ความคิดเห็นที่ 1 เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อพี่สาวแฟน ได้ย้ายเข้ามาที่บ้านหลังนี้ ได้ 1 วัน...... เราได้เข้าไปเช็คเมลล์งาน, ออนเอ็มคุยงานกับลูกค้า  แล้วเราได้เหลือบไปเห็นพี่สาวแฟน ออนเอ็มอยู่ มีสถานะว่า พี่สาวแฟน :การได้อยู่พร้อมหน้ากับครอบครัวใช่ว่าจะมีฟามสุขเสมอไป เห้อออ สรุป กูมันคนนอก/ กูเกลียด Big C พระประแดง ไม่จำเปงจิงๆ กูจะไม่ไป พี่สาวแฟน : โอเคกูมัน หมาหัวเน่า / อยากอยู่บ้านคนเดียว พี่สาวแฟน : I Miss Big C rajburana / เห้อ เข้าใจลูกหน่อย ลูกโลกส่วนตัวสูง พี่สาวแฟน : คิดถึงและอยากกลับไปอยู่ราดบูรณะ หมายเหตุ ที่พี่สาวแฟน เกลียดบิ๊กซีพระประแดง เพราะแถวนั้นมีคนอีสานเยอะ(จิงๆ เค้าพูดอีกคำนึง) คนโรงงาน เด็กแว้น คนแต่งตัวไม่เป็น แต่งตัวอีสาน ฯลฯ (--'' คิดในใจคนอะไรชอบดูถูกคนมาก) จากคุณ : yiwyiw เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 12:49:23

ความคิดเห็นที่ 2 และเมื่อวานล่าสุด สถานะเป็น พี่สาวแฟน : คับที่อยู่ไม่ได้ คับใจยิ่งอยู่ไม่ได้ อยากถามทุกๆท่านค่ะ ว่าเราในฐานเจ้าของบ้าน, เจ้าบ้าน, คนนอกครอบครัว และว่าที่ภรรยาของน้องชายเค้า ควรจัดการกับเรื่องนี้ยังงัยดีคะ มีหลายเรื่องมากค่ะ เกี่ยวกับพี่สาวแฟน ไม่ว่าเป็น เม้าแตกแม่ตัวเองให้ญาติคนอื่นรู้, เงินแสนสี่, แย่งแฟนคนอื่นแล้วยังจะไปว่าเค้าอีก, เหตุเกิดบนรถพี่สาวของเรา และอีกหลายๆ เรื่อง ถ้าใครอยากรู้เรื่องไหน บอกมาเลยค่ะ อึดอัดมาก อยากระบายทุกเรื่องเลยแต่ไม่รู้ว่าจะเป็นการรบกวนผู้อื่นเกินไปหรือเปล่า จากคุณ : yiwyiw เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 13:03:17

ความคิดเห็นที่ 3 คนที่เราสงสารและน่าเห็นใจมากที่สุดคงเป็นป๊า จากที่ไม่เคยเห็นกินยา ก็พารา 2เม็ดประจำ ป๊าคงผิดหวังมากๆ เพราะรักลูกสาว อยากมาอยู่ด้วยตั้งนานแล้ว แต่ไม่ค่อยได้เห็นหน้าลูก เพราะกลับตีหนึ่ง ตีสองบ่อยๆ จากคุณ : yiwyiw เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 13:09:46

ความคิดเห็นที่ 4 ก็ระบายให้หมดเถอะครับ จะได้สบายใจ จากคุณ : โกยเงิน เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 13:12:00

ความคิดเห็นที่ 5 คุณคิดผิดแต่แรกแล้วที่ไม่อยู่กันเอง จากคุณ : mum141 เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 13:12:25

ความคิดเห็นที่ 6 จำได้ว่า ป๊าบอกกับเราว่า จะขายบ้านที่สุพรรณแล้วมาซื้อบ้านที่กรุงเทพ "หาบ้านให้ป๊าหน่อยน๊า จะได้อยู่ด้วยกัน" เราก็ "ได้เลย จัดให้" แต่เมื่อขายบ้านสุพรรณได้แล้ว และป๊าเดินทางโดยรถตู้ (หอบเงินสด) มาจากสุพรรณ เราก็โทรบอกพี่สาวเราให้ขับรถพาไปดูบ้านที่เล็งๆ ไว้ให้หน่อย ในรถมีเรา พี่สาวเรา แฟน แม่แฟน พ่อแฟน......(ชวนพี่สาวแฟนแล้วแต่ไม่มาต้องไปดูคอนเสริตรุ่นน้อง) โทรศัพท์มือถือแม่แฟนดัง พอรับสายแล้ว เสียงตามสายดังมาก มาเลยค่ะ "แม่ ขายบ้านได้แล้วเอาเงินมาแบ่งใช้กันมั่งดิ ไม่คิดจะให้ลูกใช้เลยหรอ" พูดแบบมั่นใจๆ พี่สาวเราถามเราว่าใครอ่ะ เราบอกว่าพี่สาวแฟน พี่เราคิ้วขมวดเลยค่ะ พูดไม่ออก นั่งเงียบกันทั้งคันรถ แอบบมองกระจกหลัง เห็นป๊า กับแม่น้ำตาคลอ ท่านคงเสียใจ เพราะยังไม่มีบ้านอยู่เลย แต่ลูกมาขอแบ่งเงินแล้ว จากคุณ : yiwyiw เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 13:28:30

ความคิดเห็นที่ 7 ในความคิดเห็นที่ 6 พอเราได้เขียนระบายความในใจ แล้วมันรู้สึกโล่งดีนะค่ะ เบาหัว ไม่มีอะไรหนักๆ แต่ก็เหมือนเอาเค้ามานินทา เราว่าพอแค่นี้ดีกว่า รอเค้ามาทำกระฟัดกระเฟียดกับเราก่อน ถึงตอนนั้นเราจะอบรมสั่งสอนค่ะ เอาให้หมดความมั่นใจไปเลย ไม่ชอบมีเรื่อง เงียบๆ ติ๋มๆ ไม่ใช่ว่าไม่สู้คนนะค๊า ..... จากคุณ : yiwyiw เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 13:41:39

ความคิดเห็นที่ 8 ตกลงบ้านใครกันแน่ครับ เห็นว่าป๊าขายบ้านที่สุพรรณหอบเงินมาเล็งดูบ้านที่จะซื้อ จากคุณ : --^ไชโย^-- เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 13:51:36

ความคิดเห็นที่ 9 ขออธิบายนะคะ คือป๊าขายบ้านที่สุพรรณได้ประมาณล้านกว่าๆ แต่เรากับแฟนเห็นว่า ป๊ากับแม่ท่านทั้งสองแก่แล้ว ควรเกษียณได้แล้ว เลยให้เก็บเงินก้อนนั้นไว้เวลาฉุกเฉิน ไว้รักษาตัว แล้วเรากับแฟนจะเป็นคนหาซื้อบ้านเองค่ะ ไม่อยากให้ท่านเอาเงินที่หามาทั้งชีวิตมาซื้อบ้าน เงินหมดไปในพริบตา คิดว่าบ้านน่าจะเป็นเรื่องของคนหนุ่มคนสาวอย่างพวกเราค่ะ จากคุณ : yiwyiw เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 13:58:20

ความคิดเห็นที่ 10 คุณก็อย่าไปสนใจอะไรเค้ามาก ถ้าเค้าไม่ทำอะไร ให้คุณเดือดร้อน แบบเป็นรูปธรรม ที่บอกอย่างนี้ เพื่ออะไรหน่ะเหรอ 1. เพื่อตัวคุณเอง คุณจะได้สบายใจ 2. และเมื่อคุณสบายใจ คุณก็จะมีกำลังใจไปดูแล ป๊ากับแม่ สามี 3. ซึ่งอาจจะไม่ทั้งหมด แต่เราเชื่อว่า มันจะพอทดแทน ความเสียใจของท่านบ้าง คนแต่ละคนไม่เหมือนกัน หากเราเปลี่ยนตัวเค้าไม่ได้ เราก็เปลี่ยนตัวเราแทน เปลี่ยนเพื่อให้เรามีความสุข เป็นกำลังใจให้นะคะ ห้องนี้มีคนใจดีเยอะ ใครมีทุกข์เข้ามา พวกเราก็เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : PaoTMTF เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 14:00:32

ความคิดเห็นที่ 11 แนะนำให้ทำเฉยๆไปค่ะ ถ้าเค้าคับที่คับใจจริงๆ เค้าก็คงจะย้ายออกไปเอง จริงๆแล้วฟังดูเค้าก็ยังไม่ได้บ่นอะไรออกมาชัดๆ หรือแสดงกิริยาร้ายออกมานี่คะ แค่เค้าบ่นๆonline ส่วนเรื่องความรู้สึกของพ่อแฟน ก็น่าเห็นใจนะคะ แต่ถ้าลูกสาวเค้าเองยังไม่ใส่ใจ คุณจะไปทำอะไรได้ล่ะคะ ก็ support ไปเท่าที่ทำได้อะค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 52 14:05:22 จากคุณ : พีนัตบัทเตอร์ เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 14:03:31

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณมากค่ะ ห้องนี้ใจดีจริงๆ ค่ะ (ประทับใจ) มองในแง่ดี 1.เค้าทำให้เราสามารถแบ่งแยกได้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว ชัดเจนขึ้น 2.ทำให้เราทำบุญ ทำทานบ่อยมากขึ้น จากที่ไม่เคยจะสนใจ หาเหตุผลสารพัดว่าติดงาน พระรูปนั้นไม่น่าทำ ไม่น่านับถือ 3.เป็นผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบ เงียบ สงบ ไม่บุ่มบ่าม มากขึ้น 4.เริ่มอ่านหนังสือธรรมะ บ้างนิดหน่อยแล้ว (หยิบมาจากเซเว่นค่ะ) ฯลฯ จากคุณ : yiwyiw เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 14:11:38

ความคิดเห็นที่ 13 จากความคิดเห็นที่ 12 จะเห็นว่าข้อ 2 เกี่ยวอะไรด้วย ไม่รู้ท่านใดเคยเป็นบ้าง เวลาไม่สบายใจอะไรมาก ๆ พอได้ให้เงินคนแก่ๆขอทาน แล้วสบายใจขึ้นเยอะ เริ่มเห็นทางพ้นทุกข์ พ้นโศก ก็จะทำบ่อยๆ ขึ้น โอ๊ยเริ่มนอกเรื่องไปนิดแล้วค่ะ จากคุณ : yiwyiw เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 14:14:45

ความคิดเห็นที่ 14   เราก็มีเบื่อกับน้องชายของแฟนมากแต่ดีที่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน เอาพ่อแฟนมาอยู่ที่บ้านเราดูแลเองเพราะ แกเดินไม่ค่อยได้แล้ว เราทำกับข้าวให้กับข้าวแต่ละมื้อแทบไม่ซ้ำกันเลย น้องแฟนนานๆมาครั้ง มาเจอเราทำสุกี้ 2 ครั้ง แล้วพูดออกมาว่าสุกี้อีกแล้ว แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไรได้แต่นึกในใจว่าตัวเองมากันกี่ครั้ง อีกครั้งมาแฟนเราซื้อผัดไทมาให้กิน น้องแฟนก็พูดอีกผัดไทหวานกินได้ไง (พ่อแฟนเป็นเบาหวาน) แต่ไม่เคยคิดทีตัวเองซื้อวุ้นมะพร้าว,ลูกพลับแห้ง มาหวานกว่าตั้งเท่าไร ผัดไทนานๆจะกินสักที ส่วนใหญ่ทำกับข้าวทานเองอยู่แล้ว เราควบคุมอาหาร น้องแฟนก็มาว่าแฟนว่าทำไมไม่มีอะไรให้พ่อกิน อยากบอกว่าเซ็งๆ จะกินอะไรได้ก็ในเมื่อพ่อแฟนเป็นเบาหวานและคณะเลย เกือบทุกโรคในคนเดียว จากน้ำตาลร้อยกว่าตลอด ตอนนี้เหลือแค่ 80 กว่าเอง ทีแบบนี้ไม่เคยมาพูดหรอก ช่วงแรกเครียดมาก แบบว่าเซ็งสุดๆ เหนื่อยก็เหนื่อย แถมยังถูกว่าอีก แต่ตอนนี้เฉยๆ คนเราต่างจิตต่างใจ ไม่เก็บเอามาใส่ใจดีที่สุด ***สิ่งที่คุณทำได้ก็คือเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ดูแลพ่อแม่แฟนดีกว่าส่วนพี่สาวแฟนก็ต่างคนต่างอยู่ไป แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 52 14:26:47 จากคุณ : thesassygirl เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 14:25:08

ความคิดเห็นที่ 15 เขาออนเอ็มของเขา  เราไปหาทุกข์มาใส่ตัวเองนิครับ คนเราไม่ได้ดีไปทุกอย่างหรือเลวไปทุกอย่างหรอกครับ เราแต่งกับแฟนแล้วก็เหมือนแต่งกับครอบครัวเขา เราต้องรับเขาได้ทั้งครอบครัวนั่นล่ะ  ไม่งั้นอกแตกตายแน่ๆ มองในสิ่งที่ดี  ละสิ่งที่ไม่ดีเขาบ้าง  แล้วคุณจะเป็นสุข ทำดีกับเขาทั้งกายและใจ  แล้วเขาก็จะดีตอบกับคุณเอง ถ้าทำดีกับเขาเพราะหน้าที่  เขาก็จะดีตอบกับคุณเพราะหน้าที่เช่นกัน กมฺ มุนา วตฺตตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม จากคุณ : jomjonbupa เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 14:27:13

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นใจคุณ thesassygirl มากค่ะ เข้าใจเลยค่ะ ไอ้ที่นานๆมาร่วมวงที แล้วมาเจอว่าเราซื้อของให้พ่อแม่เค้ากินซ้ำๆ ทีตัวไม่ซื้อค่ะ เอาคนอื่นมาเลี้ยงที่บ้านแล้วมาขอตังค์แม่แฟนไปซื้อของให้เค้ากิน พ่อแม่ตัวไม่คิดถามว่าอยากกินอะไร.......อดไม่ได้ที่จะนินทาเค้าอีกแล้ว ปิดปากก่อนนะคะ ใครทำดีกับเราก็ดีตอบ เราพ่อเสียไปนานแล้ว มาเจอป๊าดีกับเรามากๆ แม่แฟนก็น่ารักมากๆ เราควรจะแคร์คนดี มากกว่าคนเลว จริงไหมคะ พี่แฟนเคยให้เสื้อที่เค้าใส่จนเก่าแล้ว มาให้เรา เราก็ชอบมากค่ะ (ชอบจากใจจริง) เค้าก็มีส่วนที่ดี กับเรา แต่ควรแบ่งไปให้พ่อแม่เค้าบ้าง ....ปิดปากอีกครั้งค่ะ จากคุณ : yiwyiw เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 14:39:01

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่าการที่ปล่อยเค้าไว้เฉย ๆ และทำเป็นไม่สนใจไปซะ ทางทฤษฎีทำได้ แต่การปฏิบัติไม่เป็นผลครับ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนที่เราไม่ชอบ (ในพฤติกรรม) แต่มาอยู่ในบ้านเรา แล้วจะทำให้เราเฉย ๆ ได้ คิดดูนะ แรก ๆ ยังขนาดนี้ อยู่ ๆ ต่อไปคิดว่ามันจะมีอะไรต่อมิอะไรมากขึ้นหรือน้อยลง เราสามารถทำใจได้นะ แต่ไม่ตลอดไป และบ้านจะไม่สุขอย่างเต็มที่และทำให้คนในครอบครัวคนอื่น ๆ พลอยมีทุกข์ไปด้วย คำแนะนำ.. ให้ทุกคนช่วยกันคิดช่วยกันทำโดยให้แฟนของคุณเองนั่นแหละคิดดูว่าเอาไงดี แต่ถ้าทุกคนสามารถอยู่ได้ก็จริงก็เป็นเรื่องดีครับ ส่วนผมเองถ้าเป็นบ้านผม ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ในบ้าน ต้องรักกันและดีต่อกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง บ้านจะได้เป็นบ้านที่มีความสุขครับ คนประเภทที่คุณเล่ามา เค้าต้องการให้ทุกคนปรับเปลี่ยนเพื่อเค้า แต่ตัวเองไม่คิดที่จะปรับตัวหรอก เอาใจช่วยครับ ลองคุยกับแฟนดูครับ จากคุณ : แตงโมสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 15:12:11

ความคิดเห็นที่ 18   คุณคิดดี ทำดีแล้ว ทำต่อไปนะ ส่วนพี่สาวแฟน ปล่อยวาง เดี๋ยวเค้าก็ไปของเค้าเอง เป็นกำลังใจให้คนคิดดีทำดีจ๊ะ :) จากคุณ : ~*หนึ่งตะวันพันเม็ดทราย*~ เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 15:18:51

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 15 เรื่องนึงค่ะคือ ''เราแต่งกับแฟนแล้วก็เหมือนแต่งกับครอบครัวเขา เราต้องรับเขาได้ทั้งครอบครัวนั่นล่ะ'' ปล่อยเค้าไปอย่าเก๊บมาใส่ใจอีกเลยเราทุกข์เองป่าวๆ พี่สาวแฟนไม่ได้ทุกข์ด้วยกับคุณซะหน่อย แต่ก็เป้ฯกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : senasenony เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 15:23:06

ความคิดเห็นที่ 20 เราไม่สามารถตัดสินใครว่าดี หรือ ชั่วได้หรอกครับ ยิ่งเป็นพี่สาวแฟนด้วย  เปรียบเสมือนญาติ เพียงแต่นิสัยเข้ากันไม่ได้เท่านั้นเอง อยู่ด้วยกันสักพัก (ใหญ่) พอปรับตัวได้ ก็อาจจะกลับกลายเป็นเพื่อนสนิทได้ จากคุณ : --^ไชโย^-- เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 15:29:24

ความคิดเห็นที่ 21 ความเห็นของคุณแตงโมสีรุ้ง ก็เป็นเรื่องจริงอีกค่ะ เราก็ไม่สามารถทำใจให้สงบได้ success 100% และเราก็ไม่สามารถปรับตัวเพื่อเค้าได้ (นิสัยอย่างนึงของพี่สาวแฟนที่เราเกลียด คือการเดินกระทืบเท้าบนบรรได และปิดประตูกระแทกเสียงดัง เหมือนทำรดหัวพวกเราค่ะ แต่พี่แฟนเค้าเป็นคนมั่นใจมากๆ เลยค่ะ)   แฟนเราก็เป็นอีกคนนึงที่เราเห็นใจ เค้าเครียดที่พ่อแม่ต้องมาเจอกับคนแบบนี้ และผลกระทบจากความเครียดมันมากมายมหาศาลค่ะ แฟนเราเครียด เครียด เครียด จนเป็นโรคไทรอยด์ (เชื่อไหมคะ หมอบอกว่าความเครียดเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรค) ตามด้วยโรคเบาหวาน โรคเบาหวานขึ้นตา โรคความดันสูง และสุดท้ายโรคไตค่ะ ทั้งๆที่อายุเพิ่ง 28 ปีเองค่ะ (เพิ่งรู้ผลตรวจจากอาจารย์หมอลีนามาเมื่อสัปดาห์ก่อนนี้เองค่ะ หมอลีนาตกใจมาก ไม่เคยเจอคนที่อายุน้อยขนาดนี้เป็นโรตมากมายขนาดนี้) ไม่ต้องอธิบายมากแล้วใช่ใหม่คะ ทุกท่านคงทราบ ว่าแค่แฟนเรายังเป็นขนาดนี้ แล้วพ่อแม่ไม่หัวใจสลายเลยหรือคะ มันตกมาถึงเราด้วย เราไม่รู้ว่าแฟนเราจะมี..... ที่สามารถทำให้เราท้องได้หรือไม่ ทุกวันนี้คิดเสียว่าเราเกิดมาชาตินี้เพื่อชดใช้กรรมพี่สาวแฟนเรา ก็สบายใจขึ้นค่ะ ความเห็นนี้ฟังแล้วก็เวอร์ดีนะคะ จากคุณ : yiwyiw เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 15:35:41

ความคิดเห็นที่ 22 ขนาดคุณยังเครียดขนาดนี้ แฟนคุณเครียดหนักแน่ๆ ครับ.. แต่.. ขอเอาคำแนะนำของพ่อกับแม่ ตอนที่รู้ว่าผมจะแต่งงานมาบอก ว่า เรื่องของญาติๆ คู่ครอง อย่าเข้าไปยุ่ง อย่าเข้าไปเสนอความคิด หากเขาไม่ถาม ถึงแม้จะถาม ก็ให้ตอบกลางๆ และคิดให้ดีก่อนจะพูด จากคุณ : Wobbegong เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 16:54:53

ความคิดเห็นที่ 23   คุณเป็นคนมีความกตัญญูมากเลยค่ะ เฉยๆไว้ค่ะ อีกไม่นานเขาจะของขึ้นสุดๆแล้ว ส่วนในที่ไม่ดี เดี๋ยวเขาแสดงออกมาให้ดูแน่ๆค่ะ ...... . . แต่น่าสงสารพ่อกับแม่นะ ที่มีลูกแบบนี้ ค่ะ ถ้าท่านไม่ตรงนะ คงเศร้าไปอีกนานเลย ต้องคอยให้กำลังใจท่านทั้งสองนะ สู้ๆๆคะ จากคุณ : ปนัดดา-ตัวดำ เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 18:03:10

ความคิดเห็นที่ 24 พี่สาวแฟนคุณแตกต่างจาก คุณพ่อคุณแม่+แฟนคุณ+คุณ จังเลย ว้าคนแบบนี้เป็นเราเฉยๆดีกว่า  เดี๋ยวเขาคงไปตามทางของเขาเอง มีอะไรก็ระบายออกมานะค่ะ   จะได้สบายใจ จากคุณ : จี้เพชร เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 19:39:59

ความคิดเห็นที่ 25 ลดทัศนะคติที่ไม่ดีให้ได้ก่อนนะครับ เราเป็นคนนอกอาจไม่เข้าใจ แต่พวกเขาเป็นพ่อแม่ลูกคงตัดกันไม่ได้ ถ้าคนหนึ่งแยกออกไป พ่อแม่อาจลำบากใจ ลองคุยกัน หากิจกรรมทำด้วยกัน อาจทำให้ทัศนะเปลี่ยน และความรู้สึกของแต่ละคนก็จะดีขึ้น ถ้าคุณมีลูกแล้วปู่ย่าและป้ามาช่วยเลี้ยงหลาน คุณจะเห็นคุณค่าของการอยู่ร่วมกันมากกว่านี้ ส่วนไม่ดีของเขาก็พยายามมองข้าม เพราะแม้แต่พี่น้องท้องเดียวกันแท้ๆก็ยังมีคนดีและคนไม่เอาถ่าน จากคุณ : MirrorLake เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 22:13:39

ความคิดเห็นที่ 26 เรื่องกิจกรรมที่คุณMirrorLake แนะนำ เราลองทำดูแล้วนะคะ หลายครั้งด้วย แต่ก็จบด้วยประโยคที่ว่า "เสร็จยังเนี่ย นัดรุ่นน้องไว้ นัดเพื่อนไว้ ต้องไปช่วยงานคอนเสริตรุ่นน้อง" ต่างๆ นาๆ น้ำเสียงที่พูดใส่แม่ตัวเองเนี่ย มั่นใจสุดๆ เลยค่ะ เรื่องทายาท เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังงัย เศร้าใจค่ะ ป๊ากับแม่แฟน ท่านอยากมีหลานมาก แต่เรากับแฟน ไม่สามารถบอกท่านได้ว่า ด้วยโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นอยู่ ไม่อาจทำให้มีเบบี้ได้ กลัวท่านเสียใจ จากคุณ : yiwyiw เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 07:56:04

ความคิดเห็นที่ 27 เรื่องทายาทก็ไม่ต้องบอกแม่กับป๊า ถ้าบอกความจริงแล้วทำให้ไม่สบายใจก็ไม่ต้องบอก เรื่องพี่สาวแฟน ก็ปล่อยไว้อย่างนั้น เรื่องของเค้า ความคิดของเค้า เดี๋ยวเค้าก็ไปเองแหละ แต่ถ้ามันมากกเกินไปก็ต้องพูดบอกกล่าวกัน แต่อย่าก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเค้า ถ้าจะให้ดี สามีคุณนั่นแหละที่เป็นคนพูด ลองพาป๊ากับแม่ไปหาอะไรเรียน จัดดอกไม้ ออกกำลัง  จะได้ไม่เครียด จากคุณ : รวมการเฉพาะกิจ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 09:27:38

ความคิดเห็นที่ 28 พวกไม่เกรงใจ น่าจะเจอคนไม่เกรงใจเนอะ เก่งนัก มันใจตัวเองนัก ทำไมเขาไม่ไปอยู่ที่อื่นเลย แปลกดี จากคุณ : dib2000 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 15:37:14