ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเป็นเรา จะปล่อยท่านค่ะ... พอดีว่า ..... พ่อเราไม่อยู่ให้ได้ดูแลแล้ว... ตอนนี้ อยากดูแลท่านเหลือเกิน... แต่ไม่มีทางแล้ว.... "เวลา" ที่เรียกกลับมาไม่ได้ของเรา........ มันหมดไปแล้วค่ะ ................. บางครั้งนั่งนึกย้อน... อะไรทีทำท่านเสียใจไปบ้าง ทั้งคำพูดที่ไม่ได้ตั้งใจให้ท่านเสียใจ ต่อหน้าเราท่านบอกไม่เป็นไร แต่ไม่รู้ว่าในใจท่านคิดอะไรไปบ้าง... ความคิดส่วนตัวนะคะ.. :) ส่วนตัวจริงๆ... เราคง ยิ้มให้นิดนึง ทำปากจุ๊ๆๆๆๆๆๆๆ ให้สัญญาณ เซลล์คนที่เดินเข้ามา.. แล้วกระซิบว่า เบาๆๆ คุณพ่อหลับอยู่ค่ะ :) แล้วหอบเอกสาร พร้อมกวักมือหยอยๆ เรียกเซลล์ออกมาคุยนอกห้องค่ะ :) ตอบด้วยความเคารพค่ะ :) จากคุณ : แม่น้องเบสท์ เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 15:09:28

ความคิดเห็นที่ 2 ถามท่านด้วยคำพูดดีๆนะค่ะว่า ชอบห้องทำงานเราตรงไหน น่าสบายตรงไหน แล้วนำคำตอบไปปรับปรุงห้องนั่งเล่นก็น่าจะดีค่ะ หากยังไม่เกิดผลก็ใช้การพูดคุยกันตรงๆด้วยภาษาที่สุภาพน่ารัก จะทำให้ทุกอย่างราบรื่นค่ะ อย่าใช้อารมณ์เป็นอันขาด เพราะบางครั้งเรามักลืมตัวใช้อารมณ์มันอาจจะกระทบใจท่านเอา ใจเย็นมาระยะนึงแล้วคราวนี้ลองใช้ใจเย็นๆคุยกันให้ดีๆค่ะ จากคุณ : Can'Paeng เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 15:10:16

ความคิดเห็นที่ 3   ผมว่าคนที่มาติดต่อก็ทราบดีว่าเป็นทั้งบ้านและที่ทำงาน พอใครถามก็บอกเลยว่าพ่อ คนถามอาจจะรู้สึกดีก็ได้นะว่ายังมีพ่อให้ดูแล แต่ถ้าต้องการความเป็นการเป็นงานก็บอกพ่อตรงๆ ก็ได้ว่าผมขอคุยเรื่องงาน ก่อนนะครับ พ่อคงเข้าใจ จากคุณ : 111 เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 15:19:00 A:61.19.210.250 X: TicketID:222111

ความคิดเห็นที่ 4   ลองหาพาร์ทิชั่นมากั้นระหว่างโต๊ะทำงานกับส่วนดูทีวีได้มั้ยคะ จะได้ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้นค่ะ จากคุณ : ป๊ากะม๊า (ป๊ากะม๊า) เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 15:19:45

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเซลล์ที่เก่ง ๆ  จะชวนคุณพ่อคุณคุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบด้วยซ้ำไป ก็คุณพ่อของลูกค้าคนสำคัญ  ยังไงเซลล์ก็ต้องเอาใจ  ตีสนิทเข้าไว้ก่อน มีแต่เซลล์ที่มาทวงตังเท่านั้นครับ  ถึงจะทำหน้าปูเลี่ยน จากคุณ : --^ไชโย^-- เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 15:41:50

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าปกติพูดคุยกับคุณพ่อแบบสนิทสนมก็ลองแซวท่านว่าท่าทางจะชอบห้องนี้มากกว่าห้องนั่งเล่นด้านใน เลยมานั่งเล่นอยู่ที่นี่ประจำ เบื่อห้องนั่งเล่นแล้วเหรอ ประมาณนั้น ท่านอาจตอบความคิดท่านตรงๆ โดยไม่รู้สึกว่าเราเลียบเคียงเพื่อผลอื่น เราคิดว่าผู้ใหญ่ท่านอยากประหยัดน่ะค่ะ เป็นความเคยชินไปแล้ว เปิดแอร์เปิดทีวีสองเครื่อง เปลืองไฟ .. ถ้าไม่อยากให้เป็นประเด็น เอาทีวีออกจากห้องทำงานสิคะ .. เอาไปไว้ในห้องส่วนตัวก็ได้ ไม่มีทีวี คุณพ่อคงไม่มานั่งเล่นในห้องทำงานหรอกค่ะ ไม่รู้จะนั่งทำอะไร เหงาแย่ เว้นแต่ว่าจะเข้ามานั่งคุยกับคุณ .. เรื่องการรับรองแขก/เซลล์ ส่วนมากน่าจะเป็นการพูดคุยกันไม่ใช้ทีวีอยู่แล้ว ถ้าหากเพื่อนๆ มานั่งดูบอลที่บ้านก็ค่อยย้ายทีวีออกมา หรือเข้าไปในส่วนของห้องนั่งเล่นของบ้านค่ะ จากคุณ : antanoy เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 15:48:19

ความคิดเห็นที่ 7 คิดเหมือน คห.1ค่ะ ถ้าเป็นเราจะให้คุณพ่อท่านตามสบายของท่าน เพราะเราเองก็ไม่มีคุณพ่อให้ดูแลแล้ว หมดเวลาของเราแล้วเหมือนกัน ... คิดว่าถ้าว่างจากงานน่าจะชวนพ่แคุย แซวเล่นกับพ่อบ้าง เรื่องที่พ่อชอบมานั่งเล่น ดูทีวี. จริงๆ เราคิดว่าบอกท่านให้ช่วยเบาเสียงทีวี.บ้างในบางเวลา เลยก็น่าจะดีกว่า ท่านเป็นผู้ใหญ่เชื่อว่าท่านคงเข้าใจลูกน่ะค่ะ และเชื่อว่า คนที่มาติดต่องานก็คงเข้าใจคุณว่า ใช้บ้านเป็นออฟฟิศทำงานด้วย จากคุณ : เสี่ยวลี่ เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 16:11:31

ความคิดเห็นที่ 8 ก็ ต้องทำให้ห้องทำงานไม่ดูเหมือนเป็นห้องนั่งเล่น อ่ะ แล้วถ้าไม่มีแขก คุณก็ไปนั่งทำงาน หรืออะไร ในห้องนั่งเล่นกะคุณพ่อ มีแขก มีเซลล์มาค่อยพามาคุยที่ห้องทำงาน แขกกลับ คุณก็ปิดห้อง ปิดไฟ แค่นี้ก็จะรู้กันโดยปริยาย ว่า ห้องทำงาน ไม่ใชข่ห้องนั่งเล่น ถ้าวันไหน อยากทำงานเงียบๆ ก็ บอกคุณพ่อว่า ขอตัวแป๊ป ขอไปนั่งทำงานเงียบๆหน่อย อยากได้สมาธิ แค่นี้เราว่า ทุกอย่างมันน่าจะลงตัวนะ จากคุณ : ตื่นเต้น เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 16:20:17

ความคิดเห็นที่ 9 ดีไม่ต้องทำอะไรแล้ว เป็นมงคลอย่างยิ่ง อธิบาย และแนะนำตัวให้กับคนที่มาติดต่อทราบผมว่าจะได้ผลตอบรับดีเสียอีกครับ จากคุณ : นายช่างเฒ่า เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 16:28:06

ความคิดเห็นที่ 10 ปัญหาทุกๆบ้านคือ คนในบ้านไม่คุยกันเอง บ้านเราก็เป็น จากคุณ : jira_wik เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 16:38:32

ความคิดเห็นที่ 11 บางคนไม่เจอ แบบ จขกท คงไม่รู้บรรยากาศ พูดกันได้ในรูปธรรม แน่นามธรรมนะ มันออกจะไม่ค่อยเหมาะจริงๆ เพราะเรามีหมวกสองใบ เหมือน จขกท ว่า แต่วิธีการพูดคุยกับท่านที่จะไม่หักหาญน้ำใจมีหลายวิธี ลองค่อยๆ คุยกันไป เพราะไม่รู้ว่าพื้นฐานครอบครัวคุณ คุยกันมากน้อยขนาดไหน ถ้าไม่อยากให้เสียน้ำใจ ก็ลองเลียบๆ เคียงๆ ถามก่อนว่า เวลามีแขกมารบกวนตอนพ่อนอนหรือเปล่า เดี๋ยวผมทำที่ให้นอนสบายๆ ดีกว่าไหม มานอนตรงนี้มันไม่เป็นส่วนตัวนะ อะไรก็ว่ากันไป พยายามเอาความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยใส่ใจท่าน คิดว่าท่านคงไม่มีปัญหาอะไร จากคุณ : peggo เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 16:40:36

ความคิดเห็นที่ 12 คนที่มานอนในห้องทำงานคุณแล้วคุณว่าไม่เหมาะไม่งาม ถ้าไม่ได้คนคนนั้น คุณไม่มีวันได้ห้องทำงานที่คุณมานั่งทำงานอยู่หรอกครับ จากคุณ : Mennie เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 17:06:10

ความคิดเห็นที่ 13 คุณพ่อที่บ้านก็เป็นค่ะ ทั้งที่ลูกก็ทำห้องนั่งเล่นไว้แล้วอย่างดี ทีวีก็จอใหญ่กว่า มีที่นอนเล็กให้งีบกลางวันด้วย แต่พ่อชอบมานั่งดูทีวี แล้วนอนงีบห้องทำงานลูกนี่แหล่ะ - -" สังเกตุแล้วพบว่าพ่อเหงาค่ะ ขอมาขลุกอยู่ห้องทำงานของลูก ไม่คุยก็ไม่เป็นไร ประมาณว่ามีลูกอยู่ในห้องด้วยก็พอ ลูกไม่ว่ากระไร ก็ทำงานไป เวลาพ่องีบถ้ามีแขกมาก็ออกมาคุยนอกห้องเอาค่ะ จากคุณ : จ้อย..ยย เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 17:16:54

ความคิดเห็นที่ 14 เยี่ยมมากคุณแม่น้องเบสครับ อยากได้อย่างงี้บ้างจังเลยเสียดายไม่มีโอกาสได้ทำให้ท่านแล้ว จากคุณ : ฐากร เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 17:31:29

ความคิดเห็นที่ 15 ผมไม่มีพ่อน่ะ เพราะพ่อเสียไปนานแล้ว สำหรับผมนะพ่อจะนอนที่ไหนก็ได้ครับ ขอให้ผมได้เจอท่านเหอะ จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 17:33:49

ความคิดเห็นที่ 16 พ่อแม่...คือ  พระ  และพรหม  ในบ้าน....................... ผมไม่มีพ่อตั้งแต่ผมอายุ   8  ขวบ   ผมจึงมีแม่เป็นทั้งพ่อและแม่ เลี้ยงลูกตามลำพัง โดยค้าขาย บางครั้งต้องหาบขนม  ส่งเรียนปริญญาทุกคน   มีลูก  5  คน   ไปอยู่บ้านลูกคนไหน......ก็เกรงใจลูก...อยู่ได้ไม่นาน... ขอกลับมาอยู่บ้านตัวเอง.............แม้กระทั่งเวลาสุดท้ายของชีวิตก็กลัวลูกเป็นภาระ...หลับไปเองโดยสงบสุข....เมื่ออายุ  79  ปี.....ผมอายุ  47...... ตอนนี้ผมอายุ  55   ซื้อบ้านเดี่ยวหลังใหม่แต่ไม่มีท่านทั้งสอง  ให้ผมได้ปรนนิบัติตอบแทนแล้ว.... คุณมี  พระ  ในบ้านดูแลท่านให้ดีนะครับ..........อย่ารำคาญท่านเลย จากคุณ : ram101 เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 19:28:43

ความคิดเห็นที่ 17 ทำเหมือน คห 8 ดีไหมคะ เวลาปกติไปนั่งเล่น นั่งดูทีวีเป็นเพื่อนคุณพ่อที่ห้องนั่งเล่น ปิดห้องทำงานไว้ พอมีแขกมาก็ค่อยเปิดห้องทำงาน จากคุณ : Bt vista เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 19:33:55

ความคิดเห็นที่ 18 แขกมา เพื่อนมา เซลล์มา ก็แนะนำพ่อให้รู้จักให้หมด นั่งคุยไป นั่งทำงานไป อบอุ่นดีออก จิงไหม จากคุณ : googazi เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 20:16:45

ความคิดเห็นที่ 19 ท่านคงเหงาครับ นั่งดูลูกตัวเองทำงาน ก็เป็นความสุข ความภาคภูมิใจ อะไรประมาณนี้ จากคุณ : คอบอล เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 20:23:25

ความคิดเห็นที่ 20 โอ้โห ไม่คิดว่าจะมีพี่ๆ เข้ามาช่วยชี้แนะมากขนาดนี้ฮะ จะขอเล่าความเป็นมาคร่าวๆฮะ คือน้องชายผมทำงานอยู่ต่างจังหวัด เวลามาที่บ้าน (ประมาณเดือนละ1-2ครั้ง) ก็จะมาดูทีวีในห้องทำงานผม ซึ่งผมซึ่งเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ เซลส์ไม่เข้า และเพื่อนๆก็จะไม่ค่อยมากัน คุณพ่อก็จะมาทานข้าวกลางวัน+ดูทีวีด้วยกัน 3 พ่อลูก เสร็จก็จะม่อยหลับไปที่โซฟาทั้งคู่ (เว้นผม) เพราะผมทำงานวันเสาร์ด้วย ซึ่งผมชอบมาก ดูอบอุ่นดี แล้ววันธรรมดา ท่านก็จะกลับไปดูทีวี ห้องนั่งเล่นดังเดิม แต่ที่ผ่านมาน้องชายไม่ได้กลับเป็นเดือนๆ (ซึ่งนานๆที) ผมว่าท่านคงจะคิดถึงบรรยากาศนั้น เลยมานั่งทานข้าวและดูทีวีกับผม ก็เลยติดใจ ไม่กลับไปห้องนั่งเล่นอีก เมื่อก่อนที่จะกั้นออฟฟิส โต๊ะทำงานผม จะอยู่รวมกับหน้าร้าน เวลาทานข้าวกลางวันก็จะเข้าไปทานกับคุณพ่อ พร้อมดูทีวีไปด้วย (บางครั้งผมก็งีบที่โซฟาห้องนั่งเล่น) แต่พอทำออฟฟิส ก็ไม่ค่อยไปทานข้าวกับท่านอีก (แย่จัง) ท่านก็คงเหงาอย่างที่พี่ๆบอก ต่อไปนี้จะเปลี่ยนใหม่ คือไปทานข้าวกับท่าน แล้วมีงานค่อยออกมาทำ จะดีกว่า ท่านก็ไม่ต้องลำบางมานอนโซฟาห้องผม (ซึ่งนอนไม่ค่อยสบาย) แถมผมก็จะได้คุยกับท่านมากขึ้นครับ       ผมอ่าน คคห.ของพี่ๆแล้วอึ้งไปเลยฮะ ต่อไปนี้ผมจะทำดีำกับท่านให้มากกว่าเดิมครับ ปล.ปกติที่บ้านผมมีอะไรก็จะคุยกันฮะ แต่หากเป็นกับคุณพ่อจะต้องละมุนละม่อมมากเป็นพิเศษ จากคุณ : กาย (iguy500) เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 21:16:36

ความคิดเห็นที่ 21 มีความเห็นดีๆทั้งนั้นเลยค่ะ ขอให้จขกท.กับคุณพ่อมีความสุขมากๆค่ะ จากคุณ : shower gel เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 22:14:44

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านความเห็นที่ 20 ของคุณ จขกท ... :) แอบยิ้มตามและดีใจที่มีทางออกที่สบายใจแล้วนะคะ :) บางครั้งท่านไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าความเข้าใจจริงๆค่ะ ดีใจด้วยค่ะ :) จากคุณ : แม่น้องเบสท์ เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 23:38:23

ความคิดเห็นที่ 23 พ่อผม คือพ่อผม ใครจะมาเสียมารยาทกับพ่อผม ในบริษัทก้อลองดู  คนมีอายุอดทนอดกลั้นเพื่อผมมามากมาย ท่านอยากจะทำอะไรสบายๆ ตามใจท่านผมไม่เอามาคิดแน่ จากคุณ : คุณม้าน้ำ เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 52 02:05:26

ความคิดเห็นที่ 24 ดีใจที่สุดท้ายก็ได้ทางออกที่ดีที่สุด ย้ำ ดีที่สุด อ่านแล้วรู้ว่าคุณเองก็รู้ดีว่า พ่อคุณต้องการอะไร ทำให้ท่าน ดีที่สุดค่ะ เมื่อวันนั้นมาถึง คุณจะไม่รู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านเลยไปเลย แม้วินาที รักพ่อค่ะ จากคุณ : Roja เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 52 06:32:33

ความคิดเห็นที่ 25 คนแก่จะขี้เหงาค่ะ แม่เราก็เป็นท่านบอกว่าแก่แล้วอยากอยู่ใกล้ ๆ ลูก แต่ดิฉันยังไม่ได้เริ่มต้นดูแลท่านเลยค่ะ เพิ่งเริ่มทำงานท่านก็เสีย ตอนนี้เหลือแต่พ่อก็ดูแลอย่างดีที่สุดเลย บางทีเอาใจเหมือนเด็ก ๆ เลยค่ะ และสำหรับ จขกท แล้ว ไม่ต้องแนะนำอะไรเลย เพราะ จขกท เข้าใจหมดแล้ว ดูแลท่านให้ดี ๆ นะคะ จากคุณ : tugsinat เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 52 08:19:31

ความคิดเห็นที่ 26 แจ๋วไปเลย จากคุณ : หมาร่าหมาหรอด (C.BUN) เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 52 08:38:07

ความคิดเห็นที่ 27 อ่านหลาย ๆ คำตอบในกระทู้นี้แล้ว รู้สึกตื้อ ๆ น้ำตาเอ่อขึ้นมาเลยค่ะ โดยเฉพาะ คห.ที่ 16 เราก็ไม่มีพ่อแม่แล้วเหมือนกันค่ะ บางทีนั่งดู TV หรือนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ยังอยากให้ท่านมานั่งอยู่ด้วยเลยค่ะ (พูดแล้วจะร้องไห้จริง ๆ) จากคุณ : nungying เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 52 09:27:11

ความคิดเห็นที่ 28   เป็นผมนะ ถ้าท่านหลับ ผมจะจัดท่านอนให้ท่านนอนสบายที่สุด เปิดแอร์เบาๆพอดีๆ หาผ้าห่มให้ ใครมาพบ ก็พบผมตรงนั้นแหละ จากคุณ : M85B เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 52 10:47:44

ความคิดเห็นที่ 29 อยากให้คุณพ่อมานอนที่ห้องทำงานเราบ้างจัง  คุณพ่อนอนแต่ห้องนั่งเล่นที่บ้าน  ห้องทำงานเรามันไก้ลไกลท่าน  ถ้าท่านมานอนเล่นทุกวันละก็จะดีมากเลย  อิจฉา(แต่ไม่ริษยา)จัง จากคุณ : DarkChoc เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 52 15:54:44

ความคิดเห็นที่ 30 อ่านแล้วนึกย้อนถึงตอนเด็ก ๆ เวลาพ่อทำงานที่ไหน เราก็อยากอยู่ใกล้ ๆ คอยเดินตาม ดูว่าพ่อทำอะไรอยู่ เฝ้าอยู่อย่างนั้น พ่อไล่ให้ไปเล่นที่อื่นก็ไม่ยอมไป รอจนพ่อทำงานเสร็จแล้วพาไปกินข้าว บางครั้งนั่งรอ นอนรอจนหลับไปข้าง ๆ พ่อ เราว่าพ่อคงมองเราหลับด้วยความรักและเอ็นดู แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราโตขึ้น ทำงานที่พ่อเคยทำอยู่ พ่อคนเก่าที่เคยกระฉับกระเฉงทำงานคล่องแคล่ว เวลานี้ทำไม่ไหวแล้ว เราจึงต้องทำแทน แต่พ่อก็ยังเป็นพ่อคนเดิมแต่กลับกัน เราทำงาน พ่อเฝ้ามองดูเรา และรอให้เราไปทานข้าวพร้อมเค้า รอจนหลับหรืออะไรก็แล้วแต่ เราถามตัวเองนะคะว่า เรามองตอนพ่อหลับด้วยความรู้สึก...เหมือนที่พ่อมองเรามั๊ย. รักท่านมาก ๆ นะคะ เพราะคุณยังมีโอกาสอยู่ สำหรับบางคนจะบอกรักพ่อสักคำ โอกาสนั้น ไม่มีแล้ว จากคุณ : mambank เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 52 19:16:45

ความคิดเห็นที่ 31 ขออนุญาตจขกท.นะคะ แต่พอดีไปอ่านกระทู้นี้มาแล้วสะท้อนใจยังไงไม่ทราบ ตัวเราเองไม่มีทั้งพ่อและแม่แล้ว ไม่มีโอกาสจะแก้ไขการกระทำใดๆของเราหรือตอบแทนใดๆท่านอีกแล้ว http://www.pantip.com/cafe/isolate/topic/M8479005/M8479005.html จากคุณ : เด็กหญิงบุญเกิบ เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 52 20:37:31

ความคิดเห็นที่ 32 น้ำตาไหล..... บอกได้คำเดียวว่า... รัก พ่อ แม่ ครับ จากคุณ : เบิ้มจัง เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 52 22:12:22

ความคิดเห็นที่ 33 ผมรักพ่อครับ จากคุณ : Ice americano เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 05:25:31

ความคิดเห็นที่ 34   บ้านเรานะ ห้องทำงานมีทั้งหิ้งพระ โต๊ะกินข้าวแบบกางได้หุบได้ ก็โตกันมาแบบนี้ เช้ามาพ่อจุดธูปทีก็เปิดพัดลมไล่ควัน หนีกันออกมากระเจิง รอจนธูปหมดค่อยเข้าไปทำงานต่อ เป็นความสุขของพ่อก็ให้แกทำไป ส่วนเซลล์หรือคนอื่นก็แค่ผ่านมาแล้วเลยไป ไม่ให้ความสำคัญคะ โดยเฉพาะเซลล์จะมารับออร์เดอร์ ต้องอดทน รับสภาพได้ ไม่มีใครกล้าบ่นหรอก ถ้าพูดมากก็ไม่ซื้อ ซื้อกับคนอื่นหรือโทรแจ้งเปลี่ยนเซลล์ได้เลย ถ้าคุณมีอำนาจซื้อสูงๆ เขาต้องง้อคุณคะ ไม่มีพ่อกับแม่ จะมีเราในวันนี้หรือ ชอบความเห็น 30 มาก จากคุณ : ^-^ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 11:20:50 A:58.9.175.193 X: TicketID:004404

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าต้องนัดแขกเป็นงานเป็นการสำคัญๆ จขกท.น่าจะรู้เวลานัดเป็นอย่างดี ใกล้ๆถึงเวลานัด หรือไม่วันนั้นก็บอกพ่อไว้ล่วงหน้าก่อนสิคะ ว่าวันนี้มีธุระแขกสำคัญ ต้องคุยงานกัน อยากให้ห้องโล่งๆ เรียบร้อยๆ ก่อนแขกมา ขอให้พ่อไปอยู่อีกห้องนึง เสร็จธุระแล้วค่อยมานั่งดูทีวีด้วยกัน คุณพ่อน่าจะเข้าใจ ยังไงก็งานของลูก ต้องบอกท่านค่ะ คุยกันดีๆ แต่หากเป็นวันทั่วๆไป คุณพ่อก็คงคิดเหมือนอย่างที่คุณตั้งข้อสันนิษฐานน่ะแหล่ะค่ะ ใครจะไปรู้ใจกันเท่าพ่อลูกกันเอง เน๊อะ!! ให้ท่านทำอย่างที่ท่านอยากทำเถอะค่ะ ผลบุญจะทำให้ออฟฟิสของคุณมีแต่คนมาเยี่ยม มาติดต่องาน อวยพรล่วงหน้าค่ะ จากคุณ : shai339 เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 17:28:21

ความคิดเห็นที่ 36   หวังว่า จขกท. จะทำจริงๆ จากคุณ : ชัดเจน25 เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 09:51:13

ความคิดเห็นที่ 37 คนอื่นจะสำคัญกว่าพ่อเราได้ยังไง ขอให้มีความสุขค่ะ จากคุณ : คนคุ้นตา เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 21:09:53