ความคิดเห็นที่ 1 ประโยคต่อไปนี้คือคำแนะนำจากวิศวกร ซึ่งผ่านมา แล้วก็ให้ความเห็นไว้ดังนี้ "จากที่ดูรู)ลักษณะของบ้านถูกการออกแบบ และได้ช่างที่ทำงานดี แต่อาจจะปล่อยปะละเลย หรือถือว่าอาจไม่สำคัญก็ได้ในส่วนที่เป็นฐานราก ซึ่งเข้าใจว่าสภาพดินมีความแข็งแรงสามารถออกแบบเป็นฐานแผ่ได้สบาย แต่การทำงาน ไม่รู้ว่าจะเสียดายทำไมแค่ไม้แบบ และ ปูนทรายหยาบปรับระดับก่อนลงเหล็กฐานรากจริงก่อนเทคอนกรีตจริง ในรูปใช้หลุมฐานรากเป็นแบบแทนการใช้ไม้แบบ ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายไปไม่ถึง หมื่นบาทหรอกครับรวมค่าแรงแล้วด้วย แต่ผลที่กระทบต่อฐานรากนั้นไม่สามารถประเมินได้เลยเพราะไม่สามารถควบคุมคุณภาพของคอนกรีตฐานรากได้เลย ตามที่ออกแบบ ซึ่งไม่เหมือนกับเหล็กเสริมที่ ยังไงคุณสามบัติไม่เปลี่ยน ต่างจาก คอนกรีตซึ่งหลังจากเทคอนกรีตไปแล้ว รับรองว่าน้ำภายในคอนกรีตจะถูกดินดูดซึมอย่างรวดเร็ว ทำให้คอนกรีตสูญเสียน้ำเร็วเกินไปการก่อตัวจะเร็ว ทำให้ความแข็งแรงคงทนจะลดลงตามไป ซึ่งผลเสียในระยะยาวไม่สามารถระบุได้ว่า จะเสียหายแบบไหน คงไม่ทรุดตัว แต่อาจมีการร้าวหรือรูพรุน ทำให้อากาศเข้าไปถึงเนื้อเหล็กเสาเกิดสนิม ลงผลให้เสาแตกได้ แล้วจากนั้น อะไรๆๆก็คงเป็นปัญหาที่ไม่สามารถหาต้นต่อได้ สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นทันทีทันใด แต่ระยะยาวมีโอกาสเกิดขึ้นสูง ดังนั้นการก่อสร้างควรพิถีพิถันเรื่องเล็กๆๆน้อยๆๆให้ดีครับ" อีกซักรูปนะครับ จากคุณ : คอบอล เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 20:28:37

ความคิดเห็นที่ 2 ตกลงว่าตามหลักวิชาการ กับงานฐานรากตามรูปที่แนบมาทั้งสองรูป มันยอมรับได้หรือไม่ครับ มันได้มาตรฐานงานก่อสร้างหรือไม่ ผู้สันทัดกรณี โปรดให้คำชี้แนะด้วยนะครับ จากคุณ : คอบอล เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 20:32:52

ความคิดเห็นที่ 3 เข้ามานั่งรอฟังด้วยคน จากคุณ : naytee เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 21:23:02

ความคิดเห็นที่ 4   ใครตอบได้ เก่งมากกกกกกกกกกก ตรวจสอบตามแบบโครงสร้างครับ ถ้าดูไม่เป็นใส่รูปให้เพื่อนช่วยดูได้ครับ จากคุณ : civil เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 21:33:22 A:129.13.72.198 X: TicketID:280906

ความคิดเห็นที่ 5 วิศวกรท่านนั้นได้พูดในฐานะวิศวกร ซึ่งพูดถูกแล้วครับ ถ้าจะอ้างอิงมาตราฐานงานก่อสร้างที่ดี ก็ควรจะเท Lean Concrete ก่อน และทำแบบ คุณภาพของคอนกรีตและระยะ Covering (ระยะที่คอนกรีตหุ้มเหล็ก เพื่อกันสนิม) ก็จะสามารถควบคุมได้ ทีนี้ผลจากการทำงานไม่ได้มาตราฐานจะเป็นอย่างไร สมมุติว่าฐานรากดังกล่าวเทด้วยแบบก่อสร้างอันหนึ่ง จะหนา 20 หรือ 30 ซม. ก็แล้วแต่ แล้วก็มีเหล็ก DB12 จำนวน 5 เส้น 8 เส้นก็แล้วแต่ กำลังความสามารถในการับน้ำหนักของฐานรากจะขึ้นอยู่กับ 1. กำลังของดิน ต่อให้โครงสร้างแข็งแรงแค่ไหน แต่การที่ฐานรากถูกกดจนเกินกว่าที่ดินจะรับได้ มันจะยุบลงไป 2. กำลังของโครงสร้างฐานราก กรณีนี้ เราพูดกันถึงเรื่องกำลังของโครงสร้างฐานราก ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความหนาของฐานราก ความแข็งแกร่งของเนื้อปูน และ การเสริมเหล็ก ตามที่วิศวกรท่านนั้นพูดมา ก็หมายความว่าการเทคอนกรีตที่ไม่ได้มาตราฐาน ทำให้กำลังความแข็งแรงของคอนกรีตลดลง ซึ่งจะทำให้ความแข็งแรงของโครงสร้างลดลงนั่นเอง จากคุณ : ภูผาฟ้าทะเล เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 22:07:58

ความคิดเห็นที่ 6 ตอบตรงคำถาม 1. งานฐานราก ในการสร้างบ้าน(ตามรูป) เป็นสิ่งถูกต้องหรือไม่? #ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาช่างครับ 2. ยอมรับได้หรือไม่? # ถ้าเป็นงานที่ผมควบคุม  ผมไม่ยอมรับครับ จากคุณ : Penguin Knight เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 22:19:32

ความคิดเห็นที่ 7 แต่จะยอมรับได้หรือไม่ ผมยกตัวอย่าง ถ้าทำตามมาตราฐาน รับน้ำหนักได้ 20 ตัน ทำดีบ้างไม่ดีบ้างรับได้ 15 ตัน ทำไม่ดีรับได้ 12 ตัน แต่เราใช้รับน้ำหนักบ้านปูนชั้นเดียว 8 ตัน หรือบ้านไม้ชั้นเดียว 2-3 ตัน พูดในฐานะวิศวกร ลงชื่อรับรอง ยอมรับไม่ได้ พูดในฐานะคนไทย ที่เห็นบ้านเมืองไทยเป็นอย่างนี้ มันก็เป็นวิถีของชาวบ้านเค้าละครับ ไปเปลี่ยนอะไรเค้าไม่ได้ ทีนี้ถ้าจะตอบตามคำถามของผู้ถาม ที่ต้องการงานที่มีมาตราฐานที่ดี ก็ต้องย้อนไปดูคำพูดของวิศวกรนั่นเอง แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 53 23:02:46 จากคุณ : ภูผาฟ้าทะเล เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 23:00:52

ความคิดเห็นที่ 8 ขอตอบแบบภาษาชาวบ้านนะครับ 1.การทำงานต้องดูจากสภาพหน้างานด้วยนะครับว่าทำไมต้องทำแบบนี้จากรูปที่ผมดูของคุณอิงสวนเนื่องจากรูปที่เอามาลงจะอยู่ต่างจังหวัดซะเป็นส่วน ใหญ่ต้องใช้ฐานรากแผ่เพราะตอกเข็มไม่ลงการขุดหลุมฐานรากจึงต้องลึกครับแล้วระยะห่างของแต่ละหลุมก็ไม่ห่างกันมากถ้าต้องใช้ไม้แบบต้องขุด หลุมแทบจะทั้งบริเวณบ้านออกหมดเลยนะครับลึกเป็นเมตรดินมหาศาลจะไปไว้ที่ไหนครับแล้วขนเข้ามาเก็บอีกแค่คิดปวดตับครับ 2.ในแง่ถ้าเราจะพูดถึงการควบคุมคุณภาพคอนกรีตจะไปยากอะไรครับระยะหุ้มปรกติ 5 ซ.ม.ก็ใช้ 7 ซ.ม.สิครับกลัวเรื่องคอนกรีตจะถูกดินดูดซึมน้ำ เร็วก็หาทางป้องกันครับโฟมก็ใช้ได้พลาสติกใสก็ได้ครับแล้วรดน้ำดินให้ชุ่มๆที่สำคัญอย่าลืมเทคอนกรีตก้นหลุมและเอาลูกปูนหนุนนะครับสำคัญมาก 3.ผมว่าที่สำคัญแล้วมองข้ามกันไปการแยกตัวของคอนกรีตครับหลุมลึกเป็นเมตรคนงานอีกร่วมสองเมตรเทสูงขนาดนี้หินกับคอนกรีตแยกตัวกันแน่นอน ควรควบคุมคุณภาพระหว่างเทด้วยครับและการเป็นโพรงเรื่องฟองอากาศอย่าลืมกันครับใช้เครื่องจี้คอนกรีตให้ดีหรือใช้เหล็กกระทุ้งก็ได้ครับ 4.อีกข้อเหล็กครับควรใช้เหล็กที่มีมาตราฐานอุตสาหกรรม(มอก.)เท่านั้นนะครับ 5.ถามผมถ้าผมคุมงานผมยอมรับได้ครับแต่ต้องมีวิธีการควบคุมคุณภาพคอนกรีตให้ดี  ระยะหุ้ม  การผสม  การเท  การไล่ฟองอากาศให้ดี แค่นี้จบครับหลับฝันดีแน่นอน 6.ใครสงสัยหลังไมค์ถามได้นะครับยินดีเสมอครับ จากคุณ : หมูเงิน ทรัพย์สิน เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 23:13:26

ความคิดเห็นที่ 9   ไม่อยากใช้ไม้แบบ พลาสติกก็มีนะครับ หรือวัสดุอื่นๆที่เหมาะสม ลดราคา แต่ไม่ได้ลดคุณภาพ ทำให้ดี และถูกต้องไม่ยากครับ ถ้าจะทำ จากคุณ : Arus_NU เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 23:14:17

ความคิดเห็นที่ 10 ตอบแบบวิศวกร ที่ลอกตำรามาทั้งดุ้น ไม่มีการคิดนอกกรอบ กับไม่รู้พฤติกรรมของวัสดุ ก็จะบอกว่า แบบในรูปใช้ไม่ได้ ต้องขุดหลุมกว้างกว่าเดิมอีกข้างละไม่น้อยกว่า 50 ซม. เพื่อลงไปทำงานให้ได้ระดับและจะได้รื้อแบบออกภายหลัง ปล่อยไม้แบบไว้เดี๋ยวมันจะผุแล้วดินยุบเอาน่ะ แต่หากผมเป็นคนคุมงาน แม้จะเป็น Inspector ทางฝ่ายผู้ว่าจ้างก็ตาม จะต้องพิจารณาความเหมาะสมของสภาพดิน ซึ่งในการทำฐานแผ่นั้น ดินต้องรับกำลังแบกทานได้ดี มีความแข็งพอควร ขุดแล้วสามารถคงสภาพบ่อได้ 2-3 วัน ก็ให้ผ่านได้ แต่ต้องประบระดับก้นหลุมโดยใช้ทรายเป็นตัวปรับระดับ วาง Spacer เพื่อหนุนให้เหล็กอยู่สูงมากพอที่เนื้อคอนกรีตด้านล่างหุ้มเหล็กได้เต็มที่ (ฐานแบบนี้ ความลึกประสิทธิผลที่เอามาใช้คำนวณในการรับแรงคือระยะจากศูนยฺกลางเหล็กเสริม ถึงผิวบนคอนกรีต ครับ) และการใส่เหล็กตะแกรงซึ่งก็ต้องใส่กันแบบนี้ ทั้งนั้น เพื่อให้จุดที่ใกล้โคนเสารับแรงได้ ห่างเสาออกมาแรงดัดน้อยลง แต่เหล็กและความหนาคอนกรีตยังคงเดิม มันก็ย่อม Over Design ก็ยอมๆ กันได้บ้าง แต่สิ่งที่ผมเน้น และค่อนข้างเข้มงวด ในงานเทคอนกรีตก็คือ ความข้นของคอนกรีต เพราะหากทำแบบอย่างดีมีมาตรฐานตามตำรา แต่ตันปล่อยให้คนงานเทปูนเหลวเป็นน้ำ  ไอ้อย่างนั้นน่ะมีผลเสียมากกว่าอีกจากการแยกขั้นของมวลรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกที่ชอบสั่งให้เอาน้ำปูนข้นๆ ที่ผสมทิ้งไว้เป็นชั่วโมง เทบนเหล็กก่อนเทคอนกรีตน่ะ เรียน Concrete Technology มาได้ยังไงกัน ปูนไม่ใช่กาว การก่อตัวของคอนกรีตคือการก่อรูปของผลึก การทำแบบนั้น เนื้อคอนกรีตจะไปจับเหล็กได้อย่างไร หรือคุมแบบให้ทำซะอย่างดิบดี แต่ดันไม่อยู่คุมตอนเท ปล่อยให้คนงานเอาหัวจี้คอนกรีตจี้ไปโดนเหล็ก หรือลากหัวจี้คอนกรีตไปผ่านเหล็กให้สั่น มันก็จะกลายเป็นด฿เหมือนทำงานดี แต่ไม่มีคุณภาพ จากคุณ : Waterman (LN106) เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 53 00:41:09

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านแล้วก็ได้ความรู้พอสมควร ผมจะขอสรุปแบบนี้ละกัน 1. ก้นหลุม ควรมีการเทปูนทราย เพื่อปรับระดับให้เรียบเสมอกัน ( ในรูปไม่ค่อยชัด ดูเหมือนไม่มี ) 2. ต้องมีการวาง spacer รองรับเหล็กโครงสร้าง( ในรูปนี้ก็มี เป็นก้อนคอนกรีตทรงกระบอกเล็กๆ ) เพื่อให้คอนกรีตโอบหุ้มเหล็กได้ทั้งหมด 3. ด้านข้างถ้าไม่มีไม้แบบ จะต้องมีแผ่นพลาสติค หรือโฟม หรือวัสดุอะไรก็แล้วแต่ ที่สามารถป้องกันไม่ให้น้ำในคอนกรีตไหลซึมไปที่ดิน ( ในรูปไม่มี แต่ตอนเทคอนกรีตจริง อาจจะมีก็ได้ เจ้าของบ้านอาจจะไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ ) ส่วนเรื่องการจึ้คอนกรีต การคุมงานตอนเทคอนกรีต ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน จะขอไม่กล่าวถึงนะครับ เพราะไม่ได้ต้องการสื่อไปลึกขนาดนั้นครับ ขอบพระคุณผู้สันทัดกรณีทั้งหลายที่เข้ามาให้ความรู้ด้วยนะครับ จากคุณ : คอบอล เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 53 09:54:04

ความคิดเห็นที่ 12 ของผมรอดไป อิอิ ตอนทำฐานราก ผู้รับเหมาเทลีนให้ทุกหลุม หนา 10 เซน แถมทำแบบ ใช้อิฐบล็อกแทนไม้ จะได้ไม่มีปัญหาตอนรื้อออก จะได้ถมไปเลย ไม่ทราบว่าแบบนี้พอรับได้ไหมคับ จากคุณ : chiller เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 53 10:25:55

ความคิดเห็นที่ 13   เห็นตามรูปแล้ว.. "ไม่รับ" ครับ เริ่มต้นยังไม่เห็นถึงความสำคัญ..แล้วบ้านทั้งหลังไม่เละเหรอ!!!! จากคุณ : อาโป๊ง เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 53 11:17:29

ความคิดเห็นที่ 14 ผู้รับเหมามักง่าย เริ่มต้นที่ไม่ดีแล้ว แสดงว่าไว้ใจไม่ได้ สิ่งอื่นที่ต้องการละเอียดมีอีกมาก ที่เราไม่เห็น ราคาอิฐบล๊อกที่นำมาทำแบบราคาไม่กี่บาท จากคุณ : ควนโส เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 53 12:57:25

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นตามรูปแล้ว.. "ไม่รับ" ครับ เริ่มต้นยังไม่เห็นถึงความสำคัญ..แล้วบ้านทั้งหลังไม่เละเหรอ!!!! ช่วยลงรูปที่ถูกต้องด้วยครับพอดีมีโครงการณ์ปลูกบ้านครับ จากคุณ : Kiat_Su เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 23:36:34

ความคิดเห็นที่ 16   การใช้อิฐบล๊อก มาทำเป็น Formwork ในชั้น Ground เป็นสิ่งที่ปฏิบัิติกันมาเป็นปกติ ประเด็นสำคัญน่าจะอยู่ที่ Dimension ของ Pile Cap ,covering การเสริมเหล็กเป็นไปตามแบบหรือไม่มากกว่า หรือตรวจสอบว่าหากใช้อิฐแล้วอิฐสามารถรับแรงดันที่เกิดจากการเทคอนกรีตได้หรือไม่ หากรับได้ และสามารถทำให้ฐานรากนี้ได้ขนาดตามแบบ การใช้อิฐบล๊อกทำเป็น Formwork ก็ไม่เป็นปัญหา เรื่องฐานรากควรตรวจสอบตำแหน่งของเสาเข็มให้ดีว่ามีการเยื้องศูนย์อยู่ในเกณท์ที่รับได้หรือไม่ หากไม่ก็ควรแก้ไขโดยวิศวกร จากคุณ : วิศวกรคนหนึ่ง (NumKalasin) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 09:35:12

ความคิดเห็นที่ 17   บ้านที่กำลังสร้างอยู่ทำแบบรูปข้างบนเหมือนกัน พออ่านความคิดเห็นข้างบนแล้วก็เริ่มกลุ้มนิดๆ  แต่ที่บ้านใช้เข็มตอก (ที่ดินอยู่ภาคอีสานแถบนี้ส่วนใหญ่ใช้ฐานแผ่แทบทั้งนั้นเพราะดินมีความแน่นมาก)  ขนาดฟุตติ้ง เดิมวิศวกรออกแบบมีขนาด 50x 50 cm แต่ช่างทำให้เป็น 1 x 1 เมตร เหล็กก็ใช้เป็นเหล็กบลส ทั้งหมด ก่อนวางเหล็กมีการเททรายปรับระดับแล้วเทลีนหนา 10 cm จึงวางตระกร้อเหล็กลงไป แต่ไม่มีการเข้าไม้แบบฟุตติ้ง แต่มีลูกปูนหนุน (ยกเว้นหลุมเสาเอกในรูปที่ทำลูกปูนหนุนไม่ทันเพราะรีบจะให้ทันตามฤกษ์ จึงใช้ก้อนดินแข็งๆรองแทนอย่างในรูป) ตอนเทฟุตติ้งก็มีการใ้ช้ไม้กระทุ้งให้เต็ม ใช้ปูน 240 จากแพนท์ปูน อย่างนี้พอรับได้หรือไม่ อีกอย่างดินที่บ้านเป็นดินเหนียวแน่นมาก   ขนาดช่างขุดหลุมไว้เทน้ำลงไปค้าง 1 คืน น้ำยังขังอยู่ปริมาณเท่าเดิม อย่างนี้มีโอกาสที่ดินจะดูดน้ำจากปูนเทลงไปมากหรือไม่ จากคุณ : รอบรั้ว (รอบรั้ว) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 19:25:53

ความคิดเห็นที่ 18   จากคห.17 คงใช้ช่างชาวบ้านธรรมดา ซึ่งหากไม่มีผู้ควบคุมงานที่อ่านแบบเป็นและคุมงานที่ดี ให้ช่างเปลี่ยนแปลงแบบตามความคุ้นเคยที่เขาทำกันมาก็มักจะเป็นแบบนี้ เข้าใจว่าเข็มขนาด 25x25 ขนาด pilecap (ฐานรัดหัวเสาเข็ม)จึงมีขนาด 50x50 ดูจากการวางเหล็ก (หากถูกต้องตามรูแแล้วเสาเข็มน่าจะมีการเยื้องศูนย์นะครับ จะเกินกำหนดไหมควรให้วิศวกรตรวจสอบและแก้ไขให้)ส่วนเรื่องกำลังอัดของปูนว่าได้หรือไม่ควรดูที่แบบหรือสอบถามวิศวกรผู้ออกแบบว่าออกแบบให้ใช้กำลังเท่าใด ส่วนการพิจารณาโดยละเอียดฐานรากหลุมนี้ว่าโอเคไหม หากทำเช่นนี้คงต้องดูหลายอย่าง เพราะดินตามธรรมชาติทางภาคอีสานรับนน.ได้สูงอยู่แล้ว แล้ว นน.ทั้งหมดที่ลงฐานรากตรงนี้หากพิจารณาเป็นฐานแผ่ตามขนาด 1x1 แล้วรับได้ไหม ถ้าได้ก็ห่วงแต่เรื่องการทรุดตัวไม่เท่ากันของเข็มและดิน และเสาเข็มเยื้องศูนย์ ที่อาจมีปัญหา จากคุณ : NumKalasin เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 53 16:10:00

ความคิดเห็นที่ 19   ผมเห็นงานก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรหลายๆโครงการ โดยเฉพาะที่ราคาสำหรับคนรายได้น้อยถึงปานกลาง ขาดการควบคุมงานที่ดีและถูกต้องตามหลักวิชาช่างซึ่งอดคิดไม่ได้ว่าเขาสร้างให้คนอยู่กี่ปีกันแน่หนอ แล้วอดคิดสงสารเจ้าของบ้านที่อาจเสียค่าซ่อมแซมอีกในระหว่างการผ่อนบ้าน ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้รับเหมาเหล่านั้น หรือเจ้าของโครงการเหล่านั้น ถึงเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคกันซะจังเลย ทั้งงานโครงสร้างและงานสถาปัตยกรรม เฮ้อ.... จากคุณ : NumKalasin เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 53 16:16:02