ความคิดเห็นที่ 1 อีกวิธีหนึ่งที่คิดๆเอาไว้ก็คือ สูบน้ำจากแม่น้ำโขงมาใช้ซะเลย แต่วิธีนี้ผมกะว่าจะใช้ในกรณีนำน้ำมารดน้ำต้นไม้ใบหญ้าที่บ้าน เพราะว่าน้ำโขงส่วนใหญ่จะขุ่นเกือบทั้งปี ถ้านำมาใช้ก็คงต้องมาทำถังบำบัดอีก ไม่รู้ว่าจะเสียค่าใช้จ่ายในการบำบัดน้ำเยอะหรือไม่ แถมอีกอย่างแถวนั้นทั้งแถบเป็นสวนข้าวโพด สวนผลไม้เยอะมากๆ สารเคมีทางการเกษตรก็คงจะไหลลงแม่น้ำไม่มากก็น้อยเลยทีเดียวครับ จากคุณ : Dr.Manta เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 13:48:24

ความคิดเห็นที่ 2 ผมเคยทำงานที่เกาะแห่งหนึ่งในภาคใต้ บ้านลูกค้าประสบปัญหาเรื่องน้ำใช้เหมือนกับ จขกท และลูกค้าก็มีแนวความคิดเรื่องน้ำเช่นเดียวกัน 1. น้ำจากภูเขา - ที่เกาะแห่งนี้ มีปัญหาเรื่องการใช้ยาฆ่าแมลงครับ น้ำที่ไหลลงมามีสารปนเปื้อน ไม่เหมาะกับการนำมาอุปโภค บริโภค ----- ผมไม่เห็นด้วยที่จะใช้น้ำจากภูเขา แต่ถ้าจะต่อท่อ เลือกท่อ HDPE ครับ สะดวกกว่ามาก 2. ขุดบ่อบาดาล - ค่าใช้จ่ายประมาณ 1 แสนบาท/บ่อ (ราคาที่บนเกาะ) ผมว่าน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสุดครับ อย่างน้อยน้ำก็มีการกรองโดยผ่านชั้นหินในระดับนึง จากนั้น ก็ติดตั้งเครื่องกรอง ชุดแยกโลหะหนัก เพิ่มคลอรีน ปรับ ph น่าจะได้น้ำที่คุณภาพดีสุด ----- ผมเห็นด้วยกับตรงนี้ครับ 3. บ่อน้ำผิวดิน - คุณภาพของน้ำก็คงจะดีกว่าน้ำที่มาจากภูเขา เพียงแต่ว่า ในฤดูแล้ง จะประสบปัญหาหรือเปล่าเท่านั้นเอง ที่เป็นห่วงก็สารเคมีเช่นเดียวกับน้ำจากภูเขาครับ จากคุณ : หมิงปู้ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 14:10:12

ความคิดเห็นที่ 3 โห...ค่าเจาะบ่อบาดาลแสนนึงเชียวเหรอเนี่ย   -_-" ตอนแรกนึกว่าหลักหมื่นซะอีก เดี๋ยวลองมาสำรวจราคาแถวบ้านผมดูดีกว่าว่าน่าจะตกอยู่กี่บาท อยากถามคุณหมิงปู้อีกนิดนึงครับว่าเครื่องกรองน้ำบาดาลกับชุดแยกโลหะหนักนั้น ราคาประมาณเท่าไหร่ เท่าที่ไปหาๆข้อมูลมา เค้าว่าน้ำบาดาลให้กำจัดกลิ่นสนิมเหล็กโดยทำให้น้ำเป็นฝอยละออง เพื่อให้น้ำโดนกับอากาศให้มากที่สุด ต้องการให้เหล็กออกซิไดซ์กับอากาศ และให้ใช้ถังสูงใส่หินกรองกับทรายกรองอีกทีนึง วิธีนี้พอไหวไหมครับ? จากคุณ : Dr.Manta เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 14:19:47

ความคิดเห็นที่ 4 วิธีดังกล่าว ใช้ได้ครับ  ตามโรงแรมใหญ่ๆ บนเกาะที่ใช้น้ำบาดาล ก็บำบัดน้ำด้วยวิธีนี้เช่นกันครับ เดี๋ยวตอนดึกๆ ผมกลับบ้านจะโพสรูป ตย การบำบัดน้ำให้ดูครับ จากคุณ : หมิงปู้ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 14:22:55

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบพระคุณคุณหมิงปู้มากๆน่ะครับ ^^ จากคุณ : Dr.Manta เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 14:28:10

ความคิดเห็นที่ 6 มาแบบดูเปนความรู้คับ เอารูปบ้านมาโชใด้วยนะคับ จขกท  อยากเห็น ^ ^ จากคุณ : MyLoveMyBabe เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 15:06:09

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยกับการเจาะน้ำบาดาลครับ ระดับการเจาะคงไม่น่าจะลึกมาก รูปชุดนี้เป็นรูปชุดกรองถ่ายจาก ทางไปวัดน้ำฮู แม่ฮ่องสอน รอดูรูปของคุณหมิงปู้เช่นกัน จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 16:05:56

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณคุณต้นโพธิ์ต้นไทรครับ ระบบบำบัดของวัดใหญ่โตอลัังการเหลือเกิน สงสัยจะเกินงบไปมากโขเลยทีเดียวครับ ถามอีกนิดนึงครับ ถ้าหากว่าผมจะขุดบ่อซึมแทนบ่อบาดาล โดยขุดตามในรูป (แม่น้ำสายใหญ่คือแม่น้ำโขง ส่วนที่เห็นเป็นร่องเล็กๆลึกลงไปคือลำธาร) ขุดให้สูงจากลำธารมาสักหน่อย แล้วถ้าเจอน้ำก็ขุดต่อไปให้ลึกอีกสักห้าเมตร ไม่ทราบว่าจะดีไหมครับ เพราะลองถามๆราคาค่าขุดแล้วก็ประหยัดกว่าเจาะบาดาลไปมากเลยทีเดียว จากคุณ : Dr.Manta เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 16:24:48

ความคิดเห็นที่ 9 ส่วนตัวบ้านจะอยู่บนเนินนี้ครับ กะว่าจะใช้ปั๊มสูบน้ำจากบ่อน้ำข้างล่างมาเก็บที่ถังสำรองข้างบนก่อน แล้วก็ค่อยนำน้ำจากถังข้างบนมาใช้อีกทีนึง เพื่อนๆห้องชายคามีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ? จากคุณ : Dr.Manta เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 16:28:58

ความคิดเห็นที่ 10 รูปอีกด้านหนึ่งของที่ดินครับ . . . จากคุณ : Dr.Manta เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 16:42:12

ความคิดเห็นที่ 11 แบบบ้านจะทำเป็นแบบนี้ครับ ที่ต้องหาแหล่งน้ำเพิ่มเติมก็เพราะว่าจะทำสระว่ายน้ำครับ เป็นสระที่อยู่ด้านหน้าตัวบ้าน ยกพื้นสระขึ้น(ทำคานรองรับ)   แต่ขนาดสระไม่ได้ใหญ่เท่านี้น่ะครับ กะว่าจะทำสัก 2.5 X 11  เมตร ลึกสัก 1.5 เมตร จากคุณ : Dr.Manta เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 16:49:07

ความคิดเห็นที่ 12 ไหนๆก็โพสภาพล่ะ โพสต่อเลยละกัน เพื่อนสนิทที่เป็นสถาปนิกคุมงานก่อสร้างครับ ^^ จากคุณ : Dr.Manta เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 17:04:32

ความคิดเห็นที่ 13 ชุดนั้นไม่ใช่ของวัดครับ อยู่ริมถนน ไกลจากวัดพอสมควร น่าจะเป็นของอบต.ท้องถิ่นแถวๆนั้น ถังปลอกปูนพวกนี้จะทนมาก ที่เห็นๆกันแถวที่เราอยู่นี่มีที่ใช้งานมา ๓๐กว่าปียังไม่มีปัญหา การทำถังปลอกสำหรับบ้านๆเดียว ก็ไม่ต้องทำหลายถังแบบในรูปก็ได้ แค่ ๓-๔ ถังก็พอ ค่าใช้จ่ายในการทำถังกรอง ๓-๔ ถัง แค่หมื่นต้นๆ อ้อ ควรมีถังพักน้ำอีก ๑-๒ ถัง ค่าต้นทุนปลอกบ่อ ๑ วง ขนาดเส้นผ่าศก. ๑๕๐ ซม.(มีหลายขนาด) สูง ๓๕ ซม. วงละเพียงประมาณ ๒๐๐-๓๐๐ บาท ต่อกันสูง ๗ ชั้น ก็เพียงสองพันกว่าบาท (ค่าปูนค่าเหล็กฐานค่าแรงยังไม่คิด) แล้วก็ใส่ กรวด ถ่าน ทรายหยาบทรายละเอียดลงไป บ้านพักอาศัย ไม่ต้องเปลี่ยนวัสดุกรองบ่อยๆก็ได้ ใช้พวกนี้ไม่แพง ทรายก็ตักจากแม่น้ำเลย - ควรปรึกษาผู้รู้จริงทางนี้อีกครั้ง น้ำที่เอามาดื่มกิน ก็ผ่านกรองเล็กอีกครั้ง บ่อน้ำซึม กลัวว่าตอนหน้าแล้งจะไม่มีน้ำน่ะสิ ถ้าดั้งเดิมมีน้ำไหลผ่านคลองตลอดปีก็น่าขุด ตอนหน้าน้ำ ก็กลัวน้ำจะท่วมบ่อ ระดับน้ำในแม่น้ำโขงนี่น่ากลัว ขุดบ่อบาดาลติดแม่น้ำโขง ระดับน้ำไม่น่าจะลึกมากมาย ค่าขุดไม่น่าถึงแสน พอขุดไ่ม่ลึก ค่าปั๊มก็ไม่แพง อัตราไหลก็มากหน่อย เห็นดินแล้วน่ากลัว ระวังตอนปลายสิงหาต่อกันยาอีกหน่อย ช่วงนั้นฝนจะมาหนัก ดินจะไหลตามน้ำ ควรทำแนวกันน้ำผ่านบ้านด้วยครับ ปล. จัดห้องเผื่อไว้ให้ด้วยนะ ผ่านไปจะไปแวะเยี่ยมเยียน อิอิ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 17:17:32

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณคุณต้นโพธิต้นไทรมากครับ ข้อมูลมีประโยชน์มาก เดี๋ยวจะลองปรึกษากันอีกทีครับ ตอนนี้ยังไม่ได้ถามราคาเจาะบาดาลเลย ถ้าไม่ถึงแสน แต่เป็นหลักหมื่นต้นๆก็น่าสนใจอยู่เหมือนกัน จากคุณ : Dr.Manta เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 19:02:58

ความคิดเห็นที่ 15 ค่าเจาะบ่อบาดาลคงไม่มีหมื่นต้นๆหรอก หมื่นกลางๆค่อนไปทางหมื่นปลายมากกว่า ที่เราบอกว่าหลักหมื่นต้นๆ คือค่าทำถังปลอกปูนครับ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 52 19:23:22 จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 19:22:55

ความคิดเห็นที่ 16 ของโรงแรมที่ผมไปขอดูเค้า จัดการเรื่องออกซิไดซ์สนิมเหล็ก เค้าใช้ถังไฟเบอร์กลาส ขนาด 5000 ลิตร แล้วก็ด้านบนต่อท่อเป็นรูเยอะๆ เพื่อให้น้ำเหล็กที่อยู่ในน้ำสัมผัสกับอากาศ (อ็อกซิเจน) มากที่สุด เพื่อจะได้ออกซิไดซ์ ได้ จากนั้นก็นำไปผ่านถังกรองทราย กับ คาร์บอนครับ ดังรูป 1. ถัง จากคุณ : หมิงปู้ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 20:02:56

ความคิดเห็นที่ 17 2. ชุดเครื่องกรอง จากคุณ : หมิงปู้ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 20:03:25

ความคิดเห็นที่ 18 จากนั้นก็ปั๊มขึ้นไปเก็บบนแทงค์ครับ 3. ปั๊มแรงดันสูงส่งน้ำขึ้นแทงค์ จากคุณ : หมิงปู้ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 20:04:46

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณคุณต้นโพธิ์ต้นไทรและคุณหมิงปู้มากๆครับ ได้ไอเดียขึ้นอีกโขเลยทีเดียวครับ จากคุณ : Dr.Manta เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 20:13:27

ความคิดเห็นที่ 20   บ้านเจ้าของกระทู้ท่าจะออกมาสวยนะค่ะ วิวสวย มีแม่้ำโขงไหลผ่าน อากาศเย็นสบาย ใช่ที่ จ.เลย รึเปล่าค่ะ แบบบ้านสวยมากๆค่ะ จากคุณ : กลับบ้านเร็วๆนะจ๊ะที่รัก เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 23:45:51 A:125.25.77.44 X: TicketID:225174

ความคิดเห็นที่ 21 จังหวัดเชียงรายครับผม จากคุณ : Dr.Manta เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 07:31:30

ความคิดเห็นที่ 22 จขกท ครับ หลังจากเลือกแหล่งที่จะนำน้ำมาใช้ได้แล้ว ให้เอา ตย น้ำไปติดต่อร้านที่ขายเครื่องกรองน้ำให้เค้าตรวจวิเคราะห์ สิ่งต่างๆ ในน้ำ เพื่อที่จะได้เลือกชนิดของสารกรอง และขั้นตอนการบำบัดน้ำที่เหมาะสมต่อไปครับ จากคุณ : winstar autogas เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 08:23:09

ความคิดเห็นที่ 23 ^0^  ที่ดินสวยจัง  แบบบ้านก็สวย น่าอิจฉาจัง จากคุณ : MyLoveMyBabe เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 13:03:05

ความคิดเห็นที่ 24 จขกท.ครับ เรื่องน้ำไม่ค่อยมีความรู้สักเท่าไหร่ แต่ถ้าลงทุนเพื่อใช้งานในระยะยาว ขุดบ่อบาดาลน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดนะครับ ส่วนเรื่องกระเบนต้องว่ายน้ำ ถ้าหน้าแล้ง น้ำบาดาลหมด ก็เดินลงไปทางหน้าบ้านเล่นน้ำโขงไปแทนก่อนละกัน.... จากคุณ : namit เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 14:40:29

ความคิดเห็นที่ 25 แนะนำให้ขุดน้ำบาดาลครับ.. โดยปรกติถ้าใกล้แม่น้ำหรือแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ระดับน้ำบาดาลก็จะใกล้เคียงกับแหล่งน้ำนั้นๆ (น้ำบาดาลระดับตื้น) ระดับน้ำในบ่อก็จะแปรผันตามระดับน้ำในแม่น้ำหรือแหล่งน้ำด้วย.. ให้ง่ายๆ ก็ลองดูบ่อบริเวณใกล้เคียงในพื้นที่นะครับว่าอยู่ลึกเท่าไหร่ ปริมาณ น้ำเป็นอย่างไร โดยปรกติก็จะใกล้เคียงกัน (ถ้าไม่มีโครงสร้างทางธรณีวิทยา มาบังคับ) ปล.แบบบ้านสวยจังเลยครับ จากคุณ : bb (ballbadm) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 18:36:20

ความคิดเห็นที่ 26 ตอนนี้ท่าทางน้ำบาดาลท่าทางจะต้องตัดออกไปก่อนครับ เพราะเมื่อ 15 นาทีที่ผ่านมา ไปถามคนขุดเจาะเค้าบอกว่าหลักแสน คงสู้ราคาไม่ไหว ถามเค้าว่าทำไมแพง เค้าให้เหตุผลว่าน้ำโขงทางเหนือเป็นแก่งหินเยอะ ดินแถวๆนั้นก็เป็นหินเยอะเช่นกัน เลยคิดค่าเจาะแพง ซะงั้น...... T_T จากคุณ : Dr.Manta เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 19:48:36

ความคิดเห็นที่ 27 บอกพิกัดมา เดี๋ยวจะพิจารณาให้ หรือแจ้งว่าจากถนนเลียบน้ำโขงห่างจากตัวอำเภอ กี่กิโล จากคุณ : Waterman (LN106) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 20:56:08

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ waterman ต้องการพิกัดเป็นระบบ GPS หรือเปล่าครับ เพราะผมได้ระบุตำแหน่งบ้านผมบน GPS ในรถยนต์เอาไว้ แต่ถ้าต้องการตำแหน่งคร่าวๆของบ้านก็เป็นอ.เชียงของ ขับรถออกจากตัวอำเภอไปทาง อ.เชียงแสนอีก 6 km ครับ อยู่ติดกับแม่น้ำโขงเลย ขอบคุณล่วงหน้าน่ะครับ จากคุณ : Dr.Manta เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 22:11:28

ความคิดเห็นที่ 29 ตำแหน่งบน GPS คือ 20.313560, 100.380621  ครับ จากคุณ : Dr.Manta เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 22:39:32

ความคิดเห็นที่ 30   จขกท.รบกวนเช็คหลังไมค์ด้วยนะคะ จากคุณ : crazii.angier เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 22:42:53

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณคุณ  crazii.angier มากครับ ผมหลังไมค์ไปถามคำถามเพิ่มเติมอีกนิดนึงน่ะครับ เกรงใจจัง ^^" จากคุณ : Dr.Manta เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 23:01:14

ความคิดเห็นที่ 32 พิกัด Lat Long มันไม่ละเอียด ของผมจะใช้ UTM ซึ่งมันละเอียดระดับเมตร จากข้อมูล บ้านจขกท. น่าจะอยู่ที่ 443468 ตรงที่วงสีแดงไว้ อยู่ข้างๆ ร่องใส ซึ่งมีพื้นที่รับน้ำนิดเดียว หน้าแล้งอาจไม่มีน้ำ ซึ่งหากเอาน้ำมาใช้ก็อาจใช้วิธีขุดบ่อข้างตลิ่ง พร้อมทำ Check Dam ไม้ตอกเล็กๆ เพื่ออัดน้ำเข้าบ่อ ในบ่อก็วางบ่อวงซีเมนต์ 2 ขนาด แล้วใส่ทรายระหว่างชั้นเพื่อเป็น Prefilter แล้วค่อยสูบน้ำใสขึ้นไปใช้ แต่ควรตรวจสอบระดับน้ำนองสูงสุดของน้ำโขง เพราะหน้าฝนกับหน้าแล้ง ระดับมันต่างกันเป็นสิบเมตร ซึ่งหากยกปากบ่อไม่พ้น หน้าน้ำน้ำขุ่นจะเข้าบ่อ และเกิดปัญหาบ่อตื้นเร็วตามมา วิธีนี้ จะต้องมีค่ากระแสไฟฟ้าที่ใช้ในการสูบน้ำ แต่ค่าดูแลจะน้อย ส่วนใหญ่ที่ผมวางและออกแบบให้กับหมู่บ้าน จะเป็นประปาภูเขา ที่ส่งน้ำด้วยแรงดัน ซึ่งในแผนที่จะวงสีน้ำเงินไว้ พื้นที่รับน้ำของห้วยเม็งค่อนข้างมาก น่าจะมีน้ำตลอดปี วิธีการอัดน้ำอย่างชาวบ้านก็ใช้ไม้ตอกแล้วอัดดินเพื่อทดน้ำเข้าท่อ (แต่ที่ทำจะเป็นฝาย คสลง เล็กๆ ตัวนึงก็หลายแสน ) ในกรณีนี้จะเดินท่อยาวหน่อยประมาณ 4 กม. โดยเอาน้ำมาถังกรองปิดบริเวณดอยตะเคียน แล้วทำถังพักเล็กๆ แถวนั้น จขกท. จะมีแรงดันเหลือเฟือประมาณ 30-40 ม. กรณีนี้จะมีค่าท่อมากหน่อย แต่ Operating & Maintainan Cost มีน้อย ซึ่งหากให้ถังกรองอยู่ต่ำกว่าถังพักมากพอ ก็จะสามารถเอาน้ำใสจากถังพัก Back Wash ถังกรองได้โดยตรง ที่ Head ประมาณ 80 ม. ท่อ 1 1/2" จะได้น้ำประมาณ 75 ลิตรต่อนาที หรือ ชั่วโมงละกว่า 4 ลูกบาศก์เมตร สำหรับการสูบจากน้ำโขง เนื่องจากระดับน้ำในแต่ละฤดูแตกต่างกันมาก จะมีปัญหาในการย้ายเครื่องสูบ หรือหากเป็นแพ ก็ระวังมันลอยตามน้ำ ลองพิจาณาดูนะครับ จากคุณ : Waterman (LN106) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 00:42:08

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณพี่มนุษย์น้ำมากครับผม บ่อน้ำที่ผมคิดเอาไว้ก็เป็นบ่อแบบที่พี่แนะนำมาเลย คือจะขุดบ่อริมตลิ่ง ซึ่งมีหวังว่า(อาจ)จะมีน้ำ แต่ตอนนี้ผมอ้างอิงจากปีก่อนซึ่งระน้ำขึ้นสูงมากๆๆ(ขึ้นมาท่วมตัวหนอนข้างน้ำโขง) ก็คงขุดสูงกว่านั้นมาหน่อยนึง ขอรบกวนถามนิดนึงครับ Check Dam เนี่ยคืออะไรครับ คือฝายแม้วหรือเปล่าครับพี่? ขอบคุณมากๆอีกครั้งครับ จากคุณ : Dr.Manta เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 08:48:10

ความคิดเห็นที่ 34 ผมไม่อยากให้เรียกว่าฝายแม้ว เพราะพวกนี้ไม่เห็นอนุรักษ์ต้นน้ำที่ตัวเองอาศัย มีแต่ทำลาย (ขนาดแค่ชื่อเล่นก็ยังยุ่งเลย) Check Dam อยากให้เรียกว่าฝายต้นน้ำมากกว่า ครับ ทำง่ายๆ ใช้วัสดุที่มีแถวนั้น อาจใช้ไม้ตอกเป็นคอก เอาดินหรือหินใส่ให้ทึบน้ำ หรืออาจเอาหินท้องน้ำมาก่อหรือเอาปูนยาแนวขวางทางน้ำ สำหรับเรื่องระดับนี่ลองถามชาวบ้านแถวนั้น แล้วเทียบเคียงเอานะครับ เพราะ3-4 ปีที่ผ่านมา ระดับน้ำในน้ำโขงมันไม่สูงมาก น้ำแทบไม่ท่วมเชียงแสน จากที่เคยท่วมทุกปี ปีละ 2-3 หน ซึ่งก็น่าจะเป็นผลมาจากการสร้างเขื่อนพลังน้ำในจีน (เป็นสมมุติฐานผม ซึ่งกำลังเก็บข้อมูลอยู่) อลงถามคนเก่าๆ รุ่น 60 ขึ้นไปดูนะครับ ว่าราวๆ ปี 2499 หรืออะไรนี่แหละ มันเคยท่วมมิดหลังคาที่ว่าการอำเภอเชียงแสนมาแล้ว จากคุณ : Waterman (LN106) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 12:08:03

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณพี่ Waterman อีกครั้งครับผม ถ้าเป็นฝายแบบนั้นโอเคเลย เพราะเคยไปออกค่ายอาสาช่วยเค้าทำอยู่ เดี๋ยวลองหาตำแหน่งขุดบ่ออีกที ถ้าเสร็จแล้วจะโพสรูปให้ดูน่ะครับ จากคุณ : Dr.Manta เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 23:13:33