 |
ความคิดเห็นที่ 6 |
 |
ผมไม่ได้อยากขาย Enzymes ของผม เพียงแต่เอาความรู้มาเป็นทานให้สมาชิกชมรม เหตุที่เลือกชมรมเพราะพวกเรามีการศึกษาสูง พอจะเข้าใจได้ ดูผลงานของ Enzymes ที่ http://picasaweb.google.com/cai.showpic/ นะครับ ดูรูป http://picasaweb.google.com/cai.showpic/20090930#5387605654387171090 แสดงไร่มันของชาวบ้านทั่วไป ต้นสูงแค่หัวเข่า เปรียบกับของเราที่ปลูกพร้อมกัน ต้นสูงท่วมหัวคนแล้ว http://picasaweb.google.com/cai.showpic/20090930#5387609447786830066 และดูรูป http://picasaweb.google.com/cai.showpic/20090930#5387612245629687826 ที่แสดงข้างขวาเป็นไร่มันชาวบ้าน ข้างซ้ายของเรา ปลูกพร้อมกัน ผลออกมาต่างกันฟ้ากับดิน เราก็รวยของเราไปเรื่อยๆ ไม่เดือดร้อน ถ้าจะมีใครมีปัญญาและมีใจเปิดกว้าง อยากจะเรียนรู้ ผมก็จะสอนให้ แต่ไม่ทะเลาะด้วยนะครับ ไม่ไปเถียงว่าใครดีกว่าใคร เพราะใครอยากจะใช้ EM ก็เชิญตามสบาย ใครอยากโง่ก็ต้องเคารพสิทธิของเขา แต่ถ้าจะรับฟัง ผมก็จะอธิบายดังนี้
1. EM มาจากคำว่า Effective Micro-organism หรือ จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ จุลินทรีย์ในที่นี้หมายถึง Bacteria เป็นหลัก จุลินทรีย์ที่ไม่ใช้อากาศ (Anaerobic bacteria) เป็นจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพในการย่อยสลายสูง ใช้ในการกำจัดของเสียในระบบบำบัดน้ำเสียทั่วไป แต่มีพิษสูงและมีกลิ่นเหม็นมาก ดังนั้น จึงต้องให้อยู่ในสภาวะควบคุม คืออยู่ใน Anaerobic chamber (ไร้อากาศ) ไม่ให้ออกมาสู่ภายนอก เมื่อทำงานเสร็จแล้ว ของเสียที่ถูกบำบัดแล้ว จึงเคลื่อนที่ต่อไปที่ Aerobic chamber (ให้อากาศ) เพื่อให้ Oxygen ไปทำลาย Anaerobic bacteria ที่มีพิษ และกำจัดกลิ่น ก่อนที่จะปล่อยออกไปสู่โลกภายนอก ตัวอย่างที่ดีของระบบนี้ดูได้ที่ http://www.premier-products.co.th/products/ww/aerotol/aeromain.jsp
2. EM เป็น anaerobic bacteria ทำงานในสภาวะ ไร้อากาศ จึงต้องปิดฝาถังหมัก อย่าให้ Oxygen เข้าไป ทำให้ EM มีพิษสูงมาก จุลินทรีย์แบบไร้อากาศนี้ ถ้าติดเชื้อแล้ว ไม่มียาปฏิชีวนะรักษา การใช้ EM จึงเสี่ยงมาก และขั้นตอนการผลิตก็ยุ่งยาก แพง และมีกลิ่นเหม็นรุนแรง
3. เมื่อเอา EM ออกมาใช้ Anaerobic bacteria (ไร้อากาศ) ก็จะโดนอากาศ มันก็ตายหมด ตกลงที่บอกว่าเอาจุลินทรีย์ไปใส่ให้ดิน จุลินทรีย์โดนอากาศก็ตายหมด แล้วจะมีประโยชน์อะไร ถึงแม้ว่าถ้าจุลินทรีย์ไม่ตาย แต่จุลินทรีย์ในดินก็มีมากมายอยู่แล้ว จะเอาไปใส่อีกทำไม
4. แต่ทำไม EM ให้ผลดี คำตอบคือ Enzymes ครับ การหมัก EM ทำให้เกิด Enzymes ซึ่งมีประโยชน์มาก และกากน้ำตาลและเศษผลไม้ก็เน่าเปื่อยไปเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้อีก จึงทำให้ EM ได้ผลดี ทั้งนี้เป็นเพราะ Enzymes ที่เกิดจากการหมักครับ
5. มีวิธีผลิต Enzymes ที่ดีกว่าการหมัก EM หรือไม่ คำตอบคือ CDC Enzymes ครับ เป็น Enzymes ที่เกิดจากการหมักของ Aerobic bacteria (ใช้อากาศ) ที่ไม่มีโทษ โดยเลือกเอาชนิดของ Bacteria ที่กินได้มาใช้ ขบวนการคล้ายๆกัน คือเตรียมสารอาหาร (ง่ายกว่า และสดวกกว่าการไปเตรียมเศษผักและผลไม้มาก และถูกกว่ามากครับ) ใส่เชื้อจุลินทรีย์เข้าไป แล้วให้อากาศพร้อมทั้งหมุนเวียนน้ำผ่าน Media ของจุลินทรีย์ หมักเพียง 2 เดือน ก็ได้ประสิทธิภาพเต็มที่ ง่ายกว่า สดวกกว่า ประหยัดกว่า ปลอดภัยกว่า และไม่มีพิษ ไม่มีกลิ่นเหม็นครับ
6. แล้วทำไมถึงไม่มีคนรู้จัก เพราะยากในการเข้าใจ ต้องมีความรู้สูง ชาวบ้านไม่รู้เรื่อง ยากในการผลิต ต้องมีการให้อากาศและหมุนเวียนสารอาหาร ต้องใช้เครื่องมือราคาแพง (ถูกที่สุดชุดละเกือบแสนบาท) ต้องใช้พลังงานไฟฟ้า สิ้นเปลือง ต้องดูแลรักษา ฯลฯ
7. แล้วดีกว่าอย่างไร
7.1 ไม่มีพิษ
7.2 ไม่มีกลิ่น
7.3 ได้ Enzymes ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า
7.4 ราคาถูกกว่าเป็นพันเท่าตัว
ดังนั้น การผลิตจำนวนน้อยจึงทำไม่ได้ เพราะต้นทุนการผลิตเท่าเดิม ไม่ว่าจะผลิตครั้งละกี่ลิตรก็ตาม การนำไปใช้จึงต้องทำเป็นระบบ ตัวอย่างเช่นระบบผลิตขนาด 4000 ลิตร สามารถนำ Enzymes ไปใช้ได้วันละ 40 ลิตร (ผสมน้ำได้ 4000 ลิตร) ทุกวัน ชาวบ้านสามารถมารับได้ตาม quota ส่วนที่ใช้ไม่หมด ชาวบ้านสามารถเก็บรักษาเอาไว้ในตู้เย็น อยู่ได้นานเป็นปี ราคาจะอยู่ที่ประมาณลิตรละไม่เกิน 5 บาท ในรูปของสหกรณ์ Enzymes ลิตรละ 5 บาทนี้จะเทียบเท่า EM อย่างน้อยก็ 50 ลิตร จะเห็นได้ชัดว่าถ้าสามารถรวมกันได้ จะได้ Enzymes ที่ราคาถูกกว่า EM มาก
ไร่ของพวกเราประมาณ 2000 ไร่ เรามีโครงการจะขยายที่ดินอีก 2000 ไร่ และผลิต Enzymes เพิ่ม โดยผลิตต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง 2 ถัง เพื่อใช้ในการเตรียมดิน ใครสนใจก็เข้าชมรูปภาพได้ ส่วนใครที่อยากไปเยี่ยมชมไร่ ก็ยินดีต้อนรับเสมอนะครับ
การหมัก EM แบบไร้อากาศ จะได้เชื้อ anerobic bacteria ร้อยพ่อพันแม่ ไม่มีทางควบคุมได้เลย ถ้าได้ Clostidium tetani ซึ่งมีโอกาสสูงมาก ก็อาจจะถึงตายใช่ไหมครับ ผมสงสัยว่าถ้าเราปล่อยให้ชาวบ้านผลิต anaerobic bacteria โดยไม่มีความรู้ ในที่สุดเราก็จะได้ Clostidium tetani แน่นอน และตามมาด้วย Klebseilla spp. ซึ่งมี Enzymes ที่มีพิษ Oxidase negative และทำให้เกิดโรค pneumonia, urinary tract infections, septicemia, ankylosing spondylitis, and soft tissue infections น่าจะได้ Pseudomonas aeruginosa ด้วย นอกจากมีอันตรายต่อคนและสัตว์ถึงตาย ยังมีอันตรายต่อพืชด้วย E. coli (Escherichia coli) ก็มีโอกาสเกิดได้สูงมาก เป็น Anaerobic, Gram-negative ล้างมือไม่สะอาดก็อาจถึงตายได้
ผมเห็นว่าการเผยแพร่ EM โดยเน้นการหมักแบบไร้อากาศ เป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบ อันตรายที่อาจเกิดจากจุลินทรีย์เหล่านี้ ไม่คุ้มกับการได้ Enzymes เล็กน้อยมาบำรุงต้นไม้ รัฐน่าจะเข้ามาแก้ไข และสนับสนุนให้เกษตรกรผลิต Aerobic bacteria ที่ไม่มีพิษแทน มีเวลาก็เขียนเข้ามาให้ความรู้เรื่องนี้ด้วยนะครับ
anaerobic bacteria ที่ก่อโรคเเละมีความสำคัญทางการเเพทย์ ได้เเก่ Actinomyces, Bacteroides, Clostridium, Fusobacterium, Prevotella, Porphyromonas, Peptostreptococcus, Propionibacterium เเละ Veillonella spp. พบได้ตามธรรมชาติ เช่นในดิน บึง หนองน้ำ เเละในสัตว์ เช่น Clostridium tetani อาศัยอยู่ในลำไส้ของสัตว์กินหญ้า เเละพบได้เกือบทุกตำเเหน่งในร่างกายมนุษย์
การเกิดโรคส่วนใหญ่มักมาจากเชื้อในร่างกายเพิ่มจำนวนเเละบุกรุก เนื่องจากผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันลดลงหรือได้รับการผ่าตัด
- เป็นฝี (abscess)
- โรคติดเชื้อ Actinomyces
- โรคอุจจาระร่วงเเละลำไส้อักเสบที่สัมพันธ์กับการได้รับยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน (antibiotic-associated diarrhea and colitis)
- ปอดบวม (ชนิด aspiration)
- ไส้ติ่งอักเสบ (appendicitis)
- ถุงน้ำดีอักเสบ (cholecystitis)
- เนื้อเยื่ออักเสบ (cellulitis)
- กล้ามเนื้อตายจากการติดเชื้อกลุ่ม clostridia (clostridial myonecrosis)
- การติดเชื้อที่ฟันเเละเยื่อหุ้มฟัน (dental and periddontal infection)
- ลิ้นหัวใจอักเสบ (endocarditis)
- มีหนองในโพรงทรวงอก (thoracic empyema)
สำหรับกลุ่มโรคที่ติดเชื้อมาจากสิ่งเเวดล้อม มักมาจากการกินอาหารปนเปื้อนเชื้อหรือได้รับเชื้อทางบาดเเผลโดยตรง ได้เเก่
- ลำไส้อักเสบจากเชื้อ Clostridium ( Clostridium perfrigens gastroenteritis)
- กล้ามเนื้อตาย (myonecrosis, gas gangrene)
- เนื้อเยื่ออักเสบ (cellulitis)
- บาดทะยัก (tetanus)
เอามาให้ดูครับ จาก CDC
| จากคุณ |
:
Toy (Toy_Kub) 
|
| เขียนเมื่อ |
:
11 พ.ย. 52 10:53:09
|
|
|
|
|
