโหลดที่จะนำไปใช้งานด้วย ถึงจะปลอดภัย ที่สำคัญ  มัน Made in China ใช่ใหม? จากคุณ : 1298 D-Max เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 11:04:09

ความคิดเห็นที่ 36   เสียบแล้วไฟชอบแลบอ่ะ สงสัยต้องทิ้งซะละ จากคุณ : mingkwan เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 11:16:10

ความคิดเห็นที่ 37   ปลั๊กรางดีๆ เดี๋ยวนี้ก็หายากเช่นกัน ขนาดราคาหลายร้อย เช่น  toshino นี่ยังคุณภาพไม่ดีเลย แงะออกมาดูสายไฟเป็นแบบรูปที่28เลย จากคุณ : [kv] เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 11:43:00

ความคิดเห็นที่ 38   ปลั๊ก ราคาแพง ๆ ก็ใช่ว่าจะดีนะครับ ... ผมดูแล้ว ตรา มอก. นี้ มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย จริง ๆ ครับ ... จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 12:33:50

ความคิดเห็นที่ 39   ตอบ #30 คุณเข้าใจถูกแล้วครับ ลองดูจากรูปที่ #3 จะเห็นว่าช่อง ground ไม่ได้ต่อกับอะไรไว้เลย ถ้าจะให้มี ground ต้องหารุ่นที่ขาออก (ที่จะเอาไปเสียบกับปลั๊กที่ผนัง) เป็นแบบ 3 ขาด้วย จากคุณ : Tum : nnoppon@hotmail.com เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 13:24:50

ความคิดเห็นที่ 40   ขอบคุณค่ะ คุณ TUM คห.39 ถ้าอย่างนั้น ยอมเสียบปลั๊กเข้า ถอดปลั๊กออก น่าจะดีกว่า จากคุณ : linzernia เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 13:50:45

ความคิดเห็นที่ 41   คุณภาพตามราคาน่ะ ของราคายี่สิบบาท ไม่พ้นต้อง made in china คราวหลังลองเลือกปลั๊กที่ทำในไทยจะดีกว่า ตามรูปถึงแม้จะเพิ่มสายให้ใหญ่ขึ้นแล้ว ไม่นานตัวสวิทช์ก็เสียอีก เพราะกลไกตลอดจนหน้าสัมผัสของสวิทช์ที่ทำจากจีน ทำได้ห่วยมาก เคยเจอมาเยอะแล้ว แบบปลั๊กไฟราคาแพงๆ ที่ทำจากจีนนั่นแหละ ตัวสายตลอดจนเต้ารับก็ดู OK แต่มีปัญหาที่สวิทช์เสียตลอด จับเปลี่ยนสวิทช์เป็นของไทย ตัวละสิบบาท จบปัญหา สำหรับผู้ที่มีปลั๊กแบบนี้ใช้อยู่แล้วแนะนำให้ใช้กับอุปกรณ์ที่กินไฟน้อย ๆเช่นที่ชาร์ทแบต อะไรทำนองเนี้ย ไม่แนะนำให้ไปต่อกับ TV พัดลม หรือพวกกาต้มน้ำที่กินไฟเยอะๆ จากคุณ : Original Chipmunk เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 13:51:20

ความคิดเห็นที่ 42   เพิ่งซื้อมา เหมือนกันแต่ว่ายังไม่ได้ใช้  เกือบไปแล้ว จากคุณ : ไม้โมก เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 14:34:59

ความคิดเห็นที่ 43   บ้านผมมีอย่างนี้ตั้งหลายจุด แต่ผมใช้ตรงไฟฉุกเฉิน กับ ตรงอ่างปลา จากคุณ : กาฟิว เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 15:36:24 A:10.11.12.28 X:203.155.9.163 TicketID:155104

ความคิดเห็นที่ 44   ที่บ้านปลั๊กพ่วง คุณสามีทำเองหมดค่ะ จะไปซื้อก็ซื้อของดีมี มอก.หน่อย ไม่เอาตามตลาดนัดเด็ดขาด กลัวๆ จากคุณ : แก้วหนึ่งใบกับเบียร์สองขวด เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 15:38:12

ความคิดเห็นที่ 45   เราไม่ค่อยรู้เรื่องไฟฟ้ามากนักนะค่ะ แต่หัวแปลง เราเห็นมีเยอะมากเลย แนะนำไปซื้อยี่ห้อที่ไว้ใจได้ดีกว่านะ แต่อาจจะแพงหน่อย (คราวก่อน เราซื้อ อันละ ร้อยกว่าบาททีเดียว) จากคุณ : Tatjang เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 17:03:12

ความคิดเห็นที่ 46   ได้ความรู้มากเลย...น่าจะใส่ในหลักสูตรเรียนนะ...ทุกคนจะได้ระวังกัน ไม่เป็นเหยื่อสินค้าไร้คุณภาพ... จากคุณ : เม่นแคระ เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 17:06:37

ความคิดเห็นที่ 47   น่ากลัวมากก จากคุณ : น้องจุ่น เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 20:17:06

ความคิดเห็นที่ 48   ขอเสนอข้อมูลสำหรับบางท่านที่ว่า การบัดกรีใช้ไม่ได้ ไม่ทน ฯลฯ เพราะ:- - ทนกระแสสูงๆ ไม่ได้ - กระเทาะง่าย - ทนความร้อนไม่ได้ ละลาย ผมว่าเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องครับ ตะกั่วที่ใช้บัดกรีมีหลายเกรด แล้วแต่ลักษณะการใช้งาน แต่จุดหลอมเหลวต่ำสุด ที่เคยเห็น จะอยู่แถว ๆ 180 องศา C ซึ่งไม่ใช่จะถึงความร้อนขนาดนี้ได้ง่ายๆ ถ้าถึงจริงผมว่า พวกฉนวนพลาสติกละลายเละไปก่อนแล้ว แต่ต้องยอมรับว่า จุดบัดกรีอาจมีปัญหาอย่างที่บอกมา หรืออย่างที่ท่าน จขกท.เจอมา ผมว่าเกิดจาก:- - คนบัดกรีชุ่ย หรือไม่มีความรู้ แค่แปะๆ ให้พอติดๆ กันพอแล้ว - ไม่ได้ทำความสะอาดพื้นผิวให้ดีก่อน เช่น มีคราบไขมัน หรือบางทีมีสี หรือแล็คเกอเคลือบอยู่ ขูดออกไม่หมด ทำให้จุดบัดกรีไม่ทน - สำหรับท่านที่บอกว่า ปลั๊กดีๆ ใช้วิธีขันสกรู ... อันนั้นผมว่า เป็นความสะดวกในการประกอบมากกว่าครับ สกรู ประกอบได้ ถอดได้ โดยใช้ไขควงอันเดียว แต่บัดกรี ต้องมีหัวแร้ง และที่ดูดตะกั่ว แล้วยังต้องเสียบไฟอีก ไม่สะดวกครับ ยืนยันอีกทีครับ ว่าบัดกรีใช้ในงานกระแสสูงๆ ได้สบายๆ ไม่มีปัญหานะครับ การบัดกรีของท่านจขกท.ก็ถือว่าใช้ได้ครับ แต่ผมขอเสนอนิดนึงว่า สายที่ท่านเอามาเสริมใหม่ เป็นสายอ่อน คือเป็นเส้นทองแดงเส้นเล็กๆ จำนวนหลายๆๆๆ เส้นรวมๆ กันอยู่ในฉนวน เวลาที่ปอกปลายฉนวนออก ควรไล้ตะกั่วให้ท่วม ส่วนทองแดงที่โผล่พ้นฉนวนทั้งหมดนะครับ จะเสริมความแข็งแรงของสาย (ไม่หักง่ายแม้จะถูกบัดไปบิดมา) แล้วยังกันไม่ให้ทองแดงเป็นสนิมในระยะยาวได้ด้วยครับ จากคุณ : หมูกระแทก เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 20:59:49

ความคิดเห็นที่ 49   ขอเพิ่มเติมจากประสบการณ์ตรงครับ ไม่ใช่ปลั๊กแบบในรูปนะครับ แต่เป็นปลั๊กที่มีขายตาม Lotus ลักษณะเป็นรางปลั๊กไฟ 3 จุด มีสวิตเปิด-ปิด (อันละ 70 บาท) ผมเอามาใช้กับกาต้มน้ำร้อน (2000W) ปรากฎว่า จุดบักกรีข้างในละลายเลย ต้องบักกรีใหม่เรื่อยๆ เดี๋ยวนี้ผมซื้อปลัี๊กแบบขันน๊อตถูกๆ ตัดเอาสายไฟเก่ามาใช้ ก็ใช้ได้ดีครับ ท่านใดที่ซื้อปลั๊กถูกๆมาก็ระวังเรื่องตะกั่วบักกรีหลุดด้วยนะครับ ส่วนปลั๊กแบบในรูปเจ้าของกระทู้ ผมเคยใช้อยู่เหมือนกัน พังเหมือนกัน สายข้างในเล็กมาก ไม่น่ารับกระแสได้เกิน 1A ด้วยซ้ำ จากคุณ : sornkrit เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 21:20:07

ความคิดเห็นที่ 50   อ้าว ซื้อมาชาร์ตรถสกูตเตอร์น้อยอยู่ตั้งหลายที มันไม่ละลายไปแล้วเหรอเนี่ย แต่ก็ใช้งานได้ดีนะ ไม่มีปัญหาอ่ะค่ะ แต่ทุกครั้งที่ใช้เสร็จเราถอดเก็บนะ ไม่ได้เสียบแช่อ่ะ จากคุณ : แมวสีขาวขนปุย เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 21:48:10

ความคิดเห็นที่ 51   ใครที่ใช้ แนะนำลองหารุ่นที่ไม่มีสวิทช์จะดีกว่าครับ เพราะไม่มีการโยงสายไปมาแบบนี้.... ผมเคยแกะดูสองสามอันแล้ว เป็นแบบหน้าสัมผัสสปริงยันเอาไว้ ไม่มีสายไฟโยงแบบนี้ ถ้าจำเป็นต้องใช้ให้เลือกสักนิด มันจะมีของยี่ห้อๆหนึ่งที่ทำตัวแปลงแบบนี้ ลองหาดูละกันจะได้มาตรฐานกว่า ลองดูในโฮมโปรก็ได้ หลายๆ อย่างที่คุณภาพต่ำ ราคาต่ำ อย่างพวกเครื่องดีวีดี หรืออะไรก็ตามที่ถูกๆ แล้วเสียเร็วเพราะเล่นกับอะไหล่คุณภาพต่ำยังไม่เท่าไหร่ เสียก็แค่ไม่มีหนังดู   แต่ปลั๊กพวกนี้มันเล่นกับความปลอดภัยในชีวิตกันเลย พลาดทีอาจลัดวงจร ไฟไหม้   อย่าคิดว่าซื้อในห้างแล้วจดีนะครับ อันนี้ก็ซื้อในห้างนั่นล่ะ ไม่ต้องถามว่าห้างไหน มันก็มีแทบทุกห้างนั่นล่ะ จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 22:04:56

ความคิดเห็นที่ 52   วันก่อนเราไปเจอที่คลองถม 20 บาท ยังคิดในใจว่าถูกจังเกือบจะซื้อแหละ ดีที่แฟนห้ามไว้ว่าอย่าดีกว่า ถ้าซื้อมามีหวัง...ตายยังเขียด T_T จากคุณ : ร่วมด้วยช่วยตอบ เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 00:52:31 A:58.8.109.195 X: TicketID:224035

ความคิดเห็นที่ 53   กำลังจะหาซื้อปลั๊กรางที่เสียบสายไฟ 3 ขาได้อ่ะครับ ช่วยแนะนำผมหน่อยควรซื้อของยี่ห้อไหน หรือ ตัวไหนดี ครับ ราคาไม่ต้องโหดมาก จากคุณ : exitbox (Exitbox) เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 01:49:11

ความคิดเห็นที่ 54   มาเสริมนิด แค่ระดับไฟบ้าน การบัดกรี ไม่มีปัญหา 100% ครับ ปัญหาจริงๆ ไม่ใช่การบัดกรี แต่เป็นวิธีการบัดกรีและขนาดของสายไฟ จริงๆแล้วการบัดกรีที่ดี จุดประสงค์หลักของมันเป็นแค่การเสริม ยกตัวอย่างกรณี สายไฟกับสายไฟ ถ้าจะให้ถูกต้องต้องมีการพันสายไฟให้เรียบร้อย ดึงออกไม่ได้โดยง่ายแล้วจึงค่อยบัดกรี อย่างในรูปเป็นแบบหน้าสัมผัส กับสายไฟ ถ้าจะให้ถูกจริงๆแล้วหน้าสัมผัสควรมีรูหรือจุดยึดเพื่อพันทองแดง ให้เรียบร้อยเสียก่อนแล้วจึงค่อยบัดกรี วิธีการบัดกรีก็เช่นเดียวกัน ถ้าคุณบัดกรีถูกต้องแล้วล่ะก็ตะกั่วจะเป็นมันวาว(ยกเว้นในตะกัวบัดกรีแบบ Leadfree และ Halogen free) ไม่ออกง่ายๆแน่นอน และก่อนการบัดกรีต้องทำการเอาไขมันบริเวณจุดเชื่อมทั้งสองออกก่อนเสมอ จากคุณ : BEETONG เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 02:00:20

ความคิดเห็นที่ 55   สำหรับ คห 39 ลองเปลี่ยนตะกั่วบัดกรีที่ใช้ดูสิครับ แล้วก็แช่หัวแร้งให้นานขึ้น น้ำฟลักซ์ก็มีส่วนช่วยได้เยอะ จะว่าไปหัวแร้งบัดกรีก็มีส่วนเหมือนกัน ลองดูนะครับ จากคุณ : BEETONG เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 02:06:02

ความคิดเห็นที่ 56   .........การบัดกรี มันใช้ไม่ได้ในวงจรไฟฟ้ากำลังไงครับ    ถ้าเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ที่มีชื่อ เขาได้ทำการทดสอบเครื่องโดยการใช้งานสูงสุดมาแล้วและทดสอบหลายครั้ง ผู้ผลิตเขาจึงกล้าก็รับประกันเองครับ   ในระบบการผลิตเขาสามารถควบคุมคุณภาพการบัดกรีได้    ดังนั้นเราจึงเห็นการบัดกรีเฉพาะในอุปกรณ์ไฟฟ้าเท่านั้น  ส่วนการเดินสายไฟในระบบไฟฟ้านั้นไม่มีครับ    แล้วอุปกรณ์พวกปลั๊กพ่วง สวิทซ์กลางทาง ที่เป็นทางจ่ายไฟนั้นก็ไม่ควรใช้วิธีการบัดกรีครับ         สำหรับในระบบไฟฟ้ากำลัง แค่ตรวจการขันน๊อตให้แน่นทุกจุดก็หาคนตรวจริงได้ 100% ยากแล้วครับ   นี่ถ้าใช้วิธีบัดกรีจะควบคุมอย่างไร      ตะกั่วบัดกรีที่ใช้ทั่วไปแค่ไฟจากก้านไม้ขีดหรือไฟแช็ครนมันแป๊บเดียวก็ละลายแล้วครับ สายไฟยังไม่ทันไหม้ด้วยซ้ำ                   หลายท่าน บอกว่า การบัดกรีใช้ได้  แต่ใช้ได้สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ออกมาจากโรงงานที่มีมาตรฐานซึ่งมีการควบคุมคุณภาพอย่างดีเท่านั้นครับ    ใช้ไม่ได้ในการเดินสายไฟในระบบไฟฟ้าเพราะการควบคุมคุณภาพมันทำได้ยาก      >>>> เรื่องนี้ท่านที่อ้างว่าบัดกรีนั้นดีจะทำให้คนทั่วไปสับสนนะครับ จึงไม่ควรนำเสนอหรือบอกว่าการบัดกรีใช้ได้กับการเดินสายไฟและติดตั้งทางไฟฟ้า <<<<        การที่ใช้สกรูขันนั้นควบคุมได้ง่าย ทดสอบความแน่นเห็นได้ง่ายกว่า ไม่ใช่ว่าความสะดวกอย่างเดียว แต่มีการทดสอบในทางปฎิบัติมาแล้ว ถ้าอ่านคู่มือของเขาแล้วจะรู้ว่าเขากำหนดทั้งขนาดสายไฟ ขนาดน๊อต วิธีการปอกสาย แรงขันอัดมาให้แล้วด้วยซ้ำ     การขันอัดสกรูนั้นเท่าที่เห็นมีใช้กันถึงระดับ 60-100A เลยครับ    ถ้าบัดกรีดีจริงทำไมไม่มีใครกำหนดให้ใช้ล่ะครับ   ในระบบไฟฟ้าที่ดีควรใช้อุปกรณ์ต่อสายเข้าสายที่เหมาะเช่น หางปลา เทอร์มินับ สลิฟต่อสาย เป็นต้น         ทองแดงกันอลูมีเนียมที่ใช้ทำสายไฟมีจุดหลอมละลายสูงมากครับแต่ตะกั่วบัดกรีนั้นต่ำกว่าเยอะซึ่งมันไม่เข้าคู่กันอยู่แล้วเพราะเวลามีปัญหาเรื่องการลัดวงจรแล้ว จุดที่บัดกรีจะเสียหายตามมาทันทีครับ        ในทางปฎิบัติจริงถ้าเขาต้องการการเชื่อมสายไฟทองแดงกับสายไฟทองแดงหรือบาร์ทองแดงเข้าด้วยกัน จะไม่ใช้ตะกั่วบัดกรีครับ เขาใช้ผงทองแดงหลอมมันเป็นเนื้อเดียวกันเลย     แต่การบัดกรีมันไม่ใช่การเชื่อมที่สมบูรณ์เพราะเนื้อโลหะไม่ได้เป็นเนื่อเดียวกันแต่เป็นลักษณะของการประสานให้ติดกันเท่านั้น สำหรับเหตุการณ์ที่ปลั๊กพ่วง หรือ ตัวแปลง พวกนี้เกินความร้อนแล้วไหม้ หรือ ตะกั่วภายในละลายนั้น มีให้เห็นบ่อยๆ ครับ  ของพวกนี้เขาทำไม่ได้มาตรฐาน  เพราะบอกว่ารับไฟได้ 10-15A นั้น พอใช้สูงจริงๆ ก็ทนไม่ได้    เคยมีสถาบันทดสอบแห่งนึงนำปลั๊กพวงตามท้องตลาดมาตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่ไม่ได้มาตรฐาน     ส่วนใหญ่ชอบอ้างว่า ใช้สายไฟได้มาตรฐาน มอก 11-2535 บ้าง ใช้ทองเหลืองเกรดเอ บ้าง ???   แต่ไม่มีอ้างมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งานเลยครับ จากคุณ : arm_cc เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 07:30:46

ความคิดเห็นที่ 57   เหอๆ ส่วนตัวเองเอามาใช้ต่อกับ Notebook มานานแล้วค่ะะ (คิดว่ามันสะดวกเวลาเปิดปิด ไฟไม่สปรากค์ แล้วก็ใช้เวลาเดินทางไปไหนที่มันไม่มีปลั๊กสามขา หุหุ) เปิดกระทู้มาตกใจเลย เดี๋ยวจะขอรื้อออกดูก่อนทิ้งแล้วกัน น่ากลัวจริงๆ ขอบคุณ จขกท และทุกความเห็นที่ให้ข้อคิดและความรู้ค่า จากคุณ : Dorara เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 08:33:17

ความคิดเห็นที่ 58   1 โหวตค่ะ จากคุณ : นินจาน้อย เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 15:30:20

ความคิดเห็นที่ 59   ผมไม่อยากตอบมากก็แล้วกันนะครับ เพราะไม่อยากให้กระทู้เบี่ยงเบนไป จุดหลอมเหลวของฉนวนหุ้มสายไฟปกติอยู่ที่ประมาณ 70-80 C เขาจะเขียนเอาไว้ จุดหลอมเหลวของตะกั่วบัดกรีอยู่ที่ 170กว่าๆ แล้วแต่ชนิด ยิ่งถ้าเป็นพวก Lead free นี้จุดหลอมเหลวไป สองร้อยกว่าๆเลยทีเดียว นั้นหมายความว่า ถ้ากำลังไฟมันร้อนจนทำให้ตะกั่วหลอมเหลวได้ สายไฟก็ไม่เหลือ แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงบ้าน คงต้องเรียกดับเพลิงอย่างเดียว จากคุณ : BEETONG เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 20:18:36

ความคิดเห็นที่ 60   เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนว่าการบัดกรีนั้นเหมาะที่จะใช้ในงานไฟฟ้ากำลังหรือไม่ ผมก็ได้ตอบไปแล้ว    แต่เพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้นของบ้างท่านเลยต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพิ่มเติม ..........ผมไม่ทราบว่าตะกั่วบัตกรีมีกี่ชนิด แตกต่างกันอย่างไร แต่ที่เคยทดสอบแค่เอาไฟรนสายไฟที่มีการบัดกรี ตะกั่วมันละลายก่อนสายไฟจะเริ่มไหม้     ถ้านำคุณสมบัติด้านอุณหภูมิการหลอมละลายของพีวีซี (ขึ้นกับสายที่เติมลงไปผสมในตัวพีวีซีด้วย) จะพบว่าช่วงอุณหภูมิการหลอมละลายจะทับกันหรือคาบกันการของตัวกั่วบัดกรีตามที่มีผู้ให้ข้อมูลครับ  แต่ตัวนำไฟฟ้านั้นต่างกันเยอะ         ทองแดง จุดหลอมเหลว    1083  องศา C         อลูมิเนียม จุดหลอมเหลว    659  องศา C         PVC บริสุทธิ์ จุดหลอมเหลว    212  องศา C         อุณหภูมิ 70-80 ของสายไฟไม่ใช่ จุดหลอมละลายนะครับแต่เป็นแค่อุณหภูมิใช้งานสูงสุด คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าเป็นจุดหลอมละลาย (สำหรับนิยาม อุณหภูมิใช้งานสูงสุด ของสายไฟมาจากไหนนั้นผมไม่ทราบ)   ส่วนนี้ยังไม่ได้พูดถึงคุณสมบัติในสภาวะการลัดวงจรด้วยซ้ำ ซึ่งจะอ้างกราฟ อุณหภูมิ-เวลา ที่จะบอกถึงขอบเขตใช้งานและเขตที่สายไฟชำรุด               ดังนั้นเวลาจะใช้งานต้องคำนึงในทุกๆ ด้าน ทั้งภาวะผิดปกติ การปฎิบัติเพื่อใช้งานใจภาคสนาม  และปัญหาที่อาจเกิดขึ้น   ซึ่งมีตัวอย่างจากการใช้งานจริงของบางความเห็นในกระทู้นี้บ้างแล้ว คุณสมบัติของ PVC   http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B9%8C จากคุณ : arm_cc เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 07:09:53

ความคิดเห็นที่ 61   อ่านแล้วสยอง พี่ซื้อมา 1 อัน ไว้ต่อ NoteBook อีก จากคุณ : Sivrunk !! เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 09:01:53

ความคิดเห็นที่ 62   โหวตให้ครับ จากคุณ : jobrard เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 10:05:43

ความคิดเห็นที่ 63   ที่อันตรายมากว่านั้น คือพลาสติกที่ใช้ น่าจะติดไฟง่าย สังเกตุพัดลมราคาถูกหรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้มอเตอร์จากจีน เปิดทิ้งไว้นานๆพลาสติกหลอมละลายเลย ในอดีตสมัยอยู่หอพัก เจอไฟไหม้ห้องข้างเคียงจากการเปิดพัดลมทิ้งไว้มาแล้ว จากคุณ : Ultraguy เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 12:38:17

ความคิดเห็นที่ 64   บ้านเราควรตรวจสอบ มาตรฐานเครื่องไฟฟ้าจากประเทศจีน ตรวจโดยการสุ่มตรวจก็ยังดี  แล้วถ้ามีปัญหาห้ามนำของพวกนี้เข้าประเทศ น่าจะช่วยได้ครับ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 52 12:47:55 จากคุณ : RG-6 เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 12:47:19

ความคิดเห็นที่ 65   ยังอ่านไม่หมดนะครับ แต่มาสนับสนุนเรื่อง การเชื่อมสายในระบบไฟฟ้ากำลัง ไม่ให้ใช้การเชื่อมด้วยการบัดกรีอย่างเดียว แต่ให้ใช้วิธีกลก่อน เช่นการพันสาย หรือใช้อุปกรณ์อย่างอื่นยึดให้แน่นก่อน แล้วใช้การบัดกรีเป็นตัวช่วยประสาน วิธีบัดกรีก็มีผลนะครับ อย่างควรเอาสายพันกับรูของอุปกรณ์ก่อน แล้วค่อยบัดกรี อาจจะยากหน่อยแต่มันจะแน่นดีครับ เวลาผมบัดกรีปลั๊ก ผมทำอย่างนี้ทุกครั้ง ส่วนข้อมูลลึกๆ ด้านอื่นคืนอาจารย์ไป 10 แล้วครับ จากคุณ : Joey_AJ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 12:50:15

ความคิดเห็นที่ 66   เรียนคุณ arm_cc ผมว่าประเด็นคุณมันเบนออกไปเยอะแล้ว ในกระทู้นี้ เราพูดถึง "ปลั๊กไฟ" ซึ่งไม่ได้รับกำลังไฟระดับ High Power อย่างทีคุณบอก ผมเองก็เห็นด้วยว่า ถ้ากระแสสูง 60-70 Amp ถึงหลายร้อย Amp บัดกรีด้วยตะกั่วไม่น่าใช้ได้ จึงขออนุญาตให้หยุดประเด็นนี้เถอะ (ถ้าจะถกน่าจะไปเปิดกระทู้ใหม่) เพราะการบัดกรี "เป็นวิธีการเชื่อมโยงวงจร" แบบหนึ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ไม่ใช่ถึงกับ "ใช้ไม่ได้เลย" อย่างที่คุณพูด ผมเองจบมาทาง High-voltage, ไฟฟ้ากำลัง และ สื่อสาร แม้ปัจจุบัน จะเป็นโปรแกรมเมอร์ แต่ผมก็เคยสอนนายช่างที่ออกแบบและดูแลอาคารใหญ่ๆ จนถึงเขื่อนและโรงจักรต่างๆ มาแล้ว ผมคงไม่ให้ข้อมูลผิดกับผู้เยี่ยมชมกระทู้แน่นอน ------ สำหรับปลั๊กไฟนั้น นอกจากจะเรื่องการบัดกรีแบบแย่ๆ สายไฟไม่ได้ขนาดแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องแผ่นทองเหลืองที่ใช้เป็นเต้ารับ ที่บางจนเสียบได้ไม่กี่ครั้ง หลวมแล้ว ถ้าหลวมไปเลยก็ดีครับ แต่บางอัน "กำลังจะหลวม" อันนี้ บางทีเกิดสป๊ากขึ้น เกิดความร้อนไหม้เลยก็มี ถ้าอย่างนั้น จะทำอย่างไร ? สำหรับมาตรฐานบ้านเรา ทำอะไรมากไม่ได้ครับ ต้องอาศัยประสบการณ์อย่างเดียว ถ้าคุณเคยซื้อยี่ห้อนี้ เสียบสามทีหลวม -- อย่าซื้ออีก -- ทำได้แค่นี้เอง ทั้งนี้ "ของถูก ไม่มีดีครับ" เพราะ "ของดี ไม่มีทางราคาถูก" แต่ "ของแพง ก็ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป" เหมือนกัน !!!! เฮ้อ !!!! จากคุณ : หมูกระแทก เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 13:02:24

ความคิดเห็นที่ 67   สยองด้วยคน เคยเสียบกับที่ชาร์จโน้ตบุค ไฟดับพรึ่บทั้งบ้าน สรุปไฟชีอต ต้องเปลี่ยนฟิวส์ใหม่ น่ากลัวมากๆ โชคดียังไม่เสียบต่อกับตัวเครื่องโน้ตบุค จากคุณ : พิมพ์เอก เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 13:05:51

ความคิดเห็นที่ 68   สยองเลย เพราะใช่ต่อกับปลั๊กโน๊ตบุคมานานเป็นปีแล้ว เพราะที่บ้านปลั๊กไม่มีสามรู อยู่ข้างๆตัวเลยด้วย แต่ก็ไม่รู้จะใช้อะไรแทนอ่ะ ปลั๊กเล็กแบบนี้มันสะดวกดี จากคุณ : OhBoW เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 14:37:29

ความคิดเห็นที่ 69   ตามคุณหมูกระแทก และ BEETONG ครับ จากคุณ : Athlons เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 14:45:33

ความคิดเห็นที่ 70   เคยซื้อมาใช้กับ pda ตอนไปเที่ยวจีนเหมือนกันยังไม่ทันกลับไทยเลย มันพังไปแล้ว ส่วนมากของจีนถูก ๆ คุณภาพจะอย่างนี้ เห็นห้างดอกบัวก็ชอบเอามาขายจัง   ผ่านมานานจนลืม เมื่อเร็ว ๆ นี้ ไปซื้อมาอีกสองอย่าง ปลั๊กแปลงจากกลมเป็นแบน กับปลั๊กมีสวิทช์แบบใส่หลอดไฟได้ ผลปรากฎว่าปลั๊กแปลงจากกลมเป็นแบนใช้ไม่ได้ เสียบปลั๊กกลมเข้าไปแล้วพอดึงออก ใส้ในปลั๊กแปลง หลุดตามออกมาเลยแถมเหล็กบางกว่าเดิมมาก ส่วนปลั๊กมีสวิทช์ใช้การไม่ได้ จะขับรถไปก็ไม่คุ้มน้ำมัน ต้องปั่นจักรยานเอาไปเปลี่ยน -*- ครั้งหลังสุดไปซื้อรางปลั๊กไฟ เลือกอันที่มี มอก. ก่อนเลย เข็ดแย้วววว จากคุณ : durian to go เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 15:11:23

ความคิดเห็นที่ 71   เรียน คุณ หมูกระแทก / คุณ BEETONG                 "ปลั๊กไฟอันตราย !!!" ที่คุณ Ph โพสมา มีการบัดกรีหรือไม่ ??? และ ปลอดภัยหรือไม่ ???   ถ้ามีและไม่ปลอดภัยแล้วจะไม่เกี่ยวได้อย่างไร !!!  และมันตามมาด้วยคำถามว่า ทำไมถึงอันตราย???   เพราะคำถาม ว่าทำไม นี่แหล่ะ ถึงต้องโพสกันเยอะ           ผมก็ไม่ได้อยากต่อความยาวสาวความยืดนะครับ  เรื่องปัญหาของปลั๊กไฟนั้น หลายท่านอาจจับอยู่ที่คนล่ะประเด็นคนล่ะข้อสัณณิฐาน ไม่ว่าสายเล็ก การบัดกรี หรือ พลาสติกที่ใช้ ซึ่งเกี่ยวกับตัวปลั๊กแปลงดังรูปที่คุณ Ph ได้โพสไว้ในความเห็นที่ 3      ส่วน คุณ Ph เอง เขาบอกว่าสายเล็กและเขาได้พิสูจน์ชัดเจนโดยแสดงด้วยรูปในความเห็นที่ 16 โดยเปรียบเทียบกับสายไฟที่เล็กที่สุดของเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาด 0.5 sqmm. และสรุปว่ามันไม่เหมาะสมเป็น "ปลั๊กไฟอันตราย !"       แม้แต่ตัวคุณเองที่บอกว่า ทองเหลืองที่ใช้ ก็คือปัญหา (แต่ถ้ามีคนแย้งว่าทองเหลืองดี คุณควรจะบอกเขาว่าทำไมมันไม่ดี อย่างไร)               ในกระทู้นี้ซึ่งแต่ล่ะท่านก็ได้ให้ความเห็นว่าอะไรเป็นปัญหา  เหมือนกับว่าเราได้ช่วยกันคิดว่าอะไรบ้างที่น่าจะเป็นปัญหาของปลั๊กแปลงนี้ ใครเคยมีประสบการณ์ก็เล่าสู่กันฟัง   ไม่ใช่มาช่วยกันทายปัญหาว่าคุณ Ph คิดอย่างไรจึงจะถูกต้องอย่างเดียวเท่านั้นครับ     แม้ว่าเสี่ยกล้า ที่ประชดผมเรื่อง 90บาท/200บาท และ คุณ Ph ที่ยังใช้การบัดกรีอยู่ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะบางครั้งเราก็เลือกไม่ได้ ผมเพียงให้คำชี้แนะและนำเสนออะไรที่มันดี เพื่อพิจารณาในการเลือกซื้อ ในครั้งต่อไปเท่านั้น                     ถ้าบอกว่าสายเล็กคือปัญหาซึ่งเป็นคำตอบที่โดนใจหลายท่านแล้วก็ให้มันจบๆ กันไป คงไม่ใช่หนทางของการพัฒนาแบบต่อเนื่องครับ   ความปลอดภัยได้จากการคิดเห็นในหลายแง่หลายมุมในรายล่ะเอียดปลีกย่อย ไม่ใช่ภาพรวมครับ    ความเห็นทั้งหมดมีประโยชน์แก่ผู้ซื้อและผู้ผลิตนำพิจารณาในเลือกซื้อ การใช้วัสดุและปรับปรุงเพื่อผู้บริโภค          "การบัดกรี "เป็นวิธีการเชื่อมโยงวงจร" แบบหนึ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ไม่ใช่ถึงกับ "ใช้ไม่ได้เลย" อย่างที่คุณพูด"  ผมโพสตรงไหนว่าใช้ไม่ได้เลยครับ ผมแค่บอกว่าในการติดตั้งและเดินสายไฟในระบบหรือวงจรไฟฟ้ากำลังเขาไม่ทำกันเท่านั้น (พร้อมนำเสนอว่า อุปกรณ์ที่ส่งผ่านกระแสเช่น ปลั๊กพ่วง ก็ไม่ควรใช้วิธีนี้) พวกอิเล็กหรือสื่อสารจะใช้กันก็ต้องทำตามคู่มือติดตั้งนี่ครับ     ซึ่งคุณ หมูกระแทก ไม่ได้อ่านข้อความทั้งหมด หรือ ไม่ได้จับใจความที่ผมโพสเลย แล้วหาว่าผมบอกว่าบัดกรีไม่ดีทุกอย่าง          ถ้ามีใครสักคนบอกว่าได้ว่า เทคนิคบัดกรีแบบไหน ใช้ตะกั่วเบอร์ไหน น้ำตะกั่วต้องปริมาณเท่าไหรและบัดกรีให้ได้พื้นที่หน้าตัด/หน้าสัมผัสขนาดไหนที่สามารถรองรับกระแส 5A 10A 15A ไปถึง 50A แต่ล่ะขนาดได้  รวมถึงทนแต่กระแสลัดวงจรสูงสุดได้เท่าไร       ถ้าบอกหรืออ้างได้อย่างมีเหตุมีผล (ถ้าจะให้ดีมีเอกสารวิชาการอ้างอิง/เอกสารผู้ผลิต) ผมจึงจะถือว่า การบัดกรีน่าเชื่อถือและทำตามนี้แล้วใช้งานได้  !!!               ผมคงผิดที่ให้ข้อมูลที่เป็นจริงและมีประโยชน์เพื่อประกอบการพิจารณาว่าความเข้าใจที่ถูกต้องควรไปอย่างไร เพราะไม่ตรงใจท่าน ก็ขอโทษในที่นี้แล้วกัน      ถ้ามีตรงไหนผมเข้าใจผิด ทุกท่านก็ควรต้องชี้แจ้งด้วยหลักวิศวกรรม/วิทยาศาสตร์ เพื่อสอนผมบ้าง       แต่ด้วยความเป็นวิศวกรไฟฟ้าตัวอ้วนๆ อย่างผมก็จะต้องแนะนำในสิ่งที่ดีแม้ว่าผู้ที่รับไปอาจทำตามไม่ได้ก็ตาม เพราะผมไม่ใช่ผู้ที่บังคับให้ใช้หรือมีอำนาจตรงนั้น จากคุณ : arm_cc เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 52 19:31:39

ความคิดเห็นที่ 72   เคยใช้เหมือนกัน ต่อกับไมโครเวฟ แล้วสงสัยจะเวฟนานไป ทำให้เหล็กมันร้อนมาก ๆ ปลั๊กที่ติดผนังละลายเลยอะ นึกแล้วสยอง จากคุณ : T.J_loveu เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 01:07:23

ความคิดเห็นที่ 73   ข้อมูลเยอะๆ ผมชอบนะ ดีออก แบ่งปันกัน จากคุณ : ต้น เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 04:07:43 A:124.121.8.96 X: TicketID:161748

ความคิดเห็นที่ 74   ทุกคนล้วนให้ข้อมูลที่เป็นความรู้ทั้งนั้นเลยค่ะ อย่างน้อย ดิฉันคนหนึ่งละ ที่จากไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ก็พอจะรู้บ้าง จากคุณๆ ทุกคนนี่แหละค่ะ ขอบคุณที่มาแชร์ความรู้กันนะคะ จากคุณ : พระจันทร์เกเร เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 11:21:32

ความคิดเห็นที่ 75   ทุกความคิดเห็นที่พูดกันยังอยู่ในกรอบของความปลอดภัย ผมไม่เห็นว่ามันจะเบนออกนอกประเด็นตรงไหน การพูดกันคุยกันด้วยหลักวิชาการด้วยเหตุผล ยิ่งคุยกันถกกันความรู้มันก็ตกผลึกแล้วความรู้มันก็ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับมันก็อยู่กับคนในนี้แหละครับ ให้ได้ความรู้ได้ต่อยอดต่อไป ดีซะกว่าบอกว่าจบนั่น จบนี่ สอนคนนั้น สอนคนนี้ แล้วรับรองจะไม่ผิดหรอก(ซึ่งผมว่าไม่จริงเสมอไปหรอกครับ) ผมว่าผู้ให้ความรู้ที่ดีคือกการเอาข้อมูลตัวเองมามาแสดงให้ความรู้ผู้อื่นและก็รับเอาข้อมูลความรู้ของคนอื่นมาวิเคราะห์ด้วย แล้วสรุปออกมาว่าสิ่งที่ถูกต้องที่สุดคืออะไรบนพื้นฐานทางวิชาการ  ผมว่ามันจะดีกว่า ผมชอบฟังเก่งๆถกกันครับ ความรู้ไม่ไปไหนหรอกครับผมรับไว้หมด จากคุณ : safety first เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 16:56:42

ความคิดเห็นที่ 76   ครับ ดีใจจังที่ตอบกระทู้แล้วมีผู้อ่านอย่างละเอียด ผมเองก็ต้องเรียนว่า ผมพยายามที่จะไม่อ้างถึงสถาบัน ที่ผมเรียนมา และสอนมา แต่ที่ต้องอ้างเพราะต้องการให้ทราบว่า ข้อมูลของผมได้มาจากประสบการณ์ และรับรองได้ว่า ประสบการณ์สอนผมว่า ไม่ผิดแน่ (แต่ไม่ใช่ว่า ผมจะเก่งทุกเรื่อง ถูกทุกเรื่อง ไม่ใช่แน่นอน ไม่ผิดของผมหมายถึงเฉพาะกรณีนี้การบัดกรีปลั๊กไฟเท่านั้น) ถ้าท่านเห็นว่าผมอวดอ้างเกินไป ก็ต้องขออภัยด้วยครับ (จริงใจครับ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ) ด้วยความเคารพ ผมพยายามดึงข้อมูลที่มีมาแชร์ ให้อยู่ในประเด็นของ จขกท. เรื่องปลั๊ก ที่อยู่ในสภาพแย่มาก และท่านได้แก้ไขได้ด้วยตัวเอง ซึ่งผมก็ได้ แสดงความเห็น และแนะนำไปตามที่รู้มา ผมพยามละเว้นการอ้างข้อมูลเทคนิค เพราะเห็นว่า บางเรื่องก็ไม่จำเป็น เนื่องจากห้องนี้ เป็นห้องประมาณว่า พ่อบ้าน แม่บ้าน (ลูกบ้าน) มาแชร์กัน ในเวลาว่างๆ ไม่ได้เอาจริงเอาจังกันแบบมืออาชีพ ดังนั้น ผมก็คงไม่อธิบายอะไรเพิ่มแล้ว เพราะสำหรับการใช้งานแบบที่บ้านตาม concept "ชายคา" แค่นี้ก็น่าจะโอเคแล้ว ขออภัยอีกครั้งที่อาจทำให้บางท่านไม่สบายใจ ยินดีครับที่ได้แลกเปลี่ยนความรู้ และยินดีที่หลายท่านได้ความรู้ จากคุณ : หมูกระแทก เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 18:23:08

ความคิดเห็นที่ 77   มาสนับสนุนเรื่องตะกั่วบัคกีครับ ที่ใช้กับวงจรอิเลคทรอนิคมันเป็นแบบ 60/40 หลอมเหลวง่ายด้วยความร้อนที่ไม่สูงมาก 25W ก็หลอมแล้ว แต่พวกไฟฟ้ากำลังจะเป็นอีกแบบ ทนความร้อนสูง ลักษณะการบัคกีก็มีส่วนมาก อย่าง #17 ไม่ถูกต้องนะครับ ตรงสวิตมีรูให้เสียบ-าอุปกรณ์ หรืิสาบทองแดง ควรเสียบเข้าไปแล้วบัคกีตรงส่วนที่ยื่นออกมา ถ้ามีเทคนิคอีกเล็กน้อย เช่นบิดปลายสายซักนิด ไม่มีตะกั่วอยู่มันยังไม่หลุดง่ายเลยครับ และตะกั่วที่ป้อนก็น้อยเกินไป เมื่อรับโหลดสูงๆเดียวก็หลอมละลายอีก การไล้ตะกั่วมากๆให้พอเพียงกับโหลดยังช่วยเรื่องกานยึดยับด้วย ที่น่ากลัวอีกเรื่องคือ ทองแดงที่เป็นตัวปลั๊ก ผมสังเกตุว่า มันบางมาก ถ้าใช้กับโหลดต่ำๆก็ไม่ค่อยมีปัญหา ถ้าโหลดสูงๆ เกรงว่าอาจเกิดคดีไฟฟ้าลัดวงจรเพิ่มขึ้น แรงดันไฟฟ้า (Volt) ก็เหมือนแรงดันของน้ำ กระแสไฟ (Ah) ก็เหมือนปริมาณน้ำ ถ้าแรงดันน้ำสูง ปริมาณน้ำมาก แต่สายสางเล็ก ขั้วต่อหลวม ไม่สายแตกก็สายหลุด ต่างกันที่ผลที่ตามมา จากคุณ : HECKER เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 20:01:05

ความคิดเห็นที่ 78   ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 22:28:19

ความคิดเห็นที่ 79   โหวต.....ครับ.....โหวต จากคุณ : เฒ่ายิ้มแย้ม เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 22:59:39

ความคิดเห็นที่ 80   .........ก่อนอื่นต้องขอโทษคุณ หมูกระแทก ที่ผมได้โพสโต้ตอบในเรื่องของการบัดกรีครับ   ผมไม่ได้มีเจตนาดูแคลนวิชาชีพและประสบการณ์ของท่าน  ถ้ามีอะไรที่เกินเลย หรือ ดูว่ารุนแรงไป หรือ ผิดพลาดผิดพลั่งไป ก็ขออภัยมาในที่นี้ครับ         เรื่อง การบัดกรี เพื่อการต่อสายในระบบไฟฟ้ากำลังนั้น ผมได้ลองค้นหาข้อมูลในหนังสือ มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย พ.ศ. 2545 ของ สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ยอมรับและใช้อ้างอิงในวงการวิศวกรรมไฟฟ้าและสำหรับหลายๆ ท่าน        ในบทที่ 1 หน้า 1-16 ข้อ 1.101.2 ได้กล่าวถึงเรื่องการต่อสายโดยการบัดกรี ตามรูปที่โพสด้านล่างนี้  ซึ่งอธิบายได้ดังด้านล่างนี้  และคงเป็นข้อสรุปแล้วสำหรับการบัดกรี          "วิธีบัดกรีสามารถใช้ได้แต่ใช้เป็นลักษณะของการเสริมการต่อแบบอื่นๆ (ไม่อนุญาตให้ใช้เฉพาะการบัดกรีอย่างเดียว) เพราะต้องต่อให้แน่นทั้งทางกลและทางไฟฟ้าก่อนจึงบัดกรีทับรอยต่อนั้น"       ซึ่งทางปฎิบัติไม่ค่อยมีการใช้การบัดกรีซ้ำรอยต่อที่แน่นแล้วอีกที ส่วนตัวก็ไม่เคยเห็น          ด้วยความเห็นส่วนตัว พวกปลั๊กพ่วง ปลั๊กแปลง หรือ อุปกรณ์ต่อสาย ก็ควรใช้หลักการนี้พิจาณาในปรับปรุงการผลิตสำหรับโรงงานผลิต  หรือ การเลือกซื้อเลือกใช้สำหรับผู้บริโภค ป.ล. ขอบคุณทุกท่านที่แสดงความคิดเห็น ความรู้ และผู้อ่านทุกท่าน   ขอบคุณอย่างยิ่งทุกท่านที่เห็นพร้องในเรื่องความปลอดภัย จากคุณ : ..... (arm_cc) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 00:05:56

ความคิดเห็นที่ 81   ขอบคุณครับ คุณ arm_cc ขออนุญาตแนะนำคุณ จขกท.เพิ่มเติมอีกนิด ตามรูป คห. 17 ขยายความเห็น คุณ hecker คห.77 บอกว่าควรสอดสายทองแดงเข้าไปในรู ฯลฯ ผมเลยไปหาๆ รูปในเหน็ดมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ที่แย่คือ ตามรูปใน คห. 16 จะเห็นว่า ตำแหน่งที่จะเชื่อมลงไปที่ขา ไม่ได้มีหลักอะไรให้บัดกรีได้แน่นๆ เลย มีแค่ตาไก่ที่ยึดขาทองเหลืองเท่านั้นเอง แบบนี้บัดกรีลำบากครับ จากคุณ : หมูกระแทก เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 01:27:47

ความคิดเห็นที่ 82   ขอบคุณทุกๆความคิดเห็น เป็นประโยชน์มากๆ สำหรับผู้ไม่รู้ครับ จากคุณ : HOYU เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 12:28:08

ความคิดเห็นที่ 83   ซ้ำแล้วซ้ำอีก ขออภัย มัน ERROR นึกว่าไม่เข้า แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 52 04:07:43 จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 03:58:24

ความคิดเห็นที่ 84   ผิดกระทู้ ขอลบ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 52 04:01:35 จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 03:59:14

ความคิดเห็นที่ 85   คุณ"HECKER" และคุณ "หมูกระแทก" ขอบคุณสำหรับคำเตือนและความพยายามเสียเวลาตัดต่อภาพนะครับ ฝั่งขาปลั๊กตัวผู้(ตาไก่)ยากจริงครับให้ความร้อนนานก็พลาสติกเริ่มอ่อนตัวอีก  และตรงฝั่งขาปลั๊กตัวเมีย ตรงนั้นจะบัดกรียาก เพราะทองเหลืองชิ้นมันค่อนข้างโตทำให้ดูดความร้อนจากหัวแร้งเยอะ ความร้อนจะตก  ใครจะบัดกรีให้ดึงทองเหลืองนั่นออกมาจากบล็อคมันก่อนแล้วจี้หัวแร้งไว้สัก 30 วินาทีให้เจ้าทองเหลืองนั่นร้อนมากๆ ก่อน อาจแต้มตะกั่วปลายหัวแร้งไว้นิดหนึ่งเพื่อให้ส่งผ่านความร้อนได้เร็วขึ้น พอกะว่าทองเหลืองร้อนจัดแล้วก็จี้ตะกั่วดูถ้ามันไหลๆ เหมือนน้ำก็ใช้ได้ ถ้าตะกั่วมันเหมือนวางลงไปเป็นก้อนๆ ก็คือทองเหลืองยังเย็นเกินไป ให้แช่หัวแร้งต่ออีกหน่อย หรือหัวแร้งอาจ watt ต่ำไปร้อนไม่พอ   ถ้าใช้ 20 watt ไม่ค่อยไหวแน่ๆ ต้องเอาสัก 40 - 60 watt จะทำงานง่ายขึ้น ส่วนตามภาพที่คุณ "หมูกระแทก" วงไว้ตรงสวิทช์  ตั้งใจจะพันอยู่เหมือนกันครับแต่จะพันกับสวิทช์ตัวใหม่ไปเลยทีเดียว (สวิทช์มีของอยู่แต่ตอนนั้นยังหาไม่เจอ เก็บเองหาไม่เจอเอง ) ในภาพนั้นบัดกรีเน้นๆ เอาให้แน่นแต่ตรงสายเส้นด้านขวาสุดเส้นเดียว(เส้นไม่ผ่านสวิทช์)  ส่วนเจ้าตาไก่นั้นตั้งใจจะอัดสายเข้ารูตาไก่แล้วหยอดตะกั่วเข้ารูให้แน่นแต่ทำไม่สำเร็จ  ภาพที่ลงคือเริ่มทำแรกๆครับ ภาพนั้นปิดฝาไม่ลงด้วยต้องจัดสายให้ลงร่องตามภาพข้างล่าง  หลังจากนั้นไม่ได้ถ่ายเก็บไว้แล้ว   ตอนที่ทำเสร็จแล้วเจ้าขาสวิทช์ผมพันสายเอาแนวนอน ไม่ได้เป็นแนวตั้งแบบในภาพข้างบน (แนวตั้งมันค้ำฝาจนปิดไม่ได้) สวิทช์หาได้แบบ 6A เท่านั้นเอง ก็คงหาได้แค่นี้กับสวิทช์เล็กๆ แบบนี้  ติดตรงตาไก่นั่นล่ะที่บัดกรีแล้วดูไม่ค่อยแข็งแรงไม่รู้จะทำยังไงให้แน่นหนากว่านี้ (ภาพนั้นขออภัยที่ลงภาพที่ทำยังไม่เรียบร้อย รีบถ่ายมาลงก่อน อาจทำให้คนอื่นๆ เข้าใจผิดอาจทำเลียนแบบ) สำหรับคนที่ใช้ Notebook แล้วต้องพกเจ้านี่เพราะปลั้กข้างนอกบางทีมีสองขา  ลองหาหัวต่อสีส้มๆ ใช้ดีกว่าครับ ที่มันแถมมากับรางปลั๊กไฟแบบนั้นนั่นล่ะ (หัวสีส้มๆจะไม่มีสวิทช์)  แต่ถ้าไปหาซื้อเจ้าหัวต่อนี่ก็มีปลอมเยอะคุณภาพต่ำอีกเช่นกัน  ให้เอาอันที่แถมมากับรางปลั๊กที่ดีๆ หน่อยอันนั้นใช้ได้เลย จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 04:03:04