ความคิดเห็นที่ 1 จากประสบการณ์ตั้งแต่สร้างบ้านเสร็จ ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ผมก็เริ่มจากการใช้ไทเมอร์วาล์วขนาดเล็กแบบใช้แบตAAA2ก้อนก่อน ราคาก็อันละพันกว่า  ถูกหน่อยก็6-7ร้อย แต่พบความไม่สะดวกหลายอย่าง เพราะถ้าแบตหมดกลางคันในขณะปล่อยน้ำ ไม่สามารถปิดวาล์วได้เอง ค่าน้ำก็หายนะเลย  อีกทั้งการตั้งเวลาให้แน่นอนถ้าเป็นเครื่องแบบดิจิตอลคงไม่ยาก แต่แพงมาก  ถ้าแบบอนาลอกก็ถูกหน่อยแต่ไม่ละเอียดพอ..ข้อดีคือสำหรับบ้านขนาดเล็กที่ต้องการโซนรดน้ำไม่ซับซ้อน  +  ทำได้ง่ายทั้งชายหญิง ลองตามไปดูลิงค์ที่กระทู้นี้ก็ได้ครับhttp://www.pantip.com/cafe/home/topic/R10010838/R10010838.html ปัจจุบันผมเก็บไว้ใช้เฉพาะเวลาไม่อยู่บ้านนานๆแล้วต่อน้ำจากแท้งค์น้ำฝนลง บ่อปลาหรือโอ่งน้ำล้น  เพราะยังไงถ้าระบบขัดข้องหรือแบตหมดกลางคัน จะได้ไม่เกิดหายนะกับค่าน้ำ จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 53 22:28:23

ความคิดเห็นที่ 2 ต่อมาก็เริ่มหาข้อมูล แล้วก็ลองซื้อ ตัวไทเมอร์ควบคุมวาล์วไฟฟ้ามาลองต่อดู ข้อดีคือ จัดโปรแกรมรดน้ำได้ดีมาก แต่แพง เพราะ ตัวไทเมอร์ควบคุมตกเครื่องละประมาณ+/-4พัน จะควบคุมได้4วาล์ว ถ้าเอามากกว่านี้ก็แพงขึ้นซื้อมาเพิ่มได้ และยังต้องใช้วาล์วไฟฟ้าอีกตัวละ8-9ร้อย ตามคุณภาพ   1.คือตู้กันน้ำสำหรับบรรจุอุปกรณ์ 2.ตัวไทเมอร์ตั้งโปรแกรม 3.หม้อแปลงลดไฟจาก220VACเป็น24VDC 4.วาล์วไฟฟ้า  ควรใช้ขนาด6หุนเป็นอย่างน้อย ราคาก็อันละ8-9ร้อย  ถ้าเสียก็มักจะพังที่ขดลวดโซลินอยสามารถถอดเปลี่ยนได้อันละประมาณ400(ในวงกลม) 5.ชุดกล่องสวิทช์ ฟิวส์ ปลั๊กเสริม  ไฟแสดงสถานะเครื่อง ส่วนลูกศรเหลืองชี้ที่ตำแหน่งโซลินอยเอาถุงพลาสติกคลุมแล้วเอากระป๋องพลาสติกปิดกันแดดฝนไม่ให้พังเร็ว สรุป..มันดีไปเสียทุกอย่างจริงๆระบบนี้ เสียแต่แพง เวลาวาล์วพังนี่หน้ามืดเลย แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 53 22:58:28 แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 53 22:57:03 แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 53 22:39:55 แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 53 22:32:59 จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 53 22:32:00

ความคิดเห็นที่ 3 ทีนี้พอเริ่มลองผิดลองถูกหาข้อมูลจากเวบต่างๆ ก็ไปเจอไอเดีย ใช้วาล์วควบคุมการปล่อยน้ำในเครื่องซักผ้าราคาอันละ150ร่วมกับดิจิตอลไทเมอร์อันละ180 /2อย่างรวมกันมันแค่3ร้อยกว่าบาทเองหรือนี่ เลยลองประกอบตามรูป 1.ตู้กันน้ำใส่อุปกรณ์ ใบละร้อยกว่าบาท 2.ดิจิตอลไทเมอร์ราคา180 3.วาล์วไฟฟ้า220VAC เข้า1(เกลียวนอก6หุน) ออก2 (ไม่มีเกลียว) 4.ปลั๊กเสริมไว้ต่ออุปกรณ์อื่นๆ เช่นหลอดไฟ เครื่องเล็มหญ้า ฯลฯ 5.สวิทช์เปิดปิดไฟเข้าระบบและชุดไฟแสดงสถานะเครื่อง(pilot lamp)+ฟิวส์ (ประกอบไว้ด้านล่างเพื่อกันน้ำฝนกระเซนเข้าตู้) ข้อดี..แม้มันจะดูไม่บรรเจิดเท่าแบบที่สอง  แต่การควบคุม การซ่อมบำรุง ราคา  ดีทุกอย่างจริงๆ  ทำได้เองหมด   อย่างในรูปวาล์วเสีย(ใช้มา2ปี มีทั้งบ้าน7วาล์ เพิ่งเสียไปอันเดียว)ก็ถอดเปลี่ยนเองเลย  (ก็ประกอบเอง ทำไมจะถอดเปลี่ยนเองไม่ได้ล่ะ) ศรเหลืองคือสายน้ำเข้า ควรใช้สายยางอย่างดีแบบมีใยแก้ว เพราะต้องรับแรงดันสูงสะสมตลอด  ถ้าใช้สายธรรมดาโดนทั้งแดดทั้วงแรงดันมันจะโป่งแตกได้ครับ ศรขาวเป็นสายน้ำออก รับแรงดันไม่สูง ใช้สายยางธรรมดาได้ จุดต่อต่างๆ โดยเฉพาะทางน้ำเข้าแรงดันสูงควรใช้แหวนทองเหลืองรัด(อันละ10บาท)  ด้านน้ำออกใช้ลวดก็ได้ สรุป..ยิ่งใช้ยิ่งติดใจ  เริ่มจาก1-2  ตอนนี้ทำเพิ่ม7วาล์วตามจุดต่างๆที่ต้องการให้น้ำ แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 53 23:03:41 จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 53 22:52:46

ความคิดเห็นที่ 4 ลองดูรูปการเดินสายไฟชัดๆ การเสียบสายเข้ากับไทเมอร์  ก็ใช้พลาสติกปลั๊กดันสายเข้าไปแล้วปิดเทปทับตามรูป ศรเหลือง เป็นหลอดไฟLEDไว้เปิดส่องดูตอนกลางคืนได้ ศรขาว คือตารางรดน้ำที่ติดไว้เป็นโซน แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 53 22:55:49 จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 53 22:54:13

ความคิดเห็นที่ 5 การประกอบ  บางจุดเราสามารถติดปลั๊กกันน้ำไว้เป็นปลั๊กสนามสำหรับเสียบอุปกรณืต่างๆได้ด้วย (ติดไว้ด้านหน้ากล่องกันน้ำ แต่การประกอบหรือเจาะรูต้องซีลกันน้ำฝนให้ดี) จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 53 23:00:33

ความคิดเห็นที่ 6 สายยาง -แบบใส เบอร์3 ไม่แนะนำงานกลางแจ้ง  ใช้แล้วเปราะ ขุ่นจากตะไคร่ -สายทึบ  ไม่แนะนำซื้อในห้าง(เบอร์2)เพราะทั้งแพง  ทั้งคุณภาพต่ำ   หาซื้อตามร้านดีกว่า(เบอร์1) (เทียบดูความหนาในรูปสิครับ มันต่างกันเห็นๆ) สายส่งน้ำ ใช้ท่อPE(เบอร์4)20มม.  ราคาเมตรละ4บาท  ทั้งถูกและฝังง่ายกว่าท่อPVC เบอร์5 เป็นสายใยแก้ว ทนทานแต่แพงหน่อยเหมาะกับด้านน้ำเข้าที่รับแรงดันสะสมต่อเนื่อง แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 53 23:10:22 จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 53 23:07:39

ความคิดเห็นที่ 7 สปริงเกอร์ -แบบสปริงเกอร์  ผมชอบแบบฝังดิน(pop up) เวลาตัดหญ้าไม่ค่อยต้องคอยหลบ รูป1 -แบบImpact ปักดินเหมาะกับตามโคนต้นไม้ที่ไม่ต้องหลบรถตัดหญ้า รูป2 -แบบหยดน้ำ ลงโคนต้น สำหรับต้นไม้ที่ระบบรากยังไม่แผ่ขยายแข็งแรงหาน้ำได้เองไกลๆ รูป3 -รูป4 แบบอื่นๆที่ซื้อมาลอง จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 53 23:14:49

ความคิดเห็นที่ 8 ยังมีอุปกรณ์  ข้อต่อ  ตัวเจาะ  ตัวอุด  สายไมโครPE6-7มม.  ก้านปัก หัวสเปรย์  หัวมินิสปริงเกอร์ มากมายให้เลือก แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 53 23:17:52 จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 53 23:17:25

ความคิดเห็นที่ 9 รูป1 หัวมินิสเปรย์แบบหมอก เหมาะกับกล้วยไม้   รูป2 หัวสเปรย์ 360องศา ต่อขาปักบนท่อPVCเพิ่มรัศมีการกระจายน้ำสำหรับแปลงผักสวนครัวในบ้าน หรือแปลงเพาะต้นกล้า ปักกิ่ง จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 53 23:21:09

ความคิดเห็นที่ 10 หัวเสปรย์90องศา เหมาะกับพื้นที่ปลูกที่เราจำกัดองศาได้ จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 53 23:22:07

ความคิดเห็นที่ 11 การเจาะรูผ่านกำแพงรั้วเพื่อส่งน้ำออกไปแนวนอกรั้วก็ใช้สว่าน10มม.ค่อยคว้านแล้วสอดท่อPEได้ จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 53 23:23:17

ความคิดเห็นที่ 12 การเจาะรูท่อPE  เพื่อเสียบสายหรือหัวต่อสายไมโคร ไม่ควรเจาะที่ตำแหน่ง 12นาฬิกา เพราะมีโอกาสที่สายจะห้อยหักงอลงพื้นทำให้น้ำไหลไม่ดี ตรงศรเหลืองรูป2 ตำแหน่งที่ดีคือบริเวณ  2-3นาฬิกา รูป1 การต่อท่อPE ถ้าดันสุด(รูป3)มันจะแน่นของมันเองแทบไม่ต้องใช้อะไรช่วยรัดโดยเฉพาะทิศทางน้ำออกไปจ่ายตามหัวพ่นต่างๆ..หากกลัวหลุดใช้แค่Rubber tie   รัดก็พอ (รูป4) แต่ทิศทางน้ำเข้าวาล์วอาจเกิดแรงดันสะสม หากกลัวหลุดก็ใช้ลวดมัด(รูป5) จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 53 23:29:34

ความคิดเห็นที่ 13 คห12 ลืมรูป จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 53 23:30:12

ความคิดเห็นที่ 14 เรือนกล้วยไม้ จะใช้หัวพ่นหมอกก็ได้ แต่ผมเลือกใช้หัวพ่นละอองสเปรย์ เพราะปลูกไม้กระถางในร่มร่วมด้วย อย่างพรมญี่ปุ่น ซึ่งชอบน้ำ  ด้านล่างที่พื้นมีเทียนทองเป็นไม้คลุมดินรับแดด จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 53 23:33:56

ความคิดเห็นที่ 15 รูปนี้ใช้เศษPVCเจาะรูทำที่ปักก้านสเปรย์ติดแผงไว้ จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 53 23:35:05

ความคิดเห็นที่ 16 ส่งท้าย แนะนำว่า การขุดวางท่อPE  การขุดฝังหัวสปริงเกอร์แบบpop up ควรเตรียมการให้เสร็จตั้งแต่ฤดูฝน เพราะแนวหญ้าที่ขุดจะได้ฟื้นตัวเร็ว ไม่ต้องเปลืองน้ำลด  แต่การประกอบตู้ควบคุมไฟฟ้าต่างๆควรรอทำเมื่อฝนแล้งไปแล้วนะครับ ..ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยในการทำงานกับสวนสวยๆของทุกท่านด้วยครับ ..อยู่กับต้นไม้ใบหญ้า ทั้งชุ่มฉ่ำใจ ทั้งประหยัดเงินกว่างานอดิเรกอื่นๆ ทั้งช่วยโลก   ..แม้ค่าน้ำจะแพงหน่อยในช่วงหน้าแล้งแต่ยังถูกกว่าไปนั่งสุกี้1มื้อนะครับ จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 53 23:41:07

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณค่ะ สำหรับรีวิว ที่บ้านก็วางระบบรดน้ำแบบนี้ตั้งแต่เริ่มวางระบบสวน   แต่ใช้วิธีเจาะบ่อน้ำบาดาล แล้วสูบน้ำมาใส่ถังน้ำไว้ เพราะบ้านอยู่นอกเขตเทศบาล น้ำประปาแพง ปัญหาที่พบคือ น้ำจะมีโคลนปนมาด้วย บางช่วงรดโดนผนังของบ้าน ก็เปลี่ยนสีไปกันเลย ตั้งระบบให้รดน้ำทีละสถานี กำหนดเวลาตามความเหมาะสม สะดวกดีมาก แต่ก็ควรมีอุปกรณ์ต่างๆ เก็บสแปร์ไว้ ปัญหาที่มักเกิดคือคนสวนตัดแต่งกิ่งไม้เพลินจนตัดท่อไปหลายรอบ สายยางมักจะรั่ว ขาดจากการพรวนดิน ขุดดิน(จากคุณคนสวนอีกเช่นกัน) น้องหมาขุด แล้วก็คุ้ย แล้วก็กัด บางครั้งลากสายยางออกมาแทะเล่นกันอย่างสนุกสนาน รถยนต์แล่นทับหัวสปริงเกอร์ตรงขอบสนาม จนตอนหลังต้องไปเอาท่อพีวีซีมาตัดแล้วครอบให้เห็นชัดๆ ลงทุนทำระบบไว้ครั้งเดียวก็คุ้มนานเลยค่ะ ได้เห็นสวนเขียวๆ สวยๆ กลับจากทำงานแล้วมาเดินเล่นในสวน ดูต้นไม้ ใบไม้ ก็หายเหนื่อยหายเครียดแล้วค่ะ จากคุณ : beam@chu เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 06:13:39

ความคิดเห็นที่ 18 มาลงชื่อไว้ก่อนค่ะ เดี๋ยวแต่งบ้านเสร็จได้ทำระบบรดน้ำตามแน่ๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ จากคุณ : ริมสวน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 06:30:45

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณครับ จากคุณ : prasong9 เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 08:50:29

ความคิดเห็นที่ 20 ไอเดียดีครับ แต่ระหว่าง Timer กับสายไฟที่เสียบอยู่น่าจะใช้เป็นหัวปลั๊กมากกว่า พันเทปนะครับ ดูแล้วปลอดภัยกว่า และที่สำคัญถอดรื้อ Timer เมื่อมีปัญหาได้ง่ายกว่าด้วย หัวปลั๊กแบบข้องอ 90 องศาเคยเห็นใน HP ครับ ส่วนตัวกล่องด้านล่างควรเจาะรูเล็กๆ เพื่อระบายน้ำออกหน่อยก็ดี เพราะของผมเคยใช้กล่องประเภทนี้ไว้กลางแจ้งฝนตกหนักๆ น้ำซึมเข้าไปขังอยู่ข้างใน ดีที่ตัวปลั๊กลอยอยู่สูง เลยไม่ช็อต แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 53 09:33:34 จากคุณ : rbko เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 09:30:15

ความคิดเห็นที่ 21 เยี่ยมเลย จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 09:55:49

ความคิดเห็นที่ 22 แจ๋วจริงๆ กำลังทำเหมือนกันครับ แต่เล็กกว่านี้ จากคุณ : LOSTinHOME เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 10:15:11

ความคิดเห็นที่ 23 เยี่ยมเลยค่ะ แต่..ทำไม่เป็น ว่าจะฝากข้างบ้านรดน้ำ แหะๆๆ จากคุณ : จิ๊บ (cupid_jib) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 10:48:54

ความคิดเห็นที่ 24 แหล่มมากๆเลยครับ จากคุณ : PATCHAYAS เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 11:08:54

ความคิดเห็นที่ 25           ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆครับ จากคุณ : หน้าต่างไร้กลอน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 11:11:10

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณค่ะที่เป็นอีกทางเลือก จะเอาไปปรับปรุงกับของเดิมที่มีอยู่ค่ะ จากคุณ : พันวสา เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 11:39:02

ความคิดเห็นที่ 27 คห20 สายไฟใช้หัวปลั๊กเสียบครับ ตามรูป คห4  ..จริงก็แน่นพอแล้ว แต่ผมพันเทปไว้อีกชั้นกันไว้อีกทีครับ ..เป็นหัวปลั๊กพลาสติกแบบที่ใช้ป้องกันเด็กเอามือไปแหย่เล่นอะครับ มันแนบแบนไม่เกะกะพื้นที่ดีครับ  พอปิดเทปแล้วเลยดูเหมือนไม่มีปลั๊ก จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 11:59:55

ความคิดเห็นที่ 28 ดูจากสวนแล้ว ก็คงต้องมีระบบรดน้ำอัตโนมัติละครับ ไม่งั้น ต้องจ้างต่างด้าวมาช่วยรด กว้างซ๊าาาา อิอิ จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 12:56:39

ความคิดเห็นที่ 29 ดูแล้วยุ่งยากชะมัด ของผมไปซื้อเครื่องจ่ายน้ำ เป็นระบบดิจิตอล พันกว่าๆ ใช้ถ่าน ถ้าถ่านหมด มันจะปิดระบบ น้ำไม่ไหล ครับ อุปกรณ์อื่นๆ ซื้อที่โฮมโปร ราคาก็พอควร แต่ก็ชื่นใจครับ กลับบ้าน เสาร์-อาทิตย์ เห็นต้นไม้สดชื่น ขออภัย .... ดันไม่ได้ถ่ายตอนทำ  พอทำเสร็จ เพิ่งนึกได้ จากคุณ : Oh-deh เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 13:30:01

ความคิดเห็นที่ 30 ลองผิดลองถูก พอกล้อมแกล้ม ไปได้ ครับ ไม่เห็น ผบ. บ่นอะไร จากคุณ : Oh-deh เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 13:34:52

ความคิดเห็นที่ 31 # 11  ทางเท้าเกือบหมด!! . แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 53 19:30:34 จากคุณ : JADE&GUY เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 17:30:32

ความคิดเห็นที่ 32 @29 เครื่องจ่ายน้ำ เป็นระบบดิจิตอล  ซื้อแถวไหนเหรอครับ หลังไมค์มาบอกหน่อยได้ไหมครับผม อยากเอาไปใช้บ้างอ่ะ จากคุณ : catstevens เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 17:56:13

ความคิดเห็นที่ 33 สำหรับสวนที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องแบ่งโซนจ่ายน้ำมาก คือ..หัวเดียวเอาอยู่.. แนะนำทำตาม คห29 เลยครับ .. ง่ายดี..ไม่ยุ่งยาก..ทำได้ทั้งชายหญิง..  เพราะครั้งแรกผมก็ใช้แบบนี้ล่ะ ลองมาแล้วทั้งอนาลอก ดิจิตอล  แต่ดิจิตอลดีกว่าก็แพงกว่าด้วย แต่มันจ่ายน้ำไม่พอทั้งบ้าน ..คือปัญหา จึงต้องหาเพิ่ม พอหาเพิ่มแบบดิจิตอล มาคำนวณค่าใช้จ่ายดูมันบานตะไทเลย  (เคยลองซื้อมาเพิ่มอีก2ช่วงมีโปรฯ รวมเป็น3ตัว  มีตัวหนึ่งเสีย ส่งซ่อม ทาง บ.บอกว่าต้องเปลี่ยนแผงวงจร ราคามันซื้อเครื่องใหม่ช่วงมีโปรฯได้เลย) ก็เลยคิดว่าถ้าหวังพึ่งระบบง่ายๆแบบนี้ มันไม่เหมาะกับขนาดสวนจึงต้อง ทำอะไรที่ดูยุ่งยาก แต่ประหยัด ซ่อมแซมเองได้ในราคาถูกเข้าว่า เพราะตอนนี้ต้องแบ่งการจ่ายน้ำเป็น10โซนหรือสถานีหรือวาล์ว (ถ้าใช้วาล์วดิจิตอลแบต อันละพันกว่า ถ้าอนาลอกแบตก็ตก7-8ร้อยเสียซ่อมเองไม่ได้ แต่ถ้าทำเองได้ก็ตกโซนหรือวาล์วหรือสถานีละ3-4ร้อยกว่าบาท  ซ่อมเองได้ไม่แพง  อายุใช้งานยาวนาน) ปกติ1วาล์ว(ไม่ว่าวาล์วแบบไหน)สำหรับปั๊มน้ำแรงดัน2-3บาร์ ตามบ้าน ติดหัวพ่นน้ำถ้าแบบมินิสเปรย์ก็ได้ราว15-20หัว   ถ้าแบบImpact/pop up ก็สัก2ตัวพอไหว อุปกรณ์ต่างๆ ผมแนะนำให้หาซื้อตามร้านเกษตรครับ หรือร้านตามเวบครับ อย่าซื้อในห้าง  แพงกว่ามากมาย ยังไงเช็คราคาก่อนซื้อนะครับ ถ้าอยู่ตาม ตจว.นี่หาง่ายราคาถูกมากพวกสายPE ข้อต่อ หัวพ่น เพราะเป็นอุปกรณ์จำเป็นของชาวสวน ราคาก็ได้แบบชาวสวน แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 53 22:06:40 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 53 22:03:09 จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 19:38:41

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณครับ ที่มีอะไรดีๆมาแนะนำ จากคุณ : boxbo เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 20:59:28

ความคิดเห็นที่ 35 ขอเพิ่มเติมข้อมูลอีกนิดนะครับ จากรูป1/2 จะเห็นว่า วาล์วตั้งเวลาแบบใช้แบตฯไม่ว่าจะดิจิตอลหรืออนาลอก ระบบวาล์วจะเป็น..บอลวาล์ว(ซึ่งควบคุมด้วยการหมุนปิดเปิดทางน้ำด้วยมอเตอร์)  ..ปัญหาเราไม่ได้กลัวที่แบตหมดแล้วเปิดน้ำไม่ได้ ..แต่เรากลัวแบตไปอ่อนแรงกลางคัน..คือเปิดแล้วหมุนกลับมาปิดไม่ได้ ปล่อยน้ำทะลักตลอด *แต่วิธีแก้คือ  ท่านต้องหมั่นตรวจเช็คอายุแบตฯตามที่ทางผู้ผลิตกำหนด จากรูป3 จะเห็นว่าการทำงานของวาล์วไฟฟ้าแบบโซลินอย  ทำงานโดย แกนแม่เหล็กไฟฟ้า  ..คือสรุปว่าเมื่อไหร่ที่ไฟดับ น้ำจะไม่สามารถไหลผ่านได้เลย ..แม้ไฟจะดับกลางคันขณะปล่อยน้ำผ่านไปแล้วก็ตาม   ...จึงไม่มีปัญหาน้ำทะลักแน่ๆ *แต่ มันก็มีปัญหาเฉพาะตัว คือ ผมเคยซื้อวาล์วมาตัวหนึ่งแล้วใช้ไปสักพัก ปรากฎว่ามีน้ำซึมเอื่อยๆผ่านวาล์วตลอด ..ไม่ทะลักนะครับ  เปิดเช็คดูปรากฎว่าแกนสปริงไฟฟ้าที่ดันซีลยางไว้มันเสียข้างนึง (ก็คือตัวที่เอามาถ่ายรูปนี่ล่ะ)เลยต้องเปลี่ยน  แต่ราคาก็แค่150฿ แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 53 21:52:21 จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 21:51:20

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณครับ รีวิวดีมากเลย จากคุณ : หมูกรอบพริกเผา เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 03:58:02

ความคิดเห็นที่ 37 แวะ..มาชมครับ จากคุณ : มดแดงวี4 เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 10:12:05

ความคิดเห็นที่ 38 แบบนี้เลยล่ะ ที่อยากทำ พอจะทราบมั๊ยครับ ว่า วาล์วไฟฟ้า220 VAC เครืองซักผ้า  ใช้กระแสเท่าไร เพราะไม่อยากเอาไฟ 220 V กระแสสูง เข้าสวนพ่วงกับระบบน้ำน่ะครับ กลัวหมาที่บ้านจะลุยจนไฟดูดตาย ที่คิดไว้คือ จะเอาหม้อแปลง แปลงไฟจาก 220 VAC เป็น  12 VDC แล้วเอาเอาตัวแปลงไฟเป็น 220 VAC อีกครั้งหนึ่ง เพื่อลดกระแส เอาไปใช้งานกับ Timer เพื่อใช้งานกับ วาล์วไฟฟ้า220VAC ของเครื่องซักผ้าอีกที ซึ่ง โซลินอยล์ 220 VAC ราคามันจะถูกกว่า 24 VDC อยู่เยอะเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 53 11:16:50 จากคุณ : สุภาพบุรุษยุคหิน เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 11:16:13

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณมากสำหรับกระทู้ยอดเยี่ยม เป็นประโยชน์ดีจัง กำลังเรียนรู้เรื่องระบบสปริงเกอร์อยู่เหมือนกัน อยากทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องจ้างช่าง เพราะหายากโทรตามแล้วไม่ยอมมาซักที น่าเบื่อมาก ขอเก็บเกี่ยวความรู้ดีๆ ไว้ทดลองบ้าง จากคุณ : nuiorji เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 14:44:53

ความคิดเห็นที่ 40 สงสัยจะได้โปรเจ็คสำหรับวันหยุดปีหน้าซะแล้วเรา... จากคุณ : Wobbegong เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 15:56:20

ความคิดเห็นที่ 41 รีวิวควรโหวตค่ะ ที่บ้านเพิ่งล้างหัวพ่นไป เล่นเอามึนเหมือนกันค่ะ  ตอนนี้เอาน้ำจากคลองขึ้นมารดเลย เลยติดปัญหาพืชบางส่วนที่ต้องใช้น้ำสะอาดรด อย่างบิโกเนีย หรือบรอมต่างๆ ยังไม่รู้จะแยกระบบยังไงสงสัยต้องจัดโซนต้นไม้ใหม่อีกหนแล้วค่ะ เรื่องวางท่อนี่ปัญหาโลกแตกจริงๆสำหรับที่บ้าน  แบบจัดไปแล้วก็เปลี่ยนหรือเพิ่มต้นไม้ ได้ลากสายกันใหม่อีก  ตอนนี้เลยวางท่อเลียบกำแพงวางลอยบนดินเลยแล้วเอาต้นไม้ตกแต่งปิดความน่าเกลียดเอาค่ะ  ขุดๆรื้อๆเหนื่อยมาก จากคุณ : anavrin เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 17:25:57

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณสำหรับ ความรู้ดีๆๆๆน่ะครับบบ จากคุณ : fish boy เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 19:47:38

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณสำหรับความรู้เรื่อง การรดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ จากคุณ : ติดตาม เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 20:31:27

ความคิดเห็นที่ 44 กระทู้ดีๆมีประโยชน์ ขอบคุณครับ จากคุณ : HiDoPoNix เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 53 07:45:11

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณค่ะ อยากทำอยู่เหมือนกัน แต่วางแผนไม่เป็นเลย สวนก็ไม่ใหญ่มาก ประมาณ 70-80 ตารางเมตรเอง ทำได้มั๊ยคะ แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 53 11:50:22 จากคุณ : อะซูกะ เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 53 11:49:22

ความคิดเห็นที่ 46 คห38 ผมไม่เคยวัดกระแสจริง  แต่ที่ด้านข้างโซลินอยของวาล์วซักผ้า 220V5W ถ้าคำนวณก็จะได้23mA  ถ้าเป็นวาล์วแบบเข้า1ออก2 ก็โซลินอย2หัว ถ้ากลัวสุนัขคุ้ยสายไฟ  ควรติดตั้งตู้ควบคุมและระบบวาล์วไว้ที่ตัวบ้านในที่สูงหน่อย การเดินสายไฟก็สอดรอดท่อPVCเหลืองเข้าตู้ แล้วค่อยเดินท่อปล่อยน้ำเข้าสวนก็ได้นี่ครับ ถ้าใช้วิธีแปลงลดไฟแล้วแปลงเพิ่มกลับ มันจะสูญเสียพลังงานไปกับความร้อนไปกับกระแสไหลวนในขดลวดหม้อแปลง ทั้งด้านอแดปเตอร์และอินเวอร์เตอร์เยอะนะครับ จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 53 13:33:58

ความคิดเห็นที่ 47 คห45 พท.ไม่มาก ทำตามhttp://www.pantip.com/cafe/home/topic/R10010838/R10010838.html ไม่จำเป็นต้องใช้วาล์วตั้งเวลาดิจิตอลครับ สำหรับการจ่ายน้ำแค่1สถานี เพราะแพงกว่าอนาลอกมาก อุปกรณ์ที่จำเป็นอื่นๆลองศึกษาจากhttp://www.sprinkler-thai.com/ จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 53 16:56:36

ความคิดเห็นที่ 48 ซ์อตัว digital timer กับ วาลว์ไฟฟ้า ที่ไหนครับ ราคาถูกดีจะไปซื้อมาทำบ้าง หาในเว็ปเจอแต่ตัวแพงเป็นพันเลย จากคุณ : limwithai@yahoo.com (limwithaipantip) เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 10:05:24

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณมาก จากคุณ : ayuhi292 เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 11:01:32

ความคิดเห็นที่ 50 คห48 จากร้านอมรครับ จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 13:01:25

ความคิดเห็นที่ 51 เห็ฯด้วยกับ *31ครับจขกท.ช่วยตอบให้หายสงสัยด้วย จากคุณ : watyong เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 14:26:19

ความคิดเห็นที่ 52 คห51 พื้นที่ปักหมุดแนวโฉนดของผมเท่ากับชิดถนน แต่เทศบาล...ไม่ได้มาขออนุญาตขุดท่อ..อยู่ดีๆก็มาขุดผ่านที่ดินของผม   ถ้าเป็นคนอื่นคงโวยวาย  (เขาบอกว่า..ติดต่อเจ้าของที่ไม่ได้ ..ทั้งๆที่ตอนเขามาขุดวางท่อระบายน้ำ ช่างกำลังขึ้นสร้างหลังคาและผมก็ไปตรวจงานเกือบทุกวัน)  แถมขุดหมุดที่ผมต้องจ้างที่ดินมารังวัดไป2พันกว่าออกด้วย ...แต่ผมยอมเพื่อส่วนรวม... พื้นที่ทางเท้าอยู่บนโฉนดผม  ค่าปูอิฐประมาณ5หมื่นผมออกให้เอง (เทศบาลบอกไม่ต้องทำ..เดี๋ยว..เขามีโครงการทำให้  แต่ผมไม่เชื่อ..เดี๋ยว..ของเขา  ..ในที่สุดเขาก็ทำหลังจากผมทำเสร็จไปแล้วปีกว่า) จะเห็นว่าทางเท้าผมเว้นแนวห่างจากขอบปักหมดเข้ามาอีกราว20ซม.ด้วยซ้ำ แนวเฟื่องฟ้าคือแนวที่เขาวางท่อไว้ข้างใต้..ถ้าดูดีๆจากรูปตรงกลางแนวเฟื่องฟ้าหายไปส่วนหนึ่ง ผมยอมให้เปิดเป็นฝาลงไปดูแลท่อได้2จุด เดี๋ยวคืนนี้ลงรูปให้ดู  เพราะผมถ่ายไว้เป็นหลักฐานตลอด จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 16:46:19

ความคิดเห็นที่ 53 รูปจาก คห52 ครับ ลูกศรเหลืองคือหมุดแนวที่ดินของผม ติดถนนซีเมนต์เลยถ้าเอาน้ำล้างดินออก อยู่ดีๆไปเห็น ทำไมมาขุดหน้าบ้านเรา ..ไม่ขอสักคำ ..เป็นคุณ จะโกรธ ไหม.. ..แต่ผม ทำใจให้.. ลูกศรดำคือแนวตั้งแต่หลังรถปิดอัพ  เจ้าของที่เขาไม่ยอมให้ขุดวางท่อ และก็ไม่ยอมให้ปูอิฐทางเดินด้วยซ้ำไป ผมทั้งให้ขุด  ทั้งร่นแนวรั้วให้พ้นท่อ  ทั้งออกค่าปูอิฐทางเท้าให้เองแถมร่นเข้ามาให้อีก20ซม.  ทั้งยอมให้แนวรั้วแหว่งเพื่อเปิดฝาท่อได้..เพราะผมไม่อยากถูกยิงตาย แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 53 17:45:36 จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 17:43:12

ความคิดเห็นที่ 54 ลืมรูป..ขออภัย แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 53 17:51:39 จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 17:43:51

ความคิดเห็นที่ 55 ข้อแก้รูปหน่อย  ลืมลบหน้าคน เดี๋ยวมีระเบิดลง จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 17:52:47

ความคิดเห็นที่ 56 อีกนิดนะครับ..จะได้ไม่คาใจทั้งผม ทั้งท่านอื่น ทางเท้าที่ผมปูอิฐให้ส่วนรวมบนที่ดินผม กว้าง1.2 เมตร ..อาจไม่ใหญ่โตนัก โอ่อ่านัก.. แต่ผมคิดว่าเดินได้สบายๆ ชมสวนผมได้เพลินๆ  แอบทิ้งขยะก้นบุหรี่ให้ผมก็ยินดีตามเก็บให้ฟรีๆ  ไม่มีแผงขายของ ป้ายร้านต่างๆมาวางให้เดินไม่ได้  รถทัวร์กลับรถถอยมาชนจนแนวก่อปูนปลูกต้นไม้แตกไปยาว1.5เมตร(มีกล้องวงจรปิดบันทึกได้ทั้งบริษัทและทะเบียน) ผมก็ซ่อมเอง ไม่บ่นไม่เรียกร้องกับใคร   เพราะผมยึดหลัก ชัยชนะที่ยั่งยืน ในการอบรมคราวหนึ่ง วิทยากรได้ชูกำปั้นขึ้น และเชิญชวนให้ทุกคนในห้องหาทางทำให้เขาแบมือออกมา คนแล้วคนเล่าลุกขึ้นมางัดแงะกำปั้นของเขา พยายามดึงนิ้วของเขาให้ถ่างออก หรือไม่ก็บีบข้อมือของเขาโดยหวังว่าความเจ็บปวดจะทำให้เขาคลายกำปั้น แต่ก็ไม่ได้ผล       ถ้าเป็นคุณ จะทำอย่างไร ?       ชายผู้หนึ่งเดินตรงมาหาเขาด้วยหน้าตายิ้มแย้ม แล้วก็พนมมือไหว้ เขายกมือไหว้ตอบทันที สักพักคนในห้องจึงสังเกตว่ากำปั้นของเขาได้คลายออกแล้ว         โดยไม่ได้ใช้กำลังอย่างคนอื่นๆ เลย ชายผู้นี้สามารถทำให้วิทยากรคลายกำปั้นออกมาได้ เขาเพียงแต่แสดงไมตรีด้วยการพนมมือไหว้เท่านั้น         คุณเป็นคนหนึ่งหรือไม่ที่คิดอย่างชายผู้นี้ ถ้าใช่   คุณเป็นคนส่วนน้อยมาก ๆ เพราะจากประสบการณ์ของวิทยากร คนส่วนใหญ่คิดแต่การเอาชนะเขาด้วยกำลัง ไม่ว่าหญิงหรือชาย เด็กหรือผู้ใหญ่ มีไม่กี่คนที่คิดจะชนะใจเขา ถ้าไม่ด้วยการไหว้ ก็ด้วยการยื่นดอกไม้หรือยื่นมือมาทักทายเขา       กิจกรรมเล็ก ๆ นี้บอกอะไรบ้างไหมเกี่ยวกับวิธีคิดของผู้คนส่วนใหญ่ในเวลานี้ ใช่หรือไม่ว่า เราคิดถึงการใช้กำลังมากกว่าวิธีการที่สันติ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นกับใครก็ตาม เราคิดแต่จะเอาชนะด้วยกำลังยิ่งกว่าการชนะใจ แต่กิจกรรมเดียวกันนี้เองก็บอกเราว่าวิธีการที่สันตินั้น สามารถแก้ปัญหาได้ดีกว่า แม้ในกรณีที่ดูเหมือนว่าต้องใช้กำลังเท่านั้นเป็นทางออก การใช้ไมตรีนั้นสามารถทำให้อีกฝ่าย ' ยอมจำนน ' ได้ หรือพูดให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือ ' ชนะ ' ทั้งสองฝ่าย เพราะขณะที่วิทยากรได้มิตรภาพ อีกฝ่ายก็สามารถคลายกำปั้นเจ้าปัญหาออกมาได้       จริงอยู่กิจกรรมนี้เป็นแค่เกม ในชีวิตจริงเราคงไม่คิดจะใช้กำลังแก้ปัญหากับใคร แต่ใช่หรือไม่ว่าเมื่อมีข้อขัดแย้งกับใคร คนส่วนใหญ่นิยมใช้วิธี ' แรงมาก็แรงไป ' ถ้าเขาโกรธมา ก็โกรธไป ด่ามา ก็ด่าไป การใช้วิธีที่นุ่มนวลหรือใช้ความดีเข้าเผชิญมักจะถูกมองข้ามไป หรือถูกบอกปัดไปเพราะเข้าใจว่าไม่ได้ผล แต่ในความเป็นจริงวิธีการดังกล่าวก็ได้ผลไม่น้อยไปกว่าในเกม ' คลายกำปั้น ' ข้างต้น       สตีเวน สปีลเบิร์ก ผู้กำกับและนักสร้างหนังชื่อดังแห่งฮอลลีวู้ด เล่าว่าเมื่ออายุ   13 ปี ชีวิตของเขาเหมือนตกอยู่ในนรก เพราะที่โรงเรียนมีอันธพาลวัย 15 คนหนึ่งชอบทำร้ายเขา ทั้งทุบตีและขว้างปาระเบิดไข่เน่าใส่เขา เขาทนสภาพนี้อยู่นาน แล้ววันหนึ่งเขาก็เข้าไปหาอันธพาลคนนั้นและพูดว่า ' เธอรู้ไหม ฉันกำลังถ่ายทำหนังเรื่องสู้กับนาซี เธออยากเล่นบทพระเอกไหม ' ทีแรกอันธพาลหัวเราะใส่เขา แต่ในที่สุดก็ตกลง สปีลเบิร์กเล่าว่า หลังจากถ่ายทำวีดีโอเสร็จ อันธพาลคนนั้นได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของเขา   การที่สปีลเบิร์กให้การยอมรับเขาและเปิดโอกาสให้เขาได้เป็นพระเอก มีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนเขาจาก ' ศัตรู ' ให้กลายเป็นมิตรได้ เพราะลึกๆ วัยรุ่นคนนั้นก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้รับความยอมรับ สปีลเบิร์กชนะใจเขาด้วยการยื่นไมตรีให้แทนที่จะตั้งตัวเป็นศัตรูหรือยอมจำนนต่ออำนาจบาตรใหญ่ของเขา       น้ำใจไมตรีไม่เพียงแปรเปลี่ยนความขัดแย้งให้คลี่คลายไปในทางที่ดีเท่านั้น หากยังสามารถเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ด้วย       นักธุรกิจไทยผู้หนึ่งได้เล่าถึงประสบการณ์เมื่อครั้งไปเรียนหนังสือในเมืองบอสตันว่า เธอเคยถูกคนผิวดำล็อกคอและเอามีดจี้ขณะรอัญญาณไฟเขียวบนเกาะหน้ามหาวิทยาลัย เมื่อโจรพบว่าในกระเป๋าของเธอมีเงินแค่   20 ดอลลาร์ ก็ไม่พอใจ เขาขุ่นเคืองหนักขึ้น เมื่อพบว่าเธอไม่มีนาฬิกา แหวน และกำไรเลยสักอย่าง เขาจึงถามเธอว่า ' เป็นคนเอเชียมาเรียนที่นี่ได้ก็ต้องรวยไม่ใช่หรือ ' ' เธอตอบว่า ' สำหรับฉันน่ะไม่ใช่ เพราะได้ทุนมา ' แล้วโจรก็ถามถึงเงิน   20 ดอลลาร์ว่าจะเอาไปทำอะไร เธอตอบว่า เอาไปซื้อไข่ เขาถามเธอว่า เอาไข่ไปทำอะไร ' เอาไปต้มกินได้ทั้งอาทิตย์ ' เธอตอบตามความจริงเพราะตอนนั้นการเงินฝืดเคือง       ระหว่างที่โต้ตอบกันอยู่นั้น ยามหน้ามหาวิทยาลัยเห็นผิดสังเกต จึงยกหูโทรศัพท์เรียกตำรวจ เธอมองเห็นพอดีก็เลยโบกมือว่า ' ไม่ต้องๆ เราเป็นเพื่อนกัน ' โจรได้ยินเช่นนั้นก็งง ถามว่า ' คุณรู้จักกับผมตั้งแต่เมื่อไหร่ ' ' ก็เมื่อกี้ไง ' เธอตอบ       โจรเปลี่ยนท่าทีไปทันที หลังจากสนทนาพักใหญ่ โจรไม่เพียงแต่จะคืนเงินให้เธอ หากยังพาเธอไปซื้อไข่และซื้ออาหาร 3 ถุงใหญ่ พร้อมทั้งหิ้วมาส่งถึงหน้ามหาวิทยาลัย แล้วยังแถมเงินอีก   50 ดอลลาร์       เรื่องนี้ยังไม่จบเพราะวันรุ่งขึ้นเธอนำเงิน   50 ดอลลาร์นั้นไปซื้อเครื่องปรุงอาหารไทย แล้วไปเยี่ยมบ้านเขาเพื่อทำต้มยำกุ้งให้กินกันทั้งครอบครัว นับแต่นั้นทั้งสองฝ่ายก็ไปมาหาสู่กัน เธอเล่าว่าทุกวันนี้หากมีธุระไปบอสตันก็จะไปแวะเยี่ยมครอบครัวนี้ทุกครั้ง   น้ำใจไมตรีและความดีนั้นมีพลังที่สามารถเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี และเปลี่ยนภัยคุกคามให้เป็นสะพานสานมิตรภาพได้ ใช่หรือไม่ว่าการกำจัดศัตรูที่ดีที่สุดก็คือการเปลี่ยนเขามาเป็นมิตรนั่นเอง นี้คือชัยชนะที่ให้ผลยั่งยืนกว่าชัยชนะด้วยกำลังที่เหนือกว่า จากคุณ : Dr.Chan เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 19:24:30

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณสำหรับความรู้คะ จากคุณ : สาวชนบท เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 53 09:33:23

ความคิดเห็นที่ 58 สาธุขอบคุณครับ จากคุณ : watyong เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 15:17:16

ความคิดเห็นที่ 59 ชมระบบรดน้ำอยู่ดีๆ  จู่ๆต้องซึ้ง  เรื่องของโจรบอสตันง่ะ ฮือๆๆ จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 53 17:52:33

ความคิดเห็นที่ 60 เยี่ยมครับ ได้ไอเดียเพิ่มหลายอย่าง เคยทำแบบโซนเดียวไว้อยู่เหมือนกัน เจอปัญหาว่าแรงดันไม่พอเพราะพื้นที่ใหญ่พอสมควร[ตอนแรกกะๆเอาคิดว่าน่าจะพอได้] เจอน้ำท่วมไป ได้ฤกษ์จัดสวนใหม่ เดี๋ยวกะว่าจะทำใหม่แบบแบ่งโซนดู จากคุณ : googong เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 53 13:00:44

ความคิดเห็นที่ 61 น้ำตาไหลเลยเื่รื่องโจรบอสตัน มาชมบ้านเราก็ทำระบบรดน้ำไม่ค่อยอยู่บ้าน  ทำเป็นเพราะทำผักไฮโดร ตอนแรกทำไม่เป็นเลย ตอนนี้ท่อประปาที่บ้านเดินเองหมดแล้ว ใช้ซุปเปอร์โพรดักส์กว่าจะรู้จักกันเสียค่าโง่ซื้อของแพงตั้งนาน เคยซื้อตัวตั้งเวลาตั้งหลายพันเดี๋ยวนี้แปดเก้าร้อย หัวพ่นตัวละบาท สบายๆ จากคุณ : นายสถานีรถไฟ@หัวตะเข้ เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 53 18:28:35

ความคิดเห็นที่ 62 สนใจอยากทำเองมากครับ Mini Sprinkle ยี่ห้อ Super Product หาซื้อได้ที่ไหนบ้างครับ จากคุณ : poorjing (Poor_Jing) เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 53 22:28:41