ความคิดเห็นที่ 1 ก็ดีซิ สวยงาม จากคุณ : แบนแล้วแบนอีก จนแบนแต๊ดแต๋ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 09:53:53 A:124.122.130.243 X: TicketID:280600

ความคิดเห็นที่ 2 ช่างแนะนำดีแล้วครับ  บ้านสมัยใหม่นิยมเดินสายไฟฝังดิน ในบ้านก็ฝังกำแพงครับ เพื่อความสวยงาม จากคุณ : ซาตานกลับใจ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 09:59:17

ความคิดเห็นที่ 3 สวยงามครับ ไม่รก เวลาเตรียมสายก็ เตรียมร้อยสายโทรสัพท์ทิ้งไว้ด้วยนะครับ ช่างแนะนำดี จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 10:01:27

ความคิดเห็นที่ 4 ดีแน่นอน แต่ควร ถ้ามีการวางแนว...ท่อไว้ดีๆ เพื่อซ่อมบำรุง... จากคุณ : ตะวันรุ่งทุ่งรังสิต เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 10:05:01

ความคิดเห็นที่ 5 ผมก็จะใช้วิธีฝังดิน   ไม่รกตาครับ จากคุณ : R_ROMSANG เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 10:25:49

ความคิดเห็นที่ 6 จากคุณ : Johngoodman เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 10:31:58

ความคิดเห็นที่ 7 ดีครับ.. แต่ควรใช้ท่อ PVC เพราะท่อเหล็ก อาจเกิดสนิม กัดกร่อน และอาจยุบจนไฟรั่ว-ช๊อต ได้ จะให้ดี เอาแผ่นกระเบื้อง ปูทับหลังแนวท่อไว้ แล้วค่อยกลบ เผื่อวันไหนขุดดินปลูกต้นไม้ แล้วลืมแนวสายไฟ จะได้ไม่ไปสับมันขาด (บ้านผมเกือบไปแล้ว ทีแรกคิดว่าเศษท่อ แต่พอเขี่ยๆ ไล่แนวดู ถึงเห็นว่าเป็นท่อสายโทาศัพท์) จากคุณ : Wobbegong เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 11:06:08

ความคิดเห็นที่ 8 สวยแต่ก็แพงขึ้นครับ คิดถึงตอนซ่อมบำรุงด้วย จากคุณ : กระต่ายหลังยาว เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 11:06:20

ความคิดเห็นที่ 9 สวยแต่ก็แพงขึ้นครับ คิดถึงตอนซ่อมบำรุงด้วย จากคุณ : กระต่ายหลังยาว เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 11:07:57

ความคิดเห็นที่ 10 ดีครับ แต่ดูด้วยนะครับว่ามีเสาไฟอยู่หน้าบ้านหรือเปล่าถ้าไม่มีเสาไฟหน้าบ้านยังไงก็ต้องตั้งเสาขึ้นมานอกจากมุดข้ามถนนไปฝั่งตรงกันข้าม ผมเจอมาแล้วครับต้องหาเสามาตั้งอีก 1 ต้น จากคุณ : banarm เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 11:10:02

ความคิดเห็นที่ 11 ตัวอย่างที่เห็นครับ กว่าจะหาเสาและคนที่รับตั้งเสา 1 ต้นยากมากเลย ยังไงก็ให้เป็นข้อมูลไว้ครับ จากคุณ : banarm เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 11:16:05

ความคิดเห็นที่ 12 หมู่บ้านที่อยู่กาญจนาภิเษก 15 กับพุทธมณฑลสาย  2 สองหมู่บ้านติดกัน แทบทุกหลังคาเรือน ลากสายไฟจากถนนลงดินหมดครับ ชนิดฝังลงดินได้เลย นี่อยู่มายี่สิบห้าปีแล้ว ก็ไม่มีปัญหาครับ เสียดายที่หมู่บ้านไม่ทำตามโฆษณาแต่แรกสร้างว่า ทั้งหมู่บ้านจะไม่มีเสาไฟฟ้าให้เห็น โดยอ้างว่ายุคนั้นการไฟฟ้าไม่อนุญาต เลยเห็นเสาไฟตามถนนเหมือนเดิม ไม่งั้นทัศนียภาพคงน่ามองกว่านี้ และไม่ต้องตัดต้นไม้ริมถนนจนโกร๋น จากคุณ : บ้านไม้ที่ชายนา เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 11:41:05

ความคิดเห็นที่ 13 สวย แต่ระวังเรื่องปลวกนะ จะเป็นทางเดินให้มันได้ จากคุณ : Nattawatte (nanomay2) เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 12:19:51

ความคิดเห็นที่ 14 ใช้เป็นท่อ PE ก็ดีนะและควรเช็คความลึกที่ฝั่งดินด้วยนะว่าได้หรือเปล่า จากคุณ : SooDPuM เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 13:00:03

ความคิดเห็นที่ 15 ที่บ้านก็ ลากสายไฟลงดินครับ สวยงาม เรียบร้อยดี แต่ไม่รู้ตอนซ่อมเขาทำยังไง เหมือนกัน เหอเหอ จากคุณ : Hayclub เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 13:43:01

ความคิดเห็นที่ 16 ็HDPE จะดีกว่านะ จากคุณ : สหายสายธาร เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 14:34:07

ความคิดเห็นที่ 17 ใช้ท่อ HDPE งานไฟฟ้า แถบสีแดงแบบขด เดินจะดีกว่า ไม่มีรอยต่อใต้ดิน ปลายโผล่พ้นดินซัก50cm แล้วตั้งBoxรับเอาไว้เซอร์วิส และง่ายต่อการดึงสาย ทั้งระบบเมนไฟและโทรศัพท์แต่ควรแยกท่อกัน จากคุณ : layjung เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 15:24:21

ความคิดเห็นที่ 18 ฝังครับ HDPE ดำแถบแดงนี่ละครับ ดูเหท่ห์มากเลยครับ เรื่องตั้งเสา ผู้รับเหมาก็เป็นคนจัดการให้นะครับ ที่ดินดันไปอยู่ตรงจุดเกรงใจกลางซอย บ้านเดี่ยวใหญ่เขาลากสายมาจากหน้าซอย ส่วนบ้านเล็กกับทาวน์เฮ้าส์เขาลากกันมาจากท้ายซอย มาโบ๋ตรงที่ดินบ้านผมที่เคยรกร้าง จากคุณ : Double07 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 19:04:02

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าคิดจะร้อยท่อลงใต้ดิน โดยเฉพาะในเขต กทม. ต้องคิดเผื่อเรื่องพื้นดินทรุดตัวด้วยครับ เนื่องจากว่า อาคารที่สร้างกัน ตั้งอยู่บนเสาเข็ม ซึ่งส่วนใหญ่ตอกลงไปถึงชั้นทราย ซึ่งการทรุดตัวน้อยมากอยู่แล้ว ถ้าพื้นดินส่วนที่ร้อยสายไฟใต้ดินเอาไว้ เกิดการทรุดตัว (พื้นดินของกทม.ทรุดตัวปีละ 2.5 - 3.0 ซ.ม.) ขณะที่ร้อยสายโผล่ขึ้นจากพื้นดิน เพื่อเข้าใต้พื้นอาคาร ซึ่งไม่มีการทรุดตัว (ทรุดน้อยมาก) ถ้าไม่มีการเผื่อสายไฟส่วนนี้เอาไว้  พอนานวันเข้า ก็จะเกิดการรั้งดึงสายไฟให้ตึง นานๆเข้าก็จะเกิดการขาดครับ ข้อดีของการร้อยสายไฟลงใต้ดิน คือ ไม่ต้องมีสายไฟระโยงระยายให้บดบังทัศนียภาพครับ ข้อเสียของมัน ก็เป็นตามที่แจ้งไว้เบื้องต้นครับ โรงงานของผม ก็เดินร้อยสายไฟใต้ดินมานานแล้วครับ (สายไฟแรงสูง) ร้อยใต้ดินผ่านทั้งถนนในบริเวณโรงงาน เพื่อเข้าโรงงาน และ โผล่เข้าทางใต้ดินสำนักงาน ใช้งานดีมาตลอดครับ พอ 17 ปีให้หลัง (ปัจจุบันผ่านมา 22 ปีแล้วนะครับ) มีวันหนึ่ง เกิดไฟฟ้าดับทั้งโรงงาน จึงต้องส่งช่างไฟฟ้ามาสำรวจข้อผิดพลาด จึงพบว่า สายไฟที่เผื่อไว้เมื่อ 17 ปีก่อนไม่เพียงพอต่อการทรุดตัวของพื้นดิน จึงเกิดสายไฟขาดใน ครั้งจะทำการตัดต่อส่วนนั้น ก็กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย ในระยะยาว จึงต้องทำการบูรณะใหม่ทั้งหมด โดยการวางแผนเดินสายไฟใหม่ แบบผสมผสานครับ คือ ส่วนไหนที่มีการทรุดตัว และร้อยสายไฟอยู่ใต้ดิน ก็ให้คงไว้แบบนั้น แต่ส่วนที่จะต้องโผล่มาเข้าอาคารที่ไม่มีการทรุดตัวนั้น จะให้สายไฟใต้ดิน มาโผล่ที่ตู้คอนโทรลนอกอาคารก่อน โดยเผื่อสายไว้ยาวหน่อย จากนั้นจึงต่อสายจากตู้คอนโทรล เข้าสู่อาคาร แบบนี้ จะทำให้เรามองเห็นได้ชัดเจนว่า พื้นดินทรุดตัวมากแล้วนะ สายไฟที่เผื่อเอาไว้ใกล้จะตึงแล้ว ก็จะทำการ ขุดดินลงไปยกดึงเอาท่อร้อยสายไฟที่อยู่ใต้ดินขึ้นมา (เท่ากับหย่อนสายไฟใต้ดินให้ยาวขึ้นเท่าเดิมครับ) จากคุณ : Moonlight Sonata เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 19:15:43

ความคิดเห็นที่ 20 ความรู้ใหม่นะเนี่ย ^ ^ จากคุณ : Double07 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 19:22:33

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ #19 แรงสูงคุณต้องทำ ductbank ด้วยนะ แรงสูงมุดใต้ดินผมว่าผมเห็นแต่ อาคารสูง โรงงานไม่ค่อยเจอ เพราะต้องตั้ง RMU และอีกสารพัดนะครับ จากคุณ : สหายสายธาร เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 20:12:21

ความคิดเห็นที่ 22 คคห. 21 ครับ สิ่งที่ผมเล่านั้น มีส่วนที่ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงรายละเอียดครับ เนื่องจากว่า เกินขอบเขตของบุคคลทั่วๆไปที่จะสนใจทราบครับ สิ่งที่ต้องการสื่อ ก็คือ ประเด็นให้คิดเผื่อถึงการทรุดตัวของพื้นดิน เมื่อนำมาใช้กับอาคาร หรือสิ่งก่อสร้างที่อยู่ออนบีมครับ จากคุณ : Moonlight Sonata เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 21:50:25

ความคิดเห็นที่ 23 ยืนยัน HDPE อีกเสียง จากคุณ : กาแลนท์เขียวเมืองนนท์ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 22:23:20