ความคิดเห็นที่ 1 กรณีนี้น่าเป็นกรณีตัวอย่างครับ จากคุณ : ดอกนางแย้ม เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 07:39:45

ความคิดเห็นที่ 2 ข่าวลือว่า LPN พระรามแปดก็มีกรณีเช่นนี้เหมือนกัน จากคุณ : Toom-bs เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 08:32:44

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นในทั้ง 2 ฝ่าย กรณีนี้ต้องอัดโครงการ โหวตค่ะ จากคุณ : ลีลาวดีแสนสวย เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 10:21:36

ความคิดเห็นที่ 4 แล้ว Hive ตากสิน จะเป็นอย่างนี้มั๊ยเนี่ย ซื้อที่เปิดทางออกมาเหมือนกัน เป็นกรณีเดียวกันรึเปล่าคะ จากคุณ : I-AM-KIM เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 11:02:04

ความคิดเห็นที่ 5   ฟ้องศาลไปแล้ว ตัดสินไม่ยากหรอกครับ หากชาวบ้านใช้มานานเกินกว่า 10 ปี ก็ตกเป็นภาระจำยอม ต้องเปิดให้ชาวบ้านใช้ หากใช้มาไม่ถึงก็เป็นสิทธิของเจ้าของที่ดิน หากชาวบ้านไม่มีทางออกทางอื่นได้ ก็ถือเป็นทางจำเป็น ต้องเปิดทางให้ชาวบ้านใช้ โดยกำหนดขอบเขตที่เหมาะสม หากจะอลุ้มอล่วยกัน กังวลเรื่องความปลอดภัยก็วางมาตรการต่างๆ ติดกล้องวงจรปิดอะไรก็ว่าไป หรือทำรั้วแบ่งสัดส่วน จากคุณ : ทนายบี (หวังดีกะเพื่อน) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 11:11:24

ความคิดเห็นที่ 6 เท่าที่มีข้อมูล ชาวบ้านมีทางออกที่อื่น และโฉนดที่ดินจดเป็นส่วนหนึ่งของนิติบุคคลอาคารชุดแล้ว คงเหลือแต่ประเด็นพิสูจน์การครอบครองแบบปรปักษ์แบบเกิน 10 ปีรึป่าว จากคุณ : vicc เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 11:50:33

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณทุกท่านครับ 2,000-3,000 กว่าชีวิตที่ ใช้ประโยชน์ประจำวันกับที่ดินแห่งนี้ มากกว่า 5,000 ชีวิต ที่ต้องใช้เส้นทางนี้สัญจรเป็นประจำ มากกว่า 10,000-100,000-1,000,000 ที่รอความหวังว่า บทสรุปของปัญหา คืออะไร เพื่อเป็นกรณีศึกษาในการพิจารณาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การเลือกซื้อโครงการ และชีวิตความเป็นอยู่ของคนรอบข้างโครงการ ขอบคุณทุกท่านที่สนใจ เห็นใจ และเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายครับ จากคุณ : rfu เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 12:15:02

ความคิดเห็นที่ 8 ณ ช่วงเวลานี้ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง Hive ตากสิน ค่อนข้างรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่า หลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ Hive ตากสิน จะเป็นอย่างไร บริหารจัดการอย่างไร ยังไม่ทราบครับ ขอขอบคุณ จากคุณ : rfu เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 12:20:41

ความคิดเห็นที่ 9 ติดตามข่าวนี้มาบ้างเหมือนกันค่ะ ดูเหมือนว่าทางโครงการจะซื้อเวลาแล้วโยนลูกให้ชาวบ้านกับชาวคอนโดจัดการกันเอง  อยากให้จบลงด้วยดีทั้ง 2 ฝ่ายจัง จากคุณ : บะหมี่เกี๊ยวและข้าวมันไก่ เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 12:36:44

ความคิดเห็นที่ 10   เข้ามาสงสัย ถ้าเกิดชาวบ้านมีทางออกทางอื่นด้วย รวมทั้งทางนี้ แต่ตอนนี้ ชอบออกทางนี้มากกว่า เพราะโครงการทำถนนไว้อย่างดี สวยงาม แล้วเข้าออกทางนี้มาเกิน10ปี เขาสามารถครองครองปรปักษ์ได้หรือคะ จากคุณ : FFAS เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 14:48:42

ความคิดเห็นที่ 11 คำตอบ http://www.prakard.com/Default.aspx?g=posts&t=190877&p=15 จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 16:12:41

ความคิดเห็นที่ 12   ผมอ่านคำตอบของแม่น้องอะตอมแล้วครับ (คร่าวๆ แต่ก็พอเข้าใจ) คือประมาณว่า 1. ลูกบ้านโครงการต้องการให้ปิดเส้นทาง (เพื่อความปลอดภัย) 2. ชาวบ้านแถวนั้นต้องการให้เปิดเส้นทาง (เพื่อความสะดวก) ผมเห็นมีคำตอบหนึ่ง จะบอกคร่าวๆ แล้วกันนะครับ ชุมชนจะฟ้องลูกบ้านและนิติ แต่นิติก็ต้องไปฟ้องต่อกับบริษัทแม่ผู้สร้างคอนโด ดังนั้น ลูกบ้านและชาวบ้านมารวมหัวกันฟ้องเลยดีไหม ความเห็นนี้ ผมก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง ไม่ควรฟ้องที่ปลายเหตุ ผู้ไม่เข้าใจ คือ ลูกบ้าน และนิติ แต่ควรฟ้องไปยังบริษัทแม่ซึ่งเป็นต้นเหตุ มิฉะนั้น ก็จะเป็นปัญหาคาราคาซังระหว่างลูกบ้านกับชาวบ้านแถวนั้น บริษัทแม่ก็รอดตัวไป (ประมาณว่าหนีห่างจากเรื่อง ไปจัดการเอง ไม่สน ขายคอนโดใหม่ต่อดีกว่า) จากคุณ : nutms เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 17:55:38

ความคิดเห็นที่ 13 ชาวบ้าน ใช้ทางนี้มานาน 10 ปี ต้องการให้เปิดเส้นทางสัญจร เพราะความสะดวก หมายความว่ามันมีทางออกอื่นอีก แต่ว่าไม่สะดวกเหรอครับ น่าคิดนะครับ ถ้ามันเป็นของโครงการก็ควรจะให้ลูกบ้านจริงๆนั่นแหล่ะ แต่ไม่รู้ว่าในทางกฎหมายจะออกมาอย่างไร จะว่าไปก็สงสารชาวบ้านอยู่นะ ลองคุยกันดีๆอย่าฟ้องกันเองเลยครับ จากคุณ : Mr.Quiet เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 20:35:22

ความคิดเห็นที่ 14 โครงการต้องรับผิดชอบมากที่สุดครับ จากคุณ : naipui เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 21:53:38

ความคิดเห็นที่ 15 ข้อสังเกต เสริม **ฝ่ายชุมชน** การเรียกร้องของชาวชุมชน มิใช่เพื่อใคร แต่เพื่อความถูกต้องในสังคม... เพื่อเป็น กรณีตัวอย่าง ที่ดี ในการต่อสู้กับระบบนายทุน กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน หากเกิดเหตุไฟไหม้ "รถดับเพลิง" สามารถเข้า พท. โดยสะดวกหรือไม่? หากเกิดเหตุผู้ป่วยฉุกเฉิน "รถพยาบาล" สามารถเข้า พท. โดยสะดวกหรือไม่? หากเกิดเหตุประทุษร้าย "เจ้าหน้าที่ตำรวจ" สามารถเข้า พท. โดยสะดวกหรือไม่? ปัจจุบัน คณะกรรมการ มติของ นิติบุคคลอาคารชุด อาจพิจารณาให้เปิดทางชั่วคราว แต่ไม่ใช่เครื่องรับประกันในอนาคต ว่า 1) นิติบุคคลอนาคารชุด จะมีนโยบายปิดประตู เกิดขึ้นอีกเมื่อไร 2) หากเกิดเหตุ จนท.รัฐ เข้าระงับเหตุไม่ทัน อันเนื่องมาจาก 2.1) ลูกกุญแจอยู่ที่หัวหน้า แต่พอดีวันเกิดเหตุ หัวหน้าไม่อยู่ในสถานที่นั้นๆ 2.2) ต้องรอคำสั่งจาก หัวหน้าก่อนถึงจะเปิดประตูได้ 2.3) ต้องรอการอนุญาตให้เปิดประตู เป็นรายกรณีๆ ไป หากระงับเหตุไม่ทันท่วงที่ ใครคือคนรับผิดชอบ กับ ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สิน ใครจะกล้ายอมรับกับ โศกนาฎกรรม ที่เกิดขึ้น จากคุณ : rfu เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 00:17:37

ความคิดเห็นที่ 16 ข้อสังเกต เสริม **ฝ่ายลูกบ้าน** หากศาล มีคำสั่งให้เปิดถนนเพื่อการสาธารณะ ที่ดินดังกล่าวจะเป็นของนิติบุคคลอีกหรือไม่? หากไม่เป็นเช่นนั้น อาจถือได้ว่า ตัวอาคาร สูง 40 ชั้น 1) ระยะถอยร่น Setback รอบโครงการ ไม่เป็นไปตาม กม. พรบ.ควบคุมอาคาร และ พรบ.อาคารชุด พ.ศ. 2522 หรือไม่? 2) แบบขออนุญาตก่อสร้าง ที่ได้รับการอนุมัติ ไม่ตรงกับสภาพพื้นที่จริงในปัจจุบัน -จนท.รัฐ มีอำนาจแจ้งแก่ผู้ยื่นขอ เพื่อแก้ไขให้เป็นไปตามแบบที่ขออนุญาต หรืออาจยกเลิกการอนุญาตแบบ....นั้นแสดงว่า อาคารดังกล่าว ไม่ชอบด้วยกฎหมาย- ลูกบ้าน จะทำอย่างไรต่อไป?? ใครควรเป็นผู้รับผิดชอบ?? ซึ่ง ณ ขณะนี้ กระบวนการยุติธรรม ได้เกิดขึ้นแล้ว จากคุณ : rfu เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 00:30:18

ความคิดเห็นที่ 17 2,000-3,000 กว่าชีวิตที่ ใช้ประโยชน์ประจำวันกับที่ดินแห่งนี้ มากกว่า 5,000 ชีวิต ที่ต้องใช้เส้นทางนี้สัญจรเป็นประจำ มากกว่า 10,000-100,000-1,000,000 ที่รอความหวังว่า บทสรุปของปัญหา คืออะไร เพื่อเป็นกรณีศึกษาในการพิจารณาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การเลือกซื้อโครงการ และชีวิตความเป็นอยู่ของคนรอบข้างโครงการ ขอบคุณทุกท่านที่สนใจ เห็นใจ และเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายครับ จากคุณ : rfu   เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 12:15:02   ข้อสังเกต เสริม **ฝ่ายชุมชน** การเรียกร้องของชาวชุมชน มิใช่เพื่อใคร แต่เพื่อความถูกต้องในสังคม... เพื่อเป็น กรณีตัวอย่าง ที่ดี ในการต่อสู้กับระบบนายทุน --------------------------- โอ้..เยอะนะครับ --  64 หลังคาเรือน มีคนเกี่ยวข้องเข้าซอยนี้ มากขนาด  2,000 - 5,000 ชีวิต   --  ที่โพส ที่ฟ้อง ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของชุมชน หรอกเหรอครับ คุณเขียนว่า เพื่อความถูกต้อง ในสังคม       รบกวน หาความถูกต้องให้ลูกบ้าน 600 ห้อง ด้วยนะครับ   เพราะเขาก็คือ คนในสังคม เหมือนกัน   สงสารพี่สาว ซื้อที่นี่เอาไว้ด้วย   เท่าที่อ่าน คุณน่าจะเป้นตัวแทน หรือเป็นทนาย ของทางฝ่ายชุมชน ใช่ไหมครับ จากคุณ : reach target เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 01:06:20

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ reach target.... คุณ และผม ต่างก็เป็นสมาชิก ชาว Pantip เหมือนกัน เพื่อความสบายใจจะขอให้ข้อมูลเบื้องต้น... ****"64 หลังคาเรือน มีคนเกี่ยวข้องเข้าซอยนี้ มากขนาด  2,000 - 5,000 ชีวิต" ปริมาณข้อมูลที่แจ้ง เป็นการประมาณการจาก 1) ฐานข้อมูลจำนวนประชากรในพื้นที่ 2) การประกอบอาชีพอุตสาหกรรมขนาดย่อมในครัวเรือน 3) การประกอบกิจการประเภทอื่นที่ต้องพบปะกันในการสัญจรถนนเส้นนี้ 4) บุคคลอื่นที่เข้าพื้นที่เพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่ง (หาบเร่ ไปรษณีย์ พ่อค้า จยย.รับจ้าง ฯลฯ) 5) บุคคลอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมา ****"รบกวน หาความถูกต้องให้ลูกบ้าน 600 ห้อง ด้วยนะครับ   เพราะเขาก็คือ คนในสังคม เหมือนกัน"   คนในสังคม นิยามของผม หมายถึง ทุกคนที่อยู่ในสังคม อาทิเช่น ชาวชุมชน ลูกบ้าน ผู้ใช้รถใช้ถนน พ่อค้า หาบเร่ ไปรษณีย์ คนเก็บขยะ ทุกคนในสังคม ควรมีสิทธิ์ เสรีภาพ หน้าที่ และความรับผิดชอบ ตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละคนแต่ละฝ่าย และควรรักษาสิทธิ์ รักษากฎหมาย รักษาความยุติธรรม เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในสังคม เท่าที่ผมเป็นห่วงมาก คือ ลูกบ้านและชาวชุมชน จะมีมาตรการใดต่อไปอย่างไร 1) หากอาคารไม่ถูกต้องตามแบบที่ยื่นขออนุญาต และเจ้าหน้าที่รัฐบังคับใช้กฎหมาย 2) คำพิพากษาของศาลถึงที่สุด (อาจจะ เปิด หรือ ปิด) ที่ดินข้อพิพาทย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของใคร (นิติบุคคลอาคารชุด, ของหลวง, ของชาวชุมชน) (ไหนจะต้องเจอค่าส่วนกลาง กำแพงอัตราดอกเบี้ย ปัญหาความเพียงพอของที่จอดรถ ความลักลั่นของโครงการ และข้อพิพาททางกฎหมายกับหลายฝ่าย) ****"สงสารพี่สาว ซื้อที่นี่เอาไว้ด้วย" ผมสงสารทุกคน ทุกฝ่าย ครับ เจ้าของโครงการ VC ผู้ถือหุ้น ลูกบ้าน ชาวชุมชน ผู้ใช้รถใช้ถนน เจ้าหน้าที่รัฐ ทนายความ และผู้เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม ****"เท่าที่อ่าน คุณน่าจะเป้นตัวแทน หรือเป็นทนาย ของทางฝ่ายชุมชน ใช่ไหมครับ" ผมไม่ใช่ตัวแทนหรือเป็นทนาย ของทางฝ่ายชุมชน แต่อย่างไร ผมเป็นคนละแวกวงเวียนใหญ่ (ถ้าใกล้มาหน่อยก็แถวลาดหญ้า) คลองสาน เติบโตอาศัยอยู่ในพื้นที่คลองสานมานานมาก เห็นการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ต่างๆ รอบเขตคลองสานได้ดีพอสมควร---ตอนเด็กชอบขี่ จักรยาน เล่นไปทั่ว บางครั้งวิ่งไปไกลถึงย่านสนามหลวง เยาวราช แต่เท่าที่ทราบข้อมูล Update เนื่องจาก มีความจำเป็นต้องเดินทาง ผ่านเส้นทางข้อพิพาท ค่อนข้างบ่อย และเป็นประจำอย่างต่อเนื่องมานานมาก (ไมได้มีที่พักอาศัย ญาติพี่น้องในซอยนี้) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 จนถึงปัจจุบัน และอีกนัยหนึ่ง อาจกล่าวได้อย่างเต็มปากว่า ผมเอง "ไม่ใช่ชาวชุมชน" แต่ก็ก็ถือได้ว่าเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการปิดถนน และอาจจะหาโอกาสเรียกร้องสิทธิ เสรีภาพ ในการสัญจร บนทางสาธารณะแห่งนี้ในคราวต่อไป ผมมองว่า การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร สถานการณ์ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นข้างต้น อาจจะเป็นแง่มุม แง่คิด ให้แก่ ผู้สนใจที่จะพิจารณาเลือกโครงการในโอกาสต่อไป จะได้ไม่เกิดปัญหาข้อพิพาทเช่นนี้อีก เจตจำนงค์ของผม มีแค่นี้จริงๆๆ ครับ ผมเชื่อในมิตรภาพความเป็นสมาชิกของชาว Pantip ครับ ปล. ปัญหามีไว้ให้แก้ไข....หาทางออกที่ดีที่สุดของทุกฝ่าย ขอขอบคุณ จากคุณ : rfu เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 02:22:42

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยทุกประเด็นครับ ยกเว้นบางประเด็นที่จะดูเวอร์ไปนิดนึง เหมือนการลงพาดหัวข่าวในนสพ. ผมอยากให้ออกมากลาง ๆ นิดนึง 1. ขอเป็นความรู้หน่อยครับว่า 2000-5000 ชีวิต จาก 64 หลังคาเรือน คิดอย่างไรครับ ข้อมูลสถิติกรุงเทพฯ เขตคลองสาน มีประชากร 42,615 คน 8,290 หลังคาเรือน BRT ที่ใช้กันฟรีอยู่ วิ่งยาวตั้ง 15 กม.จากกลางสาทร พระราม 3 ฝั่งธน ปัจจุบันมีคนใช้แค่ 10,000 คน 2. คนทั่วไปจำเป็นผ่านเส้นทางนั้นเพราะอะไรครับ ? ผมจะซื้อคอนโดบริเวณนี้เคยเข้าไปดูเส้นทาง มันผ่านแต่กลางชุมชน ไม่ได้เป็นทางสาธารณะหรือทางลัด ไม่น่ามีใครใช้งาน (ยกเว้นคนที่จะเข้าไปติดต่อกับชุมชน ซึ่งมันก็มีทางเข้าอีกทาง) 3. อยากให้ยกประเด็นโครงการอื่น ๆ ด้วยครับ ผมว่าปัญหานี้ปัจจุบันเกิดขึ้นหลายที่มาก ทั้งบ้านจัดสรร คอนโด ฯลฯ เพื่อให้เกิดประโยชน์ที่สุดครับ ตัวอย่างเช่น LPN ตั้งหลายโครงการ หมู่บ้านจัดสรร แถวรอบนอกก็มีปัญหานี้เป็นจำนวนมาก แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 08:35:35 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 08:03:34 จากคุณ : ผู้บริโภค (VERAPONT) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 07:58:00

ความคิดเห็นที่ 20 มันออกทางซอยวัดทองเพลงได้ไม่ใช่หรอครับ ซอยกรุงธนบุรี 5 น่ะ จากคุณ : ทาสเทคโนโลยี เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 11:23:48

ความคิดเห็นที่ 21 คอนโดของศุภาลัยที่พหล 21 ก็เคยมีปัญหานี้ครับ เพื่อนผมอยู่คอนโดดังกล่าว ตอนแรกเปิดให้ประชาชนใช้เป็นทางลัดได้ แต่ต่อมา ตอนจะปิด เกิดปัญหา ประชาชนร้องเรียน จนทุกวันนี้เหมือนเป็น ภาระจำยอมกลายๆ เพราะไม่สามารถปิดทางเข้าออกได้ จากคุณ : nuadd เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 11:24:38

ความคิดเห็นที่ 22   เราเข้ามาอ่านอีกครั้ง งงกับชุมชนนี้ อยากรู้ความจริงว่า ตกลงชุมชุนนี้มีทางเข้าออกอื่น หรือไม่ ถ้ามี ทำไมต้องมาเข้าออกทางนี้ เพราะที่ มบ.ตรงคอสะพาน มีบ้านอยู่1หลัง ด้านหน้าบ้านติดถนนลูกรังขรุขระ ด้านหลังบ้านติดคลองและสะพานนี้ ที่มบ.ทำรั้วปิดตรงคอสะพาน เพื่อความปลอดภัย เพราะการที่บ้านหลังนี้เอารถมาจอดตรงสะพาน แล้วปีนเข้าออกตรงคอสะพาน อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย แต่บ้านนี้เลื่อยรั้วออก แล้วปีนลงตรงคอสะพาน ซึ่งเป็นเขตของ มบ.เหมือนเดิม เขามีสิทธิมั้ย อันนี้เป็นการนึกเปรียบเทียบ เหตุการณ์นี้อาจจะไม่ยิ่งใหญ่ เป็นชุมชนหลายพันชีวิต แต่เราว่า ต้องพูดความจริง และยอมรับความจริงในขอบเขตของสิทธิที่แต่ละคนมี อย่าถือเอาจำนวนมากหรือน้อย มาละเมิดสิทธิของคนอื่น จากคุณ : FFAS เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:17:03

ความคิดเห็นที่ 23 เรื่องใหญ่จริงๆ และน่าจะเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจครับ ชาวบ้านและนิติบุคคลไม่น่าจะฟ้องกันหากต้องการต่อสู้กับนายทุน ทั้งสองต่างก็เป็นผู้เดือนร้อน ถึงแม้ว่า หากต่อสู้กันแล้วจะต้องมีเพียงคนเดียวที่ได้รับความเดือดร้อน กลายเป็น Developer ลอยตัวตลอดทุกทีสิน่า แบบนี้เมื่อไหร่คนไทยจะได้รับความเป็นธรรมล่ะครับ หากเราเรียกร้องความเป็นธรรมจากคนผิดคน?? จากคุณ : naipui เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:23:41

ความคิดเห็นที่ 24 ได้รูปมาจากกระทู้ในประกาศครับ คิดว่าที่มีปัญหาคือตรงวงแดง ส่วนทางสีน้ำเงินคือที่ชุมชนจะผ่านทางด้านหลังของโครงการ (ที่เจ้าของปล่อยไข่เอาไว้) สีเหลืองเป็นทางออกอีกทางหนึ่ง ไม่แม่นเหมือนคุณ rfu ไม่ใช่คนบริเวณนั้น ถ้าผิดช่วยแก้ด้วย เชียร์ๆๆๆๆๆให้สู้กับนายทุนครับ รวมถึงโครงการอื่นด้วย ใครมีปัญหาก็โพสต์ทิ้ง ๆ เอาไว้เลย จากคุณ : ผู้บริโภค (VERAPONT) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 20:29:13

ความคิดเห็นที่ 25 รูปไม่มา จากคุณ : VERAPONT เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 20:31:31

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ VERAPONT ข้อสังเกต (คห.19) คห. 18 น่าจะพอตอบข้อสังเกตได้บ้าง ตามภาพ 25 ถูกต้องครับ ถ้าปิดทางสัญจร จะเกิดปัญหาต่างๆ มากมาย คือ 1) การสัญจรด้วยรถยนต์ขนาดกลาง เมื่อวิ่งเข้าทางเส้นสีเหลือง-จรดรอยต่อเส้นสีน้ำเงิน แล้วจะออกไม่ได้ กลับรถไม่ได้ ต้องถอยหลังออกได้อย่างเดียว เพราะ อาคารในพื้นที่ ใช้ กม.เก่า ทำให้ไม่มีการเว้นช่วงตึกเพื่อกลับรถ ซึ่งจะเกิดแนวโน้มปัญหาการจราจร ปัญหาการกระทบกระทั่งการสัญจร ในอนาคต 2) จุดช่วงโค้ง เป็นจุดที่ไม่ได้มาตรฐานตามหลักวิศวกรรมการจราจร ทำให้การเข้า-ออก เส้นทางเหลือง จะลำบากมาก ปกติ คนที่ใช้รถใช้ถนน-กรณีรถยนต์ ขนาดเล็ก ที่ผ่านเส้นทางนี้ จะมี 2 ทางเลือกคือ ก) เข้าทางเส้นน้ำเงิน และออกทางเส้นเหลือง ข) เข้าทางเส้นเหลือง และออกทางเส้นน้ำเงิน ปัญหาที่ตามมาลึกกว่านั้น ที่หลายคนอาจมองข้าม ในพื้นที่กลุ่มชุมชน คือ ปัญหาการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น เหตุเพลิงไหม้ เหตุอาชญกรรม เหตุผู้ป่วยฉุกเฉิน (ในพื้นที่นี้มีผู้สูงอายุหลายท่าน) ซึ่งต้องใช้เส้นทางการจราจรในพื้นที่ โดยเร่งด่วน ทันต่อการณ์เพื่อระงับเหตุ การจราจร คือ ปัญหาสำคัญในอนาคต ถ้าหากปิดถนน (ซึ่งถ้าผมเป็นลูกบ้านหรืออนาคตอาจจะเข้ามาเป็นลูกบ้าน ก็มีความต้องการที่จะปิดถนน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน) ขออนุญาตยกตัวอย่าง 1) กรณี โครงการ อาคารพาณิชย์สร้างใหม่ ติดถนนกรุงธนบุรี BTS วงเวียนใหญ่ จะมีซอยถนนสาธารณะเชื่อมต่อซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 5 (ถนนเจริญรัถ-ป้ายรถประจำทาง-ทางสาธารณะ(ในซอยขายบะหมี่เกี๋ยว) -ซอย(ปากซอยมีธ.UOB) ถึงก่อนแยกกรุงธนบุรี-สมเด็จพระเจ้าตากสิน) 2) กรณี โครงการ The Seed/IDEO Sathorn-Taksin ซอยกรุงธนบุรี 1 จะมีถนนสาธารณะมุ่งสู่ โครงการ สาทร เรสซิเด้นซ์ คอนโดมิเนียม (Sathorn Residence Condominium) กรุงธนบุรี หรือ โครงการ Sathorn Place 3) กรณี โครงการ สาทร เรสซิเด้นซ์ คอนโดมิเนียม (Sathorn Residence Condominium) กรุงธนบุรี หรือ โครงการ Sathorn Place ทั้ง 2 โครงการอยู่รอบพื้นที่ชุมชน เมื่อหันหน้าเข้าโครงการ ด้านขวา จะมีถนนสาธารณะออกสู่ถนนเจริญนคร 14-จุด วัดทองเพลง, TITO complex ศูนย์กีฬาตีโต้ (เลาะแนวเขื่อน-คลอง) รถจักรยานยนต์, เดินทางเท้า รถเข็น ผ่านได้ ด้านซ้าย จะมีถนนสาธารณะออกสู่ถนนสาธารณะเชื่อมต่อซอยกรุงธนบุรี 1 ข้าง Condo-bkk:IDEO -สาทร-ตากสิน ติดBTSกรุงธนบุรี **โครงการนี้เป็นโครงการดี ต้องขอชม ทีมผู้บริหาร+ทีมสถาปนิก ที่เห็นปัญหาอนาคตที่อาจเกิดขึ้นกับชุมชน http://www.prakard.com/default.aspx?g=posts&t=118095 4) กรณี โครงการ Q House Condo Sathorn-Krungthonburi ริมโครงการจะมีถนนสาธารณะ (ถนนกรุงธนบุรี-ถนนระหว่างซอยเจริญนคร 14) 5) กรณีโครงการ The Bangkok Sathorn-Taksin - Thailand ด้านข้าง ถนนสาธารณะจะอยู่แถว สวนอาหาร นทีทิพย์ -โครงการ ถนนเส้นนี้ด้านหนึ่งออกสู่ถนนกรุงธนบุรี อีกด้านจะบรรจบท้ายซอยเจริญนคร 18 (ซอยคลองต้นไทร) ฯลฯ ทุกโครงการ จะมีถนนเชื่อมต่อ แต่ ไม่มีโครงการใดที่ปิดถนนสาธารณะ(ถนนดั้งเดิมที่ประชาชนใช้สัญจรมานานมากกว่า 10 ปี) ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือจำกัดสิทธิ ของประชาชน ผู้ใช้ทางสัญจร ให้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ลูกบ้าน อยู่กันอย่างมีความสุข เพราะ ทุกโครงการ เล็งเห็นปัญหาในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นจากข้อพิพาทในถนนสาธารณะ จึงทำการออกแบบแปลน ภายใต้ข้อจำกัดของพื้นที่ข้างเคียงโดยรอบ อาจด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ ภูมิทัศน์ หรือ ข้อกฎหมายต่างๆ ขาวบ้านใช้ทางสัญจรตามปกติ เหมือนเดิม (อาจรู้สึกแปลกๆ บ้างกับการเปลี่ยนแปลงในสภาพสิ่งแวดล้อมรอบด้าน--รถไฟฟ้ามาถึง, สิ่งแวดล้อมเปลี่ยน, การไล่ล่าที่ดินทำเลทองของนายทุน, การขยายตัวของประชากร, สภาพการจราจรที่ติดขัดมากขึ้น) ขาวบ้านได้แต่ แค่ "รู้สึกแปลกๆๆ" กับสังคมในการเร่งก่อสร้างคอนโด อาคารชุด ตลอดแนวรถไฟฟ้า (มาหานะเธอ) มาโดยตลอดเท่านั้น แต่ชาวบ้าน ไม่เคยเรียกร้อง หรือต่อต้าน กับ สิ่งแปลกๆ เหล่านี้เลย และสิ่งที่ประหลาดใจที่สุดในชีวิต คือ ข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงที่คาดเคลื่อนไม่ตรงกัน แต่ก็ไม่ได้รับการประสานความร่วมมือ จนกระทั่ง...พ.ศ. 2553 วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553 เกิดเหตุการณ์ ปิด/เปิด ประตู กั้นทางสาธารณะ ระหว่างโครงการกับชุมชน กันในสังคม บางโครงการ มีนโยบาย หนัก กว่านี้ เช่น http://ballmdr.wordpress.com/2009/07/24/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%82/ ปล. ถนนสาธารณะ หมายถึง ถนนที่ประชาชนใช้สัญจรด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งเป็นประจำมานานมากกว่า 10 ปี วิธีการใดวิธีการหนึ่ง หมายถึง การเดินทางเป็นประจำผ่านเส้นทางเป็นประจำ เช่น คลาน ล้อเลื่อน รถเข็น เดินเท้า รถจักรยาน รถจักรยานยนต์ รถยนต์ ฯลฯ ขอขอบคุณ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 53 22:14:40 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 14:23:14 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 23:14:38 จากคุณ : rfu เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:05:31

ความคิดเห็นที่ 27 ... การมีทางออกอื่นได้ ไม่เป็นสาระสำคัญครับ ดูที่อายุความเรื่องภาระจำยอมครับ ว่าถ้าถึง 10 ปี ก็จะเกิดภาระจำยอมในที่ดินที่เป็นถนนดังกล่าว จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:26:12

ความคิดเห็นที่ 28   แต่ละคนที่เขียน คนที่เกี่ยวข้องกับคอนโดนี่เอาเหตุผลเข้าข้างตัวเองตลอดเลยนะครับ ผมไม่ค่อยรู้รายละเอียดมากนัก แต่พอเข้าใจถึงทางออกได้ ผมเขียนไปข้างบน ทางออกที่ดีที่สุดคือ ฟ้อง Developer เพราะเขาเป็นผู้สร้างคอนโด และผู้สร้างปัญหาโลกแตกนี้ ไม่ใช่ว่าคนในชุมชน ลูกบ้านหรือนิติจะทะเลาะกันเอง Developer ก็รอดตัวซะทุกที โยนปัญหาให้คนอื่น ขายคอนโดต่อ ผมคิดว่านะ ลูกบ้านหรือผู้เกี่ยวข้องคอนโดไม่ใช่วันๆ ใส่ร้ายป้ายสีชาวบ้าน หาว่าเขาเห็นแก่ตัว ผมว่าคุณก็คนหนึ่งล่ะที่เห็นแก่ตัว ควรรวมหัวไปฟ้อง Developer นี่ล่ะครับ ทางที่ดีที่สุด เพราะเขาคือต้นเหตุ แต่คุณคือผู้รับสภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าคุณคิดกันอยู่แต่ว่าจะใส่ร้ายป้ายสีชาวบ้าน (หรือชาวบ้านคิดว่าลูกบ้านผิด) มันก็ยืดเยื้อต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด และคุณ Mr. Fusion ก็พูดถูก ทางออกอื่นก็มี แต่มันไม่ใช่ประเด็น พวกคุณพยายามเอาเรื่องทางออกอื่นมาอ้าง เพื่อได้สิทธิในที่ดิน มันไม่สมควรนะครับ จากคุณ : nutms เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 13:25:11

ความคิดเห็นที่ 29   เพิ่งรู้ว่า มีหรือไม่มีทางออกอื่นก็ไม่เกี่ยว เดี๋ยวต้องไปดูของมบ.ตัวเองซะแล้ว เพราะถ้าปล่อยให้เขาเดินเข้าออก ครบ10ปี ถนนส่วนบุคคล ก็จะกลายเป็นถนนส่าธารณะได้ (จริงหรือนี่ ) จากคุณ : FFAS เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 14:03:27

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณมากครับ คุณ rfu คำตอบของคุณ  ทำให้ผมสบายใจมากขึ้น และน่าจะรวมถึงอีกหลายคนด้วย ทางชุมชน  ทำอะไรเพิ่มเติม รบกวน เข้ามา อัพเดท ด้วยนะครับ จะติดตาม ... จากคุณ : reach target เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 23:27:00

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าผมเป็นลูกบ้าน ผมก็คาดหวังเรื่องความปลอดภัย ความสวยงาม เหมือนกัน ราคาต่อตารางเมตร ค่อนข้างสูง (ยอมซื้อแพงแล้ว "ไม่ปลอดภัย" ก็ย่อมน่าคิดน่ากังวลเป็นธรรมดา) ปัญหาสำคัญ น่าจะมาจาก "การสื่อสารที่ไม่ชัดเจนของโครงการ" และ "การบริหารจัดการโดยมิได้ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมรอบโครงการ" ทำให้ เกิดผลกระทบต่อทั้งสองฝ่าย และเชื่อว่า ณ ปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ ก็จะเกิดกรณีพิพาทลักษณะใกล้เคียงกัน ในอีกหลายพื้นที่ หลายโครงการ ฉะนั้น ถ้า "ทุกฝ่าย" หาแนวทาง "ขจัดข้อพิพาทและหาทางออกของปัญหา" ที่ดีที่สุด ทุกฝ่าย (Win Win Situation) ผมว่า สังคมซอยกรุงธนบุรี 5 (VS+ชุมชน+ผู้ใช้รถใช้ถนน) ก็จะเป็นสังคมตัวอย่างที่น่าอยู่แห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ปล. ในเมื่อเกิดผลกระทบทางลบขึ้น (ไม่สามารถย้อนเวลาได้) ก็ควรทำให้เป็นผลกระทบทางดีบ้าง นั่นคือ Case Study เพื่อเป็นตัวอย่างให้คนที่เกี่ยวข้อง (ผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้สร้าง ผู้ออกแบบ ผู้อยู่อาศัยรอบข้าง) ต่อไปในอนาคต ขอขอบคุณทุกความคิดเห็น จากคุณ : rfu เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 22:38:45