ความคิดเห็นที่ 1 ไหนๆก็เริ่มบ่นแล้ว ขอต่อเลยแล้วกัน สำหรับคนที่คิดจะจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน อะไรที่ไม่เคยรู่จะได้รู้ อะไรที่ไม่แน่ใจให้ถามกับเซลล์ก่อนที่จะตกลงสร้าง เดี๋ยวขอแบ่งเป็นข้อๆ แล้วใครเคยเจออย่างเจ้าของกระทู้ หรือ เป็นแบบอื่นก็มาเล่าสู่กันได้ค่ะ ขอออกตัวก่อนว่านี่ไม่ใช่การโจมตีบริษัทรับสร้างบ้านแต่อย่างใด วัตถุประสงค์เพียงเพื่อต้องการเล่าสู่กันฟังจากประสบการณ์ตรงที่เจอ ทุกอย่างเป็นความคิดเห็นที่ไม่สามารถเปรียบเทียบได้ ว่าบริษัทนั้นดีกว่าบริษัทนี้ หรือบริษัทนั้นนี้ไม่ดีอย่างไร เนื่องจากเราสร้างบ้านครั้งแรก ไม่เคยมีประสบการณ์กับบริษัทอื่น เราจึงไม่สามารถเปรียบเทียบ หรือตั้งสิ่งใดเป็นมาตรฐานได้ จึงมีแต่ความรู้น้อยๆ กับความรู้สึกว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ คนเราจะมีโอกาสได้สร้างบ้านสักกี่ครั้งในชีวิต เรื่องหลายๆเรื่องเป็นสิ่งที่เราไม่เคยคิดล่วงหน้า และบางอย่างก็คิดไม่ถึง จากคุณ : Nong-Mae เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 16:50:35

ความคิดเห็นที่ 2 บ้านเราสร้างราคาประมาณ 7.8 ล้าน พื้นที่ใช้สอยประมาณ 450 ตรม. เป็นแบบที่ให้บริษัทออกแบบให้ใหม่ ไม่ได้เอาแบบของเค้า เราทุบบ้านหลังเก่า แล้วสร้างตรงที่เดิม จากคุณ : Nong-Mae เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 16:51:54

ความคิดเห็นที่ 3 สัญญาสร้าง 365 วันนับจากวันที่ลงเสาเข็มเสร็จ ไม่ใช่นับจากวันที่เซ็นสัญญา  ทุกรายการเปลี่ยนแปลงวัสดุหรืออะไรก็ตาม ในเอกสารจะมีหมายเหตุด้านล่างว่า การเปลี่ยนแปลงอาจกระทบทำให้กำหนดบ้านเสร็จเลื่อนไป 20 วัน เราเปลี่ยนกระเบื้อง เปลี่ยนขนาดหน้าต่าง เปลี่ยนวัสดุ ถึงแม้เราจะแจ้งล่วงหน้านานนนนมาก ซึ่งไม่กระทบกับแผนงานของเค้าแม้แต่น้อย พอเราท้วงเค้าบอกว่าเป็น format เอกสารของเค้า ต้องเป็นแบบนี้ แต่ไม่ต้องกังวล เสร็จทันแน่ๆ ถ้าบ้านเราไม่เสร็จตามกำหนด เค้าก็มีเอกสารพวกนี้มายืนยันแน่ ถึงแม้เราจะปรับตามสัญญาเขียนว่าปรับวันละ xx% ของค่างวดที่เหลือ ซึ่งงวดสุดท้ายเหลือแค่ 5 % ก็คงปรับได้วันละไม่เท่าไหร (ตอนเซ็นสัญญาเราไม่อยู่ แฟนเราก็ไม่ได้ดู เซ็นไปตามนั้น) สงสัยว่ามีใครเคยได้ค่าปรับจากบริษัทบ้าง ที่พูดถึงข้อนี้เพราะคนที่บ้านเราไม่เข้าใจ คิดว่า 365 วันจากวันเซ็นสัญญา ซึ่งเซ็นกันเดือนมกราคม ที่บ้านเข้าใจว่าธันวาคมต้องเสร็จ แต่ที่ไหนได้บ้านเราลงเข็มเสร็จก็ปลายมีนาคมแล้ว อย่าไปฟังช่างหรือเซลล์บริษัท ที่บอกว่าปกติ 8 เดือนก็เสร็จแล้ว เห็นทำงานช้าอย่างนี้ คนงานก็ไม่กี่คน 8 เดือนคงยากมาก จำไว้ว่าบ้านเราไม่ใช่บ้านปกติ 8 เดือนไม่เสร็จแน่ เราต้องทำใจไว้เลย ยังไงก็ต้อง 12 เดือนเป็นอย่างต่ำ จากคุณ : Nong-Mae เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 16:53:58

ความคิดเห็นที่ 4 ต้องมีเงินสำรองไว้บางส่วน เราเองกู้ธนาคารมาสร้าง ตอนแรกก็คิดว่ากู้ได้หมดก็คงไม่เดือดร้อน ไม่คิดอย่างอื่นเลย พอเอาเข้าจริง    - ค่าทำสัญญา ตอนแรกบอกมัดจำ 50,000 พอทำจริงบอกว่าบ้านเราหลังใหญ่ให้มัดจำ 100,000    - ค่าจดจำนอง 1% ของยอดกู้ ก็ประมาณ 80,000    - ค่าประกันอัคคีในขณะก่อสร้าง ปีแรกประมาณ 13,000 (ไม่เข้าใจทำไมแพงอย่างนี้ เห็นคนอื่นเค้าประกันสามปีไม่ถึงหมื่น)    - ค่ามัดจำมิเตอร์น้ำ ไฟ    - ยังมีที่ต้องซื้อของล่วงหน้าบางอย่างที่เราต้องการต่างจากที่เค้าให้ เดี๋ยวเล่าต่อข้างล่าง เบ็ดเสร็จ น่าจะต้องมีเงินสดอยู่สัก 500,000 จะได้ไม่กลุ้มเวลาต้องจ่าย ตอนมัดจำบอกราคาเท่านี้ พอทำสัญญาบอกว่าที่เราแคบสร้างบ้านพักคนงานไม่ได้ เสียค่าที่พักคนงานอีก 200,000 บาท จากคุณ : Nong-Mae เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 16:54:53

ความคิดเห็นที่ 5 ราคาที่บริษัทรับสร้างบ้าน ตั้ง สามารถ สร้างบ้านหลังนั้นได้ 2 หลังอะค่ะ คนทั่วไปถ้าได้รู้ราคาต้นทุนการสร้างบ้านจริงๆ แล้ว จะเอาเท้าก่ายขมับ ^_^ น่าเห็นใจคนทั่วไปไม่มีความรู้ต้องทนรับกับอะไรแบบนี้ ปล. เราสร้างบ้าน 4 นอน 4 น้ำ + สระว่ายน้ำ   ถูกกว่าบ้านจัดสรร 3 นอน 3 น้ำทั่วไปอีก จากคุณ : jezebel เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 16:58:08

ความคิดเห็นที่ 6 สิ่งต่างๆที่เราต้องการต้องลงในเอกสารทั้งสิ้น แถมอะไรบ้างลงให้หมด แล้วเราเองต้องละเอียดคอยตรวจสอบด้วย เพราะเซลล์ทำรายการคืนเงินให้เราผิดตลอด ผิดเยอะด้วย ถ้าเราไม่ละเอียดคงเสียหายเป็นแสนแล้ว ที่ผิดไม่ได้คิดว่าบริษัทโกง แต่คิดว่าเซลล์ไม่ละเอียดเอง มีครั้งนึงปรี๊ดแตกตอนเราขอคืนรายการสุขภัณฑ์ เพราะเราจะไปเลือกรุ่นอื่น ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่เค้าไม่ให้ฝักบัวยืนอาบ ให้เหตุผลว่าเพราะเรามีฝักบัวที่อ่างอาบน้ำแล้ว เราก็เลยวีนไปชุดนึง โมโหมาก บ้าหรือเปล่า ทำที่ยืนอาบแต่ไม่ให้ฝักบัว แต่สุดท้ายเค้าก็ให้มา เพราะในแบบมันมี    ** อีกสิ่งที่เพิ่งรู้ ค่าติดตั้งปั๊มน้ำไม่รวมอยู่ เราต้องออกเอง เค้าเดินให้แต่ท่อ เราต้องเสียค่าเดินไฟสำหรับปั๊มน้ำด้วย เค้าทำรายการมาให้ตอนช่างมาเดินระบบประปาไฟฟ้า ติดตั้งปั๊มน้ำ 3500 บาท เดินไฟอีกประมาณ 1000 บาท    ** ห้องซักรีด ไม่รวมค่าเดินท่อน้ำดี น้ำทิ้งสำหรับเครื่องซักผ้า เพิ่มอีกเกือบสองพัน ปลั๊กห้องซักรีดให้แยกเบรกเกอร์ เพิ่มอีกสองพัน จากคุณ : Nong-Mae เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 16:58:39

ความคิดเห็นที่ 7 สุขภัณฑ์ต่างๆ ให้เค้าระบุรุ่นแล้วไปดูก่อนว่ารับได้หรือไม่ เพราะงบจะบานเพราะห้องน้ำนี่แหละ โถส้วมเราไม่เอาของเค้า ให้เค้าทำราคาคืนมา ได้ตัวละประมาณ 5000 เค้าอ้างว่าเค้าซื้อในราคาโครงการ ได้ราคาพิเศษ ทุกอย่างเป็นอย่างนี้ทั้งหมด อ่างอาบน้ำเรายังได้คืนแค่ห้าพันกว่าบาทเอง บ้านราคานี้ ได้สุขภัณฑ์ราคาเท่านี้เอง  บริษัทบอกว่ารุ่นที่ให้ถ้าเราไม่ชอบให้ไปเลือกที่บุญถาวร เอารุ่นใหนก็ให้หักลบกันไป ถ้าเกินเราก็จ่ายเพิ่ม ถ้าไม่เกินเค้าจะคืนส่วนที่เหลือให้เรา เราว่าก็แฟร์ดี แต่พอเอาเข้าจริง บุญถาวรบอกให้เราจ่ายทั้งหมดเราถึงจะได้ส่วนลดต่างๆ พวกกระเบื้องด้วย บางตัวที่เราเลือกเป็น promotion อยู่ เค้าบอกว่าถ้าซื้อในนามบริษัทรับสร้างบ้านจะไม่ได้ราคานี้เพราะเค้าให้เครดิตบริษัท 30 หรือ 60 วันไม่รู้ ถ้าจะเอาราคาโปรโมชั่นต้องจ่ายสด ดูๆแล้วเราสั่งกระเบื้องไป 200,000 ส่วนต่างโปรโมชั่นกะไม่โปรต่างกันเป็นหมื่น เราเลยต้องเอาโปรโดยต้องจ่ายเงินล่วงหน้าไปก่อนสองแสนกว่า บริษัทบอกว่าจะทำราคาคืนให้งวดสุดท้าย หมายความว่าเอาเงินเราไปจมอยู่สองแสนกว่า กว่าจะได้คืนจากบริษัท จากคุณ : Nong-Mae เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 17:00:04

ความคิดเห็นที่ 8 ค่าเดินไฟเพิ่ม แพงมาก ยิ่งเดินเป็น downlight ดวงแรก 770 ดวงพ่วงต่อๆไปคิดดวงละครึ่งราคา ไม่รวมราคาดวงโคม และค่าติดตั้งดวงโคมอีก 110 บาท ต่อจุด ค่าเดินปลั๊กเพิ่มประมาณจุดละ 1000 คิดราคาจุกจิกมาก ต่อรองไม่ได้เลย บริษัทรับสร้างบ้านก็กินเปอร์เซ็นต์อีกด้วย อ้างว่าเค้าต้องรับประกัน เดินระบบไฟทั้งหมด เราต้องเสียเงินเพิ่มประมาณ 70,000  ที่เราตัดสินใจให้ช่างของเค้าทำไปเลย เพราะถ้าเราจ้างช่างข้างนอกเค้าจะต้องให้บ้านส่งมอบแล้วถึงให้ช่างอื่นๆเข้ามาทำได้ต้องมาแก้ฝ้ากันอีก เราเองก็อยากให้บ้านเสร็จเร็วๆ จากคุณ : Nong-Mae เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 17:01:27

ความคิดเห็นที่ 9 . เราควรต้องเอาแบบมานั่งดู พินิจพิจารณา จินตนาการเอากับหน้างานด้วย ว่าคานแบบนี้จะดันฝ้าสูงได้หรือไม่ อย่าหวังพึงพี่โฟร์แมน เพราะมันพึ่งไม่ได้เลยจริงๆ พ่อเราเข้าไปดูงานทุกวัน เหมือนเป็นโฟร์แมนซะเอง แต่จริงๆไม่ค่อยเจอโฟร์แมนเท่าไหร จะเจอก็ตอนให้เราเซนต์ให้แบงค์โอนค่างวด จริงๆเราก็ไม่รู้ว่าเค้าต้องมาดูบ่อยแค่ไหน บางอาทิตย์ก็ไม่เข้าเลย ของเราตามแบบรูปตัดของสถาปัตย์ ชั้นสองเราต้องฝ้าสูงได้ถึง 3.6 เมตร ตอนนั้นยังไม่ขึ้นคานชั้นสองเลย เราเอาแบบมานั่งๆดู ปรากฎว่าคานใต้หลังคามันอยู่ที่ระดับประมาณไม่ถึง 3 เมตร เราต้องเป็นคนท้วงวิศวกรว่าถ้าเป็นอย่างนี้ฝ้าเราจะสูงอย่างนี้ได้ไง วิศวะกรต้องไปดูมาใหม่ สุดท้ายต้องเอาคานออกบางเส้น เราเน้นกับคนออกแบบตลอดว่าต้องการฝ้าสูงๆ เพราะอยากให้โปร่งๆ *** สรุป ถ้าไม่เข้าไปดู บ้านเสร็จเหมือนกัน แต่ออกมาไม่ตามแบบที่ต้องการ อะไรแก้ได้ก็แก้ บ้านก็เสร็จช้าไปอีก อะไรแก้ไม่ได้ก็ต้องเป็นอย่างนั้นไป เพราะบ้านเรา เราอยากเข้าไปอยู่เร็วๆ จากคุณ : Nong-Mae เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 17:03:41

ความคิดเห็นที่ 10 หากจ้างบริษัทที่มีหลายสาขา ควรคุยกับสาขาใกล้บ้านท่านหรือที่สะดวกที่สุด เราดันไปงานรับสร้างบ้านไปเจอเซลล์สาขาแถวสะพานพระรามห้า บ้านเราอยู่แถวบางนา แรกๆเค้าจะมาหาท่านถีงบ้าน แต่เมือเราจ่ายเงินก้อนแรกไปเมื่อไหร่ เค้าก็จะไม่สะดวกทันที เราต้องไปหาที่สาขาเค้าถึงจะได้คุย พอก่อสร้างจริงก็ไม่ค่อยมาดูแล เพราะใช้ฝ่ายก่อสร้างของอีกสาขาหนี่ง เวลาจะคุยเรื่องแบบทีวุ่นค่ะ ต้องประสานงานหลายฝ่ายหลายสาขา จากคุณ : Nong-Mae เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 17:04:39

ความคิดเห็นที่ 11 ทุกอย่างบอกว่าให้คุยกับช่างหน้างานได้เลย จะทำอะไรเพิ่มเติม พอถึงเวลาจริง ไม่ได้หรอกครับ ต้องผ่านบริษัท (บริษัทบวกเพิ่มประมาณ 20% ถือว่าเป็นค่ารับประกันโน่นนี่) พอเราบ่นว่าแพง มันบอกว่า ก็ต้องให้เราบ้างนะครับ ไหนจะเงินเดือนผม ค่าน้ำค่าไฟ ค่าโฆษณา เวรกรรม แล้วราคาบ้านเราเกือบ 8ล้าน อย่าบอกนะว่าไม่ได้อะไร จากคุณ : Nong-Mae เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 17:07:11

ความคิดเห็นที่ 12 ช่างไฟ ช่างฝ้า ช่างประปา ช่างสี จะเป็นคนละเจ้ากัน แต่ไว้ใจไม่ได้เหมือนกันหมด.. เราเปลี่ยนสีประตูจากสีเงาเป็นด้าน เค้าบอกได้ๆ มีค่าใช้จ่ายนิดหน่อย มาเสนอเราว่าเอาอะไรจำไม่ได้มาทาเคลือบผนังบีเซ็นนอกบ้าน บอกว่านิดหน่อย ราคาติดอยู่ที่ถัง 1800 พ่อเราไปแอบถามว่าซื้อมาเท่าไหร เค้าบอกซือ้มาสามพันกว่า สุดท้ายเอาบิลมาเก็บเงินเรา 25,000 จากคุณ : Nong-Mae เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 17:12:58

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ jezebel : จริงค่ะ เราเองไม่รู้จักผู้รับเหมา กลัวเจอผู้รับเหมาไม่ดี เลยต้องรับชะตากรรมไป สุดท้ายแล้วก็ได้เข้าไปอยู่ในบ้าน ดีกว่าเจอแบบยือเยื้อ ถือว่ายอมๆไปเยอะค่ะ ถ้าเคี่ยวๆ คงไม่เสร็จสักที ตอนนี้มีอะไรขาดตกบกพร่องก็ต้องค่อยๆแก้ไขกันไป โดยรวมแบบดูผ่านๆแล้วก็ถือว่าโอเค (แต่ต้องมีคนเข้าไปคุม) อย่ามองที่ความเรียบร้อยของงาน detail งาน ถือว่าห่วยค่ะ จากคุณ : Nong-Mae เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 17:17:51

ความคิดเห็นที่ 14 ที่นึกได้ตอนนี้ก็มีอยู่เท่านี้ สุดท้ายขอให้ทุกคนมีความสุขกับบ้านของคุณนะค่ะ จะบ้านใหม่บ้านเก่าบ้านรีโนเวท ก็มีความสุขเมื่อได้อยู่กับครอบครัวค่ะ จากคุณ : Nong-Mae เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 17:30:26

ความคิดเห็นที่ 15 เพื่อนเราก็มาชวนไปทำรับเหมาก่อสร้าง  แต่ก็ไม่อยากเสี่ยง เพราะรู้ว่า นอกจากผู้รับเหมาแย่ๆแล้ว เจ้าของบ้านแย่ๆก็มี ปีที่แล้วตัดสินใจ สร้างบ้านขายแทน อิอิ ไม่ต้องโดนลูกค้าจู้จี้ระหว่างทำงาน ^_^ ปล. ถูก เร็ว ก็ไม่ดี //  เร็ว ดี ก็ไม่ถูก // ถูก ดี ก็ช้า จากคุณ : jezebel เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 17:30:54

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องสุขภัณฑ์ ผมว่าเราเลือกเองดีกว่า ไม่ต้องให้ผู้รับเหมากำหนดสเปก และตัดราคาส่วนนี้ออก จากคุณ : visitna เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 18:02:09

ความคิดเห็นที่ 17 อ่านแล้วใจเสียเลยค่ะ กำลังจะทุบบ้านเก่าสร้างใหม่เหมือนกัน อยู่ในช่วงกำลังศึกษาหาข้อมูลอยู่ ไม่ทราบว่าพอจะบอกชื่อบริษัทได้ไหมคะ หลังไมค์น่ะค่ะ จากคุณ : Walk Two Moons เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 18:28:16

ความคิดเห็นที่ 18 โปรดมองหลายๆมุมนะครับ และใช้วิจารณญาณให้ครบ จากคุณ : dusitcon39 เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 21:33:55

ความคิดเห็นที่ 19   ตอนนี้มีเครือปูนซิเมนต์ เริ่มแตกธุรกิจมาทำธุรกิจรับสร้างบ้านแทน ผมว่าน่าสนใจ ลองหาข้อมูลดูครับ scg heim เสียดายว่าสร้างไปแล้ว เมื่องั้นอาจได้ใช้บริการ เห็นบอกค่าก่อสร้างบ้านเริ่มที่ประมาณ 25,000 /ตร.ม. ก็ไม่ถือว่าถูก แต่ก็ไม่แพง อยู่ในระดับกลางๆถึงเกือบบน ลองดูครับ ผมว่าบ.รับสร้างบ้านคงต้องปรับตัวกันยกใหญ่ มหกรรมปลาใหญ่กินปลาเล็กน่าจะเริ่มแล้วครับ จากคุณ : kanstk เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 22:30:40

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ขอแจ้งชื่อบริษัททรับสร้างบ้านนะคะ เพราะจริงๆแล้วก็ขึ้นกับชุดผู้รับเหมาที่เราเจอ และโฟร์แมนที่โดนมอบหมายมาให้ดูงานบ้านเราด้วยค่ะ ขึ้นกับช่างประปา ช่างไฟ ช่างฝ้า ช่างสี แต่ละชุดด้วย ถ้าเจอดีก็ดีไป เห็นมีบางคนสร้างบริษัทเดียวกับเราก็พอใจดีนะค่ะ สิ่งที่เราบอกไปถือว่าเอาไว้เป็นข้อระวังและต่อรองกับบริษัท เพราะบางอย่างที่เรานึกไม่ถึง บริษัทจะได้เปรียบเราทั้งหมด เค้าจะอ้างแต่ว่า มาตรฐานของบริษัทเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อันนี้ปกติไม่ได้ให้ อันนี้ไม่ได้รวมอยู่ในรายการ อะไรประมาณนั้น ทางที่ดีให้คุยก่อนทำสัญญาว่าอันนั้น อันนี้แถมได้หรือไม่ แล้วให้ลงเป็นลายลักษณ์อักษรเลย กันเค้าลืม จากคุณ : Nong-Mae เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 23:26:50

ความคิดเห็นที่ 21   เข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ  ส่วนใหญ่เราผู้บริโภคจะมีประสบการณ์ในการสร้างบ้านหรือเชี่ยวชาญรู้ทันพวกบริษัทรับสร้างบ้านหรือผู้รับเหมา คนอย่างเราๆจะสร้างบ้านกันกี่หลังในชั่วชีวิตของเรา ของคุณ จขกท ก็ยังสร้างสำเร็จจนได้ ถือเป็นบทเรียนราคาแพง (แพงมากๆ) บางหลังเสียเป็น 10 ล้านยังสร้างไม่เสร็จก็มีนะคะ ไม่แน่ใจว่าตกแต่งภายในหรือยังคะ ถ้ายังก็ขอให้สำเร็จและราบรื่นกว่าที่ผ่านมาเยอะๆนะคะ ขอบคุณที่ม่แชร์ประสบการณ์จริงค่ะ จากคุณ : Angel of Kitty เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 23:32:02

ความคิดเห็นที่ 22 ยังไม่เคยได้ยินบริษัทรับสร้างบ้าน แล้วได้บ้านตามที่ต้องการเลยสักราย ที่คุณว่ามาทั้งหมดนั่น เป็นจริงทุกประการ เจอมาแล้วเหมือนกัน สัญญาเหรอ? มันก็เป็นสัญญาที่เอื้อต่อบริษัท มากกว่าลูกค้าอยู่แล้ว แต่เราจะยอมรับมันหรือไม่ ก็ต้องพิจารณาให้ดี ไม่ใช่เซ็นต์และยอมกันง่ายๆ ผู้รับเหมาบางราย ทำงานชุ่ยมาก ๆ เอาง่ายเข้าว่า มักง่ายเสียเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น ตรวจสัญญาให้ดี อ่านให้ละเอียด เซ็นต์แล้วผูกมัดไปจนตาย ฟ้องร้องไม่ได้ โดนฟ้องกลับอีกตะหาก... จากคุณ : เอามั่งดิ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 23:56:47

ความคิดเห็นที่ 23 สร้างอยู่เหมือนกัน ยอมรับเลย สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้มีประสบการณ์การสร้างบ้านมากนัก มีโอกาสเสียเปรียบได้เยอะ โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงวัสดุ ถ้าคุณเพิ่มอะไรไป ราคาที่บริษัทคิดมา บริษัทจะชาร์จคุณเยอะ แล้วทุกครั้งจะรวมค่าดำเนินการ 10 -20 % ไปด้วย แต่ถ้าคุณขอลดหรือขอเปลี่ยน ราคาที่เขาหักออกหรือลดราคาให้ก็เป็นจำนวนเงินเพียงเล็กน้อย แต่ข้อดีของบริษัทรับสร้างบ้านคือ งานเสร็จแน่ๆ มีโฟร์แมนมาดูงานให้ (ในกรณีที่เจ้าของบ้านโชคดีเจอโฟร์แมนรับผิดชอบงานนะ) คำเตือนสำหรับการจ้างบริษัทมาสร้างบ้านให้คือ ทุกอย่างต้องเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น อย่าเชื่อคำพูดของเซลล์อย่างเดียว ถ้าเค้าบอกอะไรมา บอกเค้าว่าให้ระบุเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ด้วย โปรดฟังอีกครั้ง ทุกอย่างต้องเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น ทุกอย่างต้องเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น ... ไม่งั้นราคาภายหลังจะเป็นราคาที่แพงขึ้นมาก จากคุณ : คุณหมาขายาว เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 10:19:35

ความคิดเห็นที่ 24 อ่านกระทู้นี้ ทำให้กลัวมากไปอีก สงสัยต้องขายบ้านทิ้ง ไม่Renovate แล้ว ไปซื้อคอนโดอยู่ ดีกว่าเรา( ยิ่งไม่ทันคน อยู่ด้วย)  แอบกระต่ายตื่นตูมเฮ้อ!! จากคุณ : terquila เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 17:41:36

ความคิดเห็นที่ 25   -_-lll แอบกลัวด้วยอีกคน มีเพื่อนๆในห้องนี้บอกให้ซื้อของแล้วจ้างช่างเอา เราก็ทำตามอยู่นะ ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงออกแบบ ขอบอกว่าเหนื่อยมากกก T-T เป็นกำลังใจให้ จขกท นะคะ ^^" จากคุณ : Iruka^^Ryoko เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 53 11:32:55

ความคิดเห็นที่ 26 เข้ามาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ครับ : D จากคุณ : ใต้ดาวดวงเดียวกัน เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 53 13:09:36

ความคิดเห็นที่ 27 คงจะต้องแบ่งคร่าวๆว่า ทำงานกับบริษัทสร้างบ้าน หนึ่ง มีแบบให้เลือก  แต่ก็มีทั้งที่ดัดแปลงจากแบบมาตรฐาน เพราะราคาแบบจะไม่แพงมาก หรือจ้างสถาปนิกมาออกแบบบ้านตามโจทย์ของเจ้าของบ้าน พูดง่ายๆว่า หลังเดียวในโลก บ้านตามแบบมาตรฐานในแฟ้มก็จะมีรายการวัสดุมาตรฐาน พรีเมียม และลักชูรี่ อะไรประมาณนั้น ซึ่งกรณีนี้ ถ้าไปเปลี่ยนแปลง ยกเลิกรายการวัสดุ ก็เหมือนกับหมู่บ้าน คือ เงินคืนน้อยแน่นอน กรณีของจขกท. ถ้าเป็นการออกแบบใหม่ถอดด้าม รายการวัสดุที่ตกลงไว้ ก็ใส่ไว้ในบีโอคิวเลย ส่วนรายการที่ยังไม่ลงตัว หรือเราไม่เห็นชอบ ก็ให้เว้นว่างไว้ หรือใส่ตัวเลขของบริษัท แต่ไม่เอามาคิดเป็นราคารวม แล้วระบุว่า "เจ้าของบ้านจัดซื้อเอง" จะตัดปัญหาเรื่อง ตกลงกันไม่ได้เรื่องเงินไปได้ เพราะถ้ามีรายการซื้อไปแล้ว หรือซื้อทางบัญชี มันยุ่งครับ ผมไม่ได้อ่านหมด แต่เท่าที่ประเมินน่าจะเป็นเพราะเจ้าของบ้านกับบริษัทไม่ได้พูดคุยเรื่องรายการวัสุดในบีโอคิวให้ชัดเจน และเข้าใจตรงกัน ถ้าประเมินผิดก็ขออภัย บีโอคิวเป็นเอกสารคุมรายการวัสดุ และค่าใช้จ่ายต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นการตรวจสอบการทำงานของบริษัท หรือผู้รับเหมาได้ และป้องกันกรณีที่เจ้าของบ้านขี้ลืม หรือเข้าใจผิด   ส่วนมาก งานระบบ น้ำ ไฟ แอร์ ฯลฯ มักจะใช้ผู้รับเหมาช่วงอยู่แล้วครับ ก็ต้องอาศัยการทำงานร่วมกับโฟร์แมน พูดได้เลยว่า การสร้างบ้านปัญหาน้อยหรือมากขึ้นอยู่กับเจ้าของบ้าน ผู้มีอำนาจตัดสินใจฝ่ายบริษัทหรือผู้รับเหมา และโฟร์แมน ถ้าสามคนนี้คุยกันรู้เรื่อง และไม่ทะเลาะกัน งานยากขนาดไหนก็ผ่าน ทั้งนี้ กรณีไม่มีปัญหาว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องนะครับ พื้นที่ 400+ หากสถาปนิกไม่ออกแบบให้มีลูกเล่นมากนัก เร็วที่สุด ผมว่าประมาณ 8-9 เดือนสร้างได้นะครับ ถ้าไม่มีกรณีล่าช้า (มาก) จากการเปลี่ยนแบบ หรือวัสดุ ขนาดบ้านผมมีแบบที่ผู้รับเหมาคิดกันหัวแตกหลายจุด และมีบางช่วงที่หยุดงานไปเกือบเดือน ก็สร้างได้เสร็จใน 11 เดือน ผมกลับมีแนวคิดว่า ถ้าจะสร้างบ้านที่มีโจทย์ที่เฉพาะครอบครัว หรือที่ดินรูปร่างประหลาดน่าจะเลือกใช้บริการของสถาปนิกมากกว่าบริษัทรับสร้างบ้านครับ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 53 13:18:50 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 53 13:20:23 จากคุณ : Double07 เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 53 13:13:32

ความคิดเห็นที่ 28   ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ซื้อแบบบ้านและก็หาช่างมาทำให้ดีกว่าค่ะ และก็ซื้อวัสดุเองดีกว่าค่ะ ถูกกว่าตั้งเยอะ มีประสบการณ์ทำบ้านกับบริษัทมาแล้ว และก็แนะนำให้เพื่อนทำบ้านแบบคล้าย ๆ กับเรา และเพื่อนซื้อแบบมา และมาจ้างช่างเอง ซื้อวัสดุเอง ถูกกว่าบ้านเราประมาณ 4-5 แสนค่ะ แถมถูกใจอีกต่างหาก แต่ต้องศึกษาหาข้อมูลเยอะ มากๆ และควรมีเวลาด้วย จากคุณ : ^_^ (njoyjoe) เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 53 00:44:17