|
ความคิดเห็นที่ 6 |
|
test ลองตัดลิ้งอ้างอิงออก
วันพุธ, มิถุนายน 17, 2009 สามารถเปลี่ยนคณะกรรมการนิติฯ ด้วยเหตุผลใดบ้าง
คุณ condomanager คะ เพื่อนฝากถามมาค่ะว่า เราสามารถเปลี่ยนคณะกรรมการนิติฯได้ด้วยเหตุผลใดบ้าง ตอนนี้ลงความเห็นกันว่าคงต้องปลดเจ้าของโครงการออกจากคณะกรรมการฯให้ได้ แต่ไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นอย่างไรน่ะค่ะ
มิถุนายน 17, 2009 12:33 ก่อนเที่ยง
ถ้าจะเอากันให้แฟร์ๆเลยก็คือ ควรจะมีตัวแทนจากเจ้าของโครงการเข้าร่วมเป็นกรรมการบ้างตามสัดส่วนการถือครองกรรมสิทธิ คอนโดของคุณตามข้อมูลที่ให้มา สัดส่วนประมาณ 9:50 ห้องชุด( เจ้าของโครงการ: เจ้าของร่วม) ซึ่งคำนวณแล้วก็ประมาณ 1:5
กฎหมายกำหนดให้คณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดประกอบด้วยกรรมการไม่น้อยกว่า 3 คนแต่ไม่เกิน 9 คน ซึ่งแต่งตั้งโดยที่ประชุมใหญ่เจ้าของร่วม(มาตรา 37 วรรค 1) กรณีคอนโดของคุณถ้าจะเอาตามสัดส่วนก็คือมีกรรมการ 6 ท่าน เป็นตัวแทนเจ้าของโครงการ 1 ตัวแทนเจ้าของร่วม 5 แต่จะทำงานลำบากเพราะบางทีโหวตลงมติอะไรบางอย่างอาจมีเสียงเท่ากัน คือ 3: 3
ตามธรรมเนียมปฏิบัติจำนวนกรรมการจึงมักจะเป็นเลขคี่ เผื่อมีบางทีการออกเสียงลงมติของกรรมการเท่ากัน ประธานก็จะทำหน้าที่ฟันธงว่าจะเอาแบบไหน ประธานโหวตเห็นด้วยกับฝ่ายไหนฝ่ายนั้นก็ชนะ คอนโดของคุณก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 5 ท่าน หรือไม่เกิน 7 ท่าน กำลังดี สัดส่วนกรรมการก็น่าจะประมาณ 1:4 หรือ 2:5 (เจ้าของ:ลูกบ้าน)
ขั้นแรกผมว่าควรจะเจรจาก่อน โดยให้เหตุผลตามที่ผมอธิบาย คือควรมีจำนวนตัวแทนตามสัดส่วน ถ้าตกลงกันตามนี้ได้ ก็ให้กรรมการฝ่ายเจ้าของโครงการลาออกเป็นลายลักษณ์อักษรต่อที่ประชุมกรรมการฯ เพื่อให้เหลือ1 หรือ 2 คน ตามสัดส่วนที่ว่า แล้วผู้จัดการนิติบุคคลฯ ก็ทำหนังสือแจ้ง สนง. ที่ดินท้องถิ่นเพื่อทราบ สนง.ที่ดินก็จะประทับเลขที่รับเรื่อง เราก็ถ่ายสำเนาหนังสือที่มีเลขรับของสนง.ที่ดินมาเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อที่จะได้มีหลักฐานการลาออกอย่างสมบูรณ์แบบ
ทีนี้ถ้าเจรจาไม่สำเร็จก็ต้องถอดถอน ซึ่งมาตรา 37/3 ระบุไว้ว่า นอกจากการพ้นตำแหน่งตามวาระ (กฎหมายกำหนดให้กรรมการมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 2 ปี (มาตรา 37 วรรค 2)) กรรมการพ้นจากตำแหน่งเมื่อ
1. ตาย 2. ลาออก 3. ไม่ได้เป็นบุคคลตามมาตรา37/1 (ว่าด้วยสิทธิ์ซึ่งเกิดจากความเป็นเจ้าของหรือเป็นผู้มีความเกี่ยวข้องกับผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิห้องชุด )หรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 37/2 (ว่าด้วยลักษณะต้องห้ามต่างๆของบุคคลที่จะได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการ) 4. ที่ประชุมใหญ่เจ้าของร่วมมีมติตามมาตรา 44 ให้พ้นจากตำแหน่ง (อันนี้แหละคือหมัดเด็ด )
ส่วนมาตรา 44 ก็ระบุว่า มติของที่ประชุมใหญ่ต้องได้รับคะแนนเสียงข้างมากของเจ้าของร่วมที่เข้าประชุม ( เฉพาะที่ลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมนะครับ มาประชุมเท่าไรก็เอาเสียงส่วนใหญ่ตามนั้น ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ของเจ้าของร่วมทั้งหมด )เว้นแต่ พรบ. นี้จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น (คือ มาตรา 48 และ 49 กำหนดเสียงลงมติเฉพาะเป็นเรื่องๆไป)
อาจจะฟังดูน่าเวียนหัวหน่อยนะครับ ภาษากฎหมาย ! แต่ผมพยายามอธิบายปูพื้นฐานให้ก่อน เพื่อบอกวิธีปฏิบัติตามมา
ขั้นตอนการถอดถอนตามกฎหมายก็คือ ต้องจัดประชุมใหญ่วิสามัญครับ ทำหนังสือเชิญประชุมใหญ่ตามขั้นตอนที่เคยบอกไปแล้ว โดยระบุไว้ในวาระการประชุมในหนังสือเชิญประชุมใหญ่เพิ่มเติมเลยว่า (สมมุติว่าเรียกประชุมใหญ่วิสามัญพร้อมกับการปลดผู้จัดการนิติบุคคลฯ )
1.การพิจารณาว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาหรือบริหารคอนโด 2.การพิจารณาถอดถอนผู้จัดการนิติบุคคล (คนเดิม) 3.การพิจารณาแต่งตั้งผู้จัดการนิติบุคคล (คนใหม่) 4.การพิจารณาถอดถอนคณะกรรมการ (บางส่วน) 5.การพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการ (เพื่อทดแทน) 6.การพิจารณาแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชี 7.การขออนุมัติงบประมาณปี ปัจจุบัน ( เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาหรือบริษัทบริหารคอนโด และผู้ตรวจสอบบัญชี )
เพราะไหนๆก็จะต้องจัดประชุมใหญ่วิสามัญแล้วก็เอาให้ครบถ้วนทุกเรื่องแก้ปัญหาไปพร้อมๆกันเลย
ทีนี้การจะถอดถอนโดยอาศัยเสียงส่วนใหญ่ของเจ้าของร่วมที่เข้าประชุม ก็ต้องอธิบายให้ผู้เข้าร่วมประชุมเข้าใจในเหตุผล ซึ่งเท่าที่นึกออกตอนนี้ก็คือการอ้างเรื่องสัดส่วนการถือครองกรรมสิทธิอย่างที่ว่า ไม่น่าเกลียด หรือก้าวร้าวกันจนเกินไป
เราก็ต้องชี้แจงไปในทำนองว่า เราได้เจรจาเพื่อขอร้องให้เจ้าของโครงการเขาปรับสัดส่วนกรรมการแล้ว แต่เขาไม่เห็นด้วย เราก็เลยต้องมาขอมติจากที่ประชุมใหญ่เจ้าของร่วม เพื่อพิจารณาว่ากรรมการฝ่ายเจ้าของโครงการควรจะลาออกเพื่อให้เหลือจำนวนที่เหมาะสมหรือไม่ (อันนี้คือหมัดแย๊บ) ซึ่งเจ้าของร่วมส่วนใหญ่(ซึ่งล๊อบบี้มาแล้ว)ก็น่าจะเห็นคล้อยตามเรา เพราะมันมีเหตุผล แล้วถ้ากรรมการฝ่ายโครงการเขามีจิตสำนึกและรู้สึกละอายใจเขาก็จะประกาศลาออกเองต่อหน้าที่ประชุมใหญ่ ซึ่งอันนี้มีผลทันทีเพราะมีพยานรับรู้และจะต้องทำการบันทึกรายงานการประชุมใหญ่เป็นหลักฐานตามมา
แต่ถ้าฝ่ายโครงการเขาหนังเหนียวไม่ยอมลาออก ถึงตอนนี้ อารมณ์ของมวลชนก็จะยิ่งเห็นความไม่ชอบมาพากลมากยิ่งขึ้น ผู้ดำเนินการประชุมใหญ่ก็ต้องนำที่ประชุมเข้าสู่การพิจารณาวาระถอดถอนทันที (อันนี้คือหมัดน๊อค)ทีนี้อาจจะถอดถอนทั้งหมดเลยก็ได้ ขึ้นอยู่กับสถานะการณ์ แล้วจึงเข้าสู่วาระแต่งตั้งเพื่อทดแทนต่อไป เฮ้อออ!!! แล้วกรรมการที่ถูกถอดถอนจากมติที่ประชุมใหญ่เจ้าของร่วมนั้น หมดอนาคตเลยนะครับ ชีวิตนี้จะไปเป็นกรรมการคอนโดที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ( มาตรา 37/2(2) )
ที่ผมตอบมาทั้งหมดนี้คือโดยไม่ทราบนะครับว่าสัดส่วนกรรมการคอนโดของคุณปัจจุบันเป็นอย่างไร ถ้ามีกรรมการฝ่ายลูกบ้านมากกว่า ก็น่าจะพอทำงานกันได้ แต่ถ้าฝ่ายโครงการมากกว่าหรือไม่มีฝ่ายลูกบ้านเลยก็คงต้องจัดประชุมใหญ่วิสามัญอย่างที่ว่า
อีกวิธีหนึ่งก็คือ ล้างไพ่ครับ คือกรรมการตัวแทนจากทุกฝ่ายลาออกพร้อมกันหมด แล้วจัดประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกกันใหม่หมด ถ้ามั่นใจว่าคะแนนเสียงในมือมีมากพอ เราอาจจะได้กรรมการที่มาจากลูกบ้านทั้งหมดเลยก็ได้
แต่ผมเชื่อว่า ถ้าเจ้าของโครงการตุกติกจริงๆ เขาคงไม่ยอมลาออกแน่นอน ไม่ว่าจะลาออกบางส่วนหรือลาออกทั้งหมด
อย่าลืมว่าเป้าประสงค์ในการบริหารคอนโดก็คือการอยู่ร่วมกันในสังคมคอนโดอย่างมีความสุข ไม่ต้องคอยเดินหลบเดินหลีกใครบางคนเนื่องจากเหม็นเบื่อน้ำหน้ากัน ลองคิดดูคนเคยมีปัญหาทางใจกัน อยู่ร่วมคอนโดเดียวกัน แล้วเกิดวันนึงเลิกงานแล้วขึ้นลิฟต์พร้อมกันตัวเดียวกัน เวลาอยู่ในลิฟต์ด้วยกันจะทำหน้ายังไงกันดี
ลองคุยกันก่อนดีมั๊ยครับ !
จากคุณ |
:
..
|
เขียนเมื่อ |
:
26 พ.ย. 52 17:39:01
A:203.144.130.176 X: TicketID:197822
|
|
|
|
|