1. ถอดแบตก่อนเลย เพื่อเป็นการตัดระบบไฟออกก่อน
2. ถอดเบาะ ถอดแผงประตู ถอดพรมในรถ พรมท้ายรถ มาซักแล้วตากแดดสัก 3 วัน หรือ จนกว่าจะแห้งสนิท
3. ถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย(ถ้ามี) น้ำมันเชื้อเพลิง (กรณีข้อ 3 นี้ หากอยากประหยัด ไม่อยากถ่ายทิ้ง ก็ให้คลายน๊อตใต้ถังน้ำมันที่ว่าทั้งหมด โดยคลายหลวม ๆ ให้แค่น้ำหรือน้ำมันพอออกได้ แล้วเฝ้าดู เพราะหากมีน้ำเข้าไปจริง น้ำจะออกมาก่อนจนหมด(น้ำจะหนักกว่าน้ำมัน มันจะอยู่ใต้น้ำมัน) แล้วตามด้วยน้ำมัน หากน้ำออกหมดแล้วเริ่มมีน้ำมันตามมาก็ขันน๊อตปิดแน่น แต่ผมว่าอย่าดีกว่า เปลี่ยนใหม่หมดสบายใจกว่า
4. ถอดไส้กรองอากาศออกมาทำความสะอาด ตากแดด (หรือเปลี่ยนใหม่ก็ดี)
5. ถอดฟิวส์และกล่อง ecu ออก นำมาเป่าแห้ง แล้วนำไปตากแดด พร้อมพ่นน้ำยาไล่ความชื้น
6. ตรวจดูโคมไฟหน้าและท้าย หากมีน้ำให้ถอดโคมเอาน้ำออกพร้อมทำความสะอาด
7. นำรถตากแดดเพื่อให้แดดไล่ความชื้นหน้าคอนโซลสัก 2 ถึง 3 วัน(หากมีปั๊มลม ให้เป่าลมไล่น้ำในทุกส่วนที่เปียก ไม่ว่าจะเป็นในเก๋ง หรือในห้องเครื่อง)
8. ตรวจน้ำกลั่นในแบต หากล้น ให้เอาสายยางเล็กดูดออกให้เหลือเท่าปรกติ จากนั้นตรวจดูว่าไฟในแบตยังมีอยู่หรือไม่
9. หลักจากทุกอย่างแห้งเรียบร้อย ให้ประกอบใส่กลับเข้าไปเหมือนเดิม
10. ถอดหัวเทียนทิ้งไว้ก่อนโดยก่อนถอดต้องไม่มีน้ำขังอยู่บนหัวเทียน หากมีต้องซับให้แห้ง
11. บิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง on แต่ยังไม่สตาร์ท แล้วลงไปดูหน้าห้องเครื่อง รวมทั้งภายในเก๋ง ว่า มีสิ่งผิดปรกติเกิดขึ้นหรือไม่ เช่น ควัน กลิ่นไหม้ เป็นต้น
12. ให้อีกคนไปสตาร์ทโดยที่ยังไม่ต้องใส่หัวเทียน แล้วตัวเรายืนดูที่รูใส่หัวเทียน พร้อมกับสั่งให้สตาร์ท โดยขณะสตาร์ทให้ดูที่รูหัวเทียนตลอดว่าน้ำถูกไล่ออกมาขณะสตาร์ทหรือไม่ สตาร์ทจนกว่าจะไม่มีน้ำออกมา เสร็จแล้วค่อยใส่หัวเทียนกลับเข้าไปแล้วทำการสตาร์ทจริง โดยอาจต้องพยายามสตาร์ทนานหน่อย
จากคุณ |
:
ป
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ต.ค. 53 00:17:08
A:183.89.232.127 X: TicketID:256612
|
|
|
|