 |
ความคิดเห็นที่ 31 |
Share ด้วยครับ
ตอนนี้ผมอายุ 29 แต่งงานพฤศจิกายน 2008
ก่อนแต่งงานผมมีเงินเก็บอยู่มากพอสมควร (เก็บมาตลอดตั้งแต่เริ่มทำงานตอนปี 2003) พ่อ-แม่ไม่มีสมบัติอะไรให้เลยและผมก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องไปเดือดร้อนท่านและจริงๆแล้วเราต่างหากที่ควรจะส่งเสียเลี้ยงดูท่าน (ซึ่งตั้งแต่ผมเริ่มทำงานผมก็ทำอย่างที่ว่ามาตลอด)
แน่นอนว่าชีวิตมันต้องวางแผนยิ่งในฐานะหัวหน้าครอบครัวแล้วด้วย
ก่อนผมแต่งงาน ผมกับภรรยาคบหาดูใจกันมานานถึง 11 ปี ดังนั้น เป้าหมายในชีวิตมันจึงดูชัดเจนเหลือเกินว่าควรจะต้องทำอะไรบ้างกับอนาคตภายภาคหน้า ดังนั้นโจทย์ของผม คือ "เตรียมความพร้อมที่จะเริ่มสร้างครอบครัว"
แน่นอนว่าสิ่งแรกที่เข้าในความคิดของผม คือ บ้าน (จริงๆก่อนหน้านี้คือรถ แต่หยุดลงเมื่ออาของผมตั้งคำถามเกี่ยวกับความจำเป็นในการมีรถของผมว่ามันคืออะไร ซึ่งแน่นอนมันไร้สาระมากๆ) ซึ่งแน่นอนว่าบ้าน 1 หลังราคาไม่ได้แค่หลักหมื่นหรือครึ่งแสน ยิ่งถ้าอยากมีบ้านดีๆในทำเลดีๆซักหลัง เงินเก็บที่มากเพียงพอเท่านั้นถึงจะบรรดาลฝันให้เป็นจริง รวมถึงต้องมากพอที่จะมอบทรงจำอันน่าประทับใจในวันแต่งงานให้กับคนรัก
จนถึงบรรทัดนี้สิ่งที่ผมอยากจะบอก คือ ตัวคุณเองมีความพร้อมแค่ไหนสำหรับการแต่งงานครั้งนี้ คุณได้ใช้ความพยายามแค่ไหนที่จะสร้างครอบครัวของคุณขึ้นมา ความทุ่มเทที่คุณจะมอบให้กับคนที่คุณรักเพียงพอหรือยังก่อนที่ถึงวันนั้น
ไม่ได้ถามเพื่อตำหนิ...แต่....อยากให้ตรองดีๆ "ชีวิตคู่" สำหรับคนที่พ่อ-แม่เลิกกันตั้งแต่ยังเด็กแบบผมจึงเป็นสิ่งที่สวยงามมาก เป็นสิ่งต้องดูแลรักษาให้ดีอย่างสุดความสามารถ
เศรษฐกิจหรือฐานะการเงินในครอบครัวถือเป็นสิ่งคำสัญ เพราะ มันเป็นตัวสร้างปัญหาและเครื่องบั่นทอนความรักในครอบครัวชั้นดี (คนที่มีครอบครัวและเคยประสบปัญหาคงรู้ดี)
ดังนั้น การเริ่มต้นชีวิตครอบครัวแบบติดลบย่อมสร้างความเสี่ยงมหาศาลสำหรับชีวิตคู่ในภายภาคหน้า
ถึงตรงนี้จึงอยากถามคุณต่อว่า คุณได้เปิดใจให้กับครอบครัวของคุณที่คุณรักหรือยัง? ถ้าคุณลองเปิดใจคุยถึงสิ่งที่คุณเป็น และ สิ่งที่คุณมีอยู่ ณ วันนี้ อย่างเปิดเผย ผมว่าถ้าท่านพิจารณาแล้วเห็นว่าคุณดีพอสำหรับลูกสาวของเค้า เรื่องสินสอดก็อาจจะไม่จำเป็นเลยก็ได้
ส่วนงานจัดเลี้ยงพิธีฉลองสมรสจากประสบการณ์ (ทั้งแต่งเองและคนรอบตัวซัก 3-4 คู่) จะไม่เข้าเนื้อเลยหาก 1) จัดตั้งงบประมาณอย่างเหมาะสมต่อฐานะกับของตน และ แขกที่เชิญ 2) วางแผนการใช้จ่ายในแต่ล่ะเรื่อง (และต้องทำตามอย่างมีวินัย) 3) ตัดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยต่างๆ (ว่าที่เจ้าสาวต้องร่วมมือด้วย)
งานแต่งของผมตอนเช้าทำพร้อมกับทำบุญขึ้นบ้านใหม่ไปด้วย ส่วนตอนเย็นจัดที่โรงแรม
ค่าใช้จ่ายสำหรับงานเช้า (นิมนต์พระ 9 รูป, แขก 25-30 คน) 1. อาหาร + เครื่องดื่ม = 3,500 ***แม่ค้าที่วัด*** 2. ทำบุญ = 2,999 3. หารถตู้มารับ-ส่งพระช่วงเช้า + รับ-ส่งครอบครัวไปโรงแรมช่วงเย็น = 1,800 4. ค่าน้ำมันรถตู้ = 900
ค่าใช้จ่ายสำหรับงานเย็น 1. บุฟเฟ่ (450/คน) แขก 300 = 135,000 (ได้ห้องพัก 3 ห้อง+คาราโอเกะห้องใหญ่ 20 คน) 2. ตากล้อง 2 คน = 10,000 ***อันนี้ภรรยาขอจริงๆ ขัดไม่ได้*** 3. Projector = 4,000 ***Presentation ทำเองจาก ProShow***
ค่า Wedding Package = 20,000 ***ภรรยายต่อรองเก่งมาก*** 1. อัลบัม LCD 16"x12" (20 รูป) ถ่าย Outdoor 2. รูปพร้อมกรอบขาว 24"x16" Photo Mix 5 in 1 (1 รูป) 3. รูปพร้อมกรอบหลุยส์ 30"x24" (1 รูป) 4. แต่งหน้าทำผมงานเช้า-เย็น 5. ชุดงานเช้า-เย็น 6. การ์ดเชิญ 300 ใบ
ค่าของชำร่วย 1. สมุดโน๊ต 350 ชิ้น = 3,500
แหวนแต่งงาน 1. แหวนเจ้าสาวใกล้ๆ 1 กรัตได้จากแม่ผม แต่ต้องลด Size เสียไป 500 2. แหวนทอง 50 สตางค์ = 7,000
สุทธิรวม = 189,199
สรุปหลังจบงานผมติดบวกครับ
แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 52 00:30:23
แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 52 23:38:49
แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 52 23:37:07
แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 52 23:34:19
จากคุณ |
:
เด็กดีโดนแม่ดุ
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ก.ย. 52 22:59:34
|
|
|
|
 |