|
ความคิดเห็นที่ 4 |
ขึ้นอยู่กับราคาครับ
กลุ่มจีนแดงถูก ๆ ก็มีสิทธิ์ดังได้ครับ เคยเห็นข้างๆบ้านใช้ของ จีนแดงหรือใต้หวัน ชุดละ 2 หมื่น พร้อมบริการ ขี่มอเตอร์ไซด์มาดูให้ที่บ้าน หากเกิด Alarm แต่มันดังทั้งวัน จนชาวบ้านเลิกสนใจ
หากซื้อที่ราคาสูง มีมาตรฐาน เช่น BOSCH , MAXWELL , ROKONET หรืออีกหลายๆยี่ห้อ ทั้งจาก ออสเตรเลีย แคนนาดา หรือกลุ่มยุโรป ผมจำชื่อยี่ห้อไม่ได้ ล้วนแต่ไม่มีปัญหากับ กลุ่ม จิ้งจก หรือหมา แมว หรอกครับ
ตัวจับความเคลื่อนไหว จะมีหลายแบบ หลักๆ คือ 1. แบบจับความเคลื่อนไหวอย่างเดียว อาจจะวัดอุณหภูมิด้วย หรือไม่วัดก็ได้ แต่เมื่อจับสัญญานได้แล้ว จะส่งสัญญานไปบอก ตัวเครื่องหลัก ให้ประมวลผล เพื่อจะสั่งให้เครื่อง Alarm แบบนี้ ตัวตรวจจับแบบ อินฟาเรด จะราคาไม่แพงมาก ผมคิดว่าไม่น่าจะเกิน 1000 บาท (ไม่แน่ใจเพราะไม่เคยใช้)
2. ตัวจับความเคลื่อนไหวและวัดอุณหภูมิ ในตัว แบบนี้ ราคาสูง ประมาณ 3500 บาทต่อตัว ขึ้นไป ข้อดีคือ มีสมองในตัวเอง สามารถวิเคราะห์ สิ่งที่จับได้ว่า เป็นคนหรือไม่ ส่วนใหญ่จะออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้ในบ้านที่เลี้ยงสัตว์ได้ เช่น ของที่ผมใช้อยู่ ตาม Spec บอกว่า สามารถเลี้ยงแมวในบ้านได้ 9 ตัว หรือ หมาตัวใหญ่ๆ ได้ 3 ตัว ก็หมายความว่า มันจะรู้ว่า สิ่งที่วิ่งผ่านไปนั้นเป็นหมาหรือแมว เพราะอุณหภูมิของหมาจะอยู่ที่ 38.1-39.2 องศาC ซึ่งสูงกว่าคน (แมวผมไม่รู้นะ)
ถ้าถามว่าจิ้งจกดังไหม คำตอบคือ ของแพงๆ จิ้งจกไม่มีปัญหาครับ
แต่ตัวจับสัญญานที่ดี ไม่ควรทะลุกระจกออกมาจากบ้านได้นะครับ ไม่งั้น เพื่อนบ้าน มาเดินผ่านในสวนบ้านเขา แล้วดัง แบบนี้ ก็ใช้ไม่ได้ครับ
การที่ตัวจับความเคลื่อนไหว มีสมองกลเป็นของตัวเองนั้น ข้อดีก็คือ แต่ละตัวตัดสินใจได้ทันที ว่าขโมยเข้าบ้านหรือไม่ รุ่นใหม่ๆ เดี๋ยวนี้เป็นแบบไร้สายทั้งหมด การส่งข้อมูลว่าขโมยเข้าบ้าน จะกระทำเพียงครั้งเดียว แล้วตัวแม่จะทำงานด้วยตัวเอง หากขโมยทุบ ตัวจับความเคลื่อนไหวพังไป ตัวแม่ก็ยังดังอยู่ดี และตัวแม่ยังรู้ด้วยว่า ตัวลูกขาดการติดต่อไปแล้ว
การจัดวางตำแหน่ง ของตัวแม่ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะ หากขโมยมีความรู้เรื่องเหล่านี้ จะโจมตีที่ตัวแม่ก่อน เพราะหาก ตัดสายโทรศัพย์ออก หรือ ปลดแบตเตอรี่สำรองออก ตัวแม่ก็ทำงานไม่ได้แล้ว บางยี่ห้อ เป็นพลาสติกไม่แข็งแรง เน้นสวยงาม บางยี่ห้อ เป็นตู้เหล็ก เน้นความแข็งแรงในการทุบทำลาย หรือเอาไปเก็บไว้ในตู้รวมไฟฟ้าของบ้านก็มี อันนี้แล้วแต่การเลือกใช้งาน
สิ่งสำคัญคือ 1. สายโทรศัพย์ที่ต่อจากหน้าบ้าน ควรยกให้สูงสุด เท่าที่จะสามารถทำได้ ยอดเสาไฟเลยได้ยิ่งดี เพราะไม่งั้น ขโมยตัดสายโทรศัพท์หน้าบ้าน ก็ไม่สามารถโทรหาเจ้าของบ้านได้แล้ว หรือหากมีตัง ใช้ระบบ SIM มือถือ ก็หมดห่วงเรื่องนี้ไปได้
2. ตัวแม่ ควรจะติดตั้งให้สูงกว่าคนยืน เพราะมีโอกาสที่ขโมยจะทุบทำลาย จนสัญญานหยุดดัง โดยปกติ ขโมยเข้าบ้าน จะไปตัดไฟก่อน เพื่อตัดไฟจากระบบกล้องวงจรปิด แต่สัญญานกันขโมทย จะมีแบตเตอรี่สำรอง ใช้ไฟได้นานถึง 20 ชม และซ่อนไว้ในที่ ที่หายากสักหน่อย ปกติจะติดตั้งที่ชั้นสองของบ้าน แต่ไม่ควรติดตั้งให้โล่งเกินไปนัก
3. ตัวจับความเคลื่อนไหว แม้ว่ามันจะสามารถจับได้ดี แต่หากขโมยเอาน้ำราดตัวเอง ก่อนเข้ามา ก็จะจับไม่ได้เหมือนกัน บางครั้งต้องใช้เวลาถึง 1 นาที กว่าจะรู้ว่า มีคนเข้ามา และการจับความเคลื่อนไหว หากขโมยเอากล่องกระดาษแผ่นใหญ่ๆ บังไว้ ก็จับไม่ได้เหมือนกันครับ จึงควรติดตั้งให้ตัวจับ สามารถดักจับได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังขโมย คือบังทางนึง ก็จับได้อีกทางนึง ให้สอดประสานกัน
4. ควรติดตั้ง Stay Mode คือ โหมดอยู่บ้านไว้ด้วย เพราะหากเราอยู่ข้างบน เราเปิดให้สัญญานทำงานแต่ข้างล่างได้ หรือเราอยู่ข้างล่าง ก็เปิดแต่ข้างบนได้ เพราะบางทีเราอยู่คนเดียว
5. ประตูห้องนอน ควรล๊อคก่อนนอนทุกครั้ง ใส่กลอนได้ยิ่งดี บ่อยครั้งที่ขโมยเข้ามาเดินในห้องนอน และหยิบของมีค่าไป โดยที่เจ้าของบ้านหลับก็มี หรือหากเจ้าของบ้านเป็นผู้หญิงอยู่คนเดียวยิ่งอันตราย
6. ออกจากบ้าน ไม่ต้องล๊อคห้องนอน หรือลิ้นชัก เพราะหากขโมยเข้าบ้านจริงๆ มันจะงัดจนประตู หรือตู้พังหมด ต้องมานั่งซ่อมกันอีก เสียเงินสองต่อเลย
7. ของมีค่า ไม่ควรเก็บในที่ ที่ขโมยชอบรื้อ เช่น ตู้ ลิ้นชัก หากไม่อยู่บ้าน ควรเก็บของมีค่า ในที่ ที่ขโมยคิดไม่ถึง เช่น ในครัว ในหม้อข้าว ในตะกร้าผ้าที่ยังไม่ได้ซัก หรือเอาผ้าขี้ริ้วทับเอาไว้ริมทางเดิน เฉพาะตอนที่ไม่อยู่บ้านนะครับ บางอย่างผมก็เก็บในตู้เย็น ใส่ถูงซิบเอาไว้ รวมกับผักผลไม้
8. อย่าหวังพึ่งกันขโมยอย่างเดียว ควรติดกล้องด้านนอกบ้านด้วย เอาเด่นๆ เห็นชัดๆ อย่างน้อยก็ช่วยปรามได้ระดับนึง
มีอีกเยอะครับ เล่าวันเดียวไม่จบ ตามไปอ่านใน blog แล้วกันนะครับ
แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 53 12:53:28
แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 53 12:04:27
จากคุณ |
:
พ่อน้องอิคคิว
|
เขียนเมื่อ |
:
24 มิ.ย. 53 12:02:59
|
|
|
|
|