เป็นคุณ คุณจะเลือกแบบไหนคะ ความเห็นเราไม่ตรงกับใครในบ้านเลย แฟน แม่แฟน และเจ้านาย ได้มาเห็นบ้านตัวอย่างและแนะนำว่าให้ซื้อบ้านตัวอย่างแฟนเองก็อยากได้ เพิ่มเงินอีกแค่ประมาณ 2 แสนได้เฟอร์นิเจอร์ครบ แอร์ 2 ตัวติดวอร์เปเปอร์แล้วตกแต่งพร้อมอยู่ด้วย แฟนให้เหตุผลว่า เราเห็นแน่ ๆ แล้วว่ามีบ้านเป็นตัวเป็นตนแน่ ๆ พร้อมอยู่ได้เลย ในขณะที่บ้านที่เราเลือกนั้นมันเพิ่งขึ้นแค่เสา แล้วคนสร้างไม่รู้จะทำดีหรือเปล่า กลัวไม่ดี ไม่ได้มาตรฐาน กลัวบ้านทำไม่เสร็จตามที่กำหนด (เมษาฯ ปีหน้า) บ้านตัวอย่างหันหน้าไปทางทิศตะวันออก แถมอยู่หน้าหมู่บ้านเลยใกล้ยามปลอดภัยดี ใน บ้านตัวอย่างเขาก็ตกแต่งไว้สวยด้วย (เฟอร์เป็น SB+Koncep) หิ้วกระเป๋ามาเข้าอยู่ได้เลย แต่บ้านที่เราเลือกนั้นมันหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้หน้าบ้านจะร้อน เป็นบ้านมุม อันตรายโจรชอบขึ้น
แต่เราให้เหตุผลพวกเขาไปว่า.....
1. ต่อให้ซื้อบ้านตัวอย่างแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถเข้าอยู่ได้เลย ต้องรอให้โครงการปิดก่อนถึงค่อยทำเรื่องโอนและเข้าอยู่ได้ เท่ากับว่าเรามีสิทธิ์เข้าอยู่หลังสุดท้ายของโครงการซึ่งก็ไม่รู้เมื่อไหร่กว่าโครงการจะขายหมด และสภาพบ้านกว่าจะถึงวันนั้นจะโทรมไปถึงไหนแล้ว ถึงแม้จะมีการรับปากว่าเก็บงานให้ก่อนเข้าอยู่ แต่ ของที่ผ่านการเปิดใช้งานอย่างเช่นแอร์ มันก็เท่ากับเป็นมือสองแล้ว กว่าเราจะได้เข้าอยู่ เท่ากับโครงการเปิดใช้ไปแล้วร่วม ๆ ปี ทั้งเฟอร์นิเจอร์ซึ่งก็ผ่านคนดูเปิดปิด ๆ ชำรุด บิน ร้าว ไปบ้าง เราก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะซ่อมยังไงให้ เอาสีมาทา เอาปูนมาแต้ม ยังไงมันก็ไม่สู้กับซื้อของใหม่ ที่ใหม่จริง ๆ ได้หรอก
2. เฟอร์นิเจอร์ของโครงการ ยอมรับว่าดีและสวย ตกแต่งดีค่ะ แต่มันไม่ใช่สไตล์เราอ่ะคุณเข้าใจไหม? บ้านเรา ๆ อยากได้แบบที่เป็นสไตล์เรา เราใช้ เราอยากมีความสุขกับมัน มากกว่าได้ใช้ของดี แต่ไม่ใช่แบบที่เราชอบ
3. ข้อโต้แย้งเรื่องความคุ้มค่าที่บ้านตัวอย่างมีของครบ เราไม่ต้องตกแต่ง ไม่ต้องซื้อแอร์เพิ่ม แต่เราเห็นว่า มันต้องเพิ่มเงินอีกตั้ง 2 แสนแหน่ะ สู้เอาเงิน 2 แสนนี้ไปซื้อเฟอร์ที่เราชอบ อยากได้ และตกแต่งภายในอย่างอื่นเพิ่มอย่างที่เราอยากให้เป็นไม่ดีกว่าหรอ? แล้วเฟอร์บางอย่างก็เกินความจำเป็นที่เราไม่ต้องการอย่างเช่นเตียง ให้เตียงใหญ่มา 1 กับเตียงเล็กอีก 2 เป็น 3 อยู่กันแค่ 2 คน วางโครงการไว้ว่าอีกห้องนึงเผื่อเอาไว้ให้แม่ เผื่อแม่มาเยี่ยม ส่วนอีกห้องนึงเราจะเอาไว้เป็นห้องแต่ตัว ซึ่งต้องการแค่ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง เท่ากับมีเตียงส่วนเกินมา 1 เตียง จะขายคืนโครงการ เขาก็ไม่เอา ตู้ใส่ของเราก็มีเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ขนมาก็มาซ้ำกับที่โครงการมีให้ แล้วจะเอาไปวางไว้ไหน แถมรูปแบบรูปทรงก็คนละเรื่อง คนละสี คนละแนวกันไปเลย
4. บ้านตัวอย่างหลังบ้านชนกับคนอื่น ซึ่งตรงนี้เราไม่ชอบเลย หน้าบ้านก็ชนกับบ้านคนอื่น หลังบ้านก็ชนกับบ้านคนอื่นอีก มันอึดอัด เราอยากมีบ้านที่สามารถเปิดหน้าต่างออกไปเพื่อชมวิวได้ ซึ่งบ้านที่เราเลือก หน้าบ้านชนบ้านหลังอื่น ส่วนหลังบ้านเป็นคลอง มีต้นไม้ ซึ่งยังมีวิวธรรมชาติอะไรให้เราพักผ่อนสายตา โดยด้านล่างของหลังบ้านมีกำแพง แต่ไม่มีหลังคาเป็นลานซักล้างเหมือนทั่วไป
5. ฝั่งตรงข้ามหน้าหมู่บ้าน เป็นวัด ไม่ได้เยื้องหรือต้องเดินไปอีกหลายก้าวนะ แต่ตรงข้ามกันเลย เราผู้ซึ่งมีประสบการณ์อาศัยใกล้วัด แต่ก็มีระยะห่างกันพอสมควรเอาว่าห่างกันไกลเลยแหล่ะ แต่เวลาวัดมีงานมหรสพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สงกรานต์ ปีใหม่ เข้าพรรษา งานประจำปี ฯลฯ เสียงดนตรี เสียงลำโพง และสารพัดเสียงมันดังสยดสยองจริง ๆ และลากยาวไปเที่ยงคืนตีหนึ่ง ซึ่งเราไม่อยากให้บ้านเราอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น แม้มันจะไม่มีทุกวันก็เหอะ เจ้านายบอกว่าอย่าคิดมาก มันเป็นความสวยงามของชีวิต....เรายังไม่เข้าใจในเหตุผลของเจ้านายตรงนี้มากนั้ก
6. บ้านที่เราเลือกเนื้อที่เยอะกว่าบ้านตัวอย่างอีก 5 ตารางวา จริง ๆ มันไม่เยอะนักหรอก แต่หน้ามันกว้างกว่า เราอยากมีพื้นที่ใช้สอยแบบโปร่ง ๆ สบายตาอะไรงี้
7. เราเคยบอกแฟนและเจ้านายว่าเราตอนดูบ้านตัวอย่าง เราเห็นว่าขอบปูนหลายตำแหน่งมันบิ่น และเฟอร์นิเจอร์บางตัวมันก็มีรอยขีดข่วนแล้วบ้าง อ้าแล้วบ้างแม้ไม่รุนแรงมากก็ตามแต่มันไม่ได้ใหม่ 100% แล้วนะ แฟนเรากะเจ้านายบอกว่ามันก็ต้องมีบ้าง คนมาดูกันทุกวันก็ต้องมีเปิดปิด ๆ อย่าซีเรียส...........แต่กรูซีเรียสนี่ว๊อย!!!!!~ เสียเพิ่มอีก 2 แสน บ้านเล็กลง แถมได้ของมือสองที่ไม่ได้อยากได้มาใช้เพื่อ??? แล้วเฟอร์นิเจอร์ของเราที่เรามีอยู่แล้ว พอย้ายเข้าอยู่ จะเข้ากะเฟอร์นิเจอร์ที่เขามีอยู่ตอนนี้ไหม?
เนื้อหาก็ประมาณนี้อ่ะค่ะ เราก็รู้นะว่าแฟนเราก็ออกจะเอือม ๆ ก็ความเจ้าปัญหา เจ้าเหตุผลของของเรา และไม่อยากจะขัดใจ เพราะอยากให้เรามีความสุขนั่นแหล่ะ แต่พอมีแค่เราคนเดียวที่เลือกบ้านที่กำลังปลูก ในขณะที่อีก 3 เสียงเลือกบ้านตัวอย่างเราก็ชักจะเริ่มเขวละ รู้สึกไม่สบายใจที่ทุกคนต้องมาตามใจเรา เพราะเขาต้องการให้ซื้อบ้านแล้วผู้อยู่ต้องสบายใจที่จะอยู่เป็นหลัก....แต่ก็นะแฟนเราก็ออกตังบค์ด้วยนี่ ไม่อยากเผด็จการณ์คนเดียว กลัวตัดสินใจพลาดด้วย ซื้อแล้วนึกจะเปลี่ยนใจใหม่มันก็ไม่ใช่ว่าจะขายทิ้งกันง่าย ๆ แล้วด้วย
ขอความคิดเห็นจากผู้มีประสบการณ์ด้วยนะคะ ขอความกรุณาแนะนำเข้ามาเยอะ ๆ ด้วยค่ะ กลุ้มใจจริง ๆ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 53 13:44:26
แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 53 13:38:30
แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 53 13:36:36
แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 53 13:35:44