ความคิดเห็นที่ 1 มาตรฐาน Type F หรือ Type E/F hybrid แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 02:15:38 จากคุณ : FoxUnit เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 02:00:45

ความคิดเห็นที่ 2 มาตรฐาน Type B แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 02:15:55 จากคุณ : FoxUnit เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 02:01:02

ความคิดเห็นที่ 3 แถวกลาง ด้านซ้ายเป็นแบบที่เราใช้กันทั่วไป ส่่วนอันกลางเป็นแบบที่ใช้กับมาตรฐาน Type F หรือ Type E/F hybrid แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 02:16:17 จากคุณ : FoxUnit เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 02:01:35

ความคิดเห็นที่ 4 เออ..กระทู้นี้ดีเว้ย อยากรู้เหมือนกันครับ โหวตให้ด้วย เพื่อนๆจะได้รู้ด้วย จากคุณ : คุณปุ๊ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 03:36:28

ความคิดเห็นที่ 5 อยากรู้ด้วยเช่นกันครับผม ^^ จากคุณ : gap_gm เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 07:26:06

ความคิดเห็นที่ 6 เมืองไทยไม่มีมาตรฐานครับ แต่ของประเทศอื่นๆย่านอาเซียนเขามีกันหมด พี่ไทยเลยใช้กันมั่วๆ จากคุณ : NN เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 07:40:22

ความคิดเห็นที่ 7 Type B ผมหักขากราวน์ทิ้งประจำ จากคุณ : Jump.Jr เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 07:55:22

ความคิดเห็นที่ 8 ผมเรียกไม่ถูกเหมือนกันครับ บ้านผม พอเวลาจะพอถึงการใช้งานของปลั๊กเสียบ เขาจะพูดกันแต่ ปลั๊ก 2 รู กับ ปลั๊ก 3 รู จากคุณ : Archarn Chan เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 09:37:06

ความคิดเห็นที่ 9 ที่บ้านก็ Type B ทั้งหมด หากซื้อเครื่องใช้ที่มีปลั๊ก Type F หรือ Type E/F hybrid ก็ไปซื้อตัวแปลง type มาเสียบ ส่วนเครื่องใช้ตัวไหนมีแต่ปลั๊ก 2 ขาไม่มีกราวด์ผมก็ตัดเปลี่ยนหัวปลั๊กเป็นแบบ Type B โดยสายดินก็นำมาจากจุดต่อกราวด์ี่ของเครื่องใช้นั้นๆ เช่น ตู้เย็น เตาอบไฟฟ้า เตาไมโครเวฟ จะมี ส่วน AVR ก็ว่าตัดเปลี่ยนหัวปลั๊กอยู่กันจับเครื่องที่ไรเหมื่อนไฟจะดูด จากคุณ : LOSTinHOME เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 11:16:57

ความคิดเห็นที่ 10 ตามตัวอย่างปลั๊กที่นำมาแสดงไม่ใช่มาตรฐานของปลั๊กไทยครับ มาตรฐานของปลั๊กไทยจะมี 2 แบบครับเป็นลักษณะ 3 ขากลม และ 2 ขากลม ดังนั้นการติดตั้งสายกราว 3 รูจึงมีความจำเป็นครับ โดยมาตรฐานตามภาพ คห.ที่ 2 นั้น เป็นมาตรฐานของต่างประเทศครับ เป็นของประเทศยุโรปซึ่ง ปลั๊กเต้ารับที่โน้นจะมีขากราวแยกออกมาจับกับกราวน์ที่หัวปลั๊กอีกครั้งครับ จากคุณ : tap เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 13:27:40

ความคิดเห็นที่ 11 การหักหัวปลั๊กที่เป็นขากราวน์นั้น แม้จะสามารถทำได้แต่ในความเป็นจริงอาจทำให้เกิดอันตรายได้ครับ เพราะว่าหัวปลั๊กภายในอาจกระเทือนไปยังจุดต่อไฟและอาจทำให้เกิดการสป๊าคได้ครับ โดยตามที่ได้ลงไว้ในข้างต้น มาตรฐานไทยแบ่งออกง่ายๆเป็น class I กับ Class II โดยแบบแรกคือ 2 ขา และแบบที่ 2 จะเป็น 3 ขา ซึ่งในหัวแบบ มาตรฐานไทยจะไม่สามารถหักขากราวน์ออกได้ครับ การใช้หัวปลั๊กที่ไม่ตรงกับมาตรฐานมักจะก่อให้เกิดปัญหากับเครื่องใช้ไฟฟ้ามาก ไม่ว่าจะเป็นการสป๊ากของไฟ ขาไม่แข็งแรง อย่างเช่นสินค้าจากประเทศจีนเป็นส่วนมากซึ่งมักจะเจอปัญหาหัวปลั๊กละลาย หรือสายไฟขาดในบ่อยๆ ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าใช้งานไม่ได้ ไว้ผมกลับมาอีกครั้งจะเอารูปหัวปลั๊กมาตรฐานไทยทั้ง 2 แบบมาให้ดูครับ จากคุณ : tap เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 13:36:50

ความคิดเห็นที่ 12 รูปครับ (เล็กไปหน่อย) จากคุณ : tap เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 13:47:12

ความคิดเห็นที่ 13 2 ขาครับ จากคุณ : tap เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 13:47:38

ความคิดเห็นที่ 14 ตึกที่ทำงานผม ปลั๊กฝั่งผนังเป็นแบบ 3 ขาทั้งหมด และมีการต่อสายดิดไว้ เพื่อป้องกันไฟรั่วจากเครื่องใช้ไฟฟ้า จากคุณ : RG-6 เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 14:09:51

ความคิดเห็นที่ 15 ***ดังนั้นการติดตั้งเต้ารับที่มี 3 รู จึงไม่เกิดประโยชน์ต่อการต่อ ลงดิน และยังเป็นการส่งเสริมให้มีการผลิตและใช้อุปกรณ์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล อีกด้วย*** ผมเข้าใจว่า เขาอาจจะหมายถึง ติดตั้งเต้ารับที่มี 3 รู แต่ว่า ตัวสายไฟที่เดินไว้ เป็นแค่แบบ 2 สายมั๊งครับ เพราะติดแบบนี้ ย่อมไม่เกิดประโยชน์แน่นอน ส่วนเรื่องความเป็นมาตรฐาน ไม่ขอออกความเห็นครับ จากคุณ : sasrp เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 14:23:09

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบ คห. 10, 11 ผมทราบดีครับว่า   Type E/F hybrid  นั้นเป็นมาตรฐานของประเทศในแถบยุโรป เพียงแต่ ทำไมในเมื่อไม่ใช่มาตรฐานปลั๊กที่ใช้ในไทย กลับปล่อยให้สินค้าเหล่านี้ออกมาขายได้เรื่อยๆ เพราะเห็นกันมาตั้งแต่เด็กยันโต ก็เห็นยังขายกันแบบนี้อยู่ จากคุณ : FoxUnit เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 15:16:12

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องมาตรฐานเต้าเสียบ (ปลั๊ก) ของเครื่องใช้ไฟฟ้า หาข้อมูลได้ที่ สมอ. เลยครับ สมอ. = สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม เป็นผู้ออกมาตรฐานต่าง ๆ เกี่ยวกับสินค้าอุตสาหกรรมทั้งหมดครับ เมื่อก่อนปลั๊กของเครื่องใช้ก็มีหลายแบบนั่นแหละครับ เพราะไทยใช้มาตรฐานของหลายประเทศในโลก เช่น ญี่ปุ่น (ขาแบน) ยุโรป (กลม) เอามายำรวมกัน มันเลยเกิด เต้ารับครอบจักรวาล หรือ Universal outlet ในบ้านเรา แต่ตอนนี้ สมอ. ได้กำหนดบังคับให้เครื่องใช้ไฟฟ้าบางประเภท (ยังไม่ทั้งหมด ลองเข้าดูเว็บ สมอ ได้ครับ) ต้องใช้มาตรฐานปลั๊กตัวใหม่แล้ว คือ เป็นแบบกลม ทั้งแบบ 2 ขา และ 3 ขา ครับ สมอ. ไปที่ www.tisi.go.th ส่วนมาตรฐานปลั๊กคือ มอก.166-2549 (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) จากคุณ : Sun Eagle เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 16:10:02

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าสนใจมาตรฐานของ การไฟฟ้านครหลวง การติดตั้งเต้าเสียบก็คงต้องเจาะจงใช้เฉพาะเครื่องไฟฟ้าแต่ละชนิด เต้าเสียบที่มีสายดิน ก็ใช้ได้เฉพาะกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีปลั๊ก Type F หรือ Type E/F hybrid เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ของเราส่วนใหญ่จะเป็นขาแบน ไม่ใช่ขากลม บางรุ่นมีขากลม 2 ขา แต่ปลั๊กใหญ่ เสียบเข้าเบ้าของเต้าเสียบ Type F หรือ Type E/F hybrid ไม่ได้ ใช้เสียบปลั๊กของคอมพิวเตอร์ พริ้นเตอร์ ฯลฯ ไม่ได้ ตัวอย่างเช่น คุณติดตั้งเต้ารับ Type F หรือ Type E/F hybrid ที่ห้องครัว คุณสามารถใช้กับเครื่องชงกาแฟ เตาไฟฟ้า เตาไมโครเวฟบางรุ่น ได้ แต่คุณไม่สามารถใช้เต้ารับอันนี้กับกระติกน้ำร้อนไฟฟ้า หม้อหุงข้าว หรือตู้เย็นได้ จากคุณ : นายสันทัด เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 18:02:27

ความคิดเห็นที่ 19   ประเทศที่ผมเคยไปมา มีเวียดนามอีกประเทศที่ปลั๊กไฟมั่วๆเหมือนบ้านเรา ในขณะที่ประเทศอื่นๆเค้าเป็นแบบเดียวกันหมด จากคุณ : Lost Lollipop เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 18:49:15

ความคิดเห็นที่ 20   ปลั๊กทุกอัน ตามรูป คห.13 หลวมหมด ควรเลิกผลิตปลั๊กแบบนี้ได้แล้ว จากคุณ : tora เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 19:46:10 A:208.113.194.17 X: TicketID:251271

ความคิดเห็นที่ 21 ตอบ คห.20 เหตุที่มันหลวม ผมคิดว่าเป็นเพราะว่า เต้ารับกับตัวปลั๊กออกแบบมาไม่ตรงกันครับ ปลั๊กในรูป คห.13 บริเวณโคนขา จะเป็นวัสดุฉนวน จะมีเพียงครึ่งปลายเท่านั้นที่เป็นโลหะนำไฟฟ้า แต่ปลั๊กๆหลายตัวที่ขายในบ้านเรา ขาไฟด้านในมักจะทำลักษณะปลายบีบตรงบริเวณยอดเท่านั้น ทำให้พอเสียบแล้ว หน้าสัมผัสแทบจะไม่ติดกันเลย(ถึงติดก็ไปติดตรงที่ฉนวน  ทำให้มีปัญหาเสียบไม่ติด เสียบแล้วหลวมบ่อยมาก แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 19:54:23 จากคุณ : FoxUnit เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 19:53:52

ความคิดเห็นที่ 22 ขอโทษครับ ^^ มาตรฐานบ้านเราต้องยอมรับว่าไปช้ากว่าหลายๆประเทศมาก ทำให้แต่เดิมเราใช้มาตรฐานของที่โน่นที่นี่มั่วไปหมด โดยมาตรฐานปลั๊ก ที่เป็นของเราเองเพิ่งประกาศมาใช้ได้ไม่นานครับ และได้บังคับใช้ช่วงหนึ่งแต่มีผู้ผลิตหลายรายออกมาร้องเรียนว่ายังไม่พร้อมทำให้มาตรฐานต้องชะลอ ผลการบังคับออกไป โดยตอนนี้จึงบังคับเฉพาะกับเครื่องใช้ไฟฟ้าบางประเภทเท่านั้นครับ... มาตรฐานหัวปลั๊กในโลกมีเยอะเหมือนกันครับ... ส่วนปัญหาการหลวมของการเสียบเกิดได้หลายสาเหตุครับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นที่ ตัวเต้ารับเองมากกว่าครับ เต้ารับในบ้านเรามาตรฐานยังไม่ได้บังคับ ดังนั้นบางทีก็จะเห็นเต้ารับที่ใช้วัสดุหลายรูปแบบ โดยบางครั้งก็ใช้เหล้กเป็นหน้าสัมผัส ซึ่งความยืดหยุ่นต่ำ เวลาเสียบเข้าออกบ่อยๆ ก็จะหลวมง่ายครับ (โดยเฉพาะปลั๊กพ่วง) ซึ่งส่วนใหญ่ที่ดีหน่อยจะใช้ทองเหลืองครับ (แต่ทองเหลืองเองก็ยังคงมีหลายเกรดครับ) และบางสาเหตุอาจเกิดจากตัวเต้าเสียบเองที่มีขนาดมาตรฐานไม่เหมือนกันครับ บางครั้งเต้าเสียบหน้าตาเหมือนกันก็ขนาดขาไม่เท่ากันอาจทำให้หลวมได้ครับ ^^ รณรงค์ใช้ของตามมาตรฐานดีกว่าครับ ^_^ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 20:47:39 จากคุณ : tap เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 20:44:38

ความคิดเห็นที่ 23 ข้อดีของมาตรฐานคือ มีให้เลือก จากคุณ : หมูกระแทก เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 21:12:05

ความคิดเห็นที่ 24 ผมติดเต้าแบบ F หมดครับ ได้ใช้ไม่ได้ใช้ ไม่สน มี ไม่ได้ใช้ ดีกว่า จะใช้ ดันไม่มี ตอนน้ผหมดกังวล ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรมา ผมเสียบได้หมด ไม่ต้องแปลง ตั้งแต่จีน ไทย ยัน ยุโรป หรือเมกา 555 จากคุณ : Sifer2002 เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 21:14:04

ความคิดเห็นที่ 25 มาตรฐานปลั๊กไฟ 2 ขา หรือ 3 ขา ไม่สำคัญเท่าความเข้าใจและการเลือกใช้ แบบ 2 ขา หรือ 3 ขาให้ถูกต้อง เมื่อไหร่ควรเลือกใช้แบบ 3 ขา แล้วทำไมปลั๊กไฟตัวผู้ของเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดถึงมี 2 ขา บางชนิดถึงมี 3 ขา แล้วถ้าเราหักปลั๊ก 3 ขา ให้เหลือ 2 ขา เพื่อให้เสียบได้นั้น มีผลอย่างไร ควรทำหรือไม่ ระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้าในบ้านเราที่จ่ายเข้าตามครัวเรือนเป็นขนาด 220V (โวลต์) ซึ่งขนาดแรงดันขนาดนี้ถ้าวิ่งเข้าตัวเรา ทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ในเวลาไม่กี่วินาที ปกติการจ่ายแรงดันออกมาจะใช้แค่ 2 สาย คือสาย Line กับสาย Neutral ถ้าเราเอามือจับสายไฟ 2 เส้นนี้ หรือเอานิ้ว 2 นิ้วแหย่ไปในปลั๊กไฟจะถูกไฟดูดโดยตรงคือกระแสไฟฟ้าจะวิ่งครบวงจรโดยผ่านตัวเราเต็ม ๆ แต่ยังมีอีกกรณีหนึ่ง ที่เราอาจถูกไฟดูดได้ ถึงแม้ว่าเราจะสัมผัสสายไฟ 220V แค่เส้นเดียว หรือแหย่นิ้วเข้าไปแค่รูเดียว ก็เนื่องจากพื้นดินเป็นตัวนำไฟฟ้าได้ หมายความว่ากระแสไฟฟ้าสามารถวิ่งครบวงจรโดยไม่ผ่านสาย Neutral ก็ได้ แต่จะผ่านทางพื้นดินแทน ในกรณีนี้เราจะต้องสัมผัสกับสาย Line แค่เส้นเดียวแล้วเท้าหรืออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งสัมผัสกับพื้นดินหรือผนัง กำแพง โดยเฉพาะพื้นเปียก และไม่ได้สวมรองเท้า หมายความว่าถ้าเราสัมผัสโดนสาย Line ก็จะอาจโดนไฟดูดได้ แต่ถ้าสัมผัสโดนสาย Neutral ก็รอดตัวไป ปลั๊กไฟ 2 ขา คือสาย Line กับ สาย Neutral ลองยกตัวอย่างเมื่อถูกไฟดูดจากตู้เย็นซึ่งมีคอมเพรสเซอร์อยู่ ตัวคอมเพรสเซอร์เป็นโลหะและขันน๊อตยึดกับโครงตู้เย็นซึ่งเป็นโลหะ (เหล็กพ่นสีเคลือบ) โดยตรง เมื่อคอมเพรสเซอร์เกิดมีปัญหา เกิดการลัดวงจรภายในตัวมันเอง หรือเกิดการรั่วของกระแสไฟฟ้าออกมาที่ตัวมันเอง แรงดันไฟฟ้าก็จะเกิดไปทั่วโครงตู้เย็น เมื่อรับจับตู้เย็นหรือเปิดตู้เย็น ก็จะถูกไฟดูดได้ ตามรูปที่ 1 คือกระแสไฟก็จะไหลผ่านจากตัวคอมเพรสเซอร์ ไปยังโครงตู้เย็น แล้วก็ผ่านตัวเรา ลงพื้นดินได้ เช่นเดียวกับที่เราสัมผัส สาย Line เพียงเส้นเดียว เพียงแต่ระดับแรงดันอาจไม่สูงถึง 220V อาจจะน้อยกว่าขึ้นอยู่กับระดับการรั่วในตัวคอมเพรสเซอร์ แต่ก็เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ คราวนี้ ถ้าเรามีสายดินเพิ่มเข้ามา หรือใช้ปลั๊ก 3 ขา (มีสายดินจริง ๆ) ซึ่งสายไฟเส้นที่ 3 หรือสายดินนี้จะขันน๊อตยึดเข้ากับโครงตู้เย็น ตามรูปที่ 2 กระแสไฟฟ้าก็จะวิ่งโดยตรงไปเข้าสายดินแทน แทนที่จะผ่านตัวเรา ก็เนื่องจากทางเดินของกระแสไฟฟ้าจากคอมเพรสเซอร์ผ่านโครงตู้เย็นไปยังสายดินนั้นมันมีความต้านทานต่ำมากๆ หรือแทบไม่มีเลย  เราจึงไม่ถูกไฟดูด แต่กระแสไฟก็ยังรั่วอยู่ดีหรือยังเปลืองไฟอยู่ดี ดังนั้นสายดินจึงมีประโยชน์ด้วยเหตุผลนี้     ถ้าสังเกตุให้ดี เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีโครงสร้างภายนอกเป็นโลหะ หรือร่างกายเรามีโอกาสสัมผัสโดนโครงโลหะได้ จะมีปลั๊กเสียบที่เป็น 3 ขา เช่นตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องทำน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน (ซึ่งอาจรั่วผ่านกระแสน้ำได้) สายดินจริง ๆ จะต้องต่อเข้ากับแท่งทองแดงความยาวประมาณ 2 เมตร และฝังลงดินโดยปลายหมุดส่วนหัวต้องจมลงดินประมาณ 1 เมตร ซึ่งบางบ้านอาจจะไม่มีเพราะควรจะทำตอนก่อสร้างบ้าน แต่ในปัจจุบันส่วนใหญ่ก็จะมีเนื่องจากการไฟฟ้าบังคับ ยังมีในส่วนของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีโครงสร้างการรั่วออกมาตลอดเวลา(ประมาณ 110V) ถ้าไม่ได้ต่อสายดิน เลยอาจถูกไฟดูดกันบ่อย ๆ  ถ่ามีเวลาจะมาเล่าให้ฟังต่อครับ จากคุณ : ของน้อยที่สำคัญมาก เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 23:10:36

ความคิดเห็นที่ 26 รูปประกอบครับ จากคุณ : ของน้อยที่สำคัญมาก เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 23:15:46

ความคิดเห็นที่ 27 ชอบ Type F หรือ Type E/F hybrid มากครับ เวลาเสียบแล้วดูมั่นคงดี เพราะว่ามันเสียบเข้าไปในเบ้าเลย และถ้าจำเป็นต้องเสียบกับเบ้าทั่วไป ก็สามารถเสียบได้ แต่ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่จะทำเบ้าเพื่อรองรับ Type B จากคุณ : ben_benz เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 03:01:00

ความคิดเห็นที่ 28 มองอย่างเป็นกลาง  อย่าเข้าข้างตัวเองสิ ต้องยอมรับว่าระบบ 2 สาย ของบ้านคุณมันเสี่ยงตาย  คุณอย่าพยายามมองมันว่าคุณถูก โดยยกเหตุผลที่เข้าข้างตัวเองมาประกอบเลย ถ้าบ้านคุณใช้ระบบ 2 สายอยู่  ก็แค่ซื้อ safe t cut มาติดเพิ่ม 4500 บาท แล้วก็ติดแบบปุ่มเทา ตามปั๊มน้ำ เครื่องน้ำอุ่นอีก  มั่นใจสองต่อ จากคุณ : ตุ๊ดตู่ โอ้เย เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 09:53:20

ความคิดเห็นที่ 29 เมืองไทยเปิดกว้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า นำเข้ามาเยอะจากทุกประเทศ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นปลั๊กแบบไหน เขาก็มีหัวแปลงขายอยู่ จากคุณ : ตุ๊ดตู่ โอ้เย เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 09:54:20

ความคิดเห็นที่ 30   สังเกตุกันหรือไม่ เดี๋ยวนี้มีรุ่นใหม่เพิ่มมาอีก 1 รุ่น คือแบบแบนแต่ข้างหนึ่งใหญ่ข้างหนึ่งเล็ก คือปลั๊กอะไรเวลาเสียบจะเสียบไม่ได้ต้องเอาตะไบถูออกจึงเสียได้ ที่พบเป็นปลั๊กประเภทเครื่องเสียง จะเป็นประเภทบังคับให้เสียบเฉพาะด้านใช่หรือไม่ แล้วเต้าเสียบใช้ประเภทไหน จากคุณ : ผ่านมา เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 21:33:56 A:125.26.10.19 X: TicketID:168198

ความคิดเห็นที่ 31 ^ ^ ดูจากรูปใน คคห. 3 แถวบนสุดเป็นของพานาโซนิค เต้ารับส่วนแบนจะมีรูใหญ่เล็กไม่เท่ากัน ขาเล็กเป็น Line ขาใหญ่เป็น Neutral ครับ จากคุณ : นายสันทัด เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 23:07:58

ความคิดเห็นที่ 32 ตอบ คห. 30 แบบดังกล่าวน่าจะเป็น Type A NEMA 1 ครับ ใช้ในอเมริกาเหนือ http://en.wikipedia.org/wiki/NEMA_connector#NEMA_1 แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 53 01:21:22 จากคุณ : FoxUnit เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 01:18:40

ความคิดเห็นที่ 33 หัวปลั๊ก จากคุณ : FoxUnit เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 01:22:28

ความคิดเห็นที่ 34 รูเสียบ จากคุณ : FoxUnit เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 01:22:44

ความคิดเห็นที่ 35   ขอบคุณ คุณ FoxUnit ที่ให้ความรู้ใหม่ๆ หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับหลายๆท่านที่ยังไม่รู้ จากคุณ : ผ่านมา เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 20:54:36 A:125.26.13.26 X: TicketID:168198