PANTIP.COM : R9038146 กู้ 1.88 ล้านบาท ผ่อนตกเดือนละเท่าไหร่คะ 30 ปีค่ะ [ที่พักอาศัย]

ความคิดเห็นที่ 25

ถึง คห 24 เป็นธรรมดาในการวางแผนจำเป็นต้องคำนึงถึงด้านดีและด้านร้าย และจะเป็นการดีที่สุดหากสมมุติว่าระดับร้ายที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องเจอ ทั้งนี้เพื่อให้รับรู้ศักยภาพของตนเองว่าหากเจอภาวะร้ายๆเข้ามา จะรับผลกระทบนั้นได้มากน้อยแค่ไหน มีทางออกอื่นใดบ้าง ดังนั้นการที่ต้องเสนอคหในแง่ร้ายก็เพื่อให้หลายคนที่มองในแง่ดี ได้ฉุกคิดในแง่ร้ายไว้บ้าง เพราะทุกวันนี้ที่คนเป็นหนี้จนล้มละลาย บ้านช่องถูกยึดเพราะขาดส่งค่างวด เพราะมองศักยภาพในปัจจุบันของตนที่ยังเข้มแข็ง ไม่ได้เตรียมทางออกไว้ในกรณีที่วันร้ายคืนร้ายผ่านเข้ามา ทำให้ศักยภาพของตนเองหายไปดื้อๆ

เมื่อ คห 24 ยกตัวอย่างครอบครัวตนเองมาประกอบ ผมก็จะยกตัวอบ่างสภาพสังคมในปัจจุบันว่าเปลี่ยนไปจากเมื่อยี่สิบสามสิบปีก่อนอย่างไรบ้าง

สังคมเปลี่ยน ทุกอย่างเปลี่ยน ปัจจัยต่างๆก็เปลี่ยน แต่รายได้คนไทยไม่ค่อยจะเปลี่ยน !!!

กรณีเรื่องบ้าน ไม่ใช่บ้านทุกหลังที่ไม่สามารถผ่อนได้ และก็ไม่ใช่บ้านทุกหลังที่ผ่อนได้หมด ในภาวะปรกติผู้ผ่อนบ้านผ่อนรถมักจะมีกำลังผ่อน แต่เวลาเกิดเศรษฐกิจตกต่ำ (ซึ่งจะพบว่าในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมานี้เกิดถี่ขึ้นมาก แมใ้แต่อเมริกายังล้ม นั่นแสดงว่าระบบทุนนิยมก็มาถึงจุดวิกฤตเหมือนกันหากใช้เงินอย่างเดียวเป็นตัวผลักดันกลไก) ตัวกระทบแรกๆเมื่อเกิดปัญหาเศรษฐกิจเลยคืออสังหาริมทรัพย์ จะเห็นว่าแบงค์ยึดบ้านยึดรถได้มากจนไม่รู้จะปล่อยยังไง นั่นแสดงว่าคนซื้อบ้านจำนวนมากที่เคยคาดการณ์ว่าจะผ่อนบ้านได้ แต่เมื่อเศรษฐกิจมีปัญหา ก็ไม่้สามารถผ่อนบ้านต่อไปได้ ดังนั้นก่อนจะผ่อนบ้านนานๆก็ต้องพิจารณาว่ากำลังหลักในการผ่อนบ้านมีกี่คน และหากคนใดคนหนึ่งหรือเกินหนึ่งคนไม่มีรายได้จะผ่อนได้ แล้วคนที่เหลือจะรับภาระเพิ่มขึ้นได้หรือไม่ อย่าลืมว่าราคาบ้านในสมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่ราคาล้านต้นๆก็ถือว่าหรูมาก แต่ปัจจุบันราคาบ้านที่ถือว่าดีมักเริ่มที่สี่ล้านเข้าไปแล้ว ในขณะเงินเดือนเมื่อเทียบกับค่าครองชีพในปัจจุบันแทบจะไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย ดังนั้นภายใต้ระบบทุนนิยมที่ซับซ้อนขึ้นเท่าไร คุณต้องทำงานหนักขึ้นเท่านั้นเพื่อให้มีรายได้มากขึ้น สมัยก่อนเลิกงานกลับบ้านอยู่กับครอบครัว สมัยนี้เลิกงานยังต้องทำโอที หาอะไรมาทำไปเรื่อย ไม่งั้นไม่พอกิน ดังนั้นการผ่อนอะไรนานเกินไปจึงต้องถือว่าต้องแบกภาระความเสี่ยงสูงด้วยเช่นกัน จึงต้องพิจารณาให้ดี อย่าลืมว่าหากคุณมีหนี้สินตั้งแต่ช่วงวัยทำงาน คุณก็เสียโอกาสที่จะไปทำธุรกิจอื่นเพื่อยกระดับชีวิตไป เพราะทุนสะสมของคุณถูกเปลี่ยนไปเป็นเงินส่งค่างวดไปจนแทบจะหมดแล้ว จึงไม่เหลือพอจะไปลงทุนทำอะไรอีก!!!

เมื่อคุณอ้างว่าได้เข้าโรงเรียนดี เข้ามหาลัยดี ข้อเท็จจริงคือระบบการศึกษาในช่วงยี่สิบสามสิบปีก่อนเป็นเรื่องของการให้การศึกษา เด็กเข้าเรียนด้วยการสอบ ถ้าสอบไม่ได้หากรู้จักคนวงในก็บริจาคเงินให้โรงเรียนก็พอจะเข้าไปเรียนได้ แต่ปัจจุบันการศึกษากลายเป็นเรื่องของพาณิชย์ เป็นเรื่องของการลงทุน ผู้ปกครองแทบทุกคนเชื่อว่าหากลูกหลานได้เข้าโรงเรียนที่ดี อนาคตก็จะดี ดังนั้นจึงมีคนจำนวนมากที่พร้อมจะจ่ายเงินเพื่อให้ได้ที่นั่งเรียน ทำให้กลายเป็นช่องทางหารายได้เข้าโรงเรียน โรงเรียนชานเมืองยังต้องเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนดังแล้วเติมหมายเลขต่อท้าย ก็เพื่อยกระดับโรงเรียน และทำให้ที่นั่งในโรงเรียนมีราคาสูงขึ้น ทุกวันนี้แม้แต่ที่นั่งในระดับประถมในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงยังต้องซื้อที่นั่งกันเลย

ส่วนในระดับมหาวิทยาลัย ระบบเอ็นก็เปลี่ยนไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง การสอบเอ็นในปัจจุบันซับซ้อนขึ่้น ใช้เงินในการเข้าสอบมากขึ้น และมีโอกาสที่จะฝากเด็กเข้ามหาวิทยาลัยได้ง่ายขึ้นมาก ในสมัยก่อนลูกหลานอาจารย์ในมหาวิทยาลัยยังต้องสอบเข้าเป็นหลักเพราะระบบเอ็นไม่เปิดโอกาสให้ฝากเด็กเข้าไปได้ เพราะมีทบวงเป็นผู้จัดการสอบ ตรวจผลสอบ คนในมหาวิทยาลัยมีหน้าที่แค่ออกข้อสอบมาให้ทบวงเลือกข้อไปใช้สอบ เส้นไม่ใหญ่จริงฝากเด็กเข้ามหาลัยไม่ได้ เพราะต้องไปคุยกับอธิการบดีนั้นๆเป็นการเฉพาะตัว

ปัจจุบันนี้แม้แต่ในระดับมหาวิทยาลัยของรัฐชั้นนำของประเทศมีหลายคณะที่เปิดโอกาสให้ลูกหลานคณาจารย์เข้าไปเรียนได้แล้ว เพราะคณะเป็นผู้จัดสอบ ตรวจข้อสอบ ไม่มีส่วนกลางเข้ามายุ่งเกี่ยวมากนัก ผลคือทำให้เกิดระบบโควต้าอย่างไม่เป็นทางการ ที่เรียกว่าอาจารย์หนึ่งคนสามารถเอาเด็กเข้าไปได้หนึ่งคน

หากระบบจัดการสอบยังเป็นเรื่องของคนกลุ่มเล็กจัดสอบ ตรวจข้อสอบกันแบบนี้ต่อไป ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะเกิดระบบซื้อที่นั่งในมหาวิทยาลัยของรัฐเช่นเดียวกับในระบบโรงเรียน

จากคุณ : คุง

เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 19:51:03 A:180.180.141.138 X: TicketID:248970