ความคิดเห็นที่ 1   สรุป คุยไปก็ไม่รู้เรื่องค่ะ ทางสาขาก็อ้างด้วยว่าไม่มีอำนาจ ยังไงก็ต้องเก็บตามคำสั่ง เราวางหูไปก็เครียดขึ้นสมอง มันไม่ใช่เรื่องที่เราต้องมาเสียตรงนี้ นั่งซักพัก คิดไปคิดมา ในเมื่อเค้าไม่มีอำนาจ ก็ต้องคุยกับคนที่มีอำนาจสิ  โทรหาสำนักงานใหญ่เลยดีกว่า โทรไป call center รับสาย เราบอกว่าจะปรึกษาเรื่องค่าปรับไถ่ถอนจำนองก่อนกำหนด คุยได้เลยมั้ย ทาง call center ก็ให้คุยได้เลย สักพัก ไม่สามารถให้คำตอบได้ เลยโอนสายให้ทาง สช.สนง.ใหญ่ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่คุยดีมากค่ะ คุยกันอยู่นานซักครึ่งชั่วโมง ทราบว่าคำสั่งก็มีจริง แต่ทางกฎหมาย(ซึ่งใครๆก็รู้) ไม่มีผลย้อนหลัง แต่เค้าพูดอะไรมากไม่ได้ ได้แต่แนะนำมาว่า ให้เอาเอกสารสัญญาเข้าไปที่สาขา เอามากางดูเลยว่าเป็นอย่างไรแล้วให้ทำตามนั้น  ให้อิงตามที่สัญญาระบุ เราเลยบอกว่า เราอิงแล้ว แต่สาขาไม่อิง อิงคำสั่ง  กระต่ายขาเดียวจะปรับ 1x,xxx ให้ได้ แต่คำสั่งไม่ได้มีผลบังคับเหมือนสัญญาที่เราเซ็นทั้ง 2 ฝ่าย คุยไปคุยมา จนเงินในโทรศัพท์หมด เลยได้เบอร์สำนักงานเขตมา เพราะ สนง.ใหญ่ ทำอะไรไม่ได้(อีกแล้ว) ณ เวลานี้ก็จะบ่าย 3 แล้ว แบงค์จะปิดไหมเนี่ย โทรไปเขตทันที ติดต่อฝ่ายบริหารหนี้และคดี พี่เค้าก็รับเรื่องไว้ทันที ถามชื่อนามสกุล แล้วค้นข้อมูล แล้วขอเบอร์โทรกลับ ผ่านไปซักครึ่งชั่วโมง เราคิดในใจ แบงค์จะปิดแล้วนี่นา แล้ววันนี้จะได้เรื่องไหมเนี่ย เลยโทรไปใหม่ เค้าบอกว่ากำลังประสานงานกับสาขา แล้วเสนอผู้บริหารทราบ เดี๋ยวจะโทรกลับ ก็วางหูไปอีก จนสัก 4 โมง โทรไปใหม่ เค้าแจ้งว่า ผู้บริหารยังไม่ว่าง เดี๋ยวจะดำเนินการให้ เราเลยขอทราบผลภายในวันนี้ เพราะเครียดมาทั้งวันกับเรื่องค่าปรับนี่แหล่ะ เค้าก็รับปาก แต่ก็ยังไม่โทรกลับ จนเวลาผ่านไปบ่ายสีครึ่งได้ โทรไป เค้าบอกให้เรารอสายเลย เพราะกำลังคุยกับ ผจก.สาขาอยู่พอดี เราก็เลยรอ จนสักพัก พี่เค้าก็โอนสายให้ ผช.ผจก. ได้ใจความว่า เรา “สวัสดีค่ะ (แจ้งชื่อ)...” ผช. “สวัสดีค่ะ เรื่องที่แจ้งไว้ เราได้ประสานกับทางสาขาแล้ว ยังไงต้อง”ขอโทษ”ด้วยนะคะ พอดีทางสาขาเข้าใจผิด” เรา “เข้าใจผิดอะไรคะ” ผช. “ค่ะ ทางสาขาเข้าใจผิด ต้องขอโทษด้วยนะคะ ยังไงวันไถ่ถอนจำนองเนี่ย ให้เข้าไปติดต่อได้เลย ยอดค้าง x หมื่นกว่าบาทใช่ไหมคะ” เรา “ใช่ค่ะ แล้วไม่เสียค่าปรับจากวงเงินกู้แล้วเหรอคะ” ผช. “ค่ะ ไม่เสียค่ะ เค้าเข้าใจผิด” เรา “แล้วไหนบอกว่าต้องเสีย แล้วคำสั่งที่อ้างถึงล่ะ” ผช. “ค่ะ มีค่ะ คือว่า มีกรณีที่ลูกค้าเข้ามาโปะเหมือนกัน ดูเหมือนต้องการเลี่ยงค่าปรับน่ะค่ะ แต่ของคุณ เคลียร์แล้วนะคะ เข้าไปดำเนินการได้เลย ไม่เสียค่ะ” เรา “ก็ใช่น่ะสิคะ ก็ในสัญญาระบุว่าค่าปรับจากเงินต้นคงเหลือ แล้วที่ว่าเข้าใจผิด ผิดยังไง” ผช. “ทางสาขากลัวว่า เกิดเก็บค่าปรับลูกค้าผิด เค้าจะต้องจ่ายเอง” เรา “เหรอคะ” ผช. “ยังไงต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ” ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า เราเป็นฝ่ายชนะ ไม่ต้องเสียค่าปรับจากวงเงินกู้ แต่เสียจากเงินต้นคงเหลือตามที่ระบุในสัญญา ข้อข้องใจคือ ที่เค้าเก็บ 2% จากวงเงินกู้ ถ้าเกิดเราไม่มีปัญหาอะไรเลย เข้าไปจ่ายโดยไม่ทวงถาม เงินตรงนั้นจะไปไหน ในเมื่อ เค้าบอกว่า กลัวเก็บขาด แล้วกรณีแบบนี้มันเก็บเกินนี่นา หรือเรียกว่าปล้นกันชัดๆ แล้วตาสีตาสา ไม่รู้กฎหมาย บอกให้จ่ายก็จ่ายแล้วยังไง งงจริงๆ แล้วยังบอกว่า มีคนมาโปะเยอะให้ต้นเหลือน้อยเพื่อเลี่ยงค่าปรับ แบบนี้แบงค์เสียประโยชน์ เลยต้องออกคำสั่งนี้มา อีกอย่าง สัญญาจะทำไปทำไม ในเมื่อบอกว่าพิมพ์ผิด แล้วไม่บังคับใช้ได้เหรอ จะเอาแต่ยืนกรานอย่างเดียว ตามคำสั่งอะไรนั่นน่ะ ไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ ขอดูก็บอกว่าเปิดเผยไม่ได้ เป็นคำสั่งภายใน แจ้งลูกค้าก็ไม่แจ้ง  แล้วยังมาบอกว่ายังไงก็ต้องจ่ายค่าปรับหมื่นกว่าอะไรนั่นน่ะ ตอนแรกตั้งใจว่า ถ้าแบงค์ไม่ยอม จะให้จ่ายท่าเดียว ก็คงต้องรู้ดำรู้แดงไปเลย คงคิดว่าเราไม่รู้กฎหมาย อ่านหนังสือไม่ออกล่ะมั้ง เป็นข่าวก็เป็นข่าวสิ ไม่ก็ฟ้องซะ เพราะยังไงเราก็ไม่ผิดอยู่แล้ว เอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนมาก แต่พอคุยกับทาง ผช.ก็ขอโทษขอโพยก็เลยใจเย็นลง แล้วก็อารมณ์ดีเมื่อได้คำตอบที่พอใจ เค้าคงกลัวเราฟ้องด้วยล่ะมั้ง มาอ่านสัญญาดูแล้ว คงจะรู้แล้วแหล่ะว่ามันฟังไม่ขึ้นจริงๆ ไปเอากับคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องต่อไปดีกว่า หรืออย่างไร... สรุปสาขาไม่มีอำนาจ เลยต้องให้ส่วนงานที่มีอำนาจ ประสานงานให้ซะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะได้ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและความถูกต้องเป็นธรรม ถึงได้รู้สึกว่า โลกนี้ยังมีความถูกต้องเป็นธรรมอยู่บ้าง แล้วก็ไม่เข้าใจว่า เป็น สช.ได้ยังไง ตีความสัญญายังไม่เป็น เขียนซะยาวเลย แค่อยากเล่า วันนี้หมดค่าโทรศัพท์ไปเยอะมากๆๆๆๆๆ จากคุณ : daoneung เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 00:06:36

ความคิดเห็นที่ 2   ไม่รู้จะโดนลบอีกรึเปล่า อุอุอุ จากคุณ : daoneung เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 00:07:18

ความคิดเห็นที่ 3   จขกท. เยี่ยมค่ะ! จากคุณ : Reincarnated เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 00:46:15

ความคิดเห็นที่ 4 รบกวน จขกท. กำลังจะทำอย่าง จขกท. เป๊ะเลย เพียงแต่ไม่ใช่ขายบ้าน แต่เป็นเป็น Refinance ไปเป็นของ สปส. ก็เลยเสียวๆ กับคำว่าเป็นคำสั่ง กับ พิมพ์ผิดเนี่ย แบงค์สีชมพู ที่คุณว่าเนี่ย ใช่แบงค์ที่มีโลโก้เป็นคล้ายๆ ใบโพธิ์ไม๊คะ จากคุณ : member no.805 เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 04:29:02

ความคิดเห็นที่ 5 ทู้โดนลบเหรอคะ ทู้เสียรึเปล่า แต่จขกท.เยี่ยมมากเลยค่ะ สงสัยเราต้องโทรไปถามธนาคารเรื่องการพิจารณาสินเชื่อเหมือนกัน ทีแรกว่ากู้ผ่าน แต่มีจม.มาว่ากู้ไม่ผ่าน มันยังไงกันแน่ก็ไม่รู้ แต่คนละธนาคารกับจขกท.นะ จากคุณ : pammap เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 06:55:29

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วที่ดอกปรับ 2% พิมพ์ผิดหรือเปล่า ต้องเป็น 0.00002% หรือเปล่า มีที่ไหนพิมพ์ผิด ยึดตามสัญญาครับ อย่าไปยอม จากคุณ : หมูทอง (Goldenpig) เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 06:56:14

ความคิดเห็นที่ 7   มีอีกนิดนึงค่ะ คือที่เค้าบอกว่าตามคำสั่งต้องเก็บจากวงเงินกู้ตามสัญญา ก็เลยจะเก็บเรา 2% จากในสัญญาของเรา เพียงแต่เปลี่ยนจาก"วงเงินคงเหลือ"เป็น"วงเงินกู้" แต่จริงๆในคำสั่งเห็นว่ามีระบุว่า ค่าปรับ ณ ปัจจุบันไม่ใช่ 2 แต่เป็น 3% แล้วทำไมเค้าถึงไม่อิงทั้ง 2 ทาง คือ เก็บ 3% ซะเลยล่ะ เราเลยยิ่งสงสัย ถึงจำนวนเงินค่าปรับ สำหรับบางคนอาจจะไม่เยอะเลย แต่สำหรับเรามันเยอะนะ แถมยังทำอะไรได้มากมาย ต้องมาจ่ายทิ้งไป แลกกลับความไม่รู้อิโหน่อิเหน่เหรอ เกือบจ่ายแล้วมั้ยล่ะ เครียด่จัดๆ เลยโทรหาซะก่อน แล้วเกิดในสัญญาอ้างว่าพิมพ์ผิดอีกล่ะ สมมติเงินต้น 6xx,xxx กลับบอกว่าจริงๆต้องเป็น 6,xxx,xxx เราก็ทำอะไรไม่ได้เลยสิ ผลักภาระให้ลูกค้าอย่างเดียวเลย ค่าปรับ 2 เป็น 20 หรือ 200 ก็แย่สิ  อยากจะบอกไปว่า "จะบ้าเหรอออออ แล้วจะทำสัญญาไว้ทำ....อะไร" แบงค์สีชมพู อิอิอิ แบงค์ที่ทำเรื่องช้าสุดๆน่ะค่ะ นี่ถ้าเราไปยื่นกู้บ้านหลังใหม่ คงโดนหมายหัวติดแบล็คลิสต์ไว้ ไม่ทำเรื่องให้ อิอิอิ เราก็ว่ากระทู้เดิมเราคงไม่โดนลบ แต่เปิดไม่ได้ง่ะ แล้วมาเป็นของเราพอดี แอบเซ็ง ยังไม่ได้เข้าไปอ่านเลย พอดีมีความคืบหน้า เลยมาเล่าหมดเลย แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 53 07:42:14 จากคุณ : daoneung เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 07:38:27

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเป็นกระทู้ออมสิน แบบนั้น เรียกว่ากระทู้ด๋อย เพราะระบบของพันทิปมีปัญหา ไม่มีใครไปลบหรอก จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 07:59:50

ความคิดเห็นที่ 9   ติดตามเรื่องนี้เหมือนกัน ยินดีด้วยที่เรื่องจบด้วยดี โดยไม่ต้องฟ้อง สคบ จากคุณ : FFAS เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 09:10:28

ความคิดเห็นที่ 10 ตั้งชื่อกระทู้  แบบข้ามไม่ได้   เป็นอันขาด ระดับแบงค์ไม่น่าทำงานพลาดและชุ่ยแบบนี้นะ พนักงานก็ตอบเหมือนไม่ทันคิดซะเลย ตอนแรกอ่านแล้วนึกถึง ศาลผู้บริโภค ทันที ฟ้องร้องยังไงก็ชนะ   แล้วตอนนี้มีการแก้ไขสัญญาลูกค้ารายใหม่หรือยัง ดีใจด้วยครับ  ที่ไม่โดนเอาเปรียบ จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 09:28:09

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านจบแล้วก็เป็นไปตามที่คิด ยังไงก็ต้องอ้างอิงตามสัญญาแน่นอน พวกคำสั่ง ประกาศภายใน มันก็เรื่องของเค้าสิ จะมาให้เราทำตามได้ไง สัญญาว่ายังไงก็ต้องตามนั้น ฟ้องกันมายังไงก็ชนะแน่นอน แบงค์คงรู้ว่าเราไม่ยอม ก็เลยยอมแทน ไว้ไปหลอกคนอื่นใหม่ กินเปล่า จากคุณ : Dragon_L เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 09:56:06

ความคิดเห็นที่ 12 ธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ให้เก็บค่าธรรมเนียมหากเป็นการชำระก่อนกำหนด แม้ว่าสัญญาจะระบุไว้ก็ตาม ลองโทรถามธนาคารแห่งประเทศไทยดูครับ จากคุณ : Speedfilter เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 13:14:23

ความคิดเห็นที่ 13 ขอโหวตค่ะ ทำงานแบบนี้แย่มากๆเลย พูดมาได้ไง พิมพ์ผิด ฟังไม่ขึ้นจริงๆค่ะ จากคุณ : ginjung เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 22:10:33

ความคิดเห็นที่ 14 จขกท เก่งจริงๆ ค่ะ แต่อ่านแล้วรู้สึกสงสารตาสีตาสีอย่าง จขกท ว่าจริงๆ นะคะ คงจะยอมเสียไปแบบงงๆ แล้วเงินนั้นก็ไปเข้ากระเป๋าใครก็ไม่รู้ จากคุณ : SmilingDoggy เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 12:25:45

ความคิดเห็นที่ 15 จขกท.ไม่ต้องจ่ายครับ บอกผู้จัดการว่าถ้าไม่ยึดตามสัญญาเราจะนำประกาศต่อสาธารณชนและฟ้องร้องกันในศาล ซึ่งเราจะต้องชนะอยู่แล้ว จากคุณ : หนุ่มน้อยหน้าใสวัยสิบแปด เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 22:44:47

ความคิดเห็นที่ 16 แบงก์นี้ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ไม่เข้าไปใช้บริการหรอก ทำอะไรก็ช้ามาก ระบบก็เป็นเต่าล้านปีเลย จากคุณ : Dr.modx เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 07:14:07

ความคิดเห็นที่ 17 ผมกู้ 2.xx ล้าน สัญญาที่ถืออยู่ไม่มีวันที่ ไม่มีอากร ไม่มีประทับตรา มีเราเซ็นฝ่ายเดียว ถามจนท.บอกไว้เซ็นทีหลังได้ เค้าทำงี้ทั้งนั้น จากคุณ : ลูกค้าประจำ (อิสรชน_คนช่างฝัน) เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 08:06:18

ความคิดเห็นที่ 18 ของเราตอน Re-finance ของ SCIB คงเหลือตั้ง 9xx,xxx บาท ซึ่งผ่อนชำระไป 3 ปี ในสัญญาระบุว่าต้องเสีย 2% ถ้า Re-finance ก่อนกำหนด (คือตลอดอายุสัญญา 30 ปี) เราก็ทำหนังสือไปที่สาขาที่เรากู้อยู่ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ เค้าก็เวฟให้ ไม่คิดแม้แต่บาทเดียว ซึ่งจริงๆ คำนวณไว้ว่าต้องเสียเกือบๆ 2 หมื่นแหน่ะ .. ประทับใจจนถึงทุกวันนี้ ^__^ จากคุณ : the_pretty_kate เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 10:06:29

ความคิดเห็นที่ 19 ทำถูกต้องแล้วครับ ทำตามสัญญาเป๊ะๆ จะผิดได้ไง ผมว่างานนี้แบงค์คงยกเลิก การคิดค่าปรับแบบนี้แล้วล่ะ จากคุณ : Goodty เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 13:54:39

ความคิดเห็นที่ 20 ดีใจแทน จขกท.ค่ะ ที่สู้สุดๆเพื่อความยุติธรรม จากคุณ : applekiwi เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 14:08:11

ความคิดเห็นที่ 21 ตามกฎหมายก็ต้องยึดถือตามตัวอักษรล่ะครับ  ในสัญญาระบุไว้ยังไงก็ต้องเป็นตามนั้น  จะมาอ้างว่าพิมพ์ผิดไม่ได้  เพราะตอนลงชื่อผู้กู้และผู้ให้กู้  ก็ถือว่าตกลงกันตามตัวอักษรในสัญญานั้นอยู่แล้ว จากคุณ : Nikonism เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 16:19:18

ความคิดเห็นที่ 22 เยี่ยมยอดมากครับขอชมเชยจากใจจริง เป็นผมคงไม่มีปัญญา ไปต่อกรด้วยแน่ นี่ก็เป็นบทพิสูจน์อีกหนึ่งที่แสดงให้เขาได้เห็นได้รับรู้ว่า สังคมยังมีคนที่รู้เท่าทันและพร้อมที่ต่อสู้กับความเอารัดเอาเปรียบเสมอ จากคุณ : narada เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 17:04:57

ความคิดเห็นที่ 23 สู้ๆ จากคุณ : lessimol เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 18:32:21

ความคิดเห็นที่ 24 ตลกตรงพิมพ์ผิดนี่แหล่ะ ใครพิมพ์ไล่มันออกไปซะ !!! จากคุณ : Mr.Quiet เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 19:18:09

ความคิดเห็นที่ 25 ผมทำงานแบ้งค์ครับ แต่ไม่ใช่สีชมพู ยืนยันว่าธนาคารต้องทำตามสัญญาครับ   ถ้าสัญญาบอกว่าค่าปรับการชำระหนี้ก่อนกำหนดคิดจากยอดหนี้คงเหลือ (ไม่ใช่วงเงินคงเหลือ) เราก็คิดปรับจากยอดหนี้คงเหลือ ปกติหากลูกค้าจำเป็นจริงๆที่ต้องไถ่ถอน เราจะแนะนำลูกค้าให้หาเงินมาโปะเหลือยอดหนี้ไว้สักหมื่น แล้ววันรุ่งขึ้นก็มาปิดบัญชีไถ่ถอนจำนอง แต่ถ้าสัญญาระบุว่าค่าปรับให้คำนวณจากวงเงินกู้ก็จำเป็นต้องคิดตามสัญญาครับ บางครั้งการพิมพ์สัญญาผิดพลาดเป็นเหตุให้ธนาคารเสียหาย พนักงานก็ต้องไปกราบอ้อนวอนลูกค้าขอทำสัญญาที่ถูกต้องต่อท้ายสัญญาเดิมเพื่อบรรเทาความเสียหาย และทุกครั้งก็ได้รับความเข้าใจจากลูกค้าและยอมแก้ไขให้โดยให้ธนาคารรับภาระในส่วนที่ผิดพลาด ซึ่งก็เป็นความกรุณาของลูกค้าจริงๆ   ถ้อยทีถ้อยอาศัยครับ เพราะเราตั้งใจบริการลูกค้าจริงๆลูกค้าจึงเข้าใจ อยากบอกเพื่อนๆว่าสัญญาเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่ธนาคารต้องยึดถือ หากเป็นอื่นไปจากนี้น่าจะทำผิดระเบียบและผิดกฏหมายแน่นอนครับ จากคุณ : เฒ่าเฝ้าเรือน เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 21:49:50

ความคิดเห็นที่ 26 เพิ่งรู้ว่าเราเลี่ยงค่าปรับแบบนี้ก็ได้ด้วย อืม.. จากคุณ : เอื้ออารี เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 23:30:33

ความคิดเห็นที่ 27   ดีใจค่ะ ที่ได้ขึ้นกระทู้แนะนะ เห็นกระทู้เงียบไปหลายวัน แค่อยากระบายให้มีคนรับรู้เรื่องราวของเราบ้าง ก็เท่านั้น จริงๆถ้าแบงค์ไม่ยอม กะว่าวันไถ่ถอนจริงก็จะตามนักข่าวไปด้วย เพราะมีพี่ที่รู้จักอยู่ แต่นี่ ทางสำนักงานเขต เค้าขอโทษมาซะยกใหญ่ ก็เลยอ่อนลงไปเยอะค่ะ วันนี้มาอัพเดทเรื่องราว ณ วันไถ่ถอนจำนอง + ขาย แล้วก็ให้ผู้ที่ซื้อบ้านต่อจากเรา ไปจำนองต่อละกันนะคะ มีเรื่องเด็ดค่ะ แล้วขอบอกว่าอุปสรรคเยอะมากๆๆๆๆ เมื่อวันที่ 10 ที่ผ่านมา ไปถึงแบงค์แต่เช้าเลยค่ะ เพราะนัดไถ่ถอน 9 โมง พอ 9 โมง คนที่ซื้อบ้านต่อเราก็ยังไม่มา(ต่อไปเรียกว่าลูกค้าเรานะคะ) เราเลยเดินไปถาม จนท.สช.แบงค์ที่เราจะไปไถ่ถอน เรา "วันนี้นัดไว้ค่ะ ว่าจะไถ่ถอน" สช1 " ชื่ออะไรคะ" เรา "ชื่อ...." สช.1 หันไปถาม สช.2 "คุณ... สช.2 เป็นคนเบิกโฉนดใช่ไหม" สช. 2 "ใช่" แล้วนั่งชูคอต่อโดยไม่สนใจเราเลย ทั้งๆที่เราประสานเรื่องกับเค้าตลอดตั้งแต่ต้น แล้วก็คนนี้แหล่ะ ที่ให้เราจ่าย 1x,xxx แต่วันนี้ ไม่ว่าไงเลย เรา "แต่ลูกค้าเรายังไม่มา" สช.2 ตะโกนมาว่า "ต้องรอเงินก่อนถึงจะทำเรื่องให้ได้" สช.1 "งั้นนั่งรอก่อนแล้วกันนะคะ" เราก็นั่งรอจน สิบโมงกว่า สช.1 เดินมาหาเรา แล้วบอกว่า ถ้าลูกค้าจะไถ่ถอนเป็นเช็ค ต้องก่อนสิบโมงครึ่งนะคะ ขอบอกว่า สช.1 นี่ดีมากๆเลยค่ะ สช.2 ไม่สนใจเราเลย แต่ช่างมัน ไม่สนใจ เราก็เลยโทรตามลูกค้า ลูกค้าดั๊นนนน ขับเลยแบงค์ไปอีก พอลูกค้าเรามาถึง เราก็เอาเช็คไปให้ สช.3 เพราะ สช.2 ติดลูกค้า สช.1 เดินไปไหนไม่รู้ สช.3 ก็ตามหา สช.1 ให้เรา จนเค้ามาก็เอาเช็คขึ้นเงิน โดยดูยอดไถ่ถอนของเราในระบบ สช.1 "คุณ...คะ เช็คทำมาเกินค่ะ" เรา "เกินมา 4xx บาทใช่ไหมคะ ถ้าใช่เป็นค่าปรับไงคะ" สช.1 "เหรอคะ แต่ในระบบไม่แสดง งั้นเดี๋ยวพี่จะทำเป็นเงินคืนก่อนแล้วกันนะคะ" เราก็มานั่งคิด เกินมา 4xx เค้าก็ยังบอกว่าในระบบไม่แสดง แล้ว 1x,xxx จะไปไหนหว่า... คราวนี้ สช.2 รีบมาแสดงตัว บอกให้เราเซ็นในบุ๊คเงินเกินว่าเราได้รับเงินเกินคืนไป แล้วก็รีบไปออกใบเสร็จอีกใบ เป็นค่าปรับ โดยเขียนด้วยมือ ต่างกับใบเสร็จยอดค่าไถ่ถอนจำนอง แล้วก็ดำเนินการตามขั้นตอน เตรียมเอกสารให้เราเซ็น โดยที่ไม่พูดไม่จา ไม่ว่าอย่างไร พูดตรงๆนะคะ ท่าทางของเค้าแบบ หยิ่งๆ ดูเชิดๆ เริ่ดๆ จริงๆเราว่าน่าจะขอโทษเราสักคำด้วยนะที่มาบังคับให้เราจ่ายค่าปรับที่สูงปรี๊ด แต่ก็ช่างมันอีกนั่นแหล่ะ จะไม่ได้เจอกันอีกแล้วนิ แถมทาง ผจก.ยังเรียกเข้าไปคุย หาว่าที่ยอมให้เราเนี่ย เป็นกรณีพิเศษ ปกติต้องเสีย 1x,xxx ยังไงก็ต้องเสีย อันนี้เห็นว่ามีคนแนะนำมา(คนรู้จักเป็นญาติกับพนักงาน)เลยยอม แล้วเห็นว่าโทรหา สนง.ใหญ่ แล้วก็เขต แล้วเค้ายังบอกด้วยว่าไปเอาวิธีการนำเงินก้อนมาโปะก่อนปิดมาจากไหน แล้วก็พูดๆๆๆๆ เอาความดีเข้าตัว ว่ายอมให้เคสเราเป็นกรณีพิเศษเท่านั้น แต่ขอโทษนะคะ ไม่สนใจแล้วค่ะ อย่าได้เจอกันอีกเลย อุอุอุ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 53 23:34:42 จากคุณ : daoneung เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 23:33:23

ความคิดเห็นที่ 28   อุปสรรคแรก คือ คนซื้อมาช้าจนเกือบจะไม่ได้ไถ่ถอนแน่ะ เฮ้อ...พอมาถึงก็โล่งใจไป อุปสรรคถัดมา ก็ตอนไปที่ดิน ไปถึงที่ดินประมาณ 11 โมงกว่านิดนึง รอจนบ่ายโมงกว่า ถึงได้เรียก ยังไม่มีใครได้ทานข้าวกันซักคนเลยค่ะ อุปสรรคถัดมาอีก น้องคนที่เป็นตัวแทนแบงค์(หัตถ์พระเจ้า)มาจำนอง(ของลูกค้า) ท่าทางน่ารัก แต่ไม่มีมารยาทเลยค่ะ ตั้งแต่ที่ที่ดินแล้ว มีอย่างที่ไหน ไปถึง ให้ผู้ขาย(เรา)กับผู้ซื้อ ดำเนินการเองทั้งหมดเลย ตัวเองแค่มากดบัตรคิวให้ แล้วก็นั่งรอ รอ รอ ขนาดจนท.ที่ดินเรียกคิวเรา เค้าก็ไม่มาดูเลยนะคะ นั่งรอ อ่านหนังสือบ้าง เมาท์บ้าง เรายังคิดเลยค่ะว่า จะมาทำไมเนี่ย ไม่ได้ช่วยอะไรเล้ยยยย พอเราดำเนินการเสร็จทั้งหมด ต้องไปแบงค์ต่อ น้องเค้าก็มาเอาเอกสารที่ที่ดินทำเสร็จ เอาไปทั้งหมดเลย จริงๆเราต้องถ่ายไว้ว่าเราปลดภาระจำนองของเราแล้ว เพราะเราจะไปยื่นแบงค์ใหม่ที่เรากู้ทำบ้านเรา น้องตัวแทนแบงค์ ยังมาสั่งเราอีกว่า งั้นพี่ก็เอาไปถ่าย แล้วถ่ายมาให้ลูกค้าด้วยนะคะ ซึ่งจริงๆ เค้าต้องไปดำเนินการถ่ายที่แบงค์ แล้วสรุปเอกสารทั้งหมดคืนลูกค้าไป เราเลยบอกว่ามีที่ไหนให้ถ่ายบ้าง น้องเค้าก็ว่า ที่แบงค์ก็มีค่ะ ก็เลยขับรถตามกันไปจนถึงแบงค์ เพื่อไปรับเช็คด้วย อุปสรรคถัดมาอีก (เฮ้อ..ชีวิตกว่าจะได้เงิน) ระหว่างทางไปเอาเงินที่แบงค์ขับรถมา อยู่ดีๆ เฮ้ยรถเราเป็นไรอะ ส่ายซ้ายที่ขวาที เริ่มงง เพราะด้วยความดีใจที่จะได้ตังค์ อิอิลืมดูสิ่งแว้ดล้อมรอบตัว  ก็ลมแรงมากๆ เพราะพายุฝนกำลังจะมา เลยต้องรีบลดความเร็วโดยด่วน ก่อนจะไปไม่ถึงแบงค์ ไฟฟ้าก็ดับเพราะไฟแดงเจ๊งเรียบเลยทุกอันทีผ่าน คิดว่าวันนี้วัดดวงล่ะ อิอิ พอไกล้ถึงฝนก็กระหน่ำซะแทบไม่เห็นทางเลยค่ะ (อะไรมันจะมีอุปสรรคขนาดนี้นะ) พอมาถึงแบงค์ เราก็จะเอาเอกสารไปถ่าย น้องตัวแทนฯ ยังหันมาบอกเราว่า ถ่ายเผื่อ(ชี้ไปที่ลูกค้า)ด้วยนะ เราคิดในใจ นี่มันหน้าที่คุณไม่ใช่เหรอ แต่ก็ช่างเหอะ เราเลยถามว่า ใช้กี่ชุด น้องเค้าก็หันมาบอกว่า แล้วแต่ว่าเค้าอยากได้กี่ชุด โอ้โห...คิดในใจอีกแระ แนะนำดีมาก มารยาทสุดยอดเลย หน้าที่ตัวเองก็ไม่ทำนะ ทำไปได้ แต่ก็อะนะ ใจดีซะเรา อิอิ สบายใจจากที่ไม่ต้องจ่ายค่าปรับ ตอนนี้ให้ทำอะไรก็ทำหมดแหล่ะค่ะ อุปสรรคถัดมาอีก(ยังจะมีอีกแน่ะ..ดูดู) ตอนไปรับเช็ค น้องตัวแทนคนนี่แหล่ะ ก็เอาเช็คมาให้ บอกว่าจะเอาเข้าบัญชี หรือถือไปรับเงินสดที่เคาน์เตอร์ได้เลย นี่แหล่ะปัญหาใหญ่เลยค่ะ คุณน้องเค้าบอกให้รับเงินสด แต่เช็คตี A/C PAYEE มาซะนี่ เจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ก็รับไป ขีดขวางหน้าเช็คซะเรียบร้อยประมาณว่าเบิกเงินแล้ว แต่ไม่ได้ดู A/C PAYEE  แล้วมาบอกเราว่าต้องเข้าบัญชี เราเลยกะจะเอาไปเข้าบัญชีอื่นเพราะเราไม่มีบัญชีที่นี่ แต่ก็อย่างที่บอกแล้วคุณขีดฆ่าเช็คเรียบร้อย จะไปเข้าที่ไหนได้อีก ก็เลยต้องเสียเวลาเปิดบัญชีอีก เจ้าหน้าที่อีกคนก็ตะโกนมาบอกว่า "บอกลูกค้าด้วยนะค เปิดแล้วปิดเลย เสียค่าปรับนะ" เอ๊า  เป็นงั้นอีก ก็เลยเปิดไป แล้วถอนออกมา เหลือไว้ 500 อุปสรรคสุดท้าย(ขนาดได้ตังค์แล้วนะ) ถอนเงินออกมาก็บ่าย 3 กว่าแล้ว เราไม่กล้าถือเงินสดขนาดนี้ จะเอาไปเข้าแบงค์ก็ต้องไปตามห้าง ก็เขียนไปฝากเต็มจำนวน ลูกค้าก็เยอะ พอถึงคิว พนักงานเห็นยอดปุ๊บ บอกปั๊บ ฝากสาขาย่อย ฝากได้ไม่เกิน 3 แสนนะคะ แล้วเล่นพูดซะดัง ใครจะมาปล้นช้านนนนไหมเนี่ย (ไปห้างที่เค้ามีข่าวปล้นกันบ่อยๆด้วย เพราะอยู่ใกล้ที่สุดค่ะ) สุดท้ายก็คิดได้ว่า เอาบัญชีไปหลายเล่ม ก็ไล่ฝากมันเล่มละ 3 แสนนี่แหล่ะ ชั้นไม่ถือเงินเดินไปเดินมาหรอก หิวข้าวจะแย่แล้ว ว ว ว ว ว อ่า...เล่าซะยาวเลย แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 53 07:55:30 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 53 07:54:47 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 53 07:50:33 จากคุณ : daoneung เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 23:48:32

ความคิดเห็นที่ 29   เอ่อ ถ้าเกิดเรื่องกับแบงค์อย่างนี้ต้องจัดการขั้นเด็ดขาดสุดๆ ไม่ว่าจะยอมเป็นคดีความ ขึ้นโรงขึ้นศาล เป็นข่าว เรียกมาสัมภาษณ์ ทำไงก็ได้ ถ้าไม่ได้เงินคืนต้องทำให้แบงค์เสียชื่อเสียงไปเลย (เอาให้ตายกันไปข้างนึง) แต่ผมไม่เจอปัญหาเช่นนนี้ เพราะถ้ากู้ซื้อบ้านเงินสดดีที่สุด ยังไงถ้าเรื่องไม่จบง่ายๆ ถึงจะต้องเสียเงินค่าทนายไปฟ้องศาลคุณก็ต้องยอม ถึงมันจะมากกว่าคุณก็ต้องยอม เป็นการเหมือนสร้างบรรทัดฐานให้กับสังคม มิฉะนั้นแบงค์ก็จะไปหลอกคนอื่น ถ้าเป็นตาสีตาสาไม่รู้เรื่องล่ะ......... ที่จริงนะ ยังไงก็ตาม ถ้าแบงค์ออกกฏภายในมันไม่ควรจะเกี่ยวกับเรื่องของเรา เพราะเรื่องใครเรื่องมัน ทุกเรื่องต้องเป็นไปตามสัญญาเท่านั้น กฏแบงค์ไม่เกี่ยว จากคุณ : nutms เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 08:10:47

ความคิดเห็นที่ 30 จขกท สุดยอดค่ะ ผู้บริโภคต้องรักษาสิทธิ์ของเรานะค่ะ โดยส่วนตัวเราเบื่อและเซ็งการทำงานของธนาคารมากมาย โยนกันไปโยนกันมาระหว่างสำนักงานใหญ่ กับ สาขา ยิ่งตอนนี้มีกรณีกู้บ้าน ปกส. ยิ่งโยนกันมันส์เลย ทำเหมือนตาสีตาสาอย่างเรา ต้องง้อพวกเขา เฮ้อ ปลง สังคมไทย จากคุณ : Ma Chere (Ma Chere) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 08:33:52

ความคิดเห็นที่ 31 หลายเรื่องที่คุณเล่ามา มันเป็นหน้าที่ของคุณค่ะ ไม่ใช่ของเจ้าหน้าที่แบงค์ เช่นการยื่นเรื่องไถ่ถอน เรื่องซื้อขาย ก็เป็นเรื่องของผู้ซื้อผู้ขาย ส่วนเรื่องจำนองก็เป็นเรื่องของลูกค้าคนใหม่ เจ้าหน้าที่เค้ามีหน้าที่มาเซ็นเป็นคู่สัญญา เป็นผู้รับจำนองเฉย ๆ แล้วก็เก็บเอกสารกลับไปแบงค์เป็นเรื่องถูกต้องแล้ว ส่วนเรื่องถ่ายเอกสารก็ไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ถ้าเราอยากได้เราก็ต้องถ่ายเอง แต่การไปถ่ายเอกสารให้ลูกค้านั่น จริง ๆ ควรแจ้งให้ลูกค้าทราบไม่ใช่ให้เราไปถ่ายเผื่อ จากคุณ : เอื้ออารี เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 12:38:50

ความคิดเห็นที่ 32 ฟ้อง สคบ ได้ไหมค่ะ ถือว่าให้ข้อมูลผู้บริโภคไม่ครบถ้วน และพิมพ์ผิดไม่ใช่ความผิดลูกค้า ดอกเบี้ยที่ส่งไปเป็นปีๆแบงค์ก็ได้กำไรอยู่แล้ว จากคุณ : napap เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 17:34:33

ความคิดเห็นที่ 33   คุณ เอื้ออารี   จริงๆเราก็คิดว่าจะทำอย่างไรดีก็กะว่าจะให้แบงค์ปรับ แต่ก็คิดว่ามีเงินอยู่ก้อนนึง ถ้าเราสามารถลดเงินต้นได้ก็ดี เพื่อที่ว่าค่าปรับก็จะได้ลดลงด้วย ถือเงินไว้เฉยๆ แค่ยังไม่เอาไปโปะเท่านั้น แต่พอดีได้ขาย เลยต้องไถ่ถอนจำนองน่ะค่ะ การปิดบัญชี ไถ่ถอนนี้ ถ้าเกิดทางแบงค์แจ้งมาว่า เรามีเจตนาเลี่ยงค่าปรับ แล้วจะปรับเรา โดยคิดจากยอดเงินต้นคงเหลือ เราก็ยังกะว่าจะจ่ายเลย ก็เข้าใจ แต่นี่เราก็ได้สอบถามไปทางแบงค์หลายครั้งมาก ว่าทางแบงค์มีเงื่อนไขใดๆไหม ว่าถ้าเราจะเอาเงินก้อนไปจ่ายก่อนปิดบัญชี แบงค์ห้ามจ่ายเกินเท่าไหร่รึเปล่า เพราะเคยอ่านเจอว่ามีบางแบงค์กำหนดห้ามจ่ายเกิน 3 เท่าของค่างวด ประมาณนี้ ทางธนาคารก็บอกว่าไม่มีเงื่อนไข จะจ่ายเท่าไหร่ก็ได้ เราก็เลยคิดว่าอย่างน้อยก็น่าจะเป็นการดี ถ้าให้เงินต้นมันเหลือน้อยๆแล้วค่อยปิด เราสามารถเอาค่าปรับที่เราต้องเสีย ไปทำอะไรได้อีกตั้งเยอะ แต่นี่กลับมาแจ้งว่า ต้องเสียค่าปรับจากวงเงินที่เรากู้เลย เลยทำให้ยอมไม่ได้ค่ะ เรื่องมันก็เลยยาวค่ะ ส่วนเรื่องถ่ายเอกสาร เราก็จะยืมเค้ามาถ่ายแหล่ะค่ะ ยืมสัญญาขายที่ดินมาถ่ายกับโฉนดที่ด้านหลังจะมีระบุว่าเราไถ่ถอนแล้ว เราก็แค่อยากจะเล่าว่าปกติเนี่ย ทางแบงค์จะถ่ายเอกสารให้ลูกค้าเค้า เค้าก็บอกว่ายังไงเค้าก็ต้องถ่ายอยู่แล้ว แต่พอมาถึงร้านจริง กลับโยนให้เราถ่าย แถมบอกให้ถ่ายเผื่อด้วย เราถามกี่ชุดก็กลับบอกเราว่า แล้วแต่เค้าอยากได้กี่ชุด(ลูกค้า) แล้วก็โบ้ยปากไปทางลูกค้า และเราก็เห็นว่าพนักงานคนอื่นมาถ่าย เด็กถ่ายเอกสารก็จะจดยอดไว้แล้วไปเรียกเก็บทีหลัง แบงค์นี้ ทางฝ่ายนิติกรรมที่มาทำนิติกรรมให้ลูกค้าจำนอง แบงค์เค้าจ้างบริษัทมาต่างหากค่ะ คิดว่านี่คงสามารถลดค่าใช้จ่ายเค้าได้ล่ะมั้งคะ แต่มันก็แค่ไม่กี่บาท เราไม่คิดถึงเรื่องจำนวนเงินหรอก แต่ทำแบบนี้ มันก็แปลกๆ เลยมาเล่าให้ฟังค่ะ จากคุณ : daoneung เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 20:14:34

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่องนี้ การคำนวณจริงๆ ก็ควรให้เป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย แหละครับ แต่ผมว่า เอาแบบยุติธรรมจริงๆ แบงค์ไม่ควรมีค่าปรับหรอก เพราะว่า แบงค์เก็บดอกเบี้ย เป็นรายวัน จากเงินต้น ถ้าเราจ่ายเงินมากกว่า ค่างวด ปกติ แบงค์ก็ได้เงินไปแล้วจะมาปรับเราทำไม จะมาคิดว่า เราทำให้เขาเสียดอกเบี้ย ที่ควรจะได้รับก็ไม่ใช่ ตอนทำสัญญากู้เงิน เราก็จ่าย ค่าธรรมเนียมเงินกู้ไปแล้ว ค่าประกัน ค่าประเมิณ ค่าจดจำนอง เราก็จ่าย ดอกเบี้ย ก็เสียทุกเดือน พอมีเงินอยากจะโป้ะ ยังมาคิดค่าปรับอีก ถ้า 2% ของวงเงินกู้ มันเท่าๆ กับ ต้องเสียดอกเบี้ย ทั้งๆ ที่ไม่ได้กู้ ถึง 1 ปี ผมว่ามันเกินเหตุ จากคุณ : webkit เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 10:22:16

ความคิดเห็นที่ 35 ฟ้อง สคบ อย่าได้รอช้าครับ คุณมีสัญญาอยู่ในมือจะกลัวอะไร ถ้าธนาคารไม่ทำตามสัญญา ถือว่าฉ้อโกงครับ เก็บสัญญาฉบับนั้นไว้ให้ดี คุณชนะแน่ จากคุณ : Dukhor เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 10:33:45

ความคิดเห็นที่ 36 แบงค์สีชมพู แบงค์อะไรครับ รัฐบาลเป็นประกันหรือเปล่า คุ้นๆๆ อิอิ จากคุณ : ดื้อจัง เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 12:07:01

ความคิดเห็นที่ 37   อ่า...ถูกต้องนะคร้าบ โลโก้กลมๆข้างในแบ่งเป็น 3 ส่วน ขอบคุณสำหรับทุกๆความเห็นค่ะ ตอนนี้ไถ่ถอนเรียบร้อย มีความสุขจริงๆที่จะไม่ต้องติดต่อกับแบงค์นี้อีก จากคุณ : daoneung เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 14:47:44

ความคิดเห็นที่ 38 โหวตให้นะคะ สงสารตาสีตาสาชาวบ้านทั่วไป ถ้าเจอพนักงานแบงค์เอาแต่ขู่กรรโชกยืนยันกระต่ายขาเดียวแบบ ก็เสียเปรียบ  ถ้าอ่านสัญญาแล้วงงกับภาษากฎหมายก็น่าสงสารมากๆ เลยค่ะ  คิดถึงพ่อตัวเองสมัยยังผ่อนบ้านอยู่ค่ะ คงเจอแบบนี้เหมือนกัน จากคุณ : JuJuJa เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 15:07:29

ความคิดเห็นที่ 39 กำลังทำเรื่องกู้สร้างบ้านอยู่เลยคะ ไม่ประทับใจตั้งแต่วันแรกที่ใช้บริการ แต่จำเป็นต้องกู้แบงค์นี้ เพราะเราติดบ้านอีกหลัง แบงค์อื่นกู้ไม่ผ่าน ทำเรื่องตั้งแต่ 1 เม.ย. ตอนนี้ยังเงียบอยู่เลย โทรไปถามก็บอกว่าต้องรอสนง.ใหญ่ พอถามเบอร์สนง.ใหญ่ เพื่อตามเรื่องเอง ก็บอกให้ไม่ได้ ต้องรอสนง.ใหญ่แจ้งมาอย่างเดียว แล้วจะสาขาจะแจ้งกลับอีกที ทำได้อย่างเดียวคือรอ .. เราเคยถามจนท.แบงค์ ว่าปกติใช้เวลาอนุมัติ ช้าสุดเท่าไหร่ เค้าว่า 4 เดือน เราเลยพูดว่า เราใช้เวลาสร้างบ้าน 5 เดือน ถ้าใช้เวลาอนุมัติ 4 เดือน เราคงไม่ต้องกู้แล้วละ เพราะจ่ายเงินผู้รับเหมาไปเกือบหมดแล้ว เค้าก็หัวเราะ แล้วบอกว่า ก็แล้วแต่ ไม่กู้ก็ยกเลิกสัญญา .. กรรม จริงๆ .. ตอนนี้เลยทำได้แค่เตรียมเงินสำรองไว้ ถ้ามันช้า ก็สร้างเงินสดมันซะเลย จากคุณ : thip (thipchan) เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 15:22:08

ความคิดเห็นที่ 40 เป็นกำลังใจให้ค่ะ  แค่บอกว่าสัญญาพิมพ์ผิดก็น่าเกลียดแล้วอ่ะ จากคุณ : แบ๊น แบน เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 15:28:56

ความคิดเห็นที่ 41 เข้ามาอ่าน แล้ว เดินออกไป อย่างเงียบๆๆ เริ่ด เชิด หยิ่ง เป็นนิสัย ส่วนบุคคลครับ ถ้าการทำงานไม่ได้เรื่อง ให้ข้อมูลที่ผิด แนะนำร้องเรียนครับ จากคุณ : Mr.Aum เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 17:11:26

ความคิดเห็นที่ 42   อ่านแล้ว ของขึ้นแทน สัญญา ต้องเป็น สัญญา เท่านั้น จากคุณ : derpaitawan เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 18:09:52

ความคิดเห็นที่ 43 ตาม คห 12 ครับ ผมเพิ่งโปะ โดยกู้ยังไม่ถึงปี ไม่มีค่าธรรมเนียม จนท บ ทหารไทย กระซิบบอกตั้งแต่ตอนกู้แล้วว่า ค่าธรรมเนียมเก็บลักษณะนี้ผิดระเบียบแบงก์ชาติ แต่ ธนาคารโดยทั่วๆไปเลือกที่จะไม่แจ้งลูกค้า ยิ่งระบุในสัญญา ผิดเต็มๆ บลัฟกลับ หรือ เอาผิดเลยครับ จากคุณ : เด็กสายสอง เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 53 20:47:31

ความคิดเห็นที่ 44   คห 43 คะ แบงค์ที่เราไปไถ่ถอนนี้ จะเอาให้ได้ แถมเอาเยอะๆด้วยค่ะ ไม่งั้น"แบงค์เสียประโยชน์" ถ้ามีตามระเบียบแบงค์ชาติ ทำไมเค้าก็ยังทำ ยังเก็บกันอยู่ ทำอะไรไม่ได้เลยนะคะ จะให้ลูกค้าแต่ละรายไปเรียกร้องก็คงไม่ไหว มันรายยิบรายย่อย ทางที่ดี แบงค์ชาติน่าจะออกมาตรวจสอบแบงค์ทุกแบงค์ซะ จะได้รู้ว่ามันเป็นแบบนี้กันหมด จากคุณ : daoneung เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 53 07:02:52