ความคิดเห็นที่ 1 ผมขอตอบเท่าที่ทราบนะครับ 1. ไม่เกี่ยวกันครับว่าเป็นญาติกัน เพราะกระบวนการขอกู้จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้กู้และประเมินทรัพย์สินนั้น ซึ่งการตรวจสอบคุณสมบัติผู้กู้จะตรวจสอบเกี่ยวกับการเงินของผู้กู้ ส่วนการประเมินก็เป็นการประเมินของธนาคารครับ ยังไงคุณตาก็คงมีส่วนร่วมไม่ได้ 2.ราคาประเมินนั้นทางธนาคารจะส่งเจ้าหน้าที่ไปที่บ้าน เพื่อดูทำเล สภาพ แล้วเค้าก็จะถ่ายรูปๆๆๆ ทุกซอก ทุกมุม เพื่อนำข้อมูลไปตรวจสอบกับเกณฑ์ของธนาคารนั้นแล้วประเมินมาเป็นมูลค่าครับ ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีเกณฑ์แตกต่างกันไป ไม่เหมือนกัน ทำให้ราคาประเมินของแต่ละธนาคารค่อนข้างแตกต่างกันครับ ส่วนราคาประเมินของเว็บราชการนั้น จะใช้ตอนโอนบ้านครับสำหรับคิดค่าธรรมเนียมการโอนครับ 3.เขียนในหนังสือซื้อขายไม่ต้องตรงกับที่ขายจริงก็ได้ครับ เพราะยังไงแล้ว ธนาคารก็จะให้เงินกู้ 80% จากราคาประเมินของธนาคารเองครับ(ตัวเลข % อาจมีลดหรือเพิ่มขึ้นอยู่กับธนาคารนั้นๆครับ แต่ส่วนใหญ่จะ 80%) ซึ่งจำนวนเงินที่ได้นั้น ก็จะนำมาเข้าสูตรว่าคุณมีเงินเดือนพอที่จะกู้จำนวนเงินดังกล่าวได้หรือไม่ หากไม่พอ คุณก็ต้องหาผู้กู้ร่วมเพื่อเพิ่มรายได้ต่อเดือนให้สามารถผ่อนจ่ายเงินกู้ได้ครับ ส่วนตัวเลขขายจริงนั้น บางธนาคารไม่ได้สนใจนะครับว่าเท่าไร แต่บางธนาคารจะสนใจว่า ถ้าเค้าให้เงินกู้คุณจำนวนนี้แล้วคุณจะมีเงินพอที่จะซื้อบ้านหลังนี้ได้ไหม เช่น บ้าน 1 ล้าน 5 แสนบาท แต่ยอดกู้ได้ 1ล้าน 2แสนบาท คุณก็ต้องยื่นหลักฐานการเงินเพิ่มเข้าไปด้วยว่าคุณมีเงินอยู่ 3แสนบาท เพื่อแสดงให้ธนาคารเหนว่าเมื่อรวมเงินที่ธนาคารให้แล้ว คุณสามารถซื้อบ้านหลังนี้ได้ เป็นต้น 4. ผมแนะนำว่าให้ยื่นหลายๆธนาคารครับ อย่างแรกเลย บางธนาคารดอกเบี้ยถูกก็จริงแต่ให้วงเงินกู้ได้น้อยกว่าที่ต้องการครับ ซึ่งตรงนี้ต้องดูหลายๆอย่างด้วย บางที่ดอกเบี้ยมากแต่ก็ให้วงเงินมาก 5.ภาษีที่ได้รับการลดหย่อนตอนนี้ก็คือ ค่าธรรมเนียมการโอนครับ จากเดิม 2% ลดเหลือ 0.01% ครับ มีผลถึงเดือนมีนาคมปีหน้า (เดือนปีตรงนี้ผมไม่แน่ใจนะครับ แต่ถ้าได้โอนปีนี้ได้ rate นี้ชัวร์ๆ) ขอเสริมอีกนิดนะครับ ถ้าหากธนาคารให้วงเงินได้น้อยกว่าที่ต้องการ ลองคุยกะเจ้าหน้าที่ที่ดีลอีกทีครับแล้วยื่นกู้ตกแต่งบ้านเพิ่มครับ มันมีวงเงินให้ 10% ของยอดวงเงินกู้ครับ ก็เพิ่มมาได้หน่อย (ตัวเลข % ขึ้นอยู่กับธนาคารนะครับ) อยากให้ลองเชคกับบริษัทที่คุณทำงานด้วยครับว่ามีสวัสดิการที่ติดต่อกับธนาคารไหนหรือไม่ เพราะถ้าหากมีผมแนะนำให้ไปติดต่อธนาคารนั้นก่อนครับ มันจะง่ายเพราะว่ามีชื่อบริษัทเราคอยหนุนให้อยู่ครับ จากคุณ : มดบิน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:07:37

ความคิดเห็นที่ 2 ขอเพิ่มข้อ 3 อีกนิดนะครับ หากราคาประเมินสูงกว่าราคาซื้อขายจริง ธนาคารจะยึดราคาซื้อขายจริงแทนครับ แต่ส่วนใหญ่ ราคาประเมินจะต่ำกว่าทุกที นอกจากทำเลทองสุดๆๆ ครับ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 52 01:10:38 จากคุณ : มดบิน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 01:10:19