PANTIP.COM : R9833433 สร้างรั้วระหว่างแนวเขตบ้าน [ที่พักอาศัย]

ความคิดเห็นที่ 14

ไม่จำเป็นครับ สามารถสร้างชิดเขตรั้วหรือที่ดินได้เลย เพราะถือเป็นกำแพง อย่างเดียว โดยไม่มีส่วนเชื่อมต่อกับตัวอาคาร
กรณีการก่อสร้างรั้วกำแพงกั้นระหว่างเขตที่ดิน ไม่ต้องขอนุญาตก่อสร้าง หากเกิดกรณีพิพาทสามารถฟ้องร้องทางกฏหมายแพ่งได้
กรณีสร้างรั้วชิดเขตสาธารณะ ต้องขออนุญาตก่อสร้างและถือว่ารั้วเป็นอาคารด้วย
-----------------------------------------------------------------------------------
คัดมา
เลขเสร็จ
425/2523
เรื่อง

บันทึก
เรื่อง ปัญหาข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522
(การตีความคำว่า "อาคาร" ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติ
ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522)
---------
เนื้อหา
กระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือ ที่ มท.0100/16158 ลงวันที่ 2 กันยายน
2523 ขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาให้ความเห็นในปัญหาข้อกฎหมาย
ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 โดยมีข้อเท็จจริงว่า กระทรวงมหาดไทย
ได้รับรายงานจากกรุงเทพมหานครว่า ตามมาตรา 4(2) แห่งพระราชบัญญัติควบคุม
อาคาร พ.ศ.2522 ได้กำหนดวิเคราะห์ศัพท์คำว่า "อาคาร" ให้มีความหมายรวมถึง
รั้ว กำแพง ที่สร้างขึ้นติดต่อหรือใกล้เคียงกับที่สาธารณะ ซึ่งในกฎหมายดังกล่าวมิได้ระบุ
แน่ชัดว่าด้านใดหรือช่วงใดของรั้ว กำแพง เมื่อติดต่อหรือใกล้เคียงกับที่สาธารณะแล้ว
จึงจะถือว่าเป็นอาคาร ซึ่งเป็นปัญหาในการตีความตามข้อกฎหมาย กรุงเทพมหานคร
จึงขอให้หารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ดังนี้
1. การก่อสร้างกำแพงระหว่างที่ดินเอกชนต่างผู้ครอบครอง โดยด้าน
ความยาวของแนวกำแพงแบ่งกั้นระหว่างที่ดินเอกชนและมิได้ติดต่อหรือใกล้เคียงกับ
ที่สาธารณะ ส่วนเสากำแพงตอนต้นและตอนปลายสุดอยู่จดกับทางสาธารณะ โดยเสา
กำแพงตอนต้นด้านทิศเหนือติดต่อกับทางด่วนซึ่งการทางพิเศษกำลังก่อสร้างอยู่ และเสา
กำแพงตอนปลายสุดด้านทิศใต้ติดกับถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ดังนี้จะถือว่า กำแพงดังกล่าว
อยู่ติดต่อหรือใกล้เคียงกับที่สาธารณะซึ่งจะถือว่าเป็น "อาคาร" ตามความหมายใน
มาตรา 4 (2) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 หรือไม่ และถ้าถือว่า
กำแพงดังกล่าวเป็นอาคารจะถือว่าเป็นอาคารตลอดแนวความยาวของตัวกำแพงหรือ
เฉพาะช่วงที่ติดต่อกับที่สาธารณะ
2. ถ้าถือว่า กำแพงดังกล่าวเป็น "อาคาร" การคิดคำนวณเพื่อจัดเก็บ
ค่าธรรมเนียมจะคิดเป็นช่วงหรือทั้งหมดตลอดแนวความยาวของกำแพง
กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า ปัญหานี้เป็นปัญหาการตีความ
กฎหมาย จึงขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัย และแจ้งมาด้วยว่า สำหรับ
ปัญหาตามข้อ 1 นั้น กระทรวงมหาดไทยได้เคยขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา
วินิจฉัยมาครั้งหนึ่งแล้วดังปรากฏตามหนังสือ ที่ มท.0100/14006 ลงวันที่ 9 กันยายน
2520 ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาได้วินิจฉัยให้ความเห็นเกี่ยวกับคำว่า "ที่ซึ่งติดต่อกับ
ทางสาธารณะ" ว่า มิได้หมายถึงที่ดินเป็นแปลง ๆ หรือตลอดทั้งแปลง แต่หมายถึง
แนวเขตหรือพื้นที่ที่ติดต่อกับทางสาธารณะ ดังนั้น เมื่อมีการปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้างตามที่
กฎหมายกำหนดลงในที่ดินแปลงที่ติดต่อกับทางสาธารณะ ถ้าสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นติดต่อ
กับทางสาธารณะโดยตรงด้วย จึงจะถือว่าเป็น "อาคาร" แต่สำหรับเรื่องการก่อสร้าง
กำแพงตามกรณีข้างต้นคณะกรรมการกฤษฎีกายังมิได้พิจารณาให้ความเห็น
คณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมาย คณะที่ 2) ได้พิจารณา
ปัญหาดังกล่าวและได้ฟังคำชี้แจงข้อเท็จจริงจากผู้แทนกระทรวงมหาดไทย (กรม
โยธาธิการ) และผู้แทนกรุงเทพมหานคร แล้ว มีความเห็นดังนี้
1. ปัญหาข้อแรกที่ว่า รั้วหรือกำแพง ที่สร้างขึ้นติดต่อหรือใกล้เคียงกับ
ที่สาธารณะนั้นมีความหมายเพียงใด ปัญหานี้ต้องแยกพิจารณาเป็น 2 กรณี คือ รั้วหรือ
กำแพงที่สร้างขึ้นติดต่อกับที่สาธารณะกรณีหนึ่ง และรั้วหรือกำแพงที่สร้างขึ้นใกล้เคียง
กับที่สาธารณะอีกกรณีหนึ่ง
สำหรับกรณีที่ว่า รั้วหรือกำแพงที่สร้างขึ้นติดต่อกับที่สาธารณะจะต้อง
สร้างขึ้นในลักษณะใดจึงจะถือว่าเป็นอาคาร เห็นว่าจะต้องเป็นรั้วหรือกำแพงที่สร้าง
ขึ้นในลักษณะที่แบ่งกั้นที่สาธารณะกับที่เอกชนไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนของรั้วหรือ
กำแพง แต่สำหรับกำแพงตามปัญหาที่หารือมานี้ ปรากฏข้อเท็จจริงว่าเฉพาะเสา
ตอนต้นและตอนปลายสุดของกำแพงเท่านั้นที่ติดต่อกับที่สาธารณะ ส่วนด้านตามยาว
ของกำแพงนั้น เป็นการแบ่งกั้นระหว่างที่เอกชนกับเอกชน จะถือว่าเป็นกำแพงที่สร้าง
ติดต่อกับที่สาธารณะมิได้ จึงไม่เป็นอาคารตามความหมายในมาตรา 5 (2)*(1)
แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522
สำหรับกรณีที่ว่า รั้วหรือกำแพงที่สร้างขึ้นใกล้เคียงกับที่สาธารณะจะ
ต้องสร้างในลักษณะใด จึงจะถือว่าเป็นอาคารนั้น เห็นว่าคำว่า "ใกล้เคียง" นั้น
เป็นหลักการที่ได้เพิ่มเติมขึ้นจากการแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร
พุทธศักราช 2479 การพิจารณาปัญหานี้จึงต้องพิจารณาจากเจตนารมณ์ของกฎหมาย
ที่ประสงค์จะคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน ดังนั้น คำว่า "ใกล้เคียงกับที่
สาธารณะ" จึงต้องพิจารณาจากลักษณะของรั้วหรือกำแพงนั้นว่าอยู่ในลักษณะที่อาจก่อ
ให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนผู้ใช้สอยหรือไปมาในที่สาธารณะได้หรือไม่ เช่น รั้วหรือ
กำแพงที่มิได้สร้างติดต่อกับที่สาธารณะแต่ได้สร้างขึ้นสูงจนอาจล้มมาถึงที่สาธารณะได้
เช่นนี้ก็ถือว่า รั้วหรือกำแพงได้สร้างขึ้นใกล้เคียงกับที่สาธารณะส่วนรั้วหรือกำแพงที่
สร้างขึ้นโดยมีเสาตอนต้นหรือตอนปลายของรั้วหรือกำแพงใกล้เคียงกับที่สาธารณะเป็น
ที่เห็นได้ว่ามีลักษณะที่ไม่อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนผู้ใช้สอยหรือไปมาในที่
สาธารณะได้ จึงไม่ถือว่าเป็นอาคาร อนึ่ง ถ้าปรากฏว่ารั้วหรือกำแพงใดได้ก่อสร้าง
อยู่ก่อนแล้ว ภายหลังจึงมีที่สาธารณะเกิดขึ้นโดยติดต่อหรือใกล้เคียงกับรั้วหรือกำแพงนั้น
------------------------------------------------------------
*(1) มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้
"อาคาร" หมายความว่า ตึก บ้าน เรือน โรง ร้าน แพ คลังสินค้า
สำนักงานและสิ่งที่สร้างขึ้นอย่างอื่น ซึ่งบุคคลอาจเข้าอยู่หรือเข้าใช้สอยได้ และ
หมายความรวมถึง
ฯลฯ ฯลฯ
(2) เขื่อน สะพาน อุโมงค์ ทางหรือท่อระบายน้ำ อู่เรือ คานเรือ
ท่าน้ำ ท่าจอดเรือ รั้ว กำแพง หรือประตู ที่สร้างขึ้นติดต่อหรือใกล้เคียงกับที่สาธารณะ
หรือสิ่งที่สร้างขึ้นให้บุคคลทั่วไปใช้สอย
ฯลฯ ฯลฯ
จะถือว่าเป็นอาคารที่ต้องขออนุญาตก่อสร้างตามความหมายที่บังคับไว้ในมาตรา 21*(2)
แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 หาได้ไม่ เว้นแต่จะมีการดัดแปลงหรือ
รื้อถอนจึงจะต้องขออนุญาตตามมาตรา 22*(3) และมาตรา 23*(4) แห่งพระราชบัญญัติ
ดังกล่าว
2. ส่วนปัญหาที่ถามว่า ถ้าถือว่ากำแพงตามข้อหารือดังกล่าวเป็น "อาคาร"
การคิดคำนวณเพื่อจัดเก็บค่าธรรมเนียมจะคิดเป็นช่วงหรือทั้งหมดตลอดแนวความยาวของ
กำแพงนั้น เห็นว่าเมื่อกำแพงตามปัญหาที่หารือมานี้ไม่เป็นอาคารดังได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว
ปัญหาเกี่ยวกับการคิดคำนวณเพื่อจัดเก็บค่าธรรมเนียมย่อมไม่เกิดขึ้น

(ลงชื่อ) อมร จันทรสมบูรณ์
(นายอมร จันทรสมบูรณ์)
เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตุลาคม 2523
------------------------------------------------------------
*(2) มาตรา 21 ห้ามมิให้ผู้ใดก่อสร้างอาคาร เว้นแต่เจ้าของอาคารจะ
ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น
*(3) มาตรา 22 ห้ามผู้ใดดัดแปลงอาคาร เว้นแต่เจ้าของอาคารจะได้รับ
ใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น
*(4) มาตรา 23 ห้ามผู้ใดรื้อถอนอาคารดังต่อไปนี้ เว้นแต่เจ้าของอาคาร
จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น
(1) อาคารที่มีส่วนสูงเกินสิบห้าเมตร ซึ่งอยู่ห่างจากอาคารอื่นหรือ
ที่สาธารณะน้อยกว่าความสูงของอาคาร
(2) อาคารที่อยู่ห่างจากอาคารอื่นหรือที่สาธารณะน้อยกว่าสองเมตร
__ไพบูลย์ - คัด___ ทาน__
ดูเนื้อหาจากเวบนี้ก็มีประโยชน์
http://www.oldpdn.com/thai/showfeature.php?FeatureID=0000001446
---------------------------------------------------------------
ส่วนกฏหมายอื่นที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปอ่านที่นี่ครับ
http://www.asa.or.th/index.php?q=Law_lst

จากคุณ : 3ddesigns

เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 53 12:51:00