ความคิดเห็นที่ 1 เท่าที่ทำเกี่ยวกับให้เช่าเหมือนกัน ที่เราจะเน้นระวังมากเป็นเรื่องของระยะเวลาน่ะ ไม่ปล่อยให้เกิน 3 ปี ทำแบบปีต่อปีเลยมากกว่า แล้วก็มีพวกลายลักษณ์อักษรแจ้งล่วงหน้าหากต้องการให้ยกเลิกการเช่า เคยอ่านเจอว่า บางทีเจ้าของต้องการเอาคืน แต่คนเช่าไม่อยากย้ายไป ไปๆมาๆ กลายเป็นทำสัญญาการเช่าแบบไม่มีระยะเวลากันไปซะงั้น ตามข้อบังคับของกฏหมาย รู้สึกว่า ถ้าปล่อยยาวแบบกินเงินไปเรื่อยๆ ทิ้งไว้เกิน 3 ปี สัญญาจะเปลี่ยนไป กลายเป็นผูกพันแบบไม่กำหนดเวลาแทนมั้ง เราก็ไม่ได้เป็นนักกฏหมาย แต่ก็คิดว่า ป้องกันเอาไว้ก่อนดีกว่า เลยค่อนข้างระวังในเรื่องของเวลาน่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 54 13:00:15 จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 54 12:59:43

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องระยะเวลาเกิน 3 ปี   จุดสำคัญมันอยู่ที่ว่า   หากให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ระยะเวลาเกิน 3 ปี จะต้องไปจดทะเบียนทำสัญญา    จึงจะมีผลฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย   หากทำสัญญากันเองแล้วเกิดถูกเบี้ยว    ก็จะฟ้องร้องไม่ได้เพราะกฎหมายไม่คุ้มครองค่ะ แต่ถ้าเช่าไม่เกิน 3 ปีสามารถทำสัญญากันเองได้    โดยทำเป็นลายลักษณ์อักษร   แล้วให้ลงลายมือชื่อ    หากหมดสัญญาแล้วผู้เช่ายังคงอยู่ต่อไป   และผู้ให้เช่าก็ยินยอมรับค่าเช่าเหมือนปกติ   ถือว่าได้มีการทำสัญญาขึ้นใหม่ตามข้อตกลงเดิมโดยไม่มีกำหนดระยะเวลา   ซึ่งฝ่ายผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเมื่อไหร่ก็ได้    แต่ต้องแจ้งให้อีกฝ่ายทราบก่อนไม่น้อยกว่ากี่วันจำไม่ได้ค่ะ ส่วนเรื่องการต่อเติมหรืออะไรที่คุณไม่อยากให้ผู้เช่าทำ   คงต้องระบุลงไปในสัญญาค่ะ   เช่น   ห้ามต่อเติม   ห้ามนำไปเช่าช่วง   ใช้อยู่อาศัยเท่านั้นห้ามประกอบธุรกิจ    สำหรับการไม่จ่ายค่าเช่าก็ระบุลงไปเลยว่าหากไม่จ่ายค่าเช่า   ผู้ให้เช่ามีสิทธิกลับเข้าครอบครองทรัพย์สินที่ให้เช่าทันที   มีสิทธิใส่กุญแจ   ขนย้ายทรัพย์สินของผู้เช่าโดยผู้เช่าเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย    บลาๆๆๆ    แล้วอย่าลืมเรื่องการเก็บค่าประกันความเสียหายด้วย    หากผู้เช่าต่อเติมหรือไม่จ่ายค่าเช่า   อย่างน้อยในขณะที่เชิญออกก็ยังสามารถหักค่าความเสียหายจากเงินประกันได้ค่ะ จากคุณ : SWEET TOFFY เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 54 15:27:39

ความคิดเห็นที่ 3 ทำสัญญาเช่าปีต่อปีสำหรับรายใหม่ มีเงินประกันความเสียหาย ไปดูเป็นระยะ น้ำไฟฟ้าชื่อเรา หากผิดสัญญา หรือไม่จ่ายค่าเช่า ไม่ไหวจริงๆ เราก็ระงับใช้ชั่วคราว แต่ก็อย่าไปโหดร้ายกับเขามากนัก เป็นคนเหมือนกัน อื่นๆเขียนไป ก็ไม่มีผลอะไรในทางปฎิบัติเท่าไหร่ จากคุณ : ทนายบี (หวังดีกะเพื่อน) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 00:16:22