|
ความคิดเห็นที่ 6 |
สาวกุมภ์ ตอบไว้ที่กระทู้นู้น
แต่เห็นว่า ข้อมูลมีประโยชน์เผื่อหลายคนสนใจจึงเอาใส่กระทู้นี้นะค่ะ
พี่ๆ มีความคิดต่างอย่างไร เสนอแนะได้ค่ะ
เดี๋ยวสาวกุมภ์มาอ่านอีกครั้ง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ความหมายของโรงแรม ปัจจุบันมีการประกอบธุรกิจการให้บริการที่พักในรูปแบบและลักษณะต่างๆ มากมายและมีแนวโน้มที่จะมีการขยายตัวมากยิ่งขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งรูปแบบการให้บริการด้านที่พักแรมในปัจจุบันมีชื่อเรียกที่หลากหลายและรูปแบบที่พักที่แตกต่างกัน เช่น Resorts , Service Apartment, Mansion , Inn , Motel ,Guesthouse , Home stay , แพพัก เรือสำราญ กระโจมหรือเต้นท์ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่พักของทางราชการที่มีการให้ประชาชนทั่วไปเช่าพักได้ เช่น ที่พักของมหาวิทยาลัยต่างๆ ทำให้เกิดความสับสนว่ากิจการที่พักแรมประเภทใดบ้างที่เป็นโรงแรมหรือไม่เป็นโรงแรมตามกฎหมาย พระราชบัญญัติโรงแรม
พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.๒๕๔๗ มาตรา ๔ ได้ให้ความหมายของคำว่า โรงแรม
ไว้ให้หมายถึง สถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการธุรกิจเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราว สำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน
และได้ยกเว้นสถานที่พักไม่เป็นโรงแรมไว้ ๓ ลักษณะ คือ (๑) สถานที่พักของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจองค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือเพื่อการกุศล หรือการศึกษา ที่มิใช่เป็นการหาผลกำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน สถานที่พักประเภทนี้หากพบว่ามีการนำรายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกันเมื่อไหร่ก็ถือว่าเป็นโรงแรม
(๒) สถานที่พักที่ที่คิดค่าบริการเป็นรายเดือนขึ้นไป การยกเว้นตาม (๒) นี้ เน้นการคิดค่าบริการให้เช่าที่พัก หากคิดเป็นรายเดือน รายปี ก็ไม่เป็นโรงแรม แต่หากคิดค่าบริการต่ำกว่ารายเดือนลงมา เช่น รายสัปดาห์ รายวัน รายชั่วโมง หรือคิดค่าบริการปนกันทั้งรายเดือนและต่ำกว่ารายเดือน ก็จะถือว่าเป็นโรงแรมต้องขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมาย
(๓) สถานที่พักอื่นที่กำหนดในกฎกระทรวง กฎหมายให้อำนาจรัฐมนตรีที่จะกำหนดยกเว้นสถานที่พักประเภทใดบ้างไม่ให้เป็นโรงแรมตามกฎหมาย โดยจะต้องออกเป็นกฎกระทรวงเท่านั้น
สรุป องค์ประกอบของโรงแรมได้ ดังนี้ (๑) เป็นสถานที่พัก (๒) มีวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจ (๓) สำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใด (๔) เรียกเก็บค่าที่พักต่ำกว่าเดือน หากครบองค์ประกอบทั้งสี่ประการ จึงถือเป็นโรงแรมและต้องยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.๒๕๔๗
ปล. พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 (พ.ร.บ. โรงแรม) มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2548 มีผลให้พระราชบัญญัติโรงแรม ปี 2487 เป็นอันยกเลิกไป +++++++++++++++++++++++++++++++++ ดังนั้น ขอสรุปความแบบคำพูดทั่วไป
อพาร์ทเมนต์ ไม่มีข้อห้ามว่า ห้ามปล่อยเช่ารายวัน ต้องเช่ารายเดือนอย่างเดียวแต่อย่างใด
อพาร์ทเมนต์ สามารถปล่อยให้เช่ารายวันก็ได้ รายเดือนก็ได้ รายปีก็ได้ เพียงแต่ การกระทำอย่างนี้ ( รู้จักในชื่อ อพาร์ทเมนต์เซอร์วิส ) ถือว่า เป็น ธุรกิจที่ประกอบธุรกิจเยี่ยงโรงแรม ต้องยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม
ดังนั้น ธุรกิจนี้ไม่ต้องแอบทำนะค่ะ ทำได้ถูกต้องตามกฎหมายได้
แต่อพาร์ทเมนต์ที่ให้เช่า รายเดือน และ รายปี เท่านั้น โดยไม่ได้ให้เช่ารายวัน ถือว่าเป็นธุรกิจที่ไม่ได้ประกอบธุรกิจเยี่ยงโรงแรม ตามพรบ.นี้ จึงไม่ต้องยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม สามารถทำธุรกิจได้ตามปรกติ ปล่อยเช่าได้ทันที
แต่ถ้ากลับกัน
อาคารที่ได้รับใบอนุญาตประกอบโรงแรมแล้ว มาปล่อยเช่าเป็นทั้งรายวันและรายเดือนล่ะครับ สามารถทำได้หรือไม่ (เช่นเคสแบบ Citadines Sukhumvit 23) --- ตรงนี้ ทำได้ค่ะ โรงแรมสามารถปล่อยเช้าได้ทั้งรายวัน รายเดือน ทำได้ทั้งนั้น ถือเป็นการทำธุรกิจตามปรกติของธุรกิจประเภทโรงแรม กฎหมายรองรับการกระทำนี้ ว่าถูกต้องตามกฎหมาย ทำได้ทันทีไม่ต้องยื่นร้องขอเพิ่ม
และ อาคารที่เป็น serviced apartment ทำอย่างไรจึงจะสามารถปล่อยเช่าทั้งรายวัน และรายเดือนได้? ---- ตรงนี้ ก็ไปยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม จึงจะถูกต้องตามกฎหมาย เพราะถือว่า เป็น ธุรกิจที่ประกอบธุรกิจเยี่ยงโรงแรม
จากคุณ |
:
สาวกุมภ์
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ต.ค. 52 11:44:03
|
|
|
|
|