Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
****เรื่องเล่าจากผู้รับเหมา****  

***นิทาน***
ผมทำงานรับเหมา มา 7 ปีครับตั้งแต่เรียนจบ ขอเกริ่นก่อนครับ สาเหตุที่ผมตั้งกระทู้เพราะว่าเห็น ครับบ่อยครั้งที่ เพื่อนสมาชิก โพสต์ ว่าโดนผู้รับเหมากระทำส่วนใหญ่ทีนี้ลองมา อ่านเรื่องที่ผู้รับเหมาถูกลูกค้ากระทำบ้างน่ะครับ เริ่มเลยดีกว่า เมื่อเกือบ หนึ่งปีที่ผ่านมา ครับ เหตุก็มาจาก ในเวบนี้นี่เอง ลูกค้าท่านนึง ได้โพสต์ ข้อความต้องการหาผู้รับเหมา มาต่อเติมบ้าน 200 ตรม. เป็นบ้านชั้นเดียว แต่คำว่าต่อเติมของลูกค้าท่านนี้ ก็คือ ทุบบ้านเก่าทั้งหมด เหลือแต่เสาและคานครับ ฮึๆ หลังจากนั้นผมก็ได้โทรติดต่อ กลับตามเบอร์ที่ให้มา แล้วก็นัดไปดูหน้างาน ครั้งแรกที่เจอกันครับ เราทั้งคู่รู้สึกถูกชะตากันมากกเหมือนเคยทำบุญทำกรรมกันมาแต่ชาติไหนสักชาตินี่แหละ  ครั้งที่สอง เค้าก็พาพี่สาวและ ญาติพี่น้อง มาเจอกับผม ทั้งญาติพี่น้องเค้ากับผมก็ถูกชะตากันอีกแล้วครับ โดยมีพี่คนนึงที่เป็นญาติ ของลูกค้าท่านนั้น ได้พูดขึ้นมาว่า ทำงานกับคนหนุ่มดีดีกว่าทำงานกับ คนมีอายุ(คือ ผู้รับเหมาที่รู้มาก) น่ะครับ หลังจากนั้น เพื่อนสมาชิกเคยได้ยินคำว่าโลกกลมมั๊ยครับ คุยไปคุยมาลูกค้าท่านนั้น เป็นสถาปนิก ครับเท่านั้นไม่พอ ยังเป็นรุ่นพี่ของผม ทั้งสองสถาบันด้วยกัน และแถมยังเป็นเพื่อนกับเพื่อนผมในซอยบ้านผมอีกต่างหาก ละครมากครับ
หลังจากนั้นก็ถึงขั้นตอนการเสนอราคา เสนอสองรอบครับ รอบแรกไม่ผ่าน
(คือเค้าขอให้ลดราคาให้น่ะครับ) รอบสอง ผ่านฉลุยครับ สาเหตุหลักก็คือ พี่สาวของลูกค้าท่านนี้ ไปบนกับต้นไม้ที่ขึ้นในบ้าน ว่าของให้เจอผู้รับเหมา ดีดี พอวันรุ่งขึ้นผมก็มา คือเค้ามาเล่าให้ผมฟัง หลังจากเสนอราคาผ่านนน น่าภูมิใจมากกกกกครับ เข้าเรื่องต่อครับ  พอถึงขั้นตอนการทำสัญญาเนื่องจากลูกค้าท่านนนี้เป็นสถาปนิก เค้าจึงขอเขียนหนังสือสัญญาเองทั้งหมดครับ ผมก็โอเคครับ พอเค้าเมลสัญญามาให้ผมดูผมก็โทรกลับไปหาเค้าบอกว่าเดี๋ยวผมขอเติมส่วนขอผม ซัก 2-3 ข้อน่ะพี่ เค้าก็ตกลง
ผ่านไป 1 อาทิตย์ เราก็นัด เซนสัญญากันที่หน้างาน ผมก็เซน เป็นผู้รับจ้าง ส่วนลูกค้าท่านนี้เซนเป็นพยาน ครับ ส่วนผู้ว่าจ้าง ก็คือพี่สาว แท้ๆๆของลูกค้าท่านนนี้ครับ เพราะเค้าคือคนจ่ายเงินครับ แต่ว่าพี่สาวเค้าบอกผมว่าเดี๋ยวพี่ขอเอาสัญญาไปดูก่อนน่ะค่ะ ผมก็ตกลง แต่พี่สาวของลูกค้าท่านนี้บอกว่าให้รีบทำ คืออยากให้ทุบก่อนปีใหม่น่ะครับ เค้ากลัวช่างกลับบ้านหมด กลัวว่าช่างกลับแล้ว กว่าจะมาทำอีกทีนานนน่ะครับ ผ่านมาอีกสองวัน ผมก็ให้ช่างเค้าไปทุบให้เลยครับ จนเสร็จเรียบร้อย พี่สาวของลูกค้าท่านนี้ก็จ่ายเงินให้ครบถ้วนนน่ะครับ เป็นอันว่าจบลงด้วยดี โดยงานจะเริ่มอีกทีก็ หลังปีใหม่ครับ   .............................
*** ตอนที่ 1 ***
พอกลับมาจากปีใหม่ผมและพวกพ้องบรรดาหมู่ช่างคนหาเช้ากินค่ำทั้งหลาย ก็กลับมาทำงานตามปกติ โดยที่พี่สาวของลูกค้าท่านนั้น ยังไม่ได้ เซนสัญญา แต่เค้าบอกว่า น้องค่ะเดี๋ยวพี่ให้เงินงวดแรกเลยน่ะค่ะ และน้องก็เริ่มงานได้เลย ตอนนั้นผมก็สองจิกสองใจว่าจะเอายังไงดี ผมก็ได้ก็ได้ปรึกษา เพื่อนผมที่ทำด้วยกันและหัวหน้าช่างว่าจะเอายังไง ผลสรุปออกมาคือ ทำเลย ก็คือทุกคนต่างก็ไว้ใจ ลูกค้าท่านนั้นและพี่สาว...
งานงวดแรกก็เสร็จลุล่วงด้วยดีใช้เวลาประมาณ เกือบเดือนครับ โดยที่ลูกค้าท่านนั้น ได้ทิ้งแบบ(ไม่รู้ว่าจะเรียกแบบได้รึเปล่าเพราะรายละเอียดแบบน้อยมากๆๆๆๆและยังไม่เสร็จด้วย)ไว้ให้ผม แต่ตัวลูกค้าท่านนั้นจะเข้ามาดูงานได้ อาทิตย์สองวันคือเสาร์-อาทิตย์ โดยงานหลักในงวดแรกก็คืองาน โครงหลังคาและมุงกระเบื้อง ปัญหาก็คือ เชื่อมยากครับเพราะตัวบ้านโครงการเก่าที่ทำไม่ได้ฉาก โดยที่ไม่เท่ากัน ประมาณ 30-40 เซนติเมตร การทำงานงวดแรกนั้นมีความสุขดีครับ เพราะลูกค้า ผม ช่าง และ ญาติพี่น้องลูกค้า ตกเย็นเราจะมาทำอะไรกินกัน บ่อยครับ พอมางวดที่สอง
*** ตอนที่ 2 ***
เหมือนเดิมครับ ยังไม่มีการเซนสัญญาของพี่สาวลูกค้าท่านนั้นเกิดขึ้นแต่พี่สาวลูกค้าท่านนั้นก็ให้เงินค่างวดที่สองแก่ผมโดยที่พวกผมก็ ไม่ได้รู้สึกนึกคิดอะไรเลยครับ ด้วยความเชื่อใจ จิงๆๆ งวดนี้ผมมีงานเก่าเข้ามาครับ ซึ่งเป็นงานร้านตัดผมในห้างย่านลาดพร้าว เนื้อที่ 76 ตรม ครับ แต่ผมก็ไม่ได้ปกปิดลูกค้าน่ะครับ ก็บอกไปตามตรง เพราะงานห้างทำกลางคืนครับ
แต่เดือนนี้งานลูกค้าท่านนี้เริ่มมีอะไรแปลกๆๆก็ขึ้นเล็กน้อยครับ เนื่องจากแบบที่ได้มาไม่สมบูรณ์ลูกค้าท่านนนั้นก็เข้ามาสั่งงาน อาทิตย์ชนอาทิตย์
งานที่ทำออกมาดูไม่คืบหน้า เพราะมีการทุบหลายครั้งมากกก  ผมและช่างก็ทำตามทุกอย่างครับ สั่งให้ทุบก็ทุบสั่งให้ทำก็ทำ คือบางทีทำเสร็จแล้ว ลูกค้าเกิดนึกอะไรออกคิดแบบใหม่ๆๆออกก็สั่งทุบๆๆๆๆๆๆมัน มั๊ยหล่ะครับ ซึ่งเดือนนี้ลูกค้าซื้อของเข้าบ้านเยอะมากกครับ แต่ละอย่างของดีดีทั้งนั้นราคาก็ แพงใช้ได้(เงินพี่สาว) และสุดท้ายพอซื้อของ เยอะๆเข้าเงินก็หมดเยอะ คราวนี้ทำงัยครับ เริ่มมา ขอลดราคาผมครับ บอกว่า ราคานี้แพง น่ะ ราคานี้ไม่ใช่ราคานี้น่ะ ผมก็อ้ำอึ้งครับ บอกกลับไปว่าเดี๋ยวจะดูให้น่ะครับแต่ยังไม่รับปาก สรุปทุบบ่อยงานไม่ดิน ผมเริ่มต้องใช้ทุนตัวเองออกค่าแรงลูกน้องแล้วครับ เรื่องลดราคาก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงน่ะครับ
***ตอนที่ 3***
ทำงานงวดที่สองได้เดือนนึงครับยังเบิกเงินไม่ได้ เพราะลูกค้าบอกว่างานยังไม่ตรงตามงวด ที่ไม่ตรงเพราะช่างผมเริ่มไม่แน่ใจครับว่า ทำไปแล้วจะได้ทุบอีกหรือเปล่า หมายถึงงาน ก่อกับฉาบ ผมก็เลยบอกว่างั้นเดี๋ยวผมลองไปคุยแบบกับลูกค้าท่านนนั้นให้แน่ๆๆก่อนและกัน ก็ชะลองาน ก่อกับฉาบไป 1 อาทิตย์ครับ แต่ก็ไม่ใช่ไม่ได้ทำน่ะครับ ผมก็ให้ช่างผมไป เดินท่อ กับ เอากระเบื้องหลังคาเก่ามาขัดและทาสี(งานงวดที่สาม) ช่วงอาทิตย์นี้ก็มีอะไรตลกๆๆมาเล่าให้ฟังอีกแล้วครับ มีอยู่วันนึง ลูกค้าท่านนี้ก็มา ปาร์ตี้ที่หน้างานตอนเย็น โดยพร้อมหน้าพร้อมตา ก็มากินเหล้ากินเบียร์ แถมมีการเต้นรำ โชว์ของช่างตัวแสบของผมและก็ ลูกค้าท่านนั้นด้วย ยังจำเพลงได้ครับ วันนั้นลูกค้าท่านนั้นเอามือถือช่างผมเปิดเพลง..มันต้องถอนทั้งคืน (ประมาณว่าเมาน่ะครับ) คือก่อนหน้านั้นลูกค้าท่านนั้นก็ได้พูดที่เล่นทีจริงกับพี่สาวเค้าว่าอยากได้ค่าออกแบบจากพี่สาว 20,000 บาท ก็เล่นเอาพี่สาวตัวเองน้ำตาตกไปหลายรอบครับ เป็นใครใครก็เสียใจ
จะเอาค่าแบบ แต่แบบที่ตัวเองออกเนี่ย พี่สาวเค้าตั้งใจจะให้ลูกค้าท่านนั้นเอาลูกเอาเมียมาอยู่ด้วยกัน เพราะตอนสร้างเมียของลูกค้าท่านนนั้นก็กำลังตั้งท้องแก่ครับ โดยที่พี่สาวออกค้าใช้จ่ายให้ทั้งหมด พี่สาวก็เลยเสียใจน่ะครับ  กลับมาถึงตอนลูกค้าท่านนั้นกำลังเมาครับ ก่อนลูกค้าท่านนั้นกลับบ้าน(เช่าหออยู่ใกล้ที่ทำงาน) ก็ได้ขอเงินพี่สาว 200 บาท เป็นค่าน้ำมัน พอดีวันนั้นพี่เขยได้เอากระเป๋าตังกลับบ้านไปแล้วพี่สาวจึงบอกว่า พี่ไม่มีเงิน ลูกค้าท่านนนั้นก็โกรธมากกก จึงพูดเรื่องค่าแบบขึ้มาอีก แต่ครั้งนี้แรงๆๆๆครับ พี่สาวก็เสียใจมากกกกด้ววยยย ผมต้องนั่นปลอบใจอยู่นานเชียว กลับมาเข้าเรื่องต่อดีกว่า สรุปงวดงานก็ยังเบิกไม่ได้ และช่วงนี้ งานอีกที่นึงก็กำลังเร่งครับ โดยถ้าเสร็จไม่ทันกำหนด ห้างก็จะปรับวันละ 10000 บาท เคราะห์ซ้ำกำซัด พ่อของผมผู้ซึ่ง ผมเกิดมาตั้งแต่เล็กจนโต ยังไม่เคยเห็นพ่อป่วยถึงขนาดเข้าโรงพยาบาลเลยครับ ด้วยสาเหตุเหล่านี้จึงทำให้ผม ไม่สามารถเข้าไปดูหน้างาน ของลูกค้าท่านนี้ได้ ประมาณ 8 วัน จนกระทั่งซึ่งผมก็ได้มอบหมายงานให้หัวหน้าช่างทำหน้าที่แทนโดยในแปดวันนี้ลูกค้าท่านนั้นก็โทรมาคุยกลับผมเรื่องค่างวดเพราะกลัวว่าบ้านจะไม่เสร็จทันลูกคลอดจึงนัดผมไปคุยกันที่ร้านลาบแถวที่ทำงานเค้า เราทั้งสองก็ได้ดื่ม เบียร์ไปประมาณ 8 ขวดสองคนครับต่างคนก็เริ่มมึนๆๆ แล้วลูกค้าท่านนั้นก็บอกผมก่อนจะแยกกันกลับว่า พี่ขอค่าแบบ 20000 น่ะซึ่งผมไม่มีmางให้แน่นอนเพราะแค่นี้ก็แทบไม่มีกำไรแล้วครับ ผมก็บอกว่า ผมไม่มีกำไรมากขนาดนั้นที่พอจะให้พี่ได้ครับ ลูกค้าท่านนั้นก็บอกว่าให้ผมไปบวกกับราคาก่อสร้างบ้านเค้าสิ แต่อย่าให้พี่สาวเค้ารู้ เพราะเดี๋ยวเค้าจะนัดคุยกันทั้งหมดเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น งานจะได้เดินต่อไป ผมก็อึ้งครับ เพราะย้อนภาพกลับไป เหตุการณ์ที่ทำๆๆทุบๆๆทุบบทำๆๆ ในใจก็นึกนี่เป็นน้องเป็นพี่กันยังไง ผมเลยไม่ได้เอะใจเรื่องบวกราคาคอมมิชชั่นให้ ลูกค้าคนนั้นตั้งแต่แรก สรุปว่าเหตุการณก็แย่ลงเรื่อยๆๆครับ
****ตอนที่ 4****
ผ่านไปแปดวันที่ไม่ได้เข้าไปดูงานเพราะ อาการของพ่อผมแย่ลงเรื่อยๆๆ
คือ ช่วงที่ผมทำงาน ที่บ้านลูกค้าคนนั้น และทำงานที่ ห้าง ผมไม่มีเวลาดูแลพ่อตัวเองเลย จนถึงวันที่อาผมบอกว่าให้พาพ่อไปหาลูกพี่ลูกน้องคือเค้าเป็นหมอที่ รพ. รามาธิบดี วันนั้นผมก็พาพ่อไป โรงพยาบาลตอนเที่ยงครับ พี่หมอผมก็ได้พาพ่อไปเอกซ์เรย์สมอง หลังจากพ่อออกมาก็หลับไป 6 วันโดยไม่ตื่น ผมยอมรับว่าตกใจที่สุดในชีวิตครับ แต่ยังดีครับที่พ่อป่วย 6 วันก็ตรงกับสงกรานต์พอดี จึงไม่ต้องพะวงกับงานที่ค้างอยู่เพราะช่างกลับบ้านหมด จึงเฝ้าพ่อได้เติมที่ พอผ่านช่วงสงกรานต์วิปโยค(ที่ นปช ชุมนุมอ่ะครับ) ก็ได้เข้าไปคุpกับ ลูกค้าท่านนั้นและ พี่สาว ผลสรุปว่า เค้าหักเงินผม คือค่าดำเนินการ 80,000 บาทและค่าก่อสร้างที่ทำไปแล้วอีก 50,000 บาท โดยค่าดำเนินการ พี่สาวลูกค้าท่านนนั้น ให้เหตุผลว่า ผมไม่ได่เข้ามาดูหน้างานเลย ก็คือ 8 วันนั้นน่ะครับ แต่ก่อนหน้านนั้น 2-3 เดือนผมไปหน้างานอาทิตย์ละ ไม่ต่ำกว่า 5 วัน เฮ้อออออ แล้วก็ค่าก่อสร้างก็บอกว่าไปเชคราคามามันแพงเกินไป ผมทำยังไงได้ล่ะครับ งานก็ทำไปจะเสร็จงวดที่สามแล้ว ได้เท่าไหร่ก็ต้องเอาเท่านั้น   สัญญาก็ไม่ได้เซน วันนั้นผมก็ถามเค้าว่า แล้วทำไมพี่ไม่ยอมเซนสัญญาล่ะครับ เค้าก็บอกว่าสัญญาก็คือกระดาษใบเดียว(หลายใบน่ะ)ก็เถียงกันไปมาน่ะครับซึ่งเค้าก็รู้ว่าพ่อผมป่วย หลังจากนั้นผมก็เลยไม่ได้เข้าไปดูงานบ้านหลังนั้นอีกเลย 8 วันที่ผมไม่ได้เข้าไปมีค่าเท่ากับ เงิน 130000 บาทครับ แล้วเพื่อนสมาชิกครับ เงินไม่ใช่เรื่องที่ผมเสียใจเท่าไหร่ครับ หลังจากที่ผมไม่ได้เข้าไปดูงาน ที่บ้านนั้นอีกซึ่งปล่อยให่หัวหน้าช่างคุมงานแทน เพราะงานเหลือน้อยแล้ว อีก สองอาทิตย์กว่าๆๆพ่อผมก็เสียชีวิต..........................โดยที่ ตลอดเวลาที่ผมเฝ้าพ่อทุกวัน  ประมาณ เดือนกว่าๆพ่อผมก็หลับไปประมาณ 30 วันวันที่ตื่น ผมกับพ่อก็ทำได้แค่ มองตากันซึ่งเราไม่สามารถพูดกันได้เพราะ โรคร้ายมันทำลายสมองส่วนประสาทรับเสียง และพ่อก็ไม่สามารถพูดได้เพราะต้องใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา ผมกับพ่อสื่อสารกันทาง การเขียนแล้วพ่ออ่าน ท่านก็จะทำได้แค่ ส่ายหัวและพยักหน้า จนพ่อค่อยๆๆหลับ..........ๆ.............ๆ...........ๆ...........จนไม่มีวันตื่นมามองหน้าลูกชายได้อีกต่อไป  พ่อผมอายุ 74 ปีครับแข็งแรงมาก สาเหตุการเสียชีวิตของพ่อผมคืออะไร หมอยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดครับทราบแต่ว่าติดเชื้อ และสิ่งที่ทำให้ผมเสียใจคือ ถ้าผมได้ดูแลพ่อตั้งแต่ตอนที่ท่านไม่สบายแรกๆๆท่านคงจะไม่เป็นหนักขนาดนี้ เพราะหมอบอกว่าพ่อผมเกิดภาวะไตวายตับวายเนื่องมาจากการขาด อาหาร ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพราะผมไม่ได้ดูแลท่าน เสียใจจริงๆๆครับ คือ สิ่งที่ผมนำมาเล่าให้ เพื่อนๆๆสมาชิก ฟังไม่ต้องการจะว่าใคร ทั้งสิ้น เพราะเราไม่รอบคอบเองครับ ไว้ใจคนแปลกหน้ามากเกินไป ผมว่า เพื่อนๆๆคงได้ ขอคิดอะไรไม่มากก็น้อยจากเรื่องของผม  
                  ขอบคุณครับพี่น้องชาวไทย

จากคุณ : Look Good Design
เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 03:59:30




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com