ความคิดเห็นที่ 1 ยังงัยก็ต้องเดินหน้า เริ่มวางแผนล้างแอร์ โดยเริ่มถอดหน้ากากชิ้นหน้า ชิ้นหลัง ออก ก็เพราะแอร์ตัวนี้ใช้มาก็สิบกว่าปีแล้ว ชิ้นส่วนก็เริ่มกรอบบ้าง ก็ต้องระวังกันหน่อย จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 21:28:43

ความคิดเห็นที่ 2 หลังจากนั้น ก็ถอดมอเตอร์คุมแผงทิศทางลมออก แล้วก็จะถอดแผงคุมทิศทางลมออก ได้ จะบอกว่า สกปรกอย่างหนัก ทั้งครีบ ทั้งแผง จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 21:29:32

ความคิดเห็นที่ 3 หลังจากนั้น ก็จัดหาถุงพลาสติกใหญ่ซักหน่อย พอที่จะกันน้ำกระเด็น เอาด้านปากถุงขึ้น กรีดปากถุงออกซะหน่อย เพื่อเพิ่มพื้นที่ปากถุง แล้วใช้สายไฟเส้นใหญ่แขวนตัวถุงพลาสติกไว้ ที่ใช้สายไฟเส้นใหญ่ก็เพราะว่า มันแข็ง ดัดให้ถุงพลาสติกแขวนในตำแน่งที่ต้องการได้ ส่วนก้นถุงก็เจาะรู ให้ระบายน้ำออกจากตัวถุงได้ รองด้วยถังสักใบ จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 21:30:19

ความคิดเห็นที่ 4 ปกติแล้ว แอร์ตัวในบ้าน ส่วนที่จะสกปรกหลักๆ ก็จะเป็น รังผึ้งแอร์ กับ ใบพัดลม ซึ่งก็จริง ฮาฮา แอร์ของที่บ้าน เต็มไปด้วยฝุ่น เต็มซะ เคย เห็นช่างแอร์ตอนมาล้างที่บ้าน เค้าจะถอดใบพัดลมออกไปล้าง แต่ก็ต้องถอดน๊อต ยกแผงรังผึ้ง ถึงจะถอดใบพัดออกมาได้ ซึ่งถ้าไม่ใช่ช่างจริง ผมว่าไม่น่าจะเสี่ยง เคยลองจะถอดดูครั้งก่อนโน้น แต่ไม่สำเร็จ เสียวแผงรังผึ้งจะหักซะก่อน เสียตังค์หลายพันละครับ สาเหตุที่ทำให้เกิดเสียงดังของตัวใบพัดลม คงเพราะใบมันสกปรกมากอย่างนี้เอง ทำให้การหมุนอาจผิดจังหวะ เลยเกิดเสียงละครับ จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 21:30:45

ความคิดเห็นที่ 5 จะเริ่มทำความสะอาดแล้ว ก็เตรียมน้ำยาทำความสะอาดแผงรังผึ้ง ซื้อจากห้างตอนลดราคา ร้อยปลายๆ กับ กระบอกฉีดน้ำอัดลม จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 21:31:20

ความคิดเห็นที่ 6 เริ่มจากฉีดน้ำยาทำความสะอาดแผงรังผึ้ง จะมีเสียง ฟู่ พร้อมทั้งเริ่มมีน้ำสีดำๆ หยด เราก็เลยเอาให้แน่ใจ ฉีดไปซะสองรอบ จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 21:31:46

ความคิดเห็นที่ 7 พอเสียง ฟู่ เริ่มค่อยลง ก็เอาน้ำฉีดล้างซะหน่อย จริงๆ แล้วข้างกระป๋องอธิบายด้วยรูปว่า หลังจากฉีดน้ำยาแล้ว น้ำสกปรกจะไหลออกไปทางท่อน้ำแอร์เอง แต่ว่าผม ไม่อยากให้มันตกค้างตามครีบ ก็เลยฉีดน้ำล้างด้วยซะเลย ระหว่างฉีดน้ำ ก็คอยเช็คทิศทางการไหล-หยดของน้ำล้างด้วย คุมการไหลของน้ำให้อยู่ในถุงพลาสติกให้ดี จะได้ไม่ต้องเหนื่อยไปเช็ดพื้น เช็ดโต๊ะกันอีกรอบ จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 21:32:12

ความคิดเห็นที่ 8 เสร็จจากทำความสะอาดแผงรังผึ้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ใช้กระบอกฉีดน้ำ ไล่ฉีดทำความสะอาดใบพัดลม ทีละครีบๆ น้ำก็จะล้างฝุ่นที่ติดตามร่องใบพัด ออกมาเป็นก้อน จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 21:32:47

ความคิดเห็นที่ 9 ล้างคอมแอร์ตัวในเสร็จแล้ว ก็มาตรวจผลงานจากการล้างกันซะหน่อย โห น้ำรึนี่ ดำมากมาย จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 21:33:09

ความคิดเห็นที่ 10 หลังจากนั้น เราก็นำชิ้นส่วนภายนอกที่ถอด ออกไปล้างทำความสะอาด พร้อมทั้งเป่าไล่ลมซะหน่อย เสร็จ แล้วก็ประกอบเครื่องกลับ ยังงัยก็ระวังเรื่องการใส่รางน้ำทิ้งซะหน่อย อย่างของผม ตอนกำลังใส่ เห็นมีฟองน้ำยางรอง ก้อนนึง ผมไปใส่ผิดไปใส่หนุนด้าน น้ำออก ทำให้องศาการติดแผงมันเพี้ยน น้ำเลยไหลย้อนหยดเข้ามาในบ้าน เลยต้องรื้อหน้ากากแอร์เอาฟองน้ำมารอง ให้อีกด้านสูงขึ้นกว่ารูน้ำทิ้ง ทำงานสองรอบซะงั้น จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 21:33:36

ความคิดเห็นที่ 11 เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ คงต้องบอกคุณนายฯ ว่าให้เตรียมเสื้อหนาวตอนนอนด้วย คาดว่าคงหนาวมาก อิอิ จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 21:34:53

ความคิดเห็นที่ 12 เยี่ยมครับ.............. แล้วเสียงแต๊กๆ น่ะหายไปไหมครับ จากคุณ : นายสันทัด เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 22:08:51

ความคิดเห็นที่ 13 เก่งครับ ผมจ้องจะล้างเองเหมือนกัน ตัวกลัวว่าต้องเสียค่าล้างอีกเป็นหมื่น เลยจ้างช่างดีกว่า 500 บาท จากคุณ : panda_ch เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 22:37:34

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ทราบว่าซื้อกระบอกฉีดน้ำอัดลมที่ไหนครับ อยากได้มานานแล้ว จากคุณ : prapanc เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 22:55:21

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณค่ะ ไว้คราวหน้าจะลองทำดูบ้างนะคะ จากคุณ : . (มนตราแห่งรัก) เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 00:58:15

ความคิดเห็นที่ 16 คคห 14 ลองดูร้าน/แผนกอุปกรณ์เกษตร  กระบอกฉีดยาฆ่าแมลง จากคุณ : Pun_Pom เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 07:24:47

ความคิดเห็นที่ 17 เยี่ยมครับ กรุณาแนะนำ,ชี้จุดหรือวาดแบบวิธีถอดแผงปรับทิศทางลม(ตามรูปคห. ๒)ให้ด้วยครับว่าเริ่มจากน๊อตตัวใดโยกซ้ายขวาอย่างไรจึงจะถอดออก ผมเล็งมานานมากแล้ว ของผมเป็น MR.Slim คิดว่าน่าจะมีวิธีการถอดเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ จากคุณ : รอมานาน (คันชั่ง) เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 08:44:01

ความคิดเห็นที่ 18   เก่งมากครับ ช่างแอร์ไม่ได้เข้าบ้านนี้อีกนาน... จากคุณ : okapi เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 09:21:13

ความคิดเห็นที่ 19 น้ำยาทำความสะอาด ช่างบอกว่ามันจะกัดรังผึ้งทะลุได้ ต้องเอาน้ำฉีดออกแบบนี้ล่ะถูกต้องแล้ว จากคุณ : alfajet เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 09:30:12

ความคิดเห็นที่ 20   รุ่นเดียวกับที่บ้านผมเลย MITSUBISHI NS-12NV จากคุณ : แดง เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 10:10:59 A:125.24.195.212 X: TicketID:125091

ความคิดเห็นที่ 21 กระบอกฉีดอัดอากาศ ..   แจ่มเลย      ไม่เลอะเทอะดีด้วย จากคุณ : เข็มแม่เหล็ก เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 10:18:34

ความคิดเห็นที่ 22 เคยถอดออกมาล้างเองแบบนี้ ปรากฏว่าตอนประกอบกลับมันไม่เหมือนเดิม ท่อน้ำทิ้งมันไม่สนิท ทำยังไงก็ไม่สนิทเหมือนเดิม ตั้งแต่นั้นมา น้ำหยดทุกคืนเลยครับ ต้องเอาถังมารองน้ำแอร์ จากคุณ : ar เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 12:20:44

ความคิดเห็นที่ 23 ที่บ้านถอดล้างมาหลายหน ลงทุนซื้อที่ฉีดน้ำแรงดันสูงมาเลย ปรากฎว่าครั้งล่าสุด น้องฉีดซะตัวรับสัญญาณรีโมทพัง เสียค่าซ่อมพันนึงเซ็งเลย จากคุณ : บูม.. เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 13:00:31

ความคิดเห็นที่ 24 ดีจังเลยเราล้างที่สิงคโปร์ครั้งเป็นร้อยเหรียญไว้จะให้คุณสามีเอาใช้ดูค่ะ จากคุณ : papa (fiatowen) เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 13:20:07

ความคิดเห็นที่ 25   ดูขั้นตอนเตรียมอุปกรณ์แล้วเหมือนมืออาชีพเลย แต่พอตอนใช้สเปรย์ล้าง+กระบอกน้ำฉีด กลายเป็นมือสมัครเล่นครับ ทำความสะอาดไม่ได้เต็มที่ ฝุ่นออกไม่หมดหรอกใช้น้ำยาล้างแค่นั้น ไม่นานก็ตันอีก ลงทุนซื้อเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงเครื่องเดียวใช้ได้หลายครั้ง สะอาดเท่ากับจ้างช่างมาล้างแอร์  ล้างสองครั้งก็คุ้มราคาเครื่องแล้ว จากคุณ : <SportivO> เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 13:39:13

ความคิดเห็นที่ 26 คืออย่างนี้นะครับผมจะอธิบายให้ฟังว่า 1. คอยล์เย็น + พัดลม เป็นจุดที่สกปรกทีสุดและมีผลต่อความเย็นและการสินเปลืองไฟฟ้า การล้างให้สะอาดและปราศจากสารก่อภูมิแพ้และเชื้อราต้องล้างด้วยน้ำแรงดัสูงเท่านั้น 2. การล้างด้วยโพมซึ่งมีสารเคมีอยู่อาจจะทำให้คราบที่มองเห็นได้หมดไป แต่แน่นอนมันไม่ได้สะอาดหมดจดเหมือนน้ำ แถมยังมีสารเคมีหลงอยู่ตามซอกเล็ก ๆ อีกมากมายซึ่พร้อมที่จะกัดกร่อนอลูมิเนียมและเหล็กทำให้เป็นสนิม และคุณก็ยังได้รับสารเคมีนั้นเวลามันถูกพัดออกมาอีกด้วย การล้างสารเคมีออกให้หมดก็มีด้วยกัน 2 วิธี 2.1 ล้างโดยใช้แรงดันน้ำสูง 2.2 ล้างโดยน้ำอุ่นครับเพื่อกำจัดสารเคมีที่เป็นตัวกัดสิ่งสกปรก 3.ผมบอกได้เลยว่าไม่เกลี้ยงเหมือนฉีดน้ำแรงดันสูงหรอกครับ 4.ส่วนตัวนอกนั้นต้องใช้น้ำแรงดันสูงฉีดเข้าไปล้าง ตะกรั้นที่เกาะแน่นมากออกเพื่อให้ตัวมันสามารถระบายความร้อนได้ดี เพื่อไม่ให้แอร์กินไฟฟ้าสูงเกินไปซึ่งเปลืองค่าไฟฟ้า 5. แน่นอนผมกำลังจะทำวิธีล้างแอร์มให้เพื่อน ๆ ดูอย่างถูกวิธีทุกขั้นตอนในเร็ววันนี้ครับ จากคุณ : loveJust เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 13:45:34

ความคิดเห็นที่ 27 จากคุณ   : นายสันทัด -- เสียงดังหายไปเป็นปลิดทิ้งเลยละครับ แสดงว่าตัวลูกปืนมันก็ยังลื่นดีอยู่ ติดแค่มีฝุ่นจับใบเลยมีปัญหาละครับ จากคุณ   : panda_ch -- ครับ ก็เมื่อก่อนที่บ้านก็เรียกช่างมาล้าง ทีละ 500 เหมือนกัน แต่บางครั้งเรียกมาล้างแค่ตัวเดียว เค้าก็ไม่ค่อยอยากจะมาซะ จากคุณ   : prapanc -- ตาม k.Pun_Pom ว่าละครับ ที่บ้านผมก็มที่ีฉีดอัดอากาศ ตัวเล็ก ตัวกลาง กับตัวใหญ่ 4 ลิตร ใช้ตามโอกาส จากคุณ   : . (มนตราแห่งรัก) -- ลองทำดูได้เลย ก็เหมือนๆ กับที่เราถอดแผงดักฝุ่นมาล้างละครับ ล้างบ่อยหน่อย แอร์ก็เย็นนาน จากคุณ   : Pun_Pom -- ขอบคุณครับที่ช่วยตอบ ถ้าไม่สะดวกตามร้านเกษตร ตามห้างโฮมฯ ก็มี แต่แพงกว่านิด จากคุณ   : รอมานาน (คันชั่ง) -- ถ้าเป็นตัวแผงปรับทิศทางลมนี้ พอถอดหน้ากากตัวหน้า ตัวหลังออก ของผมจะมีจุดยึดน๊อตแค่จุดเดียวด้านซ้าย ส่วนด้านขวาจะถูกล๊อคด้วยแผงหน้ากากไฟ led พอถอดแผงไฟ ที่เป็นแง่งออก ทั้งแผงก็หลุดออกมาแล้วครับ จากคุณ   : okapi -- ขอบคุณครับ ก็บ้านผมอยู่ไกลชานเมือง ช่างไม่ค่อยยอมจะเข้ามาซะละครับ จากคุณ   : alfajet -- ใช่ครับ ตอนแรก ผมก็เคยไปถามที่ร้านแอร์ เค้าก็บอกว่าตัวน้ำยาบ้างครีบ ที่เค้ามีขายอยู่ จะกัดเฉพาะพวกคราบไขมัน แต่ผมไม่ค่อยจะมั่นใจ เลยล้างออกด้วยดีกว่า ถ้ากัดแผงอลูมิเนียมนี้ทะลุที ซ่อมไม่คุ้ม ต้องเปลี่ยนใหม่ หลายพันเชียว จากคุณ   : แดง -- ของผมใช้มาสิบกว่าปีแล้ว ยังงัย k.แดง ลองล้างดูมั่งก็ได้ หนุกหนานละครับ จากคุณ   : เข็มแม่เหล็ก -- ใช่ครับ ตอนแรกผมก็ใช้ตัวในรูป แต่ลมมันแป๊ปๆ หมด ตอนล้างจริงเลยใช้ตัวใหญ่กว่านี้อีกอัน ก็ได้น้ำที่แรงขึ้น แป๊ปเดียวสะอาด จากคุณ   : ar -- ปัญหานี้ ผมก็เคยเจอ ช่างที่เคยมาล้างแอร์ให้ที่บ้าน ก็เจอ ก็ตอนประกอบแผงปรับทิศทางลม ที่จะเป็นรางน้ำในตัวเข้าที่ ต้องเล็งให้ดีว่า แนวติดต้องห้ามเป็นระนาบเดียวกัน ต้องยกด้านตรงข้ามรูระบายน้ำให้สูงกว่านิด อย่างของที่บ้านผมจะมีตัวยางนิ่มๆ ตัวนึงเอาไว้หนุน ลองไปหาก้อนยาง หรือ ฟองน้ำมาหนุนดูนะครับ จากคุณ   : บูม.. -- แย่เลย เครื่องฉีดแรงดันสูง มันจะแรงเกินสำหรับล้างครีบแอร์ด้วยละครับผมว่า จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 13:54:07

ความคิดเห็นที่ 28   อ่า เก่งมากอ่ะค่ะ อยากทำเองมั่ง แต่กลัวประกอบคืนไม่ครบ 555+ จากคุณ : perry_berry เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 14:08:56

ความคิดเห็นที่ 29 จากคุณ   : papa (fiatowen) -- ดีครับอยู่เมืองนอก ค่าแรงบริการก็แพงกว่าเมืองไทยอยู่แล้ว จากคุณ   : <SportivO> -- ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล พอดีว่าผมยังไม่ได้ลงทุนซื้อเครื่องฉีดแรงดันสูงน่ะครับ เพราะปกติก็มองดูแ้ล้ว ไม่มีเหตุอื่นให้ใช้ อย่างตอนล้างรถก็ต่อน้ำจากก๊อกหน้าบ้าน ก็แรงพอ จากคุณ   : loveJust -- ขอบคุณอีกท่านนะครับ ก็เห็นว่าตัวน้ำยาล้างแผง เค้าก็มีขายกันในห้างก็เลยลองซื้อมาใช้ ถ้ายังงัย จะลองดูวิธีที่จะแนะนำ เผื่อว่าจะปรับการล้างเครื่อง ครั้งหน้านะครับ จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 14:11:01

ความคิดเห็นที่ 30 ปรบมือครับ จากคุณ : pan-pan เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 14:52:47

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณครับ การ DIY เป็นสิ่งดีครับ การเรียกช่างมาล้างก็โอเค เพราะบ้านเรา ราคาไม่แพง ของผมเรียกก็ 400 ... และต้องสั่งช่าง ไม่ต้องวัดน้ำยาแอร์ ไม่ต้องเอาสเปรย์มาฉีดแล้วคิดเงินเพิ่ม ล้างน้ำเปล่า ล้าง unit ใน-นอก ให้สะอาด ข้อควรระวัง แอร์ไฮโซ พวก inverter ช่างประกอบไม่เป็น พวกมอเตอร์เลื่อนเปิดปิดฝาครอบแอร์ หรือ พวกไดกิ้น ช่างแกะยากมักจะทำหัก อันนี้ต้องทำใจ หากเขี้ยวๆ ให้ถามโทรช่างก่อนจะเรียกมาว่าแกะเป็นแน่ๆ ถ้าทำเสีย ไม่จ่ายตังค์นะ จากคุณ : KENG76 เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 15:22:46

ความคิดเห็นที่ 32 จากคุณ   : perry_berry -- ต้องลองแกะๆ ประกอบๆ เครื่อง-ของไปเรื่อย ละมั้งครับ ถึงจะจับทางได้ ฝรั่งก็จะไม่ทำเกิน ญี่ปุ่นก็จะไม่ทำขาด จากคุณ   : pan-pan -- ขอบคุณครับ จากคุณ   : KENG76 -- ถ้างั้น ก็ต้องนั่งคุมช่างล้างตลอดเลยมั้งครับ ผมก็เสียวเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่ช่างเฉพาะของบริษัทแอร์ บางทีก็ต้องงมกับวิธีแกะอยู่เหมือนกันละครับ จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 23:05:46

ความคิดเห็นที่ 33 แจ๋วไปเลย จากคุณ : หมาร่าหมาหรอด (C.BUN) เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 08:11:07

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้าไม่เก่งหรือไม่ชำนาญจริงๆอย่าทำดีกว่าครับ คุ้มไม่เท่าเสีย ของผมทำได้เต็มที่ก็แค่ถอดแผ่นกรองอากาศ 2 แผ่นมาล้างเท่านั้น แหะ แหะ พยาย๊ามจะถอดฝาครอบทั้งหมดออกแล้วไล่เช็ด (แค่เช็ด ไม่ใช่ฉีดล้าง) พวกพัดลม ฯลฯ ยังไม่มีปัญญาเลย เฮ้อ จากคุณ : neverever เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 10:08:56

ความคิดเห็นที่ 35 จากคุณ   : หมาร่าหมาหรอด (C.BUN) -- อิอิ รู้ได้งัยครับว่า แจ๋วไปเลย เสร็จงานผมเลยต้องมากวาดๆ เช็ดๆ เองอีกที -แซวขรำๆ ละครับ- จากคุณ   : neverever -- ครับ ถ้ายังงัยไม่อยากถอดเอง ก็ล้างๆ ข้างนอกก็พอ จริงๆ แล้วพอถอดแผงกรองอากาศแล้ว ก็จะเห็นแผงอลูมิเนียมแล้ว จะใช้สเปรย์ฉีด หรือ น้ำฉีดก็ได้ น้ำก็จะระบายออกไปทางท่อน้ำทิ้งเองได้ละครับ จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 19:34:38

ความคิดเห็นที่ 36 ขอชมเชย จขกท มีความพยายามดีครับ ผมก็เคยทำแต่ว่า โห...มันยุ่งยากพอสมควรเลยละ กว่าจะทำเสร็จยังนึกเลยว่าจ้างมาล้างสี่ร้อยก็คุ้มเหมือนกันนะ ผมมาเห็นแผ่นฟิลเตอร์ของสามเอ็ม จึงซื้อมาทดลองใช้ เฉลี่ยแผ่นละ 50 บาทต่อ1เครื่อง(คอยซื้อตอนเซลกระหน่ำ) ผมว่าดีคุ้มค่า ไม่ได้โฆษณานะ จากคุณ : thaiMBA เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 20:43:51

ความคิดเห็นที่ 37 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 00:27:11

ความคิดเห็นที่ 38 ^^ จากคุณ : Register_AC เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 00:58:37

ความคิดเห็นที่ 39 ผมก็ล้างแอร์เองมาเป็นปีแล้ว  คล้ายๆ จขกท  ต่างกันตรงผมไม่ค่อยได้ใช้สเปรย์กระป๋องเท่าไหร่  เพราะผมมีแอร์เป็นจำนวนมาก  ผมใช้ที่ฉีดน้ำกล้วยไม้  เป็นเหล็กใช้มือโช๊คเอา  แรงน้ำสูงมาก  สามารถฉีดได้ไกลถึง 8 เมตร  ปรับหัวได้ว่าเอาฝอยหรือเส้น  แบบเส้นจะแรงมาก  แล้วผมก็ทำแผ่นรองน้ำทิ้งเป็นผ้าพลาสติกไว้เลย  รัดหนังสติ๊กกับตัวหน้ากากกันน้ำหก  เรื่องเครื่องฉีดน้ำอย่าซื้อเลย  เพราะถ้าห้องน้ำที่ต่อก๊อกอยู่ไกลกับแอร์จะยุ่งยาก  ใช้แบบผมดีกว่า  ถังน้ำสพายหลังเอา จากคุณ : PTKNC เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 08:25:08

ความคิดเห็นที่ 40 เซ็งเลย ไม่รู้จะถอดสายยางน้ำทิ้งยังไง สงสัยได้ประกอยคืนแล้ว แอร์โสมากๆ จากคุณ : dib2000 เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 11:04:04

ความคิดเห็นที่ 41 น่าจะมีขั้นตอนการถอดด้วยนะครับ อิอิ จากคุณ : กาแลนท์เขียวเมืองนนท์ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 13:30:43

ความคิดเห็นที่ 42 เยี่ยมเลยครับ ผมก็ล้างเอง Mitsu เหมือนกัน ได้รับคำแนะนำการถอดจากคุณหญิงยอดนักทดลอง ถอดๆ ใส่ๆ จนเดี๋ยวนี้ถอดพัดลมโพรงกระรอกคล่องแล้ว เนื่องมาจากช่างที่มาล้างไม่ค่อยสะอาด ผมล้างเองพิถีพิถันกว่าเสียอีก และช่างมักชอบมายุ่งกับน้ำยาแอร์เสียจริง น่ารำคาญมาก ขาดอยู่อย่างเดียว ไม่ได้ฉีดล้างแผงคอยล์เย็น เพราะมันเลอะเทอะ ถ้าหาถาดแบบของช่างได้ ได้ลงมือเองแน่ จากคุณ : Natthaphol K. เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 15:28:41

ความคิดเห็นที่ 43 บางรุ่น ล้างเองไม่ได้นะครับ บางรุ่นมีวงจรไฟฟ้าอยู่ ที่ครีบ ด้วย หรือไม่ก็ ฉีด ไปที่ พัดลมตัวในก็ไม่ได้ ฉะนั้น ก่อนจะ ล้างเอง มาปรึกษาในห้องนี้ก่อนดีกว่าครับ เดี๋ยวเสียหาย หุหุ จากคุณ : ฟ้าสั่งให้ฉันรักคนที่มีเจ้าของ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 20:04:32

ความคิดเห็นที่ 44 จากคุณ   : thaiMBA -- ดีครับ ผมก็เคยลองเอาฟิตเตอร์อย่างที่ว่ามาใช้เหมือนกัน แต่พอล้างทีเปลี่ยนที ผมว่ามันก็เลยเปลืองเหมือนกัน ถ้าล้างแผงกรองอากาศบ่อยๆ จากคุณ   : Mr. Fusion -- ยินดีที่ได้รับกียรติแวะมาละครับ จากคุณ   : Register_AC -- 8) จากคุณ   : PTKNC -- ของผมปกติก็จะใช้ที่ปั้มตัวใหญ่ 4 ลิตร แต่พอดีเอาไปล้างที่คอนโด แล้วยังไม่ได้เอากลับมา ก็เลยถูไถใช้ตัวเล็กละครับ ก็ต้องปั้มบ่อยหน่อย อิอิ จากคุณ   : dib2000 -- ที่ถอดไม่ได้ช่วงไหนรึครับ ยังงัยอย่าออกแรงมาก เดี๋ยวมันเสียหายไปจะต้องเสียตังค์ จากคุณ   : กาแลนท์เขียวเมืองนนท์ -- ครับ ผมว่าแต่ละรุ่นก็ใกล้เคียงกัน สำหรับการถอดแผงหน้ากากหน้า-หลัง ปกติก็ถอดน๊อตแค่สามตัวมั้ง ก็ถอดได้แล้วละครับ แต่ถ้ารุ่นที่พิเศษหน่อย ก็คงต้องเช็คจุดยึดดีๆ จากคุณ   : Natthaphol K. -- จริงๆ แล้ว เทคนิคการรองน้ำทิ้ง ก็คล้ายกับช่างแอร์ที่มาล้างละครับ เค้ามีแผงแสตนเลส มีรูระบาย มาคล้องกับตัวแอร์ผม แล้วก็สวมสายยางออกไปนอกห้อง จากคุณ   : ฟ้าสั่งให้ฉันรักคนที่มีเจ้าของ -- พอดีก่อนนี้ ผมก็ให้ช่างมาล้างประจำ ก็เห็นเค้าถอดๆ ประกอบๆ อยู่ ถ้าจะถอดแผง เห็นช่างเค้าต้องปลดสายไฟ แล้วยกแผงใบพัดออก ผมว่ามันเสี่ยงเกินไม่คล่องเหมือนช่าง ก็เลยเน้นถอดแผงหน้ากาก ก็พอ แล้วเอาน้ำฉีดเอา ปลอดภัยไว้ก่อน ละครับ จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 23:28:10

ความคิดเห็นที่ 45 ล้างเองเหมือนกันครับ ในขั้นตอนฉีดน้ำผมผสมเดทตอลไปนิดหน่อยด้วย กะว่าฆ่าเชื้อ.. จากคุณ : hmooklee (hmooklee) เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 23:38:45

ความคิดเห็นที่ 46 คุณ คห 45 ฉีดเดทตอลด้วยเพื่อฆ่าเชื้อ โหคิดได้ไง ขอชมเชย จะเอามั่ง จากคุณ : thaiMBA เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 08:49:24

ความคิดเห็นที่ 47 วันก่อนกลับบ้านไปทำเลยหลังจากอ่านกระทู้ ไปโฮมโปรซื้อสเปรย์ 3m (พนง.บอกมียี่ห้อเดียว) 200กว่าบาท ในกระป๋องให้ดูดฝุ่นก่อน แล้วค่อยฉีดน้ำยา ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วก็ฉีดน้ำล้าง แต่ดูแล้วก็ไม่ได้ขาวขึ้นเท่าไร แต่ผมเอาตัวพัดลมออกไม่ได้ พยายามดูแล้วแต่ก็หาวิธีไม่เจอ จำได้ว่าเห็นช่างตอนประกอบเอาใบปรับทิศทางใส่ทีหลัง แต่ก็ลืมซะแล้ว ก็เลยเอาสเปรย์ฉีด แล้วน้ำตามเหมือนแผงแอร์ซะ ก็ออกประมาณ 80 กว่า% ผลการทดสอบ แอร์เย็นเร็วขึ้นมาก อากาศที่ออกมาก็สะอาดขึ้นด้วยครับ ขอบคุณที่ทำให้มีความมั่นใจในการล้างเอง คิวต่อไปก็บ้านแม่ยายล่ะครับ จากคุณ : Goodty เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:57:16

ความคิดเห็นที่ 48 จากคุณ   : hmooklee (hmooklee) -- แนวคิดก็น่าสนใจ ฆ่าพวกสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ในแผงรังผึ้ง ถ้าเล็กมาก็จะหลุดออกมากับลม ให้เราสูดดมเข้าไปละครับ จากคุณ   : thaiMBA -- เข้ามาแชร์ความคิดกัน ก็ดีอย่างนี้แหละครับ ยอด จากคุณ   : Goodty -- ยี่ห้อนั้น เค้ามีสองแบบด้วยละครับ แบบเป็น Refresh อากาสในตัวด้วย แต่แพงขึ้นอีกนิด ถ้าไม่เอาแผงบังคับทิศทางออก ก็ล้างเฉพาะแผงรังผึ้งก็ได้ละครับ จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 23:29:23