ความคิดเห็นที่ 1   ไม่น่าอาย เพราะสังคมไทยไม่เหมือนสังคมฝรั่ง ที่คนอายุ28 ก็ยังอยู่ในความดูแลของพ่อแม่อยู่ ผมเองก็ใช่ แต่ไม่ถึงขั้นซื้อบ้านให้ แต่เป็นรถยนต์แทน แต่ถ้าอายุ50แล้ว พ่อแม่ยังต้องซื้อบ้านให้ลูกอยู่นี่ ออกจะตะหงิดๆใจอยู่บ้าง จากคุณ : แบนแล้วแบนอีก จนแบนแต๊ดแต๋ เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 13:13:44 A:124.120.51.26 X: TicketID:280600

ความคิดเห็นที่ 2   อย่าไปคิดมาก ถ้าสนใจคนรอบข้างมากจะปวดหัว หรือไม่ก็ผ่อนให้ท่านแทนผลประโยชน์เรื่องดอกเบี้ยก็จะตกที่พ่อแม่ ดีซะอีก ท่านให้เรามาเยอะก็อย่าลืมดูแลท่านให้ดีๆก็แล้วกัน จากคุณ : แมงปอล้อลม เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 13:19:26 A:125.24.51.182 X: TicketID:279215

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่น่าอายค่ะ แต่จะถูกมองว่าบ้านรวย แค่นั้น ดีซะอีกหนี้หมดไว และอย่าลืมตอบแทนให้มากเท่าที่จะทำได้นะคะ จากคุณ : WiniStaR เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 13:20:07

ความคิดเห็นที่ 4 เฉยๆ เพราะเป็นการตัดสินใจของคนในครอบครัวเค้า ใครจ่ายก็บ้านเค้า เงินเค้า หนี้เค้า เค้าอยู่ และเค้ามีจ่าย ส่วนใครจะมองยังไงก็ช่าง เพราะไม่ได้เอาเงินคนที่มองมาจ่าย ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 53 13:22:30 จากคุณ : อาร์ทตัวแม่ เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 13:21:00

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ต้องอายหรอกค่ะ คนเป็นพ่อแม่ก็อยากจะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกเสมอ ไม่อยากให้ลูกลำบาก ไม่ต้องอายหรอกค่ะ...ท่านคงอยากเริ่มต้นให้คุณ เพราะบ้านก็เป็นปัจจัย 4 ที่เราต้องมี แต่สิ่งที่น่าอายกว่าคือการที่ลูกไม่ดูแลเอาใจใส่ท่านยามที่ท่านแก่เฒ่า เจ็บป่วย และไม่มีเรี่ยวแรงและเงินทองจะให้ลูกอีกแล้วต่างหาก คุณโชคดีมากที่มีพ่อแม่ที่พร้อม ที่จะมอบโอกาสดีๆให้ อย่ามัวต้องมานั่งคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าอายมั๊ยเลยค่ะ คนที่คุณควรแคร์ความรู้สึกมากๆ ไม่ใช่คนรอบข้าง ญาติ หรือเพื่อนหรอกค่ะ... เอาเวลานั้นมาหาทางตอบแทนความรัก ความห่วงใยและหวังดีที่ท่านมีต่อเราดีกว่า จากคุณ : khunpumpim เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 13:22:53

ความคิดเห็นที่ 6 พ่อแม่ซื้อให้ไม่น่าอายหรอกครับ แต่ไปหลอกไปโกงเงินคนอื่นมาซื้อนี่ซิน่าอายมากๆครับ จากคุณ : poopoony เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 13:22:56

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่น่าอายหรอกครับ ถ้ามองในแบบครอบครัวผม เราก็จะมองว่า เงินสดที่มีอยู่ก็ไม่ได้เอาไปทำอะไร งั้นเอาไปปิดยอดกู้ให้ลูกยังจะดีกว่า ที่จะให้ลูกเอาดอกเบี้ยไปให้ธนาคารอยู่ จากคุณ : sasrp เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 13:27:55

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่น่าอายค่ะ เพราะไม่ได้ทำผิดอะไร และท่านทั้ง 2 คงอยู่ในฐานะดี มีกำลัง ที่จะทำสิ่งนั้นได้ ท่านก็คงไม่อยากให้ลูกหลานลำบาก ท่านจึงให้สิ่งคิดว่าดีที่สุดสำหรับคุณ ไม่อยากให้ต้องเสียดอกเบี้ย เพราะหากกู้เงิน 2 ล้าน เวลาส่งแบงก์แล้วก็มาอีกเท่าตัวเป็น 4 ล้าน แต่เมื่อได้รับแล้ว ท่านเพียงแต่อยากให้คุณไม่ลืมท่าน ว่าง ๆ เพียงแวะไปเยี่ยมเยียนท่าน ท่านก็สุขใจแล้วหล่ะ จากคุณ : chadcha (chadcha60) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 13:29:41

ความคิดเห็นที่ 9   ไม่เห็นน่าอายเลย ... น่าอายตรงไหน... จากคุณ : คุณลุงบาบี้ เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 13:30:00

ความคิดเห็นที่ 10 เล็กน้อยครับ แต่เราพยายาม+ดิ้นรนสุดความสามารถแล้ว ไม่ได้นั่งแบมือ หรือคอยแต่ผลาญสมบัติ หาเรื่องเดือดร้อนเข้าบ้าน กำลังเรามีเท่านี้จริงๆ พ่อ-แม่จะช่วย หรือไม่ช่วย คิดว่าไม่น่าจะมีผลต่อการอยู่ต่อไปในสังคมครับ ท่านเต็มใจให้ เพื่อความสบายใจของท่าน ที่ตั้งใจจะช่วย (ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนอื่นไกล) ก็รับไว้ และต่อไปคุณต้องทำตัวให้เป็นเสาหลักของบ้าน ยืนด้วยขาตัวเองให้ได้ ดูท่านเป็นตัวอย่างครับ ให้โดยไม่ต้องร้องขอ ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน จากคุณ : พฤหัสที่12 เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 13:36:31

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่เห็นต้องอายเลยค่ะ ดีซะอีกคุณจะได้เก็บเงินไว้ทำอย่างอื่น ท่านคงไม่อยากให้ลูก หลาน ลำบาก  รักท่านให้มากๆ และดูแลท่านให้ดีๆนะคะ จากคุณ : สุดท้ายด้วยรัก เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 13:42:23

ความคิดเห็นที่ 12 ผม อิจฉา ครับที่ พ่อแม่ ใจดีแบบนี้ บ้านเดี๋ยวนี้ ราคา แพง โอเว่อร์ มากๆ จากคุณ : Pigfarm เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 13:47:47

ความคิดเห็นที่ 13 เงินที่พ่อแม่เอามาโปะให้เป็นเงินเย็น เงินเก็บของพวกท่านใช่มั้ยคะ ... ถ้าเป็นงั้นก็ไม่น่าอายหรอกค่ะ แต่ถ้าหากท่านต้องไปกู้มาแลวรับภาระแทนเราอันนั้นไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ ...     แสดงว่าพ่อแม่รัก จขกท มากนะคะ อยากให้แต่สิ่งดีๆ รู้อย่างนี้แล้วก็สำนึกในบุญคุณของพวกท่านให้มากและกตัญญูต่อพวกท่านนะคะ แสดงความรัก ความห่วงใยให้สม่ำเสมอ อย่าให้ท่านรู้สึกว่ามีครอบครัวใหม่แล้วลืม พ่อแม่ แค่นี้ท่านก็พอใจแล้วค่ะ  ถ้ามีหลานๆ อย่าลืมพาเด็กๆ มาใกล้ชิดท่านมากๆ นะคะ  จากคุณ : antanoy เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 13:48:18

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่น่าอายค่ะ อายทำไมคะ ดีซะอีกบ้านเป็นของเราแล้วหมดหนี้หมดสินซะที แต่หลังจากนั้นก็ควรเติมความสุขให้กับคุณพ่อคุณแม่ท่านมากๆ ด้วยนะคะ เงินค่าบ้านก็ส่งให้ท่านใช้แทนที่จะไปเสียดอกแพงๆ ให้ธนาคาร ไม่ต้องแคร์ใครจะมาว่าหรอกค่ะ เพราะอย่างไรเราก็ผ่อนบ้านด้วยตัวเอง ยืนด้วยลำแข้งด้วยเอง เพียงแต่ท่านให้ยืมมาโป๊ะ ก็เท่านั้นเองค่ะ จากคุณ : ModRaj เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 13:49:41

ความคิดเห็นที่ 15 เราไม่อาย เราชอบอ่ะ จากคุณ : ให้ไว เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 13:55:21

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่อายคนอื่นครับ แต่มีอาการละอายใจกับตนเองอยู่บ้างครับ จากคุณ : Ball Ronson เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 13:56:26

ความคิดเห็นที่ 17 อายทำไม  (มีพ่อแม่รวยทั้งเงินและน้ำใจ) ในยามที่ท่านแก่เฒ่าก็ขอให้ดูแลท่านให้ดีดีก็พอแล้ว จากคุณ : DATSUN เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 13:58:05

ความคิดเห็นที่ 18 เรื่่องนี้ ผู้หญิงจะมาตอบแทนความรู้สึกไม่ได้หรอกครับ จากคุณ : พฤหัสที่12 เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:03:15

ความคิดเห็นที่ 19 ความเห็นส่วนตัวนะครับ ถ้ารับราชการ ไม่น่าอายครับ เพราะเป็นอาชีพรับใช้ประเทศ รับใช้สังคม พ่อแม่อาจจะได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆจากทางรัฐด้วย ถ้ารับจ้างเอกชน น่าอายครับ เพราะเราควรจะเป็นฝ่ายให้มากกว่ารับ จากคุณ : เอก (JonathanNY) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:04:44

ความคิดเห็นที่ 20 อาจจะเห็นต่างนะ เป็นผม...ผมก็รู้สึกว่า...บ้านเป็นความภาคภูมิใจอย่างนึงของเรา....อยากทำงาน หาเงิน เก็บเงิน สร้างเองมากกว่า เข้าใจว่า ในสายตาพ่อแม่ ไม่ว่าเราจะอายุมากขึ้นไปเท่าไหร่ สำหรับเค้าเราก็ยังเด็ก ยังเป็นลูกเค้าเสมอ...... ถ้าเป็นผม เจอแบบนี้ ...คงบอกกับเค้าว่า  ป๊ากับแม่จะให้มาก็ได้ แต่ขอเก็บไว้ทำอย่างอื่น อาจจะทำทุน เก็บเป็นเงินขวัญถุง อะไรทำนองนั้น จากคุณ : กุ๊กเป็ด เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:08:52

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่เห็นน่าอายเลย นอกจากว่าพ่อแม่แก่ตัวไปแล้วลูกเต้าไม่ดูแลนี่น่าอายกว่าค่ะ จากคุณ : MY PIDPEE เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:09:35

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่น่าอาย ต่อให้เป็นคนชาติอะไร ถ้าพ่อแม่ช่วยได้ก็จะช่วย จะฝรั่ง ไทย จีน แขก ก็เป็นกันหมดค่ะ  ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่ถ้าพ่อแม่ลำบากมาก แต่ยังต้องฝืนสังขาร และยังดิ้นรนอยู่ อย่างนั้นก็คงน่าอายมั้งคะ... จากคุณ : AnaBerry เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:10:52

ความคิดเห็นที่ 23 พ่อแม่ ต้องรัก และคอยดูแลลูกอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วครับ ไม่ว่าเค้าจะอายุเท่าไร ในสายตาเราเหมือนเค้ายังเป็นเด็กที่เราเคยอุ้มอยู่เมื่อวานเลยครับ  กรณีนี้เป็นผม ถ้ามีเงินเพียงพอที่จะแบ่งปันให้ลูกให้หลาน ผมก็ทำครับ ลูกเราทั้งคน ลูกยิ้ม เราก็มีความสุขแล้วครับ จากคุณ : phuphi เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:12:32

ความคิดเห็นที่ 24   ขอเล่าครับ เวลาที่ผมคุยกับคนอื่นหรืออ่านจากในกระทู้ชายคาหรือรัชดาก็ได้ แต่ละคนที่อายุ25-30บอกว่าตนเองนั้นผ่อนบ้านซื้อรถกันแล้ว ผมก็มองกลับไปในช่วงที่ผมยังอยู่ในวัยนั้น ผมยังต้องพึ่งพ่อแม่ให้ท่านซื้อให้อยู่เลย ซึ่งผมมองครับว่าคนเหล่านั้นเก่งครับ ที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ ถึงแม้จะไม่รู้หรอกว่าพวกเขาจะผ่อนได้เสร็จ ครบถ้วนกระบวนความรึเปล่า แต่ถ้าถามว่าน่าอายหรือไม่ มันก็ไม่น่าอายหรอกครับ แต่ถ้าทำเองได้ซื้อเองได้ ก็โครตจะสุดแสนจะภาคภูมิใจในตัวเราเอง จากคุณ : แบนแล้วแบนอีก จนแบนแต๊ดแต๋ เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:12:36 A:124.120.51.26 X: TicketID:280600

ความคิดเห็นที่ 25   อย่ากังวลไปเลยค่ะ  ท่านคงไม่อยากให้คุณแบกภาระ และอยากให้เก็บเงินไว้ใช้ในยามจำเป็น   ส่วนท่านเองก็มีเงินมากพอที่จะโปะหนี้ก้อนนี้ให้คุณแทน     พวกคุณอยู่สบายท่านก็คงมีความสุข จากคุณ : เฮ้าส์1 (เฮ้าส์1) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:15:15

ความคิดเห็นที่ 26   เพิ่งไปงานศพของคุณพ่อของผู้ใหญ่ที่เคารพ ท่านเล่าให้ฟังว่า คุณพ่อซื้อบ้านเงินสดให้ตอนแต่งงาน ยังผ่อนจ่าย ไม่หมดเลย แต่ท่านก็มาชิงจากไปก่อน ผมมานั่งคิดดู ผู้ใหญ่ท่านนี้อายุ 57 ปี (ถามภรรยาท่าน อีกสามปีเกษียณ) ความห่วงใยอาทรลูกหลาน ของบุพการีไทย มีมานานแล้วครับ ยินดีด้วยครับ จากคุณ : บิดามารดร เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:17:42 A:124.122.79.191 X: TicketID:274349

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าคุณเป็นลูกคนเดียว ไม่มีปัญหา ถ้ามีพี่น้อง และพี่น้องได้รับความช่วยเหลือจากพ่อแม่เท่าเทียมกัน ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่   อาจมีเสียงครหาและความไม่พอใจจากพี่น้องครับ จากคุณ : ตอบตามตรง (447) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:23:25

ความคิดเห็นที่ 28 กรณีเช่นนี้ ผมไม่รู้หรอกครับว่า คนที่เป็นลูกของครอบครัวอื่นๆ จะรู้สึกอย่างไร แต่ว่าสำหรับผมแล้ว ขณะนี้ กำลังมีการก่อสร้างบ้าน บนเนื้อที่เกือบๆ 1 ไร่ โดยผมตั้งงบประมาณ ให้ลูกๆ  จัดการ หา สถาปนิค วิศวกร มัณฑนากรตกแต่งภายใน นักแลนด์สเคป  รวมทั้งผู้รับเหมาก่อสร้าง เพื่อก่อสร้างบ้านให้ลูกๆอยู่ รวมทั้งเป็นการฝึกให้ลูกๆมีประสบการณ์ในบริหารการจัดการงบประมาณ เกี่ยวกับการก่อสร้างบ้าน  ซึ่งผมถือว่า เป็นมรดกชิ้นสุดท้าย ที่คนเป็นพ่ออย่างผมที่จะให้กับลูกๆได้ ก่อนที่ผมอาจจะต้องจากไปชั่วนิรันดร์ มันเป็นความภูมิใจของคนที่เป็นพ่ออย่างตัวผม ที่คิดว่า อย่างน้อยก่อนที่ผมจะจากไป ก็ยังมีหลักให้ลูกๆเกาะได้ รวมทั้งได้ให้ความรู้และประสบการณ์ทางด้านการบริหารการจัดการ การควบคุมงบประมาณ ในขณะเดียวกัน ลูกๆ ก็น่าจะดีใจ ที่จะได้มีบ้านและที่ดินเป็นของตนเองครับ จากคุณ : Moonlight Sonata เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:24:36

ความคิดเห็นที่ 29 ผมขอพูดในฐานะพ่อบ้างนะครับ การปลอ่ยให้ลูกต้องลำบาก โดยที่มีเงินอยู่ในมือ และช่วยเหลือได้ เป็นผม ผมก็จะซื้อบ้านให้ลูกครับ  เพราะลูกคือสิ่งเดียวที่มีค่าที่สุด และดีที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้จะมีได้ ผมเกิดมาเพื่อลูก หากทำอะไรที่ทำให้ลูกมีความสุข ถึงแม้ผมเองจะต้องลำบากในภายหน้า หรือตายไปโดยลูกไม่กลับมาดูแล ก็จะไม่เสียใจครับ สิ่งที่ทำให้ลูก ไม่เคยคิดว่าลูกจะต้องกลับมาทดแทนให้ แค่นี้ก็หมดห่วงแล้วครับ ถึงจะตายไป ก็ตายอย่างมีความสุข   ถ้าจะอาย ก็ขอให้อายที่ไม่อาจจะช่วยเหลือพ่อได้ ดีกว่าไปอายเรื่องอื่นครับ จากคุณ : พ่อน้องอิคคิว เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:28:43

ความคิดเห็นที่ 30 น่าอายที่ไหน  น่าภูมิใจตะหาก   พ่อ-แม่ รวย มีไรม่ะ.......หึ หึ ผมก็มีบ้าน ตอนอายุ 28  พ่อแม่ ก็ซื้อเงินสดให้ มีเพื่อนที่อาจไม่ชอบเรา ลึก   ๆ  มั้งครับ  ไม่แน่ใจ ก็พูดกับผมเหมือนกันว่า   "ภูมิใจไหม พ่อแม่ ซื้อบ้านให้  แต่ ฉันว่าไม่น่าภูมิใจ ว่ะ แล้วเค้าก็หัวเราะ  ขำ ขำ ไป " นี่คือคำพูดเพื่อน  ตอนได้ยิน ผมไม่คิดอะไร มารู้ตัวอีกที  ตอนเพื่อนอีกคนที่อยู่ในวงสนธนาด้วย  มาพูดทีหลัง  ว่ามันเหน็บ    รู้ตัวป่ะเนี่ย อืม  ผมไม่คิดไรจริง  รู้แต่ว่า ภูมิใจ ที่ไม่มีหนี้  พ่อแม่ซื้อให้  เงินสด  ก็แค่นั่น เชื่อไหม  ไม่ว่าพ่อแม่ที่ไหน ก็ตาม  ถ้ามีเงิน   ก็ย่อมซื้อบ้านเงินสดให้ลูกทั้งนั่น   ไม่มีพ่อแม่ที่ไหน หรอกครับ ที่.......... อยากให้ลูกมีหนี้สิน..........แถมหนี้ก้อนใหญ่ซะด้วย..........หนี้ซื้อบ้าน นะ จากคุณ : น่ารักม่ะเหมียวผม เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:35:05

ความคิดเห็นที่ 31 ผมเห็นต่าง   ผมอายครับ  แม้ผมจะมองเห็นความรักความห่วงใยที่ท่านมีต่อผมอย่างลึกซึ้งก็ตาม   ผมรู้สึกว่า  ความภาคภูมิใจในตนเองมันจะหายไปทันที   ผมเกรงว่า  ความรู้สึกอีกอย่างจะเข้ามา  คือความเป็นเด็กที่ไม่รู้จักโต  ไม่ยอมช่วยตัวเอง  และอาจจะไม่จบเพียงแค่นี้ แต่อย่างไรก็ตาม ผมจะเรียนท่านว่า  ผมจะขอรับเงินไว้และผ่อนของผมเองต่อไป   และจะนำเงินไปใช้ในสิ่งที่ผมเห็นว่ามีประโยชน์  ไม่ใช่ฟุ่มเฟือย  ทั้งสำหรับครอบครัวผม  และคุณพ่อคุณแม่ต่อไป แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 53 14:42:21 จากคุณ : แสนตุ้ง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:35:39

ความคิดเห็นที่ 32 อย่าอายเลยค่ะ เข้ามาตอบในฐานะของคนเป็นแม่แล้วคนหนึ่ง จุดประสงค์ของพ่อแม่ก็คือ ไม่อยากให้ลูกลำบาก ไม่อยากให้ลูกเหนื่อย อยากให้ลูกเก็บเงินไว้ใช้ในอนาคต ไว้ซื้อสิ่งที่จำเป็น ไว้กิน ไว้เที่ยว ฯลฯ พ่อแม่มีแต่จะให้และให้อย่างไม่สิ้นสุด.. ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดๆก็แล้วแต่ หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงแล้ว ให้ได้หมดทุกอย่างค่ะ จงภูมิใจที่พ่อแม่ของคุณรักคุณมาก และมากยิ่งกว่าใครๆรอบข้างที่จะรักคุณได้แบบนี้ เชื่อไหมว่าท่านไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆจากคุณเลย ถึงแม้ว่าสักวันหนึ่งคุณจะไม่ได้อยู่ดูแลใกล้ชิดท่าน และคนรอบข้างท่านอาจจะพูดว่า "ทำไมคุณไม่มาเยี่ยมบ่อยๆ" ท่านก็จะตอบกับบุคคลเหล่านั้นว่า "ลูกเค้างานเยอะ ไม่ค่อยมีเวลา ไม่อยากให้ขับรถมาไกลๆ เป็นห่วงเค้า" รักท่านให้มากๆนะคะ ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกันก็โทรหาท่านบ่อยๆ ทุกวันได้ยิ่งดี เป็นมงคลแก่ตัวคุณเองค่ะ จากคุณ : เฒ่าอนุบาล เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:37:50

ความคิดเห็นที่ 33 จขกท ก็เอาเงินที่เคยผ่อนบ้าน ฝากธนาคารไว้ให้ลูก (หลานของพ่อแม่) ต่อ ใครว่า ก็บอกเลยว่าเงินที่จะผ่อนก็มี แต่เห็นแก่น้ำใจพ่อแม่ อย่าลืมดูแลพ่อแม่ให้ดีเหมือนกับที่ท่านดูแลเราด้วยค่ะ ซื้อประกันสุขภาพชนิดดีที่สุดให้ พาไปตรวจสุขภาพประจำปี หมั่นไปเยี่ยมเยียน พาไปเที่ยวบ้าง จากคุณ : Nootukk2010 เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:38:06

ความคิดเห็นที่ 34 คุณเป็นพ่อ แล้ว มีเงินเหลือพอจะซื้อบ้านให้ลูก เป็นคุณ อยากจะให้ลูกทำงานแล้วค่อยๆผ่อนไป หรือว่าจะเลือกจ่ายให้ แล้วให้ลูกทำงานมีเงินเก็บ เหลือใช้ เอาไว้ให้หลานของท่ีานล่ะ ถ้าผมเป็นพ่อคน ผมก็จะซื้อบ้านให้ลูกเหมือนกัน แต่ก็ไม่แปลกที่จะใ้ห้ลูกผ่อนเอาเอง ก็แล้วแต่พ่อล่ะ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 53 14:42:15 จากคุณ : doublelove เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:39:57

ความคิดเห็นที่ 35   ไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยค่ะ ถือว่าคุณและครอบครัวโชคดีมากกว่า ที่บุพการีมีความพร้อมที่จะช่วยเหลือเจือจุนลูกหลาน น่าอิจฉาจริง ๆ เลย ^^ เคยมีพี่สนิทที่มีปัญหาคล้าย ๆ จขกท. ขอเล่าให้ฟังนิดนึงนะคะ "ลูกพี่ลูกน้องของสามี (ศักดิ์เป็นพี่ชาย) มีแฟนที่ถือได้ว่าฐานะดีมาก คบกันได้สักพักแฟนแกอยากแต่งงาน แต่แกยังไม่พร้อมเพราะแกมีแต่หน้าที่การงานที่ดีแต่ไม่มีทรัพย์สินเงินทองอะไร (ณ เวลานั้นพี่เขาอายุ 34 ปี) วันนึงพ่อของแฟนแกเรียกไปคุยและเซ็นเช็คให้ 10 ล้าน (-สิบล้านบาท-) สำหรับซื้อบ้านและแต่งงาน แกเครียดมากมาปรึกษาพวกเราว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี ใครรู้เข้าจะน่าเกลียดไหม น่าอายหรือเปล่า พวกเราบอกแกไปว่าโชคดีมากกว่าที่ไม่ต้องมาก่อร่างสร้างตัว ไม่ต้องเป็นหนี้เป็นสิน ไม่ต้องเครียดเรื่องการหาเงิน ฯลฯ" สุดท้ายแกก็ตัดสินใจรับเงินก้อนนั้นมา และดำเนินการตามความประสงค์ของพ่อแฟน คือ นำมาจัดงานแต่งงาน ซื้อบ้าน+ตกแต่งบ้าน ที่เหลือก็เก็บเข้าบัญชี ทุกวันนี้ชีวิตครอบครัวแกมีความสุข ตัวแกไม่ต้องมาทำงานใช้หนี้ธนาคารให้เครียด เห็นไหมคะ Happy จะตายไปค่ะ แหม ทำไมไม่มีใครมายื่นข้อเสนอแบบนี้ให้เราบ้างน้า 55+ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 53 15:01:57 จากคุณ : คุณแม่ & น้องดรีม เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:53:52

ความคิดเห็นที่ 36   * ขอโทษค่ะ กดส่งซ้ำ * ไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยค่ะ ถือว่าคุณและครอบครัวโชคดีมากกว่า ที่บุพการีมีความพร้อมที่จะช่วยเหลือเจือจุนลูกหลาน น่าอิจฉาจริง ๆ เลย ^^ เคยมีพี่สนิทที่มีปัญหาคล้าย ๆ จขกท. ขอเล่าให้ฟังนิดนึงนะคะ "ลูกพี่ลูกน้องของสามี (ศักดิ์เป็นพี่ชาย) มีแฟนที่ถือได้ว่าฐานะดีมาก คบกันได้สักพักแฟนแกอยากแต่งงาน แต่แกยังไม่พร้อมเพราะแกมีแต่หน้าที่การงานที่ดีแต่ไม่มีทรัพย์สินเงินทองอะไร วันนึงพ่อของแฟนแกเรียกไปคุยและเซ็นเช็คให้ 10 ล้าน (-สิบล้านบาท-) สำหรับซื้อบ้านและแต่งงาน แกเครียดมากมาปรึกษาพวกเราว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี ใครรู้เข้าจะน่าเกลียดไหม น่าอายหรือเปล่า พวกเราบอกแกไปว่าโชคดีมากกว่าที่ไม่ต้องมาก่อร่างสร้างตัว ไม่ต้องเป็นหนี้เป็นสิน ไม่ต้องเครียดเรื่องการหาเงิน ฯลฯ" สุดท้ายแกก็ตัดสินใจรับเงินก้อนนั้นมา และดำเนินการตามความประสงค์ของพ่อแฟน คือ นำมาจัดงานแต่งงาน ซื้อบ้าน+ตกแต่งบ้าน ที่เหลือก็เก็บเข้าบัญชี ทุกวันนี้ชีวิตครอบครัวแกมีความสุข ตัวแกไม่ต้องมาทำงานใช้หนี้ธนาคารให้เครียด เห็นไหมคะ Happy จะตายไปค่ะ แหม ทำไมไม่มีใครมายื่นข้อเสนอแบบนี้ให้เราบ้างน้า 55+ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 53 14:59:09 จากคุณ : คุณแม่ & น้องดรีม เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 14:54:57

ความคิดเห็นที่ 37 เป็นผมจะบอกทุกคนอย่างภูมิใจว่าแม่ผมซื้อบ้านให้ครับ ใครจะว่าไงก็ไม่สน เงินแม่ผมหามาอย่างสุจริต ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ไม่ได้ไปปล้นหรือไปโกงใครมา ก็ไม่เห็นจะมีอะไรไม่ต้องอายใครนี่ครับ จากคุณ : aof_kub เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 15:00:40

ความคิดเห็นที่ 38 ผมว่าคนที่ไม่เห็นด้วย คงรู้สึกอิจฉามากกว่าครับ คิดมากไปใย จากคุณ : blue label เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 15:01:41

ความคิดเห็นที่ 39 พอมีลูก  คุณก็จะคิดในแบบพ่อ แม่ที่จะคิดกับลูก เราว่าในสายตาของพ่อแม่  ท่านมีแต่คำว่าให้และทำทุกอย่างเพื่อลูก เราติดหนี้พ่ออยู่หลายล้าน เพราะเอาเงินมาทำบ้าน พอโดนโกงพ่อกับแม่อีกนั่นแหล่ะที่รีบมาอยู่ข้างๆเรา เรามีลูก มีสามีที่มีอาชีพการงานดี  แต่แม่กับพ่อก็บอกเราเสมอๆว่า ในสายตาของพ่อกับแม่หนูก็ยังเป็นเด็กน้อยๆที่เราอยากจะดูแล ปกป้องเสมอ เราบอกลูกตลอดว่า  เวลาแม่เลือกคุณตาคุณยายก่อน  หนูอย่าได้น้อยใจเพราะ ชีวิตของแม่ที่จะเป็นของหนูต่อไป  มาจากคุณตาและคุณยาย คุณพ่อคุณแม่ของเจ้าของกระทู้ พยายามทำหน้าที่ของพ่อและแม่อย่างน่าสรรเสริญที่สุดแล้วค่ะ อย่าได้ทิ้งหรือลืมท่านเด็ดขาด จากคุณ : anavrin เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 15:03:17

ความคิดเห็นที่ 40 อายใครครับ? อายชาวบ้านเหรอ...เวลาเราเดือดร้อน ชาวบ้านเคยมาช่วยสักบาทไม๊ครับ แล้วเรื่องในครอบครัวเรา อายทำไมครับ... จากคุณ : หน้าผู้ร้าย ใจพระเอก เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 15:05:22

ความคิดเห็นที่ 41 บ้านผม ก็พ่อแม่ซื้อให้..... บ้านของลูกผม ผมก็ซื้อให้.... ต่อไปผมก็จะให้ลูกผมซื้อบ้านให้หลานของผมด้วย ถ้าพ่อแม่มีเงินแล้วยังต้องให้ลูกหาเงินเลี้ยงตัวเองทุกอย่าง พอแก่ตัวไปแล้วพ่อแม่ยังจะมีหน้าให้ลูกมาเลี้ยงดูอีกหรือ .....ถ้าหวังพึ่งลูก ก็ต้องให้ลูกได้พึ่งก่อนครับ........... จากคุณ : นายสันทัด เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 15:08:54

ความคิดเห็นที่ 42 มุมมองของพ่อแม่ที่ให้ลูก กับมุมมองลูกที่เป็นคนรับมันไม่เหมือนกันหรอกค่ะ คนที่เป็นพ่อแม่ ก็อยากให้ลูกได้อยู่สบายมีความสุขอยู่ตลอดอยู่แล้ว แต่คนที่เป็นลูกจะรู้สึกอย่างไร ก็่ขึ้นอยู่กับตัวลูกคนนั้นเอง ในมุมมองของพ่อแม่...ถ้าลูกเราจะซื้อบ้านเงินผ่อน และเรามีเงินเย็นอยู่มากมาย เราก็จะบอกลูกว่า แม่จะให้ยืมเงินสด แล้วให้ลูกมาผ่อนกับแม่แทน อย่าไปเสียดอกให้ธนาคารเลย ให้ลูกผ่อนในจำนวนที่เขาไม่ลำบาก ทั้งนี้เพื่อทำให้ลูกได้มีวินัยในการใช้เงิน มีความเป็นผู้่ใหญ่ มีความรับผิดชอบ และเขาก็จะภาคภูมิใจว่าเขาใช้เงินของเขาเองในการซื้อบ้านหลังนี้...ในที่สุดเงินที่เขาผ่อนให้กับพ่อแม่นั้น พ่อแม่ก็คงจะเก็บไว้และตกไปถึงเขาในที่สุด ในมุมมองของลูก...ถ้าพ่อแม่เราจะจ่ายเงินสดให้เรา เราก็รับนะ แต่เราจะบอกพ่อแม่ว่าเราจะผ่อนคืนให้พ่อแม่ ซึ่งดีกว่าไปเสียดอกเบี้ยให้ธนาคาร เพราะเราจะรู้สึกภูมิใจมากที่เราสามารถใช้เงินตัวเองซื้อหรือสร้างบ้านของตัวเอง...อย่างน้อยเราก็ได้ภาคภูมิใจว่าเราก็มีความสามารถในการตั้งหลักปักฐานด้วยตัวเอง แม้จะพึ่งพ่อแม่บ้างก็ตาม (แต่ก็ไม่ได้พึ่งทั้งหมด) จากคุณ : Cordia เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 15:08:56

ความคิดเห็นที่ 43 ถ้าคิดมากก็ผ่ากระบอกไม้ไผ่มาเกิดเลยครับ อย่าเกิดทางท้องแม่เลยครับ ถามอย่างนี้ ดูเบาน้ำใจพ่อแม่น่าดูครับ ถ้ากังวลนัก ก็อยากให้ทำตัวเป็นลูกที่ดีอย่างแท้จริงตลอดไปสิครับ ได้ทั้งบุญ ทั้งความสุขในครอบครัว ไอ้คนที่ดูถูกคุณมันมีปัญญาทำได้หรือเปล่า? อย่าคิดมากครับ บ้านแค่สองล้าน ส่งลูกเรียนเมืองนอกบางเมืองบางโรงเรียนยังแพงกว่าเยอะครับ ถามคุณหมออรรถสิทธิ์สิครับ ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : messoforte (Messoforte) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 15:20:22

ความคิดเห็นที่ 44 เป็นผม ก็คงรับไว้  แล้วผ่อนจ่ายตามกำลังเท่าที่เราไม่ลำบาก  (ตามประสงค์ของบิดามารดา)  ก็ผ่อนจนครบที่เรายืมมา โดยไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยก็ได้ กี่ปีก็ว่าไป   แค่นี้ก็ไม่รู้สึกว่าเราเอาเิงินของพ่อแม่มาใช้นะ  แล้วก็ดูแลท่านให้ดีๆ เพราะท่านรักเรามาก  บอกกับแฟน ถึงพระคุณท่าน  สอนลูกสอนหลานให้รักท่านดุแลท่าน แค่นี้แหละครับ   ไม่เห็นต้องคิดอะไร อยากมีคนออกให้บ้าง 555 จากคุณ : กระบี่ที่หนึ่ง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 15:21:48

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้าจขกท.อยากสบายใจขึ้น ก็เก็บเงินที่จะต้องใช้ผ่อนบ้านปกติให้กับคุณพ่อคุณแม่เขาสิค่ะ อาจจาไม่มากเท่าตอนผ่อนบ้านแต่ถ้าได้เท่าก้อดี ฝึกเก็บเงินค่ะ ก็คิดซะว่า เราได้ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่นะคะ ถ้าคุณพ่อคุณแม่เขาไม่รับ ก็ลองบอกเขาว่า งั้นเป็นเงินฝากเก็บละกันค่ะ ฝากให้คุณพ่อคุณแม่เก็บไว้ให้ อิอิ ^^ จากคุณ : baby bookworm เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 15:23:01

ความคิดเห็นที่ 46 ไม่น่าอายนะคะ เราเอาเงินที่เราวางแผนจะผ่อนบ้าน ส่งให้เค้าก็ได้ หรือหาอะไรดีๆตอบแทนเค้าดูแลเค้าให้ดีที่สุดค่ะ ชาวบ้านเค้าไม่ได้มาจ่ายเงินให้เรา อย่าได้แคร์ค่ะ (นึกถึงตอนเราแต่งงาน เราอยากแต่งเรียบๆ แต่คนอื่นอยากให้เราจัดใหญ่ คิดแล้วก็ อืม.... เธอมาจ่ายเงินให้ชั้นไหมล่ะ แต่งงานใหญ่โตแล้วมานั่งใช้หนี้เนี่ยะ...ใช่เรื่องที่ไหน ขี้ปากชาวบ้านนี่หน่อ....) จากคุณ : pojako เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 15:26:24

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณทุกท่านนะครับ ที่ให้ข้อแนะนำและกำลังใจ ผมอาจจะมีความรู้สึกบ้างนะครับ เหมือนตามที่เม้นท์พูดๆกัน คือเรื่องความภูมิใจอะครับ แต่ก็อย่างว่านะครับพ่อแม่เต็มใจให้ ก็ต้องรับกันไป ตอนผมซื้อบ้านก็ไม่ได้นึกถึงว่าจะมีใครมาปลดหนี้ให้ ผมก็กู้กับแฟน ผ่อนกันเอง ตามประสาคนวัยทำงานปกติ หรือบางทีผมต้องมีหลานให้ท่านอุ้มแล้วละครับ อิอิ ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจ และคำแนะนำอีกครั้งครับ จากคุณ : Subject เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 15:28:26

ความคิดเห็นที่ 48 ต่างคนต่างมีเหตุผลของตนเองครับ ทุนเราไม่เท่ากัน แทนทีจะต้องมีหนี้สองล้าน ถ้ารู้จักเก็บก็จะมีทุนเพิ่มสองล้านครับ เอาเงินส่วนนี้ไปหากำไรต่อ(ไม่ว่ากำไรที่ป็นเงินหรือกำไรชีวิต) หาด้วยตัวเองก็ภูมิใจครับ พ่อแม่ซื้อให้ก็ภูมิใจในความรักที่พ่อแม่มีให้ครับ แล้วก็ต้องตอบแทนท่าน คิดบวกไว้ครับ คิดลบมากๆเยี่ยวเหลืองเปล่าๆ ส่วนตัวผมก็โดนถากถางบ่อยครับ ด้วยความที่พ่อแม่หาเงินเก่ง และเก็บเก่ง เพราะท่านไม่ใข้ฟุ่มเฟือย ทำให้เราดูสบายกว่าคนอื่น(ทั้งที่เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าสบาย เสื้อผ้าก็ไม่ซื้อ ใส่แต่ตัวเดิมๆ กับข้าวก็ทำเอง กินแต่ไข่ บางวันก็กินมื้อเดียว นอนหิวทั้งคืน เข็มขัดขาดก็เอาเทปแปะ มือถือเก่าๆก็ยังใช้อยู่ กระเป๋าตังค์นี่หลุดลุ่ย) จากคุณ : Tsengok เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 15:29:39

ความคิดเห็นที่ 49 อยากมีพ่อแม่แบบนี้บ้าง T^T จากคุณ : doxday เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 15:31:22

ความคิดเห็นที่ 50 ก็ ตอบแทนท่านโดยพาท่านไปไหนมาไหน ที่อยากไป หรือท่านอยากให้ทำไรก็ช่วยทำ ก็เท่านั้นแหละ ครอบครัวก็อบอุ่น จากคุณ : peggo เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 15:36:02

ความคิดเห็นที่ 51 ดีครับ หมดภาระจากผ่อนบ้านแล้ว ก็ควรจะนำเงินนั้นไปผ่อนกับลูกแทน อิอิ จากคุณ : KONGKANGFA เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 15:40:15

ความคิดเห็นที่ 52 ไม่อายค่ะ...ถ้าเราอายุ 15 -*- คือมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะนะคะ แต่ถ้าจะให้ดีสร้างเองน่าจะภูมิใจกว่า อีกอย่างเรามีหน้าที่เลี้ยงท่าน ทำไมกลายเป็นท่านยังดูแลเราอยู่ทั้งๆที่เราแต่งงานมีครอบครัวแล้ว เอ่อ...ความคิดอาจจะขัดแย้งกับบางคน มันเป็นมุมมองของเราน่ะค่ะ อย่าโกรธกัน จากคุณ : ปลาน้อยร้อยชั่ง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 15:41:54

ความคิดเห็นที่ 53 ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาคิดว่าน่าอายหรือไม่ สิ่งที่เราน่าจะคิดคือ เราดูแลท่านดีมากพอแค่ไหน ไม่ว่าท่านจะซื้อหรือไม่ซื้ออะไรให้เรา แต่เราเกิดมาถึงทุกวันนี้ได้เพราะท่าน ใช้เวลาคิดและให้เวลากับท่านมาก ๆ ดีกว่าการจะมาอายหรือไม่อาย ผมว่านะ จากคุณ : Tofu-PT เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 15:47:10

ความคิดเห็นที่ 54   ปกติ ปู่ย่าตายายก็ทำ ผมเองพอมีลูกก็เตรียมไว้ให้ มันถึงได้มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆครับพี่ จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 15:53:39 A:116.58.231.242 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 55 ไม่น่าอายครับ แต่ก็ไม่มีสิ่งให้ภูมิใจ  เพราะคนเราจะรู้สึกภูมิใจกับสิ่งที่เราสามารถหามา สร้างมาได้ด้วยตนเอง อย่างผมกล้าเล่าอย่างภาคภูมิใจว่า ตั้งแต่เรียนจบ ไม่เคยขอเงินที่บ้านสักบาท  ปัจจุบันมีบ้าน มีรถ รวมมูลค่าทรัพย์สินก็หลายล้านอยู่ จากคุณ : ซาตานกลับใจ เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 16:00:19

ความคิดเห็นที่ 56 ไม่เห็นจะน่าอายเลยครับ คนจะอิจฉามากกว่า 5 5 5 ถ้าใครมาว่าคุณแสดงว่าตาของเขาร้อนผ่าวเลยครับ จะเสียดอกเบี้ยทำไมครับ เก็บเงินทำอย่างอื่นดีกว่าครับ จากคุณ : Zam เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 16:13:54

ความคิดเห็นที่ 57 คุณก็เอาเงินที่ไม่ต้องผ่อนไปทำอะไรดีๆอย่างอื่นให้พ่อแม่คุณสิคะ จากคุณ : จิ๊บ (cupid_jib) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 16:17:34

ความคิดเห็นที่ 58 เป็นเราเราไม่อายอ่ะ เราชอบ ^ ^ ของฟรีจากคนอื่นไม่เอา แต่จากพ่อแม่ - เอา  (ไม่น่าเกลียด)  อิอิ ^ ^ จากคุณ : FloraLilly เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 16:21:09

ความคิดเห็นที่ 59 รักและดูแลท่านยามชราให้มากๆๆนะคะ ถือเป็นการทดแทนพระคุณท่าน ส่วนคุณกับภรรยา ก็เก็บออมเงินที่ควรจะใช้ผ่อนบ้านไว้เป็นทุนรอนในอนาคตไงคะ คุณโชคดีแล้วนะคะ ยินดีด้วยค่ะ จากคุณ : Takinuy เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 16:23:45

ความคิดเห็นที่ 60 อายทำไม แต่ถ้า ท่านให้ขนาดนี้ ยังอกตัญญูอีก นี่สิครับ ยิ่งกว่าน่าอาย จากคุณ : ฮูยัน เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 16:26:24

ความคิดเห็นที่ 61   ไม่น่าอาย แต่ น่าอิจฉามากกว่า มีคุณพ่อ คุณแม่ที่น่ารักขนาดนี้ ตอบแทนท่านด้วยการ เป็นลูกกตัญญู แค่นี้ท่านก้อปลื้มใจแล้วค่ะ จากคุณ : cholly-ik เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 16:28:57

ความคิดเห็นที่ 62 ไม่น่าอายหรอกค่ะ เงินพ่อแม่ก็เงินลูกแหละ  ยิ่งพ่อแม่เต็มใจและเสนอให้ ไม่ใช่เราไปขอเองนี่นา  ถ้าเป็นเรา เราก็คงไม่ขอเอง เราไม่อยากรบกวนท่าน แต่ถ้าพ่อแม่เสนอให้ ก็รับไว้เถอค่ะ จากคุณ : chan-rak-thong-fa เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 16:29:39

ความคิดเห็นที่ 63 ไม่น่าอายหรอกครับ เพราะบางที่ท่านก็ไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร มันก็เหมือนกับมรดกที่ท่านเหลือไว้ให้นั่นหล่ะครับ เมื่อถึงเวลาที่ท่านจากไป เราก็ยังมีบ้านหลังนี้ไว้ระลึกถึงท่านได้เสมอ ยังไงก็หมั่นดูแลท่านด้วยนะครับ จากคุณ : kazukiball เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 16:32:30

ความคิดเห็นที่ 64 ไม่น่าอายหรอกครับ เพราะบางที่ท่านก็ไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร มันก็เหมือนกับมรดกที่ท่านเหลือไว้ให้นั่นหล่ะครับ เมื่อถึงเวลาที่ท่านจากไป เราก็ยังมีบ้านหลังนี้ไว้ระลึกถึงท่านได้เสมอ ยังไงก็หมั่นดูแลท่านด้วยนะครับ จากคุณ : kazukiball เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 16:32:50

ความคิดเห็นที่ 65 ส่วนตัวผมว่า ผมไม่เอาครับ ผมไม่อยากรบกวนพ่อแม่ แต่ถ้าพ่อแม่ มีเงินเหลือเก็บเป็นนักธุรกิจ ประมาณว่า พ่อแม่รวย ก้แล้วแต่ท่าน  แต่ถ้า พ่อแม่ มีอาชีพรับราชการใกล้เกษีณผมไม่รบกวนครับ ให้ท่าเก็บเงินไว้ใช้ดีกว่า จะเอาไปเที่ยว ทัว ตจว หรือ เอาไปใช้กับความสุขยามเกษียณ ดีกว่า  เพราะท่านเลี้ยงดูส่งเสียเรามาก็เยอะ ถึงคราวที่เราต้องทดแทนด้วยซ้ำ ถ้าผมมีเงินเหลือเก็บผมจะให้เป็นเงินก้อนให้พ่อแม่มีเงินไปทัวต่างประเทศด้วยซ้ำครับ ..............ของพรรณนี้อยู่ที่ความพึงพอใจครับ อย่าโทษตัวเองเลย อะไรเป็นความสุขก้ปล่อยท่านทำไปครับ จากคุณ : ผ่านมา (dconth) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 16:41:47

ความคิดเห็นที่ 66 คนเป็นพ่อหรือแม่แล้ว จะรู้ว่าความสุขของลูกคือทุกอย่างของพ่อแม่ครับ รับไว้เถอะ ตอนนี้ลูกผมสองขวบแต่ผมวางไว้แล้ว ว่าจะซื้อทั้งบ้าน รถ ลงทุนทำธุรกิจ ส่งเรียนให้สูงสุดเท่าที่เค้าอยากจะเรียน มันเป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นพ่อกับแม่ คนเป็นลูกก็แค่รับไว้ท่านก็ดีใจละ ใส่ใจท่านบ้างก็พอ ปล.คห.ที่ 29 ตอบแทนพ่อทุกคนได้ดีนะ เจ้าคือดาวดวงน้อยของพ่อ จับมือพ่อเอาไว้ พ่อจะพาเจ้าเดินข้ามไป สู่ปลายทางที่ดี จากคุณ : prystal เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 16:56:23

ความคิดเห็นที่ 67 มีเงินก็ไม่น่าเกียจ อย่าไปแคร์สื่อครับ อย่าลืมครับ ดอกเบี้ยบ้าน มโหราณขนาดไหน ถ้าแคร์สื่อ แคร์สังคม ก็ผ่อนกับพ่อแม่ทีหลังก็ได้นิ โปะได้โปะไปก่อน ว่าแต่พึ่งผ่อนได้ 3 เดือน แบงค์ไหนจะให้โปะครับ จากคุณ : Seven Heaven เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 16:58:06

ความคิดเห็นที่ 68   ไม่เห็นน่าอายเลยครับ ลองคุณมีลูก แล้วเจอเหตุการณ์แบบเดียวกัน ผมว่าคุณทำเหมือนกับพ่อแม่คุณ นั่นแหละครับ แต่ที่สำคัญคุณยังมีจิตสำนึก ในความละอายบ้าง อันนี้แหละเป็นส่วนดี ถ้าคุณมีเงินในภายภาคหน้าคุณก็ผ่อนคืนให้เขาก็ได้ ดีกว่าลูกบางคน ไม่มีจิตสำนึกเอาแต่ขอเงินพ่อแม่ใช้ กร่าง เที่ยวไปทั่ว ใช้บารมีพ่อแม่ ทำผิดอะไรแล้วไม่ต้องรับโทษ อันนั้น น่า ระ.. (คูแข่งมาม่า) กว่าเยอะครับ แต่ถ้าสักวันนึง คุณสามารถหาเงินซื้อบ้านตัวเอง ด้วยความสุจริต ทำไรให้พ่อให้แม่ได้ อันนั้นแหละครับ คุณจะได้ความภูมิใจกลับมา ผมว่าสิ่งที่พ่อแม่คุณต้องการก็แค่ขอให้คุณอยู่สบาย พอมีพอใช้(ไม่จำเป็นต้องรวยหรอก) และเป็นคนดีของสังคม และข้าของแผ่นดิน รับใช้แผ่นดินไทย ที่ดีไม่คดโกงประเทศ ช่วยเหลือประชาชน มากกว่าครับ จากคุณ : lotto เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 17:02:52 A:58.9.71.207 X: TicketID:271137

ความคิดเห็นที่ 69 ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ท่านช่วยเราแล้วท่านเดือดร้อนหรือไม่ ถ้าเงินพ่อแม่ช่วยเราแล้วท่านไม่เดือดร้อน ประมาณว่าพ่อแม่มีกะตังค์อ่ะ ผมจะไม่รู้สึกอายเลย ผมจะรู้สึกว่า  โคตรโชคดีเลย ที่เกิดมามีพ่อแม่ที่รวยและรักเรา มันน่าอายตรงไหนอ่ะ เงินของพ่อแม่เราเอง ไม่ได้โกงใครมาซักหน่อย   จากคุณ : jaiem เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 17:05:33

ความคิดเห็นที่ 70 ไม่น่าเกลียดหรอกครับ แต่ทำไมไม่ซื้อให้ตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแล้วก็ค่าปรับ หรือเค้าสองคนเพิ่งจะเคลียกันได้ว่าจะออกเงินให้.... หรือเค้าเพิ่งรู้ว่าลูกซื้อบ้าน จากคุณ : recombination เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 18:08:20

ความคิดเห็นที่ 71 ไม่น่าอายเลย ออกแนวอิจฉาด้วยนิดๆ เหอะๆ ทำไมผมไม่มีแบบนี้มั่ง ซื้อคอนโดให้ซักห้องงี้ แต่ก็ไม่เป็นไรครับ  พยายามด้วยตัวเองต่อไป พ่อแม่ก็เหนื่อยมามากแล้ว ให้เค้าพักผ่อนดีกว่า จากคุณ : All I wanna do is rock เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 19:10:27

ความคิดเห็นที่ 72 กรณีที่พ่อ-แม่ไม่เดือดร้อนกับเงินจำนวนนี้ในการครองชีพ ท่านเต็มใจ และไม่ได้ไปตื้อขอเงิน น่าอายตรงไหน ถ้าน่าอาย เวลาเรารับมรดกก็น่าอายกันทั้งประเทศ ทั้งโลกกันแล้วสิคะ อ้อ! ยกเว้นรับไปแล้วลืมว่าพ่อแม่เป็นคนให้มาสิ น่าอายมากค่ะ จากคุณ : simiach เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 19:15:34

ความคิดเห็นที่ 73 จะอายทำไม ถ้าเป็นเงินเย็นนะ แต่ถ้าเป็นผม ลูกควรจะหยุดใช้เงินพ่อ แม่ แล้วเริ่มตอบแทนกลับบ้างหลังจากมีรายได้ของตัวเอง เพราะฉะนั้นผมจะฝากเงินกลับเข้าบัญชีของท่านเท่ากับที่ต้องกู้มา (คิดดอกเบี้ยให้ด้วย) จากคุณ : C2minus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 19:16:46

ความคิดเห็นที่ 74 เราเป็นผู้หญิงนะคะ แต่จะเข้ามาตอบว่าก็ไม่เห็นต้องอาย อย่างที่หลายๆ คห.บอก ว่ามันขึ้นอยู่กับเหตุผลและความพร้อมของคุณพ่อ คุณแม่        ซึ่งจขกท.ต้องรู้ดีกว่าใครๆ ว่าที่ท่านทำให้เราท่านเดือดร้อนหรือท่านกรุณา แล้วหาทางตอบแทนท่านในทางอื่นๆ เราเห็นด้วยกับหลายๆท่านที่เก็บเงินสร้างบ้านได้เองย่อมจะภูมิใจในตัวเองมากกว่าอยู่แล้ว    แต่ถามว่าหากจขกท.มีทางเลือกซึ่งเป็นทางเลือกที่คุณพ่อ คุณแม่สามารถ ช่วยเหลือได้อย่างไม่ลำบาก เพื่อให้จขกท.ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย แล้วเก็บเงินส่วนนั้นไปต่อยอด ออกผลเรื่องอื่นๆ รวมทั้งนำเงินส่วนนั้นกลับไปดูแลท่าน เราว่ายังมีประโยชน์และเป็นการใช้เงินให้เป็นประโยชน์เสียมากกว่า      เราเองครั้งนึงเคยทำงานที่มีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์ ทางบ้านมีเงินส่วนนี้ก็จ่ายให้เป็นการซื้อสด เพื่อไม่ต้องเสียดอกเบี้ย จนมีคำพูดของเพื่อนบางคนที่เค้าต้องผ่อนรถเอง นำเรื่องของเราไปพูดต่อ แบบไม่ดีนัก แต่เราไม่ได้ตอบโต้อะไร เรานำเงินส่วนที่จะต้องผ่อนรถ(หากซื้อผ่อน) ไปส่งให้น้อง ที่ยังเรียนอยู่ จนปัจจุบัน เราไม่มีความจำเป็นต้องใช้รถคันนี้แล้ว  ก็จะโอนต่อให้น้องที่กำลังจะเข้าทำงานใช้ต่อ      ที่เราเล่ามายาวขนาดนี้เพื่ออยากบอก จขกท.ว่าทุกอย่างอยู่ที่ตัวคุณเอง หากคิดว่าจะมีคนนินทามั๊ย คงยากที่จะห้ามปากคน แต่คุณเป็นคนเดียวที่รู้ตัวดีที่สุดว่าทำอะไร เพื่อใคร หากคิดว่ายอมรับเงินก้อนนี้แล้วจะทำให้คุณต้องไม่สบายใจหรือไม่ภูมิใจที่จะสร้างบ้านเป็นของตัวเอง เราแนะนำให้ปฏิเสธท่านเสีย ทั้งหมดคุณรู้อยู่แก่ใจค่ะ จากคุณ : ขอเป็นอีกเสียงหนึ่ง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 19:55:41

ความคิดเห็นที่ 75 ตามใจท่านๆ น่าจะมีความสุขนะคะ จากคุณ : merit_bee เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 20:00:34

ความคิดเห็นที่ 76   ซื้อเองก็ภูมิใจมากหน่อย พ่อ แม่ ซื้อก็ภูมิใจน้อยหน่อย แต่ไม่อาย ?? อย่าอาย ?? แม้แต่ นายก พ่อ แม่ท่านยังเตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อม เค้าเรียก ทำบุญมาดี จากคุณ : อือ เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 20:10:46 A:124.121.13.202 X: TicketID:240758

ความคิดเห็นที่ 77   จะบอกว่า สมัยนี้ ลำพังเป็นพนง.กินเงินเดือนในตำแหน่งกลางๆ ยากมากๆที่จะก่อร่างสร้างตัวได้เหมือนแต่ก่อนครับ เงินเดือนเยอะขึ้นจริง แต่ค่าใช้จ่ายเอาแค่ที่จำเป็นก็จะล้นเงินเดือนแล้วครับ คิดดูว่า สมัยนี้เอาแค่ซื้อคอนโดห้องเท่าอพาร์ตเม้นต์ยังตั้งกี่ล้านแล้ว ถ้าจะซื้อบ้านเดี่ยวตามชานเมืองกทม.ก็ต้องมีห้าล้านอย่างต่ำ อย่างทางด้านแฟนผม ฝั่งนั้นมีพี่น้องสามคน พ่อแม่แจกแจงทรัพย์สินเท่ากัน เวลาซื้อที่ดินก็ซื้อสามแปลง นี่พี่แฟนแต่งงาน ยังอยู่บ้านเดียวกับพ่อแม่แฟน อยากจะสร้างบ้านบนที่ดินที่ได้มาจากพ่อแม่แฟน แต่ลำพังกินเงินเดือนพนง. ก็ลำบาก เพราะอยากสร้างดีๆ ตอนแรกพ่อแม่แฟนก็ใจแข็ง บอกอยากให้สร้างเอง เพราะนี่ก็ซื้อที่ดินให้ก็หลายล้านแล้ว ให้ไปกู้ธ. ชีวิตจะได้มีระเบียบวินัย หัดใช้จ่ายเป็น แต่ไปๆมาๆก็ต้องสร้างให้ เพราะผมก็แนะนำไปว่า ทำไมไม่ให้กู้กับพ่อแม่แทนละ ดอกเบี้ยที่มาจากเงินกู้ก็ยังอยู่ในครอบครัวตัวเอง จุดประสงค์คืออยากสร้างวินัย ก็เอาซิ ใจแข็งๆหน่อยเท่านั้นแหละ อย่างน้อยพอต่อไป ดอกเบี้ยที่เกิด มันก็ไม่ไปไหน เก็บเอาไว้ให้หลานตัวเองก็ยังได้ ดีกว่าเปล่า เพราะตัวเองก็ใช่ว่าจะไม่มี จะเสียตังค์ให้ธนาคารทำไม เท่านั้นละครับ เลิกคิดให้ไปกู้ธนาคาร บอกให้มากู้กับพ่อแม่แทน แต่ลงสัญญาเป็นทางการเลยนะ ประมาณว่าฟ้องได้ละ ให้มันดูจริงจังหน่อย ลองดูครับ ผมว่ามันเป็นทางออกที่ดีนะครับ ยังไงพ่อแม่ก็คือพ่อแม่ครับ ลูกจะโตยังไง ก็ยังเห็นเป็นเด็กอยู่นั้นละ ถ้ากลัวอายคนอื่น ก็เอาตามนี้ครับ ดอกเบี้ยที่เกิดก็บอกยกผลประโยชน์ไปให้หลานแทนซะเลย จากคุณ : kanstk เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 20:24:46

ความคิดเห็นที่ 78   รู้ใช้ รู้จ่าย ไม่อกตัญญู ตอบแทนคุณ ไม่เห็นมีอะไรน่าอาย คิดว่าเป็น ของขวัญแต่งงาน ใครจะคิดอย่างไร ก็ช่างเขา จิตเศร้าหมอง ไม่ใช่เพราะคนอื่น แต่เป็นเพราะ เราได้ทำตัวเราเอง ผ่านทางกาย,วาจา และ ความคิด อย่าไป  serious  เลย เราไม่ได้เลวหรือ ดี เพราะปากคนอื่นเขา จากคุณ : winkit เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 20:30:15

ความคิดเห็นที่ 79   ถ้าคุณอาย ก็แปลว่าดูถูกความรักของคนเป็นพ่อแล้วครับ ถ้าผมมีลูก อย่าว่าแต่2ล้านเลยครับ ชีวิตยังให้ได้ ผมคิดว่าพวกที่น่าอาย คือ พวกที่ไม่ยอมดูแลพ่อแม่ตอนแก่ต่างหาก พวกที่มีปัญญาเลี้ยงดูแต่ไม่ทำ เกี่ยงกันเลี้ยงพ่อแม่ พวกนี้สิน่าอาย จากคุณ : Cabriolet เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 20:44:49

ความคิดเห็นที่ 80 คิดเหมือน คห 27 ค่ะ ถ้าคุณเป็นลูกคนเดียว ทางบ้านฐานะดี ก็โชคดีมากๆ ค่ะ บ้าน รถ แน่นอนมันเป็นความภาคภูมิใจของคนเป็นเจ้าของ เพราะคุณต้องวางแผนอะไรหลายๆ อย่าง ฝ่าฟันอุปสรรคเยอะแยะ ของที่ได้มายาก คุณค่ามันก็มากเช่นกัน แต่ถ้ามองในมุมของพ่อแม่ มันก็เป็นความภูมิใจของท่านเช่นกันที่ได้ให้ของสำคัญกับลูก   แต่เงินของท่านก็หามาเหนื่อยยากเหมือนกันเงินขนาดนี้ คงไม่ได้อยู่ดีๆ ก็มีเอง เป็นเราคงหาทางใช้คืนค่ะ ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม ให้ท่านสบายใจนะค่ะ ว่าเราดูแลบ้านที่เป็นเงินของท่านได้รวมทั้งทรัพย์สินอื่นๆ ได้ จากคุณ : boat_hottea เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 20:55:13

ความคิดเห็นที่ 81 ผมแม่ผม กับ แม่ภรรยา ท่านดาวบ้านให้แต่เราผ่อนกันเองเหมือนกันครับ จากคุณ : superspint เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 21:09:38

ความคิดเห็นที่ 82   ถ้าผมเป็นพ่อแม่ ผมจะให้ลูกผ่อนคืนให้ครับ ไม่ต้องไปผ่อนธนาคารให้เสียดอก เป็นการฝึกนิสัยการใช้เงิน และ การอดออมครับ ถ้ารักจะเป็นข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ มันก็ต้องเริ่มกันแบบนี้แหละครับ เงินเดือนน้อยๆ แต่พออายุราชการเยอะเมื่อไร เอกชนได้แต่นั่งมองกันตาปริบๆแหละครับ ข้าราชการสมัยนี้ รวยๆกันทั้งนั้นครับ เงินเดือนแต่ละคน เห็นแล้ว อื้อหือ อะไรก็เบิกได้แทบจะทั้งหมด ถ้าไม่อยากอาย(ตัวเอง) ก็ผ่อนคืนให้ท่านก็ได้นี่ครับ ท่านไม่เอาหรอก ผมรู้ แต่ท่านก็บอกไปเลยว่า อยากหาได้จากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง ค่อยๆผ่อนไป แค่นี้ก็ไม่ต้องอายใครแล้ว ภูมิใจด้วย ท่านอายคนอื่น เพราะตัวท่านมีศักดิ์ศรี คิดแบบนี้ ดีแล้วครับ ไปไหนก็เจริญครับ จากคุณ : ยินดีด้วย เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 21:10:13 A:110.49.193.46 X: TicketID:038237

ความคิดเห็นที่ 83 เอาเวลามาคิดเรื่องจะตอบแทนบุญคุณท่านอย่างไรดีกว่าคะ :) จากคุณ : DBSG_FC! เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 21:49:15

ความคิดเห็นที่ 84 พวกขี้อิจฉา อย่าไปสนใจ คิดไปก็ปวดหัว คนที่เราควรแคร์คือ พ่อ แม่ คู่สมรส และลูก ครับ มีเงินแล้วจะไปจ่ายดอกเบี้ยทำไมหละครับ คุณพ่อคุณแม่คุณท่านเป็นคนฉลาดมากครับ คุณเก็บออมเงินไว้  ยามท่านชราท่านจะได้สบายใจและมีคุณคอยเอาใจใส่   หลายคนที่อายุปาเข้า 40 กว่าปีแล้วยังไม่มีเงินเก็บเลยครับเพราะยังมีภาระหนี้อยู่ จะขยับขยายอะไรก็ไม่ได้   คุณโชตดีแล้วหละ จากคุณ : mongn2000 เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 22:03:41

ความคิดเห็นที่ 85 ไม่ใช่เรื่องน่าอายค่ะ เป็นเรื่องของความรัก อายทำไมคะ อาจจะคิดมากไปเรื่องคนอื่นจะมาว่าอะไรเรารึป่าว ลูกอายุเท่าไหร่ก็ลูก พ่อแม่พร้อมเป็นผู้ให้เสมอ เราก็ตอบแทนท่านด้วยสิคะ ให้ความรักท่านตอนที่ท่านยังอยู่กับเรานี่ล่ะค่ะ จากคุณ : แก้มลูกหอมจัง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 22:32:09

ความคิดเห็นที่ 86 ไม่น่าอายเพราะท่านให้เราด้วยความรักและห่วงใย.. ต้องรู้จักทดแทนคุณท่านด้วยความกตัญญูกลับไป..ไม่ต้องคิดมาก.. จากคุณ : กุบกับ1 เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 22:56:06

ความคิดเห็นที่ 87 ถ้ากลัวอาย ก็ไม่ต้องให้ใครรู้สิครับ เงินในบ้านเราจะไปบอกคนอื่นทำมัยครับ ถ้าไม่บอกใครจะไปรู้.. จากคุณ : Phak Phoom เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 23:09:25

ความคิดเห็นที่ 88 จขกท รุ่นราวคราวเดียวกับผมเลย ที่ต่างกันคือ พ่อผมเสียไป ตอนผมอายุ 19 บ้าน รถยนต์ ที่ดิน ผมสร้างเองทั้งหมด และให้ตังค์แม่ใช้จ่ายทุกเดือน ภูมิใจครับที่อยู่ได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง จากคุณ : jean_navara เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 23:09:40

ความคิดเห็นที่ 89 555  เหมือนเราเลย  พ่อแม่สามีสร้างบ้านให้อยู่  สร้างกิจการไว้ให้ดูแล  แถมยังจ่ายค่าอาหารเวลาไปทานกันนอกบ้านอีก  ทำอย่างไร ลูกชายคนเดียว เพิ่มสะไภ้มาอีกคน  พ่อกับแม่เลี้ยงได้   แต่ท่านขอให้ขยันทำงาน ไม่เกเร ไม่สร้างเรื่องปวดหัวให้ท่าน  และดูแลท่านเวลาเจ็บไข้ได้ป่วย หรือแก่ตัวไป ไม่ต้องไปอยู่บ้านพักคนชราก็พอแล้ว วิถีชีวิตของคนเราต่างกัน  เราก็ไม่ได้งอมืองอเท้าซักหน่อย   อย่าคิดมากเลยค่ะ จากคุณ : คุณนายก้อ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 05:20:32

ความคิดเห็นที่ 90 ขอบคุณอีกครั้งครับ สำหรับเรื่องการโปะ คือ ปิดบัญชีเลยครับ เสียค่าธรรมเนียม 2% ครับ ตอนนี้ผมก็คิดคงส่งเงินเข้าในบัญชีพ่อละครับ ส่งทุกเดือนละครับ จากคุณ : Subject เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 06:44:57

ความคิดเห็นที่ 91   "ความสุขที่สุด"ของพ่อแม่ คือ การได้เห็นลูกมี "ความสุข" มากกว่าเอาเงินไปซื้อเบนส์ขับร้อยเท่าพันเท่า จากคุณ : วิชัย เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 07:24:12 A:110.164.44.127 X: TicketID:129738

ความคิดเห็นที่ 92   ไม่น่าอายครับ แต่ถ้าเป็นผมเงินที่เคยผ่อนกับธนาคารในแต่ละเดือน จะเอามาให้พ่อกับแม่แทนครับ จากคุณ : Mr.Begin เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 08:55:38

ความคิดเห็นที่ 93 ความเห็นส่วนตัว ถ้าคุณเกิดตะหงิดๆในใน คุณก็ผ่อนส่งคืนพ่อคุณไปสิครับ  เดือนละเท่าไรก็ว่ากันไป แล้วให้เหตุผลไปว่า  อยากลองดูว่าตัวเองจะำทำได้เองหรือไม่ และบอกท่านไปด้วยว่า ที่ทำแบบนี้ คุณจะได้เห็นคุณค่า ของเงินที่พ่อแม่เหนื่อยยากหามาให้คุณ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 53 08:58:17 จากคุณ : จระเข้เจ้าเล่ห์ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 08:56:58

ความคิดเห็นที่ 94 ไม่อาย แต่คุณอาจ จะใช้คืนท่านด้วยการผ่อนคืน + ดอกเบี้ย ที่ดีกว่า เงินฝากแบงค์ให้ท่านแทน อย่างน้อย เดือนไหน คุณช๊อต ก็บอกท่าน เราเอง ก็ทำแบบนี้คะ แต่ไม่ได้ ซื้อบ้านแต่ซื้อรถ แล้วเราก้อคืนเข้าบัญชีให้อยู่ เดือนไหนไม่ไหว เราก็หยุดไว้ แต่แม่เราชอบพูดเสมอ ถ้าถูกรางวัลที่ 1 นะ จะให้โป๊ะบ้านให้หมด ทั้งๆ ที่ท่านชอบบ่น อยากกลับไปอยู่บ้านท่านเสมอ คนเป็นพ่อแม่ ย่อมไม่อยากให้ลูกมีหนี้สินหรอกคะ ^_^  รับน้ำใจของท่านไว้เถอะ แล้วตอบแทนด้วยการดูแลท่านให้ดี พาไปเที่ยวบ่อย ๆ ก็พอคะ จากคุณ : Many Name เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 10:30:35

ความคิดเห็นที่ 95   ไม่น่าอายหรอกค่ะ ดิฉันว่า ในความคิดพ่อแม่ของคุณ เค้าก็คงจะมีแพลน ในใจไว้แล้ว ว่าจะสร้างอะไรให้ลูกบ้าง ส่วนใหญ่ ของพ่อแม่ ก็คือ ซื้อบ้านให้ลูกคนละหลัง ได้เห็นลูกมี ภรรยา หรือสามีที่ดี ที่ดูแลกันได้ มีหลานให้ท่านชื่นใจ ไม่ต้องเป็นหนี้เป็นสินใคร ดูแลตัวเองได้ เท่านี้ท่านก็ชื่นใจแล้ว เหมือนแม่ดิฉัน เค้าคิดไว้ว่าจะซื้อบ้านให้ลูกอยู่กันคนละหลัง แต่ท่านก็ไม่ได้รวยอะไร ก็ต้องผ่อน ไป จนตอนนี้ ดิฉันก็ช่วยแม่ โปะบ้านจนหมดไป 1 หลังแล้ว เราคิดแล้ว ก็เลยบอกให้บ้านหลังนี้ ให้กับน้องชายไป แล้วดิฉันจะซื้อเอง ให้แม่เก็บเงินเอาไว้ ใช้ยามแก่เฒ่า เพื่อที่จะได้มาอยู่กับลูกกับหลาน แค่นี้แม่ก็ชื่นใจแล้ว  แต่ติดปัญหาตรงที่แม่ไม่ยอมมาอยู่ด้วยนี่สิ ทำงัยดี  ท่านบอกว่า ตอนนี้ ท่านแข็งแรงอยู่ ยังหาเงินได้อยู่ ถ้าไปอยู่กับลูกหลาน ก็เท่ากับต้องสุญเงินไปเดือนหลายหมื่น แม่ขอเวลา 5 ปี แล้วจะมาอยู่กับลูกและหลาน  ทุกวันนี้ ก็เจอแม่ เดือน ละ 1-2 ครั้ง พาหลานไปหา พาไปทานข้าวทุกครั้งที่มีโอกาส พาไปเที่ยว ทุกเทศกาล  อยากไปไหนก็พาไป  ให้เงินแม่ทุกเดือน เดือนละหมื่น เพื่อให้แม่เก็บเงินไวๆ จะได้มาอยู่กับเรา หนูดีใจที่ได้เป็นลูกแม่   จขกท  ก็ควรดีใจ ที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อกับแม่ เช่นกันค่ะ ไม่ต้องสนใจคนรอบข้าง เพราะเค้าอิจฉา จขกท น่ะค่ะ  เชื่อดิ่ จากคุณ : paikaphu เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 10:52:06

ความคิดเห็นที่ 96 ผมก็เป็นเช่นนั้นครับ ตอนแรกจะซื้อเอง แต่ที่บ้านไม่ค่อยอยากให้เป็นหนี้ แต่ความคิดผมอยากใช้ชีวิตด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธครับ เพียงแต่ก็หาโอเค ทดแทน จากคุณ : ซาลาเปาน่าเจี๊ยะ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 11:13:57

ความคิดเห็นที่ 97 อ่านกระทู้นี้แล้วมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ก็อย่างที่หลายท่านว่าไว้ แทนที่จะดอกเบี้ยไปให้ธนาคาร ( รวมๆหลายแสนอยู่นะ ) เราก็เก็บเงิน ผ่อนให้ท่านไปตามกำลัง ฝึกวินัยการใช้เงินให้ตัวเองด้วย คนเป็นพ่อเป็นแม่คนคงเข้าใจจุดนี้ดีแหละ อย่าไปฟังเสียงชาวบ้านมากนักครับ จากคุณ : คอบอล เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 11:42:21

ความคิดเห็นที่ 98 คุณมีความคิดดี ๆ  แบบนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว อย่าไปคิดมาก อีกหน่อยพ่อแม่คุณแก่ เจ็บป่วยก็ดูแลเขาให้เต็มที่ก็ละกัน ญาติ อย่าไปสนใจเขาอิฉาคุณ จากคุณ : tueuob1 เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 12:06:55

ความคิดเห็นที่ 99 ดีซะอีก   เอาค่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย พา ท่านไปเที่ยวบ่อยๆ จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 12:44:50

ความคิดเห็นที่ 100 อย่าอายครับ...ด้วยความรักที่มีของพ่อแม่ ท่านย่อมอยากให้่คนเป็นลูกอยู่สุขสบาย แต่ ผม ขอแนะนำว่า...คุณไม่ควรรับมาเปล่าๆ คุณควรใช้คืนท่าน... ไม่ใช่ด้วยเงิน...เพราะท่านไม่อยากได้คืนหรอกครับ แต่ใช้คืน...ด้วยความรัก ความใส่ใจ ด้วยการดูแลเอาใจใส่...ในยามท่านเข้าสู่วัยชรา นอกจากจะได้ใช้คืนแล้ว ยังจะได้ความสุขใจในครอบครัว...ด้วยนะครับ จากคุณ : ผ่านมาแซว (ไผ่แผ่วพริ้ว) เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 13:55:59

ความคิดเห็นที่ 101 ตั้งแต่ผมทำงานหาเงินเองได้ ก็ไม่เคยรบกวนท่านอีกเลยครับ มีแต่ให้ท่านไว้ใช้จ่ายทุกเดือน แม้จะไม่มาก สรุปว่า ไม่น่าอาย แต่คงไม่สมควร ยิ่งมีครอบครัวเองอีกด้วยแล้ว จากคุณ : Oh-deh เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 14:03:08

ความคิดเห็นที่ 102   สำหรับเรา คิดว่า ไม่น่าอายค่ะ หากพ่อแม่ยินดีทำให้ลูกด้วยความเต็มใจ ไม่ได้โดนบังคับ ตอนแฟนเรามาขอเราแต่งงาน พ่อของแฟนซื้อเรือนหอให้เลย (แฟนเราไม่ได้ขอ) พ่อเราก็ยกรถยนต์มาให้คันนึง หลังจากนั้น พ่อแฟนก็ยกบ้านเดิมที่อยู่ให้พี่สาวแฟน แล้วพ่อกับแม่แฟนไปปลูกบ้านใหม่ที่ต่างจังหวัด ทำสวนค่ะ สังคมไทย พ่อแม่ทำทุกอย่างเพื่อลูกอยู่แล้ว ขอแค่คนเป็นลูกมีความกตัญญู ก็ไม่เห็นต้องอายใคร จากคุณ : ขนมขม เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 16:41:48 A:203.185.131.233 X: TicketID:251224

ความคิดเห็นที่ 103   ดีออกนะครับ ถ้าเวลาลูกคุณโต มีครอบครัว เป็นคนดี แต่คุณมีเงินเยอะแยะ จะปล่อยให้ลูกผ่อนบ้านอยู่หรอครับ จากคุณ : เพนกวิน ทราย เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 20:36:47

ความคิดเห็นที่ 104 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 11:03:40

ความคิดเห็นที่ 105   อยากได้พ่อแม่โปะให้มั่งจัง แอบอิจฉา แต่พ่อแม่เราเสียไปนานแล้วค่ะ เลยต้องผ่อนเอง อิอิ ปล. ยังไงอย่าลืมเผื่อกั้นห้องชั้นล่างไว้ให้ท่านด้วยนะคะ จะได้ไม่ต้องเดินขึ้นลงบันได รักพ่อแม่ให้มากๆ นะคะ จากคุณ : เบาหวิว เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 11:46:34 A:183.89.205.243 X: TicketID:092733

ความคิดเห็นที่ 106 พ่อแม่รักลูกอายทำไมคะไม่ได้ทำไรผิดซะหน่อย ชื่นชมคุณพ่อคุณแม่มากค่ะท่านรักและห่วงเราเสมอไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ เราในฐานะลูกก็ดูแล  ทดแทนบุญคุณท่านให้ดีที่สุดเท่าที่ลูกคนนึงจะทำได้นะคะ จากคุณ : ลูกลิงน้อย เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 13:31:03

ความคิดเห็นที่ 107 ท่านให้ด้วยความเต็มใจ คนเป็นลูกก็สมควรรับไว้ แล้วหาทางตอบแทนพระคุณท่านดีกว่าค่ะ จากคุณ : endoo (Endoo) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 20:29:58

ความคิดเห็นที่ 108 เป็นเรา เราอายนิดหน่อยค่ะ เราไม่อยากให้ท่านห่วงมาก   เรากู้ซื้อคอนโดเอง หาเอง เลือกเอง ตัดสินใจเอง ก่อนอายุ 30 กะว่าจะไม่บอกพ่อแม่ อยากให้ท่านสบายใจว่าเราอยู่ได้ด้วยตัวเองนะ ไม่ต้องห่วง แต่ว่าธนาคารที่เรายื่นกู้ เค้าอยากให้หาคนกู้ร่วมและต้องเป็นญาติกัน เราเลยต้องบอกพ่อแม่เพื่อขอเอกสารท่าน จำใจบอกจริงๆ ปรากฎตอนหลัง ธนาคารอนุมัติโดยเรากู้คนเดียว ไม่ต้องใช้ผู้ร่วม ดีใจและภูมิใจมากๆ ความรู้สึกมันดี มันอธิบายไม่ถูกค่ะ และรู้ว่าพ่อกับแม่ภูมิใจในตัวเราด้วย จากคุณ : เจ้าหญิงอารมณ์ดี เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 06:12:53

ความคิดเห็นที่ 109 ลูกคหบดีรวย ๆ ก็รับมรดกจากพ่อแม่ทั้งนั้นแหละครับ รับไปเถอะ จากคุณ : apollo14 เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 12:23:16

ความคิดเห็นที่ 110 ไม่สนครับ ผม 31 อยากได้อะไรก็ขอแม่ ทุกอย่าง เพราะผมลูกคนเดียว ของของพ่อแม่ ก็คือของผม จะสนทำไมกับคนอื่น 555+ จากคุณ : bajeta เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 53 22:32:03