ย้ายบ้านคิดกันให้ดีๆนะครับ
|
|
หลังจากใช้เวลากว่าครึ่งปีในการขายบ้าน-ย้ายบ้าน ผ่านความลำบากมากมาย จนมาอยู่บ้านใหม่กันได้ประมาณ 3-4 เดือน ตอนนี้จะขายแล้วย้ายกลับไปอยู่ที่เดิมกันแล้วครับ T_T
ตอนแรกผมกับแม่อยู่กันแถวห้วยขวางครับ แล้วจะย้ายกันไปแถวๆพุทธมณฑล (ถ.บรมราชชนนี) สาเหตุที่คิดจะย้ายกันตอนนั้นเพราะอยากให้น้องมาอยู่ด้วย (น้องอยู่แถวนั้นอยู่แล้ว) อยากมีบ้านเงียบๆ มีบริเวณปลูกต้นไม้อะไรงี้ ก็ดูๆกันว่าจะซื้อทาวน์เฮาส์ซักหลังนึง
ตอนนั้นอะไรๆก็มองกันในแง่ดีตลอด ไกลเหรอก็ไม่เท่าไรนี่ เหงาเหรอเดี๋ยวน้องก็มาอยู่ด้วยแล้วไง คิดถึงที่เก่าก็กลับไปเที่ยวได้นี่ ไม่ว่ามีอุปสรรคอะไรก็ให้กำลังใจกัน พูดกันในแง่ดีตลอด คำนึงที่น้องพูดแล้วผมยังจำได้เลยคือ"ดูคนอื่นเค้ายังอยู่กันได้ แล้วเราทำไมจะอยู่กันไม่ได้" ตอนนั้นเห็นด้วยกับน้องสุดๆ จนมาวันนี้ถึงรู้ว่าคิดผิดไปจริงๆ
แรกๆก็ยังไม่รู้สึกอะไร แต่พอแม่มาอยู่ได้ซัก 2 เดือนก็เริ่มทนไม่ไหว ชีวิตที่นี่กับชีวิตที่บ้านเก่ามันต่างกันอย่า่งสิ้นเชิง อะไรที่เคยพูดกันในแง่ดีไว้กลายเป็นทางที่พาตัวเองลงเหวแท้ๆ อยู่กันแล้วโครตเหงาเลย น้องก็บางที่ไม่อยู่หรือถึงอยู่ก็ไม่ค่อยช่วยอะไร ชีวิตเดิมๆหายไปหมด วันๆไม่รู้จะไปไหนกัน แม่ก็ไม่ค่อยมีเพื่อนคุย ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำ แต่ละบ้านอยู่กันเงียบมาก กลางวันร้อนๆก็ไม่เห็นใคร กลางคืนซักทุ่มนึงก็ปิดบ้านเงียบกันหมดแล้ว ไม่มีร้านค้า ไม่มีสถานที่ๆไหนจะให้ไป ที่น้องพูดว่า"คนอื่นเค้ายังอยู่ได้ แล้วเราทำไมจะอยู่กันไม่ได้"มันก็จริง แต่นั่นเพราะคนอื่นเค้าอยู่กันแบบนี้มาแต่แรกแล้ว ไม่ได้ย้ายมาจากห้วยขวางแบบเรามากกว่า
ถ้าใครพอรู้จักห้วยขวางคงจะรู้ว่ามันเป็นใจกลางเมืองที่คึกคักที่สุดที่นึงในกทม.เลย ผู้คน ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆมีกันตลอด 24 ชม. เดินทางก็สะดวก มีรถใต้ดิน ห้างไกล้ๆก็เพียบ มีตลาด มีที่ให้ไปเพียบ แต่ก่อนอยู่กันที่นั่นเพื่อนเพียบ ญาิติก็เยอะ ไปมาหาสู่กันสะดวกสุดๆ นึกอยากจะไปก็ไป แม่อยากไปตลาด ไปเที่ยวก็ไปได้สบายๆ มีอะไรให้แม่ทำเยอะมาก อยู่มาไม่เคยได้ยินคำว่าเหงาเลย ผมเองอยู่นู่นก็ไม่เหงา มีที่ให้ไป มีอะไรให้ทำเพียบ ดึำำกๆตีสองตีสามยังออกมากินข้าวประจำ คนก็ยังเยอะกันอยู่เลยแถวนั้น
พิมพ์มาอย่างเยอะเลย จะบอกว่าตอนที่คิดว่าทนกันไม่ไหวแล้วคือเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา น้องก็ไม่อยู่ ผมตื่นนอนลงมาเจอแม่นั่งกินข้าวอยู่คนเดียว แม่เหงาจนนั่งกินไปร้องไห้ไปไม่รู้ตัว T_T นาทีนั้นรู้สึกเลยว่าไม่ไหวแล้ว (วันรุ่งขึ้นมีคนมาเยี่ยมแม่เต็มเลย)
อะไรที่เคยคิดว่าดี คิดว่าโอเค คิดว่าไม่เป็นไร ตอนนี้มันกลับตารปัดกันหมดเลย คิดถึงบ้านเก่าสุดๆ ความวุ่นวายพลุกพล่านของผู้คนที่เคยคิดว่าตัวเองเกลียด ตอนนี้คิดถึงที่สุดเลย T_T แล้วก็จะประกาศขายบ้านที่อยู่ตอนนี้แล้วครับ ยังดีที่มีข้อดีหลายอย่างที่ทำให้กลับได้ ทั้งซื้อสดไม่ได้ผ่อน ต่อได้ถูกมาก บ้านเป็นหลังมุมมีข้อดีหลายอย่าง ขายได้เมื่อไรก็จะเอาเงินกลับไปซื้อบ้านอยู่แถวๆที่เดิม
หรือยังไม่ได้เดือนหน้าก็จะไปกันแ่น่นอนแล้ว ไปขออยู่กับญาิติก่อน แถวนู้นมีญาิติอยู่กัน 4 บ้าน แล้วแม่เป็นที่รักของทุกคนจะไปไหนทุกคนต้อนรับ อยากให้ไปอยู่ด้วยหมด ผมเองก็สนิทจนไปอยู่ได้สบายใจเหมือนอยู่บ้านตัวเอง อยู่ไปก่อนรอขายบ้านนี้ได้ค่อยซื้อบ้านของตัวเองอยู่อีกที สวนที่เคยช่วยกันจัดไว้ ต้นไม้ที่จะรอดูตอนโต ตอนนี้ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว T_T
เป็นการตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ของชีวิตเลย ดีที่ยังมีทางกลับไปได้ ตอนนี้แม่ก็โอเคขึ้นแล้ว ไม่เครียดแบบเมื่อก่อน ถ้าไม่มีทางออก ไม่มีทางกลับ ยังนึกไม่ออกเลยว่าตอนนี้จะเป็นยังไง T_T
ขอเล่าไว้เป็นประสบการณ์เผื่อคนอื่นนะครับ
จากคุณ |
:
ball0910400
|
เขียนเมื่อ |
:
30 ก.ค. 53 20:00:01
|
|
|
|