ความคิดเห็นที่ 1 โห เยอะมาก ตาลาย T^T เอาเท่าที่พอจะอธิบายเป็นละกัน ก่อนตอบ ขอทำความเข้่าใจก่อน HiDef คือ การแสดงของภาพ ที่ความละเอียด 1280x720 ขึ้นไป Full HD คือ 1920x1080p i = interlatc p = progressive resolution คือ ความละเอียดของภาพ ืnative res คือ ความละเอียดของภาพที่แสดงได้จริง ไม่มีการ อัพ หรือ ดสว์ สเกลให้แสดงผลได้ 1. อนาคตอะไรก็เกิดขึ้นได้ อาจมีฟอร์แม็ตใหม่ๆ มาแทนที่ หรือ อาจจะพัฒนา DVD ใ้หมีความจุสูงๆ มาแข่งกับ BD ก็ได้ ซื้อตอนนี้ ได้ดูตอนนี้ อย่าเผื่ออนาคตมากนัก 2. 2.1 ทีวีกับ lcd นั้น แตกต่างกันอย่างไร ทั้งคุณภาพและราคา      ต่างกันที่เส้นและความละเอียดในการแสดงผล      ทีวีสีเดิมๆ ความละเอียดการแสดงผลมันต่ำ เหมาะกับการส่งสัญญาณภาพแบบเก่า ( ความละเอียดของภาพต่ำ )      LCD หรือ Plasma มีความละเอียดของการแสดงผลภาพที่สูงกว่าทีวีเดิมๆ จึงเหมาะกับตัวหนังที่มีความละเอียดของภาพสูงๆ 2.2 ความคมชัดของ lcd และ hdmi นั้น ต่างกันรึไม่     คนละเรื่องเลย     LCD คือ เทคโนโลยีในการทำทีวี     HDMI คือ เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อ ( เป็นพอร์ตเชื่อมต่อหนึ่ง เช่นเดียวกับ VGA port,Com port, USB port, component port, AV port ฯลฯ ) 2.3 และถ้าเทียบกับ lcd , hdmi และ fullhd หละ ต่างกันยังไง     คำตอบอย่างข้างบน คนละเรื่อง เทียบกันไม่ได้ 2,4 ถ้าเปิดเครื่องเล่นบลูเรย์กับ tv lcd ธรรมดา กับ tv fullhd ในความกว่างราวๆ 22 นิ้ว จะแตกต่างกันมากไหม     ต่างกันไม่มาก อาจมองไม่ออก ว่าอันไหนดีกว่า ( ในเรื่องของความคมชัดของภาพ ) 2.5 จำเป็นรึไม่ถ้าจะดูหนังบลูเรย์ ทีวีต้อง 40 นิ้วขึ้นไป     ไม่จำเป็น อยากดูที่จอเท่าไหร่ก็ตามสบาย จากคุณ : Sifer2002 เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 12:54:18

ความคิดเห็นที่ 2 3. เกี่ยวกับเสียงของแผ่นบลูเรย์ จากที่ผมดูใน dvd ของดิสนีย์ ที่แนะนำแผ่นบลูเรย์ เขาบอกว่าเสียงของแผ่นบลูย์สูงกว่าแผ่น dvd ปกติมากซึ่งทำให้ผมคิดว่ีา ิมันคงจะสมจริงราวกับเสียงในโรงภาพยนต์     เสียงของ BD เป็นสูงที่มีความละเอียดสูง สมจริงมากขึ้น     ขอยกตัวอย่างเสียงง่ายๆ คือ เสียงจากเพลง MP3 กับ เสียงจากแผ่น CD แท้ๆ ที่ไม่ผ่านการบีบอัด ย่อมต่างกัน ดังนั้น เสียง DTS ธรรมดา ย่อมต่างจาก พวก เสียง HD 3.1 เสียงของบลูเรย์จะชัดกับลำโพงทุกรุี่นไหม หรือแค่บางรุ่นเท่านั้น     อยู่ที่เครืื่องเล่น ถ้าส่ง analog ก็เล่นได้ แต่เสียงอาจถูกดาวน์เหลือแค่ standard ทั่วไป อย่าง DTS-HD อาจถูกดร็อบเหลือแค่ DTS 3.2 อย่างที่ผมบอก ห้องผมเล็กมาก (มินิโฮมเธียเตอร์ยังไม่มี) ถ้าผมต้องการวางลำโพงมินิเธียเตอร์ 4 ตัวตามมุมห้อง แนะนำรุ่นที่เหมาะสมกับห้องนอนผมทีครับ     อันนี้บอกลำบาก ต้องไปหาฟังกันเอง หูใครหูมัน 4. เกี่ยวกับเครื่องเล่นบลูเรย์ อย่้าง ที่ผมบอกว่า ห้องนอนผมเล็ก และมีงบไม่เยอะ เลยมองหาเครื่องเล่นบลูเรย์ทีีราคาถูกๆและสามารถเอาเงินจากยาจกอย่างผมซื้อ ได้ ทีนี้มีคนบอกว่า เครืองเล่นบลูเรย์ราคาูถูกๆ มันไม่มั  dts hd มีแต่dolby true hd เลยอยากถามว่า 4.1  dts hd คือเสียงยังไง และ dolby true hd แตกต่างกัีนยังไง       เป็นระบบของเสียง ต่างกันยังไง ก็เหมือนกับที่ DTS ต่างจาก  Dolby นั่นแหละ ขนาดของไฟล์เสียงก็ต่างกัน ต้องไปหาเพิ่มเติม อธิบายยากและยาว 4.2  เอาคุณภาพเทียบกับ dvd ตัว  dts hd นั้นสูงกว่าไหม      สูงกว่าพอสมควร 4.3  เอาตามความเหมาะสมของขนาดห้องนอนผมที่เล็ก  dts hd เพียงพอรึไม่       แล้วแต่ชอบครับห้องเล็กห้องใหญ่ไม่เกี่ยง 4.4 ถ้าเพียงพอ หรือไม่ยังไง ช่วยแนะนำรุ่นเครื่องเล่นบลูเรย์ที้ถูกๆและดีๆให้ผมที และรบกวนบอกด้วยนะครับว่ามีขายที่ไหนบ้างใน กทม.     PS3 ครับแหล่ม หมื่นกว่าๆ 4.5 ถ้าเอา dvd มาเล่ีนกับเครื่องเล่นบลูเรย์ คุณภาพจะดีกว่าเดิมยังไง ทั้งเสียงและภาพ หรือว่าขึ้นอยู่กับทีวีอีก ?      เท่าเดิมกับที่เล่นจากเครื่อง DVD ( ข้อแม้ว่าไม่มีการอัพเสกล ) เพราะ ตัวหนังมันถูกบีบอัดมา รายละเอียดได้ตามมาตรฐาน DVD แค่นั้น จากคุณ : Sifer2002 เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 13:01:21

ความคิดเห็นที่ 3 5. การอ่านบลูเรย์กับคอม มีคนบอกว่า ถ้าคอมเราเล่นบลูเรย์ มันจะคมชัดมาก จนแทบทิ้ง dvd ไปเลย แต่ผมสงสัยอย่างว่า ถ้าผมต่อพ่วงบลูเรย์กับอุปกรณ์คอมแทนหละ    ที่เขาบอก น่าจะเป็นไฟล์ MKV ที่ริบจาก BD ด้วยล่ะมั้ง ( ดูแล้วก็อยากเขี้ยง DVD ทิ้งจริงๆ อ่ะแหละ 555 ) 5.1 เครื่องเล่นบลูเรย์ มีตัวพ่วงสาย fullhd กับหัวเสียบ lcd จอคอมไหม      มี แล้วแต่ว่าเป็นอะไร มีสายแปลงเยอะแยะ อาจเป็น HDMI หรือ DVI ก็ได้ 5.2 ถ้าทำได้ คุณภาพจะขึ้นกับจอ lcd จอคอมเรา ใช่รึไม่      ใช่ ขึ้นกับ Native Res ของจอ 5.3 ไดรฟ์เวอร์ dvd ทีอ่านบลูเรย์ได้ ขณะนี้ราคาเท่าไหร่แล้ว      แบบ combo 5000 กว่าๆ ขึ้นไป      แบบ ไรท์เตอร์ หลักหมื่น 5.4 ถ้าข้อ 5.1 ได้ ตอนนี้จอ lcd จอคอม มีความกว้างเกิน 22 นิ้วไหม ราคาเท่าไหร่     มีถึง 26 นิ้ว แ่ต่ถ้าจะเอาไปดูหนัง ซื้อ LCD TV ไปเหอะ 6. คำถามสุดท้าย แผ่นหนังบลูเรย์ 6.1 เฉลี่ย ของมือหนึ่ง แผ่นหนังบลูเรย์ราคาเท่าไหร่ (ไม่ต้องการซื้อของมือสอง)    ประมาณ 1200 บาท 6.2 แผ่นหนังบลูเรย์ เท่าที่เห็นๆจะมี 2 แผ่น มันเหมือนกับ dvd ชุดพิเศษรึเปล่า   แล้วแต่เรื่องว่าจะทำไหม 6.3 ตอนนี้หนังแทบทุกเรื่องทำเป็นบลูเรย์หมดแล้วใช่ไหม ?   แค่ส่วนใหญ่ เกินกว่า 50% ที่ทำเป็น BD แล้ว   ที่สำคัญกว่าคือ มีซับไทยไม่ถึงครึ่ง ยกเว้นหนังที่ออกใหม่ๆ ถึงจะมีซับไทยให้ ( บางเรื่องก็จะมีเสียงไทยด้วย ) หนังเก่าๆ ที่ออกมานนานแล้ว หาํซับไทยยาก แนะนำหาความรู้เพิ่มเติมที่ http://www.thaidvd.net จากคุณ : Sifer2002 เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 13:10:28

ความคิดเห็นที่ 4 ยาวจริงๆครับ แต่ตอบแบบที่ผมคิดละกัน อาจจะไ่ม่ค่อยตรงกะที่ถามเท่าไหร่ แหะๆ ผมว่าตอนนี้ยังไม่น่าเล่นบลูเรย์ครับ เพราะ ราคาแผ่นที่สูงเกินไป เพื่อนผมหลายคนเล่น Hidef ด้วย HTPC คือ ใช้คอมพ์ ต่อกับ ทีวีครับ ใช้ฮาร์ดดิสใหญ่ๆหน่อย แล้วโหลดหนังจากบิท เอา ลงทุนเริ่มต้นแพงกว่า (คอมพ์แพงกว่า เครื่องเล่นบลูเรย์) แต่ระยะยาวถูกกว่าเพราะไม่ต้องเสียค่าแผ่น แถมคอมพ์ยังใช้งานได้หลากหลายกว่า เครื่องเล่นบลูเรย์มาก กว่าแผ่นจะลงมาอยู่ในระดับถูก คงอีกหลายปีอยู่ครับ ถึงตอนนั้นเครื่องเล่นเอย ทีวีเอย ราคาคงลงมาอีกเยอะ (ราคาเครื่อง DVD ก็เคยอยู่แถวๆ 5-6 พัน (จริงๆออกใหม่ๆจำได้ว่า 40 000) แต่ตอนนี้เหลือแค่หลักร้อย) ถามว่าถ้าคุณซื้อนั้นนี่เตรียมไว้ตั้งแต่วันนี้ แล้ววันนี้คุณจะเอาหนังบลูเรย์ที่ไหนมาดูครับ? ซื้อแค่ 5-6 เรื่อง ค่าแผ่นก็แซงค่าเครื่องแล้วมั๊ง ถ้าคำตอบคือ เตรียมไว้ก่อน อีก 5 ปีจะได้ไม่ต้องซื้อใหม่ ถ้างั้น อีก 5 ปีค่อยซื้อดีกว่าครับ เพราะราคาคงถูกกว่านี้อีกเยอะ เครื่องเล่นอาจเหลือเครื่องละ พันบาท ก็ได้ จอ 42 นิ้ว อาจเหลือแค่ไม่ถึงหมื่น (ตอนนี้พลาสม่า 42 นิ้วก็แค่หมื่นปลายๆเอง 2 ปีก่อน ราคาหลายหมื่น) คิดง่ายๆ ถ้าซื้อ DVD วันนี้ 2xxx บาท อีก 5 ปี ซื้อเครื่องเล่น บลูเรย์ อีก 2xxx บาท ก็เท่ากับว่า คุณจ่ายประมาณ 5-6000 บาท (พอๆกะซื้อบลูเรย์ที่ถูกที่สุดตอนนี้) แต่อีก 5 ปี คุณจะได้เครื่องเล่นบลูเรย์ที่ดีกว่า ใหม่กว่า ซื้อวันนี้แน่ๆ ของพวกนี้ ยิ่งซื้อช้า ยิ่งได้ของดี ยิ่งได้ของถูก ( 5 ปี เป็นตัวเลขสมมุตินะครับ จริงๆอาจจะแค่ 2-3 ปีก็ได้ เด๋วนี้เทคโนโลยีมันไปไวครับ) อ่อ ผมว่า ห้องชายคา โดยเฉพาะเรื่องทีวีเนี๊ยะ ไม่ค่อยมีคนตอบเลยครับ ยังดี ยังมีท่าน Sifer2002 ช่วยตอบหลายๆกระทู้ให้ดูคึกคักบ้าง ^^ ถ้าจะคุยเรื่องทีวี ไปที่บอร์ด thaidvd.net ที่คุณ Sifer2002 แนะนำอะครับ http://forum.thaidvd.net/index.php?s=b569b45c132880a83d8ba8253581830e&showforum=22 ผมว่าคนตอบมีเยอะกว่านี้เยอะเลย อ่อ ค้นกระทู้เก่าๆอ่านก่อนก็ได้ มีทั้งรีวิว มีทั้งคอมเมนต์เพียบครับ แถมกระทู้ไม่ตกเร็ว เพราะมันเรียงกระทู้ตามเวลาที่มีคนตอบ ไม่ได้เรียงตามเวลาที่มีคนตั้งกระทู้ ลองดูครับ ปล ตอนนี้เทรนทีวีใหม่ๆ จะไปทาง 3D แล้วนะครับ ทั้ง พานา โซนี ซัมซุง พาเรดกันออกทีวี 3มิติกันเป็นแถวๆ ทั้งเครื่องเล่นด้วย เห็น โซนี่ว่าจะเอาหนังเก่าๆที่มีอยู่ในมือ มาโมเป็น 3 มิติขายอีก ไอ้ บลูเรย์ที่ว่าสุดยอดๆ อาจจะยอดอยู่ได้อีกไม่กี่เดือนก็ได้นะครับ อิอิ แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 53 13:59:19 จากคุณ : ดาวเหิน เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 13:54:42

ความคิดเห็นที่ 5 PANASONIC จัดแถลงข่าวประกาศราคาทีวีพลาสม่าสามมิติ VIERA ซีรีส์ VT2 ทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ TH-P54VT2 และ TH-P50VT2 โดยทั้งสองรุ่นมีขนาด 54 นิ้วและ 50 นิ้วตามลำดับ ความละเอียดระดับ Full HD 1920 x 1080 คอนทราสต์เรโช 5,00,000:1 HDMI 4 ช่อง มี built-in ลำโพงและซับวูฟเฟอร์ 2.1 แชนแนล และที่ขาดไม่ได้คือแว่นไว้สำหรับดูภาพแบบสามมิติ โดยจะวางขายที่ดินแดนบ้านเกิดเป็นที่แรกวันที่ 23 เมษานี้ ราคา TH-P54VT2 อยู่ที่ประมาณ 195,000 บาท และ TH-P50VT2 ประมาณ 160,000 บาท http://www.lcdtvthailand.com/review/detail.asp?param_id=354 ซัมซุงเปิดพรีออเดอร์ C7000 ใน Amazon เรียบร้อยแล้วค่ะ โดยมีกำหนดส่งของวันที่ 16 เม.ย. นี้ (ก่อนกำหนดการวางตลาดของพลาสม่าสามมิติจากพานาโซนิคอยู่ 1 อาทิตย์) ขนาด 40” ราคาประมาณ 67,000 บาท 46” ราคาประมาณ 87,000 และขนาด 55” ประมาณ 110,000 บาท http://www.lcdtvthailand.com/review/detail.asp?param_id=355 ที่เอาข่าวมาให้ดู ไม่ใช่ว่าจะแนะนำให้ซื้อ แต่ให้ดูเทรนเฉยๆ ไอ้พวกทีวี ฟูล เอชดี ออกใหม่ๆเป็นแสนเหมือนกัน ปี สองปี ราคาลงมาจนจับต้องได้แล้ว 3D นี่อีกซัก 2 ปีก็คงไม่ต่างกันหรอกผมว่า จากคุณ : ดาวเหิน เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 14:04:20

ความคิดเห็นที่ 6 ตอบเท่าที่ผมทราบนะครับ ผิดถูกประการใด รอท่านอื่นมาแย้งและช่วยแก้ไข 1. Blu-ray มาแทนที่ DVD แน่นอนครับ เนื่องจากความจุของ DVD มาถึงทางตันแล้ว เพื่อให้ภาพยนต์ปัจจุบัน ที่อัด Graphic มาเต็มเหยียด สามารถแสดงผลได้เต็มที่ ก็ต้องใช้ Blu-ray แน่นอน ลองนึกเทียบกับรูปภาพ JPEG ดูครับ รูปเดียวกัน ที่ความละเอียด 10MB กับที่ย่อเหลือ 1MB อันไหนคุณภาพดีกว่า และแน่นอน รูปที่ความละเอียดมากกว่าก็ต้องการพื้นที่เก็บมากกว่าครับ 2. ผมว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องดึงประสิทธิภาพหรอกครับ มันอยู่ที่ว่า คุณซื้อเครื่องเล่น Blu-ray มา แต่เอามาต่อกับ TV ที่ไม่รองรับ FullHD (1080p) มันเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าครับ เพราะเครื่องเล่น ปล่อยสัญญาณภาพมาที่ความละเอียด FullHD แต่ทีวีไม่รองรับ ก็ต้องมาลด ความละเอียดลงเหลือ HD (720p) อยู่ดี ซึ่งแบบนั้นใช้แค่ DVD บวกกับช่องต่อ Component ก็พอครับ ทีวีของ LG ที่คุณว่าถ้าเป็นรุ่น 22LU50FR รองรับ FullHD ครับ แต่ถ้าเป็นรุ่น 22LH20R จะเป็นแค่ HD Ready ซึ่งจอภาพที่ขนาดต่ำกว่า 32" จะ FullHD หรือไม่ แทบไม่เห็นความแตกต่างหรอกครับ ถ้าไม่เข้าไปดูจนชิดหน้าจอ ส่วนการรับ Blu-ray ได้-ไม่ได้ นั้น ทีวีรุ่นไหน จะจอแก้ว/จอขาวดำ/จอ LCD มันก็รับ Blu-ray ได้ครับ ขอให้เครื่องเล่น Blu-ray มันมีช่องต่อไปเข้า TV ได้ มันก็แสดงภาพได้ครับ แต่คุณภาพไม่เท่ากันแน่นอน ขนาดของจอภาพนั้น ถ้านั่งห่างทีวีซัก 1.5เมตร ซื้อ LCD 32" จะดีกว่านะครับ อย่าลืมว่า LCD มันมีอัตราส่วน 16:9 ดังนั้น LCD 32" เวลาดูหนังแล้วภาพจะพอๆ หรือเล็กว่าทีวีจอแก้ว 29" นะครับ #2.1 ต่างกันแน่นอนครับ เพราะเทคโนโลยีคนละอย่าง มีข้อดี ข้อเสียกันคนละจุด ราคาก็ต่างกันอย่างที่เห็นๆ ลองหาข้อมูลจาก google ดูครับ มีข้อมูลเยอะแยะ ตัวอย่าง http://hitech.sanook.com/computer/news_07381.php #2.2, 2.3 คนละเรื่องกันครับ LCD คือจอแสดงผล HDMI คือช่องเชื่อมต่อ LCD อาจจะไม่มีช่องต่อ HDMI ก็เป็นได้ (แต่ปัจจุบัน คิดว่าไม่มีนะครับ เหอๆ) Full HD, HD Ready เป็นระดับความละเอียดของจอภาพครับ Full HD แสดงผลที่ 1920 x 1080 pixel = 2,073,600 จุด (native resolution) HD Ready แสดงผลที่ 1366x768 pixel = 1,049,088 จุด (native resolution) ก็อีกนั้นแหละ LCD มีทั้งแบบ Full HD หรือ HD Ready #2.4 ถ้าเทียบระหว่างจอ LCD 22"  HD Ready กับ Full HD โดยต่อผ่านช่อง Component หรือ HDMI ผมว่าไม่ต่างกันครับ แต่ถ้าเทียบจอ TV ธรรมดา และต่อผ่านช่อง AV กับจอ LCD 22" Full HD ต่อผ่าน HDMI ยังไง ก็ต่างกันชัดเจนแน่นอนครับ #2.5 ขึ้นอยู่กับระยะห่างระหว่างที่นั่งกับจอทีวีครับ เช่น 1-2 เมตร  ที่เหมาะสม 22"-26" 1.5-3 เมตร ที่เหมาะสม 32" 2-4 เมตร ที่เหมาะสม 40"-42" แก้ไขคำผิด แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 53 14:46:47 จากคุณ : maxmobius เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 14:45:43

ความคิดเห็นที่ 7 3. Blu-ray เก็บข้อมูลได้มากกว่า DVD เพราะฉะนั้นก็ต้องเก็บเสียงคุณภาพสูงกว่า DVD แน่นอน #3.1 ขึ้นอยู่กับลำโพงของคุณแน่นอนครับ ไม่งั้นโรงหนัง เขาซื้อลำโพงตามบ้านหม้อตัวละ 2-300 มาติดก็ได้สิครับ #3.2 สอบถามตามร้านเครื่องเสียงเลยครับ เขาแนะนำคุณได้แน่นอน ที่สำคัญได้ลองฟังเสียงด้วย #4.1 แค่คนละมาตรฐาน คนละค่ายครับ #4.2 สูงกว่าแน่นอน #4.3 ตามคุณ Sifer2002 ว่าไว้ครับ ไม่เกี่ยวกับขนาดห้อง #4.4 ถ้าชอบเล่นเกมส์ด้วย ก็ PS3 เช่นกัน แต่ถ้าไม่เล่นเกมส์ แล้วอยากได้ถูกๆ ก็ต้องไปเดินดูที่คลองถมครับ #4.5 เท่าเดิม ไม่แตกต่าง 5 ผมว่าไม่ต่างกันนะ เพราะจอของเครื่องคอม ก็รองรับความละเอียดสูงสุดที่ Full HD เหมือนกัน แต่ถ้าเทียบกับ DVD ยังไงก็ต่างแน่นอน #5.1 ถ้าจอคอม มีช่องต่อแบบ HDMI หรือ DVI ก็ต่อกับเครื่องเล่น Blu-ray ได้แหละครับ #5.2 ใช่ครับ #5.3 ไม่เข้าใจคำถาม #5.4 มีครับ เห็นมี 27" ราคาอยู่ที่ประมาณหมื่นต้นๆ #6.1 เท่าที่ผมเห็นประมาณ 900-1000 นะครับ #6.2 แล้วแต่เรื่อง เหมือน DVD #6.3 ไม่ครับ แค่ส่วนใหญ่ตามที่คุณ Sifer2002 บอกเลยครับ จากคุณ : maxmobius เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 15:18:03

ความคิดเห็นที่ 8 1. ในอนาคต บลูเรย์จะสามารถแทนที่ DVD ได้ไหม ซึ่งผมคาดว่าได้ เพราะแต่ก่อน VCD ยังแทน VDO ได้ และ DVD ยังแทน VCD ได้ มีชาวเฉลิมไทยหลายคนบอกว่า ในอนาคต แผ่นบลูเรย์จะมีราคาถูกลงด้วย ผมเลยคิดที่จะซื้อเครื่องเล่นบลูเรย์มาล่วงหน้า เำื่พื่อรองรับการซืิ้อแผ่นบลูเรย์ทืี่จะมีราคาถูกลงมาดูแทน DVD  เพราะถ้าผมซื้อเครื่องเล่น dvd มาก่อน เกิดต่อไปบลูเรย์ถูกลงและอยากดู ผมก็ต้องควักเงินซื้ออยู่ดี สู้ซื้อทีเดียวไปไม่ดีกว่าเหรอ -ตอนนี้VCD ยังไม่หายไปไหนเลยนะจ๊ะ ยังเป็นformatหลักๆของประชากรส่วนใหญ่ของประเทศอยู่เลย  ทีวีจอแก้วยังเป็นทีวีหลักของคนส่วนใหญ่ แต่โอเคหาคุณภาพดีๆอย่างทีวีจอแก้ว8-9ปีก่อนคงไม่มี ส่วนDVD เข้าถึงง่ายขึ้นมากกว่า10ปีก่อน เนื่องจากราคาถูกลงเยอะเพราะต้องมาสู้กับแผ่นเถื่อน ดังนั้นDVDเอง ก็เพิ่งมาโตในระดับmassก็ช่วงเวลาประมาณนี้เอง   บลูเรย์ ก็คงอีกนานนนนมากกว่าจะเป็นformatที่มาแทนDVD ประชากรส่วนใหญ่ โดยมากมักจะสนใจที่เนื้อหามากกว่าความคมชัด ดังนั้น คุณภาพแผ่นระดับแค่vcd แต่หาง่าย ราคถูก ป๊มง่ายไรท์ง่าย เขาก็โอเคกันแล้ว สมัยก่อน การที่vcdสามารถแทนที่ม้วนVDOเทปได้ จุดที่ได้เปรียบคือขนาดของแผ่นต่างหาก ที่เล็กลง สะดวก ง่ายในการจัดเก็บ ทั้งที่คุณภาพของภาพสู้VDO ไม่ได้เลย   ในยุคที่ม้วนวีดีโอเทปกำลังจะหายไป มีใครจำได้มั่งว่ามีสงครามformatระหว่างแผ่นlaser disc ที่ใหญ่เท่ากระด้ง แต่คุณภาพของภาพดีกว่าวีดีโอเทป) และแผ่นcompact disc ก็คือVCDนั่นแหละ  ผลก็คือVCDชนะ เนื่องจากเบากว่า เล็กกว่า ไม่ใช่เป็นเพราะชัดกว่าแต่อย่างใด ไม่นานมานี้ สงครามแผ่นhi-defระหว่างbluray กับHD-DVD ผลคือบลูเรย์ชนะ เพราะพันธมิตรเยอะกว่า ไม่ใช่เพราะชัดกว่าดีกว่าอีกนั่นแหละ แต่ตอนนี้formatทั้ง3แบบ คือ VCD,DVD,BD มีขนาดแผ่นเท่ากันเด๊ะ แบบว่าใส่ถาดเดียวกันได้เลย 3formatนี้คงอยู่คู่กันอีกนานในสัดส่วนราคาประมาณนี้แหละ จากคุณ : ฮิวเยียก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 20:46:22

ความคิดเห็นที่ 9 ส่วนคำถามข้อ2ขอตอบรวมๆละกันนะ ทีวีจอแบนบาง ไม่ว่าLCDหรือplasma ยิ่งขนาดโตขึ้น พิกเซลยิ่งถ่างออก ดังนั้น ถ้าเราทีขนาดโตๆ เช่นสี่สิบ-ห้าสิบนิ้ว มาดูแผ่นformatธรรมดาๆ เช่นvcd,dvd ภาพจะยิ่งถ่างออกแตกออกจนคุณภาพของภาพไม่ดี พูดง่ายๆก็ไม่ชัดน่ะแหละ ดังนั้นเราจึงต้องการแผ่นที่คุณภาพดีขึ้นก็คือHi-defอย่างบลูเรย์(1080p) หรือfileพวกMKV(720p)เป็นต้น เพื่อทำให้ดูหนังจากจอใหญ่ๆเหล่านี้ได้ชัดเจนละเอียดทุกรูขุมขน ถ้าคุณเอาทีวีจอเล็กๆมาดู เช่น22-32นิ้ว ทีวีเหล่านี้ไม่ได้ใหญ่มาก เม้ดพิกเซลมันชิดกันอยู่แล้ว ดังนั้นภาพไม่ถูกถ่างออกมาก การดูแผ่นมาตรฐานอย่างvcd,dvd ภาพมันก็ยังดีอยู่ เอาแผ่นไฮโซอย่างบลูเรย์มาเปิด ภาพก็อาจจะชัดกว่าdvdซักนิดหน่อย แต่ก็ไม่คุ้มค่าที่จะลงทุนบลูเรย์กับจอเล็กๆอย่างนี้   กลับกัน ทีวีที่ใหญ่ระดับ60-70นิ้ว แต่เป็นfull hd สองล้านพิกเซลเท่ากันกับจอ40-50นิ้ว แต่เม็ดพิกเซลก็ถ่างอีกแหละ ดังนั้นเปิดบลูเรย์กับจอเหล่านี้ ภาพก็จะสู้จอ40-50นิ้วไม่ได้เช่นกัน จากคุณ : ฮิวเยียก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 20:59:55

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนนี้ บลูเร ซื้อเครื่อง ยังหาแผ่นยากอยู่ดี เพราะแพง จอ 22 นิ้ว มันเล็กเกินกว่าจะเห็นประสิทธิภาพ ของบลูเร  เปิดมา ก็ ครือๆ กับ ดีวีดีน่ะแหละ ส่วน คำถาม ฮี่ๆๆ เยอะเกิน ตอบไม่ไหว จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 22:23:20

ความคิดเห็นที่ 11   สำหรับมือใหม่นะครับ แนะนำให้อ่านกระทู้นี้นะครับ มือใหม่ LCD TV ต้องอ่านเลยครับ จะได้เข้าใจ ไม่โดนหลอก http://www.lcdtvthailand.com/webboard/index.php?topic=1424.0 จากคุณ : Roman (rocky maivia) เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 23:34:02

ความคิดเห็นที่ 12   จขกท. หายหัวไปใหนแล้วละครับ เพื่อนๆ เสียสละเวลามาตอบคำ อันมากมายของคุณ แต่กลับไม่มาตอบรับแม้แต่นิดเดียว ------------------------------------- ผมว่าถ้าเปิด ภาพ Hi-def ด้วยจอขนาดเล็ก 22" กับเปิดด้วยแผ่น DVD ธรรมดา แม้บางท่านจะบอกว่า จอเล็กภาพไม่ต่างกันมาก  อันนี้ไม่น่าจะจริงนะครับ แม้จอเล็ก เม็ดพิกเซลชิดมากแยกไม่ออกก็จริง แต่สี และคอนทราส ต่างกันอย่างมากแน่นอน File Hi-def สี แดงเป็นแดง เขียวเป็นเขียว ฟ้าเป็นฟ้า แต่ DVD สีเพี้ยนไปเยอะ อันนี้ ลองจาก จอ LCD notebook 14" เปิดหนัง DVD .iso กับเปิดหนัง Hi-def 720p หรือ 1080p ภาพต่างกัน แบบเยอะเลยครับ ไม่ใช่ต่างกันนิดหน่อยแน่ๆ จากคุณ : x1000r/min. เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 12:03:18

ความคิดเห็นที่ 13 เก็บตังค์ไปก่อนนะเอาให้ได้ถึง 100,000 ระหว่งนั้นก็เปิดเว๊บหาความรู้เยอะๆ แล้วค่อยมาถามใหม่เด้อ สำหรับ lcd +บลูเรย์ +โฮมเที่ยเตอร์ จากคุณ : agios เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 14:17:11

ความคิดเห็นที่ 14   ค่อยซื้อก็ได้ เล่นบลูเรย์ตอนนี้ค่าแผ่นจะอ้วกเอา แถมเเอลอีดีทีวีสามมิติกำลังมาแล้วด้วย จากคุณ : คนขวางโลก เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 14:56:42 A:124.121.242.230 X: TicketID:189678

ความคิดเห็นที่ 15   ซื้อคอมฯคุ้มกว่านะ เล่นได้หมดเลย แผ่นก็ไม่ต้องซื้อ โหลดบิทเอา อิอิ จากคุณ : pollapat เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 53 09:09:15