ความคิดเห็นที่ 1 ???? จากคุณ : doctorit เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 11:28:32

ความคิดเห็นที่ 2 ขยายได้มั๊ยครับอยากรู้เรื่องด้วย จากคุณ : sitteto เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 11:46:40

ความคิดเห็นที่ 3 ชีวิตนี้คนรวยคงไม่ต้องทำอะไรกัน เพราะคนรวยต้องมายืนรอที่น้าบ้านคนจน เพื่อคอยให้ความช่วยเหลือ เดี๋ยวคนรวยก็จนไปเอง ส่วนคนจน ก็รอคนรวยมาช่วยเหลือ ทนโดนด่าเอาหน่อย เดี๋ยวก็รวยเอง จากคุณ : แบนแล้วแบนอีก จนแบนแต๊ดแต๋ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 11:49:57 A:124.120.48.24 X: TicketID:280600

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นด้วย แม้บางประโยคจะอ่านแล้วยังฟังขัดๆอยู่ เช่นยืนรอ ไม่ต้องยืนก็ได้ เพียงแต่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นคนรวยคนจน ในยามที่เพื่อนมนุษย์ร่วมโลกเดือดร้อน ก็จะเป็นคนที่ดีที่สุดแล้ว จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 11:56:44

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านแล้วได้แง่คิดดี... จะไม่มีคนจน ถ้าทุกคนทำงานตามหน้าที่ตัวเอง... และรวยตามอัตภาพอย่างพอเพียง... คนมีเงินร้อยล้านบาท.. แต่ถ้าเปรียบกับคนมีพันล้านบาท... คนมีเงินร้อยล้านบาท...ก็ยังคิดว่าตัวเองจนกว่า... นานาจิตตัง... จากคุณ : เม่นแคระ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 12:47:34

ความคิดเห็นที่ 6 "จริง" จากคุณ : เห็นด้วย (pluffy) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:32:40

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ว่าใครจะเป็นคนพูดประโยคนี้ไว้ ในความเห็นผม มันก็แค่คำพูดที่พูดไปเรื่อยเปื่อย หาสาระอะไรไม่ได้เลย เป็นคนรวยแล้วแค่คอยแจกเงิน ก็ได้เป็นคนดีที่สุด ตลกไปหน่อยมังครับ ไม่มีใครอยากจน และคอยไปรอแบมือขอเงินจากใครหรอก เป็นวิธีคิดที่คับแคบ แฝงการดูถูกเหยียดหยามคนที่ด้อยกว่า จากคุณ : HairLess เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:42:18

ความคิดเห็นที่ 8 เราว่ามันเป็นการเปรียบเปรยเหมือน เปนแง่คิด แปลง่ายๆว่า คนรวยที่ดีที่สุด ต้องเป็นคนรู้จักให้ ส่วนคนจนที่เลวที่สุด คือคนที่เอาแต่จะรอรับอย่างเดียวไม่คิดจะทำไรหรือให้ใคร(อ้างว่าไม่มีจะให้) แม้แต่คนเลี้ยงโค เจอพระพุทธเจ้า ตัวเองยากจนไม่รู้จะให้อะไรยังอุตส่าห์สละฟางข้าวเพื่อทำเป็นที่นั่งนุ่มๆให้ท่านประทับ นี่คือคนจนที่รู้จักให้ด้วยใจบริสุทธิ์นั่นเอง ให้อะไรก็ได้ ขอแค่ได้ให้ก็เพียงพอแล้ว ถาไม่มีอะไรเลย ก็ให้ใจก็ยังได้ สำคัญสุดซะด้วย เพราะถ้ามีใจซะอย่าง อะไรก็ให้ได้ จากคุณ : ฟี่ (pluffy) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:57:44

ความคิดเห็นที่ 9 คำพูดที่สวยหรู ฤาจะสู้ลงมือทำ ชิมิ จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 14:01:27

ความคิดเห็นที่ 10 เราว่าเป็นแง่คิดที่ดีนะคะ เพราะว่าจขกท.ไม่ได้เหมารวมว่าคนรวยหรือคนจนทั้งหมดเป็นเช่นนั้น เราเห็นด้วยกับคห.8ที่สุดเลยอ่ะ จากคุณ : glitterydust เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 14:43:22

ความคิดเห็นที่ 11 แล้วแต่จะตีความ ส่วนตัวขอตีความตามกรอบ ตาม#8 จากคุณ : สหายสายธาร เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 15:24:02

ความคิดเห็นที่ 12 เขาบอกให้คนรวยจงมีใจพร้อมช่วยผู้อื่น คนจนจงอย่ารีรอที่จะช่วยเหลือตนเอง ทั้งสองประโยคมันมาจากรากเดียวกัน คือ อย่าเห็นแก่ตัว แหม่....น้าแบนกับคุณไม่มีขน(โกนหรือแพ้กางเกงในพ่อคุณ?) เคยโดนสาวอิสลามหักอกหรือเปล่านิ? จากคุณ : Messoforte เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 15:26:59

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วยกับคห8ค่ะ เป็นคำสอนที่อาจเฉพาะเจาะจงกับคนที่รวยแต่ไม่รู้จักให้ และคนจนที่ไม่คิดจะลุกขึ้นมาทำอะไรด้วยตัวเอง แต่คำจำกัดความว่ารวยจนมันไม่ชัดเจน ตราบใดที่เส้นแบ่งมันอยู่คนละที่กันเหมือนที่คุณเม่นแคระบอกค่ะ   มันจะหยุดที่ความพอใจ หรือกิเลสของแต่ละคน เคยคุยกับแว้นส์แถวๆบ้านคนนึงไพล่ไปเรื่องรวยจน  เราถามว่า ถ้ามีสักล้านนึงคิดว่ารวยยัง  เด็กตอบว่า รวยเด่ะเพ่ แล้วสิบล้านอ่ะ  >>> รวยค่อดๆเลยเพ่ อ้าวแล้วเกิดสักร้อยล้านหรือพันล้าน... เด็กทำตาโตแล้วบอกว่า...โห..นั่นรวยสาดดด เราเลยคิดว่าแค่ล้านน่าจะพอ..กลัวรวยสาด...อิอิ ขำๆนะอย่าเครียดกัน.. จากคุณ : anavrin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 15:45:37

ความคิดเห็นที่ 14 สละ บริจาค ให้ รับรองชาตินี้ไม่อดตายครับ เช้านี้พาครอบครัวไปทำบุญที่วัดที่ผมเคยบวช ใส่บาตรแล้ว สบายใจ ออกมาผู้ที่มาทำอาหารถวายพระก็ทำทานด้วยการเลี้ยงอาหารครับ แบ่งปันกันครับ ทุกคนอิ่มใจและอิ่มท้องครับ จิตใจชื่นบานด้วยครับ ภรรยาผมเคยบอกผมว่าใจที่ให้มันจะสบายใจ จากคุณ : Double07 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 19:24:40

ความคิดเห็นที่ 15 รวยหรือจนไม่ได้วัดกันจากจำนวนเงินนะครับ จากคุณ : แนะนำด้วยครับ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 19:35:59

ความคิดเห็นที่ 16 คนที่คิดว่ารวย คือ คนพอเพียง คนที่คิดว่าจน คือ คนไม่เพียงพอ ใช่ไหมเอ่ย ทุกอย่างอยู่ที่ใจครับ จากคุณ : jamjung เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 19:58:07

ความคิดเห็นที่ 17 เรารวยเพราะคิดว่าคนอื่นจน เราจนเพราะคิดว่าคนอื่นรวย แต่ก็สงสัยเหมือนกัน ว่าผ้าห่มทำไมต้องแจกให้กันทุกหน้าหนาว ผ้าห่มบ้านผมใช้กันเกือบยี่สิบปียังใช้อยู่เลย หรือว่ามันหนาวเกินเลยเอาไปเผาผิงไฟกันหมด เพราะยังไงซะเดี่ยวก็มีพวกใจดีมาประเคนให้อยู่ดี   ผมก็ไม่ใช่คนรวย แต่ก็เกลียดพวกจนที่ไม่รู้จักพอ จ้องแต่เอาเปรียบคนอื่น ถ้าเลือกได้ผมก็ขอเกิดเป็นลูกคนรวยแหละ...อิอิ จากคุณ : gas_d เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 21:25:55

ความคิดเห็นที่ 18 คติพจน์อันนี้ก็สมควรนำไปปรับใช้ได้นะครับ "รู้ จัก พอ ก่อ สุข ทุก สถาน" จากคุณ : P_Quick เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 21:37:47

ความคิดเห็นที่ 19 ชอบอันนี้มากกว่า่ "คนรวย คิด วิธีหาเงิน" "คนจน คิด วิธีใช้เงิน" จากคุณ : ผ่านมาแซว (ไผ่แผ่วพริ้ว) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 22:13:15

ความคิดเห็นที่ 20 ญาซะกัลลอฮฺ ค็อยร็อนครับ จากคุณ : เด็กหนุ่มหน้าตาดี เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 05:50:20 A:128.178.254.206 X: TicketID:120371

ความคิดเห็นที่ 21 เขาคงหมายถึง ช่วยเหลือโดยไม่ต้องรอให้เขาร้องขอละมัง จากคุณ : weirdbird เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 13:57:52

ความคิดเห็นที่ 22 ขอเฉลยทีละประโยคนะครับ "คนรวยที่ดีที่สุด คือคนที่ยืนรอหน้าบ้านคนจน และคอยช่วยเหลือคนจน คนทุกข์ยาก" หมายถึง เมื่อคนรวยที่ไม่เห็นแก่ตัว และออกเงินบางส่วนช่วยเหลือคนในสังคม ซึ่งทางศาสนาอิสลาม กำหนดให้ผู้มี "เงินเก็บ" ใน 1 ปี เทียบกับราคาทอง 6 บาท ให้ออกซะกาต(เงินที่ช่วยเหลือคนจน / ผู้ขัดสน / ผู้ยากไร้) จำนวน 2.5% ของจำนวนเงินทีมีอยู่ในบัญชีที่ไม่มีการเคลื่อนไหว หรือบริจาคเงินบางส่วนกลับคืนสู่สังคม อีกแง่หนึ่งก็คือช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ ได้ยาก ซึ่งวิธีนี้ก็จะช่วยให้คนแร้นแคน ขัดสน มีเงินใช้จ่าย ตลอดจนเกิด CASH FLOW ขึ้นในสังคม เงินไม่จมอยู่ที่ใดที่หนึ่ง "แต่คนจนที่เลวที่สุด คือคนที่คอยขอความช่วยเหลือจากคนรวย ตลอดเวลา" หมายถึง คนที่ไม่(ค่อย)มีรายได้ หรือคนจน ที่มัวแต่นั่งขอจากคนอื่น ไม่มุมานะในการทำงาน ศาสนาไม่สอนให้ทำตัวเป็น กบเลือกนาย หรือ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ต้องเป็นประเภท หนักก็เอา เบาก็สู้ ถึงจะลืมตาอ้าปากกับเค้าได้บ้าง เมื่อทั้งคนรวย - คนจน มีทัศนคติแบบนี้ จึงจะทำให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ปล. แต่ทั้งคนจน - คนรวย สุดท้าย ตายไปก็มีแค่ผ้าไม่กี่ชิ้นที่ติดตัวไป และความดีที่ทิ้งไว้ให้สังคมนะคร้าบบบบบ จากคุณ : ดนัย (danaimod) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 21:50:48